Share

คาวแค้นแสนเสน่หา
คาวแค้นแสนเสน่หา
ผู้แต่ง: หงส์ จันรัญจวน แม่พลอยหุง

ตอนที่1.

ตอนที่1.

“อย่านะ ไม่... อย่าทำแพงเลย คุณลุงขาอย่าตีแพงนะคะ แพงขอร้อง ฮือๆๆ อย่าตี...” เสียงเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบเศษร่ำร้องอ้อนวอนต่อชายฉกรรจ์ซึ่งยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าเธอ สีหน้าถมึงทึงกับแววตาแดงก่ำของเขาน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงนัก ดวงใจเล็กๆ ของเด็กน้อยเต้นกระหน่ำด้วยความหวาดกลัว

“นังเด็กนรก มึงอย่ามาอ้อนวอนให้เสียเวลา มึงแกล้งลูกกูใช่มั้ย เด็กอย่างพวกมึงต้องโดนแบบนี้”

นายพัฒน์ชายวัยสามสิบปลายเงื้อด้ามไม้กวาดขึ้นสูงด้วยความฉุนเฉียวหมายจะฟาดลงไปบนตัวเด็กน้อย

“ลุงพัฒน์ อย่า อย่าตีแพง ฮือออ...”

เด็กหญิงซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันราวกับแกะวิ่งมาขวางไว้ก่อนที่ด้ามไม้กวาดจะโดนร่างเล็กๆ ที่นอนหมอบร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กับพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบ...

“ลุงจ๋า นี่ไง เพื่อนหาเงินมาให้ลุงกับป้าได้แล้ว นี่จ้ะ นี่เงินเพื่อนไปช่วยคุณครูที่โรงเรียนทำความสะอาดบ้านมาแล้วก็เก็บขวดไปขายได้มาสองร้อย เพื่อนให้ลุงกับป้าไปหมดเลย” เด็กหญิง พิมพ์ภัสสร ซึ่งเป็นแฝดผู้พี่ยื่นแบงก์ร้อยที่ค่อนข้างยับยู่ยี่ให้ผู้เป็นลุงแท้ๆ ด้วยความหวาดหวั่นแล้วเข้าไปประคองร่างผอมบางซีดขาวของ พิมพ์บงกชที่สะอื้นไห้อยู่กับพื้น เด็กหญิงทั้งสองกอดกันแน่นน้ำตาไหลพรากกับชะตากรรมที่พวกตนพบเจอ

“มันจะพออะไร แค่ค่าขนมไปโรงเรียนของเจนก็หมดแล้ว แม่ดูสิ นังสองคนนี่มันจงใจแกล้งเจน ฮือๆๆ”

เจนจิรา เด็กหญิงวัยสิบขวบลูกสาวของลุงพัฒน์กับ นางจันจวง ผู้เป็นป้าสะใภ้ร้องโวยวายกระทืบเท้าเร่าๆ เหมือนโดนใครเอาน้ำร้อนมาสาด

เจนจิราเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ ขี้เกียจ หยิบโหย่งและพูดจากลับกลอกโกหกเก่งเป็นที่สุดและมักหาเรื่องมาให้เด็กหญิงทั้งสองโดนพ่อแม่ของตนทุบตีอยู่เสมอๆ เด็กหญิงที่โตกว่ากราดตามองฝาแฝดที่กอดกันกลมอยู่ตรงหน้าเธออย่างเกลียดชัง เพราะเด็กทั้งสองคนนี้มีพื้นฐานฐานะครอบครัวที่ดีกว่าตน หน้าตาผิวพรรณก็ดีกว่า ฐานะทางสังคมก็ดีกว่าพ่อแม่ของเธอ แต่พวกพ่อแม่ของเด็กทั้งสองก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตายอย่างอนาถเมื่อปีที่แล้วทำให้ลูกสาววัยสี่ขวบในขณะนั้นต้องมาอยู่ในความดูแลของผู้เป็นเป็นลุงกับป้า ซึ่งก็คือพ่อแม่ของเธอนั่นเอง และเจนจิราก็รู้ดีว่าทำไม พ่อแม่ของเด็กสองคนนี่ถึงได้ประสบอุบัติเหตุ...

การที่เธอกับครอบครัวได้มาอยู่ในบ้านหลังใหญ่งดงามพร้อมด้วยสมบัติที่พ่อแม่ของเด็กแฝดทั้งสองทิ้งไว้เพราะว่าพ่อของเธอคือพี่ชายแท้ๆ ของคุณ พิมพ์ฤทัย แม่ของเด็กทั้งสองนั่นเอง ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเธอดีขึ้นในขณะที่ทายาทเจ้าของบ้านถูกกระทำเหมือนทาสและถูกโขกสับรังแกอย่างไร้เยื่อใย ไร้เมตตา แต่แล้วตอนนี้สมบัติที่เหล่านั้นหมดไปแล้ว และหนี้สินของครอบครัวก็เพิ่มพูนขึ้นมามากมายจนหลบหน้าเจ้าหนี้ไม่หวาดไม่ไหว เด็กหญิงผู้แก่แดดแก่ลมคิดอย่างหงุดหงิด

“แกสองคนวันนี้ไม่ต้องกินข้าว จำใส่กบาลหัวพวกแกไว้เลยนะหากยังอยากมีที่ซุกหัวนอนก็ต้องทำตัวดีๆ ช่วยกันทำมาหากินจะมาอยู่เกาะพวกฉันแบบนี้ไม่ได้”

นางจันจวง แม่ของเจนจิรากล่าวอย่างเดือดดาลพร้อมกับจิกผมยุ่งเหยิงของเด็กหญิงทั้งสองขึ้นมาแล้วผลักลงกับพื้นใกล้กับเท้าของนางก่อนจะจับโขกลงกับพื้นเสียงดังสนั่น หน้าผากเล็กๆ ของเด็กทั้งสองแดงโนขึ้นมาทันตาแต่กลับไม่มีเสียงร้องจากเด็กทั้งสองสักแอะ

“วุ้ย วันนี้อารมณ์เสียจริงๆ ฉันจะไปกินเหล้ากับเพื่อนแล้วนะ พวกเธออยู่กันไปเลย” นายพัฒน์ทำท่าจะเดินออกจากบ้านพร้อมเงินน้อยนิดที่มีแต่เจนจิรากับนางจันจวงเข้าไปขวางไว้

“หยุดเลยไอ้พัฒน์ แกอย่าเนียน เงินนั่นเอามาให้ฉัน”

“ไม่ เงินนั่นมันต้องเป็นของเจนนะ”

“เฮ้ย อะไรวะ ฉันเป็นหัวหน้าครอบครัวฉันต้องได้เงินนี่สิ”

สามคนพ่อแม่ลูกต่างยื้อแย่งเงินสองร้อยที่มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของเด็กตัวเล็กๆ อย่างเป็นบ้าเป็นหลังช่างเป็นภาพที่ดูน่าสมเพชนัก เด็กหญิงทั้งสองมองดูเหตุการณ์ตรงหน้ารับรู้ถึงรังสีอันตรายหากพวกเธอยังอยู่ตรงนี้ แฝดผู้พี่จึงประคองร่างผอมแห้งของน้องสาวเดินออกไปจากตรงนั้นแล้วรีบตรงไปยังห้องของพวกเธอซึ่งอยู่หลังบ้านซึ่งเมื่อก่อนมันเคยเป็นห้องพักของคนรับใช้แล้วปิดประตูใส่กลอนอย่างแน่นหนาเพราะกลัวว่าคนใจร้ายพวกนั้นจะเข้ามาทำร้ายพวกตนอีก

“แพงไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วล่ะเพื่อน ฮือออ...”

“เพื่อนรู้ แต่ถ้าเราไม่อยู่ที่นี่เราจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะแพง”

“แพงกลัว เพื่อนไม่อยู่รู้มั้ยพวกนั้นทำอะไรกับแพงบ้าง เพื่อนของลุงพัฒน์คนนั้นเขาพยายามจะ จะ...”

เด็กหญิงวัยเจ็ดขวบเศษทว่าตัวเล็กและซีดขาวกว่าแฝดผู้พี่มากเพราะสุขภาพไม่แข็งแรงนักอึกอักๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนเจอทุกครั้งที่เพื่อนของลุงมาที่บ้าน

“แพง บอกเพื่อนมาเถอะว่าเจออะไร เขาทำอะไรแพง”

เด็กหญิงที่แม้จะมีวัยเพียงเจ็ดขวบเศษแต่ระยะเวลากว่าสองปีกว่าที่ลุงแท้ๆ พาครอบครัวเข้ามาอยู่และดูแลทรัพย์สมบัติทุกอย่างในบ้านของเธอ ในชีวิตของพวกเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเด็กหญิงที่ใสซื่อบริสุทธิ์และอ่อนต่อโลกกลายเป็นเด็กที่กร้าวแกร่งขึ้นเมื่อได้เห็นอะไรที่กว้างขึ้นและเลวร้ายมากขึ้นซึ่งมันทำให้เด็กหญิงพิมพ์ภัสสรรู้จักที่จะดูแลและเอาตัวรอดจากความเลวร้ายนั้นและไม่ตกไปสู่ฝ่ายดำมืดเพราะมีพื้นฐานจิตใจที่ดีงามจากการปลูกฝังของบิดามารดาผู้ล่วงลับ แต่หากพวกเธอเจอแต่สิ่งที่แย่ไปกว่านี้มากขึ้นๆ มันก็ไม่แน่ที่เด็กหญิงทั้งสองอาจจะตกลงไปสู่ฝ่ายต่ำในจิตใจ...

“ฮือออ เพื่อน แพงกลัว...”

เด็กหญิงตัวเล็กโผเข้ากอดพี่สาวฝาแฝดด้วยความหวาดหวั่นและกริ่งเกรงกับภัยที่เธอจะเจอและอาจจะหนีไม่พ้นความเลวร้ายของผู้ที่โตกว่า... ยิ่งน้องสาวเล่าถึงความชั่วร้ายของเพื่อนลุงพัฒน์ที่พยายามจะลวนลามล่วงละเมิดน้องสาวของตนทำให้ผู้เป็นพี่ยิ่งรู้สึกเหมือนใครควักเอาหัวใจของเธอมาบีบขยำแล้วปาลงพื้นและกระทืบด้วยเท้าซ้ำอีกรอบ... น้ำตาไม่มีจะไหลแต่ก็รู้สึกปวดร้าวร้อนระอุขอบตาที่เริ่มจะพร่ามัวจากม่านน้ำบางๆ ดวงตาของเด็กหญิงแดงก่ำด้วยความเกลียดชังผู้ที่จ้องจะทำร้ายรังแกพวกตน...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status