"เหลียงอวี้ เหลียงอวี้ รีบมาช่วยฉันเร็วเข้า!" ท่านปาบังคับตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งและตะโกนเสียงดังลั่น เงาร่างหนึ่งแวบผ่านไปอย่างรวดเร็วในเงามืดที่อยู่ไม่ไกล เหลียงอวี้ที่สวมชุดนินจาสีดำปรากฏตัวขึ้นข้างกายท่านปา “ท่านปาอย่าตกใจไป เหลียงอวี้อยู่ที่นี่แล้ว” เหลียงอวี้ดึงกริชที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมา แล้วจ้องมองที่หลี่โม่ด้วยดวงตาเป็นประกาย "นินจาหญิงเหรอ? น่าสนใจนี่” มุมปากของหลี่โม่หยักโค้งเป็นรอยยิ้ม เขามองสำรวจเหลียงอวี้ด้วยแววตาขี้เล่น เหลียงอวี้ขมวดคิ้ว รู้สึกว่าแววตาของหลี่โม่กำลังดูหมิ่นตน "ท่านปา ได้โปรดออกไปก่อนเถอะค่ะ ปล่อยให้ที่นี่เป็นหน้าที่ของเหลียงอวี้เอง" เหลียงอวี้ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะหลี่โม่ได้ แต่รู้สึกว่าตนสามารถถ่วงเวลาออกไปได้สักหน่อย “หลี่โม่ เวลาตายของนายมาถึงแล้ว เหลียงอวี้ ฆ่าเขาซะ ฉันจะออกไปรอฟังข่าวจากเธอ” ท่านปายืนขึ้นจากพื้นด้วยเสียงฮึดฮัด แล้ววิ่งหนีต่อไปอย่างตื่นตระหนก หลี่โม่ส่ายหน้า เขาอ้อมเหลียงอวี้แล้วไล่ตามท่านปาไป ร่างของเหลียงอวี้วาบหาย รีบตามย่างก้าวของหลี่โม่ไปเพื่อขวางทางเขาเอาไว้ "มีฉันอยู่ นายอย่าคิดว่าจะผ่านไปได้ง่าย ๆ เลย"
รอบ ๆ ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในกระแสอากาศแม้แต่น้อย หลี่โม่จึงวางใจและเดินต่อไปข้างหน้า หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว ไม่มีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น ดูราวกับว่านินจาสาวเหลียงอวี้ได้หนีไปแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของท่านปาฉีกกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ คนที่เดินเข้ามาในเงาอย่างระมัดระวังเช่นนี้และพยายามหลีกเลี่ยงการโจมตีของเหลียงอวี้อย่างหลี่โม่ ท่านปาเคยเห็นมานักต่อนักแล้ว สองครั้งที่แล้วท่านปายังรู้สึกตื่นตระหนกเพราะพวกเขาเข้ามาใกล้ แต่หลังจากที่พวกมันกลายเป็นเหยื่อของเหลียงอวี้ ท่านปาจึงยิ้มออกมาได้อย่างไม่สะท้าน ใกล้ตายแล้ว หลี่โม่สมควรตายแล้ว ขอแค่ก้าวไปข้างหน้าอีกเพียงสองก้าวเขาก็จะสิ้นชีพ! ในใจของท่านปาเต็มไปด้วยความคาดหวัง อยากจะเห็นสภาพที่หลี่โม่ตาย หลี่โม่ดูเหมือนจะผ่อนความระมัดระวังลง ฝีเท้าก็พลันเร่งขึ้นอย่างกะทันหัน และพุ่งไปหาท่านปาอย่างรวดเร็ว จู่ ๆ ลำแสงเย็นเยือกก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังหลี่โม่ เหลียงอวี้ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังหลี่โม่ มีดสั้นแหวกอากาศอย่างไร้ซุ่มเสียงและแทงเข้าที่หลังของหลี่โม่ "ฮ่าฮ่าฮ่า" ท่านปาอ้าปากหัวเราะร่า ท่าทางราวกับได้เห็นหลี่โม่ถูกแท
โอสถคร่าวิญญาณเป็นพิษในตำนาน หลังจากที่กินเข้าไปแล้ว จะต้องกินยาแก้พิษทุก ๆ ครึ่งเดือน หากไม่มียาแก้พิษ คนที่กินโอสถคร่าวิญญาณเข้าไปเลือดจะไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดจนสิ้นชีพและก่อนตายจะต้องเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส ว่ากันว่าวิธีการกลั่นและสูตรยาแก้พิษของโอสถคร่าวิญญาณได้สูญหายไปหมดแล้ว เพียงแต่ในคลังสมบัติของแดนมังกรยังมีอยู่ในจำนวนน้อยนิดเท่านั้น ท่านปาไม่คาดคิดว่าเฉียนฝูจะสามารถช่วยหลี่โม่เอาสิ่งเหล่านี้ออกมาได้และยิ่งไม่คาดคิดว่าหลี่โม่จะให้ตนกินโอสถคร่าวิญญาณ เมื่อรู้สึกถึงความร้อนที่ไหลลงสู่ช่องท้องของเขา ท่านปาก็รู้สึกไม่สบายไปทั้งตัว นับจากนี้ไปชีวิตของเขาได้อยู่ภายใต้การควบคุมของหลี่โม่แล้ว ความรู้สึกนี้ทำให้จิตวิญญาณของท่านปาพังทลายลงอย่างสมบูรณ์ “นายจะทำอะไรกันแน่ มีอะไรจะพูดก็พูดกันดี ๆ ไม่ได้เลยรึไง! ทำไมต้องเอาของแบบนี้มาให้ฉันกินด้วย!” “คุณต่างหากที่ไม่ยอมพูดดี ๆ มีแต่ต้องเอาของแบบนี้ให้คุณกินเท่านั้นถึงจะคุยกันดี ๆ ได้ไม่ใช่เหรอ?” หลี่โม่ตบแก้มของท่านปาเบา ๆ ท่านปากัดฟันและจ้องไปที่หลี่โม่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออยู่สองสามวินาที จากนั้นร่างของเขาค่อย ๆ ค่อมงอลงเห
“ท่านปา” เมื่อฉินจี้เย่เห็นท่านปาออกมาก็รีบโค้งคำนับทักทาย แต่หัวใจกลับเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ท่านปาเข้าไปพร้อมกับผู้คุ้มกันสองคนแต่กลับออกมาคนเดียว นอกจากนี้ที่ขาทั้งสองข้างยังได้รับบาดเจ็บ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน "นาย ช่วยไปบอกแทนฉันหน่อย บอกว่าเสี่ยวปาจะเชื่อฟังคำสั่งแน่นอนและขอให้คุณหลี่ปล่อยตัวลูกน้องของฉันได้แล้ว" ฉินจี้เย่ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ท่านปาผู้สูงส่งเรียกตัวเองว่าเสี่ยวปากับหลี่โม่เนี่ยนะ! ก่อนหน้านี้ตอนที่หลี่โม่เรียกท่านปาว่าเหล่าปา ฉินจี้เย่ยังคิดว่าหลี่โม่เป็นคนหยิ่งยโส แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น หลี่โม่มีสถานะที่จะทำอย่างนั้นได้จริง ๆ “มัวยืนเซ่ออะไร รีบไปซะสิ” ท่านปาเอ่ยอย่างรำคาญ จู๋รื่อและฮั่นซานจะเป็นตายยังไงไม่สำคัญ แต่เหลียงอวี้มีความสำคัญต่อท่านปามากนัก ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพาเหลียงอวี้ออกมาให้ได้ ฉินจี้เย่เดินเข้าไปในโรงงานด้วยสมองที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม เขาวิ่งเหยาะ ๆ ไปหาหลี่โม่ โค้งคำนับและพูดว่า "คุณหลี่ ท่านปาขอให้ผมช่วยมาส่งข้อความ เขาบอกว่าเสี่ยวปาจะเชื่อฟังคำสั่งแน่นอนและขอให้คุณหลี่ปล่อยลูกน้องของเขา
หลี่โม่ถลึงตาจนแทบถลนด้วยความโกรธ มือขวาคว้าคอเสื้อของฉินจี้เย่เอาไว้และยกตัวฉินจี้เย่ขึ้นมา “นายพูดอะไรนะ? นายให้คนไปลักพาตัวซีซี?!” “คุณหลี่ใจเย็นก่อน ใจเย็นก่อนครับ คนของผมไม่ได้ทำอะไรกับซีซีเลยครับ ผมสำนึกผิดแล้ว โปรดยกโทษให้ผมด้วย คุณไปหาซีซีพร้อมกับผมเลยก็ได้ ถ้าหากซีซีผมร่วงไปแม้แต่เส้นเดียว คุณก็ฆ่าผมได้เลย” ฉินจี้เย่ร้องขอความเมตตาด้วยความตื่นตระหนก หวังเพียงว่าหลี่โม่จะไม่ลงมือฆ่าตน อย่างน้อยก็ให้โอกาสตนสักครั้ง "ได้ ถ้าซีซีผมร่วงไปแม้แต่เส้นเดียว ฉันจะทำลายล้างตระกูลฉินของนายซะ" หลี่โม่เอ่ยด้วยสีหน้าดุร้าย ฉินจี้เย่แอบอธิษฐานในใจ หวังว่าลูกน้องของเขาจะไม่ทำอะไรเกินขอบเขตไป ไม่อย่างนั้นหลี่โม่คงจะล้างบางตระกูลฉินจริง ๆ แน่ เย่จงเทียนพาคนเดินเข้ามา เมื่อเห็นหลี่โม่มองฉินจี้เย่ด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร เย่จงเทียนก็รู้สึกใจหวิวไปเล็กน้อย "คุณหลี่ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ? มีอะไรก็พูดคุยกันดี ๆ เถอะครับ” เย่จงเทียนกับตระกูลฉินมีมิตรภาพอันดีต่อกัน เมื่อได้เห็นสภาพของฉินจี้เย่ในตอนนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะช่วยพูดไกล่เกลี่ยให้ “เขาส่งคนไปจับตัวลูกสาวผม” หลี่โม่พูดพลางปล่อ
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับซีซี หลี่โม่จึงตัดสินใจปล่อยฉินจี้เย่ไปสักครั้ง หากลงมือจัดการฉินจี้เย่ต่อหน้าเด็ก หลี่โม่เองก็กังวลว่ามันจะทิ้งบาดแผลทางใจไว้กับซีซี ฉินจี้เย่โค้งตัวคำนับให้หลี่โม่สามครั้ง จากนั้นจึงรีบพาคนของตัวเองจากไปอย่างรวดเร็ว เย่จงเทียนทำสัญญาณมือให้กับหลี่โม่ สื่อว่าตนจะรอหลี่โม่อยู่ข้างนอก จากนั้นจึงพาทหารรับจ้างออกไปนอกโรงพยาบาลเช่นกัน หลี่โม่อุ้มซีซีนั่งลงข้างเตียง หยิบตุ๊กตาขึ้นมาแล้วเล่นกับซีซี หลังจากเล่นไปสักพัก ซีซีก็เอนตัวเข้าไปในอ้อมแขนของหลี่โม่ เธอกะพริบตากลมโตแล้วพูดว่า "คุณพ่อคะ เมื่อไหร่หนูถึงจะหายดีเหรอคะ? หนูอยากกลับบ้านไปอยู่กับคุณพ่อคุณแม่จังเลยค่ะ" “ใกล้จะหายแล้วล่ะ คุณหมอบอกว่าเหลือเวลาอีกหนึ่งเดือน การรักษาสุดท้ายของซีซีก็จะสิ้นสุดลงแล้ว ซีซีเป็นเด็กดีที่เข้มแข็ง พวกเรามาอดทนกันอีกหนึ่งเดือนนะ” “ค่ะคุณพ่อ ซีซีจะอดทนไว้” ซีซีชูกำปั้นเล็ก ๆ ของเธอ แล้วชนหมัดกับหลี่โม่เบา ๆ หลี่โม่อยู่เป็นเพื่อนซีซีตลอดทั้งบ่าย ซีซีเล่นจนเหนื่อยแล้วผล็อยหลับไปบนเตียง หลังจากห่มผ้าให้ซีซีเรียบร้อยแล้ว หลี่โม่ก็ปิดประตูห้องผู้ป่วยแล้วเดินออกไป
กู้เจี้ยนกั๋วสะอึกกับคำพูดของหลี่โม่จนแทบหายใจไม่ทัน หากตรวจสอบเรื่องนี้กันจริง ๆ กู้ซิ่งเหว่ยต่างหากที่เป็นคนแกว่งเท้าหาเสี้ยน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับหลี่โม่เลยแม้แต่น้อย "แกทำเป็นได้ใจไปเถอะ หลังจากนี้แกจะได้เห็นดีกันแน่ กู้หยุนหลาน แกดูแลสามีขยะของแกให้ดี ๆ จะดีกว่า ไม่อย่างนั้นมันต้องสร้างปัญหาใหญ่ให้แกในอนาคตแน่!" กู้เจี้ยนกั๋วด่าทอต่อว่าสองสามประโยค แล้วจึงก้มหน้าเดินจากไปอย่างหัวเสีย ในสมองคิดแต่เรื่องว่าจะแก้แค้นให้กับลูกชายอย่างไรดี เมื่อกลับมาที่ห้องทำงานแล้ว ในขณะที่กู้เจี้ยนกั๋วกำลังอับจนหนทางอยู่นั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อเห็นหมายเลขโทรศัพท์ห้าหลักของผู้โทรที่แสดงอยู่บนหน้าจอ กู้เจี้ยนกั๋วก็คิดว่าเป็นพวกหลอกลวง ดังนั้นเขาจึงกดปุ่มวางสายอย่างไม่ลังเล หลังจากวางสายได้ไม่กี่วินาที เบอร์นั้นก็โทรมาอีกครั้ง กู้เจี้ยนกั๋วยังคงวางสายอีกครั้ง แต่หมายเลขนั้นก็ยังคงโทรอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่าตราบใดที่กู้เจี้ยนกั๋วไม่รับสาย ก็จะโทรมาเรื่อย ๆ ไม่หยุด กู้เจี้ยนกั๋วนวดขมับแล้วรับโทรศัพท์อย่า
ท่านปาเคยได้ยินตำนานของโอสถคร่าวิญญาณมาไม่น้อย มันเป็นสิ่งที่ทำให้แค่พูดถึงก็ทำให้พรั่นพรึงได้ของแดนมังกร เพียงแต่ท่านปาไม่แม้แต่จะคิดฝันเลยว่า ตนเองจะได้สัมผัสกับสิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้อย่างใกล้ชิด ถ้าไม่ใช่เพราะความอยากรู้อยากเห็นก็คงไม่ล้มไม่เป็นท่าแบบนี้ ท่านปารู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก เขามองไปยังผู้คุ้มกันที่อยู่ข้าง ๆ อย่างซึมกะทือ "ทางเหลียงอวี้เป็นยังไงบ้าง?" “กำลังทำการผ่าตัดอยู่ครับ อาการบาดเจ็บภายในค่อนข้างสาหัส ม้ามกับตับแตก มีอาการช็อกจากการเสียเลือดมาก ตอนนี้กำลังการผ่าตัดม้ามอยู่ ถ่ายเลือดไปกว่า 3,000 มิลลิลิตรแล้วครับ” ทั้งม้ามและตับล้วนเป็นอวัยวะภายในที่เกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด เมื่อได้รับความเสียหายจะมีเลือดออกภายในจำนวนมาก ถ้าหากทั้งม้ามและตับแตกหมด อาการเลือดออกภายในก็จะยิ่งทวีความร้ายแรงมากขึ้น เมื่อนึกถึงยอดฝีมือที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีอย่างเหลียงอวี้ยังถูกหลี่โม่ทำให้อวัยวะภายในเสียหายอย่างหนักด้วยการเตะครั้งเดียว ท่านปาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโชคดีที่ตนไม่โดนหลี่โม่จัดการ ถ้าหลี่โม่เตะตนสักครั้ง ท่านปาเดาว่าตนคงไม่สามารถมีชีวิตรอดมาถึงโรงพยาบาลเพื่อรับการ