แชร์

บทที่ 5

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-18 02:59:55

บทที่ 5

ยังมีเวลาอีกเป็นวันกว่าจะถึงเมืองหลวง หวงจิงอวี๋นั่งมองคนที่ยังคงหลับสนิทราวกับต้องการจะถามว่าคำที่นางเอ่ยออกมาเมื่อคืนก่อนมันคืออะไรกัน

“ทำไมท่านแม่ทัพไม่ออกมาเลยล่ะ” เพราะเป็นแม่ทัพใหญ่จึงไม่ชอบให้ใครยกยศถาบรรดาศักดิ์ของตนมาที่สนามรบ ระหว่างที่ทำหน้าที่แม่ทัพ แม้จะเป็นอ๋องหรือจะเป็นพระอนุชาของกษัตริย์แต่หวงจิงอวี๋ก็ให้ทุกคนปฏิบัติกับเขาเหมือนกับแม่ทัพคนหนึ่งเท่านั้น

“ตั้งแต่รับแม่นางผมขาวคนนั้นขึ้นมาก็หายเงียบไปในห้องมีเพียงแค่องครักษ์จูที่เข้า ๆ ออก ๆ ได้” องครักษ์จูได้ยินทุกคนที่เหล่าทหารบนเรือพูด และที่จริงเขาก็บอกกับแม่ทัพใหญ่ไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น อีกฝ่ายก็ยังเลือกที่จะเฝ้าแม่นางผู้นั้นราวกับรอคอยอะไรสักอย่าง

 

“อื้อออ” เสียงคล้ายกับคนรู้สึกตัว ไม่ใช่เสียงบ่นงึมงัมเหมือนก่อนหน้านี้ทำให้หวงจิงอวี๋ที่เฝ้าอีกฝ่ายจนแทบไม่ได้หลับได้นอนเร่งไปที่ข้างเตียง

“แม่นาง” คำเรียกของชายหนุ่มยังไม่แปลกเท่ากับทรงผมและเสื้อผ้าของเขา

“มันก็แค่ปาร์ตี้ทำไมต้องเรียกอย่างนี้ด้วย” หลงเหยียนที่คิดว่าตนยังคงอยู่ในปาร์ตี้บนเรือบ่นออกไป “แล้วใครเป็นคนไปช่วยฉันเนี่ย” เธอคิดว่าตัวเองเพียงแค่ตกน้ำแล้วก็มีคนกระโดดลงไปช่วยแต่คำพูดแต่ละอย่างของหญิงสาวกลับทำให้คนที่ตื่นตกใจอยู่พอประมาณแล้วยิ่งตกใจหนักเข้าไปใหญ่

“ปาร์ตี้ คือสิ่งใดกัน แล้วฉันคือชื่อของเจ้าหรือ ช่างเป็นนามที่แปลกยิ่งนัก” แม้ว่าหวงจิงอวี๋จะรู้สึกว่าหญิงสาวที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแปลกประหลาด แต่สำหรับหลงเหยียนที่ถึงจะเรียนโบราณคดีมา แต่เจอคำพูดคำจาแบบนี้ก็รู้สึกประหลาดไม่น้อยเหมือนกัน

“กินเหล้ามากไปจนเมาหรือไง”

หวงจิงอวี๋ชี้ที่ตนเอง “ข้าน่ะหรือ ข้าไม่ได้เมา ไม่ได้ร่ำสุราแม้เพียงนิด”

หลงเหยียนขยี้หัวตัวเอง โอ้ย อินกับบทมากไปหรือไง

“จะอะไรก็ช่างเถอะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉันงงไปหมดแล้ว” หญิงสาวมองไปรอบ ๆ เหมือนกับห้องไม้ธรรมดาแค่โคลงไปโคลงมา ซึ่งไม่เหมือนกับเรือที่เธอขึ้นแม้แต่น้อย

เมื่อคิดว่าบางทีคนบนเรืออาจจะไม่ได้เป็นคนช่วยเธอแต่เป็นชาวประมง หรือเรือที่ผ่านมาก็ทำให้ดวงตาของหญิงสาวคลอด้วยน้ำใสน้อย ๆ เธอหายไปคงไม่มีใครสนใจเลยสินะ แต่แล้วหญิงสาวก็ตัดใจแล้วบอกกับคนตรงหน้าไป โดยลืมนึกไปว่าหากนี่เป็นเรือประมงหรือเรือที่ผ่านมาจะแต่งชุดโบราณแฟนซีเหมือนกับเธอทำไมกัน

“ถ้ามีท่าเรือไหนที่มีแท็กซี่ก็ทิ้งฉันเอาไว้ที่นั่นก็ได้” คำแปลกประหลาดอีกครั้งทำให้หวงจิงอวี๋แปลกใจ

“เจ้าเป็นคนที่ไหนกัน” เพราะคำพูดและท่าทางแปลก ๆ ของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มจำต้องถามคำนี้ออกไป

“คุนหนิง”

ชื่อเมืองที่ไม่คุ้นทำให้แม่ทัพหนุ่มเกิดความสงสัยจนหัวคิ้วขมวด

ส่วนทางด้านหลงเหยียนที่ไม่รู้ว่าตนเองนั้นมาอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่ก็ไม่ได้รู้เลยว่าคุนหนิงของเธอนั้นเมื่อก่อนเรียกกันว่าหยุนหนานฝู่ทำให้ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน และคิดไปเองว่าหญิงสาวนั้นเป็นคนที่มาจากสวรรค์ชั้นฟ้าจริง ๆ

“นี่ของเจ้าหรือ”

หลงเหยียนเห็นสร้อยที่อยู่ในมือของชายหนุ่มก็พยายามจะคว้าเอาไว้ “นั่นของฉันนะ เอาคืนมามันเป็นของสำคัญที่จะช่วยคน” พอเผลอหลุดพูดออกมาก็ทำให้นึกเรื่องราวออก แล้วก็เริ่มสงสัยว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกันแน่ “หรือบางทีอาจจะกำลังฝัน” หลงเหยียนพูดออกมา

“เจ้าไม่ได้ฝันหรอก ตอบข้ามาเถอะเรื่องนี้มันสำคัญมาก แล้วเจ้าได้สร้อยนี้มาได้อย่างไร”

ท่าทางร้อนรนและภาพที่เคยเห็นเกิดชัดขึ้นมาอีกครั้ง “ท่าน...” ใบหน้าคมคาย ดวงตาราวกับพยัคฆ์และผมสีดำตรงยาวแม้กระทั่งยามที่ออกดาบผมนั่นก็ยังพริ้วไหวตาม “ท่านคือหวงจิงอวี๋เหรอ”

หลงเหยียนโพล่งออกไป และนั่นก็ทำให้คนที่ได้รับคำถามตอบรับอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่รู้ ๆ กันอยู่แล้วอย่างว่าเขาเป็นใครก็ตาม

“ไม่จริงน่า” หลงเหยียนพูดกับตัวเอง เธอตื่นตระหนกไม่ใช่น้อย “แล้วหยูอิง และหย่งเล่อล่ะ ทั้งสอง”

คำเรียกที่ไม่เอ่ยถึงยศถาบรรดาศักดิ์แต่กลับพูดเพียงชื่อเฉย ๆ ทำให้หวงจิงอวี๋เตรียมจะเตือนหญิงสาวแล้วหากไม่มีคำถัดมา

“แล้วเรื่องคำสาปนั่น”

ชายหนุ่มจับร่างสวยตรงหน้าให้หันมาเผชิญหน้ากัน

“เจ้ารู้เรื่องคำสาปหรือ เจ้าแก้ได้ใช่หรือไม่ เจ้าเป็นเซียนหรือเทพแปลงกายมาใช่ไหม เป็นคนที่สวรรค์ส่งมาให้ช่วยพี่ชายของข้า โอรสแห่งสวรรค์ใช่หรือไม่”

คำของหวงจิงอวี๋ยิ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับหญิงสาว เธอไม่รู้จะต้องพูดอธิบายอย่างไร

แต่ถ้าอีกฝ่ายคิดว่าเธอมาช่วยแก้คำสาปให้เข้าใจว่าเป็นเทพเซียนเองก็ดีเหมือนกัน เพราะจากที่เธอได้ฟังสองแม่ลูกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ มันไม่ใช่จะแก้กันง่าย ๆ และเธอก็ต้องมีคนช่วย

“ฉัน...คือเราจะมาช่วยแก้คำสาปแต่เราทำเองไม่ได้ต้องมีคนช่วยเหลือ”

เพราะพูดคำว่าฉันแล้วอีกฝ่ายมองเธอแปลก ๆ จึงเปลี่ยนสรรพนามแต่ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าแปลกอยู่ดี

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คำสาปราชันย์   บทที่6

    บทที่ 6แน่นอนว่าหลังจากนางสมอ้างตามน้ำตามคำพูดหวงจิงอวี๋ หลงเหยียนก็ถูกต้อนรับเป็นอย่างดี “ตอนนี้มีเพียงแค่เสื้อผ้าของข้ารบกวนเทพธิดาใส่ไปก่อนจะได้หรือไม่ หากถึงเมืองเมื่อใดท่านจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี” หลงเหยียนรู้สึกว่าตัวเองหลอกชายหนุ่มตรงหน้านี่เธอก็เป็นแค่คนธรรมดา แต่อีกฝ่ายกลับคิดว่าเธอเป็นเทพธิดาไปซะได้“เรียกเราหลงเหยียนก็พอ” หญิงสาวบอกออกไปด้วยรอยยิ้ม และนั้นก็ทำให้ชายหนุ่มต้องก้มหน้าหลบสายตา “ได้หลงเหยียน”หวงจิงอวี๋ใช้เวลาคิดสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว “ท่านรู้เรื่องทั้งหมดใช่หรือไม่ ข้าหมายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและคำสาป ท่านรู้มากแค่ไหนกัน” หลงเหยียนพยักหน้า “รู้อยู่บ้างเท่าที่หยูอิงและหย่งเล่อเล่าให้ฟัง และยังเห็นภาพคืนนั้นที่พวกเขาจากไป แต่เรื่องพิธีที่สามีของหยูอิงทำนั้นเราไม่เห็น” หลงเหยียนบอกออกไปตามตรง และแม้หญิงสาวจะไม่ได้อวดอ้างอะไร แต่การพูดแบบนั้นก็ยิ่งทำให้หวงจิงอวี๋เชื่อว่าหญิงสาวไม่ใช่คนของดินแดนมนุษย์และไม่ใช่คนจริง ๆส่วนทางหลงเหลียนที่พูดออกไปแบบนั้นก็เพราะเธอเห็นภาพจากมุมมองของคนที่จากไปแล้วอย่างหยูอิงทั้งเรื่องตอนที่กำลังจะจากไปและหลังจากนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-22
  • คำสาปราชันย์   บทที่ 7

    บทที่ 7หลงเหยียนได้อาบน้ำและพักผ่อน ทุกครั้งที่เธอหลับหยูอิงและหย่งเล่อจะมาบอกเรื่องต่าง ๆ ที่หญิงสาวควรจะรู้และต้องรู้ “บอกพระสวามีของข้าว่าต่อให้ดื่มน้ำแกงของยายเมิ่งแล้วข้าก็ยังคงจะจดจำเขาได้” หลงเหยียนตื่นขึ้นมาด้วยเสียงของนางกำนัลในจวนอ๋อง คำพูดของหยูอิงในความฝันนั้นช่างน่าแปลก แต่หลงเหยียนก็จำได้ทุกคำ ไม่เท่านั้น“บอกเขาแค่คนเดียวนะ อย่าให้ใครได้ยิน” เสียงกระซิบที่คล้ายจะลอยมากับสายลมทำให้หญิงสาวต้องพยักหน้าเบา ๆ เธอไม่รู้แล้วว่าเรื่องตอนนี้อะไรจริงอะไรเท็จ แต่หากนี่เป็นเรื่องจริงที่เธอไม่ได้คิดนึกขึ้นเอง การได้เจอกับหวงตี้ฮ่องเต้ก็เป็นอะไรที่น่ากลัวภาพในความฝันที่เห็นบ่อยครั้ง อีกฝ่ายไม่ได้ใจดีเหมือนกับน้องชายหวงจิงอวี๋ แต่กลับมีความโหดร้ายและเอาแต่ใจหนักอยู่ก่อนหน้าฮองเฮาจะจากไปก็ว่าแย่แล้วหลังจากจากไปก็ยิ่งแย่ขึ้นกว่าเดิมอีกหลงเหยียนถูกจับแต่งตัวโดยนางกำนัลมากมาย เธอนึกเห็นใจหญิงสาวสมัยก่อนที่ต้องเปิดเผยร่างกายให้กับสาวใช้ได้รู้ แต่จะให้ทำนั่นนี่เองไปทั้งหมดก็เป็นเรื่องที่ยากเกินไป ไม่ชินเลยจริง ๆ หลงเหยียนคิดชุดของเธอเป็นสีขาวเหมือนกับผมของเธอแต่มีผ้าวกกลับขึ้นไปคลุมผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • คำสาปราชันย์   บทที่ 8

    บทที่ 8“ฟังสิต่อให้เป็นคำลวงก็อยากฟัง” ฮ่องเต้หนุ่มไม่สนใจจะเก็บท่วงท่าสง่างามเอาไว้ เขาแค่ต้องการรู้จริง ๆ ว่าสิ่งที่ภรรยาที่รักบอกสิ่งใดกับหญิงสาวที่อ้างว่ามีพลังวิเศษนี้ แม้จะเป็นคำลวงเขาก็อยากฟัง หลงเหยียนกระดิกนิ้วให้อีกฝ่ายขยับมาใกล้ ๆ คนทั้งท้องพระโรงตาโตกับท่าทางราวกับดูถูกนั่น แต่หวงตี้ฮ่องเต้กลับทำตามโดยไม่ได้พูดอะไรคงเพราะสร้อยที่มันเหมือนกับของคนที่เขารักอยู่บนคอของนาง ช่างทำออกมาได้เหมือนกับของหยูอิงมากจริง ๆหวงจิงอวี๋ที่มองอยู่ก็รู้สึกกระสับกระส่ายอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งเห็นสองคนกระซิบกระซาบใกล้กันก็ยิ่งรู้สึกแปลก ๆ“เข้าใจหรือไม่” คำช่วงแรกไม่มีใครได้ยินนอกจากหวงตี้อ่องเต้เท่านั้น แต่หลังจากเสียงของหลงเหยียนเงียบลง หวงตี้ฮ่องเต้ก็เดินกลับไปยังบัลลังก์ด้วยใบหน้าเคร่งเครียดและออกคำสั่งทันที “ให้นางเข้ามาอยู่ในวังหลวง นางคือเทพธิดาที่จะมาช่วยบ้านเมืองเรา” หลงหยียนตกใจ นางไม่ได้ต้องการเช่นนี้ หญิงสาวขมวดคิ้วและส่ายหน้า “เราเข้ามาอยู่ที่นี่ไม่ได้ จะทำเรื่องนั้นได้เราจำเป็นต้องมีหวงจิงอวี๋ ไหนยังจะต้องเดินทางอีก” ทุกครั้งที่หลงเหยียนเรียกฮ่องเต้และท่านอ๋อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • คำสาปราชันย์   บทที่ 9

    บทที่ 9องค์หญิงม่านหลินจึงจำต้องเก็บความไม่พอใจลงคอทำได้เพียงยืนมองสองหนุ่มสาวยืนเคียงคู่กันม่านหลินเฝ้าดูอยู่จากมุมหนึ่งของท้องพระโรง สายตาจับจ้องไปที่หญิงสาวผู้ที่เดินเคียงข้างชายที่นางหลงรัก หวงจิงอวี๋และหญิงสาวผู้นั้นกำลังเดินมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าหวงตี้ฮ่องเต้ หวงจิงอวี๋ยืนอยู่ข้างหญิงสาวผู้วิเศษอย่างเต็มใจ ภาพนั้นทำให้ม่านหลินรู้สึกเคียดแค้นอย่างยิ่ง แม้หวงตี้ฮ่องเต้จะไม่ได้กดนางให้ต้อยต่ำเยี่ยงตัวประกันผู้อื่น แต่การที่นางได้มายืนต้อนรับแม่ทัพและทหารที่กลับมาจากการชนะศึกที่ท้องพระโรงได้ ก็ถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ หาที่สุดมิได้แล้วหากม่านหลินแสดงกริยาใด ๆ ออกไปให้ขุ่นเคือง นางมิรู้ว่าตนเองที่อยู่ในฐานะที่ไม่แน่นอนจะเป็นเช่นไร แม้หวงตี้ฮ่องเต้จะให้นางอยู่เยี่ยงองค์หญิงพระองค์หนึ่งในวังหลังแห่งนี้ แต่ม่านหลินไม่ได้มีอำนาจอย่างที่ตำแหน่งของนางควรจะมีองค์หญิงม่านหลินจึงจำต้องเก็บความไม่พอใจลงคอ ทำได้เพียงยืนมองสองหนุ่มสาวยืนเคียงคู่กัน ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจนางยิ่งเพิ่มพูนเมื่อเห็นหวงจิงอวี๋มองหญิงสาวที่เขาเอ่ยว่านางคือเทพธิดาที่จะมาช่วยถอนคำสาปด้วยสายตาอบอุ่นและ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • คำสาปราชันย์   บทที่ 10

    บทที่ 10“พี่ใหญ่ดูสิเหมือนวันนี้เราจะเจอของดีเข้า” บรรดาโจรโผล่ขึ้นมาในมุมต่าง ๆ ทำให้หลงเหยียนรู้สึกกังวล “หยูอิงไม่ได้บอกว่าจะมีแบบนี้นี่นา”หลงเหยียนมองบรรดาซากศพของโจรที่เพิ่งต้องการจะปลดชีพนางและหวงจิงอวี๋ แค่เพียงนางหลับตาไปเพียงครู่ บรรดาองครักษ์และคนติดตามของท่านอ๋องก็จัดการโจรลงได้ในเวลาเพียงไม่นาน เรียกได้ว่าไม่กี่นาที“ท่านเป็นเทพธิดาคงไม่เคยเจออะไรแบบนี้ แต่ดินแดนมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ บางคนไม่มีก็ไม่ทำอะไร หมายมั่นจะแย่งชิงเพียงอย่างเดียว และเพราะอย่างนั้นพี่สะใภ้และหลานของข้าจึงต้องจากไป”หลงเหยียนเข้าใจคำของหวงจิงอวี๋เป็นอย่างดี และอยากจะบอกกับชายหนุ่มด้วยว่าที่ไหนก็มีทั้งนั้น นางเองก็โดนแย่งงาน แล้วตอนนี้ยังต้องถูกพาร่างทั้งร่างย้อนเวลามาหาวิธีแก้คำสาปอีก และมีอยู่เรื่องหนึ่งที่หลงเหยียนไม่ได้บอกกับใคร เพราะหยูอินก็ไม่ได้บอกกับนาง ขั้นตอนสุดท้ายที่จะต้องทำในการล้างคำสาป มันเขียนเอาไว้ในคัมภีร์ หยูอิงเลือกที่จะปิดบังมันจากนาง หลงเหยียนรู้แต่เลือกที่จะนิ่งเงียบ เพราะนางในตอนนี้เรียกว่าไม่มีทางเลือก ต้องทำตามน้ำและความต้องการของคนพวกนี้ หากนางย้อนเวลามาแล้วไม่ได้เจอกับหวง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • คำสาปราชันย์   บทที่ 11

    บทที่ 11ระหว่างเดินทางนับสิบกว่าวันหลงเหยียนแวะอาบน้ำสระผมถึงสามสามครั้ง นางก็ไม่ได้อยากให้คนอื่นลำบากหรอก นางก็แค่ไม่ชิน แล้วอีกอย่าง หยูอินบอกว่าไปตอนนี้นางก็เข้าไปด้านในไม่ได้ เพราะไต้ซือที่ดูแลเจดีย์ทองนั้นเก็บตัวอยู่ ที่จริงอีกฝ่ายจะออกมาไม่จากเจดีย์ไม่กี่ครั้งต่อปีเท่านั้น และวันที่จะมาถึงก็อีกห้าวันแม้การเดินทางไปยังลี่เจียงจะใช้เวลานานและเต็มไปด้วยความลำบาก แต่หวงจิงอวี๋ก็จัดการทุกอย่างได้ดีเกินคาด เขาคอยดูแลหลงเหยียนอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินหรือที่พัก หลงเหยียนรู้สึกขอบคุณในใจและเริ่มเห็นถึงความพิเศษของชายหนุ่มผู้นี้มากขึ้น“พวกเรามาถึงลี่เจียงแล้ว เจดีย์สีทองอยู่ไม่ไกลจากที่นี่” หวงจิงอวี๋บอกเมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงเมืองลี่เจียงหลงเหยียนมองไปยังทิวทัศน์รอบ ๆ เมืองที่สวยงาม แต่ก็รู้ว่าการมาที่นี่ไม่ใช่เพื่อท่องเที่ยว แต่เพื่อทำภารกิจสำคัญในการปลดปล่อยวิญญาณและแก้คำสาป“ขอบคุณท่านมากที่ดูแลข้าอย่างดีมาตลอด” หลงเหยียนเอ่ยขึ้น“อีกสามวันก็จะถึงแล้ว” เวลาค่อนข้างชั้นเลยทีเดียว “ไต้ซือจะออกมาจากเจดีย์หลังจากนี้ห้าวัน หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเราต้องทิ้งทุกคนแล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • คำสาปราชันย์   บทที่ 12

    บทที่ 12ทันทีที่ก้าวเดินเข้ามาในเจดีย์ทอง คำพูดที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้ยินก็ดังขึ้น “คงเป็นการเดินทางที่ไกลมากสินะ ถึงจะไม่ง่ายแต่สิ่งที่ทำนี่ก็ไม่ยากเกินไปหรอกเพราะใช้ของที่ไม่ควรจะใช้จึงเป็นแบบนี้ นี่ไม่ใช่สมบัติของแคว้นนี้เมืองนี้มันมาจากที่โบราณกว่านั้น” ไต้ซือพูดออกมาแทบจะในทันทีที่เดินเข้าไปถึงด้านใน“ไต้ซือรู้” หลงเหยียนหลุดเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ เรื่องที่นางถูกวิญญาณของหยูอิงพาย้อนข้ามกาลเวลามา นางมิได้บอกใครแม้แต่หวงจิงอวี๋ไต้ซือหันมามอง และยิ้มจาง ๆ “รู้ทุกเรื่องจนเหนื่อยใจ ไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบัน หรือวันข้างหน้า เอาเป็นว่าถ้าหากรู้สึกหลงทางก็ทำตามที่คัมภีร์ว่า อาตมาไม่ได้อยู่กับโยมจนถึงที่สุดของเรื่องราวหรอก นี่คงเป็นการเจอกันครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเราทั้งสอง” อีกฝ่ายพูดไปก็เดินไปหยิบคัมภีร์ ก่อนจะนำมาส่งให้กับหญิงสาวผู้มาจากอีกห้วงเวลา ห้วงเวลาที่ยังมาไม่ถึง“ฝังมันไปกับโยม มันคือหนทางที่ดีที่สุดเพราะเจ้าของเก่าเขาโกรธแค้นที่สูญเสียคัมภีร์ประจำตระกูลไป และ” คำที่พูดซ้ำยิ่งทำให้หลงเหยียนสังสัยและอดไม่ได้ที่จะถาม “ฉันจะต้องตายที่นี่เหรอหรือเจ้าคะ” เมื่ออีกฝ่ายน่าจะรู้คว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • คำสาปราชันย์   บทที่ 13

    บทที่ 13คืนนั้นระหว่างที่นอนความฝันของเหตุการณ์เดิมที่เกิดขึ้นในครั้งก่อนก็ปรากฏให้เห็นอีกครั้ง และทั้ง ๆ ที่เห็นอยู่บ่อย ๆ แล้วแท้ ๆ แต่หลงเหยียนก็ยังตกใจจะสะดุ้งตื่น การตื่นขึ้นมากลางดึกในป่านี่ไม่ดีเลย แม้จะยังมีทหารผลัดกันดูแลเฝ้าไม่ให้มีอันตราย และวันนี้ตัวนางก็ได้นอนในกระโจมเพียงลำพัง ส่วนคนที่นอนเป็นเพื่อนนางทุกคืนวันนี้เขาออกไปนอนล้อมกันอยู่ที่กองไฟกับเหล่าองครักษ์เหมือนขาไป เพราะความเร่งรีบกลัวไม่ทันวันที่ไต้ซือจะออกมาบวกกับเกรงจะมีโจรป่าบุก แต่ขากลับระหว่างทางสงบ เขาจึงเลือกออกไปนอนด้านนอก พอเป็นแบบนี้หลงเหยียนกลับรู้สึกกังวลมากกว่า เพราะข้างกายของหญิงสาวไม่ได้มีหวงจิงอวี๋อยู่เหมือนเคยแล้ว“เมื่อคืนท่านนอนไม่หลับหรือ” ชายหนุ่มถามทันทีที่เข้ามานั่งในรถม้าและเจอกับหญิงสาวที่ปิดปากหาวอย่างไม่สำรวมกิริยา “ท่านพูดเรื่องนี้ก็ดี ข้ากำลังจะบอกว่าต่อไปก็นอนกระโจมเดียวกันก็ได้ ไม่มีท่านแล้วข้านอนไม่หลับเลย” คนฟังใบหูเริ่มแดงอย่างห้ามไม่ได้ “คงไม่เหมาะกระมัง” หลงเหยียนหันไปมองชายหนุ่มแล้วก็ยิ้มอย่างเอ็นดูพลางคิดในใจว่าคนโบราณก็ดูน่ารักดี แค่นี้ก็อายซะแล้ว“จากนี้ท่านจะให้ไปไหนต่อ”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23

บทล่าสุด

  • คำสาปราชันย์   ตอนพิเศษ5

    ตอนพิเศษ+5แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปที่ไซต์งานจริง ๆ หวงต้าลู่กลับขับรถพาเธอไปส่งถึงที่ พร้อมกับเตรียมเก้าอี้นุ่ม ๆ และร่มกันแดดคันใหญ่ให้เธอตลอดเวลาที่เธอออกจากที่ร่ม อีกฝ่ายไม่ได้ให้เธอได้เดินไปไหนมาไหนเกินความจำเป็น ลูกน้องทุกคนได้รับคำสั่งให้ดูแลเธออย่างใกล้ชิด ราวกับเธอเป็นสมบัติล้ำค่าที่ต้องดูแลให้ดีที่สุด แต่หลงเหยียนก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะอย่างน้อยเธอก็ได้ทำงาน...หญิงสาวนั่งดูงานด้วยความพอใจ ขณะที่หวงต้าลู่นั่งอยู่ข้าง ๆ คอยดูแลไม่ห่าง พวกเขาทั้งคู่หัวเราะและพูดคุยกันเบา ๆ ในบางครั้ง ซึ่งนั่นก็เป็นท่าทางที่ดูน่ารักดีสำหรับบรรดาเพื่อนร่วมงานคนอื่นเวลาผ่านไป 6 ปีพิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางภูมิประเทศที่งดงาม ห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาและลำธารที่ไหลผ่าน ผืนดินที่เคยเป็นสถานที่ขุดค้นสมบัติโบราณ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมชม ด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และการจัดแสดงที่ได้รับการบูรณะอย่างพิถีพิถัน ซึ่งเป็นเรื่องราวของความรักและความเสียสละของต้นตระกูลหวง กลายเป็นเรื่องราวที่ซึ้งกินใจใครหลาย ๆ คนหวงต้าลู่และหลงเหยียนพาลูกแฝดของพ

  • คำสาปราชันย์   ตอนพิเศษ4

    ตอนพิเศษ+4“หลงเหยียน คุณต้องพักผ่อนมาก ๆ นะครับ อย่าทำงานหนักเกินไป ผมไม่อยากให้คุณหรือลูก ๆ ของเราเสี่ยงอะไรทั้งนั้น” หวงต้าลู่พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ขณะที่เขาช่วยประคองพาหญิงสาวเดินไปนั่งบนโซฟานุ่ม ๆ ในบ้าน เขาดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่อาหารการกินไปจนถึงการนอนหลับของเธอ จนหลงเหยียนนึกว่าตัวเองเข้าคอร์สอะไรสักอย่างที่ต้องมีเทรนเนอร์ตามติดหญิงสาวค่อนข้างจะอึดอัด เพราะปกติแล้ว หลงเหยียนเคยชินกับการทำงานหนักในไซต์งาน การเป็นนักโบราณคดีเรียกได้ว่านอนกลางดินกินกลางทราย บางทีก็ไม่ได้นอน บางทีก็ไม่ได้กิน ตอนนี้ได้ทั้งนอนเต็มอิ่มและกินจนจุกจึงทำให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกอึดอัดกับการถูกประคบประหงมขนาดนี้ เธอรู้สึกคิดถึงการทำงานภาคสนาม ที่ซึ่งเธอสามารถใช้ความรู้และทักษะของเธอได้เต็มที่ ไม่ใช่แค่มองภาพที่ถ่ายมาแล้วประเมินเนื้อหาทั่ว ๆ ไปอย่างตอนนี้“หวงต้าลู่คะ ฉันอยากกลับไปทำงานที่ไซต์งานได้ยินว่าเจอของใหม่ และฉันมั่นใจว่ามีอีกหลายอย่างที่เรายังต้องค้นพบอีก แล้วก็ยังสุสานเก่าอีกที่ที่เราเคยไปด้วยกันเมื่ออดีตที่นั่น ฉันก็อยากจะหามันให้เจอแต่ที่สำคัญที่สุดเลย คือฉันคิดถึงการทำงานที่นั่นมาก” หญิงสาวบอก

  • คำสาปราชันย์   ตอนพิเศษ3

    ตอนพิเศษ+3ภาพคนทั้งสองที่ยืนเคียงข้างกัน ขณะที่เสียงเพลงหวาน ๆ บรรเลงขึ้นเบา ๆ เป็นภาพที่ทำให้บรรดาแขกมีรอยยิ้ม ทุกคนต่างเห็นพ้องว่าทั้งสองคนนั้นถูกกำหนดมาให้คู่กันอย่างแท้จริง ซึ่งแม้แต่กาลเวลาก็ไม่สามารถทำลายได้เมื่อเรือแล่นกลับมายังท่า หวงต้าลู่จับมือหลงเหยียนไว้แน่น ขณะที่พวกเขาเดินลงจากเรือไปพร้อมกับรอยยิ้มที่เปล่งประกายทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันไปข้างหน้า ท่ามกลางเสียงปรบมือและความยินดีของแขกที่มาร่วมงาน งานแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเริ่มต้นชีวิตคู่ในปัจจุบัน แต่เป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ได้รับการสานต่อจากอดีต และพวกเขารู้ดีว่าทุกย่างก้าวที่พวกเขาจะก้าวไปด้วยกันนั้นจะเต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความผูกพันที่ยืนยาวข้ามผ่านกาลเวลาหลังจากงานแต่งงานที่อลังการบนเรือผ่านพ้นไป หวงต้าลู่และหลงเหยียนเลือกที่จะไม่เดินทางไปยังสถานที่หรูหราเหมือนคู่แต่งงานอื่น ๆ แต่พวกเขากลับเลือกที่จะไปฮันนีมูนในเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความทรงจำ เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่พวกเขาไม่ได้ใช้ร่วมกันในอดีตพวกเขาเดินทางมาถึงเมืองโบราณลี่เจียง เมืองที่มีอายุนับร้อยปี ถนนหนทางยังคงปูด้วยหินกรวด บ้

  • คำสาปราชันย์   ตอนพิเศษ2

    ตอนพิเศษ+2“ขอบคุณนะที่อยู่ข้าง ๆ ฉันเสมอ คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนเรากำลังเริ่มต้นสิ่งใหม่”“ผมก็รู้สึกแบบเดียวกัน ทุกอย่างที่เราเจอมา ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน มันทำให้ผมมั่นใจว่าเราถูกกำหนดมาให้คู่กัน” แม้ว่าจะต้องใช้ความเจ้าเล่ห์ของตัวเองช่วยเหลือบ้าง แต่หวงต้าลู่คิดเช่นนั้นจริง ๆ ถ้าสวรรค์ไม่ช่วย เขาจะนำหญิงสาวข้าง ๆ กายมาเป็นของตนได้อย่างนั้นเหรอคงไม่มีทางงานแต่งงานของพวกเขาที่กำลังจะมาถึง ไม่ใช่แค่งานแต่งงานธรรมดา ๆ แต่มันเป็นการฉลองให้กับความรักที่ยาวนานผ่านกาลเวลา และเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่รู้จบงานแต่งงานของหลงเหยียนและหวงต้าลู่จัดขึ้นอย่างอลังการ บนเรือที่ล่องออกไปกลางแม่น้ำใหญ่ แม้ว่าในตอนแรกทั้งสองจะมีความลังเลใจเป็นอย่างมากที่จะทำแบบนี้ เพราะในอดีตเคยเกิดเหตุที่ทำให้หลงเหยียนหายไปจากชีวิตของหวงต้าลู่เมื่อหลายร้อยปีก่อนแต่ความเชื่อมั่นที่ทั้งสองคนมีให้ต่อกันก็ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะจัดงานแต่งงานในสถานที่แห่งนี้ เพื่อเป็นการพิสูจน์ความรักที่ยิ่งใหญ่และความผูกพันที่จะไม่มีวันจางหายตลอดกาล ต่อให้จะมีอุปสรรคมากแค่ไหนก็ตาม“คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมหลงเหยียน” หวงต้า

  • คำสาปราชันย์   ตอนพิเศษ1

    ตอนพิเศษ+1งานแต่งงานที่ใกล้เข้ามา ทำให้หลงเหยียนตื่นเต้นและอดไม่ได้ที่จะมีความคาดหวังกับมัน และเพราะอย่างนั้นหญิงสาวจึงมากังวลอยู่อย่างนี้ ตอนนี้เธอนั่งประชุมกับเพื่อน ๆ เพื่อจัดเตรียมงานแต่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ถึงแม้หลาย ๆ อย่างจะถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว กลับมีสิ่งหนึ่งที่หญิงสาวยังหาไม่ได้ นั่นก็คือธีมของงานแต่ง ในวันที่สถานที่พร้อม ชุดพร้อม และทุกอย่างพร้อมสิ่งที่สำคัญที่สุดกลับยังไม่มี“ฉันมีไอเดียเสนอ ทำไมเราไม่ใช้ธีมต่อจากนิทรรศการที่เพิ่งจัดไปล่ะ” หลงเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะที่เพื่อนอีกคนก็รีบเสริมทันที“จริงด้วย จริงด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นจะต้องเป็นธีมงานที่คนพูดถึงไปอีกนานแน่ ๆ ไหน ๆ ก็คงจะต้องเป็นข่าวอยู่แล้วใช่ไหมว่าที่คุณนายหวง” คำของเพื่อน ๆ ทำให้หลงเหยียนหน้าแดง เพื่อนที่ช่วยกันอยู่ตอนนี้ก็เป็นบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นของเธอที่มหาวิทยาลัย และเพื่อนร่วมงานทั้งนั้น เพราะหญิงสาวเป็นคนบ้างานบ้าเรียนสุดท้ายจึงรู้จักคนอยู่เท่านี้“ใช่ไหมล่ะ ท่านอ๋องที่รอคนรักมาตลอดหลายร้อยปี แล้วสุดท้ายก็ได้เจอกันในชาตินี้และได้แต่งงานกัน เหมือนคู่ของเธอกับคุณหวงไง เจอกันเพราะเธอมาขุดสุสานต้น

  • คำสาปราชันย์   บทที่35

    บทที่ 35บนเรือสำราญลำเดิมที่ทำให้หวงต้าลู่และหลงเหยียนได้พบกันจากอุบัติเหตุของหญิงสาว ตอนนี้ทั้งคู่กลับมายืนที่ตรงนี้อีกครั้งพร้อมกับบรรยากาศที่คล้าย ๆ เดิมแต่ไม่เหมือนเดิมซะทีเดียว ปาร์ตี้ก็ยังคงดำเนินไประหว่างที่เรือลำใหญ่ล่องผ่านสายน้ำที่เงียบสงบ ไม่มีอาจารย์จางอยู่บนเวทีและไม่มีคนที่แอบอ้างงานคนอื่นอย่างว่านหนิงอยู่ที่นั่นมีเพียงแค่หลงเหยียนกับทีมนักโบราณคดีคนอื่น ๆ ที่ถูกกล่าวถึงทีละคน เพราะ “งานนี้คงสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่มีทุกคนช่วยเหลือ” หลงเหยียนกล่าวระหว่างที่ยืนอยู่บนเวทีที่ห้อมล้อมไปด้วยผู้คนมากมายแสงไฟวิบวับจากดวงไฟนับร้อยที่ประดับประดาบนเรือ ทำให้บรรยากาศของงานเลี้ยงฉลองดูหรูหราและอลังการมากขึ้นไปอีกแขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างแต่งกายในชุดราตรี นักโบราณคดีที่มีชื่อเสียงและสื่อมากมายหลายสื่อต่างเข้าร่วมงานนี้ หลายคนมาเพราะคำเชิญ อีกหลายคนมาเพราะสนใจในงานนิทรรศการที่เพิ่งผ่านไปจริง ๆ บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงดนตรีที่บรรเลงเบา ๆ คลออยู่ในอากาศหลงเหยียนกลับมายืนอยู่ที่ด้านหลังเรืออีกครั้ง หญิงสาวมองออกไปยังสายน้ำเบื้องล่าง เธอสวมชุดราตรีสีงาช้างที่พลิ้วไหวท

  • คำสาปราชันย์   บทที่34

    บทที่ 34ความเชื่อมั่นที่หญิงสาวมีต่อหวงต้าลู่ทำให้เธอรู้สึกเข้มแข็งขึ้น และไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต เธอก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน ความจริงที่ชายหนุ่มเล่าให้ฟังอาจทำให้คนอื่นรู้สึกหวาดกลัวหรือกังวล แต่สำหรับหลงเห ยียน เธอกลับรู้สึกเฉย ๆ ไม่ใช่เพราะเธอไม่ใส่ใจ แต่เพราะตอนนี้เธอมีหวงต้าลู่อยู่เคียงข้าง ความรู้สึกปลอดภัยที่เขามอบให้มันมีค่ามากพอที่จะทำให้เธอไม่ต้องกังวลกับเรื่องอดีตอีกต่อไปหลงเหยียนยิ้มบาง ๆ และบีบมือหวงต้าลู่ที่ยังจับมือเธออยู่เบา ๆ“แต่อย่างไรก็ต้องขอบคุณจริง ๆ นะคะที่คุณเป็นห่วงและเอาเรื่องนี้มาบอกฉัน แต่...ฉันคิดว่ามันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ ไม่ว่าว่านหนิงจะเคยทำอะไรหรือไม่เคยทำ ตอนนี้ฉันก็ไม่สนใจแล้วจริง ๆ เพราะฉันมีคุณอยู่ข้าง ๆ ฉันรู้ว่าคุณจะปกป้องฉันได้เสมอ” หลงเหยียนตัดสินใจพูดความในใจออกไปให้อีกฝ่ายได้รู้หวงต้าลู่มองหลงเหยียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบกลับ“ผมดีใจที่คุณรู้สึกแบบนั้นครับหลงเหยียน ผมสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณปลอดภัย และจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายคุณได้อีกแน่นอน” หลงเหยียนพยักหน้าและยิ้มอย่

  • คำสาปราชันย์   บทที่33

    บทที่ 33“นี่มัน” หญิงสาวพูดออกมาเมื่อเสื้อเชิ้ตขาวของชายหนุ่มแหวกออกเพราะแรงกอดของเธอ รอยสลักที่เป็นชื่อของหญิงสาวยิ่งทำให้น้ำตาของหลงเหยียนไหลออกมาอีก “นี่มัน” หวงต้าลู่ดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดแน่น “เอาไว้ผมจะเล่าทุกเรื่องให้ฟัง แต่ตอนนี้คุณต้องพักก่อนนะ ผมรู้ว่าคุณอาจจะเป็นห่วงเรื่องงานและเรื่องนิทรรศการด้วย” หลงเหยียนยิ้มจาง ๆ อยากจะบอกกับอีกฝ่ายว่าเธอลืมมันเกือบหมดเมื่อเห็นชายหนุ่ม ไม่น่าเชื่อว่าความรู้สึกมันจะท่วมท้นจนทนไม่ไหวขนาดนี้“ฉันคิดถึงคุณมากตอนนี้เรื่องอื่นฉันไม่สนหรอก ขอโทษนะที่ทิ้งคุณมา ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น และก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมฉันถึงได้ลืมคุณ เรื่องทดลองคบของเราเปลี่ยนมันเป็นถาวรเถอะนะ” หลงเหยียนไม่รีรออะไรอีกแล้ว เพราะเธอและอีกฝ่ายรอมานานเหลือเกินแล้ว“ผมก็คิดถึงคุณ คิดถึงมากเกินกว่าที่คุณจะคาดคิดเลยทีเดียว และเพราะอย่างนั้นผมเลย...” หลงเหยียนรีบเอามือปิดปากไม่ให้เขาพูดอะไรออกมา น้ำตาไหลพรากออกมาจากดวงตาของเธอ เธอเห็นมันทั้งหมดว่าเขาทำสิ่งใดเพื่อให้ได้มาพบเธอในโลกปัจจุบัน ความฝันทั้งหมดที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มที่อยู่ในฝันคือเขาในอดีต“แต่ตอนนี้เราม

  • คำสาปราชันย์   บทที่32

    บทที่ 32หลังจากเรื่องราวทั้งหมด เมื่อความอิจฉาและความแค้นก่อตัวขึ้นในใจของว่านหนิง จนแทบจะระเบิด เธอก็เริ่มคิดถึงวิธีการที่จะทำให้หลงเหยียนได้รับความเจ็บปวดเหมือนที่ตัวเองเคยเผชิญมา ความรู้สึกที่ถูกหวงต้าลู่ปฏิเสธอย่างไร้ค่า รวมถึงการเห็นหลงเหยียนกับหวงต้าลู่รักกันมากขึ้นทุกวัน มันทำให้ว่านหนิงไม่สามารถทนได้อีกต่อไปว่านหนิงเฝ้าดูหลงเหยียนจากระยะไกลมาตลอด แม้ว่าช่วงนี้เธอและอีกฝ่ายจะไม่ค่อยได้เจอกัน หญิงสาวรอคอยโอกาสที่จะแก้แค้นให้สมกับความเจ็บปวดที่เธอได้รับตลอดมา เพราะสนิทจึงรู้ว่าหลงเหยียนมักจะใช้บันไดทางด้านหลังของอาคารเก็บผลงานเพื่อเดินไปยังห้องทำงานตรงไซต์งาน เนื่องจากเป็นทางที่เงียบสงบและมีคนใช้น้อย ว่านหนิงจึงคิดว่านั่นน่าจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการลงมือจัดการหลงเหยียนโดยไม่มีใครเห็นว่านหนิงแสร้งทำตัวเป็นมิตร และเดินเข้าไปทักทายหลงเหยียนด้วยรอยยิ้มที่ดูไร้พิษภัย แต่ในใจกลับคิดถึงแผนการที่อันตรายอย่างเงียบ ๆ“อยู่ทำงานดึกอีกแล้วนะ” หลงเหยียนยิ้มตอบอย่างแปลกใจ เพราะตั้งแต่มีเรื่องกัน หากไม่จำเป็นเธอและอีกฝ่ายก็แทบจะไม่พูดคุย“แค่ยุ่งนิดหน่อยน่ะ” หลงเหยียนตอบกลับไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status