ชาคาโมมายล์ทำให้นอนหลับสบาย พินทุอรจึงนอนหลับแทบจะทันทีที่หัวถึงหมอน
ในฝันนั้น...เพชรพร้อมยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน ดวงตาคมพราวระยับ แถมยังก้าวเข้ามาหาอย่างช้าๆ เขาสวมเสื้อสีเทาเข้มตัวเดียวกับที่สวมไปรับเธอในวันแรก มัดผมไว้ด้านหลังเหมือนวันนั้นอีกเหมือนกัน
แต่ในวันนี้...พินทุอรคอแห้งผาก พลางสำรวจร่างกายของเขาด้วยความชื่นชม
สมองสั่งให้เธอถอยหนี แต่ขากลับไม่ทำตาม เธอปล่อยให้เขาก้าวเข้ามาประชิดตัว บดเบียดเรือนกายกำยำเข้าหาอย่างเร่าร้อน
มือหนาเชยคางเธอขึ้น มองที่ริมฝีปากเธอด้วยสายตาสื่อความหมายบางอย่างโดยไม่ปิดบัง
“จูบได้ไหม” เขาถามทั้งที่ก้มลงมาจนเกือบชิด
“ได้สิ”
เพชรพร้อมประคองใบหน้าของเธอไว้ด้วยสองมือ ก่อนจะทาบริมฝีปากอุ่นจนเกือบร้อนลงมาทักทาย
ท้องน้อยเธอบิดมวน ปั่นป่วนเหมือนมีผีเสื้อนับพันตัวบินวนอยู่ภายใน
ริมฝีปากทั้งสองบดขยี้กันครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนกับเรียวลิ้นที่เกี่ยวกระวัดรัดรึง
“อิง...อิง ผมขอมากกว่านี้ได้ไหม”
มากกว่าจูบ...คือแบบนั้นสินะ
ไม่รอให้เธอตอบ เพชรพร้อมดันเธอลงบนเตียงกว้าง
จากนั้นเขาก็เริ่มถอดเสื้อผ้าเธอ...
จิตแพทย์สาวสะดุ้งตื่น เหงื่อแตกพลั่ก ร้อนไปหมดทั้งที่เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ มือเรียวรีบสำรวจเสื้อผ้าตัวเองว่ายังอยู่ครบไหม แล้วก็ต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงความฝัน แต่เป็นฝันที่เหมือนจริงจนน่าหวั่นไหว
ความรู้สึกของเรียวปากร้อนระอุที่บดขยี้ยังชัดเจนเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นจริงๆ
แถมเธอยังแหย่ลิ้นเข้าไปพันพัวกับลิ้นของเขาอีก
“น่าอายชะมัด” หญิงสาวบ่นเบาๆ ในความมืด
คงเป็นเพราะเธอคุยกับเขาก่อนนอนกระมัง ถึงเก็บเอาชายหนุ่มมาฝันต่อเป็นตุเป็นตะ
บ้าจริง...แล้วคืนนี้เธอจะหลับต่อได้ไหม...
แสงไฟจากประตูที่แง้มออกเล็กน้อยทำให้เพชรพร้อมต้องเปิดเปลือกตาขึ้น เขานอนหลับไปเพียงไม่นานนัก จึงรู้สึกตัวง่ายกว่าปกติ
ชายหนุ่มแปลกใจและตกตะลึงไม่น้อยเมื่อเห็นพินทุอรก้าวช้าๆ เข้ามาในห้อง
เธอยังสวมชุดนอนแบบเชิ้ตตัวโคร่งสีขาวเหมือนก่อนเข้านอน แต่เสื้อคาร์ดิแกนสีเบจถูกถอดออกไปแล้ว ทำให้ปลายถันสีน้ำตาลอ่อนซึ่งรบกวนจิตใจของเขามาตั้งแต่เมื่อสองชั่วโมงก่อนลอยเด่นขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณอิง...” เขาเรียกเธอเบาๆ แต่ไม่ได้ขยับตัวลุกหนี
พินทุอรนั่งลงข้างเตียง ทอดมองเขาด้วยสายตาสื่อความหมาย ไม่ใช่ความหมายแค่เรตสิบแปดบวก แต่เป็นความหมายแบบเรตยี่สิบห้าบวกเลยทีเดียว
มือเรียวค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อนอนแบบเชิ้ตของเธอออกทีละเม็ดอย่างเชื่องช้า แต่ทำเอาคนมองลุ้นใจแทบขาด ส่วนไอ้นั่นที่กึ่งกลางกายก็ปวดหนึบจนแทบขาดด้วยเหมือนกัน
“เห็นคุณนอนไม่หลับ เลยมาชวนทำกิจกรรมเรียกเหงื่อสักหน่อย เผื่อคืนนี้เราสองคนจะได้หลับสบายไง” เธอพูดพร้อมช้อนตามองเขา
สาบเสื้อนอนสีขาวแยกออกจากกัน บัดนี้ไม่เหลือกระดุมให้ชายหนุ่มต้องลุ้นอีกแล้ว
จิตแพทย์สาวแนบตัวลงมาทาบทับกายแกร่ง แถมยังยิ้มอย่างยั่วเย้า เพชรพร้อมจึงรีบถอดเสื้อนอนแสนเกะกะของเธอออกด้วยมือที่สั่นเทา เหลือเพียงแพนตี้ลูกไม้ตัวจ้อยที่ปิดบังสายตา
เรือนร่างของพินทุอรสวยไปทุกกระเบียดนิ้ว ทุกส่วนตึงกระชับได้รูป ผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียน ปลายถันสีอ่อนที่เขาเห็นรำไรเมื่อหัวค่ำตอนนี้สีเข้มขึ้นเล็กน้อยเพราะหดเกร็งจนเป็นตุ่มนูนน่ารัก
หญิงสาวก้าวขึ้นคร่อมอยู่บนตัวเขา หน้าขาเขาทาบกับต้นขาอ่อนนุ่ม กึ่งกลางกายแข็งขึงเหยียดขยายจนหัวหยักบานโผล่พ้นขอบกางเกงบ็อกเซอร์ออกมา
“อู...ของใหญ่ ของยาว” เธอยิ้มแล้วใช้มืออุ่นลูบแผ่วเบาขึ้นมาตามความยาวของท่อนลำ ก่อนจะไล้ปลายนิ้วชี้ไปที่ส่วนปลายซึ่งมีของเหลวใส จากนั้นก็ยกนิ้วนั้นขึ้นไปดูด
ภาพที่เห็นทำเอาเพชรพร้อมแทบจะแตกมันเสียเดี๋ยวนั้น
ชายหนุ่มจับที่เอวคอดแล้วดึงรั้งเข้าหาตัว กึ่งกลางกายเสียดสีกันจนต้องร้องซี้ดทั้งคู่ เขาใช้มือฟอนเฟ้นทรวงอกนุ่มนิ่ม ก่อนจะอ้าปากงับที่ปลายยอด ดูดดึงสลับขบเม้ม จากนั้นก็ไล้เลียด้วยความหิวกระหาย
พินทุอรแอ่นหน้าอกให้เขาเชยชมอย่างถึงอกถึงใจ ร้องครวญครางเสียงหวาน มิหนำซ้ำยังขยับโยกบั้นท้ายที่กดทับแก่นกายเขาเป็นจังหวะ เสียวซ่านถึงใจจนแทบจะเสร็จสม แต่เขาจะให้คืนนี้จบแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
เพชรพร้อมพลิกร่างบางให้นอนราบ ถึงเวลาเขาวาดลวดลายบ้างแล้ว
ชายหนุ่มรูดแพนตี้ลูกไม้ที่แสนเกะกะออก ดันขาเธอให้เปิดกว้าง แล้วก้มลงชิมที่กึ่งกลางกายสาว เริ่มจากใช้ลิ้นไล้วนแผ่วเบาบริเวณกลีบผกา ลิ้มเลียน้ำหวานใสชุ่มฉ่ำ จากนั้นจึงดูดแรงๆ ที่ใจกลางเกสรซึ่งเริ่มบวมแดงจากอารมณ์ปรารถนา จนคนใต้ร่างผวาเฮือก
“อือ...เสียว...” เธอครางเสียงดัง
“ชอบไหม” เขาถามพร้อมกับละเลงลิ้นหนักกว่าเดิมเหมือนจะแกล้ง
“ชอบ ชอบที่สุดเลย อย่าหยุดนะ”
เพชรพร้อมอยากเห็นเธอเสร็จสมด้วยปากและลิ้นของเขาจึงเร่งความเร็วขึ้น ทั้งเลียและขบย้ำที่ปุ่มกระสัน เพียงชั่วอึดใจ ร่างบางก็สั่นระริก เธอบิดกายเร่า ครวญครางอย่างเร่าร้อน ก่อนจะกระตุกเกร็งเป็นจังหวะ น้ำรักหลั่งรินลงบนที่นอนเปียกเป็นวงกว้าง
เขาหยัดกายขึ้น กดหญิงสาวที่ยังนอนระทดระทวยไว้ใต้ร่าง นิ้วเรียวแข็งซอกซอนไปตามกลีบดอกไม้ชุ่มฉ่ำจากน้ำรัก
ชายหนุ่มกดคลึงที่ติ่งเนื้อบวมเป่ง และนั่นทำให้หญิงสาวแอ่นสะโพกเข้าหาเขาในทันที
“ผมขอนะ”
รู้แหละว่าอารมณ์นี้แล้ว คงไม่ต้องขอกันให้มากความ แต่เพชรพร้อมเป็นคนมีมารยาท
“อืม” เธอตอบพร้อมกับบดเบียดจุดอ่อนไหวเข้ากับท่อนลำ
ชายหนุ่มกดตัวตนของตนเองเข้าไปทีละน้อย เสียวซ่านจนแทบเห็นดาว ได้ยินเสียงพินทุอรครางด้วยความซ่านเสียว แต่เธอก็ร่วมมือเป็นอย่างดี ชั่วอึดใจ เขาก็แทรกเข้าไปได้จนสุดลำ
หลังจากนิ่งค้างอยู่ชั่วอึดใจ สะโพกสอบก็ขยับโยกช้าๆ แล้วจึงเปลี่ยนเป็นรัวเร็วตามอารมณ์ที่พุ่งพล่าน เขาตอกตรึงในจังหวะเดียวกับที่สะโพกกลมกลึงแอ่นรับ ความเสียวซ่านทบทวีขึ้นตามการเคลื่อนไหวของจุดสอดประสาน ได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อถี่กระชั้น
ตึง ตึง ตึง
หัวเตียงกระทบผนังดังเป็นจังหวะเดียวกับที่เขากระแทกกระทั้นบนตัวเธอ เสียงเอี๊ยดอ๊าดของเตียงก็ไม่อาจทำให้เพชรพร้อมหยุดได้
นาทีนี้เขาได้ยินแต่เสียงร้องครางกระเส่าอย่างพึงใจของพินทุอรเท่านั้น
เตียงจะหัก ผนังห้องจะพัง บ้านจะถล่มทั้งหลังก็ช่างแม่ง พรุ่งนี้ค่อยซ่อมก็ยังทัน ตอนนี้ไอ้เพชรขอมันให้เต็มที่ก่อน
เขากดสะโพกใส่เธออย่างบ้าคลั่ง โถมสุดพลังจนหญิงสาวกรีดร้องแทบไม่เป็นภาษา ในที่สุดเขาก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ตอดรัดตุบๆ พร้อมกับความเปียกแฉะอีกครั้งหนึ่งของพินทุอร
ชายหนุ่มกระแทกย้ำๆ อีกไม่กี่ครั้ง สวรรค์ที่เขาเฝ้ารอก็มาเยี่ยมเยือน
“อา...” เพชรพร้อมคำรามลั่นราวกับเป็นสัตว์บาดเจ็บ
กายแกร่งเกร็งค้าง แล้วปลดปล่อยสายธารสีขาวขุ่นออกมาจนหมดเนื้อหมดตัว
ความสุขที่ได้เสร็จสมในช่องทางรักของพินทุอรช่างเข้มข้นจนร่างกายของเพชรพร้อมล่องลอยเหมือนอยู่ในฝัน ทั้งเสียวซ่าน ทั้งพร่างพราย
สุขแบบสุดๆ สุขแบบคูณสอง ไม่ๆๆ คูณสิบไปเล้ยยย
มึงนี้สุดยอดจริงๆ ไอ้เพชร สมควรได้โล่แห่งการเอาเก่ง เอาดุเป็นรางวัล...
ทว่าความเปียกชื้นแถมยังอุ่นร้อนบริเวณเป้ากางเกงและหน้าขาทำให้เพชรพร้อมเริ่มผิดสังเกต
เขาปลดปล่อยในตัวเธอไม่ใช่หรือ แล้วทำไมน้ำรักถึงเปรอะเปื้อนเหนียวเหนอะหนะไปหมดแบบนี้ เหมือนกับเขาแตกในกางเกงตัวเอง
เดี๋ยวนะ!
หรือว่า...
เพชรพร้อมสะดุ้ง ตื่นเต็มตา พร้อมกับของเหลวเปียกเป็นวงกว้างที่กางเกงบ็อกเซอร์ เขารีบเปิดไฟหัวเตียง และก็เห็นหลักฐานคาเป้า เอ๊ย คาตา เพราะตอนนี้หลักฐานสำคัญเริ่มซึมออกมาด้านนอกจนเห็นเป็นคราบขาวขุ่นบนกางเกงบ็อกเซอร์สีดำ
เชี่ยเอ๊ย...ไอ้เพชร...
ไม่เคยฝันเปียกแบบนี้มาเป็นสิบปีแล้วไม่ใช่หรือ ตั้งแต่เขาเริ่มหัดเด้าสาว ก็ไม่เคยต้องฝันเปียกให้ทุเรศตัวเองแบบนี้อีกเลย แล้วนี่มันอะไรกัน
ไอ้ควาย ไอ้อ่อน ไอ้... เขาด่าตัวเองจนไม่รู้จะด่าอะไรอีก
ชายหนุ่มถอนใจหนักๆ ภาพชวนสยิวของพินทุอรในฝันยังแจ่มชัดเหมือนเกิดขึ้นจริง เป็นความฝันหวานหวามแบบที่เขาคงไม่มีวันลืมเลยทีเดียว
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นจากเตียงอย่างทุลักทุเล ตรงเข้าห้องน้ำ ถอดกางเกงออกโยนใส่ตะกร้าซัก แล้วหลับตาคิดถึงฝันดีเมื่อครู่พลางจัดการตัวเองไปอีกหนึ่งดอก ก่อนจะเดินโซเซกลับมาที่เตียง นอนมองเพดานตาโพลงอยู่เกือบสิบนาทีจากนั้นจึงค่อยๆ หลับตาลง
คราวนี้ละ เขาจะนอนหลับเป็นตายจนถึงเช้าเลยทีเดียว
ถ้าไอ้เพชรเป็นพระเอกในนิยายสักเรื่อง ก็อยากจะใส่เดี่ยวหลังเซเว่นกับนักเขียนสักที เพราะเขามั่นใจว่านักเขียนโรคจิตคนนี้จะต้องเหม็นขี้หน้าพระเอกทรงโจรอย่างเขามากที่สุดแน่ๆ
คืนหวามของคนอื่น มีแต่การได้แนบชิดนัวเนีย ไปจนถึงได้ด้นสดกันถึงไหนต่อไหน จะแตกหนึ่งหรือแตกสอง ก็เรียกได้ว่าแตก แต่คืนวาบหวามของเขากลับจบลงด้วยการเป็นมิตรกับมือตัวเองอย่างเร่าร้อนเนี่ยนะ
โลกนี้แม่งไม่ยุติธรรมกับไอ้เพชรเลย
อาหารเช้าในวันนี้ สายบัวเตรียมไว้ให้ที่โต๊ะหน้าชานบ้าน ตั้งแต่พินทุอรมาพักที่บ้านหลังนี้ เป็นอันรู้กันว่าพี่เพชรที่ไม่ค่อยกินข้าวเช้านอกจากนมสดนั้นได้เปลี่ยนไปเป็นพี่เพชรผู้กินอาหารเช้าแบบฟูลคอร์สมาหลายวันแล้ว ไม่ว่าแขกสาวคนสวยจะกินอะไร เพชรพร้อมก็กินแบบเดียวกัน“ข้าวต้มหมูสับน่ากินจังเลย” พินทุอรออกปากชมเมื่อสายบัวเสิร์ฟข้าวต้มร้อนๆ ควันฉุยให้“หนูไม่แน่ใจว่าคุณอิงแพ้กุ้งไหม เลยทำข้าวต้มหมูแทน” สายบัวบอกพร้อมรอยยิ้มหญิงสาวยิ้มตอบ “ไม่แพ้ กินได้ทุกอย่าง”รอยยิ้มของจิตแพทย์สาวเริ่มจางหายเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่เหมือนยักษ์เดินเข้ามานั่งตรงข้าม เธอทักทายพร้อมกับเงยหน้ามองเขา แต่ลูกกะตาเข้ากรรมดันไปหยุดอยู่ที่ริมฝีปากหยักลึกเสียอย่างนั้นจู่ๆ ภาพฝันหวานหวามเมื่อคืนก็กระแทกเข้ากลางใจ ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ตอนใกล้ชิดนัวเนียกันในฝัน โดยเฉพาะตอนที่เขาเอาปากอุ่นๆ นั่นมาบดขยี้กับปากเธอ ช่างเหมือนจริงเสียยิ่งกว่าหนังสามมิติ ไหนจะลิ้นร้อนจัดที่เกี่ยวกระหวัดรัดรึงนั่นอีกถ้าเธอไม่สะดุ้งตื่นก่อน เชื่อขนมกินได้เลยว่า เขากับเธออาจจะถึงขั้นตีรันฟันแทงกันแน่นอน แล้วก็ไม่ใช่แทงทีเดียว แต่เป็
กินข้าวเที่ยงฝีมือสายบัวเสร็จปุ๊บ พินทุอรก็นั่งเคียงข้างเพชรพร้อมในรถกระบะโฟร์วิลคู่ใจคันเก่าเพื่อไปสนามมวยของหมู่บ้านพินทุอรคิดว่าเพชรพร้อมจะพาเธอไปดูนักมวยชกกัน แต่ปรากฏว่าพอถึงสนามมวยเล็กๆ ประจำหมู่บ้าน นักมวยที่จะต้องขึ้นชกนั้นท้องเสียกะทันหัน จึงไม่มีนักมวยจะชกเสียอย่างนั้น เหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นใคร กรรมการซึ่งทำหน้าที่โฆษกในงานด้วยจึงเรียกเพชรพร้อมขึ้นไปชก ชายหนุ่มร่างยักษ์จึงขึ้นไปเป็นนักมวยเสียเองนักมวยฝ่ายตรงข้ามที่มาจากหมู่บ้านข้างๆ พอเห็นรูปร่างเพชรพร้อมแล้วก็แทบจะเดินออกจากเวที ทว่าพี่เลี้ยงนักมวยไม่ยอมให้ทำอย่างนั้น รีบผลักนักมวยชะตาขาดของตนเองขึ้นชกทันที“สู้ๆ นะเพชร แสดงฝีมือให้สุดๆ ไปเลยนะ” พินทุอรเชียร์พร้อมหักนิ้วตัวเองดังกร๊อบ แถมยังออกหมัดหนึ่งสอง ท่าทางเหมือนอยากจะขึ้นไปชกเสียเอง“ถ้าผมชนะ คุณมีรางวัลให้ไหม”“ฉันทำแกงเขียวหวานให้คุณกินอีกหม้อเป็นไง” แม้หญิงสาวจะแกล้งแซว แต่นักมวยจำเป็นกลับกระตุกยิ้มอย่างน้อยคนนักที่จะเคยเห็นรอยยิ้มนี้“แกงเขียวหวานสักร้อยหม้อก็แล้วกัน กินมันทั้งชีวิตไปเลย”“ถ้าคุณกล้ากิน ฉันก็กล้าทำ”“พูดแล้วนะ”และก็เป็นไปตามคาด เพียงแค่ยกที่หนึ
หลังจากวันที่เพชรพร้อมพาเธอไปดูเขาชกมวย พินทุอรก็สนิทกับชายหนุ่มมากขึ้น น่าเสียดายที่ชายหนุ่มไม่ได้ว่างทุกวัน เพราะงานในสวนมีสารพัด ทำให้เธอต้องไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านอารำพึงกับบ้านของเพชรพร้อมอยู่หลายวัน แต่ยังดีที่เขามักจะตื่นแต่เช้ามากินข้าวพร้อมเธอและรอกินข้าวเย็นพร้อมเธอด้วยเหมือนกันเย็นวันนี้สาลี่โฮมเสตย์จัดอาหารชุดใหญ่เพื่อเลี้ยงส่งเพื่อนๆ สี่คนของลิ้นจี่ที่กำลังจะกลับบ้านตามกำหนด ส่วนลิ้นจี่กับตังเมเปลี่ยนใจขออยู่ต่ออีกสองสัปดาห์ แม้มหาลัยจะเปิดเทอมแล้วก็ตาม ซึ่งนางรำพึงก็ยินดีเพราะชอบบรรยากาศคึกครื้นอยู่แล้ว“แล้วพี่อิงจะย้ายมาพักที่สาลี่โฮมสเตย์มั้ย ห้องว่างแล้ว หนูอยู่กันสองคน เหงาแย่เลย” ลิ้นจี่ถามขึ้น จากนั้นก็กระทุ้งศอกใส่ตังเมให้พูดต่อ“มาไหมพี่อิง จะได้นอนคุยกันตามประสาคนสวย” ตังเมรับมุกเพราะกลัวจะโดนศอกกระดุ้งอีก“นั่นสิ ห้องว่างแล้ว อิงจะย้ายมาไหมลูก” หญิงสูงวัยถามด้วยน้ำเสียงปรานียังไม่ทันที่พินทุอรจะตอบ เพชรพร้อมก็ชิงพูดขึ้นก่อน“ไม่ย้ายครับอา จะให้อิงย้ายอีกทำไม อยู่กับผมก็ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องย้ายไปไหนหรอก”ช่วงแรกที่มาพินทุอรอยากจะย้ายกลับมาพักที่สาลี่โฮมสเตย์มาก แต่ต
พินทุอรอยากจะถามต่อ แต่อีกฝ่ายจูงกึ่งลากเธอเข้าโรงหนัง เมื่ออยู่ในโรงหนังแล้วจิตแพทย์สาวจึงต้องทำตัวมีมารยาท นั่นคือหยุดพูดหยุดถามและตั้งใจดูหนังโรงหนังช่วงก่อนเที่ยงแบบนี้โล่งจนแทบจะนอนดูคนละแถวได้ ถัดจากที่เธอกับชายหนุ่มนั่งเฉียงไปทางซ้ายราวสามแถว มีหนุ่มสาวนั่งอยู่ ดูก็พอรู้ว่าน่าจะเป็นแฟนกันเมื่อหนังฉายไปได้สักพัก สองคนนั้นก็ค่อยๆ อิงซบกันช้าๆ จิตแพทย์สาวมองแล้วอมยิ้ม บรรยากาศกะหนุงกะหนิงตอนเป็นแฟนกันใหม่ๆ มันหวานชื่นดีจังแต่ว่า...คงไม่มีใครคิดว่าเธอกับเพชรพร้อมเป็นแฟนกันหรอก...ใช่ไหม?หญิงสาวดูหนังต่อ ทว่าก็ต้องถูกรบกวนสมาธิโดยหนุ่มสาวคู่เดิมที่ค่อยๆ หันมาจูบกันอย่างดูดดื่ม แถมยังแลกลิ้นกันนัวเนียอืม...นี่คือบรรยากาศของคู่รักต่างหาก คงไม่ได้เพิ่งเป็นแฟนกันแน่ๆผ่านไปสักพัก เธอก็เห็นเต็มตาว่าฝ่ายชายเริ่มไซ้ซอกคอ ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในหน้าอกของฝ่ายหญิง อีกไม่นานก็ได้ยินเสียงผู้หญิงดังแผ่วๆ“อ๊ะๆๆๆๆ...”เวรละ...จะมาเล่นบทบาทผัวเมียในโรงหนังไม่ได้นะ มันหยามคนไม่มีคู่อย่างเธอมากพินทุอรจะไม่ทน!!!หญิงสาวกำลังจะลุกขึ้นแล้ววีนใส่คู่รักวัยละอ่อนอยู่แล้ว โทษฐานที่ทำให้เธอบาดตาบาดใจ ทว่า
“ป้ารำพึงคะ ทำไมวันนี้พี่อิงยังไม่มา จะบ่ายแล้วนะคะ เราโทร.ไปตามดีไหม” ลิ้นจี่ถามขึ้นเมื่อนั่งร้อยมาลัยไปแล้วครึ่งพวง ด้วยความที่เป็นคนใจร้อน ทำให้หญิงสาวไม่สามารถทำงานฝีมือที่ละเอียดประณีตได้ดีนัก“ไม่ต้องโทร. ลูก วันนี้พี่เพชรเขาหยุด เลยน่าจะพาพี่อิงเข้าไปเที่ยวห้างในเมืองน่ะ” นางรำพึงตอบ“อ้าว แล้วพี่อิงก็ไม่บอก เก็บงุบงิบเป็นความลับเชียว ลิ้นจี่อยากไปซื้อของที่ห้างพอดี เราเอารถออกไปตามดีไหมคะ เผื่อเจอกันที่ห้าง จะได้เดินเที่ยวด้วยกัน สนุกดีนะคะ”“ลุงพฤกษ์เอารถออกไปส่งเพื่อนๆ ของหนูตั้งแต่เช้า แล้วเลยไปทำธุระในเมืองต่อ ไม่รู้จะกลับมากี่โมง ถ้าลิ้นจี่อยากไปห้าง คงต้องไปวันอื่น”“ว้า แย่จัง หนูเบื่อร้อยมาลัยแล้วด้วยสิคะ”“เปลี่ยนเป็นแกะสลักกับตังเมไหมล่ะ ดูรายนั้นสิ ทำเสียสวยเชียว ป้าสอนแกะกระต่าย ตังเมดัดแปลงเป็นตัวคาปิบาราแล้ว อีกหน่อยก็คงแกะยีราฟขี่ช้างได้” หญิงสูงวัยพยักพเยิดไปทางหนุ่มใจสาวซึ่งสาละวนอยู่กับการแกะสลักผักและผลไม้กองโตตรงหน้า แม้จะมีคนเรียกชื่อก็ไม่ได้ยินเพราะกำลังอินขั้นสุด“หนูใช้มีดไม่ค่อยเก่งค่ะ กลัวบาดมือ” หญิงสาวพูดหางเสียงสะบัดนางรำพึงอาบน้ำร้อนมาก่อน พอจับค
วันรุ่งขึ้นเรื่องที่เพชรพร้อมจะไปตั้งแคมป์กับสาวๆ ก็รู้ไปทั่วสวนเพียงดินดี เพราะเจ้าของสวนสั่งให้ลูกน้องรื้อถุงนอนกับเต็นท์สามหลังออกมาทำความสะอาดและตรวจดูความเรียบร้อยเพชรพร้อมเลือกเอาเต็นท์ขนาดใหญ่ออกมาซ้อมกางบริเวณกลางสวนเพื่อให้แน่ใจว่าวันที่ไปตั้งแคมป์จริงๆ เขาจะสามารถทำได้อย่างคล่องแคล่วอยากจะอวดสาว ต้องซ้อมหน่อย ถึงวันจริงจะได้ไม่ผิดพลาด สาวจะได้ประทับใจโอดเหลือบมองเจ้านายที่เป็นลูกพี่อยู่หลายครั้ง ก่อนจะย่องมาหาสเตฟานที่กำลังง่วนอยู่กับการเช็กที่สูบลมอัตโนมัติ“ไอ้ฟาน เมื่อกี้กูเห็นอะไรรู้ไหม”“เห็นอะไรพี่”“พี่เพชรยิ้มให้เต็นท์แบบอ่อนโยนว่ะ ยิ้มทั้งปากยิ้มทั้งตาเลยนะโว้ย น่ากลัวฉิบหาย”“อย่ามาล้อเล่นนะพี่โอด” สเตฟานยกแขนสองข้างขึ้นลูบ “หลอนเลยเนี่ย”“พี่เพชรแม่งเอาจริงว่ะ สงสัยพวกเราจะได้นายหญิงของสวนเพียงดินดีแน่นอนแล้ว” โอดสรุป“ใจเย็นก่อน พี่เพชรน่ะเอาจริง แต่พี่อิงจะเอาพี่เพชรไหม นั่นก็อีกเรื่องนะ”“เจ้าประคู้ณ” โอดยกมือไหว้ท่วมหัว “เจ้าพ่อ เจ้าแม่ เจ้าป่า เจ้าเขา เจ้ามือ โปรดดลบันดาลให้พี่เพชรของพวกเราสมหวังด้วยเถิด”ในที่สุดเพชรพร้อมก็กางเต็นท์เสร็จ แล้วจู่ๆ คนที่เพิ
นึกถึงวันแรกที่พี่อิงเห็นต้นกล้าพวกนี้งอกเนอะพี่ เขาดีใจอย่างกับถูกล็อตตารี” นุ่มพูดขึ้นเมื่อเพชรพร้อมเดินเข้ามาตรวจดูกระบะเพาะกล้าไม้ของพินทุอร ซึ่งตอนนี้หน่อไม้ฝรั่งที่ปลูกไว้โตขึ้นมากแล้ว ไม่ได้งอกเป็นหัวเข็มหมุดเล็กๆ เหมือนวันแรกเพชรพร้อมคิดตาม ความทรงจำในวันนั้นจุดรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากของชายหนุ่มได้ทันที‘เพชร...เพชร’ พินทุอรเรียกเขา น้ำเสียงและท่าทางตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด‘หืม...’‘ดูนี่สิ น้องงอกแล้ว’หญิงสาวชี้ให้ดูต้นกล้าขนาดเท่าหัวเข็มหมุดที่เพิ่งโผล่พ้นดินออกมา จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปกระบะเพาะกล้า แถมยังเซลฟีกับต้นกล้าเหล่านั้นไว้เป็นที่ระลึกด้วย‘เก่งมาก’ เขาชม‘น้องแข็งแรงดีใช่ไหม’‘แข็งแรงสิ แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อ และผมเชื่อว่าคุณทำได้’‘ดีใจจังเลยเพชร’ เธอตอบพร้อมส่งยิ้มสดใสมาให้ และในวันนี้ต้นกล้าของเธอก็เติบโตแข็งแรงทุกต้น สมกับที่หญิงสาวตั้งใจดูแลอันที่จริงเพชรพร้อมจะแกล้งนำเมล็ดพันธุ์ที่ไม่สมบูรณ์ อัตราการงอกต่ำมาให้หญิงสาวปลูกก็ย่อมได้ เพื่อที่จะได้ให้หญิงสาวปลูกใหม่ และเธอจะได้อยู่ที่สวนเพียงดินดีกับเขาไปนานๆ แต่เขาไม่อยากทำแบบนั้นการแข่งขันต้องล
สวนวสันต์คือชื่อของรีสอร์ตแบบสบายๆ ติดริมน้ำ นอกจากอาคารชั้นเดียวขนาดเล็ก แบ่งซอยเป็นห้องพักสิบกว่าหลัง ห้องอาบน้ำเป็นสัดส่วนแยกชายหญิงแล้ว ยังมีลานอเนกประสงค์สำหรับตั้งแคมป์ กางเต็นท์ หรือนำรถบ้านมาจอดเพื่อพักผ่อนด้วยกลุ่มของเพชรพร้อมมาถึงที่พักราวสามโมงเย็น มากันทั้งหมดห้าคน นำทีมโดยเพชรพร้อมซึ่งเป็นเจ้าถิ่น ตามด้วยพินทุอร ลิ้นจี่และตังเม โดยเพชรพร้อมลากณวกรซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องการพักแรมแบบนี้มาด้วยเพชรพร้อมนำเต็นท์มาสามหลัง หลังใหญ่หนึ่งหลัง หลังเล็กสองหลัง เบาะนอนสำหรับวางในเต็นท์หลังใหญ่ และถุงนอนสำรองครบจำนวนคน ชายหนุ่มกางเต็นท์ทั้งสามหลังด้วยความคล่องแคล่ว โดยมีพินทุอรกับณวกรคอยช่วย ส่วนตังเมและลิ้นจี่แยกไปเตรียมเตาบาร์บีคิวสำหรับอาหารมื้อเย็นแทน“ไอ้นุ่ม ช่วยกูดูแลลิ้นจี่กับตังเมหน่อยนะโว้ยคืนนี้” ชายหนุ่มบอกหนุ่มรุ่นน้องเมื่ออยู่กันลำพังสองคนเพราะพินทุอรขอตัวไปเข้าห้องน้ำซึ่งต้องเดินเข้าไปในอาคาร“ได้พี่ เดี๋ยวผมช่วยกันสองคนนั่นให้ พี่จะได้มีเวลาทำคะแนนกับพี่อิง”“รู้งานดีนะมึงอะ รู้มาก”ณวกรยิ้มรับพลางยกมือเกาหัวเก้อ “พี่เพชรชมแหละเนอะ”“เออ ชมสิวะ” คนชมบอกขำๆบาร์บีคิวสำหรั
เด็กชายมองหน้าเด็กหญิงพริสาเหมือนจะขอโทษ หันมาหาพินทุอร แล้วถามขึ้น“ผมขอเล่นกับน้องอีกได้ไหมครับ”“ได้สิลูก ชวนน้องดีๆ นะคะถ้าอยากเล่นด้วยกัน” พินทุอรยิ้มจากนั้นเพชรพร้อมก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองหน้าลูกสาวสุดแสบ“ส่วนเรา...เด็กหญิงพริสา เพียงดินดี...” เขาเรียกชื่อลูกสาวเสียเต็มยศเป็นการบอกเด็กหญิงอ้อมๆ ว่าคราวนี้เธอทำผิด “วันนี้หนูพรีมผิดตรงไหน บอกพ่อซิคะ”“หนูใช้กำลังทำร้ายพี่”“ผิดไหมคะ”“ผิดค่ะ”“แล้วต้องทำยังไง”เด็กหญิงพริสาหันไปหาเด็กชายคู่กรณี ยกมือป้อมๆ ขึ้นไหว้เด็กชายรุ่นพี่ จากนั้นก็พูดด้วยเสียงดังฟังชัด“หนูพรีมผิดเองค่ะที่ดึงผมพี่พัตเตอร์ หนูพรีมขอโทษค่ะ หนูพรีมจะไม่ทำอีกแล้ว วันหลังเราค่อยเล่นกันใหม่นะคะ”“เก่งมาก” เพชรพร้อมชม “นอกจากพี่พัตเตอร์แล้วหนูพรีมต้องขอโทษใครอีกไหมคะ”ฟังจบเด็กน้อยก็หันไปทางคุณครูดาว กระพุ่มมือน้อยๆ ไหว้ “หนูพรีมขอโทษคุณครูดาวค่ะที่ทำให้คุณครูเสียเวลา หนูพรีมจะไม่ทำอีก”คุณครูดาวรับไหว้ ลูบศีรษะเด็กหญิงตัวน้อยอย่างเอ็นดูจากนั้นเด็กหญิงก็หันไปหามารดาครู่กรณีที่อยากจะดึงผมเธอ “หนูพรีมขอโทษคุณน้าคนสวยด้วยค่ะที่หนูพรีมไปรังแกพี่พัตเตอร์ หนูพรีมจ
โทรศัพท์มือถือของพินทุอรสั่นระรัวเมื่อเวลาเลยบ่ายโมงมาเล็กน้อยจิตแพทย์สาวเลื่อนแฟ้มคนไข้ออกห่างตัว หมุนเก้าอี้ไปทางหน้าต่าง พยายามปรับน้ำเสียงให้เยือกเย็น แล้วจึงกดรับสายจากครูฝ่ายปกครอง“สวัสดีค่ะคุณครูดาว”“คุณแม่คะ ครูต้องโทร. มารบกวนคุณแม่อีกแล้วค่ะ”“วันนี้ใครคะ พอร์ชหรือพราม” พินทุอรถามด้วยความเคยชินเป็นอันรู้กันว่าลูกชายฝาแฝดของเธอ พอร์ชและพราม อายุแค่แปดขวบ แต่ทำให้เพื่อนร่วมห้องร้องไห้กระจองงองแงและไปฟ้องครูประจำชั้นแทบทุกวันมาตั้งแต่เข้าชั้นประถมแล้วสาเหตุที่เพื่อนๆ ร้องไห้ก็ไม่ใช่ว่าลูกชายเธอจะไปรังแกเด็กที่ไหนหรอกนะ แต่สองแฝดนั่นชอบทำหน้าบึ้ง ไม่ยอมยิ้ม แล้วก็ชอบมองคนอื่นด้วยสายตาดุๆ แค่นั้นเองได้พ่อมาแท้ๆ...ปลายสายอึกอักอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะตอบมาเหมือนเกรงใจ“วันนี้ไม่ใช่แฝดค่ะ สองหนุ่มนั่นพอขึ้นป.สองแล้วก็พอจะพูดรู้เรื่อง ไม่ค่อยทำหน้าบึ้งหรือตาขวางจนเพื่อนกลัวแล้ว แถมยังมีเพื่อนที่กล้าเข้าไปเล่นด้วยสองสามคนแล้วนะคะ ถือว่ามีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดค่ะ เพราะตอนป.หนึ่ง สองแฝดไม่มีใครกล้าเข้าไปเล่นด้วยเลย”“ถ้างั้นวันนี้ใครคะ” พินทุอรถามแล้วก็ได้แต่ภาวนาในใจ อย่าให้เป็นอย
งานแต่งงานและทริปฮันนีมูนผ่านไปอย่างราบรื่น และพินทุอรก็ย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดได้เดือนเศษแล้ววันนี้เป็นวันแรกในรอบหนึ่งเดือนที่เธอกลับมากรุงเทพฯ เพราะเพชรพร้อมต้องมาทำธุระที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง เขาจึงพาพินทุอรมาเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองระหว่างที่ภัคจิรากำลังเดินเลือกร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าใกล้กับมหาวิทยาลัยที่จะต้องมาฟังงานบรรยายวิชาการ หญิงสาวก็เห็นพินทุอรกำลังจูงมือสามีหนุ่มเลือกร้านอาหารอยู่เช่นกันหลังจากมีเรื่องกันคราวก่อน หญิงสาวก็ไม่ได้เจอพินทุอรอีกเลย เธอตามหึง ตามคุมรัชตะไม่ห่าง จนได้ข่าวว่าอีกฝ่ายแต่งงานไป เธอจึงไม่ได้ใส่ใจผู้หญิงคนนี้อีกแม้แฟนหนุ่มจะไม่เคยพูดถึงพินทุอรอีกเลยไม่ว่าเรื่องอะไร ทว่าภัคจิรารับรู้จากท่าทางของรัชตะว่ายังคิดถึงแฟนเก่าคนนี้ไม่เลิก ความอิจฉาแล่นขึ้นมาเป็นริ้ว เธอจึงหันไปหาเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องแล้วบอก“พี่เจอคนรู้จัก ขอเข้าไปทักแป๊บนึงนะ”“ใครคะพี่ภัค”“แฟนเก่าพี่หมอโอ๊ตน่ะ มากับผัวใหม่” ภัคจิราแสร้งยิ้มหยันรุ่นน้องสาวมองตามแล้วสูดปาก “หูย...คนใหม่ของเขาแซ่บระดับพริกร้อยสวนเลยนะพี่ ทั้งสูง ทั้งหุ่นเพอร์เฟกต์ แถมยังผิวสีแทนดูกร้าว
มีเพียงหาดทราย ทะเล สายลม กับสองเรา...ในขณะที่พินทุอรก้าวเข้าไปเช็กอินในรีสอร์ตสุดหรูที่เพชรพร้อมบรรจงเลือกแล้วเลือกอีกเพื่อมาฮันนีมูน เพลงที่มารดาของพินทุอรชอบเปิดให้ฟังในวัยเด็กก็แว่วมาในความทรงจำมองจากตรงล็อบบียังสามารถเห็นหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าเข้มสะท้อนแสงแดดทอประกายระยิบระยับ ส่วนท้องฟ้าสีฟ้าจางๆ ก็ดูสดใสเมื่อถูกแต่งแต้มด้วยปุยเมฆขาวสวยเหมือนรูปในโปสการ์ดเลย...สามวันสองคืนต่อจากนี้เธอจะสวมแต่บิกินีสุดเซ็กซี่ แล้วทอดกายไปกับหาดทรายขาว หยอกเย้ากับเกลียวคลื่นที่ซัดสาด ปล่อยให้ผิวกายดื่มด่ำวิตามินดีจากแสงแดดเสียให้พอ จากนั้นก็กลับมาอาบน้ำเย็นๆ ให้สดชื่น เพื่อเตรียมตัวลงไปจัดการบุฟเฟต์อาหารทะเล เบียร์และไวน์แบบฟรีโฟลว์หรือที่เรียกว่าดื่มได้ไม่อั้นแค่คิด...พินทุอรก็แทบจะล่องลอยไปสรวงสวรรค์แล้ว“ชอบห้องพักไหมอิง” เพชรพร้อมถามเมื่อก้าวเข้ามาอยู่ในพูลวิลลาหลังใหญ่ แบบที่เปิดออกไปแล้วมีสระว่ายน้ำส่วนตัวแยกจากสระหลัก มีรั้วสูงกั้นไว้อย่างมิดชิดเป็นสัดส่วน เพื่อให้คู่รักที่มาพักได้ใช้เวลาทำ ‘กิจกรรม’ ได้อย่างเต็มที่สมกับชื่อห้องฮันนีมูนสวีต แถมยังมองเห็นทะเลกับหาดทรายได้แบบพาโน
เสียงบรรเลงเพลงไทยเดิมดังก้องไปทั่วบริเวณบ้านสวนเพียงดินดีบรรยากาศในวันนี้สวยงามและหวานชื่นไม่ต่างจากภาพในงานแต่งงานที่เห็นในละครมากนัก จะแตกต่างก็เพียงมวลความสุขและความสนุกสนานที่โอบล้อมงานในวันนี้ล้นเอ่อจนทุกคนในงานสัมผัสได้เพชรพร้อมสวมชุดสูทสากลสีชมพูอ่อนนั่งพนมมือวางบนหมอนสำหรับรดน้ำสังข์ โดยมีพินทุอรซึ่งสวมชุดไทยสีชมพูอย่างที่เพชรพร้อมชอบคาดทับด้วยสไบสีทองนั่งอยู่เคียงกันทางซ้ายมือ รอบคอของทั้งคู่มีพวงมาลัยสองชายห้อยอุบะที่ชายมาลัย ซึ่งพวงมาลัยนี้ร้อยอย่างวิจิตรบรรจงด้วยฝีมือของนางรำพึงผู้เป็นแม่งานบ่าวสาวยิ้มให้กันด้วยความชื่นมื่นในระหว่างรอทำพิธีรดน้ำสังข์ ก่อนจะเป็นเพชรพร้อมที่ก้มลงไปหยิบกระดาษเช็ดหน้าแผ่นบางขึ้นมาซับเบาๆ ไล่ไปตามไรผมที่ล้อมกรอบหน้าของเจ้าสวยคนสวย“เหนื่อยไหมอิง”“ไม่เหนื่อย”“ร้อนหรือเปล่า” ถามเสร็จก็ยิ้มให้“เปิดแอร์ขนาดนี้ อิงจะเอาอะไรมาร้อน”“หนาวเกินไปไหม”“ไม่เลย กำลังดีแล้ว”เพชรพร้อมฟังแล้วยิ้มกว้างอีกครั้ง เอื้อมมือไปกุมมือพินทุอร มองตากันแล้วก็ยิ้มให้กันอีกหนคะนึงรักชะงักกึก พานใส่มงคลแฝดหรือมงคลที่ใช้สวมศีรษะบ่าวสาวแทบร่วง เธอวางพานใส่มงคลลง แล้
การ์ดแต่งงานถูกส่งไปทั่วโรงพยาบาลนรินทร์รัตน์ ยกเว้นก็แต่ใครคนหนึ่งที่แผนกศัลยกรรมกลับไม่ได้รับการ์ดเชิญนี้“เป็นไงบ้างไอ้โอ๊ต พักนี้ชีวิตดีไหม”รัชตะเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงานเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู เขาขมวดคิ้วตอนที่คนมาใหม่เดินเข้ามาหาในห้องทำงานพร้อมรอยยิ้มแบบแปลกๆนายแพทย์อรัญอยู่แผนกสูตินารีเวช เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันแต่ไม่ค่อยลงรอยกันนัก ศัลยแพทย์หนุ่มจึงแปลกใจไม่น้อยเมื่อเพื่อนที่แทบไม่ได้คุยกันเข้ามาทักทาย“มีอะไร” เขาถามตรงๆ“รู้ข่าวหรือยังวะ แฟนเก่าของมึงกำลังจะแต่งงาน”รัชตะชะงัก “หมายถึงใคร อิงน่ะเหรอ”“ใช่ หมออิงจะแต่งงาน แล้วก็ย้ายไปต่างจังหวัดด้วย”อรัญโบกการ์ดแต่งงานที่เพิ่งได้รับเมื่อเช้ากลางอากาศ พลางทรุดตัวนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามรัชตะปรายตามองการ์ดแต่งงานสีน้ำเงินขลิบทองในมือเพื่อนร่วมงาน แล้วเบ้หน้าเหมือนไม่แคร์ แต่มือข้างที่อยู่ใต้โต๊ะกำแน่นจนเจ็บ“ความจริงไม่ต้องแจกการ์ดก็ได้ น่าจะเป็นแค่งานเลี้ยงกระจอกที่บ้านนอกเท่านั้น”“เขาจัดงานกันที่โรงแรมในกรุงเทพฯ นี่แหละ ระดับห้าดาวเสียด้วย” อรัญบอกชื่อโรงแรมห้าดาวสุดหรูซึ่งอยู่ใจกลางเมือง“จะจัดหรูแค่ไหน เจ้าบ่าวก็กระจอกอย
ในที่สุดนางรำพึงก็ต้องใช้ฤกษ์สำเร็จรูปจนได้ ใครจะไปคาดคิดว่าหลานชายตัวดีจะใจร้อนขนาดนี้ มิหนำซ้ำยังจูงมือกันไปจดทะเบียนเรียบร้อย มันน่าตีให้ตายนัก‘น่าจะบอกผู้หลักผู้ใหญ่ก่อน จะได้นัดไปพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ’ นางรำพึงบ่นเป็นหมีกินผึ้งหลังจากหลานชายโทร. มาบอกเรื่องจดทะเบียนสมรสกับพินทุอรแล้ว‘ผมโทร.บอกพ่อแล้ว พ่อก็ไม่ว่าอะไร’‘ได้ปรึกษาผู้ใหญ่ทางหนูอิงหรือเปล่า ถึงผู้หญิงเขาจะอยู่ตัวคนเดียว แต่ก็คงมีญาติอยู่บ้าง’‘ญาติพวกนั้นอิงไม่นับญาติหรอกอา ไม่เคยสนใจหรือเจอหน้ากันเกินสิบปีแล้ว จะมีก็แต่ครอบครัวของวิณทร์นั่นแหละที่อิงนับถือเหมือนญาติ แต่อิงก็พาผมเข้าไปกราบปู่ของวิณทร์มาแล้วนะ ยิ่งรู้ว่าผมเป็นลูกพี่ลูกน้องของลี่ ก็แทบไม่ต้องทำความรู้จักอะไรกันเลย ทางสะดวกสุดๆ’‘แล้วจะจัดงานไหม’‘จัดครับอา ทางบ้านวิณทร์เขาอยากให้จัด โดยเฉพาะคุณปู่ของวิณทร์บอกว่าถึงจะจดทะเบียนกันแล้ว ก็ต้องจัดงานแต่งงานด้วย’ พอเพชรพร้อมบอกแบบนั้นก็ได้ยินเสียงถอนหายใจเหมือนโล่งอกของคุณนายรำพึงถึงอย่างไรหญิงสูงวัยก็ยังเป็นคนรุ่นเก่า ย่อมอยากให้มีพิธีแต่งงานสักหน่อย จะเล็ก จะใหญ่ อย่างไรก็ได้ แต่อย่างน้อยก็อยากให้มีเพ
พินทุอรมองอาหารละลานตาตรงหน้าแล้วอดขำไม่ได้ “ลี่เอ๊ย...ถ้าพี่กับเพชรกินอาหารของลี่หมดนี่ ไม่ต้องแต่งงานแล้วละ วนรอบเมรุสามรอบแล้วก็เผาได้เลย”“ก็ชิมอย่างละนิดสิคะพี่อิง นิดเดียวก็รู้รสแล้ว ลี่สั่งซี่โครงหมูอบน้ำผึ้งที่พี่ชอบมาด้วยนะ อยู่ในจานไหนสักจานนึงนั่นแหละ ไม่ก็อาจจะยังอยู่ในครัว เพราะจานไม่พอ”“นี่ยังมีอีกเหรอวะไอ้ลี่” เพชรพร้อมเริ่มขำ“มี มีของที่พี่เพชรชอบด้วย” คนเป็นน้องยิ้มเอาใจ “ส่วนของเสือน้อยเป็นข้าวตุ๋นกับฟักทองญี่ปุ่นและหมูสับ ถือว่าได้ร่วมฉลองด้วย”“เอาๆ กินกัน ไม่หมดก็ไม่ต้องกลับบ้านละกัน”“ผมไปเปิดไวน์ให้นะ ฉลองจดทะเบียนทั้งที เอาขวดที่แจ่มๆ เลย” วิณทร์วายุส่งลูกชายตัวป้อมให้ภรรยาสาว ก่อนจะหันไปถามเพชรพร้อมเรื่องไวน์เพราะเพื่อนสนิทเคยเล่าให้ฟังว่าเจ้าของสวนเพียงดินดีก็ชอบดื่มไวน์และมีความรู้เรื่องไวน์เหมือนกัน “เพชรมีไวน์ปีไหนที่ชอบเป็นพิเศษไหม เผื่อที่บ้านมี จะได้เปิดขวดนั้น”“เอาที่คุณเลือกเลยวิณทร์ ผมดื่มได้หมด”คะนึงรักรีบเสริม “รายนี้เน้นสุด ไม่เน้นทรง กะแช่ สาโท ยี่สิบแปดดีกรี พี่เพชรย้อมยังดื่มได้เลย”ทั้งสี่คนกับอีกหนึ่งเด็กน้อยกินอาหารเย็นที่คะนึงรักสั่งมาด
วันรุ่งขึ้นพินทุอรตื่นขึ้นในอ้อมกอดของเพชรพร้อมด้วยความสดชื่นการได้เล่าเรื่องส่วนตัวที่ไม่สวยงามนักให้เพชรพร้อมฟัง เป็นการปลดเปลื้องพันธนาการบางอย่างที่ฉุดรั้งพินทุอรมาหลายปี ทำให้เธอกับเขาได้รู้จักกันลึกซึ้งมากกว่าเดิมอีกขั้นหนึ่ง ที่ผ่านมานั้น นอกจากที่จำเป็นต้องเล่าให้คะนึงรักฟังแล้ว จิตแพทย์สาวก็ไม่เคยรู้สึกไว้ใจใครมากพอที่จะเล่าเรื่องบอบช้ำเหล่านี้ให้ฟังเลยแต่กับเขา...กับเพชรพร้อม...เธอรู้สึกว่าสามารถแบ่งปันได้ทุกเรื่องทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายเช้านี้ เธอเตรียมอาหารเช้าแบบง่ายๆ ไว้ให้ชายหนุ่ม นั่นคือเทซีเรียลรสช็อกโกแลตใส่ชาม ฝานกล้วยหอมเป็นแว่นๆ วางไว้ด้านข้าง หยิบขวดนมสดจากตู้เย็นออกมาวางกลางโต๊ะอาหาร จากนั้นก็ต้มน้ำร้อนในไมโครเวฟ สำหรับชงกาแฟแบบทรีอินวัน เมื่ออาหารเช้าเสร็จ เขาก็ออกจากห้องน้ำพอดี“ว้าว...เตรียมอาหารเช้าให้ผมด้วย” น้ำเสียงเข้มดุนั้นเต็มไปด้วยความขบขัน“ภูมิใจนำเสนอขั้นสุดเลยนะ” เธอยักคิ้วกวนเพชรพร้อมนั่งลงกินอาหารเช้ากับเธอ ดูข่าวเช้าเพลินๆ จู่ๆ ชายหนุ่มก็พูดขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย“อิง...เราสองคน...มีลูกด้วยกันมั้ย”พินทุอรอมช้อนที่ตักซีเรียลค้าง มองหน้าเพ