บทที่ 7
เปรมาวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะด้านหน้าระหว่างรอ จากหางตาเห็นแซคเดินไปมุมห้องอีกด้านมีบาร์เครื่องดื่มเล็ก ๆ
“นี่ค่ะใบเสนอราคา”
เธอรีบยื่นเอกสารไปตรงหน้าเมื่อเขากลับมานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามเธอหลังจากวางแก้วน้ำเปล่า
แซครับแฟ้มเอกสารเปิดออกดูเล็กน้อยแล้วจึงวางลงตรงหน้า เขามองสาวร่างอิ่มที่วันนี้มวยผมอวดดวงหน้าคมเรียวและลำคอระหง สายตาหลุบลงกวาดไล้ไปยังเสื้อเชิ้ตที่ผลิพุ่งจากทรวงอกอวบ ก่อนจะเหลือบขึ้นปะทะสายตารีที่กำลังหรี่ลงเอาเรื่อง
“เป็นยังไงคะ ไม่ทราบว่าคุณพอใจกับราคาหรือเปล่า”
“ครับ คุณเสนอมายังไงทางบริษัทผมก็รับหมด”
แซคเอนกายไปด้านหลังยกมือประสานประกบไว้ใต้คางยกขาไขว้ห้างระหว่างพิจารณาหญิงสาวด้านหน้า
“อันที่จริงที่ผมให้คุณมาวันนี้เพราะมีข้อเสนอให้คุณเช่นกัน”
เปรมาหยิบแฟ้มเอกสารกลับมาไว้กับตัว เธอเงยหน้าขึ้นมองแซค ท่วงท่านักธุรกิจที่กำลังพิจารณาประเมินสิ่งของทำเธอฉุนเฉียวเล็กน้อยหากแต่ข่มไว้
“ค่ะ ถ้างั้นอันที่จริงคุณไม่ได้ต้องการขนมของร้านฉันใช่ไหมคะ”
“ไม่ครับ ทางบริษัทต้องการอย่างยิ่ง ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับที่ผมจะพูด”
เปรมาค่อยใจชื้นขึ้น อย่างน้อยเธอจะยังได้งานส่งขนมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ ใบหน้าเริ่มมีสีสัน
“พูดมาได้เลยค่ะ ฉันกำลังฟังอยู่”
“เรื่องลูกชายกับน้องสาวของคุณ ผมมีข้อเสนอ เป็นทางออกที่ดีต่อทุกฝ่าย”
“ดีต่อทุกฝ่าย?”
“ใช่เลิฟ”
แซคลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมาทางเธอแล้วเอนกายใช้สะโพกสอบพิงกับขอบโต๊ะด้านข้างเธอ กอดอกก้มมองเธอนิ่งจนเธอเริ่มประหม่า
“ผมจะยอมให้แซมหมั้นกับน้องสาวของคุณก่อนสองปี”
“หมั้น? สองปี?”
“ใช่สองปี แล้วถ้าภายในสองปีนี้ลูกชายผมหรือน้องสาวของคุณไม่เปลี่ยนใจไปกันเสียก่อนพวกเขาจะได้แต่งงานกัน”
“แค่นี้ใช่ไหมคะ เงื่อนไข ฉันตกลงค่ะหมั้นกันก่อนสองปี”
เปรมาค่อยโล่งใจ ถ้าเงื่อนไขมันง่ายแค่นี้ เธอยินยอมอยู่แล้ว
“แต่ว่าภายใต้เงื่อนไขนั้น เลิฟ คุณต้องบินไปภูเก็ตกับผมเจ็ดวัน หรือพูดให้เข้าใจง่ายหน่อยก็คือ คุณต้องนอนกับผม”
“อะไรนะ!!”
เปรมากระตุกร่างอวบอิ่มทะลึ่งพรวดขึ้นจากเก้าอี้ยืนประจันหน้ากับแซคชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ใบหน้ายังยิ้มพราย เขายืดตัวขึ้นเช่นกันเพื่อที่จะเดินหน้ากันเธอไม่ให้ถอยฉากหนี
“เจ็ดวันกับสองปี นั่นมันจะเรียกว่ายังไงดี คุณได้เปรียบมากเลยนะเลิฟ”
“ได้เปรียบ! คุณฮิวส์ คุณคิดว่าฉันเป็นคนยังไง ไม่มีทาง!”
แซคเท้ามือใหญ่ทั้งสองข้างลงบนโต๊ะกักเธอไว้ในอ้อมแขนกำยำชะโงกหน้าเข้าใกล้เธอ
“มันไม่ยากหรอกเลิฟ เจ็ดวันมันเป็นเวลาไม่นานถ้าเทียบกับสองปี”
เธอจับแฟ้มเอกสารขึ้นจากโต๊ะยันไว้ด้านหน้าเพื่อกันร่างแกร่งที่กำลังโน้มลงมาใกล้
“คุณมันคน คน!!”
ตอนนี้เปรมาโกรธจนควันออกหู หน้าคมเข้มยังยิ้มและยิ่งทำให้แซคดูร้ายกาจผิดไปจากแซม นอนด้วยกันเจ็ดวัน! นี่เขาเป็นบ้าอะไรถึงยื่นข้อเสนอแบบนี้ให้ว่าที่พี่สาวของเมียลูกชายตัวเอง
“อันที่จริงเราลองทดสอบปฏิกิริยาเคมีกันดูก่อนก็ได้นะเลิฟว่ามันจะดีอย่างที่ผมคิดไว้หรือเปล่า”
“ว่าไงนะ!!”
แซคหัวเราะในลำคอ เขาเห็นเม่นสาวที่พองขนเต็มที่และเขาอยากชิมรสเม่นตัวนี้เสียเหลือเกินว่าจะเผ็ดร้อนดั่งที่แสดงออกไหม
“โอ๊ย!!”
แซคร้องอุทานลั่นเมื่อเปรมากระทืบเท้าที่สวมรองเท้าส้นสูงลงบนรองเท้าหนังที่ไม่สามารถป้องกันส้นแหลม ๆ ได้เลย
ร่างสูงใหญ่ยกเท้าขึ้นด้วยความเจ็บใบหน้าเข้มแดงก่ำมองเธอเคียดแค้น ร่างอวบอิ่มเห็นความได้เปรียบรีบเบี่ยงตัวออกสาวเท้าไปยังประตูอย่างรวดเร็ว ปากยังตะโกนด่าทอไม่หยุด
“ไอ้คนถ่อย คนบ้า ไอ้คนสารเลว ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาดองญาติกัน อย่าให้ฉัน ..”
เปรมาที่กำลังหันกลับมาชี้หน้าพลันโดนมือใหญ่ดึงมือกระแทกกลับชนกับอกแกร่ง เธอแม้ว่าจะสูงพอสมควรสำหรับสาวไทยหากแต่เมื่อยืนเทียบกันจริงกับชายร่างสูงใหญ่ที่ยืดตัวด้วยความโกรธ ทำให้เธอดูตัวเตี้ยไปถนัดตา
“เลิฟ คุณกล้าจริง ๆ แต่รู้อะไรไหม ผมชอบมันมาก”
ดวงหน้าคมเบิกตากว้างมองหน้าแกร่งที่กำลังคล้อยศีรษะลงมา เธอเบือนหน้าหลบแต่มือเขาจับท้ายทอยไว้มั่นบังคับให้หันกลับมา
แซคยังเจ็บเท้าจากส้นสูงสองนิ้วที่เธอกระแทกลงไปอย่างแรง หากแต่ในความเจ็บปวดมีไฟปะทุขึ้นในทรวงอกจนเขาควบคุมมันไม่ได้ ยิ่งเปรมาขัดขืนต่อต้านเขายิ่งต้องการ
เปรมาถลาตามแรงดึงแฟ้มที่ถืออยู่ในมือร่วงหล่นลงพื้นกระดาษที่สอดอยู่หล่นกระจัดกระจาย เขาบิดมือเธอไพล่หลังดันร่างเธอให้แอ่นรับร่างแกร่งอุ่นร้อน
ริมฝีปากหนาบดเคล้าหนักหน่วงจนเธอเจ็บ เขากระชากผมเธอให้แหงนขึ้นเพื่อรับจูบลงทัณฑ์ กระแทกเปิดปากเธอออกแล้วส่งลิ้นร้อนเข้ากวาดไล้ อกแกร่งเขาครางกระหึ่มพึงพอใจ
ร่างอวบอิ่มบิดกายหนีแต่ยิ่งดิ้นวงแขนกำยำยิ่งรัดแน่น ร่างสูงใหญ่ดันเธอจนติดประตูบานไม้ จับข้อมือทั้งสองของเธอด้วยมือใหญ่ข้างเดียวยกขึ้นสูงเหนือศีรษะ
“รู้อะไรไหมเลิฟ ผมอยากเอาคุณตั้งแต่เห็นรูปคุณแล้ว ผมอยากสำรวจไปทั่วร่างคุณด้วยลิ้นของผม”
เปรมาตาโต ดวงหน้าแดงระเรื่อริมฝีปากบวมเจ่อ จ้องชายหนุ่มที่กำลังกวาดสายตาไปทั่วร่างเธอพร้อมมืออีกข้างที่ลากผ่าน
เขาหยุดที่อกอวบอิ่มทาบมือใหญ่เคล้นคลึง เธอพยายามกระทืบส้นสูงลงที่รองเท้าของเขาอีกครั้งแต่ไร้ผล คราวนี้แซครู้ทัน เขาแทรกหัวเข่าตรงกลางระหว่างขา ดันแก่นกายที่แข็งชันถูวนตรงเนินเนื้อสาว
“หยุดนะไอ้ฝรั่งบ้า ให้ตายสิ แซค หยุด!!”
ใบหน้าแกร่งยิ้มมุมปาก เปรมาตื่นตระหนกจนพูดทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษปะปนกัน เขาโน้มหน้าคมลงใกล้ซอกคอสูดดมกลิ่นวนิลาที่มักได้กลิ่นจากเธอเข้าปอด ลากลิ้นที่ซอกคอเบา ๆ กระซิบเสียงทุ้มกระเส่า
“ไปภูเก็ตกับผมเจ็ดวันเลิฟ แล้วน้องสาวของคุณจะได้สองปี กลับไปคิดดู”
เปรมาหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เมื่อร่างแกร่งผละออกก้มลงเก็บเอกสารใส่แฟ้มแล้วยื่นให้เธอ ดวงหน้าหวานคมยังแดงก่ำผมรุ่ยร่ายออกเล็กน้อย เพราะผลจากมือใหญ่ที่กุมท้ายทอยไว้ก่อนหน้านี้
เธอยื่นมือสั่นเทาออกไปรับแฟ้มมาแนบอก ดวงตารียังหลบสายตาคมเข้มที่จ้องเธอเขม็ง
แซคเปิดประตูออกกว้างรอเธอ จนกระทั่งร่างอวบอิ่มเดินผ่านเขาจึงโน้มร่างลงกระซิบอีกครั้ง
“ผมชอบเป็นผู้นำโดยเฉพาะบนเตียง จำไว้”
เปรมาเงยหน้าขึ้นมองปะทะสายตาคมกริบล้ำลึก เธอเห็นความปรารถนาเร่าร้อนฉายชัดอยู่ข้างใน ริมฝีปากหนาของเขาเลอะคราบลิปสติกสีแดงเบอร์กันดีจนทั่วและเขาไม่อายแม้แต่น้อย เธอยกมือขึ้นจับริมฝีปากของตัวเองและคาดว่าคงเลอะเช่นกัน
“คุณแพท รับเอกสารของคุณเลิฟไปจัดการต่อ”
เลขาสาวที่ยังยืนรอหน้าห้องรับเอกสารที่เปรมายื่นให้โดยไม่สนใจคราบบนใบหน้าของประธานและเธอเสียด้วยซ้ำ เธอเอี้ยวหน้าไปมองประตูที่ปิดสนิทลงแล้วอีกครั้งพลันสะท้านกาย
ถ้าตกลงเธอคงเป็นบ้าไปแล้ว เจ็ดวัน ขอให้คุณไปลงนรกสะแซค
บทที่ 8“พี่เลิฟคะ”เปรมาเงยหน้าขึ้นจากแผ่นแป้งที่กำลังรีดด้วยเครื่องรีดแป้งเพสตี้สำหรับทำครัวซองเพื่อส่งไปยังบริษัทของแซคซึ่งผ่านไปหลายวันกว่าที่บริษัทติดต่อกลับมาและตกลงให้เธอเข้าไปเซ็นสัญญา“จ้า ลิฟมีอะไรหรือเปล่า พี่ยุ่งนะวันนี้”มือเรียวสะบัดแป้งบนแผ่นรีดอีกครั้งก่อนจะตลบแป้งอีกด้านให้เข้าเครื่องรีดแล้วใช้มือช่วยรองรับ แม้มือจะยุ่งระวิงหากยังชำเลืองมองน้องสาวที่ยืนทำหน้าเศร้าเธอปิดเครื่องรีดยกแป้งที่รีดครบสี่ครั้งมายังโต๊ะยาวสำหรับขึ้นรูป เปรมาคลี่แผ่นแป้งวางบนโต๊ะหยิบไม้บรรทัดยาวสามฟุตขึ้นวัดแล้วใช้มีดเล็ก ๆ ทำเครื่องหมายเป็นจุด“ยืนเป็นหมาง่อยเลยลิฟ มีอะไรพูดมาสิพี่ฟังอยู่นะ”เธอกลิ้งลูกกลิ้งตัดแป้งสำหรับตัดแป้งพายโดยเฉพาะขึ้นวางบนแผ่นแป้งแล้วกดแรงกลิ้งลงตามรอยที่ทำไว้“พ่อแซมจะให้แซมกลับไปเรียนต่อที่อเมริกาค่ะ”“แปะ!”เสียงวางลูกกลิ้งกับโต๊ะสแตนเลสดังขึ้นตามแรงอารมณ์ของคนวาง ใจนึกโมโหชายตัวโตหนุ่มใหญ่ที่เล่นกับความรู้สึกของลูกชายตัวเองเพียงเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองพอใจ ที่สำคัญมันเกี่ยวกับน้องสาวของเธอด้วย“น้องกลัวค่ะพี่เลิฟ ถ้าแซมไปอยู่ที่อเมริกาแล้วเกิดเปลี่ยนไป น้องจะทำยัง
บทที่ 9เปรมาได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบกระเส่า กายสาวตอบรับสิ่งที่ได้ยินโดยไม่รู้ตัว เธอหายใจกระชั้นขึ้นและใบหน้าชื้นเหงื่อทั้ง ๆ ที่อยู่ในห้องเย็นเฉียบ“ผมจะให้เลขาส่งสัญญาไปให้ และเราจะเดินทางกันในอีกสองวัน”“เดี๋ยว! อย่าเพิ่งวาง ฮิวส์!”พนักงานหน้าร้านตกใจเสียงตะโกนของเจ้านายสาวจนต้องวิ่งเข้ามาดูภายในแผนกเบเกอรี่ด้านหลัง เห็นเพียงภาพใบหน้าคมโกรธเกรี้ยว ดวงตารีจ้องโทรศัพท์ดั่งจะกินเลือดกินเนื้อ“เกิดอะไรขึ้นคะพี่เลิฟ”“ไม่มีอะไร ไปดูหน้าร้านเถอะ”“ติ๊ง”เสียงแจ้งเตือนอีเมลเข้าทำให้เธอฉงน เอกสารทำไวขนาดนี้เชียวหรือ? เธอเปิดออกดูคาดว่าเป็นอีเมลส่วนตัวของแซคเองจากที่อยู่อีเมลเอกสารไม่กี่หน้าแต่ครอบคลุมแม้กระทั่งค่าชดเชยรายวันที่เธอต้องปิดร้านถึงเจ็ดวัน และเขาจะเป็นออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเดินทางไปภูเก็ตของเธอแต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอสนใจไปมากกว่าข้อตกลงที่ระบุระยะเวลาการหมั้นหมายของแซมและลิฟเป็นเวลาสองปีนับจากวันลงนามในสัญญาส่วนข้อสุดท้ายที่ทำให้ดวงหน้างามของเธอตกตะลึง ระบุห้ามอีกฝ่ายเผยแพร่ภาพถ่ายส่วนตัวของอีกฝ่าย ห้ามมิให้พูดถึงข้อตกลงนี้ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง
บทที่ 10ร่างอวบอิ่มเอนกายลงบนเบาะกึ่งนอนกึ่งนั่งไขว้ข้อเท้ากันไว้ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเท้าของตัวเองที่ฉากหลังคือท้องทะเลอันดามันอันที่จริงมันก็มีข้อดีเหมือนกัน เธอไม่ได้พักร่างจากการทำงานเพื่อหาเงินมานานมากจนจำไม่ได้แล้วว่าครั้งล่าสุดนั้นเมื่อไรมือเรียวหยิบเครื่องดื่มที่พนักงานนำมาวางไว้ให้ขึ้นจิบ รสขมของแอลกอฮอล์ถูกกลบด้วยเหล้าทริปเปิ้ลเซคที่ผสมมาสองตัวเติมช็อตจินประดับด้วยร่มเล็ก ๆ ด้านบนเมื่ออยู่ท่ามกลางสิ่งเร้าธรรมชาติทำให้เธอนึกไปถึงการเปลือยกายอาบแดดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่สิ่งที่เธอนิยมทำสักเท่าไร เพราะสีผิวของเธอเป็นสีน้ำผึ้งอยู่แล้ว“เลิฟ ถึงนานแล้วเหรอครับ”เปรมาหันมองตามเสียงทุ้ม ร่างสูงของแซคนั่งลงที่เตียงข้างในมือถือแก้วเหล้า เขานั่งหันหน้ามาทางเธอดวงตาจดจ้องล้ำลึก“ก็สักพักค่ะ”สายตาเขาดั่งจะเปลือยร่างเธอ จึงยืดร่างขึ้นนั่งจากการเอนกาย แสร้งหยิบแก้วค็อกเทลขึ้นจิบแก้เขิน วันนี้แซคแต่งตัวแปลกไปกว่าทุกวัน เสื้อคอโปโลแขนสั้นสีน้ำเงินเข้มเน้นมัดกล้ามโชว์ผิวสีทองแดงจากการเล่นกีฬากลางแจ้ง มือเขาแกว่งแก้วไปด้วยขณะยกขึ้นจิบเปรมาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ แซคยกมือขึ้นปัดผมทัดใบหู แล
บทที่ 11***NCเปรมาหดตัวเมื่อมือใหญ่กอบกุมทรวงอกอวบ เขาช้อนใต้เต้างามขึ้นโน้มศีรษะชะโงกมองจากด้านหลัง ลิ้นร้อนพลิ้วไหวขบเม้มติ่งหู เธอยื้อมือที่เร่งร้อนของเขาไว้ แซคไปไวจนเธอตามไม่ทัน“อื้อ แซค ซะ”เขาหมุนร่างอวบกลับมาหา โน้มศีรษะลงจูบร้อนแรงกลืนเสียงทักท้วงเข้าลำคอ ชีพจรเขากำลังเต้นกระหน่ำตื่นเต้นไปทั่วร่าง วงแขนรัดแผ่นหลังให้เธอแอ่นกายชิดความเป็นชายแข็งชันเขาเดินหน้าไปด้วยตลอดเวลาโน้มกายส่งจูบหนักหน่วงดันร่างอวบอิ่มจนกระทั่งถึงเตียงนอน เปรมาสะดุ้งเฮือก เธอมึนเมาไปกับจูบเร่าร้อนกระทั่งล้มลงนอนหงาย ตาคมรีตื่นตระหนกจ้องดวงตาคมกริบที่ไม่ปิดบังความกระหายหิวเปรมาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเสื้อเชิ้ตร่วงหล่นหายไปตอนไหนขณะที่ถูกดันมายังเตียง กายสาวท่อนบนเหลือเพียงเสื้อชั้นในเห็นทรวงอกงามอะร้าอร่าม“วันนี้เราจะไม่เล่นเกมแมวจับหนูนะคนสวย คุณเซ็นสัญญาแล้ว และผมต้องได้ตัวคุณ”แซครีบพูดเมื่อเห็นแววตาหวาดระแวงกึ่งหวาดกลัว เคลื่อนใบหน้าแกร่งลงจูบเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ มือวกลงด้านล่างปลดกระดุมกางเกงรูดซิป“ดะ เดี๋ยวแซค แซค!!”เขาชะโงกหน้าขึ้นจ้องเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนา มือยังดึงกางเกงผ้าของเธอ
บทที่ 12***NCเปรมารู้สึกอึดอัดเมื่อเอ็นใหญ่เข้ามาในกายอีกครั้งทีละน้อย เขาดันจนกระทั่งสุดจึงละมือจากข้อเท้าเธอ วางมือแกร่งข้างใบหน้าสาวสวยที่ทำหน้าประหลาดใจ ชะโงกกายชายเนื้อร่าง ใช้ต้นขาใหญ่ดันเธอให้เปิดออกค่อยขยับทีละนิด“เห็นไหมมันไม่เจ็บแล้ว ใจเย็น ๆ นะคนสวย ซี้ดดดด โอ๊ยยแน่น”ดวงหน้าสาวแดงระเรื่อเป็นสีชมพูเห็นได้ชัดแม้เธอจะมีผิวสีน้ำผึ้ง ริมฝีปากเย้ายวนเม้มแน่นกลั้นลมหายใจขณะที่ร่างแกร่งดันท่อนกายแข็งชันเข้าสู่โพรงรักความรู้สึกคับแน่นเหมือนจะปริออก มือบางจิกเล็บเข้าเนื้อบ่าแกร่ง ปรือตามองดวงตาคมล้ำลึก เหงื่อผุดไรผมหน้าผากกว้าง ทรงผมที่จัดแต่งอย่างดียุ่งเหยิงเพราะมือเธอในช่วงพลิกตัวชุลมุนเขาตั้งใจแน่วแน่และสะกดกลั้นความต้องการทะลวงแรงอย่างที่เคยเป็นมา ผ่อนลมหายใจออกยาวขณะถอดกายออกสุด สูดลมหายใจเข้าปอดเมื่อดันเอ็นใหญ่แทรกผ่านทางแคบเจลหล่อลื่นช่วยให้ทุกอย่างผ่านไปง่ายขึ้น เขาเริ่มขยับเร่งจังหวะขึ้นอีกนิดเฝ้าสังเกตใบหน้าหวานคม ปากเย้ายวนสวยเผยออ้ามีเสียงครางแผ่วเบา ไรผมชื้นเหงื่อผุดรอบจนเขาต้องใช้มือปาดเช็ดออกให้เขาเท้าข้อศอกทั้งสองข้างใกล้หัวไหล่บอบบาง มือลูบผมหญิงสาวใต้ร่างตรึง
บทที่ 13แซคจ้องเปรมาที่กำลังหิวโซ เธอเรียกขอแพนเค้กราดน้ำผึ้งและโกโก้ร้อนเพิ่มทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะทานชุดอาหารเช้าหมดไปหนึ่งชุดเธอเหล่ตามองชายหนุ่มตรงข้ามโต๊ะเล็กติดริมด้านนอกเพื่อมองทิวทัศน์ทะเลภูเก็ต เขายังจ้องเธอไม่เลิกสักพักหนึ่งแล้ว เธอเลยจิ้มแฮมคลุกซอสมะเขือเทศส่งเข้าปากพรางยิ้ม“เพราะคุณหรอก เลิฟถึงกินเยอะขนาดนี้”เขายกขาไขว้ห้างเอนกายพิงพนักกอดอกมองสาวอวบเอ่ยบอกทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ถาม อาหารยังเต็มปากแซคโน้มกายหยิบกาแฟดำที่เย็นแล้วเพราะมัวแต่ตกตะลึงเม่นสาวตรงหน้าจนลืมมันไปเลย“สงสัยคุณคงไม่ค่อยเจอผู้หญิงกินเก่งใช่ไหมคะ”“เออ ไม่ ไม่เคย ส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นเพราะไม่ค่อยอยู่ด้วยกันนานขนาดนั้น”“ฮะ! หมายความว่ายังไงคะ”พนักงานเอ่ยขออนุญาตก่อนจะวางจานแพนเค้กราดน้ำผึ้งวางซ้อนทับสูงสามชั้นตรงหน้าเธอ ตามด้วยโกโก้ร้อน“ก็มันมักจะจบไม่กี่ชั่วโมง”“อ้าวแล้วไม่เคยค้างคืนด้วยกันเหรอคะ หรือไปดินเนอร์ ไปเดท”แซคหัวเราะให้กับความคิดใส ๆ ของเม่นสาว มองมือที่ใช้มีดหั่นแพนเค้กออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ“อะ อ้ำ อ้ำ”เขาเอนร่างหนีแต่ไม่พ้นมือยาวยื่นตรงมายังปากเขา แซคจึงจำต้องอ้าปากรับแต่ไม่ตรงดีนักน้ำผึ้งเลอะขอบ
บทที่ 14**NCแดดกระทบพื้นน้ำส่องแสงระยิบระยับรอบกายเธอ ทั้งเขาและเธอนอนหมุนแขนตัวเองจ้องตากันและกัน บางสิ่งบางอย่างกำลังก่อตัวอยู่ในช่องท้องและทรวงอก กล้ามเนื้อเล็ก ๆ เต้นรัว ลมหายใจเขาเริ่มถี่ขึ้น“ขึ้นกันเถอะ”“หื้อ ทำไมล่ะคะ”เปรมาสงสัย เขาว่ายน้ำลากห่วงยางที่มีเธอเกาะอยู่ด้านในไปด้วยจนถึงบันไดขึ้นเรือ เขาดันสะโพกเธอขึ้นไปก่อนถึงจะโหนตัวเองขึ้นตามร่างสูงจูงมือเปรมาเข้าไปยังส่วนห้องโดยสารขนาดเล็กที่รวมไปกับส่วนขับเรือ แซคคว้าผ้าเช็ดตัวบนเบาะนั่งยาวขึ้นมาเช็ดตัวให้เธอ“เดี๋ยวเลิฟเช็ดเอง”เปรมาดึงผ้าเช็ดตัวออกจากมือใหญ่เช็ดผมมองร่างสูงที่ยังยืนรอเธอด้วยความแปลกใจ“มีอีกผืนไม่ใช่เหรอคะ เนี่ยไงคะ”เธอก้มลงหยิบผ้าเช็ดตัวอีกผืนยื่นส่งให้แซค เขารับไปแล้ววางลงที่เดิม คิ้วโก่งขมวดมุ่น“ทำไมล่ะคะ คุณก็เปียกทั้งตัวเลย”เปรมาขยับเข้าใกล้ใช้ผ้าเช็ดตัวของเธอเช็ดผมให้แซค ร่างสูงก้มหัวลงเพื่อให้หญิงสาวเช็ดได้ถนัดแต่เพียงไม่นานเขาคว้ามือเธอไว้ให้หยุด ดึงผ้าเช็ดตัวโยนลงเบาะเช่นเดิม“แซค”เธอเปล่งเสียงแผ่วเบาเมื่อรู้เจตนา แซคขยับเข้าใกล้เสียดสีกายแกร่งมือโอบเธอไว้ ตรึงใบหน้าหวานคมรับจูบร้อนแรงดั่งไฟ
บทที่ 15แต่เขาคิดผิด แซคยืนเท้าสะเอวจ้องหน้าหวานคม และเปรมาไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย“ไม่!!”เสียงใสตะโกนใส่เขาลั่นห้อง เธอยืนเท้าสะเอวเลียนแบบเขา ถลึงตาจ้องเขาทำปากยื่นเง้าไม่พอใจอย่างแรง“ทำไม ในเมื่อเราชอบกัน”เขาตะวาดออกไป เขาไม่ชอบเรื่องที่ควบคุมไม่ได้และเปรมาเป็นหนึ่งในนั้น“แซค คุณเป็นพ่อแซม ได้ยินไหม!”เปรมาตะคอกกลับ ในเมื่อเขาส่งเสียงใส่เธอ เธอก็จะไม่ยอมให้เขากระทำกับเธอฝ่ายเดียว“แล้วยังไง! ผมไม่เห็นว่ามันจะผิดปกติตรงไหน”“บ้าจริง! ก็ถ้าลิฟเป็นน้องสาวฉัน ลิฟเรียกคุณว่าพ่อ แล้วฉันล่ะจะเรียกคุณว่ายังไง”แซคสูดลมหายใจเข้าลึกยืดกายสูงก่อนจะย่างเท้าเข้าใกล้ร่างงาม เธอพยายามเรียกความกล้ายืนนิ่งแหงนหน้ามองเขาต่อตาไม่ลดละ“ก็เรียกผัวยังไงล่ะเลิฟ เราเอากันสะขนาดนั้นจะให้เรียกพ่อหรือไง!!”เขาชะโงกเข้าใกล้ตะโกนเสียงดัง เขายั้งอารมณ์ไม่อยู่ เพียงคิดถึงสิ่งที่เปรมาพูดพลันโมโหโกรธกว่าเดิม“หยุดนะ!! คุณไม่ใช่ผัวฉัน แซค”มือเอื้อมกระชากแขนเปรมาส่งเสียงข่มขู่“แล้วที่ร้องครางหงิง ๆ ตอนที่แซคน้อยกระแทกจะให้เรียกว่าอะไร คุณเรียกผมว่าพ่อหรือไง!!”เปรมาเบิกตากว้าง หน้าแดงซ่านอับอายทั้งโกรธจัด พ่อของ
บทพิเศษกริ๊งงงง!!เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นยามเช้า แสงอาทิตย์ยังทอแสงรำไรขอบฟ้าของคฤหาสน์ชานเมือง“อืมมมม”ร่างอวบอิ่มบิดกายพลิกหาความอบอุ่นข้างกายทันทีเอื้อมมือออกข้ามลำกายแกร่งไปยังโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงมือเล็กพยายามควานหาทั้ง ๆ ที่ยังหลับตา ร่างอวบทับบนอกแกร่งตะเกียกตะกายไปมา“เลิฟ”เสียงแหบพร่ากดต่ำดังขึ้นทำให้เปรมาปรือตามองอย่างสงสัย แล้วหยิบนาฬิกาปลุกกดปิดได้ในที่สุด“ขอโทษค่ะ เลิฟตั้งปลุกไว้ต้องรีบกลับคาเฟ่แต่เช้า”“มานี่ก่อน”แซคคว้าร่างอวบไว้ได้ทันก่อนที่เปรมาจะก้าวลงจากเตียงใหญ่ ดึงรั้งกระทั่งล้มลงบนกายแกร่งอีกครั้ง“แซค!! เลิฟกำลังจะสายนะคะ”“สายอะไรกัน วันนี้ผมเหมาร้านคุณให้แล้วกัน อยู่กับผมอีกวัน”เปรมาดันตัวขึ้นมองหน้าคมเข้ม ผมยังยุ่งเหยิง ดวงตาหรี่ปรือเปี่ยมเสน่ห์ทางเพศมองเธออย่างมาดหมาย“อย่านะ! เปรมาชอกช้ำหมดแล้ว”แซคค่อยคลี่ยิ้มมองสีหน้าเง้างอดและทีท่าขืนตัวหนี“ผมยังไม่ทันทำอะไรเลย คิดทะลึ่งไปเองหรือเปล่า”มือแกร่งยังดึงดันพลิกจนร่างเปรมาตวัดกลับไปนอนหงายโดยมีคนร่างโตทาบทับด้านบน แทรกหัวเข่ากลางหว่างขา“แซค! นี่เลิฟพูดจริงนะคะ ต้องกลับแล้วเช้านี้”“ถ้างั้นมีข้อแ
บทที่ 24**จบ“อือม พูดอะไรคนสวย”เขาเลื่อนลงไปจนกระทั่งถึงเนินทรวงอกใช้ลิ้นตวัดปลายยอดถัน เปรมาเบี่ยงตัวหลบ“ขึ้นมานี่เลย พูดกันก่อนนะคะ”“แล้วคุณจะมีรางวัลอะไรให้ผม”แซคครอบปากบนยอดทรวงดูดแรงจนร่างอวบอิ่มสะท้านแอ่นหยัดรับ“อะไรก็ได้ ขึ้นมานี่นะ หยุดก่อน”รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าคมเข้มทำเธอตาพร่าไปพักหนึ่งเมื่อเขาชะโงกเหนือดวงหน้าของเธอ“จะถามอะไรคนสวย”“คุณจะแต่งงานกับฉันทำไม พูดมานะแซค”“ไม่เห็นยากเลยเลิฟ ผมชอบคุณมากน่ะสิ ไม่สิ ผมรักคุณต่างหาก ใช่ มันต้องเป็นเพราะอย่างนี้ล่ะผมถึงอยากจะแต่งงานกับคุณ”เปรมาถอนหายใจโล่งอกเมื่อแซคยอมพูดคำที่เธออยากจะได้ยิน เปิดปากรับลิ้นที่แทรกเข้าโพรงปาก จูบหนักหน่วงดำเนินไปสักพักจนลมหายใจของเปรมาเริ่มกระชั้น“คุณคิดว่ามันเป็นความรักเหรอคะแซค เรารู้จักกันไม่นานอีกอย่างคุณเคยบอกฉันว่ามันเกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย”“เลิฟคนดี ผมอายุปูนนี้แล้ว สามสิบเก้า คุณคิดจริง ๆ หรือว่าผมไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไง”“อือ แล้วคุณไม่ถามฉันเหรอแซค อา อ่า”เขากัดยอดถันเบา ๆ มือกอบดันขึ้นเหลือบตามองเธอ“ไม่หรอก เพราะคุณต้องรักผมอยู่แล้ว ใช่ไหมคนสวย”“ฮ่า ฮ่า คนหลงตัวเอง”“เอาล่ะ
บทที่ 23“ก๊อก ก๊อก พี่เลิฟคะ สายมากแล้วค่า”แซคคลายอ้อมแขนที่เปรมาหนุนนอนมาตลอดคืน เอนกายไปขอบเตียงตวัดขาลงแล้วจึงคว้าเช็ดตัวของเปรมาสีชมพูสวยพันรอบเอว มือสางเสยผมยุ่งเหยิงพอประมาณ“แอ๊ด”ปาริมาสะดุ้งสุดตัวมองพ่อของคู่หมั้นตาค้าง พ่อของแซมนุ่งผ้าเช็ดตัวสีชมพูของพี่เปรมาเดินออกมาเปิดประตูเพียงผืนเดียว ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนคนเพิ่งลุกจากเตียงปาริมาแทบหาเสียงของตัวเองไม่เจอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น“อะ เออ พ่อคะ พะ พี่เลิฟ เออ จะมาเรียกพะ พี่เลิฟทานข้าวค่ะ”แซคก้มมองว่าที่ลูกสะใภ้ใบหน้าซีดเผือด เขายืนเท้าแขนตรงกรอบประตูใช้มือผลักประตูกว้างออกไปแล้วเบี่ยงตัวเล็กน้อยให้ปาริมาเห็นพี่สาว“ยังไม่ตื่น”ปาริมามองเข้าไปยังเตียงนอนเห็นแต่ผมดำยาวสยายปิดใบหน้า สีผิวน้ำผึ้งตัดกับผ้าปูเตียงสีขาวเขามองลำคอระหงของปาริมาขยับกลืนน้ำลายหลายครั้งก่อนจะหน้าแดงซ่านทั่วใบหน้า“งะ งั้นหนูไปก่อนนะคะ”“ปัง”แซคเดินกลับมายังเตียงนอนก่อนจะล้มตัวนอนต่อ เขาขยับเข้าใต้ผ้าห่มโอบวงแขนรอบร่างอวบอิ่มที่ยังสลบไสล ยิ้มมุมปากเมื่อนึกภาพยามเธอตื่นมาแล้วพบว่าเขาเพิ่งจะไล่ว่าที่ลูกสะใภ้ของเขาไป แต่อันที่ก็เป็นว่าที
บทที่ 22***แซคเดินใกล้จนถึงร่างอวบของเธอ โอบแผ่นหลังดึงรูดซิปลง ดวงตาคมไม่ละออกจากดวงหน้า มือร้อนลวกจับสายเสื้อดึงลงต้นแขน ชุดสวยร่วงหล่นกรอมเท้า“ผมขอต่อสัญญาเลิฟ ต่ออีกยาว ๆ”มือใหญ่ปลดตะขอเสื้อชั้นในปล่อยเต้างามให้เป็นอิสระ มือทาบทรวงอกเคล้นคลึงหนักมือ“คุณทำผมแย่ เลิฟ ผมไม่ชอบมันเลยคนสวย ผมไม่ชอบที่มันควบคุมไม่ได้”เปรมายังมองหน้าคมเข้มเมื่อเขาโน้มลงใกล้ ปากหนาครอบครองปากเย้ายวน รสชาติของไวน์คละคลุ้งไปทั้งโพรงปากมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วร่าง เขาดันเธอแนบกายแกร่งโยกตัวให้ท่อนเนื้อสัมผัสเนินสาว แล้วจึงตวัดแขนโอบร่างอุ้มขึ้นจากพื้นเดินไปยังเตียงแซคมองหญิงสาวที่เขาวางลงบนเตียง ความรู้สึกบางอย่างกระแทกเข้าที่ทรวงอกแรงจนเขาสะเทือน เขายืดกายสูดลมหายใจเข้าแล้วดึงกางเกงในของเปรมาออกจากตัว“พระเจ้า คุณแว็กซ์”เปรมาประหม่าเอียงอาย เธอใช้มือปิดของสงวนไว้ไม่กล้าเปิดออกให้แซคเห็น“มันเป็นคอร์สเพื่อนเจ้าสาวน่ะ”“ไม่ เลิฟ ยกมือออก ผมอยากเห็น”เธอค่อยเปิดออก สายตาเข้มข้นมองเธอนิ่ง เขาหน้าแดงก่ำขึ้นทันทีเมื่อเปรมาเริ่มขยับขายกตั้งชัน“วันนี้เราจะไม่เล่นเกมกันอีกใช่ไหมคนสวย คุณยินยอมพร้อมใจที่จะอยู่กับ
บทที่ 21เปรมามองรอบโต๊ะทรงกลมขนาดใหญ่ มื้อเย็นที่มีแต่คนในครอบครัว แต่นั่นจะเรียกว่ามื้อเย็นก็ไม่ถูกนักเพราะตอนนี้สามทุ่มแล้วเพิ่งจะเริ่มยกจานแรกมาเสิร์ฟ“คุณเลิฟพักที่นี่เป็นยังไงบ้างคะ ขาดเหลืออะไรก็บอกได้นะคะ”เสียงแม่ของแซมบาบาร์ร่าทำให้เปรมาละมือออกจากแก้วไวน์ เธอมองบาบาร์ร่าที่ยังสวยแม้อายุเกือบสี่สิบ ผมบลอนด์ยาวจัดแต่งทรงอย่างดี ชุดเรียบหรูสำหรับทานมื้อค่ำส่งให้บาบาร์ร่าโดดเด่น ยิ่งนั่งข้างแซคทำให้เธอเห็นความเหมาะสมกันทุกประการของคนทั้งคู่มือเรียวของบาบาร์ร่ายังจับแขนแซคไว้เบา ๆ ยามเอ่ยพูด เธอมองไล่ไปยังร่างแกร่งที่ถอดชุดสูทออกแล้ว เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดิมเมื่อกลางวันพับแขนเสื้อขึ้นอย่างเคย“ค่ะ ทุกอย่างดีมากค่ะ”“ถ้าแบบนั้น พักเสียหลาย ๆ วันนะคะ ลิฟจะได้มีเพื่อน”“คงไม่ได้หรอกค่ะ ฉันต้องกลับไปเปิดร้านค่ะ”บาบาร์ร่าส่งเสียงพึมพำเบา ๆ รับรู้ ก่อนจะหันไปคุยกับแซคต่อถึงเรื่องคนในครอบครัวเปรมายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกครั้ง เธอเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรและโทษอาหารที่ทานไปเมื่อกลางวันที่ทำให้เธอมวนในท้องและร้อนไปถึงทรวงอกเสียงหัวเราะทุ้มของแซคดังมาเป็นระยะ ๆ ขณะที่คุยกันกับบา
บทที่ 20เปรมาสำลักน้ำทันทีเมื่อได้ยินคำถามจากเสียงทุ้มเมื่อเขานั่งลงข้างเธอ คริสรีบหยิบผ้าเช็ดปากส่งให้หญิงสาวพรางหัวเราะถูกใจ“นี่สงสัยผมพูดแทงใจดำใช่ไหมครับ”“เปล่าคะ ฉันไม่ได้ชอบเขา”เปรมาปฏิเสธพัลวันหน้าแดงก่ำจากการสำลักน้ำ ประสานสายตาไม่หลบเพื่อแสดงความจริงใจ“ผมไม่เชื่อหรอกครับ พี่ผมละสายตาจากคุณไม่ได้ และคุณก็เช่นกัน”เธอยืดกายขึ้น คิ้วโก่งขมวดมุ่น ถ้าเป็นเช่นที่คริสบอกนั่นหมายความทุกคนก็มองเห็นมันเช่นกัน“อย่าไปเชื่อในสิ่งที่เห็นสิคะ มันอาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้”“โอ้ งั้นก็ดีสิครับ ถ้าคุณไม่ได้ชอบพี่ชายของผม ผมก็จะได้สบายใจหน่อย ผมก็ขออนุญาตจีบคุณเลยแล้วกัน”“คริส!!”เธอจ้องดวงตาพราวระยับตรงหน้าและรอยยิ้มกว้างจึงได้รู้ว่าเขากำลังหยอกเธอเล่น เปรมาค่อยผ่อนลมหายใจ“คุณหยอกฉัน”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่แน่หรอกนะครับเลิฟ”มีเสียงพูดคุยดังขึ้นเมื่อแซมและบาบาร์ร่าเดินนำคู่หมั้นทั้งสองไปที่โต๊ะตัวยาวด้านหน้าน้องสาวของเธอสวยกว่าใครและใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มมีความสุข เธอภาคภูมิใจในตัวน้องสาวและอยากจะเห็นลิฟมีความสุขเช่นนี้ตลอดไป“ดูเจ้าแซมสิ ดูมีความสุข”เปรมาเอี้ยวหน้ามองคริส หน้าหวานคมยังยิ้ม
บทที่ 19“น้องพี่สวยจัง”เปรมาเดินเข้ามาในห้องนอนห้องหนึ่งของบ้านชานเมืองที่จัดให้น้องสาวและเธอได้เข้าพักตั้งแต่วันก่อนเพื่อเตรียมตัวร่างโปร่งบางของปาริมาสวยเปล่งปลั่งไปทั้งตัวด้วยชุดหมั้นตัวสั้นสีขาวผสมลูกไม้จากฝรั่งเศสทั่วทั้งชุด น้องสาวเกล้าผมขึ้นเป็นมวยด้านหลังประดับด้วยดอกไม้และเครื่องประดับราคาแพงที่แซมนำมาให้เข้าชุดกับสร้อยคอและกำไรข้อมือ“พี่เลิฟก็สวยค่ะ”ปาริมาจับมือพี่สาวพาเดินไปยังกระจกบานยาวในห้องนอน ร่างอวบอิ่มดั่งนาฬิกาทรายสวมชุดเดรสลูกไม้สีโอรสสั้นแค่เข่า คอเสื้อด้านหน้าและหลังเป็นรูปตัววีลึกจนเห็นเนินทรวงอวบล้น“พี่ว่ามันโป๊ไปนิดนะ”เปรมาขยับมือจับคอเสื้อที่แหลมตัววีลึกด้านหน้าอก ยิ่งเกล้าผมสูงทำให้โชว์เนินหน้าอกมากเกินไป“พี่เลิฟคะ ทำไมไม่สวมสร้อยที่พ่อแซคส่งมาให้ล่ะคะ”ปาริมาชะโงกมองคอโล่งว่างเปล่าคิ้วงามขมวดเล็กน้อยสงสัย สีหน้าพี่สาวดูลุกลี้ลุกลนเมื่อพูดถึงพ่อของว่าที่คู่หมั้น เธอมองตามร่างสูงอวบที่ผละออกจากเธอตรงไปยังเตียง แสร้งดึงผ้าปูที่นอนให้ตึงทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็น“ไม่หรอก มันไม่ใช่ของพี่ ถึงพี่จะไม่มีของราคาแพงก็ไม่เห็นจำเป็นต้องใส่”เธอโบกมือไล่คนรับใช้ที่ยัง
บทที่ 18“พี่เลิฟคะ พี่เลิฟ!!”เสียงหวานข้างหูดังขึ้นทำให้เปรมาสะดุ้งสุดตัว เอี้ยวหน้ามองเห็นใบหน้าน้องสาวสุดที่รักยืนยิ้มแป้นแล้นข้างตัว“เหม่ออะไรคะ ตั้งแต่กลับมาจากภูเก็ตดูใจลอยนะคะ”ปาริมาเดินอ้อมไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวในคอนโดมิเนียมหลังจากแกล้งพี่สาวได้สำเร็จ หน้าหวานทรงผมสีน้ำตาลอ่อนยิ้มกว้างหยอกพี่สาวเล่นพรางพูดเจื้อยแจ้วต่อไป“พี่เลิฟไปเสียหลายวันและยังปิดโทรศัพท์น้องเลยติดต่อพี่ไม่ได้เลยคะ”“มีอะไรเหรอ”เปรมาหาเสียงตัวเองเจอในที่สุด เสียงแหบพร่าจากห้วงอารมณ์เมื่อภาพเหตุการณ์บนเตียงยังแจ่มชัด“ก็ลิฟจะโทรไปบอกข่าวดีกับพี่เลิฟค่ะ พ่อของแซมตกลงให้เราหมั้นกันแล้วค่ะ ไม่น่าเชื่อใช่ไหมคะ”“ใช่จ๊ะไม่น่าเชื่อ พี่ยินดีด้วยน้องรัก พี่ดีใจที่น้องสมหวังเสียที”“อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนหรอกนะคะพี่เลิฟ แต่ยังไง น้องจะทำให้ดีที่สุดให้การหมั้นดำเนินไปจนกว่าเราจะได้แต่งงานกัน”“หื้อ?”“ก็พ่อของแซมบอกว่าขอให้เราหมั้นกันสักสองปีก่อนแล้วถึงจะคิดดูอีกครั้งเรื่องแต่งงาน”เปรมาจับมือน้องสาวที่วางอยู่บนโต๊ะลูบปลอบใจ“ลิฟ สองปีน่ะมันเป็นเวลาที่พอเหมาะและน้องอาจทำให้พ่อของแซมเปลี่ยนใจได้ อีกอย่างเมื่อถึงเวลา
บทที่ 17***NCเปรมาสะบัดขาอีกข้างถีบหน้าอกแกร่งอย่างแรงจนเขาหงายหลังก้นกระแทกพื้น เธอพาร่างอวบอิ่มออกจากอ่างน้ำแต่มือยังถูกล็อคไว้ หันมองหน้าหล่อดั่งปีศาจร้ายที่กำลังยิ้มร่าแซคลุกขึ้นเดินลุยน้ำในอ่างมาทางเปรมา เธอมองของที่อยู่ในมือแซค ท่อนใหญ่สีเนื้อเลียนแบบแซคน้อยแต่ขนาดของมันทำให้เธอพรันพรึงเขาก้าวออกจากอ่างไปหาเธอ เปรมาขยับหนีอ้อมไปอีกทางเท่าที่ความยาวของกุญแจมือจะทำได้ เขายืนซ้อนหลังจับขาเธอให้เข้าไปในอ่างหนึ่งข้างแล้วคุกเข่าลงด้านล่างแหงนหน้าขึ้นหาเนินสาว“อวบอิ่มและหวานเยิ้ม”ลิ้นสากระคายลากขึ้นตวัดน้ำ เปรมาสะท้าน พยายามกระชากมือให้หลุดจากก๊อกน้ำ เขาเลียอีกหลายครั้งก่อนจะรัวถี่ตรงเม็ดกลางร่อง“น้ำออกเยอะมากเลิฟ ค่อยง่ายหน่อยทูนหัว”เปรมาสะดุ้งพรวด แซคดันเอ็นปลอมใหญ่เข้าช่องรักช้า ๆ หมุนเบา ๆ เขาดึงถอนออกแล้วดันเข้าเลียนแบบสิ่งที่เขาทำกับเธอ“อ่า แซค อือ อา”“เสียวมากใช่ไหมคนสวย”มือจับเอ็นปลอมดันค้างไว้ในโพรงรัก ปากหนาขยับขึ้นใช้ลิ้นเลียรอบ ๆ ปากทาง กลีบบางสั่นรัวระริก“แซค อา อา อือ อา กรี๊ด”เขาตวัดบนเม็ดเล็กถี่มือชักเอ็นปลอมขยับเบา ๆ เปรมากำลังจะถึงจุดสุดยอด เธอเกร็งร่างร้อ