ทุกคนตกใจ และจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่จู่ ๆ ก็โผล่มาเขาดูเป็นผู้ชายธรรมดามาก แต่ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้?หรือว่า เขาอยากจะพระเอกที่มาช่วยสาวงาม?นี่มันสี่แสนนะ!หลายคนต่างดูถูกเหยียดหยามเขา!หนุ่มคนนี้แต่งตัวธรรมดา แต่ทำเป็นพูดเสียงดัง“ฮึฮึ เป็นแค่เด็กยากจน แต่อยู่ที่นี่ก็แกล้งทำเป็นคนรวย”“คงเป็นเพราะเห็นความสวยของเธอ ก็เลยพูดไม่คิดล่ะมั้ง”"เขาน่ะเหรอ? แต่งตัวอย่างกับคนขายของแผงลอย ดูเหมือนพวกขยะ"หลายคนเหยียดหยาม และเยาะเย้ยหลี่โม่โดยไม่สนใจความรู้สึกของเขาเลยซูหย่าเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาที่นองหน้า เธอเห็นหลี่โม่ก็รู้สึกอายทันที ในสายตาของเธอ หลี่โม่เป็นเพียงคนกระจอกขี้โม้ไร้ประโยชน์ เธอจะไม่โมโหได้อย่างไรที่เขามาเห็นเธอในสถานการณ์ที่น่าอับอายแบบนี้?และเธอก็คิดว่าหลี่โม่คงจะมาเยาะเย้ยเธอ!“หลี่โม่ นายมาทำอะไร? ไปซะ ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนาย!” ซูหย่าด่าด้วยความอับอายในขณะนี้เอง ซ่งเหวินเหวินก็วิ่งเข้ามาท่ามกลางฝูงชน“พี่หย่าหยา เกิดอะไรขึ้น?”“เหวินเหวิน…” เมื่อเห็นซ่งเหวินเหวินกำลังเดินมา ซูหย่าก็ร้องไห้ออกมา เธอกอดหล่อนไว้ และร้องไห้อย่างหนัก“
ในเวลานี้เอง จ้าวไห่อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวเข้าไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของซูหย่า ทำให้แก้มของซูหย่าแดงระเรื่อ และขาของเธอบิดเข้าหากันอย่างประหม่าจากนั้น จ้าวไห่ก็จงพูดอย่างเย็นชาว่า "สี่แสนใช่ไหม? ลงบิลฉันได้เลย เดี๋ยวฉันจัดการทีหลัง"พนักงานเสิร์ฟมองไปที่จ้าวไห่ เขาดูเหมือนเจ้านายใหญ่ เธอจึงพยักหน้าเห็นด้วยแต่ทันใดนั้น!ชายในชุดสูทก็เดินเข้ามาที่นั่น เขาคือผู้จัดการโรงแรม เขาถามอย่างเย็นชาว่า "เสี่ยวจ้าว เกิดอะไรขึ้น? ทำไมแถวนี้คนเยอะจัง"ก่อนหน้านี้ ผู้จัดการโรงแรมฟางโจวก็ได้ยินเสียงวุ่นวายจากทางด้านนี้ ตอนนี้เมื่อเขาเห็นเหตุการณ์ เขาก้เดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นพนักงานเสิร์ฟเห็นว่า ผู้จัดการโรงแรมกำลังเดินเข้ามา เธอจึงรีบก้มลงและพูดว่า "ผู้จัดการฟาง ลูกค้าผู้หญิงท่านนี้บังเอิญชนไวน์ลาฟิตที่แขกของเราสั่งแตกไปสี่ขวดค่ะ ดิฉันกำลังจัดการอยู่"ฟางโจวพยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดนั้น และไม่ได้พูดอะไร จากนั้น เขาก็พูดคำสุภาพสองสามคำกับจ้าวไห่แต่ เมื่อเขาก้มลงมองขวดไวน์ที่แตกบนพื้น เขาก็ตกใจทันที!“เมื่อกี้เธอให้พวกเขาจ่ายเท่าไหร่? สี่แสนเหรอ?” ฟางโจวถามอย่างเร่งรีบพนักงานเสิร์ฟพยักหน้า แ
เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นก็ตกใจ!เห็นแก่หน้าเขาหมายความว่าอย่างไรกัน?หน้าของเขามีค่าถึง 22 ล้านเลยเหรอ?จ้าวไห่ขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นหลี่โม่โผล่มา เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก และพูดอย่างเยาะเย้ย "หลี่โม่ นายโง่เหรอ? นายไม่ได้ยินที่เขาพูดหรือไง สี่ขวด 22 ล้าน หน้าของนายใหญ่พอที่จะมีค่า 22 ล้านหรือไง?"หลี่โม่มันคงจะโผล่มาแกล้งทำเป็นอวดดีแน่ ๆ !มันขึ้นอยู่กับวิธีการที่เขาทำมันว่าเป็นอย่างไรซูหย่าทั้งโกรธ ละหงุดหงิด หลี่โม่มันพยายามแกล้งเป็นทำอวดดีหลายครั้ง เขาไม่ได้แค่ทำให้ตัวเองขายหน้า แต่ยังทำให้เธออับอายด้วย“หลี่โม่ ไปให้พ้นซะ! ไม่ใช่เรื่องของนาย!” ซูหย่าตะโกนขู่ทั้งน้ำตาเธอโกรธมากจริง ๆเวลาแบบนี้คนกระจอกอย่างหลี่โม่ยังจะแกล้งทำเป็นอวดดีอีกหลี่โม่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วยิ้มแม้ว่าซูหย่าและจ้าวไห่จะไม่เชื่อหลี่โม่ แต่เขาก็ยังต้องการจะช่วย เพราะอย่างไรพวกเขาทั้งหมดก็เป็นเพื่อนร่วมงานเก่ากันรู้สึกผิดเหรอ?ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นพนักงานเสิร์ฟเลิกคิ้วขึ้น และมองหลี่โม่จากหัวจรดเท้า เธอพูดอย่างดูถูกว่า "คุณจะจ่ายแทนเหรอคะ? คุณลูกค้า ช่วยฟังให้ดีนะคะ นี่คือไวน์ลาฟิตปีค.ศ.
ซูหย่าขมวดคิ้ว และมองไปที่หลี่โม่ที่กำลังเล่นโทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าไม่แยแสด้วยความงุนงงหลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เธอก็ขอบคุณหลี่โม่ "หลี่โม่ ครั้งนี้ขอบคุณนะ ถ้านายมีเวลา เรา… เราสามารถ..."สิ่งที่ซูหย่าสามารถทำได้คงจะมีเพียงการชดเชยให้เขาโดยใช้ร่างกายของเธอที่หลี่โม่ช่วยเธอ เขาไม่มีจุดประสงค์อะไรหรอกเหรอ?พวกผู้ชายโรคจิตต่างก็พยายามทำทุกอย่างเพียงเพื่อที่จะครอบครองร่างกายของเธอแต่ว่าในใจของซูหย่าก็ยังรู้สึกหวั่นไหวอยู่ ด้านหนึ่งคือจ้าวไห่ ส่วนอีกด้านคือหลี่โม่จ้าวไห่รู้และเห็นทุกอย่าง แต่กับหลี่โม่ ตอนนี้ซูหย่าก็ยังสับสนตัวตนของเขาเป็นใครกันแน่?เขาซื้อร้านสปาติงเหม่ยด้วยเงินสี่ร้อยล้านจริง ๆ เหรอ? มันไม่ใช่ข่าวลือเหรอ?หลี่โม่ตอบอย่างใจเย็นว่า "ไม่เป็นไร ยังไงก็เป็นเพื่อนร่วมงานเก่ากัน เรื่องเล็กน้อย"หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกไปรับสายโทรศัพท์โดยที่ไม่ได้รอทุกคนทุกคนที่นี่ต่างแยกย้ายกันไป จ้าวไห่รู้สึกไม่พอใจคนอื่น ๆ อย่างมาก เขาโบกมือและเดินออกไปอย่างโกรธเคืองซูหย่าและซ่งเหวินเหวินก็นั่งพักเพื่อรอหลี่โม่“พี่หย่าหยา ฉันคิดว่าหลี่โม่คงไม่ใช่คนธรรมดา นี่มัน 22 ล้านบ
ซูหย่าและซ่งเหวินเหวินเดินไปที่รถเบนท์ลีย์สีน้ำเงินเข้มที่จอดอยู่ตรงนั้นยิ่งเข้าไปใกล้ ๆ สีหน้าของซูหย่าก็ยิ่งดูแปลกใจมากขึ้น เพราะคนคนนั้นเหมือนหลี่โม่มาก ๆ แม้จะเห็นเพียงด้านข้าง แล้วเขาก็ยังพูดคุยและสูบบุหรี่กับชายที่ดูมีอำนาจใหญ่โตอยู่“หลี่โม่?” ซูหย่าพยายามตะโกนอีกฝ่ายหันกลับมา และเห็นว่าเป็นซูหย่า สีหน้าของเขาดูตกใจอย่างเห็นได้ชัด และเขาก็ถามว่า “ยังไม่กลับเหรอ?”หลี่โม่เองก็ทำอะไรไม่ถูก เขาไม่คาดคิดว่าในขณะที่เขาและเฉียวเจิ้งหลงกำลังสูบบุหรี่กัน จะบังเอิญเจอซู่หยาเข้าซูหย่ากลอกตา และจ้องไปที่หลี่โม่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็จ้องมองตรงไปที่เฉียวเจิ้งหลงรถคันนี้ต้องเป็นของผู้ชายคนนี้หรือว่ารถเบนท์ลีย์สีน้ำเงินเข้มคันนี้จะเป็นของหลี่โม่?ไม่มีทางเป็นไปได้!เขาก็แค่คนกระจอกที่ขี่สกู๊ตเตอร์ถูก ๆ เท่านั้นดังนั้น เป็นครั้งแรกที่ซูหย่าเกี่ยวแขนของซ่งเหวินเหวิน และเริ่มเปิดฉากจีบเฉียวเจิ้งหลงอย่างหนัก “พ่อรูปหล่อ นี่รถคุณเหรอคะ?”เฉียวเจิ้งหลงมองไปที่ซูหย่าและซ่งเหวินเหวินอย่างงง ๆ ผู้หญิงสองคนนี้หน้าตา และรูปร่างดูดีทีเดียวเขากำลังจะปฏิเสธ แต่ก่อนที่เฉียวเจิ้งหลงจะได้พูด
ชายที่มีอำนาจใหญ่โตคนนี้เคารพหลี่โม่เป็นอย่างมากไม่ต้องรอให้เฉียวเจิ้งหลงพูดอธิบายอะไร หลี่โม่ก็พูดขึ้นมาด้วยความใจเย็น “ใช่ รถคันนี้ไม่ใช่ของฉัน แต่เขาเป็นคนขับรถของฉัน”เขาแกล้งโอ้อวดเล็กน้อย เพราะรำคาญซูหย่าคนขับรถ?!ซ่งเหวินเหวินก็นึกขึ้นได้ว่า เมื่อกี้นี้ตอนที่หลี่โม่มาถึง เขาบอกว่าคนขับใช้ทางลัดมาคนขับรถของหลี่โม่คือเฉียวเจิ้งหลง ที่เป็นเจ้าของรถเบนท์ลีย์สีน้ำเงินเข้มคนนี้อย่างงั้นเหรอ?นี่มันบ้าไปแล้ว!เฉียวเจิ้งหลงเชิญหลี่โม่ขึ้นรถด้วยความเคารพ จากนั้นเขาก็จ้องไปที่ซูหย่าและซ่งเหวินเหวิน อย่างโกรธเคือง แล้วพูดว่า "พวกเธอลองไปถามถึงเฉียวเจิ้งหลงที่เวียนนาคอนเสิร์ตฮอลล์ดูสิ คราวหลังถ้าพวกเธอกล้าดูหมิ่นคุณชายหลี่อีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือนแล้วกัน!”ซูหย่าและซ่งเหวินเหวินมองดูหลี่โม่ที่นั่งอยู่บนรถเบนท์ลีย์ และกำลังจากไปในใจของซูหย่ารู้สึกไม่พอใจ ดังนั้นเธอจึงถ่ายรูปป้ายทะเบียนรถไว้ และพูดด้วยความโกรธเคืองว่า "เหวินเหวิน เธอเชื่อไหมว่าเขาเป็นคนขับรถของหลี่โม่?"ซ่งเหวินเหวินมองด้วยแววตาว่างเปล่า และพูดว่า "ฉันไม่แน่ใจ แต่ชื่อเฉียวเจิ้งหลงในเวียนนาฉันเหมือนจะเคยได้ยินแฟนเ
ในขณะนี้ ฉวีเทียนไห่อยู่ในห้องส่วนตัว โดยถือโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเย็นชาขณะที่เขาพูดว่า "อย่าให้มีอะไรผิดพลาด ไม่อย่างนั้น พวกนายจะไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว!"ฉวีเทียนไห่เตรียมแผนนี้มาเป็นเวลานานมากทีเดียวไม่ยอมให้ขาดทุนไปง่าย ๆ หรอกวันนี้จะต้องจัดการกู้หยุนหลาน พร้อมกันกับจัดการหลี่โม่ไปด้วยทีเดียวเลย!“ประธานฉวี ไม่ต้องห่วงน่า ผม หม่าคุนจะจะจัดการให้ รับประกันว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด วันนี้คุณก็แค่ตั้งใจรอที่จะสนุกกับสาวน้อยคนนั้นก็พอแล้ว”เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยราคะของหม่าคุนก็ดังมาจากโทรศัพท์ฉวีเทียนไห่ขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา “จัดการแค่ที่สั่งไปก็พอ เรื่องอื่นนายไม่จำเป็นต้องมายุ่ง”เขาไม่ชอบน้ำเสียงของหม่าคุนเอาเสียเลยผู้ชายคนนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่า เขาเป็นพวกกามวิตถาร แต่ฉวีเทียนไห่ก็จำเป็นต้องใช้เขา เพราะเขาเชื่อถือได้ประตูห้องส่วนตัวถูกเปิดออก จากนั้นหลี่โม่และกู้หยุนหลานก็เดินเข้ามาฉวีเทียนไห่วางสายทันที พร้อมกับลุกขึ้นและทักทายด้วยรอยยิ้ม “หยุนหลาน มาแล้วเหรอ”เมื่อเขาเห็นหลี่โม่ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไป และสีหน้าก็แข็งทื่อทันที เขาพูดอย่างเย็นชา “หลี่โม่ นั
ฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ของพวกเขา หลี่โม่ก็ขมวดคิ้ว จากนั้นใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นหม่าคุนรู้สึกอึดอัดมากกับท่าทีไม่รู้เรื่องรู้ราวของหลี่โม่ เขาเตะหลี่โม่แล้วชี้หน้า พูดอย่างดุเดือด “ไอ้สารเลว แกหาผู้หญิงไม่ได้รึไง? ถึงได้กล้ามายุ่งกับผู้หญิงของหม่าคุน สงสัยรนหาที่ตายสินะ!”ตาของหลี่โม่เฉียบแหลม เขาจ้องไปที่ผู้หญิงที่ยังคงสะอื้นและร้องไห้อยู่ข้าง ๆ หม่าคุน และพูดอย่างเย็นชา “เธอบอกพวกเขาไปสิว่า เธอบุกเข้ามาเอง!”ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้สะอื้น เธอชี้ไปที่หลี่โม่ แล้วโต้กลับ “พี่คุนคะ เขาโกหก เมื่อกี้ตอนอยู่ข้างนอก เขาจ้องมองมาที่ขาของฉัน แล้วพูดว่า... ขาสวยมาก ตอนที่ฉันอยู่ในห้องน้ำ เขาจะกระโดดมาจากด้านหลัง มากอดและดึงฉันเข้าไป ฉัน… ฉันเกือบจะ…”“ให้ตายเถอะ! นี่แกยังบอกว่าแกไม่ได้ทำอีกเหรอ?” หม่าคุนโกรธจัด เขาตบหัวของหลี่โม่และโวยวายยกใหญ่ “ไอ้เวร วันนี้แกเสร็จแน่”ในเวลานี้ ฉวีเทียนไห่รีบพากู้หยุนหลานเข้ามาเมื่อเห็นแบบนี้ ฉวีเทียนไห่ก็รู้สึกประหลาดใจ และถามว่า “หลี่โม่ เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”กู้หยุนหลานรู้สึกใจสลายเช่นกัน เธอได้ยินทุกการเคลื่อนไหว และตอนนี้ เธอก็เห็นฉากในห