เพียะ!เสียงตบดังกึกก้องผ่านประตูใบหน้ากู้หยุนหลานเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ตาแดงก่ำจ้องไปที่หลี่โม่ และตำหนิ “หลี่โม่ นี่คุณทำอะไรลงไป?!”หลี่โม่ยืนนิ่ง เขามองไปที่กู้หยุนหลานที่กำลังโกรธเคือง โดยไม่รู้ว่าตนเองผิดอะไรนี่มันเกิดอะไรขึ้น?กู้หยุนหลานจ้องหลี่โม่อย่างหงุดหงิด จากนั้นหันกลับไปมองโจวเฟิงฮว๋าที่ยืนอยู่ด้านข้าง และรีบก้มหน้าขอโทษ “ฉันต้องขอโทษเถ้าแก่โจวด้วยนะคะ เป็นเพราะหลี่โม่หน้ามืดตามัวชั่วขณะไม่รู้จักผิดถูก ช่วยยกโทษให้เขาด้วยนะคะ แล้วแขกอยู่ที่ไหนคะ ฉันจะให้เขาไปขอโทษเขา”กู้หยุนหลานทั้งเร่งรีบและโมโหเธอได้รับโทรศัพท์แจ้งว่า หลี่โม่ลวนลามแขกผู้หญิงที่ทำงาน และกำลังจะถูกตำรวจจับดังนั้นเธอจึงรีบร้อนมาที่นี่โจวเฟิงฮว๋าก็สับสนเช่นกัน แต่ในไม่ช้าเขาก็เข้าใจ เขาเหลือบมองหลี่โม่ และรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “คุณกู้คุณเข้าใจผิดแล้ว หลี่โม่ไม่ได้ลวนลามแขกผู้หญิง ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่ว่าตอนนี้นั้นหลี่โม่เขาเป็นคนใหม่..."หลี่โม่ที่อยู่ด้านข้างได้ฟังเช่นนี้ก็ส่งเสียงกระแอมอย่างรวดเร็วโจวเฟิงฮว๋ากลืนประโยคครึ่งหลังลงไป หลี่โม่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงขอ
หลี่โม่หันกลับไปมองที่เฉียนฝูแล้วพูดว่า “แน่นอนว่าต้องที่นี่ ตัวตนที่แท้จริงของผมยังไม่สามารถเปิดเผยได้ภายในตอนนี้ ก่อนที่ผมจะควบคุมแดนมังกรได้อย่างเต็มที่ ทุกอย่างต้องถูกเก็บเป็นความลับ”“รับทราบครับ” เฉียนฝูโค้งคำนับในขณะเดียวกัน กลับไปที่บ้านต้นตระกูลกู้นี่คือเรือนสี่ประสานที่สง่างาม และยังมีเสน่ห์แบบโบราณอีกด้วยในเวลานี้ที่เรือนหลังที่สี่ ชายชรากู้กำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ลานหน้าบ้านกู้ซิ่งเหว่ยที่อยู่ด้านข้างกล่าวว่า “คุณปู่ครับ ความร่วมมือของหรงคังกรุ๊ปจะต้องไม่ปล่อยให้กู้หยุนหลานเป็นคนรับผิดชอบนะครับ”ชายชราตอบรับและกล่าวว่า “ซิ่งเหว่ย ฉันรู้ว่าแกไม่ชอบหยุนหลาน แต่ท้ายที่สุดแล้ว หยุนหลานคือคนที่เจรจาสัญญานี้ แน่นอนว่าฉันต้องให้เธอเป็นคนรับผิดชอบ ไม่อย่างนั้นบริษัทจะหาว่าฉันลำเอียง และโลกภายนอกจะเกิดข่าวลือมากมาย”“พ่อครับ เกี่ยวกับเรื่องนี้พ่อต้องคิดให้รอบคอบนะครับ กู้หยุนหลานเธอเป็นผู้หญิง หากเธอสามารถเอาชนะใจคนทั้งบริษัทได้เพราะความร่วมมือของหรงคังกรุ๊ป มันจะไม่ดีต่อซิ่งเหว่ยนะครับพ่อ” กู้เจี้ยนกั๋วพ่อของกู้ซิ่งเหว่ยพูดเขาถูกกู้ซิ่งเหว่ยลากมาตรงนี้สำหรับลูกชายของเขา
มื้อค่ำของตระกูล ณ บ้านต้นตระกูลกู้เรือนหลังใหญ่ของตระกูลกู้ห้องที่สาม ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่แล้ว พวกเขานั่งอยู่ที่โต๊ะใหญ่เมื่อกู้หยุนหลานพาหลี่โม่เข้ามา ญาติหลายคนของตระกูลกู้เริ่มเยาะเย้ย และถากถาง“หยุนหลาน ทำไมเธอถึงพาขยะแบบนั้นมาด้วยล่ะ?”“โชคร้ายเสียจริง ขนาดมาทานอาหารยังต้องมาเจอกับคนไร้ค่าแบบนี้!”“ทำไมถึงรู้สึกว่า คนบางคนเป็นเหมือนสุนัขเลยนะ หยุนหลานไปที่ไหน เขาก็จะตามไปที่นั่นด้วย”ทุกคนหัวเราะเยาะ บนใบหน้าแสดงความประชดประชันอวดร่ำอวดรวยกู้เจี้ยนหมินและหวังฟางที่มาถึงก่อนหน้านี้แล้ว ต่างนั่งอยู่ที่นั่นด้วยความอับอาย และความโกรธ เขาจ้องไปที่หลี่โม่อย่างโมโหช่างเป็นคนอ่อนแอ และไร้ความสามารถเสียจริง!ผู้ชายแบบนี้ไม่คู่ควรกับหยุนหลานเลย!หวังฟางตัดสินใจแล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจะแยกสองคนนี้ออกจากกันให้ได้ลูกสาวของตนจะต้องได้แต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวย และกลายเป็นนายหญิง!คิ้วสวยของกู้หยุนหลานย่น เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ดึงหลี่โม่ให้นั่งลงตรงที่นั่งที่ยังว่างอยู่กู้ชิงหลินที่กำลังนั่งดูไลฟ์สดเครื่องสำอางอยู่ด้านข้าง ตะโกนอย่างตื่นเต้นว่า “โอ้พระเจ้า ซื้อเลย
หลังพูดจบเขาก็ทิ้งเศษกระดูกลงบนพื้นให้สุนัขดูถูกเหยียดหยามกันเกินไปแล้วกู้หยุนหลานที่กำลังจะลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ แต่มืออันอบอุ่นขนาดใหญ่กลับดึงมือเล็ก ๆ ของเธอไว้เธอหันหน้ากลับไปเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของหลี่โม่ เขาส่ายหัวเล็กน้อยและพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “ช่างมันเถอะ”กู้หยุนหลานรู้สึกน้อยใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เธอจ้องไปที่หลี่โม่ด้วยแววตาขุ่นเคือง ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาเขาจะทำตัวไร้ประโยชน์ไปอีกนานแค่ไหน!ทุกคนพูดขนาดนั้นแล้ว เขายังสงบอยู่อีก!ช่างเถอะ กู้หยุนหลานก็ไม่อยากจะสนใจเรื่องของเขาแล้ว เธอหันหน้ากลับโดยไม่มองหน้าหลี่โม่ และดึงมือของเธอกลับมาด้วยเช่นกันคุณท่านกู้พูดขึ้นมาสองสามคำเพื่อให้ทุกคนหยุดทะเลาะกันสุดท้ายแล้วการพูดถึงเรื่องนี้มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรแต่ทว่าหลานสาวของตระกูลกู้บางคนกลับมีความคิดภายในใจโผล่ขึ้นมาชายหนุ่มที่ร่ำรวยตกหลุมรักผู้หญิงไร้ยางอายอย่างกู้หยุนหลานจริง ๆ เหรอ?เป็นไปไม่ได้!ไม่ได้ ต้องเอาคืน!ขณะเดียวกันกู้ชิงหลินที่กำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ก็ตะโกนขึ้นมาว่า “คุณปู่ ฉันรู้แล้วว่าใครคือตระกูลหลี่ที่ร่ำรวยคนนั้นที่ส่งของมาให้เร
กู้ชิงหลินจ้องหน้าหลี่โม่ราวกับว่าเขาเป็นคนโง่เง่า เธอยกมุมปากขึ้น และพ่นลมหายใจ “เฮ้อ หลี่โม่ นายหมายถึงอะไร? ทำไมล่ะ นายคือคุณชายหลี่ที่ร่ำรวยคนนั้นเหรอ?”หลี่โม่ส่ายหัว และหัวเราะเบา ๆ “ไม่แน่”ฮ่าฮ่าฮ่า!ทันใดนั้นเสียงหัวเราะเยาะเย้ยก็ดังกังวานไปทั่วทั้งห้องโถงของบ้านต้นตระกูลกู้“ไอ้บ้า! หลี่โม่คนนี้บ้าไปแล้ว พูดออกมาได้ไม่อายปาก”“ช่างไร้ยางอายซะจริง เขาคงอยากจะมีชื่อเสียงบ้างล่ะมั้ง แต่ก็ทำได้แค่คิดจนบ้าไปแล้ว”“โธ่ กู้หยุนหลาน มีสามีแบบนี้โชคร้ายไปทั้งชาติ”เมื่อเผชิญกับเสียงเยาะเย้ยดูถูกของกลุ่มคนตรงหน้า หลี่โม่กลับเงียบและไม่สนใจมดพวกนี้ไม่รู้เสียแล้วว่า คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าพวกเขาก็คือ คุณชายหลี่จากตระกูลร่ำรวยที่พวกเขากำลังยกย่อง และเชิดชูอยู่!ทันใดนั้นแม่ยายหวังฟางก็ยืนขึ้น เธอชี้ไปที่หลี่โม่ และสาปแช่ง “หลี่โม่ แกหุบปากซะ! แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดที่นี่?แกไม่อาย แต่ฉันอาย!”หวังฟางโมโหจนอกจะแตกตายอยู่แล้ว!หลี่โม่คนนี้ชอบทำให้ตนเองขายหน้าเสียจริงเขาไม่มีความละอายใจบ้างหรือไง?หรือว่าเขาจะมีความสุขหากคนอื่นมองว่าพวกตนต่ำต้อย?ขยะก็คือขยะอยู่วันยังค่ำ!คืนนี้ก
เธอจ้องไปที่กู้ซิ่งเหว่ยซึ่งกำลังมีความสุขอย่างโกรธจัด ในที่สุด กู้ซิ่งเหว่ยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง!ฮ่าฮ่าฮ่า!“กู้หยุนหลานเป็นไงล่ะ โกรธมากใช่ไหม อยากทำร้ายฉันเหรอ? ฮ่าฮ่า เธอยังหวังให้ผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างนั้นเหรอ? ฉันจะบอกให้นะ ไม่มีวันนั้นหรอก เธอจะต้องโดนเหยียบอยู่ใต้เท้าฉันตลอดไป!” กู้ซิ่งเหว่ยยิ้มอย่างมีชัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นท่าทางอยากจะร้องไห้ของกู้หยุนหลาน เขากลับรู้สึกสะใจมากยิ่งขึ้นไปอีก“กู้ซิ่งเหว่ย นายมันไอ้คนน่ารังเกียจ สัญญานี้เดิมทีมันเป็นของฉัน!” กู้หยุนหลานตะโกนอย่างไม่พอใจกู้ซิ่งเหว่ยยักไหล่แล้วพูดว่า “แล้วไงล่ะ คุณปู่เป็นคนขอให้ฉันรับช่วงต่อ เธอยังมีความคิดเห็นอะไรอีกไหม? จริง ๆ ฉันต้องขอบคุณเธอมากนะ ถ้าเธอไม่ได้สัญญานี้มา ฉันคงไม่มีโอกาสที่จะรับผิดชอบความร่วมมือนี้ แต่เธอไม่ต้องกังวลนะ เธอไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือฉันหรอก เพราะยังไงซะ เธอก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับความร่วมมือนี้อีกแล้ว”กู้หยุนหลานโมโหมาก เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และออกจากบ้านต้นตระกูลกู้ไปกู้ซิ่งเหว่ยยังคงตะโกนยั่วโมโหตามหลัง “กู้หยุนหลาน จริง ๆ แล้วเมื่อก่อนคุณปู่ช
ณ อาคารฮั่นซิน!อาคารสูงสามร้อยเมตรนี้เป็นอาคารที่สูงที่สุดในเมืองฮั่น!ซึ่งสามารถชมวิวมุมสูงของเมืองฮั่นได้จากที่นี่ แม้แต่แม่น้ำฮั่นก็สามารถมองเห็นได้ฮั่นซินกรุ๊ปเป็นเจ้าของอาคารหลังนี้อาคารหลังนี้ รวมถึงฮั่นซินกรุ๊ปเป็นกลุ่มองค์กรที่ก่อตั้ง และลงทุนโดยชายที่ร่ำรวยที่สุดในฉู่โจวในเมืองฮั่น ฮั่นซินกรุ๊ปเป็นกลุ่มองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ และเป็นหนึ่งในห้าร้อยบริษัทชั้นนำของโลกที่ติดหนึ่งในท็อปหนึ่งร้อยอันดับแรกด้วยเบื้องหลังและความแข็งแกร่งที่มั่นคง!ทั้งเมืองฮั่น ไม่มีใครกล้าที่จะเหิมเกริมกับกลุ่มคนพวกนี้ในตอนนี้ ชั้นบนสุดของบริษัทฮันซินกรุ๊ปเป็นสำนักงานของประธานฮั่นซินกรุ๊ป ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบโบราณ และยังเป็นสถาปัตยกรรมทางตอนใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียงทั้งสะพานเล็ก ๆ ที่มีทางน้ำไหล และศาลาที่เป็นหอคอย ทั้งหมดราคาประมาณหนึ่งพันล้านบาท!หลี่โม่ยืนเอามือไขว้หลัง เขายืนอยู่ที่หน้าหน้าต่างบานใหญ่ ซึ่งมองออกไปจะเห็นวิวครึ่งหนึ่งของเมืองฮั่นในตอนกลางคืน และแสงนีออน เขาหยิบเหรียญทองคำที่มีลายแกะสลักมังกร และทาสีไว้พร้อมกับข้อความที่คลุมเครือ และโยนมันลงบนโต๊ะด้านหน้า ซึ่งมีเฉียนฝูยืนอ
ทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในเมืองฮั่นทั้งเล็ก และใหญ่ต่างเพ่งเล็งไปที่นายน้อยหลี่ผู้ร่ำรวยและลึกลับ!ช่างน่าทึ่งมาก!องค์กรวิจัยยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองด้วยเงินลงทุนสองหมื่นล้าน!ตอนนี้ เรื่องซุบซิบเกี่ยวกับนายน้อยหลี่ผู้ร่ำรวยและลึกลับ ต่างก็ถูกแพร่กระจายไปทั่วทุกถนนและตรอกซอกซอยต่าง ๆ แน่นอนว่า ไม่มีใครรู้ถึงตัวตนและภูมิหลังของนายน้อยหลี่ผู้ลึกลับคนนี้รู้แค่ว่ามาจากที่อื่นบ่ายวันนั้น นายน้อยหลี่ผู้ลึกลับได้ก่อตั้งหยุนจงหลานกรุ๊ป ซึ่งได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการบุคคลระดับสูงในเมืองฮั่นต่างก็ได้รับเชิญให้ไปเข้าร่วมในพิธีตัดริบบิ้น และเปิดตัวของบริษัทสื่อต่าง ๆ รีบรายงานว่า หยุนจงหลานกรุ๊ปสร้างความฮือฮาให้เมืองไปชั่วขณะหนึ่ง และกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็กำลังคุยกันอย่างเมามันเกี่ยวกับนายน้อยหลี่ผู้ลึกลับ และหยุนจงหลานกรุ๊ป เป็นผลทำให้กลายมาเป็นข่าวดังอีกครั้งทันที!หยุนจงหลานกรุ๊ปได้ซื้อพื้นที่รกร้างในเขตทางใต้ของเมืองฮั่นและได้กำหนดที่ตั้งขององค์กรวิจัยด้านเภสัชกรรม!ทันทีที่มีข่าวออกมา ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเขตทางใต้ของเมืองฮั่นก็พุ่งสูงขึ้