“ก็เมื่อกี้แก้วจะหยุด… แต่อาเถื่อนก็ดูดลิ้นแก้วไม่เลิก… จะให้แก้วหยุดยังไงล่ะคะ”
หล่อนโทษว่าเป็นความผิดของเขา
“พอๆ… นี่แก้วจะไม่เถียงอาสักเรื่องได้ไหม”
สำนึกผิดชอบชั่วดีที่ตีกันนัวอยู่ในหัวของเถื่อนทิศทำให้เขาร้องห้าม ย้ำเตือนอยู่ภายในใจตัวเองว่าเขาจะทำแบบนี้ไม่ได้… ด้วยเคยให้สัญญากับดาบยิ้มบิดาของหล่อนเอาไว้ว่าจะดูแลลูกแก้วอย่างลูกสาวบุญธรรม
“รีบสวมเสื้อผ้า… อาจะกลับแล้ว”
ทำเป็นวางมาดเข้ม สั่งเสียงดุ
“ค่ะ… ”
ลูกแก้วตอบขณะยกหลังมือขึ้นแตะริมฝีปากที่โดนจูบจนบวมเจ่อ หล่อนเม้มริมฝีปากเบาๆ ยกมือขึ้นแตะริมฝีปากอีกครั้ง... ความวาบหวามนั้นยังอยู่ อาเถื่อนคนนี้จูบได้เร่าร้อนเหลือเกิน
“หูหนวกหรือไง… บอกให้รีบสวมเสื้อผ้า… กลับกันได้แล้ว”
สั่งเสียงเข้มอีกครั้ง ก้าวยาวๆ เดินนำหน้าออกมาที่รถกระบะ ลูกแก้วรีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมใส่ เดินหน้าง้ำตามต้อยๆ มาที่รถ
“เดี๋ยวนั่งไปกับอา… คราวหลังถ้าไม่มีอามาด้วยห้ามขี่จักรยานมาแถวนี้คนเดียวนะ”
เถื่อนทิศทำเสียงดุ หญิงสาวแอบยิ้มเมื่อรู้ว่าเขาห่วง ทอดสายตามองร่างสูงใหญ่ยกรถจักรยานใส่ไว้ในกระบะหลังของรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อสีดำคันใหญ่
“โกรธแก้วหรือคะ”
มือเรียววางลงบนต้นขาของอาเถื่อนที่กำลังขับรถออกมาจากน้ำตก
เถื่อนทิศสะดุ้ง สัมผัสจากมือนุ่มทำให้หนุ่มใหญ่ขนลุก ภาพของลูกแก้วในชุดชั้นในสุดเซ็กซี่สะดุดตาตอนลงเล่นน้ำเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า รสสัมผัสจากริมฝีปากนุ่ม ลิ้นที่ร้อยรัดกันดูดดื่ม แขนของเขาที่โดนนมหล่อนเข้าอย่างจังตอนคร่อมลงมาจูบปากกัน ยังทำให้เถื่อนทิศปวดหน่วงตรงกึ่งกลางกายที่แอบแข็งตัวขึ้นมาอย่างควคุมไม่ได้
เถื่อนทิศยอมรับว่าเกิดความรู้สึกวูบวาบขึ้นมาอย่างประหลาดล้ำ ยังไม่ลืมความรู้สึกตอนที่ทรวงอกอวบใหญ่คับอีของลูกแก้วเบียดกับอกแกร่งของเขาตอนอุ้มขึ้นมาจากน้ำ ความใกล้ชิดทำให้หัวใจของเถื่อนทิศยังเต้นแรงไม่หาย
‘บ้าจริง… อย่าบอกนะว่าเราหลงรักผู้หญิงคนนี้เข้าแล้ว’
เถื่อนทิศถามหัวใจตัวเอง กับความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวอยู่เงียบๆ ในใจของเขาตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ชะตาลิขิตให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามาอยู่ร่วมบ้าน
“ไม่เห็นตอบล่ะคะ… เมื่อกี้อาเถื่อนโกรธแก้วหรือเปล่า”
หญิงสาวถามย้ำอีกครั้ง ในระหว่างที่เถื่อนทิศนิ่งคิดไปชั่วขณะ
“อาไม่โกรธหนูหรอกนะ… ยัยเด็กกะโปโล”
หนุ่มใหญ่ตอบเสียงเรียง ตามองตรงไปยังเส้นทางข้างหน้า ทำราวกับไม่สนใจหล่อน
“ไม่ชอบคำนี้เลย ‘เด็ก’ มันฟังดูยังไงไม่รู้ อันที่จริงแก้วไม่เด็กแล้วนะคะ”
กล่าวพลางสูดหายใจแรง ทำให้ทรวงอกอวบใหญ่ขยับยกขึ้นมาอย่างจงใจ เต้านมอวบใหญ่คัพอีพองขึ้นมาสะดุดตาอาเถื่อนที่เหลือบมองมาแวบหนึ่ง
“อารู้ว่าหนู… โตแล้ว… โตเกินตัวด้วยสิ”
เถื่อนทิศถอนใจแรง จู่ๆ ก็รู้สึกไม่ไว้ใจตัวเอง
“ขอบคุณที่ไม่โกรธแก้ว อาเถื่อนน่ารักจัง… ”
หญิงสาวยื่นจมูกเข้ามาหอมแก้มเถื่อนทิศเสียงดังฟอด ทำเอาคนโดนจูบตกใจ
“แต่อาคิดว่าระหว่างเราสองคนควรวางกติกาในการอยู่ร่วมกันใหม่… ดีไหม?”
ตาคมตวัดมองหน้าหญิงสาวแวบหนึ่ง สองมือยังจับอยู่ที่พวงมาลัย
“กติกาในการอยู่ร่วมกัน… ยังไงคะ”
ลูกแก้วแอบเบะปากใส่คนตัวใหญ่ พอจะเดาได้ว่าเพราะอะไรเขาจึงพูดออกมาแบบนี้
“หนูเป็นผู้หญิง… ไม่ควรหอมแก้วผู้ชายอย่างที่ทำเมื่อครู่”
“ทำไมล่ะคะ… ”
นั่นไง… นึกเอาไว้ไม่มีผิด
“แก้วเป็นสาวแล้วนะ… แล้วอาก็เป็นผู้ชาย ผู้หญิงกับผู้ชายควรจะจูบแก้มกันไหม”
“นั่นน่ะสิคะ… ก็เพราะรู้ว่าคุณอาเป็นผู้ชายแก้วเลยจูบ ก็ลองคุณอาเป็นเก้งกว้างสิคะ… จ้างให้แก้วก็ไม่จูบหรอกค่ะ”
“แก้ว… ไม่เถียงอาสักเรื่องได้ไหม”
เถื่อนทิศทำเสียงอ่อนใจ ลูกแก้วจำต้องนั่งนิ่งเงียบกระทั่งรถแล่นกลับมาถึงบ้าน
หลังจากพากันมาถึงบ้าน เถื่อนทิศเดินนำหน้าหญิงสาวเข้ามานั่งในห้องรับแขก ตั้งใจจะคุยกับลูกแก้วจริงๆ จังๆ เสียที ในเรื่องกฎกติกาการอยู่ร่วมกันระหว่างหญิงชาย
“อาขอใช้กฎสามข้อ ย้ำว่าแก้วต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด”
เถื่อนทิศทำเสียงเข้ม แม้รู้ว่ามันอาจใช้ไม่ได้ผลนักกับหญิงสาวผู้แก่นแก้วและแก่แดดคนนี้
“ค่ะ… มีอะไรบ้างคะ”
วางศอกสองข้างลงบนเข่าของตัวเอง ยกมือขึ้นเท้าคาง เหลือบตาขึ้นมองหน้าเขา รอฟังว่าจะพูดอะไร
“ข้อที่หนึ่ง : ห้ามแก้วเข้ามาในห้องนอนของอาเพียงลำพัง ข้อที่สอง : ห้ามแก้วหอมแก้มอาเพราะหนูเป็นสาวแล้ว ใครเห็นเข้ามันน่าเกลียด และข้อที่สาม : เวลาอยู่กับอาห้ามหนูแต่งตัวโป๊เป็นอันขาด… โอเคมั้ย”
“ค่ะ… ”
ลูกแก้วพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจนัก ชิ๊… นึกหรือว่าหล่อนจะทำตาม
ในเวลาต่อมา
กลางดึกของคืนเดียวกันนั้น
“อีตาอาเถื่อนบ้า… เกลียดนัก ไม่รู้ทำไมชอบเรียกเราว่ายัยเด็กกะโปโล”
ลูกแก้วยังนึกโมโหอาเถื่อนไม่หาย
ภายหลังเสร็จจากอาบน้ำ ร่างเปลือยเปล่าก้าวนวยนาดออกมาจากห้องน้ำ หมุนไปหมุนมาอยู่หน้ากระจก ยืนสำรวจดูความเป็นสาวของตัวเองอยู่อีกพักใหญ่ๆ ด้วยสายตาชื่นชมในเรือนร่างเอิบอิ่ม ผิวพรรณเกลี้ยงเกลาขาวผ่อง อวบอัด ดูสมบูรณ์แบบในทุกส่วนสัดสรรพางค์
ลูกแก้วมั่นใจว่าตัวเองเป็นสาวแล้ว และก็เซ็กซี่เหลือเกิน ทว่าความสาวของหล่อนนั้นจะสมบูรณ์ขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้มอบให้กับผู้ชายที่หล่อนหมายปอง… เมื่อร่างกายนี้ได้เรียนรู้รสชาติของการร่วมรักที่หล่อนกระสันหาทุกลมหายใจเข้าออก และผู้ชายคนเดียวที่จะสอนประสบการณ์สวาท… ก็คืออาเถื่อนสุดหล่อคนเดียวเท่านั้น
เวลาล่วงเลยมาอีกพักใหญ่ๆ หลังจากทอดกายลงนอนบนเตียง ไม่รู้ว่าตัวเองหลับหรือตื่น แต่ลูกแก้วรู้เพียงว่ากำลังกระสับกระส่าย พลิกกายไปมาด้วยอารมณ์ว้าวุ่นร้อนรนแปลกๆจากนั้นภายในหูก็ได้ยินเสียงบานประตูถูกผลักเข้ามาพร้อมกับสายลมเย็นยะเยือกและร่างเปลือยเปล่าดำทะมึนของใครคนหนึ่ง ปรากฏกายอยู่ที่ปลายเท้า ตาแดงวาวจ้องมองเรือนร่างเย้ายวนของหล่อน ขณะมือกำลังรูดท่อนเอ็นของตัวเองไปด้วย“ใคร… ”ลูกแก้วตะโกนถาม ท่ามกลางแสงจันทร์ข้างขึ้นที่ฉายกราดเข้ามาถึงภายในห้องนอน สว่างพอให้มองเห็นรางๆ ว่าร่างทะมึนและสูงใหญ่นั้นเป็นผู้ชาย เขาอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน เรือนกายกำยำล่ำสันปราศจากเสื้อผ้าอาภรณ์เขาไม่ตอบคำถาม หากยังตรงรี่เข้ามาหาหล่อนด้วยท่าทางหื่นกระหาย“แกเป็นใคร… อย่าเข้ามา… ออกไปนะ… ” ถามยังไม่ทันขาดคำร่างถมึงทึงก็ถาโถมเข้าใส่ลูกแก้วเต็มแรง ลำตัวใหญ่หนาและหนักอึ้งของมันทาบทับลงบนเรือนกายบอบบางของหล่อนจนหายใจแทบไม่ออก “ชะ… ช่วยยย… ”ไม่ทันจะกรีดร้อง ผู้บุกรุกก็ปิดปากของหล่อนเสียแนบสนิทด้วยริมฝีปากปรกไปด้วยแพหนวดสีดำหนาของมัน ทำให้เสียงร้องของลูกแก้วถูกกลืนหายเข้าไปอู้อี้อยู่ในลำคอของตัวเอ
เซตนี้ประกอบด้วย คุณอาเถื่อนและคุณอาน่าหม่ำผู้เขียน : กาสะลองนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคลและสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนาอ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ……….นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนาทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรงท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง*เราเตือนท่านแล้ว*สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้นคุณอาเถื่อนเมื่อเดินทางมาถึงศาลาวัดแห่งหนึ่ง ‘ลูกแก้ว’ สาวน้อยในวัยใกล้แตะยี่สิบ รู้สึกตัวเบาหวิว ในสมองของหล่อนโหวงๆ ใจหาย มือไม้อ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรง ก้าวลงมาจากรถตู้พร้อมกับความรู้สึกสูญเสียที่ยากจะบรรยาย“ฮือๆ… คุณพ่อคะ… คุณพ่อทิ้งแก้วไปกะทันหันแบบนี้แก้วจะอยู่กับใครคะ… ฮือๆ”สาวน้อยร้องไห้จนตาแดงก่ำ เดินตรงไปยังโลงซึ่งฉาบเอาไว้ด้วยสีทองอร่าม สลักเสลาเป็นลวดลายเครือเถาและประจำยามวิจิตรบรรจง รอบๆ โล
“หนูขอยืมจักรยานนะคะป้า”ได้ยินที่ป้าคำหล้าบอก ว่าเป้าหมายของหล่อนอยู่ตรงไหน ลูกแก้วไม่รอรี รีบเดินไปคว้ารถจักรยานสีแดง จอดไว้ใต้ต้นมะม่วงข้างครัว ขึ้นคร่อมแล้วปั่นออกไปท่ามกลางประกายแสงแดดของยามเช้า มุ่งตรงไปยังทิศทางของไร่กาแฟในทันที“หนูแก้วยิ่งโตเป็นสาวยิ่งสวย… แม่คุณเอ๊ยหน้าตายังกับนางฟ้าในไร่กาแฟ ทรวดทรงยังกับนางแบบแน่ะ”ป้าคำหล้าหันมากล่าวกับสามี ตามองตามหญิงสาวขี่จักรยานจนแล่นลับไปจากสายตา“ใช่… เด็กคนนี้ยิ่งโตยิ่งสวย ข้าว่าถ้าเป็นแบบนี้โคแก่อย่างพ่อเลี้ยงเถื่อนจะตกหลุมรักหญ้าอ่อนอย่างหนูแก้วเข้าสักวัน”ลุงหนานแสดงความเห็น“นั่นสิ… ดูสายตาของหนูแก้วตอนมองพ่อเลี้ยงสิ… ฉันว่ามันเป็นสายตาของผู้หญิงมองผู้ชายชัดๆ… ไม่ใช่สายตาของเด็กสาวที่มองผู้ปกครองเลยสักนิด”ป้าคำหล้าช่างสังเกต มองว่าการที่พ่อเลี้ยงเถื่อนทิศเอาลูกแก้วมาอยู่ร่วมชายคา มันเหมือนกับการเอาน้ำตาลมาไว้ใกล้มด เอาน้ำมันมาวางไว้ใกล้ไฟ… จะสปาร์คกันวันไหนก็ไม่รู้ในเวลาต่อมา หลังจากลูกแก้วขี่จักรยานเข้ามาวนหาพ่อเลี้ยงจนได้เหงื่อ แต่ก็ไม่เจอ เพราะว่าไร่กาแฟแห่งนี้กว้างขวางมาก สุดท้ายหญิงสาวจำต้องจอดจักรยานถามคนงาน จึงได้ความ
เถื่อนทิศต้องบอกความจริงในที่สุด“ก็ไม่เป็นไรนี่คะ… ถ้าคุณอาอยู่ในน้ำก็ไม่เห็นอะไรหรอกค่ะ… นอกเสียจากว่าชะโดของคุณอาจะโดดขึ้นมาเหนือน้ำ”ลูกแก้วกล่าวทั้งเสียงหัวเราะ“แก้ว… แก่แดดจัง ไปเอาคำพวกนี้มาจากไหน”เถื่อนทิศส่ายหน้า“ก็เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านเช่ากับพ่อ… แก้วได้ยินกิ๊กของพ่อทะเลาะกับพ่อเรื่องหึงหวงกัน ได้ยินแกว่าจะเอามีดหั่นชะโดของพ่อแล้วโยนให้เป็ดกิน… ก็เลยรู้ว่าเค้าเรียกของผู้ชายว่าชะโด”ลูกแก้วหัวเราะขำ เถื่อนทิศส่ายหน้าอีกครั้ง หากแต่เขาก็พอจะเข้าใจได้ เมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิตของผู้หญิงคนนี้ ด้วยตอนนั้นดาบยิ้มพ่อของลูกแก้วเช่าห้องเล็กๆ อยู่ใกล้คลองเตย สลัมชื่อดังในตำนานของเมืองบางกอก ทำให้ลูกแก้วต้องเติบโตมาท่ามสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยชุมชนแออัด อยู่กันอย่างไร้ระเบียบ คุณภาพชีวิตต่ำ แวดล้อมไปด้วยชนชั้นกรรมกรหาเช้ากินค่ำ“สอนแก้วว่ายน้ำนะคะอาเถื่อนขา”ลูกแก้วอ้อน“ไม่ได้… ยังไงก็ไม่สมควรอยู่ดี”“โธ่… คุณอาคะ แก้วอุตส่าห์ตามมาเล่นน้ำด้วย… ช่วยสอนแก้วว่ายน้ำนะคะ… นะ… ”ลูกแก้วตื๊อไม่เลิก ส่งสายตาวิงวอนให้อาเถื่อนใจอ่อน“ไม่ได้… กลับขึ้นฝั่งเดี๋ยวนี้… นี่เป็นคำสั่ง”เสียงเข้มและแ
เวลาล่วงเลยมาอีกพักใหญ่ๆ หลังจากทอดกายลงนอนบนเตียง ไม่รู้ว่าตัวเองหลับหรือตื่น แต่ลูกแก้วรู้เพียงว่ากำลังกระสับกระส่าย พลิกกายไปมาด้วยอารมณ์ว้าวุ่นร้อนรนแปลกๆจากนั้นภายในหูก็ได้ยินเสียงบานประตูถูกผลักเข้ามาพร้อมกับสายลมเย็นยะเยือกและร่างเปลือยเปล่าดำทะมึนของใครคนหนึ่ง ปรากฏกายอยู่ที่ปลายเท้า ตาแดงวาวจ้องมองเรือนร่างเย้ายวนของหล่อน ขณะมือกำลังรูดท่อนเอ็นของตัวเองไปด้วย“ใคร… ”ลูกแก้วตะโกนถาม ท่ามกลางแสงจันทร์ข้างขึ้นที่ฉายกราดเข้ามาถึงภายในห้องนอน สว่างพอให้มองเห็นรางๆ ว่าร่างทะมึนและสูงใหญ่นั้นเป็นผู้ชาย เขาอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน เรือนกายกำยำล่ำสันปราศจากเสื้อผ้าอาภรณ์เขาไม่ตอบคำถาม หากยังตรงรี่เข้ามาหาหล่อนด้วยท่าทางหื่นกระหาย“แกเป็นใคร… อย่าเข้ามา… ออกไปนะ… ” ถามยังไม่ทันขาดคำร่างถมึงทึงก็ถาโถมเข้าใส่ลูกแก้วเต็มแรง ลำตัวใหญ่หนาและหนักอึ้งของมันทาบทับลงบนเรือนกายบอบบางของหล่อนจนหายใจแทบไม่ออก “ชะ… ช่วยยย… ”ไม่ทันจะกรีดร้อง ผู้บุกรุกก็ปิดปากของหล่อนเสียแนบสนิทด้วยริมฝีปากปรกไปด้วยแพหนวดสีดำหนาของมัน ทำให้เสียงร้องของลูกแก้วถูกกลืนหายเข้าไปอู้อี้อยู่ในลำคอของตัวเอ
“ก็เมื่อกี้แก้วจะหยุด… แต่อาเถื่อนก็ดูดลิ้นแก้วไม่เลิก… จะให้แก้วหยุดยังไงล่ะคะ”หล่อนโทษว่าเป็นความผิดของเขา“พอๆ… นี่แก้วจะไม่เถียงอาสักเรื่องได้ไหม”สำนึกผิดชอบชั่วดีที่ตีกันนัวอยู่ในหัวของเถื่อนทิศทำให้เขาร้องห้าม ย้ำเตือนอยู่ภายในใจตัวเองว่าเขาจะทำแบบนี้ไม่ได้… ด้วยเคยให้สัญญากับดาบยิ้มบิดาของหล่อนเอาไว้ว่าจะดูแลลูกแก้วอย่างลูกสาวบุญธรรม“รีบสวมเสื้อผ้า… อาจะกลับแล้ว”ทำเป็นวางมาดเข้ม สั่งเสียงดุ“ค่ะ… ”ลูกแก้วตอบขณะยกหลังมือขึ้นแตะริมฝีปากที่โดนจูบจนบวมเจ่อ หล่อนเม้มริมฝีปากเบาๆ ยกมือขึ้นแตะริมฝีปากอีกครั้ง... ความวาบหวามนั้นยังอยู่ อาเถื่อนคนนี้จูบได้เร่าร้อนเหลือเกิน “หูหนวกหรือไง… บอกให้รีบสวมเสื้อผ้า… กลับกันได้แล้ว”สั่งเสียงเข้มอีกครั้ง ก้าวยาวๆ เดินนำหน้าออกมาที่รถกระบะ ลูกแก้วรีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมใส่ เดินหน้าง้ำตามต้อยๆ มาที่รถ “เดี๋ยวนั่งไปกับอา… คราวหลังถ้าไม่มีอามาด้วยห้ามขี่จักรยานมาแถวนี้คนเดียวนะ”เถื่อนทิศทำเสียงดุ หญิงสาวแอบยิ้มเมื่อรู้ว่าเขาห่วง ทอดสายตามองร่างสูงใหญ่ยกรถจักรยานใส่ไว้ในกระบะหลังของรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อสีดำคันใหญ่“โกรธแก้วหรือคะ”ม
เถื่อนทิศต้องบอกความจริงในที่สุด“ก็ไม่เป็นไรนี่คะ… ถ้าคุณอาอยู่ในน้ำก็ไม่เห็นอะไรหรอกค่ะ… นอกเสียจากว่าชะโดของคุณอาจะโดดขึ้นมาเหนือน้ำ”ลูกแก้วกล่าวทั้งเสียงหัวเราะ“แก้ว… แก่แดดจัง ไปเอาคำพวกนี้มาจากไหน”เถื่อนทิศส่ายหน้า“ก็เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านเช่ากับพ่อ… แก้วได้ยินกิ๊กของพ่อทะเลาะกับพ่อเรื่องหึงหวงกัน ได้ยินแกว่าจะเอามีดหั่นชะโดของพ่อแล้วโยนให้เป็ดกิน… ก็เลยรู้ว่าเค้าเรียกของผู้ชายว่าชะโด”ลูกแก้วหัวเราะขำ เถื่อนทิศส่ายหน้าอีกครั้ง หากแต่เขาก็พอจะเข้าใจได้ เมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิตของผู้หญิงคนนี้ ด้วยตอนนั้นดาบยิ้มพ่อของลูกแก้วเช่าห้องเล็กๆ อยู่ใกล้คลองเตย สลัมชื่อดังในตำนานของเมืองบางกอก ทำให้ลูกแก้วต้องเติบโตมาท่ามสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยชุมชนแออัด อยู่กันอย่างไร้ระเบียบ คุณภาพชีวิตต่ำ แวดล้อมไปด้วยชนชั้นกรรมกรหาเช้ากินค่ำ“สอนแก้วว่ายน้ำนะคะอาเถื่อนขา”ลูกแก้วอ้อน“ไม่ได้… ยังไงก็ไม่สมควรอยู่ดี”“โธ่… คุณอาคะ แก้วอุตส่าห์ตามมาเล่นน้ำด้วย… ช่วยสอนแก้วว่ายน้ำนะคะ… นะ… ”ลูกแก้วตื๊อไม่เลิก ส่งสายตาวิงวอนให้อาเถื่อนใจอ่อน“ไม่ได้… กลับขึ้นฝั่งเดี๋ยวนี้… นี่เป็นคำสั่ง”เสียงเข้มและแ
“หนูขอยืมจักรยานนะคะป้า”ได้ยินที่ป้าคำหล้าบอก ว่าเป้าหมายของหล่อนอยู่ตรงไหน ลูกแก้วไม่รอรี รีบเดินไปคว้ารถจักรยานสีแดง จอดไว้ใต้ต้นมะม่วงข้างครัว ขึ้นคร่อมแล้วปั่นออกไปท่ามกลางประกายแสงแดดของยามเช้า มุ่งตรงไปยังทิศทางของไร่กาแฟในทันที“หนูแก้วยิ่งโตเป็นสาวยิ่งสวย… แม่คุณเอ๊ยหน้าตายังกับนางฟ้าในไร่กาแฟ ทรวดทรงยังกับนางแบบแน่ะ”ป้าคำหล้าหันมากล่าวกับสามี ตามองตามหญิงสาวขี่จักรยานจนแล่นลับไปจากสายตา“ใช่… เด็กคนนี้ยิ่งโตยิ่งสวย ข้าว่าถ้าเป็นแบบนี้โคแก่อย่างพ่อเลี้ยงเถื่อนจะตกหลุมรักหญ้าอ่อนอย่างหนูแก้วเข้าสักวัน”ลุงหนานแสดงความเห็น“นั่นสิ… ดูสายตาของหนูแก้วตอนมองพ่อเลี้ยงสิ… ฉันว่ามันเป็นสายตาของผู้หญิงมองผู้ชายชัดๆ… ไม่ใช่สายตาของเด็กสาวที่มองผู้ปกครองเลยสักนิด”ป้าคำหล้าช่างสังเกต มองว่าการที่พ่อเลี้ยงเถื่อนทิศเอาลูกแก้วมาอยู่ร่วมชายคา มันเหมือนกับการเอาน้ำตาลมาไว้ใกล้มด เอาน้ำมันมาวางไว้ใกล้ไฟ… จะสปาร์คกันวันไหนก็ไม่รู้ในเวลาต่อมา หลังจากลูกแก้วขี่จักรยานเข้ามาวนหาพ่อเลี้ยงจนได้เหงื่อ แต่ก็ไม่เจอ เพราะว่าไร่กาแฟแห่งนี้กว้างขวางมาก สุดท้ายหญิงสาวจำต้องจอดจักรยานถามคนงาน จึงได้ความ
เซตนี้ประกอบด้วย คุณอาเถื่อนและคุณอาน่าหม่ำผู้เขียน : กาสะลองนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคลและสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนาอ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ……….นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนาทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรงท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง*เราเตือนท่านแล้ว*สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้นคุณอาเถื่อนเมื่อเดินทางมาถึงศาลาวัดแห่งหนึ่ง ‘ลูกแก้ว’ สาวน้อยในวัยใกล้แตะยี่สิบ รู้สึกตัวเบาหวิว ในสมองของหล่อนโหวงๆ ใจหาย มือไม้อ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรง ก้าวลงมาจากรถตู้พร้อมกับความรู้สึกสูญเสียที่ยากจะบรรยาย“ฮือๆ… คุณพ่อคะ… คุณพ่อทิ้งแก้วไปกะทันหันแบบนี้แก้วจะอยู่กับใครคะ… ฮือๆ”สาวน้อยร้องไห้จนตาแดงก่ำ เดินตรงไปยังโลงซึ่งฉาบเอาไว้ด้วยสีทองอร่าม สลักเสลาเป็นลวดลายเครือเถาและประจำยามวิจิตรบรรจง รอบๆ โล