“หวานหว่าน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? ประธานฮั่วพาเธอไปทำอะไรที่นี่?”เยี่ยฮวนเอ่อร์กับซูเสี่ยวฝูรีบเข้ามาคว้าตัวฉือหว่านไว้ฉือหว่านขมวดคิ้ว เธอเองก็ไม่รู้ว่าฮั่วซือหานที่เหมือนคนบ้าคนนั้นต้องการอะไรกันแน่...เขาพาเธอมาที่สวนหลวง แล้วพูดคำว่า “ขอโทษ” ถึงสองครั้งเขาดูแปลกไปมากแต่พอคิดถึงเรื่องที่โหลวซินเยว่ท้อง ฉือหว่านก็ไม่อยากเสียเวลาอยู่กับฮั่วซือหานอีกแล้ว “ฮวนเอ่อร์ เสี่ยวฝู พวกเราไปกันเถอะ”“โอเค”ทั้งสามคนเดินจากไป ส่วนฮั่วซือหานยังนั่งอยู่บนโซฟา ก้มหน้าซ่อนแววตาและอารมณ์ร้อนแรงไว้ใต้เปลือกตาขณะนั้นเอง เลขาจ้าวเดินเข้ามา รายงานเสียงเบา “ท่านประธาน สืบเจอแล้วครับ”ฮั่วซือหานเงยหน้า “ว่ามา”“ที่แท้โหลวซินเยว่เคยมีแฟนหนุ่มอยู่ที่บ้านนอก แฟนคนนั้นรักเธอมาก ทำงานหนักในไซต์ก่อสร้าง หาเงินส่งเธอเรียนมหาลัย ทั้งคู่เคยมีความสัมพันธ์กันนานแล้ว เด็กในท้องก็เป็นของแฟนคนนั้นครับ”มุมปากของฮั่วซือหานยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน “พรุ่งนี้วันเกิดโหลวซินเยว่ไม่ใช่เหรอ? เตรียมของขวัญชิ้นโตให้เธอหน่อย”เลขาจ้าวเข้าใจทันที “ครับ ท่านประธาน”จากนั้น ฮั่วซือหานก็เงยหน้าขึ้นมองเลขาจ้าว “คืนนั้นคนท
โหลวซินเยว่ต้องการอวดความสุขให้ฉือหว่านเห็นสายตาของฉือหว่านเย็นชา ไม่ตอบอะไรโหลวซินเยว่เอามือแตะที่หน้าท้องตัวเอง “หวานหว่าน เธอคงไม่ได้อิจฉาฉันหรอกนะ? บางคนหลังจากมีอะไรกันก็ได้แค่กินยาคุม แล้วยังแพ้จนเป็นลมอีก แต่ฉันกลับตั้งท้อง แถมยังได้รับความรักอย่างล้นหลาม คนเรานี่โชคชะตาไม่เหมือนกันจริงๆ”“เธอ!” เยี่ยฮวนเอ่อร์กับซูเสี่ยวฝูกำลังจะพูดแต่ฉือหว่านยกมือห้าม น้ำเสียงเรียบเย็น “ไปกันเถอะ”พูดจบเธอก็หมุนตัวเดินจากไปเยี่ยฮวนเอ่อร์กับซูเสี่ยวฝูรีบตามไป “หวานหว่าน เมื่อกี้ทำไมไม่ให้พวกเราด่าหล่อนสักคำสองคำล่ะ?”ฉือหว่านยิ้มเย้ยตัวเองเล็กน้อย “ด่าไปก็ไม่มีประโยชน์ ที่หล่อนพูดก็เป็นความจริงทั้งหมด”เธอกินยาคุม แล้วแพ้จนเป็นลมขณะที่โหลวซินเยว่ท้อง และกลายเป็นดาราดังสิ่งที่เขาชอบหรือไม่ชอบ มันชัดเจนปานนี้โหลวซินเยว่รู้ว่าจะทำยังไงให้เธอเจ็บปวด และสิ่งที่พูดเมื่อครู่ก็เหมือนหนามแหลมในใจฉือหว่าน แค่แตะก็เจ็บจี๊ดขณะที่ทั้งสามกำลังรอลิฟต์ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา คนที่เดินนำหน้า คือร่างสูงสง่างามของฮั่วซือหานฮั่วซือหานมากับเลขาจ้าวและคนอื่นๆ โรงแรมจินหลิงถึงกับให้ผู้จัดการอ
โหลวซินเยว่รอไม่ไหว รีบส่งข้อความหาฮั่วซือหาน “ประธานฮั่ว คุณมาถึงหรือยังคะ?”ดวงตาคมเย็นของฮั่วซือหานลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง เขาตอบกลับแค่สองคำ “กำลัง”...ในงานเลี้ยงวันเกิด โหลวซินเยว่ยิ้มจนแทบควบคุมไม่อยู่ ฮั่วซือหานตอบกลับแล้ว! เขามาแล้วจริงๆ!เสียดายจังที่ฉือหว่านไม่อยู่เธออยากให้ฉือหว่านเห็นภาพนี้ที่สุดเธอพูดเสียงดังอย่างตื่นเต้น “ทุกคน! งานเลี้ยงวันเกิดของฉันจะเริ่มแล้วนะคะ เพราะแขกรับเชิญพิเศษที่ฉันรอกำลังจะถึงแล้ว!”“เยว่เยว่คนสวย แขกพิเศษคนนั้นคือใครกัน?”“ซุปตาร์โหลว อย่าอุบไว้เลย รีบเชิญเขาออกมาให้เราเห็นเถอะ!”โหลวซินเยว่ยกมุมปากยก “งั้นก็ขอเชิญเขาเข้ามาได้เลยค่ะ”ประตูห้องจัดเลี้ยงค่อยๆ เปิดออก สายตาทุกคู่จับจ้องไปทางประตูและในวินาทีนั้น มีคนคนหนึ่งเดินเข้ามาโหลวซินเยว่ยิ้มกว้าง เดินเข้าไปอย่างดีใจ “ประธาน..”คำว่า “ประธานฮั่ว” ยังไม่ทันพูดจบ หลังจากที่โหลวซินเยว่เห็นคนที่มาชัดเจน ก็ตัวแข็งอยู่กับที่เพราะคนที่เข้ามานั้นไม่ใช่ฮั่วซือหาน แต่เป็นแฟนหนุ่มของเธอ...อู๋เหล่ย!อู๋เหล่ยเพิ่งกลับมาจากไซต์งานก่อสร้าง ยังใส่ชุดคนงานอยู่เลย เขาเดินเข้ามาหาโหลวซินเย
ปาร์ตี้วันเกิดครั้งนี้โหลวซินเยว่เชิญนักข่าวมาจากหลายสำนัก ตอนนี้เธอกำลังโด่งดัง นักข่าวพวกนั้นก็พากันมา ถือว่าให้เกียรติเธอมากเดิมทีเธออยากใช้โอกาสนี้เพื่อก้าวขึ้นอีกขั้น แต่แล้วอู๋เหล่ยก็มากะทันหัน และนำเรื่องฉาวสะเทือนวงการมาด้วยสถานที่จัดงานวุ่นวายทันที นักข่าวพวกนั้นรีบยกกล้องขึ้นมาถ่ายเธอไม่หยุด “ซุปตาร์โหลว ที่แท้คุณมีแฟนแล้วนี่เอง”“ที่แท้คุณเรียนมหาวิทยาลัยได้ ก็เพราะแฟนคุณไปแบกอิฐแบกปูนที่ไซต์ก่อสร้างนี่เอง”“งั้นภาพลักษณ์สาวน้อยใสซื่อของคุณก็แค่หลอกแฟนคลับกับหลอกสังคมเหรอคะ?”โหลวซินเยว่ไม่คิดเลยว่าสถานการณ์จะพลิกผันรวดเร็วและควบคุมไม่ได้แบบนี้ เธอรีบพูดอย่างลนลานว่า “หยุดถ่ายได้แล้ว! หยุดถ่าย!”ตอนนั้นเองโหลวซินเยว่เผลอเห็นที่ชั้นสอง ที่ราวระเบียงแกะสลักมีร่างที่หล่อเหลาและดูสง่างามร่างหนึ่งยืนอยู่ นั่นคือฮั่วซือหานฮั่วซือหานมาแล้ว เขายืนอยู่ตรงนั้น กำลังมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยท่าทีเหนือกว่าโหลวซินเยว่สีหน้าเปลี่ยนทันที แย่แล้ว ฮั่วซือหานรู้ว่าเธอมีแฟนแล้ว ห้ามให้เขารู้ความจริงทั้งหมดเด็ดขาด“ปาร์ตี้วันเกิดวันนี้จบเพียงเท่านี้!” โหลวซินเยว่หันหลังแล้วจะเดินออ
“ช่วงนี้มีทรัพยากรมหาศาลเทมาที่เธอ แบบนี้แสดงว่าเธอมีสปอนเซอร์รวยๆ หนุนหลังอยู่ใช่ไหม?”นักข่าวเริ่มถามกันแรงขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าของโหลวซินเยว่ซีดเผือด เธอเงยหน้ามองเหล่าแฟนคลับแฟนคลับพวกนั้นไม่มีความชื่นชอบในตัวเธออีกต่อไป ต่างพากันด่า “พวกเราตาถั่วกันจริงๆ”“ตอนแรกนึกว่าชอบสาวน้อยใสซื่อ ที่แท้ก็หญิงร่านนี่เอง!”“ไปกันเถอะ”แฟนคลับพวกนั้นทิ้งเธอแล้วเดินจากไปโหลวซินเยว่รู้ตัวดีว่าจบแล้ว วันนี้ที่เธอจัดปาร์ตี้วันเกิด ก็เพื่อจะก้าวขึ้นจุดสูงสุดของชีวิต แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นการทำลายตัวเองโดยสิ้นเชิงเมื่อกี้เธอยังอยู่บนสวรรค์ อีกวินาทีเดียวก็ร่วงลงจากสวรรค์กระแทกสู่เหวลึกเธอควรทำยังไงดี?โหลวซินเยว่เงยหน้ามองผู้ชายบนชั้นสอง ฮั่วซือหานยืนสูงส่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาเรียวยาวของเขาลึกดั่งบ่อน้ำเย็นเฉียบ สายตานิ่งเฉียบคู่นั้นจ้องมาที่เธอไม่ละไปไหนเขารู้แล้วเขารู้หมดแล้ว…บอดี้การ์ดชุดดำสองคนกดตัวโหลวซินเยว่ให้ขึ้นไปชั้นบน “เร็ว!”โหลวซินเยว่ยืนไม่มั่น “ตุบ” ล้มคุกเข่าลงกับพรมทันทีฮั่วซือหานที่ยืนอยู่ริมระเบียงหันมา ก้มตามองเธอด้วยดวงตาเย็นชาโหลวซินเยว่ตัวสั่นระริก “ประ...ประ
พูดจบ ฮั่วซือหานก็หันหลังเดินจากไปทันทีโหลวซินเยว่ถูกความหวาดกลัวกลืนกิน เธอที่ตอนนั้นโลภเกินไป ปลอมตัวเป็นฉือหว่าน ตอนนี้ฮั่วซือหานทำให้สิ่งนั้นกลายเป็นการตัดสินใจที่เธอเสียใจที่สุดในชีวิตชีวิตเธอพังหมดแล้วโหลวซินเยว่หันไปมองอู๋เหล่ย ตอนนี้อู๋เหล่ยคือความหวังสุดท้ายของเธอแม้อู๋เหล่ยจะมาจากครอบครัวยากจน แต่เขาก็ขยันมุ่งมั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาใช้เงินกับเธอไปนับล้าน และทุกครั้งที่บ้านเธอมีปัญหา อู๋เหล่ยก็คอยช่วยจัดการให้ตลอด เธอไม่อาจเสียอู๋เหล่ยไปได้อีก“อาเหล่ย ขอโทษนะ ทุกอย่างเป็นความผิดของฉัน... พาฉันกลับบ้านเถอะ ฉันจะใช้ชีวิตกับนายให้ดี...” โหลวซินเยว่ร้องไห้พลางจับมืออู๋เหล่ยไว้แต่อู๋เหล่ยสะบัดเธอออกแรงมาก “โหลวซินเยว่ ตอนนี้เธออยู่ในไห่เฉิงไม่ได้แล้ว ตกลงมาจากที่สูงก็เพิ่งนึกถึงฉันงั้นเหรอ ฉันมองเห็นธาตุแท้ของเธอแล้ว คนโลภแบบเธอไม่คู่ควรหรอก”อู๋เหล่ยหันหลังแล้วเดินจากไปทันที“อาเหล่ย อย่าไป! นายลืมแล้วเหรอ ฉันท้องลูกของนายอยู่นะ นายจะไม่รับผิดชอบเหรอ!”อู๋เหล่ยมองที่ท้องของเธอแวบหนึ่ง “ลูกก็แค่เครื่องมือของเธอ เธอไม่เคยมีคุณสมบัติเป็นแม่ เพื่อเห็นแก่เด็ก ไปโรงพย
ซูเสี่ยวฝูตกใจ “อะไรนะ ท้องก่อนแต่ง? เด็กในท้องของโหลวซินเยว่ไม่ใช่ของประธานฮั่ว แต่เป็นของแฟนหล่อนงั้นเหรอ?”ฉือหว่านเดาได้ว่าในงานวันเกิดต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น แต่เธอก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้โหลวซินเยว่มีแฟนแล้วจริงๆเด็กในท้องของหล่อนเป็นของแฟนหล่อนแล้วความสัมพันธ์ระหว่างโหลวซินเยว่กับฮั่วซือหานคืออะไรกันแน่?ในตอนนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ก็อก ก็อก”“ใคร?”ฉือหว่านลุกไปเปิดประตู ข้างนอกคือร่างสูงสง่าและหล่อเหลาคนหนึ่ง ฮั่วซือหานมาฉือหว่านชะงักไปเล็กน้อย เขามาทำไม?ที่นี่คือหอพักหญิงฉือหว่านไม่อยากพูดกับเขา จึงปิดประตูทันทีแต่ประตูยังไม่ทันปิด ฮั่วซือหานก็ยื่นมือมาดันไว้ เขายืนตัวสูงขวางอยู่ตรงนั้น ก้มตามองเธอด้วยสายตาหล่อเหลานิ่งลึก “ฉือหว่าน ฉันมีเรื่องจะพูดกับเธอ”“ฉันไม่อยากฟัง”“เธอต้องฟัง!”ฮั่วซือหานใช้ท่าทีแข็งกร้าว ดันประตูเข้าไปข้างในเยี่ยฮวนเอ่อร์รีบพูดขึ้น “หวานหว่าน ประธานฮั่ว คุยกันเถอะ เดี๋ยวพวกเราออกไปก่อน”เยี่ยฮวนเอ่อร์ตั้งใจจะให้ทั้งสองได้คุยกันตามลำพังแต่ซูเสี่ยวฝูไม่อยากออก “ฉันไม่อยากออกไป... อุ๊บ!”เธอยังพูดไม่จบ เยี่ยฮวนเอ่อร์ก
ฉือหว่านย้อนถามเขา “ไม่อย่างนั้นจะให้ทำยังไง?”แสงไฟในหอพักหญิงนุ่มนวลตกกระทบใบหน้าขาวผ่องของเธอ ผิวนุ่มนวลจนแทบระเบิดออกได้ แค่ขนอ่อนบางๆ บนหน้าเธอยังดูใสบริสุทธิ์ ฮั่วซือหานมองเธอด้วยรอยยิ้มบางในแววตาหล่อเหลาคมเข้ม “สำหรับเรื่องคืนนั้น เธอไม่มีอะไรอยากพูดเลยเหรอ?”คืนนั้น…ฉือหว่านไม่ได้คิดถึงคืนนั้นมานานแล้ว แต่พอเขาพูดขึ้นมา ภาพในหัวก็กลับมาอีกครั้งร่างหนึ่งแข็งแกร่ง อีกหนึ่งอ่อนนุ่ม พัวพันกันอยู่บนโซฟาเหงื่อและความสุขพัวพันกัน สุดท้ายระเบิดออกเหมือนดอกไม้ไฟที่สว่างไสวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนเขาคร่อมอยู่บนตัวเธอ แล้วเรียกเธอว่าหวานหว่านฉือหว่านเงยหน้ามองเขา สบตาเขาเข้าเต็มๆเขาเองก็มองเธอ มองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอใบหน้าเล็กขาวของฉือหว่านแดงทันที เพราะโหลวซินเยว่ เธอจึงคิดว่าเขาลืมคืนนั้นไปแล้ว แต่ตอนนี้ในสายตาเขายังมีเธอเล็กๆ อยู่ตรงนั้น ที่แท้เขาไม่เคยลืมเลยเขาเหมือนเธอ ที่ยังจำได้ตลอด“ฉันไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น” เธอหันหลังจะเดินหนีแต่ฮั่วซือหานก้าวเท้าขวางทางเธอไว้ ไม่ให้เธอเดินไปเธอจะไปทางซ้ายเขาก็ไปทางซ้ายเธอจะไปทางขวาเขาก็ไปทางขวาขวางเธอไว้ใต้เงาร่างของเ
“ฉันเห็นว่าด้านนอกมีสมุนไพรอยู่ เดี๋ยวจะออกไปเก็บ นายพักผ่อนก่อนเถอะ”ฉือหว่านพูดพลางเก็บกล่องปฐมพยาบาล จากนั้นก็เดินออกไปตอนมาถึง เธอสังเกตภูมิประเทศโดยรอบไว้แล้ว ที่นี่มีสมุนไพร เธออาจใช้มันทำยาช่วยให้หลิวว่างความจำเสื่อมได้ฉือหว่านย่อตัวลงเริ่มเก็บสมุนไพร แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ข้างหลัง พอหันไปดู ก็เห็นว่าคือกู้เป่ยเฉินกู้เป่ยเฉินตามมาฉือหว่านเอ่ยอย่างแปลกใจ “นายตามมาทำไม? นายเสียเลือดไปเยอะ ควรจะรีบพักผ่อนนะ”กู้เป่ยเฉินยืนอยู่ มองเธอจากมุมสูง ใบหน้าเล็กเรียวสวยแม้จะสวมเสื้อผ้าหยาบของชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่อาจบดบังความงามอันสง่างามราวเทพธิดาได้ “ฉันว่าฉันตามมาเถอะ กลัวว่าจะมีหลิวว่างคนที่สองโผล่มาอีก”ฉือหว่านยิ้มมุมปากอย่างจริงจัง “ฉันกับพี่นายหย่ากันแล้ว ต่อให้ฉันมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นก็ไม่เรียกว่านอกใจ ไม่ต้องตามฉันก็ได้”กู้เป่ยเฉินเม้มริมฝีปาก “ไม่ใช่เพราะพี่ฉัน”ฉือหว่านมองเขา กู้เป่ยเฉินหน้าตาหล่อเหลาจริงๆ ในฐานะทายาทคนเดียวของตระกูลกู้ในไห่เฉิง ชีวิตของเขาก็เหมือนเจ้าชายในวังทองคำแม้ตอนนี้จะดูซอมซ่อ มีบาดแผลทั้งที่ขาและแขน ใบหน้าซีดเซียว แต่ความหล่อ
ฉือหว่านเงยหน้าขึ้น เห็นว่าเป็นกู้เป่ยเฉินชายหนุ่มที่หลับอยู่ลืมตาตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงวุ่นวาย เขากระโดดลงจากเตียงแล้วกระชากตัวหลิวว่างออกจากร่างของฉือหว่านหลิวว่างซึ่งกำลังคลุ้มคลั่งด้วยไฟราคะ ไม่ทันตั้งตัวเลยเซล้มไปกระแทกกับผนังใบหน้าของกู้เป่ยเฉินซีดขาว แต่อารมณ์กลับแข็งกร้าวและเย็นเฉียบ เขาหันมามองฉือหว่าน “เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”ฉือหว่านส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”เขาจึงเบนสายตาไปยังหลิวว่าง มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูด “ไอ้สารเลว!”หลิวว่างที่โดนขัดจังหวะกลางคัน หน้าก็ยิ่งบูดบึ้ง เขาตวาดลั่น “ฉันเป็นคนช่วยพวกแกไว้เองนะ ถ้าไม่มีฉัน ขาแกก็พิการไปแล้ว! แกยังกล้าว่าฉันอีก?”“ตอบแทนฉันหน่อยจะเป็นไรไป? ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ซะหน่อย แต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ? จะนอนกับผู้ชายสักคนหรือสิบคนมันก็เหมือนกัน!”คำพูดของเขาทั้งหยาบคายและไร้ยางอายสิ้นดีกู้เป่ยเฉินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เส้นเลือดปูดทั่วแขน เขาเงื้อหมัดใส่หลิวว่างทันทีหลิวว่างก็ไม่ยอมแพ้ เขาจ้องกู้เป่ยเฉินเขม็ง พอกู้เป่ยเฉินพุ่งเข้ามา ทั้งสองก็เข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือดฉือหว่านรีบลุกขึ้นยืน มองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นรัว
ฉือหว่านเดินหนีออกมาหลิวว่างมองตามเงาร่างอ่อนช้อยของเธอ ใบหน้าของเขาพลันมืดครึ้มลงอย่างชัดเจน…ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน กู้เป่ยเฉินยังคงนอนหลับหมดสติอยู่ ส่วนฉือหว่านนั้นไม่กล้าหลับตาแม้แต่นิดเดียว เพราะเธอต้องเฝ้าระวังหลิวว่างชัดเจนว่าการอ้างว่าตนแต่งงานแล้วไม่ได้ช่วยทำให้หลิวว่างเลิกล้มความคิดสกปรกนั้นเลยสักนิด เขายังคงจ้องมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ไม่เลิกราเธอไม่กล้านอน เพราะเธอรู้ว่าทั้งเธอและกู้เป่ยเฉินอาจตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อฉือหว่านนั่งอยู่คนเดียวที่หน้าประตู กลางดึกของหมู่บ้านบนภูเขาเงียบสงบจนเกือบวังเวง มันเงียบเสียจนเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่งหลังหิมะหยุดตก บรรยากาศในหมู่บ้านยิ่งเย็นยะเยือกไปทั่ว เหมือนเธอถูกทิ้งไว้ที่ปลายสุดของโลกใบนี้ร่างกายของฉือหว่านหนาวจนสั่น เธอรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย ตัวเริ่มร้อนราวกับจะเป็นไข้หลังจากแช่น้ำทะเลเย็นเฉียบอยู่นาน แม้แต่ร่างกายแข็งแรงอย่างเธอก็แทบจะทนไม่ไหวฉือหว่านได้แต่หยิกฝ่ามือตัวเอง เพื่อไม่ให้ตัวเองหลับไป เพราะเธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยในความมืดเงียบ เธอเผลอคิดถึงฮั่วซือหานขึ้นมา ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่?
ฉือหว่านใช้ผ้าเช็ดมือให้สะอาด แล้วหันไปมองกู้เป่ยเฉิน “คุณชายกู้ อยากพูดอะไรก็พูดมา แต่อย่าคิดจะพูดคำว่าขอโทษกับฉันเด็ดขาด”กู้เป่ยเฉินตั้งใจจะขอโทษอยู่แล้ว แต่คำพูดนั้นกลับติดอยู่ที่คอเสียงของฉือหว่านเย็นเฉียบ “คุณทำร้ายคนอื่น คำขอโทษแค่คำเดียวมันลบล้างอะไรไม่ได้ เพราะงั้นไม่ต้องพูด ฉันไม่มีวันให้อภัยคุณ”กู้เป่ยเฉิน “…”เขาคือจอมเกเรแห่งไห่เฉิง นอกจากพี่รองก็ไม่เคยมีใครกล้าหักหน้าเขาแบบนี้มาก่อน แต่ฉือหว่านกลับกล้าทำ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาซะเลย ใบหน้าของกู้เป่ยเฉินมืดครึ้ม“คุณชายกู้ หลับตาพักเถอะ ขาคุณน่าจะรอดแล้ว” ฉือหว่านกล่าวใบหน้าของกู้เป่ยเฉินซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายอ่อนแอเกินกว่าจะทำอะไรได้ตามอำเภอใจ เขาทำได้แค่เชื่อฟังฉือหว่านแล้วหลับตาลงฉือหว่านยื่นมือห่มผ้าให้เขา เธอรู้ดีว่าเขาชอบฉือเจียว คิดว่าฉือเจียวคือซ้อเจียวเจียวของเขา เพราะฉะนั้นที่เขาพูดออกมาแบบนั้น เธอไม่แปลกใจเลย เธอชินแล้วถึงเธออยากจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกู้เป่ยเฉินอีก แต่เธอก็ทำไม่ได้ เธอข้ามเส้นของตัวเองไปไม่ได้ จรรยาบรรณของหมอ ทำให้เธอไม่อาจปล่อยมือจากคนเจ็บได้ขณะนั้นเอง หลิวว่างเดินเข้ามาในห
ฉือหว่านตั้งใจพูดแบบนั้น เพราะตอนนี้เธอกับกู้เป่ยเฉินที่บาดเจ็บสาหัสต้องมาติดอยู่ในที่แบบนี้ และสายตาของหลิวว่างก็จ้องเธออย่างไม่เหมาะสมตั้งแต่ต้น เธอจึงจำเป็นต้องระวังตัวให้มากที่สุดแต่กู้เป่ยเฉินกลับไม่ยอมรับสถานะที่เธออ้างแม้แต่น้อย ในสายตาของเขา ฉือหว่านหย่ากับพี่รองของเขาไปแล้ว ยังจะกล้าพูดแบบนี้อีก หน้าไม่อายเอาซะเลยกู้เป่ยเฉินกำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉือหว่านส่งสายตาดุใส่เขาทันที “หุบปากไปเลย!”พูดจบ เธอก็ยื่นมือไปกดที่แผลของเขาอย่างแรง “ยังไม่ตายอีกเหรอ!”“โอ๊ย! เจ็บ!” กู้เป่ยเฉินเจ็บจนเหงื่อเย็นไหลทั่วใบหน้า “ฉือหว่าน! เชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าเธอ!”ทันใดนั้น หมอประจำหมู่บ้านพูดขึ้นว่า “ขาของคนไข้บาดเจ็บสาหัสมาก ผมห้ามเลือดให้ได้แค่ชั่วคราว พรุ่งนี้ต้องส่งเข้าเมืองไปรักษาแล้วครับ”ฉือหว่านส่ายหน้า “ไม่ทันแล้ว ต้องจัดการคืนนี้”หมอถามกลับ “จะให้จัดการยังไง?”ฉือหว่านตอบเพียงสองคำ “ตัดกระดูก”อะไรนะ?ตัดกระดูก!?กู้เป่ยเฉินมองเธอด้วยสายตาตกตะลึง “ฉือหว่าน! เธอจะตัดกระดูกฉัน? เธอจะทำลายขาฉันเหรอ!?”ฉือหว่านมองเขาอย่างเย็นชา “ใช่!”พูดจบ เธอก็หันไปพูดกับหมอ “หมอ ช่
ฉือหว่านรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว เหมือนกระดูกแทบจะแหลกสลาย และมันหนาวเย็นจนแทบทนไม่ไหวน้ำทะเลเย็นจัดซัดเข้าหน้าเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความหนาวทะลุเข้าไปถึงกระดูก ทำให้เธอสะดุ้งสุดตัวจนได้สติกลับคืนมา เธอลืมตาขึ้นอย่างช้าๆเธอยังไม่ตายบนเรือยอชต์มีระเบิดติดอยู่ พอใกล้ระเบิด เธอกับกู้เป่ยเฉินก็กระโดดลงทะเล น้ำเย็นยะเยือกโถมเข้าหาเธอจากทุกทิศทาง เธอต้องว่ายน้ำอย่างสุดแรงเพื่อเอาชีวิตรอดร่างกายเล็กๆ ของเธอแสดงให้เห็นถึงพลังในการเอาชีวิตรอดอย่างน่าทึ่งสุดท้าย เธอก็ถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งจนได้ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว บรรยากาศรอบข้างเงียบงันและเปลี่ยวเหงา ฉือหว่านพยายามยันตัวลุกขึ้น “กู้เป่ยเฉิน? กู้เป่ยเฉิน!”เธอเป็นคนถีบเขาลงทะเล แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหน?ฉือหว่านเดินหาทั่วบริเวณ “กู้เป่ยเฉิน ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ ตอบฉันหน่อย!”ไม่นานนัก เธอก็หยุดกะทันหันที่ชายหาดด้านหน้า เธอเห็นร่างของกู้เป่ยเฉินนอนอยู่เขาก็ถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งเช่นกันฉือหว่านรีบวิ่งเข้าไปหา “กู้เป่ยเฉิน? กู้เป่ยเฉิน ฟื้นสิ!”เขายังหมดสติอยู่ ขาขวาได้รับบาดเจ็บ เลือดไหลออกมาไม่หยุดเลือดแดงฉานเปื้อนเต็มพื้นทรายรอบตัวเขา
ความจริงแล้ว ฉือเจียวได้วางแผนไว้ล่วงหน้า เธอให้คนลอบติดตั้งระเบิดไว้บนเรือยอชต์ลำนั้นและนี่ก็คือระบบจับเวลาของระเบิดอีกเพียงสามนาที เรือก็จะระเบิดฉือเจียวมองออกไปยังผืนน้ำกว้างไกลในทะเล “กู้เป่ยเฉิน อย่าโทษฉันเลย ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตัวนายเอง หัวใจของนายเริ่มเอียงไปหาฉือหว่านแล้ว งั้นก็หายไปพร้อมกันเถอะ!”…บนเรือยอชต์ กู้เป่ยเฉินกำลังจะบังคับเรือกลับฝั่งแต่ในตอนนั้นเอง คลื่นยักษ์ลูกหนึ่งกระแทกเข้ามา น้ำเย็นเฉียบสาดกระเซ็นไปโดนใบหน้าของฉือหว่านขนตาเรียวยาวของเธอสั่นไหวเล็กน้อย ฉือหว่านลืมตาขึ้น เธอฟื้นแล้วเธอค่อยๆ ยันตัวขึ้น มองไปที่กู้เป่ยเฉิน “กู้เป่ยเฉิน ที่นี่ที่ไหน?”ซี๊ดเธอรู้สึกเจ็บบริเวณท้ายทอยแปลบๆกู้เป่ยเฉินรีบหันมาทางเธอ “ฉือหว่าน เธอฟื้นแล้วเหรอ?”ฉือหว่านเริ่มจับต้นชนปลายได้ เธอมองไปรอบๆ เห็นเพียงทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา ดวงตากลมโตใสสว่างของเธอพลันเย็นเยียบลง “กู้เป่ยเฉิน คุณพาฉันมาอยู่กลางทะเลทำไม?”“ฉือหว่าน เธอคิดอะไรอยู่เนี่ย คิดว่าฉันจะทำร้ายเธอเหรอ? ฟังนะ ซ้อเจียวเจียวให้ฉันพาเธอมา ฉันไม่ชอบเธอก็จริง แต่ฉันไม่มีวันทำร้ายเธอหรอก เดี๋ยวฉันจะพาเธอกลับเด
หิมะที่เวยไห่หยุดตกแล้ว แต่ท่าเรือกลับชื้นแฉะและหนาวเย็นเป็นพิเศษฉือเจียวกับกู้เป่ยเฉินยืนอยู่บนท่าเรือ ข้างๆ มีเรือยอชต์ลำหนึ่งจอดอยู่ คนชุดดำคนหนึ่งโยนร่างของฉือหว่านที่ยังหมดสติขึ้นไปบนเรือกู้เป่ยเฉินมองฉือหว่าน แล้วหันไปถามฉือเจียว “ซ้อเจียวเจียว ทำไมซ้อให้คนจับฉือหว่านมาที่นี่? ซ้อทำอะไรฉือหว่าน?”ฉือเจียวขมวดคิ้ว “นี่นายสงสัยฉันเหรอเป่ยเฉิน? ฉันว่าตอนนี้นายเปลี่ยนไปนะ ดูเหมือนจะเริ่มลัง นายมีใจให้ฉือหว่านใช่ไหม?”“เปล่าครับซ้อเจียวเจียว”“เป่ยเฉิน นายยังเห็นฉันเป็นซ้ออยู่ไหม?”กู้เป่ยเฉินพยักหน้า เขาชอบฉือเจียวมาตลอด และเคยคิดว่าเธอกับพี่รองเป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุด “แน่นอนครับ”“งั้นก็พิสูจน์ให้ฉันดูสิ นายเกลียดฉือหว่านที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เธอสลบอยู่ นายขึ้นเรือไป พาเธอออกไปกลางทะเล แล้วโยนเธอลงน้ำ ให้เธอหายไปจากโลกนี้ตลอดไป”กู้เป่ยเฉินอึ้ง ก่อนหน้านี้ที่ซ้อเจียวเจียวพูดว่าจะทำให้ฉือหว่านหายไป เขานึกว่าเธอพูดเล่น แต่ไม่คิดว่าฉือเจียวอยากให้ฉือหว่านหายไปจริงๆกู้เป่ยเฉินยืนนิ่ง “ซ้อเจียวเจียว…”“เป่ยเฉิน ตอนนี้แม้แต่นายก็ไม่ช่วยฉันแล้วใช่ไหม? ทั้งนายทั้งพี่รอ
เขาจะจับได้ไหมว่าเธอกำลังปลอมตัวเป็นฉือหว่านอยู่?ฮั่วซือหานมองไปรอบๆ เขารออยู่นานมากแล้ว แต่ฉือหว่านก็ยังไม่กลับมาในที่สุด ฮั่วซือหานก็ก้าวเท้าเดินออกไปฉือเจียวตรงเข้าไปหากู้เป่ยเฉิน “เป่ยเฉิน ตอนนี้พี่รองของนายหลงฉือหว่านไปแล้ว นายต้องช่วยฉันนะ”กู้เป่ยเฉินไม่พูดอะไรหัวใจของฉือเจียวเริ่มร้อนรนอย่างรุนแรง เธอรู้ว่ากู้เป่ยเฉินเคยตั้งใจจะจีบสาวอัจฉริยะคนนี้มาตลอด และตอนนี้เขาก็เพิ่งรู้ว่าฉือหว่านคือเด็กสาวอัจฉริยะคนนั้น แล้วหัวใจของกู้เป่ยเฉินจะเริ่มเอนเอียงไปทางฉือหว่านหรือเปล่า?ไม่ได้เด็ดขาดเธอจะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้ฉือเจียวรีบคว้าแขนเสื้อของกู้เป่ยเฉินไว้ แล้วเริ่มใส่ร้ายฉือหว่าน “เป่ยเฉิน นายอย่าไปหลงกลฉือหว่านเชียวนะ คนอย่างเธอรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นเด็กอัจฉริยะ แต่กลับไม่พูดออกมา แกล้งทำเป็นปิดบังไว้ แค่จะคอยเล่นกับใจนายกับซือหาน จากนั้นก็ไปแย่งซีนกลางงานสัมมนา หล่อนมันเจ้าเล่ห์มาก รู้ดีว่าจะมัดใจผู้ชายยังไง”กู้เป่ยเฉินเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะมองเธอกลับ “ซ้อเจียวเจียว ซ้ออยากให้ผมช่วยยังไง?”ในดวงตาของฉือเจียวฉายแววเย็นชาเจียนกัดกระดูก “เป่ยเฉิน ฉัน