“เข้าใจแล้วคุณโจนส์ ตั้งใจทำงานให้ดีล่ะ บางทีอาจจะมีรถติดมากขึ้นหลังจากช่วงกลางวัน ถือโอกาสนี้แจกใบปลิวให้เร็วที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ ผมตกลงจ้างคุณเพราะผมคิดว่าความสวยของคุณอาจจะทำให้ลูกค้าสนใจได้ คุณต้องพยายามมาก ๆ นักออกแบบที่ดีจะไม่มีประโยชน์เลยถ้าไม่สามารถปิดการขายได้”“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”แคทเธอรีนวางสายเงียบ ๆ ฌอนแอบชำเลืองมองเธอด้วยหางตา บนรถไม่ได้มีพื้นที่มากนัก ดังนั้นเขาจึงได้ยินการสนทนาระหว่างเธอกับเจ้านายทั้งหมด “คุณควรจะไปทำงานที่อื่นนะ”เธอคลี่ริมฝีปากเป็นรอยยิ้มที่ขื่นขม “ไม่สำคัญหรอกค่ะว่าฉันจะทำงานกับบริษัทไหน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นการเริ่มต้นมักจะยากเสมอ”เขาเคาะนิ้วเรียวของเขาลงบนพวงมาลัยโดยไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ เพิ่มเติมด้วยความบังเอิญที่พวกเขาขับรถผ่านตึกที่ดูแปลกตาทว่ามีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ “นี่เป็นตึกอะไร?” เขาถามอย่างไม่สนใจ“ศูนย์วัฒนธรรมและเทคโนโลยีเมลเบิร์นค่ะ” มีบางสิ่งบางอย่างผุดขึ้นมาในความคิดของเธอในทันที “การก่อสร้างเพิ่งเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ ซัมมิทต้องการเข้าร่วมโครงการออกแบบแต่ก็ถูกบริษัทอื่นตัดหน้าไป เมื่อไม่นานมานี้ ฉันกำลังคิดที่จะทำโคร
แน่นอนว่าเชสไม่กล้าแสดงความคิดเห็นของเขาออกไป “ฉันรู้จักคนที่รับผิดชอบศูนย์ค่อนข้างดี ฉันควรจะใช้เส้นสายเพื่อให้บริษัทของแคทเธอรีนได้โครงการนี้ไปหรือเปล่า? เท่าที่ฉันรู้มา มีบริษัทใหญ่ ๆ อีกหลายบริษัท รวมถึงซัมมิทที่เข้ารวมการประมูลด้วยเหมือนกัน มันเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดเลยนะ”“ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น โอกาสได้ถูกหยิบยื่นให้กับเธอแล้ว ถ้าเธอไม่ได้โครงการนี้ ก็หมายความว่าเธอไม่มีความสามารถ ขอแค่ให้มั่นใจว่ามันเป็นการแข่งขันที่ยุติธรรม”เชสรู้สึกประทับใจ ผู้ชายคนนี้ไม่มีความเมตตาจริง ๆ แม้แต่กับภรรยาของเขาก็ตาม “ตกลง ฉันจะทำตามที่นายบอก”ห้านาทีต่อมา แคทเธอรีนกลับมาพร้อมกับถุงหมูสามชั้น “เรียบร้อยแล้ว” เขาพูดขึ้นเรียบ ๆ เธอรู้สึกตกใจ ใช้เวลาทั้งหมดแค่นั้นหรือ? ลุงคนนี้ของอีธานต้องเป็นคนที่มีอำนาจมาก“ขอบคุณนะคะ” เธอกล่าวด้วยความจริงใจริมฝีปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ตอนนี้กลับบ้านไปทานหมูสามชั้นย่างกันเถอะ”มองเห็นความเยาะเย้ยแปลก ๆ อยู่บนใบหน้าของเธอ “ฉันจะไม่ทำเมนูนั้นค่ะ ฉันกำลังคิดว่าจะทำสตูว์หมูและมันฝรั่ง”“...”เขาพูดไม่ออกใบหน้าของเขาแทบจะเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทัน “หึ” เธอ
ผู้จัดการโครงการอุทานขึ้นมา “มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ในบรรดาผู้ประมูลมีบริษัทที่จดทะเบียนแล้ว 2 แห่ง ไม่ต้องพูดถึงบริษัทอื่น ๆ ที่มีประสบการณ์หลายปีในวงการและหลายสาขา ฉันคิดว่าซัมมิทน่าจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันในครั้งนี้”แคทเธอรีนรู้สึกจุกในอกของเธอมันไม่แปลกที่ซัมมิทจะเข้าร่วม ท้ายที่สุดแล้วโครงการใหญ่แบบนี้ไม่เพียงแต่ทำกำไรได้มากเท่านั้น ทว่ายังเป็นเกียรติอีกด้วย เธอไม่รู้ว่านักออกแบบคนไหนจะเป็นตัวแทนของพวกเขาในโครงการนี้ อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่กังวลอยู่ดี ไม่มีนักออกแบบคนไหนทำงานให้ซัมมิทดีไปกว่าเธอ คนเหล่านั้นมีประสบการณ์มากมายทว่าขาดความคิดสร้างสรรค์หลังจากที่คิดเป็นอย่างดีแล้ว เธอจึงพูดขึ้น “ประธานเยทส์คะ เราควรจะมีความกล้าและเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายนี้ค่ะ ศูนย์วัฒนธรรมและเทคโนโลยีจะเปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไปในอนาคต ฉันคิดว่าพวกเราสามารถรวมแนวคิดทั้งในด้านของวัฒนธรรมและทางด้านวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกันในการออกแบบ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างของความก้าวหน้าในอนาคตค่ะ”“เป็นความคิดที่ดี” ประธานเยทส์เอ่ยชม “เอาล่ะ คุณและเฮนรี่สามารถทำงานออกแบบร่วมกันได้ พวกเรา
“ใช่ค่ะ นี่คือแบบร่างของฉันค่ะ บอกฉันหน่อยสิคะว่าคุณคิดว่าเป็นอย่างไร”แคทเธอรีนเปิดแล็ปท็อปและส่งให้กับเขา มีความลึกลับฉายแววผ่านดวงตาสีเข้มของเขา เมื่อมองแวบแรก เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังเดินทางผ่านอุโมงค์กาลเวลาในอวกาศที่รายล้อมไปด้วยแสงจากดวงดาวที่เป็นประกายระยิบระยับเธอเริ่มอธิบายแนวคิดเบื้องต้นของการออกแบบ “นี่คือแบบร่างที่มีชื่อว่า ‘Cosmic Eye’ ดูสิคะ คุณคงไม่คิดว่าจะมีเนบิวลานับไม่ถ้วนที่นี่ที่มีความคล้ายคลึงกับดวงดาวระยิบระยับใช่ไหมคะ? ฉันเชื่อว่าเป้าหมายหลักของเราในอนาคตคือการจำลองการเดินทางในอวกาศ ทั้งหมดนี้คือโลกมิติที่สี่ โดยใช้การออกแบบสไตล์เอสเชอร์...”เขาฟังด้วยความตั้งใจขณะที่เธออธิบายรายละเอียดด้วยความตกอกตั้งใจ ทว่าดวงตาของเขายังเรียบนิ่งราวกับผืนน้ำ แม้ว่าลึก ๆ แล้วเขาจะแอบรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างเหมือนกันความคิดสร้างสรรค์นี้ที่พร้อมให้สัมผัสการสำรวจ เหมาะสมที่สุดสำหรับการออกแบบตกแต่งภายในศูนย์เทคโนโลยีแท้ที่จริงแล้วที่ผ่านมาเขาประเมินเธอต่ำไป เขาคิดไม่ถึงว่าหญิงสาวที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดจะมีความรู้เรื่องการออกแบบเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามความสามารถของเธอ
”คุณกำลังพูดว่าเธอขโมยผลงานของคุณอย่างนั้นหรือ?” ประธานซอเยอร์ขมวดคิ้วเข้าหากัน“ถูกต้องค่ะ ฉันมีหลักฐานอยู่ในแล็ปท็อปของฉันเหมือนกัน ฉันใช้เวลาและความพยายามอย่างสุดความสามารถในการวางแผนแนวคิดเหล่านี้ลงในแบบร่าง แม้กระทั่งเริ่มร่างภาพ 2D ตั้งแต่เริ่มต้น ฉันมีร่างแบบหยาบอยู่กับฉันด้วยเหมือนกันค่ะ” “ขอผมดูหน่อย”แคทเธอรีนหยิบแท็ปแล็ตของเธอออกมา ทว่าเธอกลับต้องตกใจอย่างสุดขีดเมื่อข้อมูลหายไปทั้งหมด เธอหาภาพแบบร่างในขั้นแรกที่เธอเก็บเอาไว้ในกระเป๋าของเธอไม่เจอด้วยเช่นกันด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าแลบ เธอตะคอกไปยังเฮนรี่ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ “คุณลบข้อมูลของฉันเหรอ?”เธอคิดถึงใครไม่ออกนอกจากผู้ชายคนนี้“นี่คุณเสียสติไปแล้วเหรอ? ผมเป็นเพื่อนร่วมงานของคุณนะ” เฮนรี่ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธรีเบคก้าที่ยังคงยืนอยู่ที่โพเดียมพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ “เคธี่ พอสักที เราจัดการความขัดแย้งส่วนตัวของเราได้ทีหลัง แต่นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับซัมมิท เธอกล่าวหาฉันต่อหน้าสารธารณชนเพียงเพื่อให้ฉันความอับอายอย่างนั้นเหรอ?”ประธานซอเยอร์แสดงความผิดหวังออกมา “คุณสองคนรู้จักกันสินะ”รีเบคก้าตอบก่อนที่แคทเธอรีน
ประตูค่อย ๆ เปิดออกหลังจากนั้นไม่นานรีเบคก้าเดินเข้ามาหาเธอขณะที่กางร่มให้ตัวเองเพื่อกันฝน ความเห็นแก่ตัวแผ่กระจายอยู่บนใบหน้าของเธอ “เคธี่ ขอบใจมากนะ การออกแบบของเธอ ทำให้ฉันได้สิทธิ์ในการดูแลโครงการนี้ เธอนี่เก่งจริง ๆ เลย”แคทเธอรีนเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอลุกโชนด้วยความโกรธผู้หญิงอีกคนยิ้มออกมา “ไม่ต้องโกรธไปหรอกนะ โครงการจะต้องเป็นของฉันไม่ว่าจะมีการออกแบบของเธอหรือไม่ อีธานใช้เส้นสายให้ฉันแล้ว บางทีเธออาจจะยังไม่รู้ว่าลุงของเขาเป็นเพื่อนสนิทกับประธานซอเยอร์ใช่ไหม? การออกแบบของเธอเป็นเพียงส่วนประกอบของแผนเท่านั้น”ลุง... ฌอนอย่างนั้นเหรอ?แคทเธอรีนรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอกำลังถูกสัตว์ฉีกกระชากเป็นชิ้น ๆ ด้วยกรงเล็บอันแหลมคมของมันจนกระทั่งเธอหายใจไม่ออกเธอรู้สึกดีใจจริง ๆ ที่เขาให้โอกาสเธอทำไมเธอไม่รู้เลยสักนิดว่าเขาได้ทำการตัดสินตอนจบเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำไมเขาถึงต้องโกหกด้วย? เขาก็รู้ว่าเธอทุ่มเทให้กับโครงการนี้มากแค่ไหนมีบางอย่างสะท้อนแสงในดวงตาของเธอ ทว่าเธอไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นน้ำฝนหรือน้ำตาของเธอเองเป็นปกติที่รีเบคก้าจะรู้สึกสะใจในความทุกข์ของผู้หญิงคนนี้“น่า
ด้วยเหตุนี้ อีธานจึงอุ้มรีเบคก้าขึ้นมาในอ้อมแขนของเขาและเดินตรงไปยังรถ Lamborghiniเมื่อรถของเขาแล่นห่างออกไป ทิ้งเธอเอาไว้เบื้องหลังเป็นครั้งที่สอง แคทเธอรีนหมดหวังในตัวผู้ชายคนนี้อย่างแท้จริงนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ความรักที่เธอเคยมีให้กับเขาก่อนหน้านี้จะถูกแทนที่ด้วยความเกลียดชังและดูถูกเหยียดหยาม“โอ้ คนขี้แพ้” เจมส์เดินเข้ามาหาเธอขณะที่ถือร่มเอาไว้ เขายิ้มออกมาพลางหรี่ดวงตาลง “คุณหนูของตระกูลโจนส์ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่เหนือใคร ๆ ได้สูญเสียความสามารถทั้งหมดของเธอไปแล้ว”เธอเหนื่อยเกินกว่าที่จะใส่ใจจัดการกับผู้ชายคนนั้น เธอจึงเดินไปที่รถของเธอเงียบ ๆ เสียงของเขาดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ “คุณลุงเจฟฟี่และคุณป้าแซลลี่จะต้องรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้อย่างแน่นอน เห็นได้ชัดว่าพวกเขารักรีเบคก้ามากกว่าเธอ อย่าฝันที่จะกลับไปหาตระกูลโจนส์อีกต่อไป เพราะไม่มีใครต้อนรับการกลับไปของเธอ”ปัง! เธอปิดประตูและขับออกไปคำพูดของเขาไม่มีอะไรใหม่สำหรับเธอ ทว่าก็ไม่สำคัญ ชีวิตของเธอน่าสมเพชเวทนามามากพอแล้ว ไม่มีใครรักหรือห่วงใยเธอจริง ๆ ...18:00 น. ฌอนกลับมาที่บ้านหลังจากเลิกงานที่ผ่านมา
“นายเจอใคร?”“แคทเธอรีน โจนส์น่ะสิ! เธอกำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียวที่บาร์ เอ่อ เธอยังสวยเหมือนเดิมเลย”เจเน็ตเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมาในทันที “นังนั่น”เธอไม่เคยลืมความอับอายที่เธอได้รับหลังจากที่ถูกไล่ออกจากร้านอาหารครั้งสุดท้าย เหตุการณ์นั้นทำให้เธอกลายเป็นตัวตลกในหมู่ชนชั้นสูงในเมลเบิร์นเธอรู้สึกสะใจที่ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในงานประมูลในวันนี้อย่างไรก็ตาม มันยังไม่เพียงพอ เธอต้องการที่จะทำลายเธอให้สิ้นซาก เธอไม่รอคอยโอกาสที่จะมาถึงเธอ“เซน ลาร์สัน นายยังสนใจเธออยู่ไหม?”“ก็ จริง ๆ แล้วก็ไม่ แต่เธอชอบดูถูกฉันตลอดตอนเราอยู่ที่โรงเรียน ฉันเลยอยากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร?” เซนพูดขึ้นอย่างหยาบคาย “เพื่อให้เธอขอโทษฉัน”“ได้ ฉันจะให้โอกาสนาย”เจเน็ตบอกแผนกับเขา เขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น “เรื่องนี้เธอแน่ใจใช่ไหม –”“ไม่ต้องกังวล ฉันจะสนับสนุนนายเอง แคทเธอรีนไม่มีใครอยู่ข้างเธออีกต่อไปแล้วในตอนนี้ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตระกูลโจนส์จะต้องกระหายที่จะตัดเธอออกจากตระกูลอย่างแน่นอน”“เข้าใจแล้ว คืนนี้ฉันจะทำให้ดี”มุมปากของเซนยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่มุ่งร้ายขณะที่เขามองดูร่างของหญิงส
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก