“อย่านะ ไม่... อย่าทำแพงเลย คุณลุงขาอย่าตีแพงนะคะ แพงขอร้อง ฮือๆๆ อย่าตี...” เสียงเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบเศษร่ำร้องอ้อนวอนต่อชายฉกรรจ์ซึ่งยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าเธอ สีหน้าถมึงทึงกับแววตาแดงก่ำของเขาน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงนัก ดวงใจเล็กๆ ของเด็กน้อยเต้นกระหน่ำด้วยความหวาดกลัว
“นังเด็กนรก มึงอย่ามาอ้อนวอนให้เสียเวลา มึงแกล้งลูกกูใช่มั้ย เด็กอย่างพวกมึงต้องโดนแบบนี้”
นายพัฒน์ชายวัยสามสิบปลายเงื้อด้ามไม้กวาดขึ้นสูงด้วยความฉุนเฉียวหมายจะฟาดลงไปบนตัวเด็กน้อย
“ลุงพัฒน์ อย่า อย่าตีแพง ฮือออ...”
เด็กหญิงซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันราวกับแกะวิ่งมาขวางไว้ก่อนที่ด้ามไม้กวาดจะโดนร่างเล็กๆ ที่นอนหมอบร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กับพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบ...
“ลุงจ๋า นี่ไง เพื่อนหาเงินมาให้ลุงกับป้าได้แล้ว นี่จ้ะ นี่เงินเพื่อนไปช่วยคุณครูที่โรงเรียนทำความสะอาดบ้านมาแล้วก็เก็บขวดไปขายได้มาสองร้อย เพื่อนให้ลุงกับป้าไปหมดเลย” เด็กหญิง พิมพ์ภัสสร ซึ่งเป็นแฝดผู้พี่ยื่นแบงก์ร้อยที่ค่อนข้างยับยู่ยี่ให้ผู้เป็นลุงแท้ๆ ด้วยความหวาดหวั่นแล้วเข้าไปประคองร่างผอมบางซีดขาวของ พิมพ์บงกชที่สะอื้นไห้อยู่กับพื้น เด็กหญิงทั้งสองกอดกันแน่นน้ำตาไหลพรากกับชะตากรรมที่พวกตนพบเจอ
“มันจะพออะไร แค่ค่าขนมไปโรงเรียนของเจนก็หมดแล้ว แม่ดูสิ นังสองคนนี่มันจงใจแกล้งเจน ฮือๆๆ”
เจนจิรา เด็กหญิงวัยสิบขวบลูกสาวของลุงพัฒน์กับ นางจันจวง ผู้เป็นป้าสะใภ้ร้องโวยวายกระทืบเท้าเร่าๆ เหมือนโดนใครเอาน้ำร้อนมาสาด
เจนจิราเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ ขี้เกียจ หยิบโหย่งและพูดจากลับกลอกโกหกเก่งเป็นที่สุดและมักหาเรื่องมาให้เด็กหญิงทั้งสองโดนพ่อแม่ของตนทุบตีอยู่เสมอๆ เด็กหญิงที่โตกว่ากราดตามองฝาแฝดที่กอดกันกลมอยู่ตรงหน้าเธออย่างเกลียดชัง เพราะเด็กทั้งสองคนนี้มีพื้นฐานฐานะครอบครัวที่ดีกว่าตน หน้าตาผิวพรรณก็ดีกว่า ฐานะทางสังคมก็ดีกว่าพ่อแม่ของเธอ แต่พวกพ่อแม่ของเด็กทั้งสองก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตายอย่างอนาถเมื่อปีที่แล้วทำให้ลูกสาววัยสี่ขวบในขณะนั้นต้องมาอยู่ในความดูแลของผู้เป็นเป็นลุงกับป้า ซึ่งก็คือพ่อแม่ของเธอนั่นเอง และเจนจิราก็รู้ดีว่าทำไม พ่อแม่ของเด็กสองคนนี่ถึงได้ประสบอุบัติเหตุ...
การที่เธอกับครอบครัวได้มาอยู่ในบ้านหลังใหญ่งดงามพร้อมด้วยสมบัติที่พ่อแม่ของเด็กแฝดทั้งสองทิ้งไว้เพราะว่าพ่อของเธอคือพี่ชายแท้ๆ ของคุณ พิมพ์ฤทัย แม่ของเด็กทั้งสองนั่นเอง ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเธอดีขึ้นในขณะที่ทายาทเจ้าของบ้านถูกกระทำเหมือนทาสและถูกโขกสับรังแกอย่างไร้เยื่อใย ไร้เมตตา แต่แล้วตอนนี้สมบัติที่เหล่านั้นหมดไปแล้ว และหนี้สินของครอบครัวก็เพิ่มพูนขึ้นมามากมายจนหลบหน้าเจ้าหนี้ไม่หวาดไม่ไหว เด็กหญิงผู้แก่แดดแก่ลมคิดอย่างหงุดหงิด
“แกสองคนวันนี้ไม่ต้องกินข้าว จำใส่กบาลหัวพวกแกไว้เลยนะหากยังอยากมีที่ซุกหัวนอนก็ต้องทำตัวดีๆ ช่วยกันทำมาหากินจะมาอยู่เกาะพวกฉันแบบนี้ไม่ได้”
นางจันจวง แม่ของเจนจิรากล่าวอย่างเดือดดาลพร้อมกับจิกผมยุ่งเหยิงของเด็กหญิงทั้งสองขึ้นมาแล้วผลักลงกับพื้นใกล้กับเท้าของนางก่อนจะจับโขกลงกับพื้นเสียงดังสนั่น หน้าผากเล็กๆ ของเด็กทั้งสองแดงโนขึ้นมาทันตาแต่กลับไม่มีเสียงร้องจากเด็กทั้งสองสักแอะ
“วุ้ย วันนี้อารมณ์เสียจริงๆ ฉันจะไปกินเหล้ากับเพื่อนแล้วนะ พวกเธออยู่กันไปเลย” นายพัฒน์ทำท่าจะเดินออกจากบ้านพร้อมเงินน้อยนิดที่มีแต่เจนจิรากับนางจันจวงเข้าไปขวางไว้
“หยุดเลยไอ้พัฒน์ แกอย่าเนียน เงินนั่นเอามาให้ฉัน”
“ไม่ เงินนั่นมันต้องเป็นของเจนนะ”
“เฮ้ย อะไรวะ ฉันเป็นหัวหน้าครอบครัวฉันต้องได้เงินนี่สิ”
สามคนพ่อแม่ลูกต่างยื้อแย่งเงินสองร้อยที่มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของเด็กตัวเล็กๆ อย่างเป็นบ้าเป็นหลังช่างเป็นภาพที่ดูน่าสมเพชนัก เด็กหญิงทั้งสองมองดูเหตุการณ์ตรงหน้ารับรู้ถึงรังสีอันตรายหากพวกเธอยังอยู่ตรงนี้ แฝดผู้พี่จึงประคองร่างผอมแห้งของน้องสาวเดินออกไปจากตรงนั้นแล้วรีบตรงไปยังห้องของพวกเธอซึ่งอยู่หลังบ้านซึ่งเมื่อก่อนมันเคยเป็นห้องพักของคนรับใช้แล้วปิดประตูใส่กลอนอย่างแน่นหนาเพราะกลัวว่าคนใจร้ายพวกนั้นจะเข้ามาทำร้ายพวกตนอีก
“แพงไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วล่ะเพื่อน ฮือออ...”
“เพื่อนรู้ แต่ถ้าเราไม่อยู่ที่นี่เราจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะแพง”
“แพงกลัว เพื่อนไม่อยู่รู้มั้ยพวกนั้นทำอะไรกับแพงบ้าง เพื่อนของลุงพัฒน์คนนั้นเขาพยายามจะ จะ...”
เด็กหญิงวัยเจ็ดขวบเศษทว่าตัวเล็กและซีดขาวกว่าแฝดผู้พี่มากเพราะสุขภาพไม่แข็งแรงนักอึกอักๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนเจอทุกครั้งที่เพื่อนของลุงมาที่บ้าน
“แพง บอกเพื่อนมาเถอะว่าเจออะไร เขาทำอะไรแพง”
เด็กหญิงที่แม้จะมีวัยเพียงเจ็ดขวบเศษแต่ระยะเวลากว่าสองปีกว่าที่ลุงแท้ๆ พาครอบครัวเข้ามาอยู่และดูแลทรัพย์สมบัติทุกอย่างในบ้านของเธอ ในชีวิตของพวกเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเด็กหญิงที่ใสซื่อบริสุทธิ์และอ่อนต่อโลกกลายเป็นเด็กที่กร้าวแกร่งขึ้นเมื่อได้เห็นอะไรที่กว้างขึ้นและเลวร้ายมากขึ้นซึ่งมันทำให้เด็กหญิงพิมพ์ภัสสรรู้จักที่จะดูแลและเอาตัวรอดจากความเลวร้ายนั้นและไม่ตกไปสู่ฝ่ายดำมืดเพราะมีพื้นฐานจิตใจที่ดีงามจากการปลูกฝังของบิดามารดาผู้ล่วงลับ แต่หากพวกเธอเจอแต่สิ่งที่แย่ไปกว่านี้มากขึ้นๆ มันก็ไม่แน่ที่เด็กหญิงทั้งสองอาจจะตกลงไปสู่ฝ่ายต่ำในจิตใจ...
“ฮือออ เพื่อน แพงกลัว...”
เด็กหญิงตัวเล็กโผเข้ากอดพี่สาวฝาแฝดด้วยความหวาดหวั่นและกริ่งเกรงกับภัยที่เธอจะเจอและอาจจะหนีไม่พ้นความเลวร้ายของผู้ที่โตกว่า... ยิ่งน้องสาวเล่าถึงความชั่วร้ายของเพื่อนลุงพัฒน์ที่พยายามจะลวนลามล่วงละเมิดน้องสาวของตนทำให้ผู้เป็นพี่ยิ่งรู้สึกเหมือนใครควักเอาหัวใจของเธอมาบีบขยำแล้วปาลงพื้นและกระทืบด้วยเท้าซ้ำอีกรอบ... น้ำตาไม่มีจะไหลแต่ก็รู้สึกปวดร้าวร้อนระอุขอบตาที่เริ่มจะพร่ามัวจากม่านน้ำบางๆ ดวงตาของเด็กหญิงแดงก่ำด้วยความเกลียดชังผู้ที่จ้องจะทำร้ายรังแกพวกตน...
ตอนที่2.“โธ่แพง เพื่อนจะพาแพงหนีคนใจร้ายพวกนี้ไปให้ได้”ปังๆๆ เสียงทุบประตูด้วยความโกรธดังขึ้นทำให้ทั้งสองสะดุ้งด้วยความหวาดกลัว เสียงสองแม่ลูกจะร้องเรียกพวกเธออย่างหยาบคายอยู่ด้านนอกห้องเก่าโกโรโกโสเพราะขาดการเอาใจใส่ดูแลยิ่งทำให้พิมพ์บงกชตัวสั่นด้วยความหวาดหวั่นเด็กหญิงมองหน้าแฝดผู้พี่แล้วเบะปากจะร้องไห้อีกรอบ“นังเพื่อน นังแพง อีเด็กเหลือขอพวกแกออกมาเดี๋ยวนี้นะ ถ้าพวกแกไม่ออกมาให้ฉันตบให้หายแค้นใจละก็ฉันจะเผาห้องพวกแกรมควันพวกแกให้สำลักควันตายเลยคอยดู!”“ถ้าพวกแกไม่มีปัญญาหาเงินมาให้ฉันกับแม่ใช้ ฉันจะบอกพ่อให้เอาพวกแกไปขาย ให้ไปเป็นกะหรี่ในซ่องเลย ออกมานะอีเพื่อน! อีแพง!...”เสียงกรีดร้องเต็มไปด้วยความหยาบคายและเกลียดชิงชัง ยิ่งได้ยินสองคนนั้นพูดแว่วๆ มาว่าจะไปเอาขวานกับไฟมาจุดเผาก็นึกหวาดหวั่น พวกเธอจะอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว...“น้องพี่ นิ่งซะนะ เพื่อนจะพาแพงหนีคนใจร้ายไปให้ได้ แพงต้องสัญญาว่าจะทำตามที่เพื่อนบอกและต้องเข้มแข็ง”เด็กหญิงปลอบคู่แฝดราวเด็กตัวเล็กๆ เหมือนว่าพิมพ์บงกชไม่ได้เกิดมาพร้อมๆ กับตน เมื่อน้องสาวพยักหน้าทั้งยังเช็ดน้ำตาป้อยๆ พิมพ์ภัสสรก็ยิ้มออกในขณะที่เสี
ตอนที่3.“ไปทางนี้ แพงต้องเกาะหลังพี่ไว้ พี่จะพาว่ายน้ำข้ามฝั่งไปหา บุญยอด เราจะหลบอยู่ที่นั่นก่อนป้าจันไม่กล้าตอแยแม่บุญเยี่ยมหรอก”พิมพ์ภัสสรจูงมือผอมๆ ของน้องสาวเดินลัดเลาะกำแพงมาอีกด้านซึ่งไกลพอสมควรจนมาถึงคลองเล็กๆ หลังหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้ที่สายน้ำขุ่นทั้งดำสกปรก แต่พวกเธอไม่มีทางเลือก ถ้ากลับไปที่ถนนพวกเธอถูกจับตัวกลับไปได้แน่นอนแต่ถ้าไปทางนี้ พวกเธออาจจะรอดเด็กหญิงทั้งสองเงยหน้ามองฟ้าที่เริ่มมืดครึ้มและลมก็กรรโชกแรงขึ้น สายฟ้าแลบแปลบปลาบอยู่บนผืนฟ้าทะมึนเป็นสัญญาณว่าอีกไม่นานพายุฝนก็จะเทกระหน่ำลงมา ทั้งสองเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นมือเล็กๆ ถือไม้อันยาวก็ฟาดถางทางให้ตนเองกับน้องจนถึงลำคลองเด็กหญิงก็ถอนใจด้วยความโล่งอกและเหนื่อยอ่อนก่อนจะหันไปมองกำแพงบ้านของตนเป็นครั้งสุดท้าย บ้านที่เคยสวยงามอบอุ่นเพียบพร้อมจะไม่มีอีกแล้ว...“เพื่อน แพงกลัว ฮือๆๆ”“ไม่ต้องกลัวนะแพง เพื่อนจะดูแลแพงเอง น้องพี่อย่ากลัว”ผู้ซึ่งเกิดก่อนไม่กี่นาทีเฝ้าปลอบโยน ใบหน้าเล็กๆ ก็ซีดลงอีกคราเมื่อได้ยินเสียงเดินและเสียงก่นด่าของสองแม่ลูกมหาภัยกำลังตรงมายังทิศทางที่พวกเธออยู่ สองแม่ลูกนี้ช่างเหมือนสุนัขล่าเนื้อที่กัด
ตอนที่4.“ถ้าแพงปล่อยมือจากเพื่อนไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร เพื่อนจะไม่ให้อภัยแพงเลย” พิมพ์ภัสสรพูดราวผู้ใหญ่ น้ำเสียงของเธอหนักแน่นแม้อ่อนแรงก่อนที่เธอจะรู้สึกหนักอึ้งหูอื้อตาลายและขาเล็กๆ นั้นเริ่มจะตีน้ำไม่ไหวมันทั้งหนักอึ้ง ทั้งปวดแปลบราวใครเอาเข็มนับพันเล่มมาทิ่มแทงลงขาทั้งสองข้างของเธอ...“เพื่อน เพื่อนเป็นอะไร เพื่อน ไม่นะกรี๊ดดด” เด็กหญิงตัวเล็กกรีดร้องอย่างตกใจเมื่อพี่สาวของตนจมดิ่งลงไปในน้ำทำให้เธอต้องตะเกียกตะกายอย่างไร้ที่ยึดเหนี่ยวทั้งสำลักน้ำเข้าไปหลายอึก แขนเล็กๆ วาดตีน้ำอย่างตกใจจนน้ำแตกกระจายรอบกายเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจกลัวของเธอกลับไม่มีใครได้ยิน เด็กหญิงตาเหลือกลานเริ่มหายใจไม่ออก ความมืดค่อยๆ เข้าปกคลุมในหน่วยตาก่อนสติสุดท้ายจะดับวูบลงไปในความเย็นยะเยือกของสายน้ำพวกเธอไม่สามารถไปถึงฝั่งทั้งที่มันอยู่แค่เอื้อมหรือไร ไยสวรรค์ช่างโหดร้ายกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เช่นพวกเธอเช่นนี้หนอ18 ปีผ่านไป...ร่างระหงปราดเปรียวในชุดเดรสสั้นรัดรูปสีส้มทองก้าวเดินฉับๆ เข้าไปยังสำนักงานเล็กๆ ทว่าสะอาดเอี่ยมแวดล้อมด้วยต้นไม้ดอกไม้บานสะพรั่งงดงามและยังเป็นสำนักงานต้นสังกัดของ พริตตี้ชั้นแน
ตอนที่5.“แม่แค่ต้องการให้ลูกเลิกแข่งรถบ้าๆ นั่นไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์...”“แค่นั้นใช่มั้ยครับ”“ใช่แค่นี้แหละค่ะที่คุณแม่กับแทมมี่ที่ต้องการ”แทมมี่ หรือ แทนฤทัย พูดแทนมารดา ใบหน้าสวยจัดคมเข้มแบบฉบับลูกครึ่งละม้ายพี่ชายบึ้งตึงด้วยลักษณะของคนเอาแต่ใจไม่ยอมคน ร่างบางยืนหลังตรงหน้าเชิดด้วยความเคยชิน“แค่นั้นเหรอแทมมี่แค่นั้นเหรอครับคุณแม่ แต่คุณแม่กลับทำให้ทุกอย่างของผมพังไม่เป็นท่า”ธามเสียงดังเต็มไปด้วยความฉุนเฉียว ใบหน้าหล่อเหลาไร้รอยยิ้มเล่นหัว ดวงตาไม่มีแววอ่อนโยนริมฝีปากที่มักมีรอยยิ้มแสนสำราญอยู่เนืองนิตย์เม้มสนิท“ธาม แม่...”“ผมขอตัวนะครับ ผมเหนื่อยมาก” ตัดบทแล้วเดินขึ้นห้องไปอย่างไม่สนใจมารดาที่หน้าเจื่อนจืดไป“พี่ชายเราโกรธแม่แล้วเห็นมั้ยแทมมี่” คุณธิติมาร้อนใจเพราะไม่เคยเห็นบุตรชายมีอาการโกรธจัดขนาดนี้มาก่อน“โธ่คุณแม่ขา พี่ธามน่ะโกรธง่ายหายเร็วจะตาย เดี๋ยวเดียวก็หายโกรธค่ะ เราทำถูกแล้วนะคะ หากพี่ธามยังคงลงแข่งรถแบบเสี่ยงๆ อย่างนี้พี่ธามอาจจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้นะคะ แทมมี่รู้ดีค่ะว่าฝ่ายคู่แข่งธามเล่นไม่ซื่อแน่นอน”แทนฤทัยปลอบมารดาให้เหตุผลซึ่งทำให้มารดายอม
ตอนที่6.“ฉันไม่ได้ทำนายก็รู้...” “ฉันไม่มีวันเชื่อสิ่งที่ตำรวจบอกหรอก... นายอยากเอาชนะฉันเสมอ นายทำไปทุกอย่างเพื่อจะเอาชนะฉัน ตำรวจนั่นก็อาจจะเป็นพวกของนาย...” เด็กหนุ่มวัยสิบหกปีของโรงเรียนไฮสคูลชื่อดังในมหานครปารีสโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อนอยู่บนสนามหญ้าหน้าโรงยิมของโรงเรียน...“ฉันขอยืนยันว่าฉันไม่ได้ทำและฉันไม่เคยคิดทำร้ายใครเพื่อจะเอาชนะนายแน่นอน...” ราฟาเอลตอบโต้กลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและเสียใจกับเหตุการณ์เศร้าสลดนี้ไม่ต่างกัน“คนที่อยู่ในเหตุการณ์คนสุดท้ายก็คือนายใครๆ ก็รู้ว่านายนัดเธอไว้ แล้วเศษผ้าที่อยู่ในมือเธอก็คือเศษเสื้อของนาย ร่างกายนายมีรอยขีดข่วนตั้งมากมายหลายแห่งซึ่งบ่งบอกว่าเธอพยายามจะปกป้องตัวเองจากนายที่จะทำร้ายเธอ แต่สุดท้ายนายก็ทำร้ายเธอ... คนอื่นอาจจะเชื่อว่านายไม่ได้ทำ หลักฐานอาจจะบอกว่าเป็นผู้ชายคนนั้นทำ แต่ฉันไม่เชื่อหรอกนะ นายปิดบังความจริงไม่ได้หรอกราฟ สักวันความจริงจะต้องปรากฏ ว่านายมีส่วนรู้เห็น...” “อย่ามากล่าวหาฉันนะ”“ฉันไม่เชื่อผลการชันสูตรที่มีอิทธิพลของพ่อนายคุมอยู่หรอกราฟ นายมันสารเลว” ธามพูดราวตะคอก “นั่นมันเรื่องของนาย นายจะเชื่อหรือ
ตอนที่7.ธามหยุดเดินเมื่อเสี่ยมงคลขอตัวเดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อกล่าวเปิดงาน ดวงตาคมสีเข้มมองดูเพื่อนรุ่นใหญ่ที่กำลังกล่าวเปิดงานอย่างคล่องแคล่วด้วยความชื่นชม เสี่ยมลคลเป็นคนมีความสามารถหลากหลายและกว้างขวาง เขายอมรับว่าแม้เสี่ยมงคลจะไม่ใช่คนดีเด่นอะไรนักแต่ก็มีความจริงใจและใจนักเลงพอ ไม่ชอบอะไรที่ไม่เป็นธรรม ธุรกิจที่เสี่ยมงคลทำนั้นแม้จะถูกมองว่าล่อแหลมต่อศีลธรรมแต่เสี่ยมงคลไม่เคยเห็นแก่ตัวหรือคดโกงใครเพราะเสี่ยมงคลแฟร์พอที่จะทำธุรกิจแบบเงินมาของไป ไม่มีกั๊กหรือเล่นแง่ที่ไม่ซื่อกับคู่แข่งซึ่งเขาก็เรียนรู้หลายๆ อย่างจากเสี่ยมงคลมาพอสมควรและเอามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตนและคำสอนของบิดา...แม้ว่าเขาเองจะชอบเที่ยวเตร่ชอบแข่งขันความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ แต่เขาไม่เคยทำให้กิจการของครอบครัวมีปัญหา ธุรกิจโรงแรมและผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์และประกอบเครื่องจักรอื่นๆ ที่เขาควบคุมดูแลก็ไม่เคยมีปัญหาถึงเขาจะเป็นนักธุรกิจที่ยังอายุน้อยอยู่ก็ตาม แต่การวางรากฐานที่ดีมีระบบจากปู่ทวดของเขามาถึงรุ่นพ่อและมาถึงรุ่นเขานั้นก็ทำให้การทำงานของเขาราบรื่นไม่สะดุดเพียงแค่เขารู้จักพัฒนาและปรับปรุงระบบให้ทันสมัยและทันกระแสโ
ตอนที่8.“แหม ถ่อมตัวจังค่ะ”“ก็แบบนี้ล่ะครับผมกับเขาถึงเป็นพี่น้องกันได้”“แม่หวานคะ เรากลับกันได้รึยังคะ” พิมพ์ภัสสรเอียงหน้ามากระซิบถามเบาๆ เจ๊หวานหน้าตื่นรีบขอตัวกลับอีกครั้งซึ่งเสี่ยมงคลก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่สำหรับธามนั้นมองตามหญิงสาวไปจนลับสายตา“ถูกใจล่ะสิธาม แต่หนูเพื่อนน่ะยากหน่อยนะ เฮียลองมาแล้ว เธอไม่สนใจใครง่ายๆ หรอก”“ผมเปล่าคิดอะไรเสียหน่อยเฮีย...” ธามยิ้มเก้อๆ แล้วหลบสายตารู้ทันของเสี่ยมงคล“เป็นอะไรไปเพื่อน...” เจ๊หวานสงสัยท่าทางแปลกๆ ของหญิงสาวนับตั้งแต่กลับมาจากงานของเสี่ยมงคลดูพิมพ์ภัสสรวิตกกังวลและเงียบผิดปกติ“พรุ่งนี้เราไปเยี่ยมแพงกันนะ เพื่อนคิดถึงแพง...” น้ำเสียงเศร้าสร้อยน่าเวทนา เจ๊หวานถอนใจแผ่วๆ“แม่หวานเคลียร์งานให้เพื่อนแล้วจ้า หยุดยาวไปเลย”“ขอบคุณค่ะแม่หวาน”“เอาล่ะวันนี้เหนื่อยมามากพักผ่อนเถอะราตรีสวัสดิ์จ้ะ”“ราตรีสวัสดิ์ค่ะแม่หวาน” หญิงสาวยิ้มให้คนที่เดินลับประตูไปอย่างรักใคร่ แล้วล้มตัวลงนอนครุ่นคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่มีทั้งสุขและทุกข์ และ รักครั้งแรก ของเธอแล้วภาพเก่าๆ ก็ลอยเข้ามาในหัวอย่างช่วยไม่ได้ นี่โลกมันกลมหรือเป็นเพราะพรหมลิขิตหนอ...เมื่อสี่ปี
ตอนที่9.“เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ...” เสียงนุ่มทุ้มที่ดังอยู่เหนือศีรษะทำให้ดวงหน้าที่ก้มต่ำของเธอเงยขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนคนที่ก้มลงมาก็ไม่ได้ระวังตัว จังหวะที่เกิดขึ้นพร้อมกันทำให้ใบหน้าของเขาคนนั้นกับเธอสัมผัสกันโดยบังเอิญ ริมฝีปากที่เผยอค้างของเขากับเธออยู่ชิดกันจนสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลของกันและกัน ลมหายใจอุ่นๆ หอมสะอาดเป่ารดแก้มของกันและกันบ่งบอกให้รู้ว่าเขากับเธอใกล้ชิดกันแค่ไหน เหมือนทุกสิ่งรอบกายของเธอหยุดเคลื่อนไหวแม้แต่ลมหายใจก็หยุดชะงัก... และแล้วสิ่งที่พิมพ์ภัสสรไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเอวบางถูกรั้งด้วยลำแขนแข็งแรงแล้วร่างบางถูกดันชิดผนังในมุมที่หลบแสงไฟและริมฝีปากที่เผยอด้วยความตกใจเมื่อครู่ก็ถูกครอบครองด้วยริมฝีปากนุ่มของเขาทันทีที่เธอจะร้องท้วง เรียวลิ้นร้อนฉกวูบเข้ามาในโพรงปากสาวหอมหวานพร้อมทั้งดูดรัดเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนทว่าอ่อนหวานนุ่มนวลจนเธอไม่อาจจะต้านทานกระแสความไหวหวามนั้นได้ ความร้อนระอุราวลาวาร้อนๆ จากภูเขาไฟที่ระเบิดพร่างพรายเดือดพล่านอยู่ในกายสาวจนเธอคิดว่ามันจะทำให้ร่างของเธอแตกระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ ความเสียวซ่านที่เธอไม่รู้จักทำให้ใจสาวน้อย
ตอนที่64. อวสาน“เด็กดื้อต้องโดนลงโทษหนักๆ รู้มั้ย...” ธามหอบกระเส่า“อืม... ก็ไม่รู้สิคะ ก็แล้วแต่ว่าพี่ธามมีแรงแค่ไหน...”หญิงสาวท้าทายสามีที่รักนัยน์ตาปรือปรอยเมื่อเขาก้มลงดูดกลืนยอดอกของตนอย่างเมามันและรุนแรงเร้าร้อนแตกต่างจากที่ลูกสาวน้อยดูดดื่มกินนมจากอก หญิงสาวแต่ครางอย่างยอมแพ้เมื่อทั้งปากและมือเขากำลังโจมตีเธอให้เสียวรัญจวนแทบขาดใจ มือใหญ่แยกเรียวขางามออกกว้างเพื่อแทรกเข้าแนบชิดร่างอิ่มของภรรยาอย่างรนรนเมื่อความร้อนระอุในกระแสเลือดมันเดือดพล่านจนเกินจะทานทนความเย้ายวนแสนหวานของเธอคงจะฆ่าเขาหากเขาไม่ได้เข้าไปอยู่ในกายสาวอุ่นฉ่ำชื้นของภรรยาแสนสวยของตน ธามขยันสะโพกแกร่งเข้าหาร่างนุ่มหยุ่นราวกำมะหยี่เนื้อดีของภรรยาสาวด้วยความเร่าร้อน สร้างความซ่านกระสันรัญจวนให้กับภรรยาจนสุขสมล้นเอ่อพาเธอท่องวิมานสวาทครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หากเจ้าตัวน้อยไม่ส่งเสียงอ้อแอ้ขอน้ำนมอุ่นจากมารดากลางดึกเสียก่อน...“อื้ม พี่ธามพอก่อน น้องธัช หะ หิวแล้ว...” หญิงสาวผลักใบหน้าที่ซุกซบกับอกอวบของตนด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าธามยอมเงยหน้าขึ้นโดยดีแล้วหอมแก้มนวลหนักๆ ก่อนจะเดินไปอุ้มลูกน้อยมาห
ตอนที่63.“สวัสดียามเย็นครับคนสวยของพ่อธาม...”ชายหนุ่มเดินไปกึ่งนั่งกึ่งนอนซ้อนหลังภรรยาที่กำลังให้นมลูกแล้วจูบแก้มนวลแรงๆ อย่างมันเขี้ยว แม้จะเจ็ดเดือนแล้วแต่น้องพริมกับน้องธัชยังติดนมแม่ไม่ยอมดื่มนมจากขวดเสียทีจนคนเป็นพ่ออ่อนใจเพราะอยากจะทวง ของรักของหวง คืนจากลูกๆ ตัวน้อยเต็มที... ตอนนี้น้องธัชซึ่งกินนมแม่พร้อมด้วยนมขวดนั้นหลับปุ๋ยไปแล้วอย่างเป็นสุข จะมีก็เพียงน้องพริมเท่านั้นที่ยังอ้อนคุณแม่อยู่กินไม่อิ่มเสียที “อื้อ พี่ธามไปอาบน้ำสิคะมาเหนื่อยๆ อย่ามากวนค่ะ...” หญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบเขินๆ สายตาแพรวพราวของสามี แม้จะใกล้ชิดสนิทสนมกันมากี่ครั้งหรือทำมากกว่าหอมแก้มกัน เธอก็ยังขัดเขินอยู่ดียิ่งมีสายตาแป๋วๆ ของลูกน้อยมองมาอย่างไม่พอใจยิ่งทำให้เธอแทบจะผลักใบหน้าหล่อเหลาให้ห่างออกไปเพราะเธอรู้สึกอายลูกอย่างไรไม่รู้“อ้อแอ้ๆๆ บรือออ...”เสียงอ้อแอ้พร้อมทั้งเสียงพ่นน้ำลายและมืออวบๆ ของเด็กหญิงผลักใบหน้าบิดาออกจากอกอวบของมารดาที่ตนครอบครองอยู่ทำให้ธามอยากจะแกล้งลูกสาว จึงก้มลงงับเต้างามเบาๆ หยอกเย้าน้องพริมแต่กลายเป็นว่าเขาร้อนรุ่มขึ้นมาเสียเองเพียงแค่ได้กลิ่นกายหอมๆ อันเป็นกลิ่นธรรมชาติปรา
ตอนที่62.“พี่ธามเข้ามาได้ยังไงคะ” ทำทีเป็นถามเสียงแข็งจนธาม หน้าเสีย พิมพ์ภัสสรนึกขันแกมสงสารเขาอยู่ไม่น้อย“เอ่อ พะ พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามารบกวนเพื่อน เพียงแต่พี่เป็นห่วงกลัวเพื่อนกับเจ้าตัวเล็กจะหิว เลยถือวิสาสะเข้ามา หากมันทำให้เพื่อนลำบากใจพี่ขอโทษ”“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ ไหนคะ มีอะไรมาให้กินมั่งกำลังหิวพอดีเลย” พิมพ์ภัสสรถามหน้าตายทั้งที่ในใจนั้นอ่อนยวบอยากกอดเขาใจจะขาดเธออยากอยู่ใกล้ๆ เขา อยากอยู่ในอ้อมกอดอุ่นอ่อนโยน ความรู้สึกโหยมันเริ่มมากขึ้นทุกวันๆ แต่พ่อคุณก็ซื่อเหลือเกิน เธอบอกเขาว่าห้ามเข้าใกล้เธอเกินหนึ่งเมตรแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะละเมิดสัญญาไม่ได้นี่นา ตาทึ่ม บทจะทึ่มก็ทึ่มได้ใจจริงๆ สุดท้ายเธอก็นึกค่อนขอดเขาในใจ...“เพื่อนจะนั่งกินบนเตียงหรือไปที่ริมระเบียงดีครับพี่จะยกไปให้” ธามบอกอย่างกระตือรือร้น หญิงสาวก้มหน้าหลบซ่อนแววตาเจ้าเล่ห์ของตนก่อนจะเชิดหน้าตอบเขาเสียงเรียบ“เพื่อนจะนั่งกินตรงนี้ค่ะ รบกวนเอาถาดอาหารมาวางใกล้ๆ เพื่อนหน่อยค่ะ เพื่อนไม่ค่อยมีแรง...” เปิดโอกาสให้ขนาดนี้แล้วดูสิเขาจะทำอย่างไร...“ครับๆ เจ้าหญิง” ธามรีบยกถาดอาหารมาวางใกล้ๆ เธอแล้วก็
ตอนที่61.เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วสภาพจิตใจของพิมพ์ภัสสรดีขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวกลับมาพูดคุยหัวเราะสดใสกับทุกๆ คนเหมือนเคย โดยไม่สนใจเรื่องอดีตหรือข่าวคราวของสองแม่ลูกผู้ที่เป็นเสมือนตราบาปความแค้นในใจเธอ เมื่อเธอค้นพบแล้วว่าการที่ยึดติดกับความแค้นใจนั้นมันเจ็บปวดทรมานมากเพียงใด และตอนนี้เธอมีอย่างอื่นให้สนใจ ใส่ใจมากกว่าอดีตอันแสนเจ็บปวดเป็นไหนๆ ก็เจ้าตัวเล็กในท้องของเธอนี่อย่างไรล่ะ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กคงกำลังสนุกสนานมากจนดีดดิ้นถีบยันหน้าท้องของผู้เป็นแม่จนเห็นเป็นรูปร่างมือและเท้าน้อยๆ ส่งผลให้คนมองตื้นตันด้วยความสุขจนล้นใจ“พี่ธามไปห่างๆ เลยค่ะ เพื่อนยังไม่ได้อนุญาตให้พี่ธามเข้าใกล้เพื่อนเกินหนึ่งเมตรนะคะ...” หญิงสาวหันมาตวาดชายหนุ่มที่ทำท่าเหมือนจะโผนเข้ามาลูบไล้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในตัวของเธอเหมือนคนอื่นๆ บ้าง ใบหน้าและท่าทางหงอยๆ ของเขาดูน่าสงสารอยู่หรอกแต่เขานั่นล่ะตัวร้ายที่สุด...“โธ่ เพื่อนน่ะ... ใจร้ายที่สุดเลย นี่แทมมี่อย่ามาวุ่นวายกับเมียพี่ได้มั้ย แล้วไม่ต้องชวนกันไปไหนด้วย รู้บ้างสิว่าผัวเมียเขาอยากอยู่ด้วยกัน” ธามพ้อภรรยาที่เขาได้จับเธอตีทะเบียนแล้วเรียบร้อยด้วยความน้อยใจทั้งย
ตอนที่60.“แหม อีแก่นี่ปากมันน่าตบให้ฟันร่วงจริงๆ จะตายอยู่แล้วยังจะปากดี” เจ๊หวานเท้าสะเอวจ้องหน้านางจันอย่างเกลียดชัง“อย่าเสียเวลาเลย คนพวกนี้ยิงปล่อยไว้นานยิ่งเปลือง” คุณนิดาขู่ซ้ำ“แกจะทำอะไรพวกเรา...” คราวนี้สองแม่ลูกกอดกันกลมเมื่อเห็นท่าทางน่ากลัวของชายฉกรรจ์ที่เดินตรงมาหาพวกตนด้วยสีหน้าเย็นชา“รับรองได้ว่าลูกน้องฉันทุกคนไม่มีใครใฝ่ต่ำข่มขืนฆ่าเธอแน่ๆ ของเน่าๆ แบบนี้แบให้เอาฟรีๆ ลูกน้องฉันก็ไม่มีใครอยากหรอกจ้ะ เพราะลูกน้องฉันทุกคนได้กินแต่ของดีๆ และเลือกสรรมาแล้วอย่างดีเสมอ ของคาวของเน่าของเหม็นอย่างพวกเธอน่ะไม่มีอยู่ในสายตาคนของฉันหรอกย่ะ และที่สำคัญถึงแม้ฉันจะเกลียดใครมากแค่ไหนฉันก็ไม่ใช้วิธีสกปรกอย่างที่พวกเธอใช้หรอก ฉันมีความเป็นแม่และมีความเห็นอกเห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกันมากกว่าที่พวกเธอสองคนมีก็แล้วกัน เอาตัวพวกมันไป...”คุณนิดาปรายตามองเหยียดหยันรู้สึกขยะแขยงหญิงทั้งสองคนตรงหน้ายิ่งนัก สองแม่ลูกใจเสียแต่ยังไม่ยอมจำนนเสียทีเดียว เพราะต่างพยายามดิ้นรนออกจากเกาะกุมของชายทั้งสองปากก็ด่าทอต่างๆ นานาอย่างหยาบคายจนเจ๊หวานกับคุณนิดาแทบจะทนฟังไม่ได้“แน่จริงมึงปล่อยกูสิวะนางแก่ อีกะ
ตอนที่59.“แต่ตอนนี้ฉันไม่มีน้องสาวแล้ว” พิมพ์ภัสสรหน้าหม่นลง“แต่เธอมีสิ่งที่มีค่ามากกว่า และฉันก็อยากให้เธอรักษามันไว้ กลับมาเป็นคนเดิมนะเพื่อน หากเธอเป็นแบบนี้หรือหากเธอกับเจ้าตัวเล็กเป็นอะไรไปฉันคงไม่ยกโทษให้ตัวเองไปตลอดชีวิตแน่ๆ เพราะฉันเองก็มีส่วนทำให้เรื่องมันเลวร้าย”แล้วแทนฤทัยก็เล่าเรื่องในคืนวันเกิดเหตุให้พิมพ์ภัสสรฟังซึ่งหากเป็นเมื่อก่อนพิมพ์ภัสสรคงจะต่อว่าแทนฤทัยด้วยความเผ็ดร้อนไปแล้วที่ทำเพิกเฉยกับคำเตือนของราฟาเอล ถึงขนาดว่ามีอันตรายต่อทุกคนแต่แทนฤทัยเลือกที่จะไม่ใส่ใจเพราะอคติที่มีต่อตน แต่ตอนนี้พิมพ์ภัสสรคิดว่าทุกคนก็คงได้รับผลของการกระทำของตนไปแล้ว...“ไม่เป็นไรหรอกแทมมี่ ฉันเองก็คงมีส่วนผิดเหมือนกัน หากว่าจะมีใครผิดก็คงเป็นคนที่คิดทำร้ายเรามากกว่าและฉันก็คิดว่าทุกคนก็คงได้รับผลกรรมของตนไปแล้ว ไม่ว่าฉันหรือเธอ หรือใครๆ”“นั่นแสดงว่าเธอยกโทษให้ฉันแล้ว” แทนฤทัยตาโตแล้วยิ้มกว้าง“ฉันยกโทษให้เธอไม่ได้หรอกแทมมี่” แทนฤทัยหุบยิ้มทันที พิมพ์ภัสสรยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดต่อ“ที่ฉันยกโทษให้เธอไม่ได้ก็เพราะว่าฉันไม่เคยโทษเธอเลยกับทุกเรื่องที่ผ่านมา และฉันก็ไม่ได้โกรธเธอเองก็ไม่ได้ทำอ
ตอนที่58.“หากจะไปก็คงต้องพาใครบางคนไปสารภาพบาปก่อน ”“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดและหากฉันจะไปสารภาพฉันก็ไม่จำเป็นต้องให้นายพาไป ฉันไปเองได้...” หญิงสาวเชิดหน้าทำปากยื่นเหมือนเด็กขี้แพ้ชวนตี“อ้อ... อย่างนั้นเหรอ แล้วหากเก่งขนาดนั้นมานั่งซึมเศร้าอยู่ทำไมตั้งนานสองนาน หนูน้อยแทมมี่ เธอมันก็แค่เด็กขี้ขลาด หึหึ...” ราฟาเอลยิ้มยั่วแล้วเดินจากไปเงียบๆ ปล่อยให้หญิงสามองตามด้วยแววตาเขียวปัดทั้งโกรธทั้งอายที่ถูกเขาด่าทางอ้อม...แทนฤทัยมองตามแผ่นหลังกว้างของเขาไปจนลับตาแล้วก็นึกตรองคำพูดของเขา เธอขี้ขลาดจริงๆ อย่างที่เขาว่าจริงๆ นั่นล่ะ... เธอจะไม่ยอมให้ใครมาสบประมาทแบบนี้อีกแล้ว คิดได้ดังนั้นแทนฤทัยก็เดินกลับเข้าบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่แล้วขับรถไปบ้านพิมพ์ภัสสรทันที“เพื่อนครับ พี่ธามว่าเราลงไปเดินเล่นในสวนดีไหม ตอนนี้ดอกไม้กำลังออกดอกสวยมากเลยนะ ดอกไม้ที่เพื่อนชอบบานสะพรั่งเต็มสวนเลย” ธามชวนหญิงสาวคุยไปเรื่อยๆ เหมือนเช่นทุกวัน ระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็มที่พิมพ์ภัสสรยังคงไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา เธอจะพูดบ้างถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เช่นเวลาที่บิดามารดาของเขามาเยี่ยมหรือเจ๊หวาน และบุญยอดกับคุณนิดามาหา แต่กับเขา
ตอนที่57.“แพงจ๋าหากชาติหน้ามีจริง เราเกิดมาเป็นพี่น้องกันอีกนะ” “แพงจะเกิดเป็นพี่เป็นน้องของเพื่อน ทุกๆ ชาติ แพงรักเพื่อนนะและจะรักตลอดไปแพงสัญญา...”“เพื่อนก็สัญญา... หลับให้สบายนะน้องพี่” สิ้นถ้อยคำในใจที่สื่อถึงกันดวงตาที่เต็มไปด้วยฝ้าขาวก็ค่อยๆ ปิดลงช้าๆ พิมพ์ภัสสรร่ำไห้ด้วยความร้าวรานใจ น้ำตามากมายยังไหลไม่หยุดเหมือนว่ามันจะไหลอยู่เช่นนั้นตลอดไป....แทนฤทัยมองดูภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกเหมือนตัวเองเลวร้ายเหลือเกิน หากตอนนั้นเธอบอกทุกคนเรื่องที่ราฟาเอลโทร. มาเตือน พิมพ์บงกชก็อาจจะอยู่กับทุกคนได้อีกสักระยะ หญิงสาวหันหน้าหนีภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกผิดมหันต์... เธอจะยกโทษให้ตัวเองได้อย่างกัน....งานศพของพิมพ์บงกชผ่านไปอย่างเรียบง่ายและเป็นไปอย่างเงียบเชียบ เพราะพิมพ์ภัสสรไม่อยากให้เป็นข่าวและเธอไม่อยากตอบคำถามใดๆ กับใครทั้งสิ้น ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่เธอต้องการด้วยอิทธิพลของคุณนิดากับคุณธีร์ที่ช่วยปิดข่าวนี้ แต่เรื่องคนผิดนั้นไม่มีทางที่ธามจะปล่อยผ่านไป เขาจะต้องเอาเรื่องสองแม่ลูกตัวต้นเหตุให้ถึงที่สุด แต่เมื่อเห็นสภาพจิตใจของพิมพ์ภัสสรที่สูญเสียน้องสาวไปบวกกับอาการแพ้ท้องรุนแรงเนื่อง
ตอนที่56.ขณะพูดคุณนิดาหันมาสบตากับพิมพ์ภัสสรอย่างมีนัยที่รู้กันในขณะที่ธามเฝ้ารอจังหวะเข้าช่วยเหลือให้พิมพ์ภัสสรพ้นจากรัศมีอันตราย ยิ่งเขารู้ว่าเธอกำลังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาอยู่ด้วย เขาก็ยิ่งต้องไม่วู่วามและทำตามแผนของคุณนิดาอย่างระมัดระวังมากขึ้น“คุณมาได้ยังไง”“อ้าว ก็ที่นี่ที่ของฉัน ฉันจะมาเมื่อไหร่ยังไงก็ได้ ว่าแต่พวกเธอเถอะ มาได้ยังไง แล้วไอ้เสี่ยวิทิตยู่ไหน” ทำทีเป็นไม่รู้ว่าสามีไม่รักดีของตนอยู่ที่ไหน“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง”“ฉันได้ข่าวมาว่าไอ้วิทิตมันร่วมมือกับพวกเธอจับตัวสองคนนี้มา และน้องสาวคุณธามก็หายตัวมาพร้อมกัน... บอกไว้ก่อนนะ ฉันไม่อยากมีปัญหากับคนครอบครัวนี้ บอกมาดีกว่าว่าไอ้ผัวไม่รักดีฉันอยู่ไหน ฉันจะไปจัดการมันเอง เรื่องของพวกเธอฉันไม่ยุ่งด้วยหรอก”คุณนิดาฉลาดพอที่จะเปิดทางให้สองแม่ลูกมีเวลาคิด เพราะนางคิดว่าพวกเจ้าหล่อนก็คงอยากจะกำจัดเสี่ยวิทิตดังนั้นปลาจะต้องฮุบเหยื่อ“มันอยู่ที่ห้องทำงานกับนังแทมมี่...” จินนี่ตอบเสียงแข็ง คุณนิดาลอบยิ้มแล้วทำทีจะเดินไป“แต่เดี๋ยวก่อน ฉันมีเรื่องจะต้องพูดกับคุณให้รู้เรื่อง... เรื่องวันนี้เราจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตกลงมั