หิมะที่เวยไห่หยุดตกแล้ว แต่ท่าเรือกลับชื้นแฉะและหนาวเย็นเป็นพิเศษฉือเจียวกับกู้เป่ยเฉินยืนอยู่บนท่าเรือ ข้างๆ มีเรือยอชต์ลำหนึ่งจอดอยู่ คนชุดดำคนหนึ่งโยนร่างของฉือหว่านที่ยังหมดสติขึ้นไปบนเรือกู้เป่ยเฉินมองฉือหว่าน แล้วหันไปถามฉือเจียว “ซ้อเจียวเจียว ทำไมซ้อให้คนจับฉือหว่านมาที่นี่? ซ้อทำอะไรฉือหว่าน?”ฉือเจียวขมวดคิ้ว “นี่นายสงสัยฉันเหรอเป่ยเฉิน? ฉันว่าตอนนี้นายเปลี่ยนไปนะ ดูเหมือนจะเริ่มลัง นายมีใจให้ฉือหว่านใช่ไหม?”“เปล่าครับซ้อเจียวเจียว”“เป่ยเฉิน นายยังเห็นฉันเป็นซ้ออยู่ไหม?”กู้เป่ยเฉินพยักหน้า เขาชอบฉือเจียวมาตลอด และเคยคิดว่าเธอกับพี่รองเป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุด “แน่นอนครับ”“งั้นก็พิสูจน์ให้ฉันดูสิ นายเกลียดฉือหว่านที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เธอสลบอยู่ นายขึ้นเรือไป พาเธอออกไปกลางทะเล แล้วโยนเธอลงน้ำ ให้เธอหายไปจากโลกนี้ตลอดไป”กู้เป่ยเฉินอึ้ง ก่อนหน้านี้ที่ซ้อเจียวเจียวพูดว่าจะทำให้ฉือหว่านหายไป เขานึกว่าเธอพูดเล่น แต่ไม่คิดว่าฉือเจียวอยากให้ฉือหว่านหายไปจริงๆกู้เป่ยเฉินยืนนิ่ง “ซ้อเจียวเจียว…”“เป่ยเฉิน ตอนนี้แม้แต่นายก็ไม่ช่วยฉันแล้วใช่ไหม? ทั้งนายทั้งพี่รอ
ความจริงแล้ว ฉือเจียวได้วางแผนไว้ล่วงหน้า เธอให้คนลอบติดตั้งระเบิดไว้บนเรือยอชต์ลำนั้นและนี่ก็คือระบบจับเวลาของระเบิดอีกเพียงสามนาที เรือก็จะระเบิดฉือเจียวมองออกไปยังผืนน้ำกว้างไกลในทะเล “กู้เป่ยเฉิน อย่าโทษฉันเลย ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตัวนายเอง หัวใจของนายเริ่มเอียงไปหาฉือหว่านแล้ว งั้นก็หายไปพร้อมกันเถอะ!”…บนเรือยอชต์ กู้เป่ยเฉินกำลังจะบังคับเรือกลับฝั่งแต่ในตอนนั้นเอง คลื่นยักษ์ลูกหนึ่งกระแทกเข้ามา น้ำเย็นเฉียบสาดกระเซ็นไปโดนใบหน้าของฉือหว่านขนตาเรียวยาวของเธอสั่นไหวเล็กน้อย ฉือหว่านลืมตาขึ้น เธอฟื้นแล้วเธอค่อยๆ ยันตัวขึ้น มองไปที่กู้เป่ยเฉิน “กู้เป่ยเฉิน ที่นี่ที่ไหน?”ซี๊ดเธอรู้สึกเจ็บบริเวณท้ายทอยแปลบๆกู้เป่ยเฉินรีบหันมาทางเธอ “ฉือหว่าน เธอฟื้นแล้วเหรอ?”ฉือหว่านเริ่มจับต้นชนปลายได้ เธอมองไปรอบๆ เห็นเพียงทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา ดวงตากลมโตใสสว่างของเธอพลันเย็นเยียบลง “กู้เป่ยเฉิน คุณพาฉันมาอยู่กลางทะเลทำไม?”“ฉือหว่าน เธอคิดอะไรอยู่เนี่ย คิดว่าฉันจะทำร้ายเธอเหรอ? ฟังนะ ซ้อเจียวเจียวให้ฉันพาเธอมา ฉันไม่ชอบเธอก็จริง แต่ฉันไม่มีวันทำร้ายเธอหรอก เดี๋ยวฉันจะพาเธอกลับเด
ฉือหว่านรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว เหมือนกระดูกแทบจะแหลกสลาย และมันหนาวเย็นจนแทบทนไม่ไหวน้ำทะเลเย็นจัดซัดเข้าหน้าเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความหนาวทะลุเข้าไปถึงกระดูก ทำให้เธอสะดุ้งสุดตัวจนได้สติกลับคืนมา เธอลืมตาขึ้นอย่างช้าๆเธอยังไม่ตายบนเรือยอชต์มีระเบิดติดอยู่ พอใกล้ระเบิด เธอกับกู้เป่ยเฉินก็กระโดดลงทะเล น้ำเย็นยะเยือกโถมเข้าหาเธอจากทุกทิศทาง เธอต้องว่ายน้ำอย่างสุดแรงเพื่อเอาชีวิตรอดร่างกายเล็กๆ ของเธอแสดงให้เห็นถึงพลังในการเอาชีวิตรอดอย่างน่าทึ่งสุดท้าย เธอก็ถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งจนได้ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว บรรยากาศรอบข้างเงียบงันและเปลี่ยวเหงา ฉือหว่านพยายามยันตัวลุกขึ้น “กู้เป่ยเฉิน? กู้เป่ยเฉิน!”เธอเป็นคนถีบเขาลงทะเล แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหน?ฉือหว่านเดินหาทั่วบริเวณ “กู้เป่ยเฉิน ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ ตอบฉันหน่อย!”ไม่นานนัก เธอก็หยุดกะทันหันที่ชายหาดด้านหน้า เธอเห็นร่างของกู้เป่ยเฉินนอนอยู่เขาก็ถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งเช่นกันฉือหว่านรีบวิ่งเข้าไปหา “กู้เป่ยเฉิน? กู้เป่ยเฉิน ฟื้นสิ!”เขายังหมดสติอยู่ ขาขวาได้รับบาดเจ็บ เลือดไหลออกมาไม่หยุดเลือดแดงฉานเปื้อนเต็มพื้นทรายรอบตัวเขา
ฉือหว่านตั้งใจพูดแบบนั้น เพราะตอนนี้เธอกับกู้เป่ยเฉินที่บาดเจ็บสาหัสต้องมาติดอยู่ในที่แบบนี้ และสายตาของหลิวว่างก็จ้องเธออย่างไม่เหมาะสมตั้งแต่ต้น เธอจึงจำเป็นต้องระวังตัวให้มากที่สุดแต่กู้เป่ยเฉินกลับไม่ยอมรับสถานะที่เธออ้างแม้แต่น้อย ในสายตาของเขา ฉือหว่านหย่ากับพี่รองของเขาไปแล้ว ยังจะกล้าพูดแบบนี้อีก หน้าไม่อายเอาซะเลยกู้เป่ยเฉินกำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉือหว่านส่งสายตาดุใส่เขาทันที “หุบปากไปเลย!”พูดจบ เธอก็ยื่นมือไปกดที่แผลของเขาอย่างแรง “ยังไม่ตายอีกเหรอ!”“โอ๊ย! เจ็บ!” กู้เป่ยเฉินเจ็บจนเหงื่อเย็นไหลทั่วใบหน้า “ฉือหว่าน! เชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าเธอ!”ทันใดนั้น หมอประจำหมู่บ้านพูดขึ้นว่า “ขาของคนไข้บาดเจ็บสาหัสมาก ผมห้ามเลือดให้ได้แค่ชั่วคราว พรุ่งนี้ต้องส่งเข้าเมืองไปรักษาแล้วครับ”ฉือหว่านส่ายหน้า “ไม่ทันแล้ว ต้องจัดการคืนนี้”หมอถามกลับ “จะให้จัดการยังไง?”ฉือหว่านตอบเพียงสองคำ “ตัดกระดูก”อะไรนะ?ตัดกระดูก!?กู้เป่ยเฉินมองเธอด้วยสายตาตกตะลึง “ฉือหว่าน! เธอจะตัดกระดูกฉัน? เธอจะทำลายขาฉันเหรอ!?”ฉือหว่านมองเขาอย่างเย็นชา “ใช่!”พูดจบ เธอก็หันไปพูดกับหมอ “หมอ ช่
ฉือหว่านใช้ผ้าเช็ดมือให้สะอาด แล้วหันไปมองกู้เป่ยเฉิน “คุณชายกู้ อยากพูดอะไรก็พูดมา แต่อย่าคิดจะพูดคำว่าขอโทษกับฉันเด็ดขาด”กู้เป่ยเฉินตั้งใจจะขอโทษอยู่แล้ว แต่คำพูดนั้นกลับติดอยู่ที่คอเสียงของฉือหว่านเย็นเฉียบ “คุณทำร้ายคนอื่น คำขอโทษแค่คำเดียวมันลบล้างอะไรไม่ได้ เพราะงั้นไม่ต้องพูด ฉันไม่มีวันให้อภัยคุณ”กู้เป่ยเฉิน “…”เขาคือจอมเกเรแห่งไห่เฉิง นอกจากพี่รองก็ไม่เคยมีใครกล้าหักหน้าเขาแบบนี้มาก่อน แต่ฉือหว่านกลับกล้าทำ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาซะเลย ใบหน้าของกู้เป่ยเฉินมืดครึ้ม“คุณชายกู้ หลับตาพักเถอะ ขาคุณน่าจะรอดแล้ว” ฉือหว่านกล่าวใบหน้าของกู้เป่ยเฉินซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายอ่อนแอเกินกว่าจะทำอะไรได้ตามอำเภอใจ เขาทำได้แค่เชื่อฟังฉือหว่านแล้วหลับตาลงฉือหว่านยื่นมือห่มผ้าให้เขา เธอรู้ดีว่าเขาชอบฉือเจียว คิดว่าฉือเจียวคือซ้อเจียวเจียวของเขา เพราะฉะนั้นที่เขาพูดออกมาแบบนั้น เธอไม่แปลกใจเลย เธอชินแล้วถึงเธออยากจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกู้เป่ยเฉินอีก แต่เธอก็ทำไม่ได้ เธอข้ามเส้นของตัวเองไปไม่ได้ จรรยาบรรณของหมอ ทำให้เธอไม่อาจปล่อยมือจากคนเจ็บได้ขณะนั้นเอง หลิวว่างเดินเข้ามาในห
ฉือหว่านเดินหนีออกมาหลิวว่างมองตามเงาร่างอ่อนช้อยของเธอ ใบหน้าของเขาพลันมืดครึ้มลงอย่างชัดเจน…ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน กู้เป่ยเฉินยังคงนอนหลับหมดสติอยู่ ส่วนฉือหว่านนั้นไม่กล้าหลับตาแม้แต่นิดเดียว เพราะเธอต้องเฝ้าระวังหลิวว่างชัดเจนว่าการอ้างว่าตนแต่งงานแล้วไม่ได้ช่วยทำให้หลิวว่างเลิกล้มความคิดสกปรกนั้นเลยสักนิด เขายังคงจ้องมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ไม่เลิกราเธอไม่กล้านอน เพราะเธอรู้ว่าทั้งเธอและกู้เป่ยเฉินอาจตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อฉือหว่านนั่งอยู่คนเดียวที่หน้าประตู กลางดึกของหมู่บ้านบนภูเขาเงียบสงบจนเกือบวังเวง มันเงียบเสียจนเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่งหลังหิมะหยุดตก บรรยากาศในหมู่บ้านยิ่งเย็นยะเยือกไปทั่ว เหมือนเธอถูกทิ้งไว้ที่ปลายสุดของโลกใบนี้ร่างกายของฉือหว่านหนาวจนสั่น เธอรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย ตัวเริ่มร้อนราวกับจะเป็นไข้หลังจากแช่น้ำทะเลเย็นเฉียบอยู่นาน แม้แต่ร่างกายแข็งแรงอย่างเธอก็แทบจะทนไม่ไหวฉือหว่านได้แต่หยิกฝ่ามือตัวเอง เพื่อไม่ให้ตัวเองหลับไป เพราะเธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยในความมืดเงียบ เธอเผลอคิดถึงฮั่วซือหานขึ้นมา ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่?
ฉือหว่านเงยหน้าขึ้น เห็นว่าเป็นกู้เป่ยเฉินชายหนุ่มที่หลับอยู่ลืมตาตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงวุ่นวาย เขากระโดดลงจากเตียงแล้วกระชากตัวหลิวว่างออกจากร่างของฉือหว่านหลิวว่างซึ่งกำลังคลุ้มคลั่งด้วยไฟราคะ ไม่ทันตั้งตัวเลยเซล้มไปกระแทกกับผนังใบหน้าของกู้เป่ยเฉินซีดขาว แต่อารมณ์กลับแข็งกร้าวและเย็นเฉียบ เขาหันมามองฉือหว่าน “เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”ฉือหว่านส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”เขาจึงเบนสายตาไปยังหลิวว่าง มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูด “ไอ้สารเลว!”หลิวว่างที่โดนขัดจังหวะกลางคัน หน้าก็ยิ่งบูดบึ้ง เขาตวาดลั่น “ฉันเป็นคนช่วยพวกแกไว้เองนะ ถ้าไม่มีฉัน ขาแกก็พิการไปแล้ว! แกยังกล้าว่าฉันอีก?”“ตอบแทนฉันหน่อยจะเป็นไรไป? ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ซะหน่อย แต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ? จะนอนกับผู้ชายสักคนหรือสิบคนมันก็เหมือนกัน!”คำพูดของเขาทั้งหยาบคายและไร้ยางอายสิ้นดีกู้เป่ยเฉินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เส้นเลือดปูดทั่วแขน เขาเงื้อหมัดใส่หลิวว่างทันทีหลิวว่างก็ไม่ยอมแพ้ เขาจ้องกู้เป่ยเฉินเขม็ง พอกู้เป่ยเฉินพุ่งเข้ามา ทั้งสองก็เข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือดฉือหว่านรีบลุกขึ้นยืน มองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นรัว
“ฉันเห็นว่าด้านนอกมีสมุนไพรอยู่ เดี๋ยวจะออกไปเก็บ นายพักผ่อนก่อนเถอะ”ฉือหว่านพูดพลางเก็บกล่องปฐมพยาบาล จากนั้นก็เดินออกไปตอนมาถึง เธอสังเกตภูมิประเทศโดยรอบไว้แล้ว ที่นี่มีสมุนไพร เธออาจใช้มันทำยาช่วยให้หลิวว่างความจำเสื่อมได้ฉือหว่านย่อตัวลงเริ่มเก็บสมุนไพร แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ข้างหลัง พอหันไปดู ก็เห็นว่าคือกู้เป่ยเฉินกู้เป่ยเฉินตามมาฉือหว่านเอ่ยอย่างแปลกใจ “นายตามมาทำไม? นายเสียเลือดไปเยอะ ควรจะรีบพักผ่อนนะ”กู้เป่ยเฉินยืนอยู่ มองเธอจากมุมสูง ใบหน้าเล็กเรียวสวยแม้จะสวมเสื้อผ้าหยาบของชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่อาจบดบังความงามอันสง่างามราวเทพธิดาได้ “ฉันว่าฉันตามมาเถอะ กลัวว่าจะมีหลิวว่างคนที่สองโผล่มาอีก”ฉือหว่านยิ้มมุมปากอย่างจริงจัง “ฉันกับพี่นายหย่ากันแล้ว ต่อให้ฉันมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นก็ไม่เรียกว่านอกใจ ไม่ต้องตามฉันก็ได้”กู้เป่ยเฉินเม้มริมฝีปาก “ไม่ใช่เพราะพี่ฉัน”ฉือหว่านมองเขา กู้เป่ยเฉินหน้าตาหล่อเหลาจริงๆ ในฐานะทายาทคนเดียวของตระกูลกู้ในไห่เฉิง ชีวิตของเขาก็เหมือนเจ้าชายในวังทองคำแม้ตอนนี้จะดูซอมซ่อ มีบาดแผลทั้งที่ขาและแขน ใบหน้าซีดเซียว แต่ความหล่อ
ฮั่วซือหานรู้สึกได้ถึงมือเล็กๆ ของฉือหว่านที่เลื่อนไปบนตัวเขา เธอร้อนรุ่มและใจร้อนเกินไป ขณะที่ดึงกระดุมเสื้อเขาจนกระเด็นหลุดไปเม็ดหนึ่งลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง เขารีบจับมือเธอไว้เบาๆ “ฉือหว่าน ช้าหน่อย ที่นี่ไม่มีเสื้อผ้าสำรองนะ”ถ้าเสื้อผ้าของเขาขาดขึ้นมา เขาจะไม่มีเปลี่ยนนะแต่ฉือหว่านกลับไม่ฟัง เธอเพียงต้องการความอบอุ่นมากกว่านี้ มือเล็กๆ ถูกดึงออกไปได้ก็รีบซุกหน้าลงตรงซอกคอเขา “ไม่เอา…หนาว…”เสียงของเธอออดอ้อนอ่อนแรง ปนน้ำเสียงเจ็บไข้คล้ายเด็กน้อยกำลังอ้อนขอแน่นอนว่า ฮั่วซือหานรู้ดีว่าต่อให้เธอไม่ป่วย เธอก็ออดอ้อนเก่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาอยู่กันสองต่อสองบนเตียงเธอเหมือนปีศาจน้อยตัวหนึ่งแค่หลังหย่ากัน ก็ไม่ได้ลิ้มลองอีกเลยฮั่วซือหานพยายามกลั้นใจ แต่สุดท้ายเขาก็อดไม่ไหว มือของเขาลูบไปที่กระดุมเสื้อของเธอ ราวกับตั้งใจจะช่วยเธอระบายความร้อนในกายทุกอย่างเริ่มวุ่นวายขึ้นมาเล็กน้อย เขาพลิกตัวทาบลงเหนือเธอ ทั้งสองสลับกันถอดผ้าเสื้อเชิ้ตของเขาถูกดึงออกไปครึ่งตัว กล้ามไหล่และแผ่นหลังแน่นตึงเผยออกชัด ฝ่ามือเย็นเฉียบของฉือหว่านสัมผัสกับร่างกายของเขาร่างของฮั่วซื
ฮั่วซือหานหันไปมองกู้เป่ยเฉิน “นายพักผ่อนให้ดี เรื่องอื่นไว้ค่อยคุยพรุ่งนี้”คืนนี้ฉือหว่านกับกู้เป่ยเฉินต้องการพักฟื้นก่อน เรื่องการกลับออกจากหมู่บ้านค่อยคิดพรุ่งนี้อีกทีกู้เป่ยเฉินได้พี่รองอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกอุ่นใจทันที เขาพยักหน้า “ได้ครับ”ฮั่วซือหานอุ้มฉือหว่านออกมาจากกระท่อม หลิวชุนฮวาที่ยืนรออยู่ข้างนอกก็รีบเข้ามา “พี่ซือหาน น้องสาวพี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”“เธอเป็นไข้สูงครับ น้องชุนฮวา รบกวนช่วยจัดหาห้องพักให้เราได้ไหม?”พอได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบของฮั่วซือหานเข้าเต็มตา สาวบ้าหน้าตาอย่างหลิวชุนฮวาจะปฏิเสธได้อย่างไร? เธอรีบใช้อำนาจลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน จัดหาห้องพักสะอาดเรียบร้อยให้เขาทันทีฮั่วซือหานอุ้มฉือหว่านไปวางลงบนเตียง ร่างกายเธอเย็นเฉียบ หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เส้นผมปอยหน้าม้าเปียกชื้นแนบอยู่กับหน้าผากขาวเนียนจนดูน่าสงสารจับใจเขาเอื้อมมือไปเกลี่ยผมออกจากหน้าผากของเธอเบาๆ“พี่ซือหาน” ขณะนั้นเอง เสียงหลิวชุนฮวาก็ดังขึ้นฮั่วซือหานถึงเพิ่งนึกได้ว่ายังมีเธออยู่ในห้อง เขาหันไปถามตรงๆ “น้องชุนฮวา มีพี่ชายด้วยใช่ไหม?”หลิวชุนฮวาพยักหน้า “ใช่ค่ะ พี่ชายฉันชื่อหลิว
หลิวชุนฮวาหันไปมองเลขาจ้าวกับคนที่ตามมาด้วย “หมู่บ้านเราห้ามคนนอกเข้า พวกเขาเข้าไปไม่ได้ แต่ฉันจะแอบพาคุณเข้าไปได้คนเดียว”เลขาจ้าวรีบเอ่ย “ท่านประธาน เข้าไปคนเดียวมันอันตรายนะครับ”ฮั่วซือหานถามกลับเรียบๆ “อันตรายอะไร?”เลขาจ้าวพูดเบาๆ “ชุนฮวาคนนี้เหมือนจะหลงคุณนะครับ ระวังเธอล็อกตัวคุณไว้เป็นเจ้าบ่าวประจำหมู่บ้านล่ะ”ฮั่วซือหานเหลือบตาเย็นๆ ไปมองเลขาจ้าวแวบหนึ่งเลขาจ้าวรีบหุบปากเงียบแทบทันทีฮั่วซือหานสั่งการ “พวกนายพักอยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวฉันจะติดต่อไปเอง”เลขาจ้าวพยักหน้า “รับทราบครับ”ฮั่วซือหานหันไปทางหลิวชุนฮวา “น้องชุนฮวา รบกวนด้วยนะครับ พาผมเข้าไปที”“ไปกันเถอะ”หลิวชุนฮวาพาฮั่วซือหานเข้าไปในหมู่บ้าน ระหว่างเดินอยู่ข้างเขา หัวใจเธอเต้นแรงเหมือนกวางน้อยวิ่งในป่า “คุณชื่ออะไรเหรอ?”“ฉันชื่อฮั่วซือหาน”“งั้นฉันเรียกคุณว่าพี่ซือหานได้ไหมคะ?”“…ถ้าคุณชอบแบบนั้นก็เรียกได้”“คุณทำงานอะไรเหรอ?”“เปิดบริษัทน่ะ”“แล้วทำไมยังไม่แต่งงานล่ะ คุณชอบผู้หญิงแบบไหน?”เมื่อหลิวชุนฮวามองเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความหวัง ฮั่วซือหานก็ยกยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก “ฉันชอบผู้หญิงที่จิตใจดี เชื
ฮั่วซือหานพาเลขาจ้าวและทีมงานเข้ามาในหมู่บ้านผิงซี เขาเห็นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจึงรีบเดินเข้าไปถาม “สวัสดีครับ ขอถามหน่อย วันนี้มีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้านสองคนหรือเปล่า?”ชาวบ้านมองเขาด้วยสายตาระแวดระวัง “พวกคุณเป็นใคร? มาทำอะไรที่นี่?”ฮั่วซือหานตอบอย่างสุภาพ “พวกเรามาตามหาคนครับ”ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ชาวบ้านก็ส่ายหน้าแทบจะพร้อมกัน “ไม่มีใครเข้ามาที่นี่ทั้งนั้น หมู่บ้านเรารับแต่คนใน อย่ามาวุ่นวาย รีบออกไปซะเถอะ”แล้วชาวบ้านก็เริ่มออกปากไล่ฮั่วซือหานเลขาจ้าวกำลังจะอธิบาย “พวก…”แต่ฮั่วซือหานยกมือห้ามไว้ “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”เขาหันหลังกลับอย่างไม่ลังเลเลขาจ้าวเดินตามอย่างมึนงง “ท่านประธาน ทำไมเราต้องถอยล่ะครับ? ผมรู้สึกว่าคุณฉือหว่านกับคุณชายกู้ต้องอยู่ในนั้นแน่ๆ!”แววตาเฉียบคมของฮั่วซือหานเหมือนเหยี่ยวล่าเหยื่อ “ไม่ใช่แค่รู้สึก ฉันมั่นใจว่าพวกเขาอยู่ในนั้นแน่นอน”“แล้วเราจะออกมาทำไมล่ะครับ?”“เมื่อกี้นายไม่เห็นเหรอ? ชาวบ้านที่นี่ต่อต้านคนนอกอย่างชัดเจน ฉันเห็นมีคนกลับเข้าไปเรียกคนแล้วด้วย ตอนนี้เราคนน้อย อยู่ในพื้นที่ของเขา ถ้าปะทะขึ้นมาจะไม่คุ้
ฉือหว่านสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของเขากู้เป่ยเฉินยกแขนขึ้นกอดเธอแน่นขึ้นอีก “ฉือหว่าน อดทนไว้นะ เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นแล้ว”…ทางด้านของฮั่วซือหาน หลังจากที่ฉือหว่านหายตัวไป เขาก็สั่งระดมคนออกตามหาโดยทันทีในเวลาไม่นาน เลขาจ้าวก็นำภาพจากกล้องวงจรมาส่งให้เขา “ท่านประธาน พบแล้วครับ คุณฉือหว่านกับคุณชายกู้ขึ้นเรือยอชต์ลำเดียวกันไป”ฮั่วซือหานมองภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นกู้เป่ยเฉินขึ้นเรือยอชต์ ส่วนฉือหว่านขึ้นไปก่อนแล้วใบหน้าหล่อเหลาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งจนแทบหยดน้ำออกมาได้ “กู้เป่ยเฉินมาที่เวยไห่ได้ยังไง?”ไม่มีใครรู้ว่ากู้เป่ยเฉินมาที่เวยไห่ตั้งแต่เมื่อไหร่เลขาจ้าวพูดต่อ “ท่านประธาน ผมเดาว่าคุณชายกู้น่าจะตามคุณฉือหว่านมา”“แล้วเจอเรือยอชต์ลำนั้นหรือยัง?”“ส่งคนไปตามหาที่ทะเลแล้วครับ แต่เรือยอชต์ลำนั้นระเบิดกลางทะเลแล้วครับ”ฮั่วซือหานลุกพรวดจากเก้าอี้ “อะไรนะ? ระเบิด?”เลขาจ้าวพยักหน้า “ใช่ครับ มีคนวางระเบิดบนเรือยอชต์”ขณะนั้นเอง ฉือเจียวก็เดินเข้ามา “ซือหาน ระเบิดนั่นต้องเป็นฝีมือของเป่ยเฉินแน่ เขาคงอยากฆ่าฉือหว่าน ฉันรู้ว่าเขาเกลียดฉือหว่านมาก แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะโหดเหี้ยมขนาด
กู้เป่ยเฉินเคยคบผู้หญิงมาหลายคน กอดเอวก็แล้ว ทำอะไรลึกซึ้งกว่านั้นก็เคยแต่จู่ๆ พอได้โอบเอวของฉือหว่าน หัวใจเขากลับเต้นแรงอย่างไม่เป็นธรรมชาติแต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้ รีบเขย่าร่างเธอเบาๆ พร้อมเรียก “ฉือหว่าน เธอเป็นอะไรไป?”ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่า หน้าผากของเธอร้อนจัด อุณหภูมิร่างกายก็ผิดปกติ เธอกำลังเป็นไข้สูงมันช่างเหมือนคำว่า เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ไม่ผิดเพี้ยนฉือหว่านลืมตาขึ้นช้าๆ เธอพยายามลุกขึ้น “ฉันไม่เป็นไร”“ยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก? เธอเป็นไข้สูงเลยนะ เดินยังไม่ไหวแน่ เดี๋ยวฉันอุ้มเธอกลับไป”ฉือหว่านมองไปที่ขาขวาของเขาที่บาดเจ็บ “นายจะอุ้มฉันไหวเหรอ?”กู้เป่ยเฉิน “…”กู้เป่ยเฉินรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าเขาเนี่ยนะ จะอุ้มผู้หญิงตัวแค่นี้ไม่ไหว? ดูยังไงเธอก็ไม่ถึง 45 กิโล!เห็นเขาทำหน้าเหวอ ฉือหว่านก็หัวเราะน้อยๆ แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านเองกู้เป่ยเฉินเดินตามเธอกลับไปเงียบๆฉือหว่านเอาสมุนไพรมาบด จากนั้นก็ยัดใส่ปากหลิวว่างไป ก่อนจะกินสมุนไพรลดไข้เองเล็กน้อยกู้เป่ยเฉินมองเธอ เธอยังคงทำโน่นทำนี่ไม่หยุด ทั้งที่ร่างกายอ่อนแอแทบยืนไม่ไหว เธอก็ยังฝืนลากสังขาร
“ฉันเห็นว่าด้านนอกมีสมุนไพรอยู่ เดี๋ยวจะออกไปเก็บ นายพักผ่อนก่อนเถอะ”ฉือหว่านพูดพลางเก็บกล่องปฐมพยาบาล จากนั้นก็เดินออกไปตอนมาถึง เธอสังเกตภูมิประเทศโดยรอบไว้แล้ว ที่นี่มีสมุนไพร เธออาจใช้มันทำยาช่วยให้หลิวว่างความจำเสื่อมได้ฉือหว่านย่อตัวลงเริ่มเก็บสมุนไพร แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ข้างหลัง พอหันไปดู ก็เห็นว่าคือกู้เป่ยเฉินกู้เป่ยเฉินตามมาฉือหว่านเอ่ยอย่างแปลกใจ “นายตามมาทำไม? นายเสียเลือดไปเยอะ ควรจะรีบพักผ่อนนะ”กู้เป่ยเฉินยืนอยู่ มองเธอจากมุมสูง ใบหน้าเล็กเรียวสวยแม้จะสวมเสื้อผ้าหยาบของชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่อาจบดบังความงามอันสง่างามราวเทพธิดาได้ “ฉันว่าฉันตามมาเถอะ กลัวว่าจะมีหลิวว่างคนที่สองโผล่มาอีก”ฉือหว่านยิ้มมุมปากอย่างจริงจัง “ฉันกับพี่นายหย่ากันแล้ว ต่อให้ฉันมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นก็ไม่เรียกว่านอกใจ ไม่ต้องตามฉันก็ได้”กู้เป่ยเฉินเม้มริมฝีปาก “ไม่ใช่เพราะพี่ฉัน”ฉือหว่านมองเขา กู้เป่ยเฉินหน้าตาหล่อเหลาจริงๆ ในฐานะทายาทคนเดียวของตระกูลกู้ในไห่เฉิง ชีวิตของเขาก็เหมือนเจ้าชายในวังทองคำแม้ตอนนี้จะดูซอมซ่อ มีบาดแผลทั้งที่ขาและแขน ใบหน้าซีดเซียว แต่ความหล่อ
ฉือหว่านเงยหน้าขึ้น เห็นว่าเป็นกู้เป่ยเฉินชายหนุ่มที่หลับอยู่ลืมตาตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงวุ่นวาย เขากระโดดลงจากเตียงแล้วกระชากตัวหลิวว่างออกจากร่างของฉือหว่านหลิวว่างซึ่งกำลังคลุ้มคลั่งด้วยไฟราคะ ไม่ทันตั้งตัวเลยเซล้มไปกระแทกกับผนังใบหน้าของกู้เป่ยเฉินซีดขาว แต่อารมณ์กลับแข็งกร้าวและเย็นเฉียบ เขาหันมามองฉือหว่าน “เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”ฉือหว่านส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”เขาจึงเบนสายตาไปยังหลิวว่าง มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูด “ไอ้สารเลว!”หลิวว่างที่โดนขัดจังหวะกลางคัน หน้าก็ยิ่งบูดบึ้ง เขาตวาดลั่น “ฉันเป็นคนช่วยพวกแกไว้เองนะ ถ้าไม่มีฉัน ขาแกก็พิการไปแล้ว! แกยังกล้าว่าฉันอีก?”“ตอบแทนฉันหน่อยจะเป็นไรไป? ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ซะหน่อย แต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ? จะนอนกับผู้ชายสักคนหรือสิบคนมันก็เหมือนกัน!”คำพูดของเขาทั้งหยาบคายและไร้ยางอายสิ้นดีกู้เป่ยเฉินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เส้นเลือดปูดทั่วแขน เขาเงื้อหมัดใส่หลิวว่างทันทีหลิวว่างก็ไม่ยอมแพ้ เขาจ้องกู้เป่ยเฉินเขม็ง พอกู้เป่ยเฉินพุ่งเข้ามา ทั้งสองก็เข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือดฉือหว่านรีบลุกขึ้นยืน มองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นรัว
ฉือหว่านเดินหนีออกมาหลิวว่างมองตามเงาร่างอ่อนช้อยของเธอ ใบหน้าของเขาพลันมืดครึ้มลงอย่างชัดเจน…ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน กู้เป่ยเฉินยังคงนอนหลับหมดสติอยู่ ส่วนฉือหว่านนั้นไม่กล้าหลับตาแม้แต่นิดเดียว เพราะเธอต้องเฝ้าระวังหลิวว่างชัดเจนว่าการอ้างว่าตนแต่งงานแล้วไม่ได้ช่วยทำให้หลิวว่างเลิกล้มความคิดสกปรกนั้นเลยสักนิด เขายังคงจ้องมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ไม่เลิกราเธอไม่กล้านอน เพราะเธอรู้ว่าทั้งเธอและกู้เป่ยเฉินอาจตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อฉือหว่านนั่งอยู่คนเดียวที่หน้าประตู กลางดึกของหมู่บ้านบนภูเขาเงียบสงบจนเกือบวังเวง มันเงียบเสียจนเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่งหลังหิมะหยุดตก บรรยากาศในหมู่บ้านยิ่งเย็นยะเยือกไปทั่ว เหมือนเธอถูกทิ้งไว้ที่ปลายสุดของโลกใบนี้ร่างกายของฉือหว่านหนาวจนสั่น เธอรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย ตัวเริ่มร้อนราวกับจะเป็นไข้หลังจากแช่น้ำทะเลเย็นเฉียบอยู่นาน แม้แต่ร่างกายแข็งแรงอย่างเธอก็แทบจะทนไม่ไหวฉือหว่านได้แต่หยิกฝ่ามือตัวเอง เพื่อไม่ให้ตัวเองหลับไป เพราะเธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยในความมืดเงียบ เธอเผลอคิดถึงฮั่วซือหานขึ้นมา ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่?