“ใช่สิ ก็มีเงิน อยากได้อะไรก็ได้!”จ้าวไห่ส่ายหัวพลางยิ้ม "เงิน ถ้ามีเงินก็ต้องใช้ อีกอย่าง รถเฟอร์รารี่ก็เป็นรถแบบเปิดประทุนด้วย"“ประธานจ้าวสุดยอดไปเลย!”“งั้นขับพาพวกเรานั่งสักสองสามรอบสิ”จ้าวไห่ยิ้ม และพูดว่า "ได้สิ ๆ"ซูหย่าก็จ้องไปที่จ้าวไห่อย่างตื่นเต้น ดูเหมือนว่าเธอจะเลือกถูกคนรถเฟอร์รารี่!คันละยี่สิบสามสิบล้านบาท!แต่ในบทสนทนาครั้งนี้ จู่ ๆ ใครก็ไม่รู้เข้ามาแทรก“พระเจ้า! ดูนี่สิ หัวข้อมาแรง ประธานจ้าว ร้านสปาติงเหม่ยถูกซื้อไปในราคาสี่ร้อยล้านบาท!” คนนั้นอุทานด้วยประหลาดใจ"เท่าไหร่นะ?!"ทุกคนตกตะลึงไปตาม ๆ กัน!ใช้เงินสี่ร้อยล้านเพื่อซื้อร้านสปาติงเหม่ยเหรอ?พวกเขาเคยเป็นพนักงานของร้านสปาติงเหม่ยมาก่อนจ้าวไห่ตกตะลึง และประหลาดใจมาก "ซื้อร้านสปาติงเหม่ยในราคาสี่ร้อยล้านบาทเหรอ? นั่นมันรวยมากนะ แสดงว่าโจวเฟิงฮว๋าก็ได้กำไรเยอะเลยสิ แล้วคนซื้อผู้ลึกลับคนนั้นเป็นใครกัน มีบอกไหม?"“ไม่มี มีแค่ภาพที่ถ่านยจากด้านข้าง”ชายคนนั้นส่ายหัว และซูมภาพในโทรศัพท์เข้าไปทุกคนมารวมหัวกันดูภาพนี้ และเบิกตากว้างนี่มันรวยเกินไปแล้วภาพถ่ายค่อนข้างเบลอ และอยู่ห่างมาก ซึ่งมั
เมื่อกี้พวกเขายังเยาะเย้ยหลี่โม่กันอยู่เลย แต่ตอนนี้หลังจากที่พวกเขาได้เห็นรูปภาพทุกอย่างก็เปลี่ยนไปมาก พวกเขารู้สึกรับไม่ได้ และไม่อยากที่จะยอมรับคนกระจอกอย่างหลี่โม่ จะเปลี่ยนไปได้จริง ๆ เหรอ?บรรยากาศตอนนี้ค่อนข้างอึดอัดวันนี้พวกเขายกย่องจ้าวไห่มาตลอด แล้วก็ประจบประแจงเขาเพื่อต้องการให้จ้าวไห่ดูแลพวกเขามากขึ้นในอนาคตแต่ตอนนี้ หลังจากที่ทุกคนเหยียบย่ำหลี่โม่ จู่ ๆ เขาก็โผล่ออกมา แล้วบอกว่าเขาใช้เงินสี่ร้อยล้านเพื่อซื้อร้านสปาติงเหม่ย!พูดเป็นเล่น!เขาจะรวยได้ขนาดนี้เลยเหรอ?หลี่โม่แตะจมูกของเขา และยิ้มอย่างใจเย็น "อย่ามองฉันแบบนั้น มันเป็นแค่เงินเพียงเล็กน้อย การเกาะผู้หญิงกินนี่มันดีจริง ๆ หรือว่าฉันควรแนะนำนายให้รู้จักกับผู้หญิงที่ร่ำรวยคนอื่น ๆ ดีล่ะ?"ทุกคนแน่นิ่งอีกครั้ง!‘นี่แกชอบขี้โม้โอ้อวดเหรอ ให้ตายเถอะ!’จ้าวไห่ปรายตาของเขา และยิ้มอย่างเย็นชา "หลี่โม่ นายขี้โม้เกินไปหรือเปล่า? นายบอกว่านายใช้เงินไปสี่ร้อยล้านเหรอ?"หลี่โม่ต้องขี้โม้แน่ ๆ !เจ้าคนไร้ประโยชน์คนนี้คงไม่พอใจที่เพื่อน ๆ ไม่สนใจเขาจ้าวไห่อารมณ์เสียมาก เขามาจากเคทีวีจนถึงที่นี่ แต่สุดท้าย หลี่โม่
ตอนนี้มันเสียหายหมดแล้ว เธอต้องรับผิดชอบทันใดนั้น พนักงานเสิร์ฟก็เริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นซูหย่ายังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง และพยายามจะหนี เธอจึงคว้าตัวหล่อนไว้ และตะโกนทันทีว่า "คุณยังจะหนีอีกเหรอ? คุณผู้หญิง คุณทำไวน์ลาฟิตของเราเสียหาย! กรุณาจ่ายค่าเสียหายด้วยค่ะ!"“อะไรนะ? อย่ามาพูดไร้สาระ ฉันขอเตือนไว้ก่อน ฉันไม่ได้ชนเธอ เธอเผลอทำตกเองต่างหากอย่ามาใส่ร้ายคนอื่น!”ซูหย่าส่ายหัวอย่างหมดหวัง เธอกังวลมาก และอยากจะหนีไปเดี๋ยวนี้เธอรู้ว่าในเวลาแบบนี้ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด แต่ต้องแกล้งทำตัวเข้มแข็งแทน!ดังนั้น เธอจึงชี้ไปที่หน้าของอีกฝ่ายโดยตรง และเริ่มสบถด่าส่วนทางพนักงานเสิร์ฟก็ไม่ยอมแพ้ และทั้งสองก็แสดงความไม่พอใจไม่นาน ผู้พบเห็นกลุ่มหนึ่งก็มารวมตัวกันที่นี่ และทุกคนก็ชี้ไปที่พวกเขา“ไม่ได้ชนเหรอ? ได้ งั้นมาดูกล้องวงจรปิดกัน!” พนักงานเสิร์ฟพูดเสียงดังในตอนนี้ ซูหย่าตื่นตระหนกอย่างหนัก และยอมรับความผิดของเธอทันที เธอขอโทษ “ฉัน… ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ระวังเอง”ตอนนี้ซูหย่าร้องห่มร้องไห้ ทั้งเศร้าโศก และน่าสงสารมาก“ไม่ได้ตั้งใจเหรอ? แล้วทำไมเมื่อกี้คุณถึงปฏิเสธล่ะ แล้วตอนนี
ทุกคนตกใจ และจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่จู่ ๆ ก็โผล่มาเขาดูเป็นผู้ชายธรรมดามาก แต่ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้?หรือว่า เขาอยากจะพระเอกที่มาช่วยสาวงาม?นี่มันสี่แสนนะ!หลายคนต่างดูถูกเหยียดหยามเขา!หนุ่มคนนี้แต่งตัวธรรมดา แต่ทำเป็นพูดเสียงดัง“ฮึฮึ เป็นแค่เด็กยากจน แต่อยู่ที่นี่ก็แกล้งทำเป็นคนรวย”“คงเป็นเพราะเห็นความสวยของเธอ ก็เลยพูดไม่คิดล่ะมั้ง”"เขาน่ะเหรอ? แต่งตัวอย่างกับคนขายของแผงลอย ดูเหมือนพวกขยะ"หลายคนเหยียดหยาม และเยาะเย้ยหลี่โม่โดยไม่สนใจความรู้สึกของเขาเลยซูหย่าเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาที่นองหน้า เธอเห็นหลี่โม่ก็รู้สึกอายทันที ในสายตาของเธอ หลี่โม่เป็นเพียงคนกระจอกขี้โม้ไร้ประโยชน์ เธอจะไม่โมโหได้อย่างไรที่เขามาเห็นเธอในสถานการณ์ที่น่าอับอายแบบนี้?และเธอก็คิดว่าหลี่โม่คงจะมาเยาะเย้ยเธอ!“หลี่โม่ นายมาทำอะไร? ไปซะ ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนาย!” ซูหย่าด่าด้วยความอับอายในขณะนี้เอง ซ่งเหวินเหวินก็วิ่งเข้ามาท่ามกลางฝูงชน“พี่หย่าหยา เกิดอะไรขึ้น?”“เหวินเหวิน…” เมื่อเห็นซ่งเหวินเหวินกำลังเดินมา ซูหย่าก็ร้องไห้ออกมา เธอกอดหล่อนไว้ และร้องไห้อย่างหนัก“
ในเวลานี้เอง จ้าวไห่อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวเข้าไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของซูหย่า ทำให้แก้มของซูหย่าแดงระเรื่อ และขาของเธอบิดเข้าหากันอย่างประหม่าจากนั้น จ้าวไห่ก็จงพูดอย่างเย็นชาว่า "สี่แสนใช่ไหม? ลงบิลฉันได้เลย เดี๋ยวฉันจัดการทีหลัง"พนักงานเสิร์ฟมองไปที่จ้าวไห่ เขาดูเหมือนเจ้านายใหญ่ เธอจึงพยักหน้าเห็นด้วยแต่ทันใดนั้น!ชายในชุดสูทก็เดินเข้ามาที่นั่น เขาคือผู้จัดการโรงแรม เขาถามอย่างเย็นชาว่า "เสี่ยวจ้าว เกิดอะไรขึ้น? ทำไมแถวนี้คนเยอะจัง"ก่อนหน้านี้ ผู้จัดการโรงแรมฟางโจวก็ได้ยินเสียงวุ่นวายจากทางด้านนี้ ตอนนี้เมื่อเขาเห็นเหตุการณ์ เขาก้เดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นพนักงานเสิร์ฟเห็นว่า ผู้จัดการโรงแรมกำลังเดินเข้ามา เธอจึงรีบก้มลงและพูดว่า "ผู้จัดการฟาง ลูกค้าผู้หญิงท่านนี้บังเอิญชนไวน์ลาฟิตที่แขกของเราสั่งแตกไปสี่ขวดค่ะ ดิฉันกำลังจัดการอยู่"ฟางโจวพยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดนั้น และไม่ได้พูดอะไร จากนั้น เขาก็พูดคำสุภาพสองสามคำกับจ้าวไห่แต่ เมื่อเขาก้มลงมองขวดไวน์ที่แตกบนพื้น เขาก็ตกใจทันที!“เมื่อกี้เธอให้พวกเขาจ่ายเท่าไหร่? สี่แสนเหรอ?” ฟางโจวถามอย่างเร่งรีบพนักงานเสิร์ฟพยักหน้า แ
เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นก็ตกใจ!เห็นแก่หน้าเขาหมายความว่าอย่างไรกัน?หน้าของเขามีค่าถึง 22 ล้านเลยเหรอ?จ้าวไห่ขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นหลี่โม่โผล่มา เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก และพูดอย่างเยาะเย้ย "หลี่โม่ นายโง่เหรอ? นายไม่ได้ยินที่เขาพูดหรือไง สี่ขวด 22 ล้าน หน้าของนายใหญ่พอที่จะมีค่า 22 ล้านหรือไง?"หลี่โม่มันคงจะโผล่มาแกล้งทำเป็นอวดดีแน่ ๆ !มันขึ้นอยู่กับวิธีการที่เขาทำมันว่าเป็นอย่างไรซูหย่าทั้งโกรธ ละหงุดหงิด หลี่โม่มันพยายามแกล้งเป็นทำอวดดีหลายครั้ง เขาไม่ได้แค่ทำให้ตัวเองขายหน้า แต่ยังทำให้เธออับอายด้วย“หลี่โม่ ไปให้พ้นซะ! ไม่ใช่เรื่องของนาย!” ซูหย่าตะโกนขู่ทั้งน้ำตาเธอโกรธมากจริง ๆเวลาแบบนี้คนกระจอกอย่างหลี่โม่ยังจะแกล้งทำเป็นอวดดีอีกหลี่โม่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วยิ้มแม้ว่าซูหย่าและจ้าวไห่จะไม่เชื่อหลี่โม่ แต่เขาก็ยังต้องการจะช่วย เพราะอย่างไรพวกเขาทั้งหมดก็เป็นเพื่อนร่วมงานเก่ากันรู้สึกผิดเหรอ?ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นพนักงานเสิร์ฟเลิกคิ้วขึ้น และมองหลี่โม่จากหัวจรดเท้า เธอพูดอย่างดูถูกว่า "คุณจะจ่ายแทนเหรอคะ? คุณลูกค้า ช่วยฟังให้ดีนะคะ นี่คือไวน์ลาฟิตปีค.ศ.
ซูหย่าขมวดคิ้ว และมองไปที่หลี่โม่ที่กำลังเล่นโทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าไม่แยแสด้วยความงุนงงหลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เธอก็ขอบคุณหลี่โม่ "หลี่โม่ ครั้งนี้ขอบคุณนะ ถ้านายมีเวลา เรา… เราสามารถ..."สิ่งที่ซูหย่าสามารถทำได้คงจะมีเพียงการชดเชยให้เขาโดยใช้ร่างกายของเธอที่หลี่โม่ช่วยเธอ เขาไม่มีจุดประสงค์อะไรหรอกเหรอ?พวกผู้ชายโรคจิตต่างก็พยายามทำทุกอย่างเพียงเพื่อที่จะครอบครองร่างกายของเธอแต่ว่าในใจของซูหย่าก็ยังรู้สึกหวั่นไหวอยู่ ด้านหนึ่งคือจ้าวไห่ ส่วนอีกด้านคือหลี่โม่จ้าวไห่รู้และเห็นทุกอย่าง แต่กับหลี่โม่ ตอนนี้ซูหย่าก็ยังสับสนตัวตนของเขาเป็นใครกันแน่?เขาซื้อร้านสปาติงเหม่ยด้วยเงินสี่ร้อยล้านจริง ๆ เหรอ? มันไม่ใช่ข่าวลือเหรอ?หลี่โม่ตอบอย่างใจเย็นว่า "ไม่เป็นไร ยังไงก็เป็นเพื่อนร่วมงานเก่ากัน เรื่องเล็กน้อย"หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกไปรับสายโทรศัพท์โดยที่ไม่ได้รอทุกคนทุกคนที่นี่ต่างแยกย้ายกันไป จ้าวไห่รู้สึกไม่พอใจคนอื่น ๆ อย่างมาก เขาโบกมือและเดินออกไปอย่างโกรธเคืองซูหย่าและซ่งเหวินเหวินก็นั่งพักเพื่อรอหลี่โม่“พี่หย่าหยา ฉันคิดว่าหลี่โม่คงไม่ใช่คนธรรมดา นี่มัน 22 ล้านบ
ซูหย่าและซ่งเหวินเหวินเดินไปที่รถเบนท์ลีย์สีน้ำเงินเข้มที่จอดอยู่ตรงนั้นยิ่งเข้าไปใกล้ ๆ สีหน้าของซูหย่าก็ยิ่งดูแปลกใจมากขึ้น เพราะคนคนนั้นเหมือนหลี่โม่มาก ๆ แม้จะเห็นเพียงด้านข้าง แล้วเขาก็ยังพูดคุยและสูบบุหรี่กับชายที่ดูมีอำนาจใหญ่โตอยู่“หลี่โม่?” ซูหย่าพยายามตะโกนอีกฝ่ายหันกลับมา และเห็นว่าเป็นซูหย่า สีหน้าของเขาดูตกใจอย่างเห็นได้ชัด และเขาก็ถามว่า “ยังไม่กลับเหรอ?”หลี่โม่เองก็ทำอะไรไม่ถูก เขาไม่คาดคิดว่าในขณะที่เขาและเฉียวเจิ้งหลงกำลังสูบบุหรี่กัน จะบังเอิญเจอซู่หยาเข้าซูหย่ากลอกตา และจ้องไปที่หลี่โม่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็จ้องมองตรงไปที่เฉียวเจิ้งหลงรถคันนี้ต้องเป็นของผู้ชายคนนี้หรือว่ารถเบนท์ลีย์สีน้ำเงินเข้มคันนี้จะเป็นของหลี่โม่?ไม่มีทางเป็นไปได้!เขาก็แค่คนกระจอกที่ขี่สกู๊ตเตอร์ถูก ๆ เท่านั้นดังนั้น เป็นครั้งแรกที่ซูหย่าเกี่ยวแขนของซ่งเหวินเหวิน และเริ่มเปิดฉากจีบเฉียวเจิ้งหลงอย่างหนัก “พ่อรูปหล่อ นี่รถคุณเหรอคะ?”เฉียวเจิ้งหลงมองไปที่ซูหย่าและซ่งเหวินเหวินอย่างงง ๆ ผู้หญิงสองคนนี้หน้าตา และรูปร่างดูดีทีเดียวเขากำลังจะปฏิเสธ แต่ก่อนที่เฉียวเจิ้งหลงจะได้พูด