แก๊ก แอด
ประตูไม้สักบานใหญ่ถูกแกะสลักลวดลายให้เป็นรูปมังกรค่อย ๆ ถูกเปิดออก สายตาของผู้คนที่อยู่ภายในมองไปยังร่างเล็กของผู้มาใหม่ ทุกคนต่างแสดงสีหน้าเรียบนิ่งซึ่งใบหน้าพวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่พิงค์ไวท์เห็นมาตั้งแต่จำความได้ ไม่มีรอยยิ้มแสดงความดีใจ ไม่มีแม้แต่อ้อมกอดอันแสนอบอุ่น "สวัสดีค่ะ" "มาแล้วเหรอ" "ค่ะ ป๊า"เฟยหลงเงยหน้ามองลูกสาวคนเล็กด้วยแววตาเรียบนิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ได้ว่าเขากำลังคิดอะไร "มาให้อากงกอดลื้อหน่อยสิหมวยเล็ก"เด็กสาวพยักหน้า เดินเข้าไปหาอากงเพื่อสวมกอดท่าน "เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม" "หนูสบายดีค่ะ แล้วอากงล่ะคะ" "ก็สบายดีตามประสาคนแก่นั่นแหละ"สองปู่หลานดันร่างออกจากกัน ก่อนจะพานั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ "ไม่ได้เจอกันนาน ทำไมหลายสาวของอากงถึงได้ผอมแห้งแบบนี้ล่ะ ดูสิ ไม่มีน้ำมีนวลเหมือนเมื่อก่อนเลย"ชายชราไล่สายตามองรูปร่างของหลานสาวคนสุดท้องพลางใช้ฝ่ามือสัมผัสไปตามท่อนแขนเรียวติดผอมแห้งของเธอ "เรียนหนักหรืออาหมวย" "ค่ะ"พิงค์ไวท์พยักหน้ารับ ก่อนเธอจะหันไปส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับพี่ชายคนโตและพี่สาวคนรองซึ่งกำลังมองมาเพื่อเป็นการทักทาย "จะเป็นไปได้ยังไง คณะบริหารที่ป๊าของลื้อเลือกให้ลื้อเรียนมันง่ายมากสำหรับลื้อไม่ใช่เหรอ" "มันจะไม่หนักได้ยังไงล่ะครับป๊า ในเมื่อหลานสาวของป๊าไม่ได้เรียนตามที่ผมสั่ง" ปึก เอกสารหลายสิบใบถูกฟาดลงบนโต๊ะตัวตรงกลางอย่างรุนแรงด้วยอารมณ์โทสะที่พุ่งสูงในใจของบิดา "ป๊าสั่งหมวยแล้วใช่ไหม ว่าให้ลงเรียนบริหารแล้วนี่มันคืออะไร"ริมฝีปากสวยของพิงค์ไวท์เม้มเข้าหากันแน่น เมื่อเธอเห็นรูปถ่ายและตารางการเรียนและการใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนอก โกหกใครไม่ได้แล้วสินะ "สถาปัตยกรรม หมวยกล้าขัดคำสั่งป๊า ทั้งที่ป๊าเคยสั่งแล้วใช่ไหมว่าให้เรียนบริหาร หรือไม่ก็หมอ" "แต่หมวยไม่ชอบ หมวยไม่ได้อยากเรียนบริหารป๊าเข้าใจไหม" "ป๊าไม่เข้าใจ"ร่างสูงใหญ่หยัดกายลุกขึ้น ดวงตาแดงก่ำมีความเสียใจและผิดหวังอยู่ในนั้นกำลังจ้องมองหน้าลูกสาวที่อวดดีกล้าปีแข็งใส่เขา "ป๊าไม่เข้าใจว่าทำไมหมวยถึงต้องคอยเอาแต่ขัดคำสั่งของป๊า หมวยดูพี่ ๆ ทั้งสองเป็นตัวอย่างสิ ทั้งเฮียทั้งเจ้ไม่มีใครคิดกล้าที่จะขัดคำสั่งของป๊าเลยสักคน มีแต่หมวยคนเดียวที่ไม่เคยคิดที่จะฟังคำสั่งของป๊าเลย" "แต่นี่มันชีวิตของหมวย" "แต่หมวยเป็นลูกสาวของป๊า"เฟยหลงตวาดเสียงดังท่ามกลางสายตาของคนในครอบครัวซึ่งกำลังมองสองพ่อลูกถกเถียงกันเสียงดังลั่นอย่างไม่มีใครยอมใคร พิงค์ไวท์หยัดกายลุกขึ้นจ้องหน้าผู้เป็นพ่อทันที สีหน้าของเธอแดงก่ำไม่ต่างอะไรจากแววตาในตอนนี้ที่มีแต่ความเสียใจ "ขอบคุณนะคะที่ป๊ายังคิดว่าหมวยคือลูก ขอบคุณนะคะที่ป๊ายังคิดว่าหมวยคือคนในครอบครัว ไม่ใช่นักโทษของป๊า ที่ป๊าคิดจะชี้นิ้วสั่งให้ทำอะไรตอนไหนก็ได้" ตึก ตึก ตึก ฝ่าเท้าเล็ก ๆ วิ่งออกไปจากห้องรับแขกท่ามกลางสายตาของคนทั้งสี่ที่ได้แต่มองตามแผ่นหลังเล็กของพิงค์ไวท์ซึ่งกำลังวิ่งออกไปด้วยความเสียใจ ใบหน้าของเฟยหลงซีดลงถนัดตาเมื่อเห็นลูกสาวร้องไห้พลางใช้ฝ่ามือเช็ดน้ำตาก่อนจะวิ่งออกไป "เรส ไปดูน้องหน่อย" "ค่ะ อากง"ร่างสูงโปร่งของหญิงสาวลุกขึ้นก่อนจะก้าวขาเดินออกไป ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นบิดาจะนั่งลงบนโซฟาด้วยความอ่อนแรง "แบล็ก ไปดูแม่บ้านให้อากงหน่อยว่าจัดงานไปถึงไหนแล้ว" "ได้ครับ"ชายรูปร่างสูงใหญ่ในวัยสามสิบโค้งคำนับก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้อากงกับบิดาได้มีเวลาส่วนตัว "เฟยหลงลื้อพูดกับลูกแรงไปนะ ทั้งที่อาหมวยพึ่งจะกลับมาถึงเหนื่อย ๆ ลื้อไม่ควรพูดแบบนี้กับลูก"ผู้เป็นบิดาเอ็ดลูกชายเพียงคนเดียว แม้ครอบครัวของเขาจะคุมเข้มเรื่องการใช้ชีวิต แต่หลานสาวคนสุดท้องยังเล็กและยังตั้งรับกับเรื่องพวกนี้ไม่ได้และมันก็ไม่ควรที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น "ผมขอโทษครับป๊า ผมก็แค่" "คนที่ลื้อสมควรขอโทษคืออาหมวย อั๊วรู้นะว่าลื้อโกรธที่อาหมวยไม่ได้เรียนคณะที่ลื้อคาดหวังเอาไว้ แต่นั่นมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ไม่ใช่เหรอ"เฟยหลงหันหน้าไปมองบิดาของตัวเอง แม้อายุจะเข้าใกล้เลขแปดแต่เสือร้ายก็ย่อมเป็นเสือร้ายไม่มีทางที่จะถอดเขี้ยวเล็บออกง่าย ๆ "ป๊าพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง" "ในเมื่อเราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่เราก็สามารถสร้างปัจจุบันขึ้นมาใหม่ได้นี่ จริงไหม"สองเสือร้ายมองหน้าสบตากันอย่างมิได้นัดหมาย ฮึก เสียงสะอื้นร้องไห้ดังขึ้นภายในห้องนอนของหญิงสาว ใบหน้าหวานมีน้ำตาหลั่งไหลแต่มันก็ไม่ได้กลบความสวยของหญิงสาวลงได้ "แม่ขา พิงค์คิดถึงแม่"เจ้าหญิงองค์น้อยคร่ำครวญหามารดา ถ้ามารดาของเธอยังมีชีวิตอยู่ตอนนี้เจ้าหญิงองค์น้อยที่กำลังพบกำความเสียใจคงจะได้รับอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่น "พิงค์ผิดมากเลยเหรอคะ ฮึก ทำไมป๊าไม่เข้าใจพิงค์เลย" "..." "พิงค์ทำผิดมากเลยเหรอคะที่พิงค์ไม่ทำตามคำสั่งของป๊า ไม่ได้เรียนคณะที่ป๊าต้องการ" แกร๊ก ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกดึงสายตาของใบหน้าสวยให้หันไปมอง ร่างสูงโปร่งดั่งนางแบบของพลอยทับทิมเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ในมือของเธอถือสิ่งที่เรียกว่ากุญแจสำรองเอาไว้ "เจ้ขา" "อย่าร้อง"โทนเสียงเรียบดังขึ้นแม้มันจะฟังดูเรียบนิ่ง แต่แววตาของพลอยทับทิมยามเมื่ออยู่กับน้องสาวมันช่างแตกต่างจากคนอื่น สองเท้าเดินเข้ามาใกล้ก่อน'พลอยทับทิม'จะนั่งลงบนเตียงนอนหลังใหญ่ข้างกายของน้องสาวซึ่งกำลังนั่งกอดกรอบรูปของมารดาไว้ ใบหน้าของหญิงสาวชาวไทยในอ้อมแขนของเธอโอบกอดลูกน้อยทั้งสามเอาไว้ด้วยความรักและจิตวิญญาณของความเป็นแม่ "แม่คงดีใจที่พิงค์เรียนจบ"น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นก่อนใบหน้าเรียบนิ่งจะหันไปมองน้องสาว "เหมือนกับเจ้ที่ดีใจที่เห็นพิงค์เรียนจบ" "ฮึก เจ้"น้องสาววางกรอบรูปถ่ายของมารดาก่อนจะโผเข้ากอดพี่สาว "เจ้กับเฮียยินดีด้วยนะที่พิงค์ประสบความสำเร็จ สามารถเรียนจบในสิ่งที่พิงค์ใฝ่ฝันเอาไว้ได้" "แต่ป๊า ฮึก ป๊าไม่ชอบ ป๊าโกรธพิงค์ ป๊าไม่รักพิงค์แล้ว" "รักสิ"ฝ่ามือของพี่สาวลูบลงบนศีรษะของน้องสาวอย่างแผ่วเบา แววตายากจะคาดเดาเหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่าง "ป๊ายังรักพิงค์ ทุกคนในที่นี้ต่างหวังดีกับพิงค์รู้ไหม"หญิงสาวในอ้อมกอดส่ายหน้าไปมาก่อนพิงค์ไวท์จะดันตัวออกจากอ้อมแขนของพี่สาว "พิงค์รู้ว่าทุกคนหวังดี แต่บางสิ่งที่ป๊ากับอากงหยิบยื่นมาให้พิงค์ไม่ต้องการ" "..." "พิงค์ไม่ชอบในสิ่งที่อากงกับป๊าทำ ทำไมพวกเราถึงต้องเดินอยู่ในกรอบที่ป๊ากับอากงวางเอาไว้ ทำไมคะเจ้" "เพราะเจ้กับเฮียเต็มใจที่จะเป็นแบบนี้" "จะ...เจ้" "ทุกสิ่งที่เจ้กับเฮียทำมันคือความเต็มใจ มันไม่ใช่การถูกบังคับ"น้องสาวคนสุดท้องส่ายหน้าไปมาเมื่อได้ฟังคำพูดของพี่สาวคนรอง "หยุดร้องไห้แล้วก็หยุดพูดถึงเรื่องนี้ได้แล้ว"ฝ่ามือของพี่สาวช่วยบรรจงเช็ดน้ำตาออกจากบนใบหน้าของน้องสาวอย่างแผ่วเบา ท่ามกลางสายตาของพลอยชมพูที่เอาแต่จ้องหน้าของพลอยทับทิมอยู่อย่างนั้น "อาบน้ำแล้วนอนพักผ่อนเถอะ ถึงเวลาทานอาหารเย็นเมื่อได้เดี๋ยวเจ้จะให้คนขึ้นมาตาม"อ้อมกอดเหน็บหนาวกัดกินขั้วหัวใจของเด็กสาว ไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่นขึ้นมาก็ตาม ความพยายามในการที่จะเล่าเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบดูเหมือนว่ามันจะสูญเปล่า เกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากคณะสถาปัตยกรรมดูเหมือนจะไม่เข้าตาของบิดา ตลอดระยะเวลาที่เธอได้ทุ่มเทให้กับการเรียนมันดูเหมือนว่าจะสูญเปล่าไม่ได้ดั่งที่ใจหวังเอาไว้เคร้ง"อะ...อากงพูดว่าอะไรนะคะ"เสียงสั่นดังขึ้น บรรยากาศในห้องรับประทานอาหารเงียบลงไม่มีแม้แต่สิ่งรบกวนชวนให้คนภายในบ้านหลังนี้ได้รู้สึกขัดใจ"อากงอยากให้หมวยเล็กเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ อากงมีคนรู้จักเป็นอธิการบดีของที่นั่น"หัวใจของหญิงสาวในวัยยี่สิบสองปีวูบโหง ดวงตาวูบไหวเมื่อได้ยินคำพูดนี้หลุดออกมาจากปากของอากงที่เธอรักและเคารพบังคับกันอีกแล้ว ประโยคนี้ผุดขึ้นภายในใจของพลอยชมพู"ทำไมคะ ทำไมหนูต้องเรียนต่อโททั้งที่หนูพึ่งจะเรียนตรีได้ไม่นาน""เพราะมันคือความต้องการของอากง"และมันคงเป็นความต้องการของป๊าเธอด้วย"ทั้งเฮียและเจ้ต่างจบโทด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากคณะบริหารด้วยกันทั้งคู่ ในเมื่ออาหมวยไม่ได้เรียนจบตรีในสิ่งที่ป๊าต้องการ เพราะฉะนั้นอาหมวยต้องเรียนต่อปริญญาโทตามที่อากง
"เจ็บมากไหมอาหมวย"ความเงียบคือคำตอบพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา นิลกาฬหลบมองต่ำเขากอบกุมฝ่ามือของน้องสาวเอาไว้ไม่ยอมปล่อย"อากงท่านคงไม่ได้ตั้งใจ หมวยอย่าโกรธอากงเลยนะ""หมวยไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วเฮีย"คำพูดจากปากของน้องสาวทำเอาชายหนุ่มชะงัก"เราสามคนหนีไปอยู่ที่อื่นกันดีไหม""หมวย อย่าพูดแบบนี้""อากงกับป๊าไม่รักหนูเลย"ความอดทนพังทลาย ใบหน้าบวมช้ำซุกลงบนแผงอกของพี่ชาย น้ำตาเม็ดใสหยดแล้วหยดเล่าไหลออกมาราวกับสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากจนเสื้อเชิ้ตสีขาวพี่ชายเปียกชุ่ม"หมวย""ฮึก"เสียงร้องไห้ดังขึ้นซึ่งเปรียบเหมือนหอกหนามทิ่มแทงใจของคนฟัง หมวยเล็กคือที่รักของทุกคนภายในบ้าน เธอเปรียบเสมือนแสงสว่าง ความสดใสให้กับทุกคน"หลับไปแล้วเหรอ""อืม ร้องไห้จนหลับไป"พี่ชายคนโตเอ่ยบอกน้องสาวคนรองทันทีเมื่อก้าวขาออกมาจากห้องนอนของน้องสาวคนเล็ก"มีแผลไหม""แดงเป็นรอยฝ่ามือ เฮียประคบให้แล้วพรุ่งนี้ก็คงจะดี""มีอะไรจะคุยด้วย"อาหมวยคนรองเดินนำพี่ชายไปยังห้องนอนของตัวเองบรรยากาศยามเช้าอันแสนสดใสของวันไหมแต่มันช่างแตกต่างกับความรู้สึกภายในใจของพิงค์ไวท์ ร่างสวยในชุดเดรสสีหวานก้าวขาลงบันได ใบหน้าของเธอไร้ซึ่งรอยยิ้มดว
ปักกิ่ง ประเทศจีนบรรยากาศอันแสนร่มรื่นมีกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่แผ่ปกคลุมแสงแดดให้กับผู้คนที่เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ สีหน้าของเด็กน้อยแก้มแดงดูดีมีรอยยิ้มสดใสเหมือนกับมารดาของเธอที่กำลังนั่งยิ้มให้อยู่ข้างกาย"แม่ขา เมื่อไหร่แม่จะพาพิงค์กลับไปเที่ยวเมืองไทยอีกคะ พิงค์อยากไปเที่ยวทะเลอยากไปเล่นน้ำตกที่นั่น อยากทานอาหารที่แม่ทำ"เสียงหวานของเด็กน้อยในวัยสิบขวบดังเจื้อยแจ้วจนมารดาต้องยิ้มออกมากับคำถามและความน่ารักของเด็กน้อยฝ่ามือเรียวบางค่อย ๆ ยื่นไปสัมผัสแก้มขาวอมชมพูอย่างแผ่วเบา'พราวนารา'บรรจงเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของลูกสาวด้วยความอ้อยอิ่ง แววตาอ่อนโยนของหญิงสาวชาวไทยแท้มองหน้าบุตรสาวคนสุดท้องด้วยความรัก"ช่วงนี้ป๊าทำงานหนัก เอาไว้ใกล้จะปีใหม่แม่จะลองพูดกับป๊าให้ ดีไหมจ๊ะ""แต่หนูอยากไปเดี๋ยวนี้ แม่ช่วยพูดกับป๊าให้พาพวกเราไปเที่ยวที่เมืองไทยไม่ได้เหรอคะ พิงค์เชื่อว่าเฮียแบล็กกับเจ้เรสก็ต้องอยากไปเหมือนกับพิงค์"เด็กสาวทำปากยื่นจนคนเป็นแม่รู้สึกเห็นใจ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่สามารถทำตามความต้องการของลูกน้อยได้"ตั้งแต่พิงค์เกิดมาจนถึงตอนนี้ พิงค์แทบจะนับครั้งได้ที่เราทั้งห้าค
ไพรเวทเจ็ท พุ่งทะยานขึ้นสู่น่านฟ้า ดวงตากลมโตที่ถูกปิดซ่อนภายใต้แว่นตาราคาแพงเหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่างท่ามกลางก้อนเมฆสีขาวสะอาดตา สาวสวยผู้มีใบหน้าเรียบนิ่งทั้งที่จริงแล้วเธอเป็นคนยิ้มง่ายเน้นติดตลกไปเสียด้วยซ้ำตกอยู่ในสายตาของบอดีการ์ดคู่กาย และด้วยสีหน้าของเจ้านายทำให้บอดีการ์ดคู่กายรู้ได้ว่าเจ้านายของเธอกำลังตกอยู่ในสภาพเช่นไร"มีเรื่องให้ไม่สบายใจเหรอคะคุณหนู"โทนเสียงเรียบไม่ติดเล่นของ'เจสสิก้า'ดึงสติและใบหน้าของพิงค์ไวท์ให้หันกลับมาหาบอดีการ์ดสาวคู่ใจ"นั่งก่อนสิคะ""ค่ะ"บอดีการ์ดสาวนั่งลงบนโซฟาตรงหน้าโดยมีโต๊ะขนาดเล็กแต่ราคาไม่เล็กขั้นกลางระหว่างเธอกับเจ้านาย"เมื่อคืนพิงค์ฝันถึงแม่""คุณหนูฝันถึงนายหญิง"พิงค์ไวท์พยักหน้า ก่อนหญิงสาวจะถอนแว่นตาราคาแพงวางลงบนโต๊ะ"พิ้งค์ฝันถึงแม่ ฝันถึงเหตุการณ์วันนั้น"ความเงียบปกคลุมภายในห้องรับรองของเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เจสสิก้านั่งเงียบรอฟังคำพูดจากปากของคุณหนูเท่านั้น"ถึงแม้ว่าเรื่องมันจะผ่านมานาน แต่พิงค์กลับรู้สึกว่าเรื่องพวกนั้นมันเกิดขึ้นเมื่อวาน"มันเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อตระกูลเก่าแก่อย่าง 'หลงเฟยหยาง'ได้สูญเสียนายห
"เจ็บมากไหมอาหมวย"ความเงียบคือคำตอบพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา นิลกาฬหลบมองต่ำเขากอบกุมฝ่ามือของน้องสาวเอาไว้ไม่ยอมปล่อย"อากงท่านคงไม่ได้ตั้งใจ หมวยอย่าโกรธอากงเลยนะ""หมวยไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วเฮีย"คำพูดจากปากของน้องสาวทำเอาชายหนุ่มชะงัก"เราสามคนหนีไปอยู่ที่อื่นกันดีไหม""หมวย อย่าพูดแบบนี้""อากงกับป๊าไม่รักหนูเลย"ความอดทนพังทลาย ใบหน้าบวมช้ำซุกลงบนแผงอกของพี่ชาย น้ำตาเม็ดใสหยดแล้วหยดเล่าไหลออกมาราวกับสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากจนเสื้อเชิ้ตสีขาวพี่ชายเปียกชุ่ม"หมวย""ฮึก"เสียงร้องไห้ดังขึ้นซึ่งเปรียบเหมือนหอกหนามทิ่มแทงใจของคนฟัง หมวยเล็กคือที่รักของทุกคนภายในบ้าน เธอเปรียบเสมือนแสงสว่าง ความสดใสให้กับทุกคน"หลับไปแล้วเหรอ""อืม ร้องไห้จนหลับไป"พี่ชายคนโตเอ่ยบอกน้องสาวคนรองทันทีเมื่อก้าวขาออกมาจากห้องนอนของน้องสาวคนเล็ก"มีแผลไหม""แดงเป็นรอยฝ่ามือ เฮียประคบให้แล้วพรุ่งนี้ก็คงจะดี""มีอะไรจะคุยด้วย"อาหมวยคนรองเดินนำพี่ชายไปยังห้องนอนของตัวเองบรรยากาศยามเช้าอันแสนสดใสของวันไหมแต่มันช่างแตกต่างกับความรู้สึกภายในใจของพิงค์ไวท์ ร่างสวยในชุดเดรสสีหวานก้าวขาลงบันได ใบหน้าของเธอไร้ซึ่งรอยยิ้มดว
อ้อมกอดเหน็บหนาวกัดกินขั้วหัวใจของเด็กสาว ไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่นขึ้นมาก็ตาม ความพยายามในการที่จะเล่าเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบดูเหมือนว่ามันจะสูญเปล่า เกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากคณะสถาปัตยกรรมดูเหมือนจะไม่เข้าตาของบิดา ตลอดระยะเวลาที่เธอได้ทุ่มเทให้กับการเรียนมันดูเหมือนว่าจะสูญเปล่าไม่ได้ดั่งที่ใจหวังเอาไว้เคร้ง"อะ...อากงพูดว่าอะไรนะคะ"เสียงสั่นดังขึ้น บรรยากาศในห้องรับประทานอาหารเงียบลงไม่มีแม้แต่สิ่งรบกวนชวนให้คนภายในบ้านหลังนี้ได้รู้สึกขัดใจ"อากงอยากให้หมวยเล็กเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ อากงมีคนรู้จักเป็นอธิการบดีของที่นั่น"หัวใจของหญิงสาวในวัยยี่สิบสองปีวูบโหง ดวงตาวูบไหวเมื่อได้ยินคำพูดนี้หลุดออกมาจากปากของอากงที่เธอรักและเคารพบังคับกันอีกแล้ว ประโยคนี้ผุดขึ้นภายในใจของพลอยชมพู"ทำไมคะ ทำไมหนูต้องเรียนต่อโททั้งที่หนูพึ่งจะเรียนตรีได้ไม่นาน""เพราะมันคือความต้องการของอากง"และมันคงเป็นความต้องการของป๊าเธอด้วย"ทั้งเฮียและเจ้ต่างจบโทด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากคณะบริหารด้วยกันทั้งคู่ ในเมื่ออาหมวยไม่ได้เรียนจบตรีในสิ่งที่ป๊าต้องการ เพราะฉะนั้นอาหมวยต้องเรียนต่อปริญญาโทตามที่อากง
แก๊ก แอดประตูไม้สักบานใหญ่ถูกแกะสลักลวดลายให้เป็นรูปมังกรค่อย ๆ ถูกเปิดออก สายตาของผู้คนที่อยู่ภายในมองไปยังร่างเล็กของผู้มาใหม่ ทุกคนต่างแสดงสีหน้าเรียบนิ่งซึ่งใบหน้าพวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่พิงค์ไวท์เห็นมาตั้งแต่จำความได้ ไม่มีรอยยิ้มแสดงความดีใจ ไม่มีแม้แต่อ้อมกอดอันแสนอบอุ่น "สวัสดีค่ะ""มาแล้วเหรอ""ค่ะ ป๊า"เฟยหลงเงยหน้ามองลูกสาวคนเล็กด้วยแววตาเรียบนิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ได้ว่าเขากำลังคิดอะไร"มาให้อากงกอดลื้อหน่อยสิหมวยเล็ก"เด็กสาวพยักหน้า เดินเข้าไปหาอากงเพื่อสวมกอดท่าน"เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม""หนูสบายดีค่ะ แล้วอากงล่ะคะ""ก็สบายดีตามประสาคนแก่นั่นแหละ"สองปู่หลานดันร่างออกจากกัน ก่อนจะพานั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่"ไม่ได้เจอกันนาน ทำไมหลายสาวของอากงถึงได้ผอมแห้งแบบนี้ล่ะ ดูสิ ไม่มีน้ำมีนวลเหมือนเมื่อก่อนเลย"ชายชราไล่สายตามองรูปร่างของหลานสาวคนสุดท้องพลางใช้ฝ่ามือสัมผัสไปตามท่อนแขนเรียวติดผอมแห้งของเธอ"เรียนหนักหรืออาหมวย""ค่ะ"พิงค์ไวท์พยักหน้ารับ ก่อนเธอจะหันไปส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับพี่ชายคนโตและพี่สาวคนรองซึ่งกำลังมองมาเพื่อเป็นการทักทาย"จะเป็นไปได้ยังไง คณะบริหารที่ป๊าของลื้อ
ไพรเวทเจ็ท พุ่งทะยานขึ้นสู่น่านฟ้า ดวงตากลมโตที่ถูกปิดซ่อนภายใต้แว่นตาราคาแพงเหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่างท่ามกลางก้อนเมฆสีขาวสะอาดตา สาวสวยผู้มีใบหน้าเรียบนิ่งทั้งที่จริงแล้วเธอเป็นคนยิ้มง่ายเน้นติดตลกไปเสียด้วยซ้ำตกอยู่ในสายตาของบอดีการ์ดคู่กาย และด้วยสีหน้าของเจ้านายทำให้บอดีการ์ดคู่กายรู้ได้ว่าเจ้านายของเธอกำลังตกอยู่ในสภาพเช่นไร"มีเรื่องให้ไม่สบายใจเหรอคะคุณหนู"โทนเสียงเรียบไม่ติดเล่นของ'เจสสิก้า'ดึงสติและใบหน้าของพิงค์ไวท์ให้หันกลับมาหาบอดีการ์ดสาวคู่ใจ"นั่งก่อนสิคะ""ค่ะ"บอดีการ์ดสาวนั่งลงบนโซฟาตรงหน้าโดยมีโต๊ะขนาดเล็กแต่ราคาไม่เล็กขั้นกลางระหว่างเธอกับเจ้านาย"เมื่อคืนพิงค์ฝันถึงแม่""คุณหนูฝันถึงนายหญิง"พิงค์ไวท์พยักหน้า ก่อนหญิงสาวจะถอนแว่นตาราคาแพงวางลงบนโต๊ะ"พิ้งค์ฝันถึงแม่ ฝันถึงเหตุการณ์วันนั้น"ความเงียบปกคลุมภายในห้องรับรองของเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เจสสิก้านั่งเงียบรอฟังคำพูดจากปากของคุณหนูเท่านั้น"ถึงแม้ว่าเรื่องมันจะผ่านมานาน แต่พิงค์กลับรู้สึกว่าเรื่องพวกนั้นมันเกิดขึ้นเมื่อวาน"มันเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อตระกูลเก่าแก่อย่าง 'หลงเฟยหยาง'ได้สูญเสียนายห
ปักกิ่ง ประเทศจีนบรรยากาศอันแสนร่มรื่นมีกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่แผ่ปกคลุมแสงแดดให้กับผู้คนที่เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ สีหน้าของเด็กน้อยแก้มแดงดูดีมีรอยยิ้มสดใสเหมือนกับมารดาของเธอที่กำลังนั่งยิ้มให้อยู่ข้างกาย"แม่ขา เมื่อไหร่แม่จะพาพิงค์กลับไปเที่ยวเมืองไทยอีกคะ พิงค์อยากไปเที่ยวทะเลอยากไปเล่นน้ำตกที่นั่น อยากทานอาหารที่แม่ทำ"เสียงหวานของเด็กน้อยในวัยสิบขวบดังเจื้อยแจ้วจนมารดาต้องยิ้มออกมากับคำถามและความน่ารักของเด็กน้อยฝ่ามือเรียวบางค่อย ๆ ยื่นไปสัมผัสแก้มขาวอมชมพูอย่างแผ่วเบา'พราวนารา'บรรจงเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของลูกสาวด้วยความอ้อยอิ่ง แววตาอ่อนโยนของหญิงสาวชาวไทยแท้มองหน้าบุตรสาวคนสุดท้องด้วยความรัก"ช่วงนี้ป๊าทำงานหนัก เอาไว้ใกล้จะปีใหม่แม่จะลองพูดกับป๊าให้ ดีไหมจ๊ะ""แต่หนูอยากไปเดี๋ยวนี้ แม่ช่วยพูดกับป๊าให้พาพวกเราไปเที่ยวที่เมืองไทยไม่ได้เหรอคะ พิงค์เชื่อว่าเฮียแบล็กกับเจ้เรสก็ต้องอยากไปเหมือนกับพิงค์"เด็กสาวทำปากยื่นจนคนเป็นแม่รู้สึกเห็นใจ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่สามารถทำตามความต้องการของลูกน้อยได้"ตั้งแต่พิงค์เกิดมาจนถึงตอนนี้ พิงค์แทบจะนับครั้งได้ที่เราทั้งห้าค