จ้าวไห่เป็นคนแรกที่มาถึงก่อน ตามมาด้วยซูหย่า เมื่อเห็นหลี่โม่มาถึงเช่นกัน สีหน้าของจ้าวไห่ก็เต็มไปด้วยความสงสัย ความเร็วรถจีอาร์ทีของเขาไม่ได้ช้า คนอื่นยังมาไม่ถึงเลย หลี่โม่กลับมาถึงก่อน? “โอ้ หลี่โม่ ไม่คิดว่าจะขึ้นแท็กซี่เร็วขนาดนี้? มาทางลัดเหรอ?” จ้าวไห่หัวเราะอย่างติดตลก และในขณะที่พูดเขาก็เหลือบไปมองข้างหลังของหลี่โม่ ดูเหมือนหลี่โม่จะลงจากรถเบนท์ลีย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด เป็นไปได้เหรอ? เดาว่าตัวเองตาลายแล้ว ซูหย่าก็พูดอย่างเย้ยหยันว่า “คงจะวิ่งมาล่ะสิ” จ้าวไห่หัวเราะ หลี่โม่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ทั้งสองหันตัวกลับแล้วเข้าไปข้างในก่อน หลี่โม่รอครู่หนึ่ง เฉียวเจิ้งหลงก็วิ่งเข้ามาพูดกับหลี่โม่ไม่กี่ประโยค จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป พอดีกับที่เพื่อนร่วมงานเก่าอีกหลายสิบคนก็ล้วนมาถึงกันแล้ว “หลี่โม่? นายมาถึงก่อนจริง ๆ” หลายคนเห็นหลี่โม่ยืนอยู่ที่ประตูก็เกิดความสงสัย ผู้ชายคนนี้ไม่มีรถไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเร็วกว่าพวกเขาที่มีรถกัน? รวดเร็วจริง ๆ ! หลี่โม่ยิ้มและพูดว่า "คนขับใช้ทางลัด" เมื่อไม่กี่คนได้ยินก็รู้สึกผิดหวังทันที ซ่งเหวินเหวินพูดอย่างจิก
ในตอนนี้เธอรู้สึกเสียดายมาก และคิดหาวิธีจับจ้าวไห่ เธอเหลือบมองหลี่โม่อย่างไม่รู้ตัว ทั้งสองนั้นแตกต่างกันมากเกินไป ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า หลี่โม่บอกว่าเขาก็เปิดร้านแล้ว แต่ซูหย่าคิดว่าหลี่โม่นั้นปลอม ดังนั้นในใจเธอจึงดูถูกหลี่โม่มากขึ้น ในตอนนั้นเอง ประตูห้องก็ถูกผลักออกหวู่เต้าเหวินเดินเข้ามาพร้อมไวน์ชั้นดีสองสามขวดในมือแล้วพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มว่า “ทุกท่าน ผมเป็นผู้จัดการร้าน นี่คือไวน์ขาวตัวใหม่ของร้านเรา ไวน์องุ่นขาวรีสลิ่งรสหวานชื่อว่าอีกอน มุลเลอร์ ชาร์ออฟเบอร์เกอร์ ริสลิ่ง สปีดลิส เป็นผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศและถูกคัดสรรเป็นอย่างดี!" ทุกคนต่างตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จ้าวไห่ก็สะดุ้งตกใจ เขารู้ว่าไวน์องุ่นขาวที่คัดเลือกจากไร่ดังอย่างอีกอน มุลเลอร์ ชาร์ชอฟเบอร์เกอร์ หรือไวน์องุ่นขาวริสลิ่งรสหวานนั้น มีราคาเป็นหลายแสนต่อหนึ่ง เปรียบได้กับโรมาเน-กงติ! ขึ้นชื่อว่าเป็น "ราชาแห่งรีสลิ่ง" ! แต่ว่าเขาไม่ได้สั่งนี่! แม้ว่าจ้าวไห่จะมีเงิน แต่ก็ไม่สามารถสิ้นเปลืองขนาดนั้นได้ “ขอโทษนะครับ เราไม่ได้สั่งไวน์เหล่านี้” จ้าวไห่ยิ้มจาง ๆ เสิ่นหยางที่อยู่ข้าง ๆ
เขาเป็นคนที่ไม่มีความคิดรอบคอบ เพราะอย่างไรมันก็ถูกมอบให้แล้ว และไม่กลัวที่จะเสแสร้งแกล้งทำเมื่อได้ยินแแบบนี้ ทุกคนต่างก็อิจฉา “ประธานจ้าวช่างน่าทึ่งมาก! ฉันจะทำทุกอย่างตามที่คุณต้องการ!”ตอนนี้ในสายตาของซูหย่ามีแต่จ้าวไห่ และเขาก็ดูหล่อกว่าปกติมาก เธอแทบรอไม่ไหวที่จะกลืนกินเขาผู้ชายคนนี้ต้องเป็นของเธอทันใดนั้น เธอก็ไปเข้าห้องน้ำ และไปเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าแบบน้อยชิ้นเป็นพิเศษเพื่อให้สะดวกกับสิ่งที่เธอกำลังจะทำต่อไปนี้เมื่อเธอกลับมาที่ห้องอีกครั้ง เธอก็มานั่งข้าง ๆ จ้าวไห่ เธอแสร้งทำเป็นไม่ตั้งใจจะอ่อยจ้าวไห่ จนจ้าวไห่แทบจะทนไม่ไหวแล้วโดยเฉพาะคนอย่างจ้าวไห่ที่ช่ำชองในการไปไนต์คลับ ดวงตาของเขากลอกไปมา เขารู้ว่าในใจของซูหย่าต้องการอะไร ฮิฮิ เขายิ้ม และชนแก้วกับซูหย่าทั้งสองคนกำลังคลุมเครือกันอยู่ใต้โต๊ะบรรยากาศที่เป็นใจซูหย่าเปิดปากพูด "หลี่โม่ นายเปิดร้านชื่ออะไรนะ แล้วทำเงินได้ปีละเท่าไหร่? ถ้าไม่อย่างนั้น นายก็ปิดร้าน แล้วมาทำงานกับประธานจ้าวสิ"ในใจของเธอตอนนี้ดูถูกหลี่โม่มากคิดว่าการที่เขาได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลกู้นั้นดีแล้วอย่างนั้นเหรอ?ถึงอย่างไรเขามันก็เป็นแค่
“ใช่สิ ก็มีเงิน อยากได้อะไรก็ได้!”จ้าวไห่ส่ายหัวพลางยิ้ม "เงิน ถ้ามีเงินก็ต้องใช้ อีกอย่าง รถเฟอร์รารี่ก็เป็นรถแบบเปิดประทุนด้วย"“ประธานจ้าวสุดยอดไปเลย!”“งั้นขับพาพวกเรานั่งสักสองสามรอบสิ”จ้าวไห่ยิ้ม และพูดว่า "ได้สิ ๆ"ซูหย่าก็จ้องไปที่จ้าวไห่อย่างตื่นเต้น ดูเหมือนว่าเธอจะเลือกถูกคนรถเฟอร์รารี่!คันละยี่สิบสามสิบล้านบาท!แต่ในบทสนทนาครั้งนี้ จู่ ๆ ใครก็ไม่รู้เข้ามาแทรก“พระเจ้า! ดูนี่สิ หัวข้อมาแรง ประธานจ้าว ร้านสปาติงเหม่ยถูกซื้อไปในราคาสี่ร้อยล้านบาท!” คนนั้นอุทานด้วยประหลาดใจ"เท่าไหร่นะ?!"ทุกคนตกตะลึงไปตาม ๆ กัน!ใช้เงินสี่ร้อยล้านเพื่อซื้อร้านสปาติงเหม่ยเหรอ?พวกเขาเคยเป็นพนักงานของร้านสปาติงเหม่ยมาก่อนจ้าวไห่ตกตะลึง และประหลาดใจมาก "ซื้อร้านสปาติงเหม่ยในราคาสี่ร้อยล้านบาทเหรอ? นั่นมันรวยมากนะ แสดงว่าโจวเฟิงฮว๋าก็ได้กำไรเยอะเลยสิ แล้วคนซื้อผู้ลึกลับคนนั้นเป็นใครกัน มีบอกไหม?"“ไม่มี มีแค่ภาพที่ถ่านยจากด้านข้าง”ชายคนนั้นส่ายหัว และซูมภาพในโทรศัพท์เข้าไปทุกคนมารวมหัวกันดูภาพนี้ และเบิกตากว้างนี่มันรวยเกินไปแล้วภาพถ่ายค่อนข้างเบลอ และอยู่ห่างมาก ซึ่งมั
เมื่อกี้พวกเขายังเยาะเย้ยหลี่โม่กันอยู่เลย แต่ตอนนี้หลังจากที่พวกเขาได้เห็นรูปภาพทุกอย่างก็เปลี่ยนไปมาก พวกเขารู้สึกรับไม่ได้ และไม่อยากที่จะยอมรับคนกระจอกอย่างหลี่โม่ จะเปลี่ยนไปได้จริง ๆ เหรอ?บรรยากาศตอนนี้ค่อนข้างอึดอัดวันนี้พวกเขายกย่องจ้าวไห่มาตลอด แล้วก็ประจบประแจงเขาเพื่อต้องการให้จ้าวไห่ดูแลพวกเขามากขึ้นในอนาคตแต่ตอนนี้ หลังจากที่ทุกคนเหยียบย่ำหลี่โม่ จู่ ๆ เขาก็โผล่ออกมา แล้วบอกว่าเขาใช้เงินสี่ร้อยล้านเพื่อซื้อร้านสปาติงเหม่ย!พูดเป็นเล่น!เขาจะรวยได้ขนาดนี้เลยเหรอ?หลี่โม่แตะจมูกของเขา และยิ้มอย่างใจเย็น "อย่ามองฉันแบบนั้น มันเป็นแค่เงินเพียงเล็กน้อย การเกาะผู้หญิงกินนี่มันดีจริง ๆ หรือว่าฉันควรแนะนำนายให้รู้จักกับผู้หญิงที่ร่ำรวยคนอื่น ๆ ดีล่ะ?"ทุกคนแน่นิ่งอีกครั้ง!‘นี่แกชอบขี้โม้โอ้อวดเหรอ ให้ตายเถอะ!’จ้าวไห่ปรายตาของเขา และยิ้มอย่างเย็นชา "หลี่โม่ นายขี้โม้เกินไปหรือเปล่า? นายบอกว่านายใช้เงินไปสี่ร้อยล้านเหรอ?"หลี่โม่ต้องขี้โม้แน่ ๆ !เจ้าคนไร้ประโยชน์คนนี้คงไม่พอใจที่เพื่อน ๆ ไม่สนใจเขาจ้าวไห่อารมณ์เสียมาก เขามาจากเคทีวีจนถึงที่นี่ แต่สุดท้าย หลี่โม่
ตอนนี้มันเสียหายหมดแล้ว เธอต้องรับผิดชอบทันใดนั้น พนักงานเสิร์ฟก็เริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นซูหย่ายังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง และพยายามจะหนี เธอจึงคว้าตัวหล่อนไว้ และตะโกนทันทีว่า "คุณยังจะหนีอีกเหรอ? คุณผู้หญิง คุณทำไวน์ลาฟิตของเราเสียหาย! กรุณาจ่ายค่าเสียหายด้วยค่ะ!"“อะไรนะ? อย่ามาพูดไร้สาระ ฉันขอเตือนไว้ก่อน ฉันไม่ได้ชนเธอ เธอเผลอทำตกเองต่างหากอย่ามาใส่ร้ายคนอื่น!”ซูหย่าส่ายหัวอย่างหมดหวัง เธอกังวลมาก และอยากจะหนีไปเดี๋ยวนี้เธอรู้ว่าในเวลาแบบนี้ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด แต่ต้องแกล้งทำตัวเข้มแข็งแทน!ดังนั้น เธอจึงชี้ไปที่หน้าของอีกฝ่ายโดยตรง และเริ่มสบถด่าส่วนทางพนักงานเสิร์ฟก็ไม่ยอมแพ้ และทั้งสองก็แสดงความไม่พอใจไม่นาน ผู้พบเห็นกลุ่มหนึ่งก็มารวมตัวกันที่นี่ และทุกคนก็ชี้ไปที่พวกเขา“ไม่ได้ชนเหรอ? ได้ งั้นมาดูกล้องวงจรปิดกัน!” พนักงานเสิร์ฟพูดเสียงดังในตอนนี้ ซูหย่าตื่นตระหนกอย่างหนัก และยอมรับความผิดของเธอทันที เธอขอโทษ “ฉัน… ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ระวังเอง”ตอนนี้ซูหย่าร้องห่มร้องไห้ ทั้งเศร้าโศก และน่าสงสารมาก“ไม่ได้ตั้งใจเหรอ? แล้วทำไมเมื่อกี้คุณถึงปฏิเสธล่ะ แล้วตอนนี
ทุกคนตกใจ และจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่จู่ ๆ ก็โผล่มาเขาดูเป็นผู้ชายธรรมดามาก แต่ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้?หรือว่า เขาอยากจะพระเอกที่มาช่วยสาวงาม?นี่มันสี่แสนนะ!หลายคนต่างดูถูกเหยียดหยามเขา!หนุ่มคนนี้แต่งตัวธรรมดา แต่ทำเป็นพูดเสียงดัง“ฮึฮึ เป็นแค่เด็กยากจน แต่อยู่ที่นี่ก็แกล้งทำเป็นคนรวย”“คงเป็นเพราะเห็นความสวยของเธอ ก็เลยพูดไม่คิดล่ะมั้ง”"เขาน่ะเหรอ? แต่งตัวอย่างกับคนขายของแผงลอย ดูเหมือนพวกขยะ"หลายคนเหยียดหยาม และเยาะเย้ยหลี่โม่โดยไม่สนใจความรู้สึกของเขาเลยซูหย่าเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาที่นองหน้า เธอเห็นหลี่โม่ก็รู้สึกอายทันที ในสายตาของเธอ หลี่โม่เป็นเพียงคนกระจอกขี้โม้ไร้ประโยชน์ เธอจะไม่โมโหได้อย่างไรที่เขามาเห็นเธอในสถานการณ์ที่น่าอับอายแบบนี้?และเธอก็คิดว่าหลี่โม่คงจะมาเยาะเย้ยเธอ!“หลี่โม่ นายมาทำอะไร? ไปซะ ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนาย!” ซูหย่าด่าด้วยความอับอายในขณะนี้เอง ซ่งเหวินเหวินก็วิ่งเข้ามาท่ามกลางฝูงชน“พี่หย่าหยา เกิดอะไรขึ้น?”“เหวินเหวิน…” เมื่อเห็นซ่งเหวินเหวินกำลังเดินมา ซูหย่าก็ร้องไห้ออกมา เธอกอดหล่อนไว้ และร้องไห้อย่างหนัก“
ในเวลานี้เอง จ้าวไห่อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวเข้าไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของซูหย่า ทำให้แก้มของซูหย่าแดงระเรื่อ และขาของเธอบิดเข้าหากันอย่างประหม่าจากนั้น จ้าวไห่ก็จงพูดอย่างเย็นชาว่า "สี่แสนใช่ไหม? ลงบิลฉันได้เลย เดี๋ยวฉันจัดการทีหลัง"พนักงานเสิร์ฟมองไปที่จ้าวไห่ เขาดูเหมือนเจ้านายใหญ่ เธอจึงพยักหน้าเห็นด้วยแต่ทันใดนั้น!ชายในชุดสูทก็เดินเข้ามาที่นั่น เขาคือผู้จัดการโรงแรม เขาถามอย่างเย็นชาว่า "เสี่ยวจ้าว เกิดอะไรขึ้น? ทำไมแถวนี้คนเยอะจัง"ก่อนหน้านี้ ผู้จัดการโรงแรมฟางโจวก็ได้ยินเสียงวุ่นวายจากทางด้านนี้ ตอนนี้เมื่อเขาเห็นเหตุการณ์ เขาก้เดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นพนักงานเสิร์ฟเห็นว่า ผู้จัดการโรงแรมกำลังเดินเข้ามา เธอจึงรีบก้มลงและพูดว่า "ผู้จัดการฟาง ลูกค้าผู้หญิงท่านนี้บังเอิญชนไวน์ลาฟิตที่แขกของเราสั่งแตกไปสี่ขวดค่ะ ดิฉันกำลังจัดการอยู่"ฟางโจวพยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดนั้น และไม่ได้พูดอะไร จากนั้น เขาก็พูดคำสุภาพสองสามคำกับจ้าวไห่แต่ เมื่อเขาก้มลงมองขวดไวน์ที่แตกบนพื้น เขาก็ตกใจทันที!“เมื่อกี้เธอให้พวกเขาจ่ายเท่าไหร่? สี่แสนเหรอ?” ฟางโจวถามอย่างเร่งรีบพนักงานเสิร์ฟพยักหน้า แ