บทที่ 5
เปรมาจ้องเขาตรง ๆ เห็นสายตาคมเข้มยังกวาดไล้ไปบนร่างกายของเธอดั่งประเมินตีราคางานที่เขาประมูล และเธอไม่ชอบมันเลยสักนิด
“ผมทำอะไรเลิฟ”
“ก็คุณกำลังกวาดตาประเมินราคาฉันอยู่น่ะสิ แล้วชื่อนั้นมีไว้สำหรับคนที่สนิทเท่านั้น”
แซคยิ้มกว้างจนเปรมาสะอึกสะดุดลมหายใจของตัวเอง เธอคิดว่าเขารู้ตัวดีเลยทีเดียวว่าถ้าเขาทำแบบนี้สาว ๆ ทั้งหลายจะพากันหลอมละลาย
“แต่เรากำลังจะเกี่ยวดองเป็นญาติกัน นั่นยังไม่ถือว่าสนิทกันอีกหรือครับ และผมชอบดูของสวย ๆ งาม ๆ ซึ่งคุณเป็นหนึ่งในนั้น”
บ้าจริง! เปรมาสะบัดหนีดวงตาคมเข้ม เธอรู้สึกว่าเขากำลังเปลื้องผ้าเธอออกทีละชิ้นอย่างช้า ๆ ด้วยสายตา และประเมินว่าเธอเหมาะสมกับครอบครัวของเขาหรือเปล่า
“พูดสิ่งที่คุณคิดดีกว่าคุณฮิวส์”
“สิ่งที่ผมคิดก็คือพวกเขายังเด็กเกินไป”
“พวกเขาไม่เด็กแล้ว ปีหน้าพวกเขาก็อายุยี่สิบซึ่งบรรลุนิติภาวะ”
“นั่นมันเรื่องของปีหน้า แต่ปีนี้พวกเขาเพิ่งสิบเก้าปีเท่านั้น”
“แต่เด็กทั้งสองคนรักกัน และฉันคิดว่าเราควรสนับสนุน”
“เลิฟ พวกเขายังเด็กเกินไป”
แซคเสียงเข้มขึ้นเมื่อพูดถึงเรื่องของลูกชาย เขาเองไม่อยากให้แซมต้องหยุดชีวิตวัยรุ่นเพียงผู้หญิงคนเดียวตั้งแต่อายุยังน้อย แซมควรได้เผชิญโลกกว้างและใช้ชีวิต ทำสิ่งที่ต้องการเพื่อตัวเองก่อนลงหลักปักฐาน
เปรมาหันดวงหน้าคมกลับมา เธอเม้มริมฝีปากเมื่อพยายามพูดลอดไรฟัน
“คุณก็สิบเก้าเมื่อมีแซม คุณฮิวส์”
“บ้าฉิบ! เลิฟ ก็เพราะผมเคยผ่านมันมาก่อนผมถึงรู้ว่าไม่ควรให้พวกเขาแต่งงานกัน”
“อย่ามาสบถใส่ฉัน!”
“งั้นคุณก็อย่าตะวาดผมด้วยเสียง.. เสียงหวาน ๆ ของคุณ”
เปรมาสะบัดหน้าหนีอีกครั้งอย่างเหลืออด เธอมองแก้วกาแฟอเมริกาโน่และเค้กช็อกโกลแลตที่เขาทานเหลือไว้
เขาว่ากันว่าของกินบ่งบอกนิสัย เขาเลือกอเมริกาโน่ก็แสดงว่าเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองมาก กล้าคิดกล้าทำ มีจุดยืนที่หนักแน่นไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดได้ ทานคู่กับเค้กช็อกโกแลต หมายถึงเขาเป็นคนโรแมนติกหรือหมายถึงมากรัก พวกเซ็กซ์จัด
แซคมองตามสายตาของเปรมาไปยังแก้วกาแฟและจานเค้กที่เหลือบนโต๊ะ ใคร่สงสัยว่าเธอกำลังคิดอะไรแต่คงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไรนักถ้าสังเกตจากสายตา
“เอาเป็นว่า ผมไม่ยอมเด็ดขาด”
เปรมาละสายตาจากของบนโต๊ะกลับมาสนใจบทสนทนา พ่อของแซมพูดว่า ไม่ยอมเด็ดขาด! ดวงตาคมรีหรี่ลง
“หมายความว่ายังไงคุณฮิวส์ คำว่าไม่ยอม”
“ผมไม่ยอมให้พวกเขาแต่งงานกันเด็ดขาด และผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าพวกคุณเป็นคนยังไง”
เปรมาตกตะลึง เธอเบิกตากว้างจ้องเขา แม้หน้าตาของเขาหล่อเหลาแต่จิตใจช่างสกปรก
“คุณ คุณหมายความว่ายังไงที่บอกว่า ..”
“พี่เลิฟคะ พวกหนูกลับก่อนนะคะ”
เสียงขัดจังหวะแทรกเข้ามา เปรมามองนาฬิกาบนผนังในร้าน จึงตกใจ ไม่น่าเชื่อว่าเวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้ เลยเวลาร้านปิดมาสักพักแล้ว
“จ๊ะไปเถอะ ที่เหลือพี่จัดการเอง”
“ค่ะ กลับก่อนนะคะ”
แซคมองตามเปรมาที่ลุกขึ้นจากโต๊ะไปหน้าร้านเพื่อเก็บป้ายและช่วยพนักงานร้านปิดประตูเหล็กลูกกรงแบบเก่าก่อนจะล็อคประตูกระจกด้านใน
ร่างอวบอิ่มเดินกลับมายังแซคที่ลุกขึ้นยืนเต็มตัวแล้ว เขาสูงใหญ่มากทีเดียว ทำให้เธอรีบหยุดเท้าลงเสียก่อนถึงร่างแกร่งพอประมาณ
“เราต้องคุยกันต่อคุณฮิวส์ คุณหมายความยังไงคำว่า พวกคุณเป็นคนยังไง คุณเห็นพวกฉันเป็นคนยังไง”
แซคเริ่มสาวเท้าเข้าใกล้เม่นสาวที่ยืนพองขนอยู่ห่างจากเขา แล้วหยุดลงเมื่อใกล้พอจะกลิ่นของเธอ กลิ่นหอมแปลกประหลาด
“ในชีวิตของผมมีคนหลายจำพวกที่ต้องการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ซึ่งอาจจะเป็นพวกคุณสองพี่น้อง ฉะนั้นผมแค่ต้องกันไว้ก่อนดีกว่ามานั่งแก้ปัญหาทีหลัง”
เปรมาเบิกตาคมกว้าง สิ่งที่นายแซคกำลังพูดถึงคือพวกเธอสองพี่น้องเป็นพวกนักตกทอง ที่จ้องจับแต่คนรวย ดวงตาคมรีจ้องปากหนาที่ยังพ่นประโยคต่อไป
“โดยเฉพาะแซม เป็นคนหัวอ่อนและเชื่อคนง่าย ผมจะไม่ยอมให้ลูกชายของผมต้องตกเป็นเหยื่อพวกคุณเด็ดขาด”
“คุณมัน มัน เป็นพวกเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ คุณก็เห็นว่าพวกแกรักกันแต่ยังขัดขวาง และพวกฉันก็ไม่เคยคิดต้องการเงินทองของใคร ฉันหาเลี้ยงตัวเองได้”
“รักงั้นเหรอ เลิฟ คุณเคยมีคนรักหรือยังผมถามหน่อย คุณรู้หรือว่ารักน่ะมันเป็นยังไง อีกอย่างคุณอาจเบื่อที่ต้องทำงานหนักมาตลอดเพื่อเลี้ยงดูน้องสาว ใครจะรู้”
เปรมาสะอึก เขาตีเธอตรงจุดแสดงว่าเขาได้สืบข้อมูลของเธอมาอย่างดีก่อนมาหาที่ร้าน
“ฮึ ทำไมเงียบไป คุณไม่รู้หรอกหรือว่าในช่วงวัยรุ่นฮอร์โมนของหนุ่มสาวมันพลุ่งพล่านขนาดไหนเลิฟ”
ร่างอวบอิ่มเริ่มเดินถอยหลังเมื่อแซคก้าวเท้าเข้าใกล้เธออีก จนกระทั่งแผ่นหลังกระทบเคาน์เตอร์จึงทำให้ไม่สามารถถอยได้อีกแล้ว
ร่างสูงใหญ่ย่างเท้าเข้าใกล้โน้มร่างลงใกล้หญิงสาว ใบหน้าแกร่งร้อนชะโงกลงชิดติดแก้มนวลใสจนเธอได้กลิ่นบุหรี่อ่อนจาง
“ความลุ่มหลงเร่าร้อนของฮอร์โมนจะทำให้คนเราตาบอดเห็นผิดเป็นชอบ เห็นสิ่งที่เรียกว่าความใคร่เป็นความรัก แซมกำลังหลั่งเทสโทสเตอโรน และลิฟกำลังมีเอสโตรเจน ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ทำให้คนทั้งคู่คิดว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักกันและกัน”
“คุณมันบ้า!”
เปรมาตะลึงงัน นอกจากหน้าตาดีแล้วพ่อของแซมคงไม่มีอย่างอื่นในตัวให้ชื่นชม อ้อ คงจะเป็นรูปร่างภายนอกอีกอย่างที่พอให้เจริญตา
“คุณมีกลิ่นวนิลาปนอบเชย”
ดวงหน้าหวานคมของเปรมามีสีระเรื่อขึ้นเมื่อจู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง ลมหายใจอุ่นร้อนของแซคยังเป่ารดที่ข้างแก้มนวล แต่แล้วร่างสูงใหญ่พลันยืดกายขึ้นหากแต่ยังใกล้เธอเกินไป
“ผมหิวแล้ว ไปทานข้าวกันแล้วจะได้คุยกันต่อ”
“ไม่ค่ะ เชิญคุณตามสบาย”
“อย่าบอกนะว่าคุณกลัวผม”
เปรมาเบือนหน้าออกจากภาพด้านหน้า แผงอกกว้างอยู่ในระดับสายตาของเธอพอดี กระดุมสามเม็ดที่เขาปลดออกทำให้เห็นขนหน้าอกรำไร
“ฉันไม่ได้กลัวคุณ แต่มันคงไม่เหมาะ เชิญคุณตามสบายเถอะค่ะ”
แซคยังก้มหน้ามองดวงหน้างามที่หันมองทางอื่นที่ไม่ใช่เขา แก้มนวลใสเสียจนเขาอยากใช้นิ้วลูบไล้ เขายิ้มมุมปากก่อนถอยออกเพื่อให้เธอคลายใจ บางครั้งการรุกรวดเร็วในครั้งแรกอาจใช้ไม่ได้ผลกับผู้หญิงบางคน
“ถ้าอย่างนั้น ผมคงพูดให้คุณได้ยินชัดเจนดีแล้ว”
เปรมาหันกลับมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด ร่างอวบวิ่งไปหน้าร้านตามชายหนุ่มออกไปหากแต่เจอแต่ความว่างเปล่า
บ้าจริง ทำไมหายไปเร็วขนาดนี้
บทที่ 6ความคิดกังวลยังวนเวียนแม้ผ่านมาแล้วหลายวัน พ่อของแซมไม่ยอมให้เด็กทั้งสองแต่งงานกัน แล้วเธอที่เป็นพี่สาวจะบอกน้องสาวที่เธอรักมากยังไงดีแม้มือยังเทส่วนผสมลงในเครื่องผสมสำหรับทำคุกกี้ แต่ใจยังวกวนหาทางออกไม่ได้ นึกภาพปาริมาที่ยังคงปกติดีไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเขาจะเพียงแค่ขู่ เสียงทุ้มยังก้องอยู่ในหัวสลัดออกไม่ได้เลยเธอพยายามเลิกสนใจเรื่องของแซค แล้วกลับมาทำงานต่อ เปรมาบีบแบทเทอร์[1]คุกกี้เนยสดลงบนถาดที่ปูรองด้วยแผ่นรองกระดาษสำหรับอบเค้ก มือบีบวนขดเป็นรูปขดหอยเป็นแถว ๆ เรียงเป็นระเบียบแล้วจึงวางเม็ดอัลมอนด์ตรงกลางเธอทำซ้ำวนไปอีกถาดอย่างต่อเนื่อง งานในร้านกาแฟกึ่งเบเกอรี่เป็นงานค่อนข้างหนักและมักทำให้เธอไม่มีเวลาหยุดพัก ยกเว้นช่วงหลังเลิกงานที่จริงเธอตั้งใจจะเพิ่มพนักงานอีกสักสองคนหลังร้านเพื่อมาช่วยงาน ถ้าเธอได้ลูกค้ารับขนมส่งเป็นประจำนั่นอาจจะพอทำได้“กริ๊ง กริ๊ง”เปรมาเหลือบตามองโทรศัพท์ ตายยากเสียจริง เธอวางถุงบีบคุกกี้ถอดถุงมือยางเพื่อปัดรับโทรศัพท์“สวัสดีค่ะ”“คุณรับสายช้า”ดวงตารีเหลือบตามองบนอย่างระอาใจ แค่เรื่องเล็กน้อยเขายังเอาแต่ใจเพียงนี้“ฉันกำลังทำงานอยู่ ค
บทที่ 7เปรมาวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะด้านหน้าระหว่างรอ จากหางตาเห็นแซคเดินไปมุมห้องอีกด้านมีบาร์เครื่องดื่มเล็ก ๆ“นี่ค่ะใบเสนอราคา”เธอรีบยื่นเอกสารไปตรงหน้าเมื่อเขากลับมานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามเธอหลังจากวางแก้วน้ำเปล่าแซครับแฟ้มเอกสารเปิดออกดูเล็กน้อยแล้วจึงวางลงตรงหน้า เขามองสาวร่างอิ่มที่วันนี้มวยผมอวดดวงหน้าคมเรียวและลำคอระหง สายตาหลุบลงกวาดไล้ไปยังเสื้อเชิ้ตที่ผลิพุ่งจากทรวงอกอวบ ก่อนจะเหลือบขึ้นปะทะสายตารีที่กำลังหรี่ลงเอาเรื่อง“เป็นยังไงคะ ไม่ทราบว่าคุณพอใจกับราคาหรือเปล่า”“ครับ คุณเสนอมายังไงทางบริษัทผมก็รับหมด”แซคเอนกายไปด้านหลังยกมือประสานประกบไว้ใต้คางยกขาไขว้ห้างระหว่างพิจารณาหญิงสาวด้านหน้า“อันที่จริงที่ผมให้คุณมาวันนี้เพราะมีข้อเสนอให้คุณเช่นกัน”เปรมาหยิบแฟ้มเอกสารกลับมาไว้กับตัว เธอเงยหน้าขึ้นมองแซค ท่วงท่านักธุรกิจที่กำลังพิจารณาประเมินสิ่งของทำเธอฉุนเฉียวเล็กน้อยหากแต่ข่มไว้“ค่ะ ถ้างั้นอันที่จริงคุณไม่ได้ต้องการขนมของร้านฉันใช่ไหมคะ”“ไม่ครับ ทางบริษัทต้องการอย่างยิ่ง ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับที่ผมจะพูด”เปรมาค่อยใจชื้นขึ้น อย่างน้อยเธอจะยังได้งานส่งขนมกับบริษัทยักษ์ใหญ่
บทที่ 8“พี่เลิฟคะ”เปรมาเงยหน้าขึ้นจากแผ่นแป้งที่กำลังรีดด้วยเครื่องรีดแป้งเพสตี้สำหรับทำครัวซองเพื่อส่งไปยังบริษัทของแซคซึ่งผ่านไปหลายวันกว่าที่บริษัทติดต่อกลับมาและตกลงให้เธอเข้าไปเซ็นสัญญา“จ้า ลิฟมีอะไรหรือเปล่า พี่ยุ่งนะวันนี้”มือเรียวสะบัดแป้งบนแผ่นรีดอีกครั้งก่อนจะตลบแป้งอีกด้านให้เข้าเครื่องรีดแล้วใช้มือช่วยรองรับ แม้มือจะยุ่งระวิงหากยังชำเลืองมองน้องสาวที่ยืนทำหน้าเศร้าเธอปิดเครื่องรีดยกแป้งที่รีดครบสี่ครั้งมายังโต๊ะยาวสำหรับขึ้นรูป เปรมาคลี่แผ่นแป้งวางบนโต๊ะหยิบไม้บรรทัดยาวสามฟุตขึ้นวัดแล้วใช้มีดเล็ก ๆ ทำเครื่องหมายเป็นจุด“ยืนเป็นหมาง่อยเลยลิฟ มีอะไรพูดมาสิพี่ฟังอยู่นะ”เธอกลิ้งลูกกลิ้งตัดแป้งสำหรับตัดแป้งพายโดยเฉพาะขึ้นวางบนแผ่นแป้งแล้วกดแรงกลิ้งลงตามรอยที่ทำไว้“พ่อแซมจะให้แซมกลับไปเรียนต่อที่อเมริกาค่ะ”“แปะ!”เสียงวางลูกกลิ้งกับโต๊ะสแตนเลสดังขึ้นตามแรงอารมณ์ของคนวาง ใจนึกโมโหชายตัวโตหนุ่มใหญ่ที่เล่นกับความรู้สึกของลูกชายตัวเองเพียงเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองพอใจ ที่สำคัญมันเกี่ยวกับน้องสาวของเธอด้วย“น้องกลัวค่ะพี่เลิฟ ถ้าแซมไปอยู่ที่อเมริกาแล้วเกิดเปลี่ยนไป น้องจะทำยัง
บทที่ 9เปรมาได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบกระเส่า กายสาวตอบรับสิ่งที่ได้ยินโดยไม่รู้ตัว เธอหายใจกระชั้นขึ้นและใบหน้าชื้นเหงื่อทั้ง ๆ ที่อยู่ในห้องเย็นเฉียบ“ผมจะให้เลขาส่งสัญญาไปให้ และเราจะเดินทางกันในอีกสองวัน”“เดี๋ยว! อย่าเพิ่งวาง ฮิวส์!”พนักงานหน้าร้านตกใจเสียงตะโกนของเจ้านายสาวจนต้องวิ่งเข้ามาดูภายในแผนกเบเกอรี่ด้านหลัง เห็นเพียงภาพใบหน้าคมโกรธเกรี้ยว ดวงตารีจ้องโทรศัพท์ดั่งจะกินเลือดกินเนื้อ“เกิดอะไรขึ้นคะพี่เลิฟ”“ไม่มีอะไร ไปดูหน้าร้านเถอะ”“ติ๊ง”เสียงแจ้งเตือนอีเมลเข้าทำให้เธอฉงน เอกสารทำไวขนาดนี้เชียวหรือ? เธอเปิดออกดูคาดว่าเป็นอีเมลส่วนตัวของแซคเองจากที่อยู่อีเมลเอกสารไม่กี่หน้าแต่ครอบคลุมแม้กระทั่งค่าชดเชยรายวันที่เธอต้องปิดร้านถึงเจ็ดวัน และเขาจะเป็นออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเดินทางไปภูเก็ตของเธอแต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอสนใจไปมากกว่าข้อตกลงที่ระบุระยะเวลาการหมั้นหมายของแซมและลิฟเป็นเวลาสองปีนับจากวันลงนามในสัญญาส่วนข้อสุดท้ายที่ทำให้ดวงหน้างามของเธอตกตะลึง ระบุห้ามอีกฝ่ายเผยแพร่ภาพถ่ายส่วนตัวของอีกฝ่าย ห้ามมิให้พูดถึงข้อตกลงนี้ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง
บทที่ 10ร่างอวบอิ่มเอนกายลงบนเบาะกึ่งนอนกึ่งนั่งไขว้ข้อเท้ากันไว้ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเท้าของตัวเองที่ฉากหลังคือท้องทะเลอันดามันอันที่จริงมันก็มีข้อดีเหมือนกัน เธอไม่ได้พักร่างจากการทำงานเพื่อหาเงินมานานมากจนจำไม่ได้แล้วว่าครั้งล่าสุดนั้นเมื่อไรมือเรียวหยิบเครื่องดื่มที่พนักงานนำมาวางไว้ให้ขึ้นจิบ รสขมของแอลกอฮอล์ถูกกลบด้วยเหล้าทริปเปิ้ลเซคที่ผสมมาสองตัวเติมช็อตจินประดับด้วยร่มเล็ก ๆ ด้านบนเมื่ออยู่ท่ามกลางสิ่งเร้าธรรมชาติทำให้เธอนึกไปถึงการเปลือยกายอาบแดดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่สิ่งที่เธอนิยมทำสักเท่าไร เพราะสีผิวของเธอเป็นสีน้ำผึ้งอยู่แล้ว“เลิฟ ถึงนานแล้วเหรอครับ”เปรมาหันมองตามเสียงทุ้ม ร่างสูงของแซคนั่งลงที่เตียงข้างในมือถือแก้วเหล้า เขานั่งหันหน้ามาทางเธอดวงตาจดจ้องล้ำลึก“ก็สักพักค่ะ”สายตาเขาดั่งจะเปลือยร่างเธอ จึงยืดร่างขึ้นนั่งจากการเอนกาย แสร้งหยิบแก้วค็อกเทลขึ้นจิบแก้เขิน วันนี้แซคแต่งตัวแปลกไปกว่าทุกวัน เสื้อคอโปโลแขนสั้นสีน้ำเงินเข้มเน้นมัดกล้ามโชว์ผิวสีทองแดงจากการเล่นกีฬากลางแจ้ง มือเขาแกว่งแก้วไปด้วยขณะยกขึ้นจิบเปรมาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ แซคยกมือขึ้นปัดผมทัดใบหู แล
บทที่ 11***NCเปรมาหดตัวเมื่อมือใหญ่กอบกุมทรวงอกอวบ เขาช้อนใต้เต้างามขึ้นโน้มศีรษะชะโงกมองจากด้านหลัง ลิ้นร้อนพลิ้วไหวขบเม้มติ่งหู เธอยื้อมือที่เร่งร้อนของเขาไว้ แซคไปไวจนเธอตามไม่ทัน“อื้อ แซค ซะ”เขาหมุนร่างอวบกลับมาหา โน้มศีรษะลงจูบร้อนแรงกลืนเสียงทักท้วงเข้าลำคอ ชีพจรเขากำลังเต้นกระหน่ำตื่นเต้นไปทั่วร่าง วงแขนรัดแผ่นหลังให้เธอแอ่นกายชิดความเป็นชายแข็งชันเขาเดินหน้าไปด้วยตลอดเวลาโน้มกายส่งจูบหนักหน่วงดันร่างอวบอิ่มจนกระทั่งถึงเตียงนอน เปรมาสะดุ้งเฮือก เธอมึนเมาไปกับจูบเร่าร้อนกระทั่งล้มลงนอนหงาย ตาคมรีตื่นตระหนกจ้องดวงตาคมกริบที่ไม่ปิดบังความกระหายหิวเปรมาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเสื้อเชิ้ตร่วงหล่นหายไปตอนไหนขณะที่ถูกดันมายังเตียง กายสาวท่อนบนเหลือเพียงเสื้อชั้นในเห็นทรวงอกงามอะร้าอร่าม“วันนี้เราจะไม่เล่นเกมแมวจับหนูนะคนสวย คุณเซ็นสัญญาแล้ว และผมต้องได้ตัวคุณ”แซครีบพูดเมื่อเห็นแววตาหวาดระแวงกึ่งหวาดกลัว เคลื่อนใบหน้าแกร่งลงจูบเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ มือวกลงด้านล่างปลดกระดุมกางเกงรูดซิป“ดะ เดี๋ยวแซค แซค!!”เขาชะโงกหน้าขึ้นจ้องเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนา มือยังดึงกางเกงผ้าของเธอ
บทที่ 12***NCเปรมารู้สึกอึดอัดเมื่อเอ็นใหญ่เข้ามาในกายอีกครั้งทีละน้อย เขาดันจนกระทั่งสุดจึงละมือจากข้อเท้าเธอ วางมือแกร่งข้างใบหน้าสาวสวยที่ทำหน้าประหลาดใจ ชะโงกกายชายเนื้อร่าง ใช้ต้นขาใหญ่ดันเธอให้เปิดออกค่อยขยับทีละนิด“เห็นไหมมันไม่เจ็บแล้ว ใจเย็น ๆ นะคนสวย ซี้ดดดด โอ๊ยยแน่น”ดวงหน้าสาวแดงระเรื่อเป็นสีชมพูเห็นได้ชัดแม้เธอจะมีผิวสีน้ำผึ้ง ริมฝีปากเย้ายวนเม้มแน่นกลั้นลมหายใจขณะที่ร่างแกร่งดันท่อนกายแข็งชันเข้าสู่โพรงรักความรู้สึกคับแน่นเหมือนจะปริออก มือบางจิกเล็บเข้าเนื้อบ่าแกร่ง ปรือตามองดวงตาคมล้ำลึก เหงื่อผุดไรผมหน้าผากกว้าง ทรงผมที่จัดแต่งอย่างดียุ่งเหยิงเพราะมือเธอในช่วงพลิกตัวชุลมุนเขาตั้งใจแน่วแน่และสะกดกลั้นความต้องการทะลวงแรงอย่างที่เคยเป็นมา ผ่อนลมหายใจออกยาวขณะถอดกายออกสุด สูดลมหายใจเข้าปอดเมื่อดันเอ็นใหญ่แทรกผ่านทางแคบเจลหล่อลื่นช่วยให้ทุกอย่างผ่านไปง่ายขึ้น เขาเริ่มขยับเร่งจังหวะขึ้นอีกนิดเฝ้าสังเกตใบหน้าหวานคม ปากเย้ายวนสวยเผยออ้ามีเสียงครางแผ่วเบา ไรผมชื้นเหงื่อผุดรอบจนเขาต้องใช้มือปาดเช็ดออกให้เขาเท้าข้อศอกทั้งสองข้างใกล้หัวไหล่บอบบาง มือลูบผมหญิงสาวใต้ร่างตรึง
บทที่ 13แซคจ้องเปรมาที่กำลังหิวโซ เธอเรียกขอแพนเค้กราดน้ำผึ้งและโกโก้ร้อนเพิ่มทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะทานชุดอาหารเช้าหมดไปหนึ่งชุดเธอเหล่ตามองชายหนุ่มตรงข้ามโต๊ะเล็กติดริมด้านนอกเพื่อมองทิวทัศน์ทะเลภูเก็ต เขายังจ้องเธอไม่เลิกสักพักหนึ่งแล้ว เธอเลยจิ้มแฮมคลุกซอสมะเขือเทศส่งเข้าปากพรางยิ้ม“เพราะคุณหรอก เลิฟถึงกินเยอะขนาดนี้”เขายกขาไขว้ห้างเอนกายพิงพนักกอดอกมองสาวอวบเอ่ยบอกทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ถาม อาหารยังเต็มปากแซคโน้มกายหยิบกาแฟดำที่เย็นแล้วเพราะมัวแต่ตกตะลึงเม่นสาวตรงหน้าจนลืมมันไปเลย“สงสัยคุณคงไม่ค่อยเจอผู้หญิงกินเก่งใช่ไหมคะ”“เออ ไม่ ไม่เคย ส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นเพราะไม่ค่อยอยู่ด้วยกันนานขนาดนั้น”“ฮะ! หมายความว่ายังไงคะ”พนักงานเอ่ยขออนุญาตก่อนจะวางจานแพนเค้กราดน้ำผึ้งวางซ้อนทับสูงสามชั้นตรงหน้าเธอ ตามด้วยโกโก้ร้อน“ก็มันมักจะจบไม่กี่ชั่วโมง”“อ้าวแล้วไม่เคยค้างคืนด้วยกันเหรอคะ หรือไปดินเนอร์ ไปเดท”แซคหัวเราะให้กับความคิดใส ๆ ของเม่นสาว มองมือที่ใช้มีดหั่นแพนเค้กออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ“อะ อ้ำ อ้ำ”เขาเอนร่างหนีแต่ไม่พ้นมือยาวยื่นตรงมายังปากเขา แซคจึงจำต้องอ้าปากรับแต่ไม่ตรงดีนักน้ำผึ้งเลอะขอบ
บทพิเศษกริ๊งงงง!!เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นยามเช้า แสงอาทิตย์ยังทอแสงรำไรขอบฟ้าของคฤหาสน์ชานเมือง“อืมมมม”ร่างอวบอิ่มบิดกายพลิกหาความอบอุ่นข้างกายทันทีเอื้อมมือออกข้ามลำกายแกร่งไปยังโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงมือเล็กพยายามควานหาทั้ง ๆ ที่ยังหลับตา ร่างอวบทับบนอกแกร่งตะเกียกตะกายไปมา“เลิฟ”เสียงแหบพร่ากดต่ำดังขึ้นทำให้เปรมาปรือตามองอย่างสงสัย แล้วหยิบนาฬิกาปลุกกดปิดได้ในที่สุด“ขอโทษค่ะ เลิฟตั้งปลุกไว้ต้องรีบกลับคาเฟ่แต่เช้า”“มานี่ก่อน”แซคคว้าร่างอวบไว้ได้ทันก่อนที่เปรมาจะก้าวลงจากเตียงใหญ่ ดึงรั้งกระทั่งล้มลงบนกายแกร่งอีกครั้ง“แซค!! เลิฟกำลังจะสายนะคะ”“สายอะไรกัน วันนี้ผมเหมาร้านคุณให้แล้วกัน อยู่กับผมอีกวัน”เปรมาดันตัวขึ้นมองหน้าคมเข้ม ผมยังยุ่งเหยิง ดวงตาหรี่ปรือเปี่ยมเสน่ห์ทางเพศมองเธออย่างมาดหมาย“อย่านะ! เปรมาชอกช้ำหมดแล้ว”แซคค่อยคลี่ยิ้มมองสีหน้าเง้างอดและทีท่าขืนตัวหนี“ผมยังไม่ทันทำอะไรเลย คิดทะลึ่งไปเองหรือเปล่า”มือแกร่งยังดึงดันพลิกจนร่างเปรมาตวัดกลับไปนอนหงายโดยมีคนร่างโตทาบทับด้านบน แทรกหัวเข่ากลางหว่างขา“แซค! นี่เลิฟพูดจริงนะคะ ต้องกลับแล้วเช้านี้”“ถ้างั้นมีข้อแ
บทที่ 24**จบ“อือม พูดอะไรคนสวย”เขาเลื่อนลงไปจนกระทั่งถึงเนินทรวงอกใช้ลิ้นตวัดปลายยอดถัน เปรมาเบี่ยงตัวหลบ“ขึ้นมานี่เลย พูดกันก่อนนะคะ”“แล้วคุณจะมีรางวัลอะไรให้ผม”แซคครอบปากบนยอดทรวงดูดแรงจนร่างอวบอิ่มสะท้านแอ่นหยัดรับ“อะไรก็ได้ ขึ้นมานี่นะ หยุดก่อน”รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าคมเข้มทำเธอตาพร่าไปพักหนึ่งเมื่อเขาชะโงกเหนือดวงหน้าของเธอ“จะถามอะไรคนสวย”“คุณจะแต่งงานกับฉันทำไม พูดมานะแซค”“ไม่เห็นยากเลยเลิฟ ผมชอบคุณมากน่ะสิ ไม่สิ ผมรักคุณต่างหาก ใช่ มันต้องเป็นเพราะอย่างนี้ล่ะผมถึงอยากจะแต่งงานกับคุณ”เปรมาถอนหายใจโล่งอกเมื่อแซคยอมพูดคำที่เธออยากจะได้ยิน เปิดปากรับลิ้นที่แทรกเข้าโพรงปาก จูบหนักหน่วงดำเนินไปสักพักจนลมหายใจของเปรมาเริ่มกระชั้น“คุณคิดว่ามันเป็นความรักเหรอคะแซค เรารู้จักกันไม่นานอีกอย่างคุณเคยบอกฉันว่ามันเกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย”“เลิฟคนดี ผมอายุปูนนี้แล้ว สามสิบเก้า คุณคิดจริง ๆ หรือว่าผมไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไง”“อือ แล้วคุณไม่ถามฉันเหรอแซค อา อ่า”เขากัดยอดถันเบา ๆ มือกอบดันขึ้นเหลือบตามองเธอ“ไม่หรอก เพราะคุณต้องรักผมอยู่แล้ว ใช่ไหมคนสวย”“ฮ่า ฮ่า คนหลงตัวเอง”“เอาล่ะ
บทที่ 23“ก๊อก ก๊อก พี่เลิฟคะ สายมากแล้วค่า”แซคคลายอ้อมแขนที่เปรมาหนุนนอนมาตลอดคืน เอนกายไปขอบเตียงตวัดขาลงแล้วจึงคว้าเช็ดตัวของเปรมาสีชมพูสวยพันรอบเอว มือสางเสยผมยุ่งเหยิงพอประมาณ“แอ๊ด”ปาริมาสะดุ้งสุดตัวมองพ่อของคู่หมั้นตาค้าง พ่อของแซมนุ่งผ้าเช็ดตัวสีชมพูของพี่เปรมาเดินออกมาเปิดประตูเพียงผืนเดียว ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนคนเพิ่งลุกจากเตียงปาริมาแทบหาเสียงของตัวเองไม่เจอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น“อะ เออ พ่อคะ พะ พี่เลิฟ เออ จะมาเรียกพะ พี่เลิฟทานข้าวค่ะ”แซคก้มมองว่าที่ลูกสะใภ้ใบหน้าซีดเผือด เขายืนเท้าแขนตรงกรอบประตูใช้มือผลักประตูกว้างออกไปแล้วเบี่ยงตัวเล็กน้อยให้ปาริมาเห็นพี่สาว“ยังไม่ตื่น”ปาริมามองเข้าไปยังเตียงนอนเห็นแต่ผมดำยาวสยายปิดใบหน้า สีผิวน้ำผึ้งตัดกับผ้าปูเตียงสีขาวเขามองลำคอระหงของปาริมาขยับกลืนน้ำลายหลายครั้งก่อนจะหน้าแดงซ่านทั่วใบหน้า“งะ งั้นหนูไปก่อนนะคะ”“ปัง”แซคเดินกลับมายังเตียงนอนก่อนจะล้มตัวนอนต่อ เขาขยับเข้าใต้ผ้าห่มโอบวงแขนรอบร่างอวบอิ่มที่ยังสลบไสล ยิ้มมุมปากเมื่อนึกภาพยามเธอตื่นมาแล้วพบว่าเขาเพิ่งจะไล่ว่าที่ลูกสะใภ้ของเขาไป แต่อันที่ก็เป็นว่าที
บทที่ 22***แซคเดินใกล้จนถึงร่างอวบของเธอ โอบแผ่นหลังดึงรูดซิปลง ดวงตาคมไม่ละออกจากดวงหน้า มือร้อนลวกจับสายเสื้อดึงลงต้นแขน ชุดสวยร่วงหล่นกรอมเท้า“ผมขอต่อสัญญาเลิฟ ต่ออีกยาว ๆ”มือใหญ่ปลดตะขอเสื้อชั้นในปล่อยเต้างามให้เป็นอิสระ มือทาบทรวงอกเคล้นคลึงหนักมือ“คุณทำผมแย่ เลิฟ ผมไม่ชอบมันเลยคนสวย ผมไม่ชอบที่มันควบคุมไม่ได้”เปรมายังมองหน้าคมเข้มเมื่อเขาโน้มลงใกล้ ปากหนาครอบครองปากเย้ายวน รสชาติของไวน์คละคลุ้งไปทั้งโพรงปากมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วร่าง เขาดันเธอแนบกายแกร่งโยกตัวให้ท่อนเนื้อสัมผัสเนินสาว แล้วจึงตวัดแขนโอบร่างอุ้มขึ้นจากพื้นเดินไปยังเตียงแซคมองหญิงสาวที่เขาวางลงบนเตียง ความรู้สึกบางอย่างกระแทกเข้าที่ทรวงอกแรงจนเขาสะเทือน เขายืดกายสูดลมหายใจเข้าแล้วดึงกางเกงในของเปรมาออกจากตัว“พระเจ้า คุณแว็กซ์”เปรมาประหม่าเอียงอาย เธอใช้มือปิดของสงวนไว้ไม่กล้าเปิดออกให้แซคเห็น“มันเป็นคอร์สเพื่อนเจ้าสาวน่ะ”“ไม่ เลิฟ ยกมือออก ผมอยากเห็น”เธอค่อยเปิดออก สายตาเข้มข้นมองเธอนิ่ง เขาหน้าแดงก่ำขึ้นทันทีเมื่อเปรมาเริ่มขยับขายกตั้งชัน“วันนี้เราจะไม่เล่นเกมกันอีกใช่ไหมคนสวย คุณยินยอมพร้อมใจที่จะอยู่กับ
บทที่ 21เปรมามองรอบโต๊ะทรงกลมขนาดใหญ่ มื้อเย็นที่มีแต่คนในครอบครัว แต่นั่นจะเรียกว่ามื้อเย็นก็ไม่ถูกนักเพราะตอนนี้สามทุ่มแล้วเพิ่งจะเริ่มยกจานแรกมาเสิร์ฟ“คุณเลิฟพักที่นี่เป็นยังไงบ้างคะ ขาดเหลืออะไรก็บอกได้นะคะ”เสียงแม่ของแซมบาบาร์ร่าทำให้เปรมาละมือออกจากแก้วไวน์ เธอมองบาบาร์ร่าที่ยังสวยแม้อายุเกือบสี่สิบ ผมบลอนด์ยาวจัดแต่งทรงอย่างดี ชุดเรียบหรูสำหรับทานมื้อค่ำส่งให้บาบาร์ร่าโดดเด่น ยิ่งนั่งข้างแซคทำให้เธอเห็นความเหมาะสมกันทุกประการของคนทั้งคู่มือเรียวของบาบาร์ร่ายังจับแขนแซคไว้เบา ๆ ยามเอ่ยพูด เธอมองไล่ไปยังร่างแกร่งที่ถอดชุดสูทออกแล้ว เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดิมเมื่อกลางวันพับแขนเสื้อขึ้นอย่างเคย“ค่ะ ทุกอย่างดีมากค่ะ”“ถ้าแบบนั้น พักเสียหลาย ๆ วันนะคะ ลิฟจะได้มีเพื่อน”“คงไม่ได้หรอกค่ะ ฉันต้องกลับไปเปิดร้านค่ะ”บาบาร์ร่าส่งเสียงพึมพำเบา ๆ รับรู้ ก่อนจะหันไปคุยกับแซคต่อถึงเรื่องคนในครอบครัวเปรมายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกครั้ง เธอเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรและโทษอาหารที่ทานไปเมื่อกลางวันที่ทำให้เธอมวนในท้องและร้อนไปถึงทรวงอกเสียงหัวเราะทุ้มของแซคดังมาเป็นระยะ ๆ ขณะที่คุยกันกับบา
บทที่ 20เปรมาสำลักน้ำทันทีเมื่อได้ยินคำถามจากเสียงทุ้มเมื่อเขานั่งลงข้างเธอ คริสรีบหยิบผ้าเช็ดปากส่งให้หญิงสาวพรางหัวเราะถูกใจ“นี่สงสัยผมพูดแทงใจดำใช่ไหมครับ”“เปล่าคะ ฉันไม่ได้ชอบเขา”เปรมาปฏิเสธพัลวันหน้าแดงก่ำจากการสำลักน้ำ ประสานสายตาไม่หลบเพื่อแสดงความจริงใจ“ผมไม่เชื่อหรอกครับ พี่ผมละสายตาจากคุณไม่ได้ และคุณก็เช่นกัน”เธอยืดกายขึ้น คิ้วโก่งขมวดมุ่น ถ้าเป็นเช่นที่คริสบอกนั่นหมายความทุกคนก็มองเห็นมันเช่นกัน“อย่าไปเชื่อในสิ่งที่เห็นสิคะ มันอาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้”“โอ้ งั้นก็ดีสิครับ ถ้าคุณไม่ได้ชอบพี่ชายของผม ผมก็จะได้สบายใจหน่อย ผมก็ขออนุญาตจีบคุณเลยแล้วกัน”“คริส!!”เธอจ้องดวงตาพราวระยับตรงหน้าและรอยยิ้มกว้างจึงได้รู้ว่าเขากำลังหยอกเธอเล่น เปรมาค่อยผ่อนลมหายใจ“คุณหยอกฉัน”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่แน่หรอกนะครับเลิฟ”มีเสียงพูดคุยดังขึ้นเมื่อแซมและบาบาร์ร่าเดินนำคู่หมั้นทั้งสองไปที่โต๊ะตัวยาวด้านหน้าน้องสาวของเธอสวยกว่าใครและใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มมีความสุข เธอภาคภูมิใจในตัวน้องสาวและอยากจะเห็นลิฟมีความสุขเช่นนี้ตลอดไป“ดูเจ้าแซมสิ ดูมีความสุข”เปรมาเอี้ยวหน้ามองคริส หน้าหวานคมยังยิ้ม
บทที่ 19“น้องพี่สวยจัง”เปรมาเดินเข้ามาในห้องนอนห้องหนึ่งของบ้านชานเมืองที่จัดให้น้องสาวและเธอได้เข้าพักตั้งแต่วันก่อนเพื่อเตรียมตัวร่างโปร่งบางของปาริมาสวยเปล่งปลั่งไปทั้งตัวด้วยชุดหมั้นตัวสั้นสีขาวผสมลูกไม้จากฝรั่งเศสทั่วทั้งชุด น้องสาวเกล้าผมขึ้นเป็นมวยด้านหลังประดับด้วยดอกไม้และเครื่องประดับราคาแพงที่แซมนำมาให้เข้าชุดกับสร้อยคอและกำไรข้อมือ“พี่เลิฟก็สวยค่ะ”ปาริมาจับมือพี่สาวพาเดินไปยังกระจกบานยาวในห้องนอน ร่างอวบอิ่มดั่งนาฬิกาทรายสวมชุดเดรสลูกไม้สีโอรสสั้นแค่เข่า คอเสื้อด้านหน้าและหลังเป็นรูปตัววีลึกจนเห็นเนินทรวงอวบล้น“พี่ว่ามันโป๊ไปนิดนะ”เปรมาขยับมือจับคอเสื้อที่แหลมตัววีลึกด้านหน้าอก ยิ่งเกล้าผมสูงทำให้โชว์เนินหน้าอกมากเกินไป“พี่เลิฟคะ ทำไมไม่สวมสร้อยที่พ่อแซคส่งมาให้ล่ะคะ”ปาริมาชะโงกมองคอโล่งว่างเปล่าคิ้วงามขมวดเล็กน้อยสงสัย สีหน้าพี่สาวดูลุกลี้ลุกลนเมื่อพูดถึงพ่อของว่าที่คู่หมั้น เธอมองตามร่างสูงอวบที่ผละออกจากเธอตรงไปยังเตียง แสร้งดึงผ้าปูที่นอนให้ตึงทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็น“ไม่หรอก มันไม่ใช่ของพี่ ถึงพี่จะไม่มีของราคาแพงก็ไม่เห็นจำเป็นต้องใส่”เธอโบกมือไล่คนรับใช้ที่ยัง
บทที่ 18“พี่เลิฟคะ พี่เลิฟ!!”เสียงหวานข้างหูดังขึ้นทำให้เปรมาสะดุ้งสุดตัว เอี้ยวหน้ามองเห็นใบหน้าน้องสาวสุดที่รักยืนยิ้มแป้นแล้นข้างตัว“เหม่ออะไรคะ ตั้งแต่กลับมาจากภูเก็ตดูใจลอยนะคะ”ปาริมาเดินอ้อมไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวในคอนโดมิเนียมหลังจากแกล้งพี่สาวได้สำเร็จ หน้าหวานทรงผมสีน้ำตาลอ่อนยิ้มกว้างหยอกพี่สาวเล่นพรางพูดเจื้อยแจ้วต่อไป“พี่เลิฟไปเสียหลายวันและยังปิดโทรศัพท์น้องเลยติดต่อพี่ไม่ได้เลยคะ”“มีอะไรเหรอ”เปรมาหาเสียงตัวเองเจอในที่สุด เสียงแหบพร่าจากห้วงอารมณ์เมื่อภาพเหตุการณ์บนเตียงยังแจ่มชัด“ก็ลิฟจะโทรไปบอกข่าวดีกับพี่เลิฟค่ะ พ่อของแซมตกลงให้เราหมั้นกันแล้วค่ะ ไม่น่าเชื่อใช่ไหมคะ”“ใช่จ๊ะไม่น่าเชื่อ พี่ยินดีด้วยน้องรัก พี่ดีใจที่น้องสมหวังเสียที”“อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนหรอกนะคะพี่เลิฟ แต่ยังไง น้องจะทำให้ดีที่สุดให้การหมั้นดำเนินไปจนกว่าเราจะได้แต่งงานกัน”“หื้อ?”“ก็พ่อของแซมบอกว่าขอให้เราหมั้นกันสักสองปีก่อนแล้วถึงจะคิดดูอีกครั้งเรื่องแต่งงาน”เปรมาจับมือน้องสาวที่วางอยู่บนโต๊ะลูบปลอบใจ“ลิฟ สองปีน่ะมันเป็นเวลาที่พอเหมาะและน้องอาจทำให้พ่อของแซมเปลี่ยนใจได้ อีกอย่างเมื่อถึงเวลา
บทที่ 17***NCเปรมาสะบัดขาอีกข้างถีบหน้าอกแกร่งอย่างแรงจนเขาหงายหลังก้นกระแทกพื้น เธอพาร่างอวบอิ่มออกจากอ่างน้ำแต่มือยังถูกล็อคไว้ หันมองหน้าหล่อดั่งปีศาจร้ายที่กำลังยิ้มร่าแซคลุกขึ้นเดินลุยน้ำในอ่างมาทางเปรมา เธอมองของที่อยู่ในมือแซค ท่อนใหญ่สีเนื้อเลียนแบบแซคน้อยแต่ขนาดของมันทำให้เธอพรันพรึงเขาก้าวออกจากอ่างไปหาเธอ เปรมาขยับหนีอ้อมไปอีกทางเท่าที่ความยาวของกุญแจมือจะทำได้ เขายืนซ้อนหลังจับขาเธอให้เข้าไปในอ่างหนึ่งข้างแล้วคุกเข่าลงด้านล่างแหงนหน้าขึ้นหาเนินสาว“อวบอิ่มและหวานเยิ้ม”ลิ้นสากระคายลากขึ้นตวัดน้ำ เปรมาสะท้าน พยายามกระชากมือให้หลุดจากก๊อกน้ำ เขาเลียอีกหลายครั้งก่อนจะรัวถี่ตรงเม็ดกลางร่อง“น้ำออกเยอะมากเลิฟ ค่อยง่ายหน่อยทูนหัว”เปรมาสะดุ้งพรวด แซคดันเอ็นปลอมใหญ่เข้าช่องรักช้า ๆ หมุนเบา ๆ เขาดึงถอนออกแล้วดันเข้าเลียนแบบสิ่งที่เขาทำกับเธอ“อ่า แซค อือ อา”“เสียวมากใช่ไหมคนสวย”มือจับเอ็นปลอมดันค้างไว้ในโพรงรัก ปากหนาขยับขึ้นใช้ลิ้นเลียรอบ ๆ ปากทาง กลีบบางสั่นรัวระริก“แซค อา อา อือ อา กรี๊ด”เขาตวัดบนเม็ดเล็กถี่มือชักเอ็นปลอมขยับเบา ๆ เปรมากำลังจะถึงจุดสุดยอด เธอเกร็งร่างร้อ