ในขณะนี้ ฉวีเทียนไห่อยู่ในห้องส่วนตัว โดยถือโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเย็นชาขณะที่เขาพูดว่า "อย่าให้มีอะไรผิดพลาด ไม่อย่างนั้น พวกนายจะไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว!"ฉวีเทียนไห่เตรียมแผนนี้มาเป็นเวลานานมากทีเดียวไม่ยอมให้ขาดทุนไปง่าย ๆ หรอกวันนี้จะต้องจัดการกู้หยุนหลาน พร้อมกันกับจัดการหลี่โม่ไปด้วยทีเดียวเลย!“ประธานฉวี ไม่ต้องห่วงน่า ผม หม่าคุนจะจะจัดการให้ รับประกันว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด วันนี้คุณก็แค่ตั้งใจรอที่จะสนุกกับสาวน้อยคนนั้นก็พอแล้ว”เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยราคะของหม่าคุนก็ดังมาจากโทรศัพท์ฉวีเทียนไห่ขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา “จัดการแค่ที่สั่งไปก็พอ เรื่องอื่นนายไม่จำเป็นต้องมายุ่ง”เขาไม่ชอบน้ำเสียงของหม่าคุนเอาเสียเลยผู้ชายคนนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่า เขาเป็นพวกกามวิตถาร แต่ฉวีเทียนไห่ก็จำเป็นต้องใช้เขา เพราะเขาเชื่อถือได้ประตูห้องส่วนตัวถูกเปิดออก จากนั้นหลี่โม่และกู้หยุนหลานก็เดินเข้ามาฉวีเทียนไห่วางสายทันที พร้อมกับลุกขึ้นและทักทายด้วยรอยยิ้ม “หยุนหลาน มาแล้วเหรอ”เมื่อเขาเห็นหลี่โม่ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไป และสีหน้าก็แข็งทื่อทันที เขาพูดอย่างเย็นชา “หลี่โม่ นั
ฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ของพวกเขา หลี่โม่ก็ขมวดคิ้ว จากนั้นใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นหม่าคุนรู้สึกอึดอัดมากกับท่าทีไม่รู้เรื่องรู้ราวของหลี่โม่ เขาเตะหลี่โม่แล้วชี้หน้า พูดอย่างดุเดือด “ไอ้สารเลว แกหาผู้หญิงไม่ได้รึไง? ถึงได้กล้ามายุ่งกับผู้หญิงของหม่าคุน สงสัยรนหาที่ตายสินะ!”ตาของหลี่โม่เฉียบแหลม เขาจ้องไปที่ผู้หญิงที่ยังคงสะอื้นและร้องไห้อยู่ข้าง ๆ หม่าคุน และพูดอย่างเย็นชา “เธอบอกพวกเขาไปสิว่า เธอบุกเข้ามาเอง!”ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้สะอื้น เธอชี้ไปที่หลี่โม่ แล้วโต้กลับ “พี่คุนคะ เขาโกหก เมื่อกี้ตอนอยู่ข้างนอก เขาจ้องมองมาที่ขาของฉัน แล้วพูดว่า... ขาสวยมาก ตอนที่ฉันอยู่ในห้องน้ำ เขาจะกระโดดมาจากด้านหลัง มากอดและดึงฉันเข้าไป ฉัน… ฉันเกือบจะ…”“ให้ตายเถอะ! นี่แกยังบอกว่าแกไม่ได้ทำอีกเหรอ?” หม่าคุนโกรธจัด เขาตบหัวของหลี่โม่และโวยวายยกใหญ่ “ไอ้เวร วันนี้แกเสร็จแน่”ในเวลานี้ ฉวีเทียนไห่รีบพากู้หยุนหลานเข้ามาเมื่อเห็นแบบนี้ ฉวีเทียนไห่ก็รู้สึกประหลาดใจ และถามว่า “หลี่โม่ เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”กู้หยุนหลานรู้สึกใจสลายเช่นกัน เธอได้ยินทุกการเคลื่อนไหว และตอนนี้ เธอก็เห็นฉากในห
ในคฤหาสน์ ชูจงเทียนกำลังคุยกับคนสนิทสองสามคนครั้งสุดท้ายที่กำจัดโหวหยวนหย่ง โอกาสอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ทำให้ชูจงเทียนไม่สามารถจัดการมันทั้งหมดในคราวเดียวได้ เขาจึงต้องปรึกษาหารือกับพี่น้อง เพราะท้ายที่สุด มันเป็นเรื่องของสถานที่หลายสิบแห่ง ที่มีความสนใจและเครือข่ายสำคัญอยู่เบื้องหลังมากมาย เขาจึงต้องรวบรวมมันไว้ด้วยกันขณะนี้ เมื่อเห็นฉินรั่วรั่ววิ่งเข้ามาอย่างกังวลใจ ชูจงเทียนก็เลิกคิ้วและถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? ตื่นตระหนกมาเชียว!”“พระเจ้า คุณหลี่ถูกจับค่ะ” ฉินรั่วรั่วพูดด้วยความกังวล “ฉันเพิ่งกลับมาจากข้างนอกและได้ยินจากพี่น้องของฉันว่า คุณหลี่ถูกจับที่ภัตตาคารเซียงเสว่ไห่”ชูจงเทียนยืนขึ้นด้วยความโกรธ เขาถามต่อว่า “เธอว่าไงนะ คุณหลี่จะถูกจับได้ยังไงกัน เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง?”“ฉันได้ยินมาว่า คุณหลี่จะข่มขืนผู้หญิง แล้วถูกจับในที่เกิดเหตุ แต่ตามที่พวกพี่น้องเล่ามา หล่อนเป็นผู้หญิงที่มีลักษณะตัวเล็ก ๆ ของหม่าคุน ฉันได้ตรวจสอบแล้ว พวกเขาเป็นพวกเล่นสกปรก มันน่าจะวางแผนใส่ร้ายคุณหลี่ครับ” ฉินรั่วรั่วกล่าวอย่างกังวลใจมากเช่นกัน“หม่าคุนเหรอ?” ชูจงเทียนดูสับสนและพูดพึมพำ “ฉันไม่
เฉียนฝูโกรธจัด เขาตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นอย่างโกรธเคือง แววตาของเขาเดือดพล่าน! ชูจงเทียนตัวสั่นด้วยความตกใจแทบจะทรงตัวไม่อยู่ เขาไม่เคยรู้สึกถึงแรงโกรธของเฉียนฝูมากขนาดนี้มาก่อนชายคนนี้เป็นมิตรและเข้าถึงง่ายเสมอมา“พบแล้วค่ะ คนพวกนี้เป็นอันธพาล หัวหน้าแก๊งชื่อหม่าคุน ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังยังหาไม่พบค่ะ” เลขารีบตอบ“โทรหาเซี่ยงหย่งกั๋ว ให้ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้ และหาตัวคนอยู่เบื้องหลังให้เจอ!”ดวงตาของเฉียนฝูหรี่ลง น้ำเสียงของเขาฟังดูดุดัน!ฉู่โจว พื้นที่คฤหาสน์หยูหลงวานชายวัยกลางคนวัยสี่สิบห้าสิบผู้ดูมีอำนาจและสง่างาม เขาสวมใส่ชุดจีนโบราณสีเทา กำลังเล่นหมากรุกกับชายวัยสามสิบกว่าที่สวมชุดต่อสู้ทหารที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองไปรอบ ๆ ก็จะเห็นได้ว่า ทั้งภายในและภายนอกคฤหาสน์แห่งนี้ มีผู้ชายหลายคนสวมชุดต่อสู้ทหารยืนเฝ้าอยู่ตรงทางเข้าออกอย่างเข้มงวด ขณะนี้ ทหารคนหนึ่งรีบเข้ามาและกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของชายชุดจีนโบราณปัง!ตัวหมากรุกถูกบดขยี้จนแตกละเอียดคามือ!ชายชุดจีนโบราณคนนี้ สายตาของเขาช่างเยือกเย็น เขาตะโกนว่า “ทีมบังคับใช้กฎหมายของเมืองฮั่นทำอะไรกันอยู่? เรื่องนี้ยังตรวจสอบไม่ทันแน่
ฉวีเทียนไห่ยิ้มอย่างพึงพอใจและนั่งสบาย ๆ พูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย “ผมจะไม่ขอให้หัวหน้าทีมเฉาทำอะไรที่ผิดกฎหมายหรอก แค่ปล่อยให้เขาอยู่ที่นี่อีกสักสองสามวัน ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ได้ก่ออาชญากรรม และเราต้องจัดการอย่างยุติธรรมโดยมีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด ถูกไหมล่ะครับ หัวหน้าทีมเฉา?”ฉวีเทียนไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยการสมรู้ร่วมคิดอย่างมีชัยเฉาหัวเจิ้งคนนี้ พ่ายแพ้แก่ภรรยาของเขาเสียแล้วนี่คือจุดอ่อนของเขาเฉาหัวเจิ้งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเขาจับจ้องไปที่ฉวีเทียนไห่ แล้วจึงพยักหน้าตอบ “ตกลง” สิบนาทีต่อมา เฉาหัวเจิ้งก็เก็บข้อมูลและมาที่ห้องผู้กำกับเขาเคาะประตู และได้รับอนุญาตให้เข้าไปขณะนี้เซี่ยงหย่งกั๋วผู้กำกับหน่วยบังคับใช้กฎหมายแห่งเมืองฮั่นกำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการเขาเป็นข้าราชการที่ดีของราษฎรที่ทำงานจนดึกดื่น “เสี่ยวเฉา มีอะไรหรือเปล่า มาหาฉันซะดึกเชียว” เซี่ยงหย่งกั๋วถามด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและเป็นมิตร เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมาเป่าแล้วจิบชาเซี่ยงหย่งกั๋วประทับใจเฉาหัวเจิ้งมาก เขาพิถีพิถันและใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เขาเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีแ
พวกลูกน้องมัวทำอะไรอยู่!เซี่ยงหย่งกั๋วโกรธมาก ขณะเดียวกันก็ตื่นตระหนกด้วย“ผู้กำกับเซี่ยงขอบคุณที่ช่วยนะ ปีหน้าฉันวางแผนที่จะลงทุนในการสร้างโรงเรียนพิเศษเพื่อสนับสนุนเสถียรภาพทางสังคมและการพัฒนาของเมืองฉั่น” เฉียนฝูพูดหา?!เซี่ยงหย่งกั๋วตะลึง!สร้างโรงเรียน?!ตกใจสุด ๆ !“ขอบคุณประธานเฉียน สำหรับการสนับสนุนการทำงานของพวกเราที่ดีเสมอมา! ผมจะจัดการดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเอง รอสักครู่ แล้วคุณจะได้คำตอบที่น่าพอใจอย่างแน่นอน!”เซี่ยงหย่งกั๋วขอบคุณเสร็จ ก็ที่รีบวางสายทันที เขาหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อบรรคลายความตกใจเมื่อสักครู่เซี่ยงหย่งกั๋วแทบรอไม่ไหวที่จะสวมเครื่องแบบและใส่หมวก จากนั้นก็ออกไปนอกจากความตื่นเต้น ก็ยังมีความโกรธอยู่!แม้แต่นายน้อยของประธานฝู พวกเขายังกล้าดีไปจับกุมตามอำเภอใจ คนพวกนี้ ช่างกล้านัก!ขณะนี้โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งเซี่ยงหย่งกั๋วรู้สึกกังวลใจจริง ๆ จากนั้นจึงคว้ามือถือ แล้วพูดอย่างกังวล “ใครครับ รบกวนโทรมากลับมาใหม่ทีหลังนะครับ?”อารมณ์ไม่ค่อยเป็นมิตรเลยทีเดียวทว่า กลับได้ยินเพียงเสียงถอนหายใจที่ปลายสาย “เเหม เซี่ยงหย่งกั๋ว เดี๋ยวนี้แกกล้าตะโกนใส่ฉันแล้
ตอนนี้เฉาหัวเจิ้งงงเป็นไก่ตาแตก เขาไม่คิดว่าเซี่ยงหย่งกั๋วจะโกรธเป็นไฟขนาดนี้!เขาไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนในฐานะเป็นผู้มีประสบการณ์ทำงานมาหลายปี เฉาหัวเจิ้งเข้าใจทันทีว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น!หรือว่าชายหนุ่มที่ถูกจับมาจะมีเบื้องหลังที่น่ากลัว?!“ผู้กำกับเซี่ยงนี่อะไรครับ?” เฉาหัวเจิ้งหันหน้าไปถามเซี่ยงหย่งกั๋วจ้องกลับและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ยังจะกล้าถาม! ก็แกทำเรื่องสิ้นคิดไปยังไงล่ะ! เขาอยู่ไหน? ปล่อยตัวเขา พาฉันไป! เดี๋ยวนี้!” เฉาหัวเจิ้งนี้ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้เท่าไหร่นักเขาทำงานมาก็หลายปีแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะเกิดอะไรแบบนี้เฉาหัวเจิ้งรู้ว่าเซี่ยงหย่งกั๋วโกรธมาก จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรชักช้า เขาจึงรีบนำทางและมาที่ห้องสอบสวนในเวลานี้ ในห้องสอบสวน หลี่โม่นั่งอย่างสงบ เขาหลับตาและพักผ่อนอยู่เขาดูไม่กังวลสักนิดเลยเพราะเรื่องนี้ เขาไม่ผิดแน่นอนว่า ต้องมีคนจัดการเรื่องนี้ให้เขา เขาก็แค่ต้องวางใจและรอทว่า หลี่โม่กำลังคิดเรื่องหนึ่ง เรื่องนั้นก็คือจะจัดการกับฉวีเทียนไห่อย่างไรร่องรอยแบบนี้ คนอื่นมองไม่ออก แต่หลี่โม่รู้ว่าฉวีเทียนไห่เป็นคนทำแน่นอนคิดไม่ถึงเลยว
“ฉวีเทียนไห่ แปลกใจใช่ไหมล่ะ ที่เป็นฉันน่ะ?” เสียงที่คุ้นเคย ทำให้ฉวีเทียนไห่ตัวสั่นไปทั้งตัว มือและเท้าของเขาเย็นเฉียบ เหงื่อเม็ดใหญ่บนหน้าผากของเขาก็ผุดลงมา“หลี่โม่! ทำไมแกถึง…”คำพูดของฉวีเทียนไห่ติดอยู่ในลำคอของเขา!นี่คือการโทรศัพท์ของหม่าคุน แต่ตอนนี้หลี่โม่กลับเป็นคนที่กำลังรับสาย แม้แต่สมองหมูก็รู้ว่านี่มันผิดปกติ“หม่าคุนอยู่ที่ไหน?” ฉวีเทียนไห่ถามด้วยความตื่นตระหนก“หน้าประตูบ้านนาย”หลี่โม่พูดอย่างใจเย็น จากนั้นก็มีเสียงร้องอ้อนวอนออกมาจากโทรศัพท์ฉวีเทียนไห่ตกใจขึ้นมาทันที เขารีบลุกขึ้นจากโซฟาในห้องนั่งเล่น พลันวิ่งไปที่หน้าต่างอย่างรวดเร็ว และมองออกไปนอกหน้าต่างกระจก เมอร์เซเดสเบนซ์สีดำ 2 คันกับไฟท้ายสีแดง จอดอยู่ที่ทางเข้าบ้านที่ด้านหน้ารถ มีชายคนหนึ่งกำลังยืนพิงอยู่ เขาสูบบุหรี่ นี่ทำให้ฉวีเทียนไห่ตื่นตระหนกไปหมดหลี่โม่!ทำไมเขามาเร็วขนาดนี้? ปัง!ฉวีเทียนไห่ยังไม่ทันได้โต้ตอบ ประตูบ้านก็ถูกเปิดอย่างแรง จากนั้นชูจงเทียน ก็พาพวกบุกเข้าไปทันที!กลุ่มคนเข้ามาควบคุม และล้อมรอบห้องนั่งเล่นที่ชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็วผลัวะหม่าคุนถูกปิดปากด้วยเทปสีเขียว ถูก
คังหย่งอันกดหมายเลขของคังหย่งเฉียน แล้วพูดเสียงเข้ม "หย่งเฉียน ฉันได้ยินมาว่า แกกับเหวินซินมีปัญหากันเรื่องวิลล่าบนยอดเขาเหรอ?" “พี่ใหญ่ มีปัญหากันน่ะสิ ศิษย์พี่เกิ่งยังถูกทำร้ายจนเข่าหักแล้ว! ศิษย์พี่เกิ่งติดต่อกับอาจารย์โอวหยางไปแล้ว เรื่องนี้อภัยให้ไม่ได้แน่นอน!” คังหย่งเฉียนโกรธแค้นคังเหวินซิน ถ้าไม่ใช่เพราะคังเหวินซินพาหลี่โม่ไปที่นั่น เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คังหย่งเฉียนเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำได้เพียงเอาความโมโหไปลงที่คังเหวินซินเท่านั้น “หย่งเฉียน ไม่ว่ายังไงก็ตาม แกต้องรับรองความปลอดภัยของเหวินซิน ฉันไม่สนว่า อาจารย์โอวหยางพวกเขาจะทำอะไรกับเพื่อนของเหวินซิน แต่พวกเขาจะทำร้ายเหวินซินไม่ได้เด็ดขาด!” “พี่ใหญ่ ฉันไม่กล้ารับประกันหรอก รับประกันได้แค่ลูกชายของพี่จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงตายเท่านั้น ถ้าอาจารย์โอวหยางต้องการลงโทษลูกชายของพี่จริง ๆ ฉันจะไปขวางได้ยังไง ฉันขวางไม่ได้หรอก ไม่กล้าขวางด้วย!" คังหย่งอันขมวดคิ้วแน่น หากคังหย่งเฉียนอยู่ต่อหน้าคังหย่งอันในตอนนี้ คังหย่งอันจะต้องตบเขาให้ตายคามือแน่นอน “หย่งเฉียน! แกเป็นอาข
“ไอ้บัดซบเอ๊ย! ใครกล้ามาต่อกรกับฉันโอวหยางจื้อ มันผู้นั้นจะต้องตาย!” โอวหยางจื้อพึมพำอย่างด้วยความอาฆาตแค้น แล้วสั่งให้ลูกศิษย์ไปจองตั๋วเครื่องบิน ...... คังเหวินซินมาส่งหลี่โม่และคนอื่น ๆ ที่บ้าน หลังจากมองดูทั้งสามเดินเข้าไปข้างในแล้ว จึงสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างช้า ๆ “อาเล็กถูกจัดการจนหมดท่าแล้ว ต้องบอกพ่อสักคำไหมนะ อาเล็กจะได้ไปตีไข่ใส่สีอีก” หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง คังเหวินซินก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขพ่อของเขาคังหย่งอัน “ฮัลโหล พ่อครับ ผมเพิ่งจะขายวิลล่าบนยอดเขาที่สวนหนานชุ่ยให้เพื่อผมไป ขายราคาต้นทุนน่ะครับ” คังหย่งอันขมวดคิ้ว "นั่นเป็นวิลล่าที่อาเล็กของแกจะเอาไม่ใช่เหรอ แกเอาไปให้เพื่อนได้ยังไง? ผู้จัดการฝ่ายขายว่ายังไงบ้าง?" คังเหวินซินอึ้งครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความผิดปกติในคำพูดของคังหย่งอัน "พ่อ พ่อรู้ได้ยังไงว่าอาเล็กอยากได้วิลล่านั่น?” “อาเล็กของแกเคยบอกพ่อว่า วิลล่าหลังนั้นเป็นของขวัญที่เขาจะเก็บไว้ให้กับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศโอวหยางจื้อ แกคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโอวหยางจื้อมาบ้างใช่ไหม? เขาเคยรับหน้าที่เป็นผู้กำกับฉากแอ็คชั่นให้กับภาพย
ในแผนกดูแลพิเศษของโรงพยาบาล คังหย่งเฉียนและคนอื่น ๆ นั่งล้อมรอบเตียง มองดูพี่เกิ่งค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ เข่าที่หักของพี่เกิ่งได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่หลังการผ่าตัด พี่เกิ่งจะได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็นเท่านั้น “ซี๊ด ขากับเข่าฉันเป็นยังไงบ้าง?” พี่เกิ่งถามอย่างร้อนใจ “ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล ผ่าตัดเสร็จแล้ว เพียงแต่ระดับการรักษาของที่นี่ยังต่ำไปหน่อย หลังจากฟื้นตัวแล้วพี่ต้องนั่งรถเข็น” คังหย่งเฉียนพูดเสียงเบาหวิว “ไอ้บัดซบ! ฉันไม่อยากนั่งรถเข็น! ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!” พี่เกิ่งคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว รู้สึกเลวร้ายไปทั้งร่างกาย ชีวิตบนรถเข็น ไม่ใช่ชีวิตที่พี่เกิ่งต้องการเลย ถ้าต้องนั่งรถเข็นแล้ว ต่อไปจะฝึกศิลปะการต่อสู้ หรือออกไปรังแกคนอื่นอย่างไร แล้วจะไปจีบสาว ๆ ได้อย่างไร! “ฉันจะย้ายโรงพยาบาล ฉันจะไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด!” “พี่เกิ่งอย่าเพิ่งตื่นตูม หมอบอกว่า รอพี่ฟื้นตัวดีแล้ว ก็สามารถทำการผ่าตัดครั้งที่สองในโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้เพื่อเปลี่ยนข้อต่อเทียมได้” คังหย่งเฉียนปลอบใจพี่เกิ่งไปพลางก็ขยิบตาให้กับพวกพี่น้องคนอื่น ๆ ส่งสัญญาณให้พวกเขารีบมาช่วยกันโน้มน้าว ศิษย์พี่ห
พี่เกิ่งร้องโหยหวนออกมา รู้สึกว่าขาซ้ายพลิกกลับไปด้านหลัง พลันสูญเสียการทรงตัวและล้มหงายไปข้างหลังทันที พลั่ก พี่เกิ่งล้มหงายลงกับพื้น ปากก็ร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา คังหย่งเฉียนถูกกระตุ้นด้วยเสียงร้องของพี่เกิ่งจนตัวสั่นไปทั้งตัว เสียงวิ้ง ๆ ที่ดังอยู่ในหัวยิ่งชัดเจนขึ้นมาทันใด คังหย่งเฉียนกุมใบหน้าที่บวมแดงไปครึ่งหนึ่งมองไปทางศิษย์พี่เกิ่ง ดวงตาของคังหย่งเฉียนก็แทบจะหลุดออกจากเบ้า ศิษย์พี่เกิ่งที่คังหย่งเฉียนเคยคิดว่า แข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้น ตอนนี้กำลังร้องคร่ำครวญราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะตาย เมื่อมองขาขวาของพี่เกิ่งหักงอในองศาที่ผิดธรรมชาติ คังหย่งเฉียนก็รู้สึกว่า เลือดทั่วร่างกายเย็นเฉียบขึ้นมา นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์สามารถทำได้อย่างนั้นเหรอ? นี่เป็นผลลัพธ์ที่สามารถใช้กำปั้นทำได้เหรอ? นี่มันซูเปอร์ไซย่าในตำนานหรืออย่างไรกัน?! พวกศิษย์น้องของพี่เกิ่งหลายคนต่างหวาดกลัวกับความเผด็จการของหลี่โม่ ทั้งกลุ่มพลันหมดความโอหังไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาลากพี่เกิ่งขึ้นมาจากพื้นแล้ววิ่งตะบึงออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่คำพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้คือศิษย์
คังเหวินซินรออยู่สามวินาที แต่ละวินาทีราวกับยาวนานเป็นปี รออยู่นานฝ่ามือของพี่เกิ่งก็ยังไม่ตบลงมาสักที คังเหวินซินจึงลืมตาขึ้น เมื่อเอียงหน้ามองเห็นฝ่ามือของพี่เกิ่งอยู่ห่างจากหน้าตนแค่เฉียดฉิว หัวใจของคังเหวินซินแทบจะกระโดดออกมาจากปาก หลังจากที่เห็นข้อมือของพี่เกิ่งถูกหลี่โม่คว้าไว้ คังเหวินซินถึงได้รู้สึกว่า หัวใจของตัวเองกลับเข้าที่ได้แล้ว คังเหวินซินที่สงบลงแล้ว รีบถอยไปหลบด้านหลังหลี่โม่ แล้วร้องตะโกนด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง "อาจารย์!" “นายอย่าร้องไห้น่าสมเพชนักสิ มันทำฉันขายหน้านะ” หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม คังเหวินซินตะลีตะลานเช็ดเบ้าตา ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมา พี่เกิ่งจ้องมองหลี่โม่อย่างโมโห แอบพยายามดึงข้อมือของตัวเองกลับมาอย่างลับ ๆ แต่ไม่ว่าพี่เกิ่งจะพยายามออกแรงแค่ไหน มือของหลี่โม่ก็ราวกับคีมปากเสือหนีบข้อมือของพี่เกิ่งเอาไว้แน่น จนข้อมือของพี่เกิ่งไม่มีทางสลัดหลุดได้เลย “ปล่อยมือฉัน!” พี่เกิ่งตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว “แกบอกให้ปล่อยก็ต้องปล่อยเหรอ? แกน่าจะอธิบายเรื่องที่จะลงไม้ลงมือกับลูกศิษย์ฉันเมื่อกี้นี้มาสักหน่อยไหม?” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา คังเหวินซินส
กู้หยุนหลานมองไปยังหลี่โม่อย่างประหลาดใจ เมื่อเห็นหลี่โม่ขยิบตาให้ เธอจึงไม่พูดอะไรและเก็บความสงสัยไว้ในใจ ผู้จัดการหวังโบกมือให้พนักงานขายสาว พนักงานสาวที่ถือสัญญาอยู่แล้วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการหวัง นี่เป็นสัญญาของวิลล่ายอดเขาค่ะ แต่ราคานี้มัน…” สีหน้าของพนักงานสาวดูบูดเบี้ยวเล็กน้อย ถ้าขายวิลล่านี้ออกไปในราคาต้นทุน เธอคงไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นเลยสักแดง! ที่ผ่านมาเศรษฐีในเมืองฮั่นจำนวนมากต่างก็ถูกใจวิลล่าแห่งนี้ แต่เพราะมีการปิดกั้นการซื้อขาย เลยไม่ได้ขายอย่างเป็นทางการ เดิมทีพวกพนักงานสาวนั้นเตรียมพร้อมที่จะทำกำไรมหาศาลด้วยการขายวิลล่าหลังนี้หลังจากที่เปิดการขายแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความฝันของพวกเธอกำลังจะมลายหายไปซะแล้ว “พวกเธอมีสิทธิ์พูดงั้นเหรอ? นี่คือการตัดสินใจของคุณชายใหญ่!” ผู้จัดการหวังตำหนิพนักงานขายสาว พนักงานสาวหดคอและปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอีก ผู้จัดการหวังเปิดสัญญาตรวจดู หลังจากยืนยันความถูกต้องแล้ว เขาก็ถือสัญญาเดินไปหาหลี่โม่ “อ่านสัญญาดูก่อนนะครับ หากไม่มีปัญหาอะไร เราจะไปเซ็นสัญญาที่สำนักงานของผมกัน ผมไม่สามารถนำตราประทับอะไรพวกนั้นพกติดต
“คุณชาย อย่ามาขู่ผมเลยครับ ผมไม่กลัวหรอกนะ สิ่งที่ผมพูดไปเมื่อครู่ล้วนมีเหตุมีผล หากไม่เชื่อก็ถามซินแสที่มาดูฮวงจุ้ยให้ได้เลยครับ คำพูดพวกนี้เขาเป็นคนพูดเองกับปากทั้งนั้น” ผู้จัดการหวังแข็งขืน ไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย หลี่โม่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม "เหวินซิน อย่าหุนหันพลันแล่น ผู้จัดการหวังพูดถูกแล้ว คนที่โชคชะตาบารมีไม่ถึง ไม่มีทางข่มพลังฮวงจุ้ยอันยอดเยี่ยมได้แน่นอน” คังเหวินซินพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "อาจารย์พูดถูกแล้วครับ แต่ด้วยบารมีของอาจารย์ จะต้องสามารถข่มมันได้อย่างแน่นอน พวกเรามาดูกันดีกว่า ที่นี่ล้วนได้รับการตกแต่งอย่างดี คุณหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย เหลือแค่ดูว่าวิลล่าหลังนี้ถูกใจคุณหรือเปล่าก็พอครับ” เมื่อเห็นคังเหวินซินพยายามเอาอกเอาใจหลี่โม่ ผู้จัดการหวังก็เกิดความสงสัยเล็กน้อย หรือว่าตนจะมองผิดไป? ผู้ชายที่สวมเสื้อผ้าแผงลอยทั้งตัวคนนี้ เป็นคุณชายเศรษฐีที่มาลองสัมผัสประสบการณ์ชีวิตงั้นเหรอ? ไม่อย่างนั้นทำไมคุณชายของตนถึงได้ไปประจบเอาใจเขาขนาดนี้กัน? “คุณชาย ท่านนี้คืออาจารย์ของคุณเหรอครับ?” ผู้จัดการหวังถามอย่างสงสัย “นี่คืออาจารย์ของฉันหลี่โม่ นายสุภาพกับอาจารย์ของฉัน
“ไอ้สารเลวคนไหนไม่ดูตาม้าตาเรือ กล้ามาแย่งวิลล่าของอาจารย์ พวกแกยังมัวแต่กินอะไรกันอีก ไปดูด้วยกัน จัดการไอ้พวกสารเลวนั่นซะ” “ศิษย์พี่เกิ่งพูดถูก พวกเราทุกคนต้องไปดูด้วยกัน บ้านของอาจารย์ต้องดีที่สุดเท่านั้น จะผิดพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว” ศิษย์พี่เกิ่งและคนอื่น ๆ พากันลุกขึ้นทีละคน เมื่อเห็นเช่นนี้คังหย่งเฉียนก็เรียกให้พนักงานคิดเงินทันที แล้วจึงพาพวกของศิษย์พี่เกิ่งมุ่งตรงไปยังสวนหนานชุ่ย ... รถเมอร์เซเดสเบนซ์ขับเข้าไปในสวนหนานชุ่ย และขับตรงไปตามทางขึ้นยอดเขา ใกล้กับยอดเขาของเขาหนานชุ่ยนั้นมีที่ราบอยู่บริเวณหนึ่ง ที่ราบนี้ถูกนำมาใช้สร้างวิลล่า พร้อมทั้งปลูกต้นไม้พืชพรรณเขียวชอุ่มรอบ ๆ วิลล่าอีกด้วย ด้านหน้าวิลล่ายังมีลำธารที่ไหลมาจากยอดเขา ทำให้ฮวงจุ้ยของวิลล่านี้ยอดเยี่ยมมากไร้ที่ติ หน้าน้ำหลังเขา ตำแหน่งปากมังกรจัดวางฮวงจุ้ยอย่างดี ทำให้วิลล่าบนยอดเขาหลังนี้เลิศล้ำไม่มีใครเทียม รถเมอร์เซเดสเบนซ์จอดสนิทหน้าประตูวิลล่ายอดเขา ผู้จัดการหวังและพนักงานขายสาวสองคนยืนรอที่ประตูวิลล่าอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นรถเบนซ์จอดนิ่ง ผู้จัดการหวังก็รีบวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปช่วยเปิดประตูรถ
ผู้จัดการหวังหยิบบุหรี่ออกมาคาบที่มุมปาก เตรียมจะสูบบุหรี่เพื่อสงบสติอารมณ์ คำขอของคังเหวินซินทำให้ผู้จัดการหวังตั้งตัวไม่ติด การจะดูบ้านมันไม่มีปัญหาหรอก แต่ถ้าอีกฝ่ายถูกใจขึ้นมาจริง ๆ จะทำอย่างไรล่ะ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องราคาต้นทุนหรือเปล่า ถ้าคังหย่งเฉียนเข้ามาครอบครองวิลล่าหลังนี้ เขาก็คงไม่ได้เงินเลยสักแดงเดียว พอนึกถึงคังหย่งเฉียนขึ้นมาผู้จัดการหวังรู้สึกปวดจี๊ด ๆ ขึ้นมา เจ้านั่นเป็นปีศาจเจ้าสำราญแห่งตระกูลคัง วัน ๆ เอาแต่เกียจคร้าน กินดื่มเที่ยวเล่น ยิ่งกว่านั้นยังคบค้ากับพวกอันธพาล ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสตระกูลคังก็ยังถูกคังหย่งเฉียนยั่วโมโหจนเส้นเลือดในสมองตีบ แทบทุกคนในตระกูลคังล้วนทำเป็นไม่สนใจคังหย่งเฉียน ตราบใดที่คังหย่งเฉียนไม่ได้ก่อปัญหา ก็ไม่มีใครสนใจว่า คังหย่งเฉียนจะทำอะไร ถ้าหากยกวิลล่าให้เพื่อนของคังเหวินซินจริง ๆ คังหย่งเฉียนคงจะพาคนมาสับเขาเป็นชิ้น ๆ ถึงที่แน่ หลังจากสูบบุหรี่หมดมวน ผู้จัดการหวังก็ขยี้ก้นบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ รู้สึกว่ายังไงก็ควรแจ้งให้คังหย่งเฉียนรู้สักหน่อย ส่วนคังหย่งเฉียนจะต่อสู้กับคังเหวินซินอย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องระหว่างพวกเขา