กู้ซิ่งเหว่ยหันกลับมาดูอารมณ์ของกู้ชิงหลินแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? กู้หยุนหลานไปยั่วโมโหอะไรเธอเหรอ?”“ไม่ใช่หล่อน แต่เป็นไอ้สารเลวหลี่โม่!”กู้ชิงหลินนั่งกอดอกบนโซฟา ใบหน้าของเธอดูโกรธแค้นมากทีเดียว เธอพูดว่า “เมื่อคืนนี้ ฉันไปทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารกวานเหรินถัง และบังเอิญไปเจอไอ้ขยะหลี่โม่ เพราะมันแท้ ๆ ที่มาต่อว่าฉัน ผู้จัดการของภัตตาคารกวานเหรินถัง หวูเต้าเหวิน เลยตบฉันต่อหน้าคนมากมาย ฉันต้องเอาคืนความแค้นนี้ให้ได้!”“ภัตตาคารอาหารหรูเหรอ คนจนอย่างมันจะไปที่นั่นได้ยังไง?”กู้ซิ่งเหว่ยประหลาดใจและถามว่า “เธอบอกว่าหวูเต้าเหวิน มาจัดการเธอ เพราะไอ้หลี่โม่นั่นเนี่ยนะ? เป็นไปไม่ได้หรอก หวูเต้าเหวินเป็นหนึ่งในมาเฟียใต้ดินของเมืองฮั่น เขาจะมาตบเธอ เพราะไอ้หลี่ขยะนั่นได้ยังไง แถมเธอก็เป็นหลานสาวคนที่สามของตระกูลกู้ ฉันว่า มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย”กู้ซิ่งเหว่ยได้รับเกียรติให้ติดตามปู่ของเขาไปที่ภัตตาคารอาหารหรูหนึ่งครั้ง เขาจึงได้รู้จักหวูเต้าเหวินกู้ชิงหลินรู้สึกโกรธมากเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ และเธอก็พูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้นหลานของตระกูลกู้หลายคนพูดอย่างโกรธ
หา!ทันใดนั้น เสียงการสนทนาวุ่นวายก็ดังขึ้น!ทุกคนจ้องไปที่สัญญาในมือของกู้หยุนหลานด้วยสายตาที่แตกต่างกันไปสีหน้าของกู้ซิ่งเหว่ยซีดลง เขาชี้ไปที่กู้หยุนหลานทันทีและตะโกนว่า “เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน! เธอได้รับสัญญาใหม่ได้ยังไง ในมือของเธอต้องเป็นของปลอมแน่ ๆ !”กู้หยุนหลานหันหน้าไปมองกู้ซิ่งเหว่ยอย่างเฉยเมย และพูดว่า “จะปลอมหรือไม่ เคยเห็นเหรอ ถึงรู้น่ะ?”“เอามาสิ ฉันขอดูหน่อย”คุณท่านกู้พูดขึ้น ดวงตาของเขาดูสับสนปนตื่นเต้นเล็กน้อยสิ่งที่เขางงงวยคือ ทำไมกู้หยุนหลานถึงสามารถทำสัญญากับหรงคังกรุ๊ปได้ในเวลาอันสั้นขนาดนี้เขารู้สึกตื่นเต้น หากเป็นสัญญาใหม่ อนาคตของบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมก็คงพอมีหวังขึ้นมาบ้าง!กู้หยุนหลานยื่นสัญญาให้คุณท่านกู้ด้วยความเคารพ เขารับมันมาดูและพลิกเปิดอ่านอย่างระมัดระวัง ใบหน้าของเขามีความสุขขึ้นเรื่อย ๆ เขายิ้มและพูดว่า “ดี! ดี! ดี นี่สิสัญญาใหม่! หยุนหลาน ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของเธอ เธอคือหลานสาวที่ดีของปู่จริง ๆ !”ตอนนี้คุณท่านกู้มีความสุขมาก หลังจากได้สัญญาใหม่ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องผลกำไรของบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมในปีหน้าแล้วบางทีก็อา
ในไม่ช้า คุณท่านกู้ก็กดโทรศัพท์ต่อสายตรงไปยังหรงคังกรุ๊ป พร้อมกับยิ้มออกมา “ฮัลโหล สวัสดีครับ ใช่ประธานหรงปินหรือเปล่าครับ? โอ้ สวัสดีครับ สวัสดี ผมเป็นประธานของบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรม และก็เป็นหัวหน้าของตระกูลกู้ด้วยครับ ผมชื่อกู้หงไท่ เราเคยพบกันที่งานเลี้ยงอาหารค่ำกลางปีของตระกูลกู้ครั้งล่าสุดด้วยครับ”“อ่า ฮ่าฮ่า คุณกู้นี่เอง มีอะไรให้ช่วยหรือครับ?” ขณะที่ปลายสายโทรศัพท์ หรงปินเหลือบมองไปยังหลี่โม่ ซึ่งกำลังนั่งดื่มชาอยู่บนโซฟา และถามด้วยรอยยิ้ม“คืออย่างนี้ครับ ท่านประธานหรง เราได้รับสัญญาฉบับใหม่ของบริษัทนี่น่านับถือของคุณ ผมเพียงต้องการยืนยันความถูกต้องน่ะครับ” คุณท่านกู้กล่าวด้วยคำพูดที่ประจบสอพลอ“สัญญานั้นเป็นของจริงครับคุณกู้ มีอะไรอีกไหมครับ?” หรงปินถามเชิงวาทศิลป์ชายชราตื่นตระหนก เขารีบพูดอย่างตื่นเต้น “ไม่มีอะไรแล้วครับ ไม่มีอะไรแล้ว ขอขอบคุณบริษัทที่น่านับถือของคุณที่ยอมร่วมมือกับบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมของเรานะครับ สำหรับความร่วมมือนี้ เราจะทุ่มความพยายามแบบสองร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน…”หลังจากพูดไปสองสามคำ คุณท่านกู้ก็รอให้อีกฝ่ายวางสายไปก่อนฉากนี้ทำให้ทุกคนใน
“กู้หยุนหลาน เธอพูดบ้าอะไรอยู่? ไม่เห็นด้วยเหรอ? เหอะ ๆ นี่ปู่เป็นคนสั่งให้ฉันเป็นคนรับผิดชอบ ถึงเธอจะไม่ตกลง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก!”กู้ซิ่งเหว่ยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าดวงตาของเขาจะหยิ่งผยองแค่ไหนกู้หยุนหลานยังคงกัดฟันสู้ต่อ ฝันกลางวันไปเถอะ!กู้ซิ่งเหว่ย เขาเป็นหลานชายคนโตของตระกูลกู้ และอนาคตก็ต้องเป็นหัวหน้าตระกูลกู้อีกระบบชายเป็นใหญ่ของคุณท่านกู้เป็นแบบนี้มานานแล้ว เพราะในใจของเขา กู้ซิ่งเหว่ยเท่านั้นที่จะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สืบทอดต่อ ในที่สุดบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมก็ต้องถูกส่งมอบให้กู้ซิ่งเหว่ยสัญญาของหรงคังกรุ๊ป นับเป็นจุดเริ่มต้นในการทดสอบกู้ซิ่งเหว่ย และทำให้เขาได้สะสมประสบการณ์มากขึ้นคุณท่านกู้วางแผนเรื่องนี้เอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงตั้งใจอย่างแน่วแน่ตอนนี้ เมื่อได้ยินกู้หยุนหลานไม่ยอม คุณท่านกู้จึงหันมามองกู้หยุนหลานด้วยสายตาที่เย็นชาและตะคอกว่า “อวดดี! ตกลงแก หรือฉันกันแน่ที่เป็นผู้รับผิดชอบบริษัทนี้? นับวันยิ่งเข้าใจอะไรยากนักนะ นี่แกไปเรียนรู้จากไอ้หลี่โม่มาหรือไง?!”ในสายตาของคุณท่านกู้ กู้หยุนหลานเป็นหลานสาวสุดที่รักของเขา เธอมีความสามา
เวลานี้ โทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะหน้ากู้หยุนหลานก็สั่น เธอหยิบมันขึ้นมาดูและเห็นว่าเป็นข้อความจากหลี่โม่: ข้อตกลงในสัญญานั้น นอกจากคุณแล้ว หากคนอื่นมาลงชื่อจะถือเป็นโมฆะทันที หยุนหลาน สู้ ๆ อย่าท้อนะ อย่ายอมแพ้กู้ซิ่งเหว่ยและคุณปู่นะ คุณทำได้!เมื่อเห็นข้อความนี้ กู้หยุนหลานก็กัดฟันอย่างแน่วแน่ แล้วเงยหน้าขึ้นทันทีเธอไม่รู้ว่าความกล้านี้มาจากไหน เธอตะโกนว่า “คุณปู่คะ ลองดูสัญญาฉบับใหม่นี้ให้ดีก่อนนะคะ มีข้อตกลงระบุไว้ ใครก็ตามที่ไม่ใช่ฉันมาเซ็นสัญญานี้ สัญญาจะถูกยกเลิกทันที และตระกูลกู้ก็จะสูญเสียความร่วมมือกับกลุ่มหรงคังไปด้วย!”หือทุกคนในห้องประชุมตกตะลึง และมองกู้หยุนหลานอย่างไม่เชื่อสายตาใบหน้าของคุณท่านกู้สั่นทันที จากนั้นเขาจึงรีบส่งสัญญาณให้กู้ซิ่งเหว่ยเปิดข้อตกลงและอ่านดูอีกครั้งกู้ซิ่งเหว่ยก็กังวลเช่นกัน เขารีบดูอย่างรวดเร็ว และเห็นว่ามีข้อตกลงส่วนที่ว่านั่น เขาตะโกนว่า “คุณปู่ครับ ดูสิ นี่ต้องเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมที่กู้หยุนหลานเสนอไปแน่ ๆ ! เธอต้องการทำคนเดียว เธอไม่ได้เห็นคุณปู่และบริษัทในสายตาเลย บทบาทของเธอในตระกูลกู้และบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมคืออะไรกันแน่ เป็นกระดาน
เมื่อกู้ซิ่งเหว่ยได้ยินกู้หยุนหลานพูดแบบนี้ เขาก็โกรธขึ้นมาทันที พร้อมลุกขึ้นชี้ไปที่เธอ และตะโกนว่า “เธอพล่ามอะไร จะให้ฉันขอโทษเธอกับไอ้ขยะหลี่โม่นั่น เธอบ้าไปแล้วเหรอ?!”กู้ซิ่งเหว่ยแทบจะคลั่งด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวจากนั้นเขาก็หันไปหาชายชราที่แสดงสีหน้าเย็นชา พร้อมกับพูดว่า “คุณปู่ครับ ฟังสิ่งที่เธอพูดสิครับ กู้หยุนหลานพูดอะไร? อยากจะให้ผมขอโทษไม่พอ ยังกล้ามาบอกให้คุณปู่ขอโทษอีก นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่? ไม่มีใครยอมรับเธอแต่เธอก็ยังทะเยอทะยานขนาดนี้ คุณปู่ครับ คุณปู่จะปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้นะครับ”ยัยตัวดีกู้หยุนหลาน เธอพล่ามเพ้อเจ้อไร้สาระอะไรของเธอเธอกล้าพูดแบบนั้นได้ แสดงว่าเธอไม่เคารพนับถือคุณท่านกู้แล้วเธอคิดว่าคุณท่านกู้เป็นใครกัน?เป็นคนที่สามารถขอโทษเธอได้ง่าย ๆ หรือไงกัน?“คุณปู่คะ ฉันคิดว่ากู้ซิ่งเหว่ยพูดถูก กู้หยุนหลานไม่สนกฎเกณฑ์มากขึ้นเรื่อย ๆ เธอไม่นับถือคุณปู่เลย แถมยังต้องการให้คุณปู่ขอโทษไอ้หลี่โม่นั่นอีก ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป ตระกูลกู้ของเราจะตั้งหลักอยู่ในเมองฮั่นต่อไปได้ยังไงกันคะ?”กู้ชิงหลินพูดตามน้ำ คิ้วของเธอเลิกขึ้น ใบหน้าของเธอไม่พอใจเป็นอ
การตบกู้หยุนหลานคราวนี้ช่างแสนเจ็บปวด จนมีรอยแดงบนแก้มเลยทีเดียวเธอกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ พลันมองชายชราอย่างดื้อรั้น แล้วพูดว่า “คุณปู่จะไม่ขอโทษในสิ่งที่คุณปู่ทำผิดจริง ๆ ใช่ไหมคะ?”คุณท่านกู้ตัวโกรธจนตัวสั่น นิ้วชี้ไปที่กู้หยุนหลานและตำหนิ “นังเนรคุณ แกยังจะกล้าต่อล้อต่อเถียงฉันอีกเหรอ? ฉันจะตีแกให้ตาย!” หลังจากพูดอย่างนั้น คุณท่านกู้ก็ยกไม้เท้าในมือ ตั้งใจจะตีกู้หยุนหลานอย่างไรก็ตาม หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ชายชราก็เอาไม้เท้าลง พร้อมขมวดคิ้ว และดุเสียงแข็ง “สัญญาของหรงคังกรุ๊ป แกอยากรับเอาไว้ ก็รับไว้เองเถอะ เพราะฉันไม่เชื่อหรอกว่า บริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมจะอยู่รอดไม่ได้ถ้าไม่มีหรงคังกรุ๊ป!”หลังจากพูดแบบนี้ คุณท่านกู้ก็ออกจากห้องประชุมไปพร้อมกับลูกน้องกู้ซิ่งเหว่ย กู้ชิงหลิน และพวกหลาน ๆ ที่อยู่ข้างหน้าพูดกับกู้หยุนหลานว่า “กู้หยุนหลาน เธอกล้าจริง ๆ ที่ต้องการให้คุณปู่ขอโทษน่ะ หลี่โม่สอนเธอมาหรือไงนะ? เหอะ ๆ โง่จริง!”“ใช่แล้ว กู้หยุนหลาน อย่าคิดว่ามีแค่เธอเท่านั้นนะ ที่จะสามารถรับผิดชอบความร่วมมือของหรงคังกรุ๊ปได้ แถมยังมาขู่บริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมของเราอีก เธอคงได้ยินที่
หลี่โม่หันศีรษะ พร้อมพยักหน้าอย่างจริงจัง และกล่าวว่า “ใช่ อีกไม่นานหรอก”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หวังฟางก็มองไปที่หลี่โม่ด้วยความรังเกียจ และถามด้วยน้ำเสียงดุว่า “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับแก? เรื่องวันนี้ในที่ประชุม เป็นเพราะแกยุยงกู้หยุนหลานใช่ไหม?”เมื่อคิดถึงตรงนี้ หวังฟางก็มองไปที่กู้หยุนหลานอย่างกังวลใจ และถามว่า “กู้หยุนหลาน บอกความจริงกับแม่สิ หลี่โม่เป็นคนสั่งให้ทำแบบนี้ใช่ไหม? แค่แกพูดออกมา เราจะได้แก้ปัญหาได้ทัน แค่ขอโทษคุณปู่ก็โอเคแล้ว”“แม่คะ พอแล้ว อย่าเพิ่งกวนหนูเลยนะ ตอนนี้หนูสับสนมาก แม่ให้หนูสงบสติอารมณ์ก่อนได้ไหม?” กู้หยุนหลานพูดอย่างไม่พอใจ“ตอนนี้มันใช่เวลาให้แกมาสงบสติอารมณ์เหรอ? ดูท่าแกคงโดนไอ้ไร้ประโยชน์นี่มันทำของใส่ แกจะเชื่อสิ่งที่มันพูดใช่ไหม? กู้หยุนหลาน แม่คิดว่าแกบ้าไปแล้ว!” หวังฟางชี้ไปที่กู้หยุนหลานอย่างโมโห พร้อมกับตบหน้าลูกสาวของเธอไปหนึ่งทีเธอจะต้องเสียใจไปจนตาย ที่แต่งงานกับไอ้คนไร้ประโยชน์นี่ในเมื่อทุกอย่างเป็นแบบนี้ ครอบครัวนี้ก็คงจะจบเห่แล้วล่ะด้วยการตบนี้ ทำให้กู้หยุนหลานตะลึง น้ำตาในดวงตาของเธอไหลนอง สีหน้าของหลี่โม่เยือกเย็นทันใด เขารี