“คุณนี่ชักจะเดาใจผมแม่นขึ้นทุกวัน มานั่งอยู่ในนี้หรือไงครับ” ธาวินชี้มือมายังตำแหน่งหัวใจ“ฉันคนนะคุณไม่ใช่เลือด จะได้ไปแทรกตัวอยู่ในหัวใจคุณแบบนั้น”“พูดซะผมเห็นภาพ”“ถ้าอยากกินก็กินไปเยอะๆ” ว่าแล้วก็ตักอาหารที่สั่งมาใส่จานของธาวิน ชายหนุ่มยิ้มกริ่มมีความสุข มาถึงตอนนี้เขาก็มั่นใจแบบเต็มร้อย ว่าวันเมษาคือเจ้าของเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า คัพเค้กก้อนเล็กเมื่อทานข้าวอิ่ม วันเมษาก็ขอตัวกลับ เพราะไม่อยากอยู่รบกวนการทำงานของธาวิน แต่ความที่ดื่มทั้งกาแฟ ทั้งชาเข้าไปเมื่อตอนบ่ายๆ ก็ทำให้คืนนี้เธอตาค้าง นอนไม่หลับเสียแล้ว ก่อนจะควานหาโทรศัพท์มากดดูนั่นนี่ สุดท้ายไปจบที่การส่องหน้าเฟซบุ๊กของธาวินอีกตามเคยรูปที่เห็นคือรูปปฏิทินที่เจาะจงถ่ายเดือนเมษายน พร้อมข้อความที่ระบุว่า ‘ขอบคุณที่ทำให้ผมมีความสุข’นั่นทำเอาวันเมษาฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะซุกใบหน้ากับหมอนแล้วกรี๊ดออกมา เพราะคิดเองว่าธาวินจงใจสื่อความหมายถึงตัวเอง จากที่นอนไม่หลับเพราะ
“เอวาขอตัวก่อนนะคะ ไว้เราค่อยเจอกัน” เอวาส่งยิ้มให้ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้อง เมื่อประตูปิดลง ธาวินถึงกับถอนหายใจออกมาหนักๆ รู้สึกเหนื่อยใจกับความดื้อรั้น ไม่ฟังเหตุผลของเอวา และอยากตัดให้เธอออกไปจากชีวิต เพราะขืนเอวายังป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ ตัวเขาแบบนี้ วันเมษาคงรู้สึกแย่แต่จังหวะที่กำลังจะเดินพ้นล็อบบี้ เอวาก็มองเห็นวันเมษากับเก๋ไก๋ จึงตรงเข้าไปหาแล้วส่งยิ้มให้ เพียงแค่ได้เห็นเอวาที่นี่ วันเมษาก็รู้สึกจี๊ดที่อก ความรู้สึกร้อนๆ ในร่างกายนี้คืออะไร หรือเธอกำลังหึงธาวิน“ระวังของของเธอไว้ให้ดีนะ เพราะเกมของฉันมันเริ่มแล้ว” เอวาเอ่ยยิ้มๆ อย่างเป็นต่อ แล้วโบกมือให้ราวกับตอนนี้เธอชนะแล้ว วันเมษาเบ้ปากเล็กๆ งานนี้เป็นไงเป็นกัน เธอไม่มีวันยอมยัยนมตูมนี่เป็นอันขาด“อย่าไปฟังคนปากเหม็นแถวนี้เลยษา” เก๋ไก๋เชิดใส่เอวา ก่อนจะพาวันเมษาเข้าไปหาธาวินในห้องทำงานของชายหนุ่ม แต่เอวาก็ไม่วายเอ่ยตามหลัง“จับไว้ให้ดีๆ นะ ระวังจะถูกเขี่ยทิ้งแบบไม่รู้ตัวอีก” พูดจบก็เดินนวยนาด
ก่อนที่ทั้งคู่จะหยุดการสนทนา เมื่อวันเมษาเดินกลับมา สีหน้าเธอไม่ค่อยสู้ดีนัก เก๋ไก๋จึงเอ่ยถาม“ใครโทรมาน่ะษา”“พี่วาน่ะสิ โทรมาถามอยู่นั่นแหละ ว่าฉันทำนมแล้วหรือยัง” ขณะพูดก็ทำสีหน้าเซ็งๆ เพราะวันธันวาคาดคั้นเอาวันที่แน่นอนจากเธอให้ได้ สงสัยอยากพักร้อนเต็มแก่ ถึงอยากให้เธอรีบกลับไปสานงานต่อเร็วๆ แบบนี้“อ้อ…คงอยากรู้วันกลับเชียงใหม่ของแกมั้ง”“สงสัย”“กลับเชียงใหม่ คุณษาเป็นคนเชียงใหม่หรือครับ” ธาวินเอ่ยถามขึ้น“ค่ะ”“คุณย่าผมก็เป็นคนเชียงใหม่”“จริงเหรอคะ” สีหน้าของวันเมษาดูแปลกใจ โลกอะไรจะกลมขนาดนี้ การที่ย่าของธาวินเป็นคนเชียงใหม่เหมือนเธอ ก็เหมือนคนคุ้นเคยกัน“ครับ”“บุพเพสันนิวาสชัดๆ” เก๋ไก๋ยิ้มให้ทั้งคู่ ก่อนจะที่วันเมษาจะหันมาแหวใส่ ที่ถูกเพื่อนสนิทแซวต่อหน้าธาวินอีกแล้ว
“เฮ้อ! คิดไม่ตกจริงๆ ว่าจะสกัดยัยดูมๆ นี่จากหมอวินยังไง”“ตาต่อตา ฟันต่อฟัน แต่ถ้าไม่ได้ ก็เอาน้ำกรดช่วย”“บ้า! ไม่เอาหรอก โหดร้ายเกินไป” วันเมษารีบปฏิเสธวิธีของเก๋ไก๋ทันที ขืนทำแบบนี้ เธอหรือจะมีความสุข“ฉันแค่พูดเล่น ถ้าแกทำอะไรไม่ได้ คนเดียวที่จะทำได้คือหมอวิน”“ฉันก็ขอให้ใจหมอหนักแน่นพอ พูดถึงหมอก็ดีเลย คือตอนนี้ฉันชักจะไม่เข้าใจหมอวินของแก”“ไม่เข้าใจยังไง” เก๋ไก๋เลิกคิ้วสูงฟังอย่างสงสัย“ก็เขาเหมือนจะจีบฉัน แต่บางทีก็เหมือนไม่ได้จีบ สรุปฉันคงคิดไปเองมั้งว่าเขาจีบ เพราะนี่เขาไม่ติดต่อฉันมาเป็นอาทิตย์ๆ แล้วนะ”“ถ้าแกจีบหมอก่อน แกจะหมดความกังวลในเรื่องนี้ เพราะแกจะเป็นฝ่ายรุก หมอจะเป็นฝ่ายรับ หุหุ” สีหน้าของเก๋ไก๋ดูจะจินตนาการไปไกลแสนไกลวันเมษาจึงหยิกให้หนึ่งที เพื่อดึงสติกลับมา“บ้า…แกก็พูดไปนั่น”“
“งั้นแกก็เข้าไปชวนตอนนี้เลย ฉันอยากรู้ว่าหมอจะไปได้ไหม”“แป๊บนึงนะคะคุณเก๋ไก๋ แกนี่ใจร้อนจริงเชียว” วันเมษาย่นจมูกให้คนใจร้อน ก่อนจะกลับเข้าไปในห้องตรวจของธาวินเพื่อเอ่ยชวน ซึ่งเขาก็ไม่รับปากว่าจะไปร่วมงานได้ไหม เพราะต้องสแตนบายหากมีเคสผ่าตัดด่วน แต่ก็จะพยายามปลีกตัวไปร่วมงานให้ได้ ซึ่งวันเมษาก็เข้าใจ ก่อนจะกลับออกมาบอกให้เก๋ไก๋รู้“มีแฟนเป็นหมอก็งี้แหละแก ทำงานไม่ค่อยเป็นเวลา บางทีนะ ตีสามตีสี่ถ้ามีเคสผ่าตัดด่วนก็ต้องรีบลุกจากเตียงไปโรงบาล”“แหม…พูดยังกับตัวเองเคยมีแฟนหมอ” วันเมษาได้ทีขอแซวกลับบ้าง“ก็แค่กิ๊กกั๊กกันไรงี้ ทำไงได้ คนมันสวย”“ย่ะ” คนฟังเบ้ปากให้คนที่พึ่งชมตัวเองว่าสวยไปหยกๆ จะว่าไปการที่เธอมีเก๋ไก๋เป็นเพื่อน ทำให้ชีวิตเธอก็มีสีสันมากขึ้นเป็นกอง เก๋ไก๋ใช้ชีวิตได้คุ้มค่ามาก สุขหรือทุกข์ก็แสดงออกอย่างชัดเจน เป็นคนมองโลกในแง่ดี แม้จะเกิดมาเป็นเพศที่สาม แต่ก็ไม่ทำให้เก๋ไก๋อาภัพเรื่องความรัก
เพราะหมายมั่นปั้นมือ ไม่ว่ายังไงคืนนี้เธอต้องทำให้ธาวินและวันเมษาถึงขั้นแตกหักให้ได้ เอวาจึงตั้งใจมาดักรอพบชายหนุ่มที่ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งความงาม ซึ่งระหว่างนั้นธาวินพยายามนั่งเคลียร์งาน เพื่อจะได้ไปงานวันเกิดของเฟื่องรัตน์แต่กว่าจะเซ็นเอกสารใบสุดท้ายเสร็จ เขาก็อยู่เป็นคนสุดท้ายอีกตามเคย ขณะที่กำลังเก็บของอยู่นั้น ประตูห้องทำงานที่ถูกเปิดออก ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง“คุณเอวา”“ตกใจหรือคะคุณหมอ” เอวาส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะเดินเข้าไปหาเขาใกล้ๆ ไม่ว่ายังไงคืนนี้ธาวินต้องเป็นของเธอ หลังจากนี้เธอจะเอาคลิปความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นไปให้วันเมษาได้ดู รับรองว่าคู่อริหมายเลขหนึ่งได้อกแตกตายแน่“วันนี้คุณหมอว่างไหมคะ เอวาจะชวนไปหาอะไรอร่อยๆ ทาน” น้ำเสียงช่างฟังดูยั่วยวน ไหนจะท่าทางที่ตอนนี้ขยับเข้ามาใกล้ จนธาวินได้กลิ่นน้ำหอมโชยมาจากตัวเธอ“พอดีผมมีนัดแล้วครับ” ชายหนุ่มยังคงส่งยิ้มให้ แม้ในใจจะไม่พอใจก็ตามที“นัดกับษาหรือเปล่าคะ&rd
“จะให้ฉันลงโทษคุณยังไงดี”“ตามใจคุณษา ผมยอมรับการลงโทษทุกอย่าง”“ดี” วันเมษาเอ่ยเสียงตึงๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาชายหนุ่มใกล้ๆ แล้วเงื้อมือขึ้นสูงคล้ายจะตบเขา ธาวินเห็นแบบนั้นจึงหลับตารอรับอย่างเต็มใจ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่ใช่ความเจ็บ แต่กลับเป็นความนุ่มนิ่ม หอมหวานจากริมฝีปากของวันเมษา พระเจ้า! ตอนนี้เธอกำลังจูบเขาอยู่ จูบที่ไม่ประสาเพราะยังขาดประสบการณ์ แต่ทว่ากลับทำให้ใจเขาเต้นรัวนั่นทำให้ธาวินคว้าเธอมากอด แล้วรั้งร่างบางให้ลงมานั่งบนตัก พร้อมๆ กับการจูบเธอกลับไปอย่างดูดดื่ม ธาวินได้กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ที่ลอยอบอวนอยู่ภายในโพรงปากหวานของวันเมษา ส่งให้ปากเธอยิ่งหวานมากขึ้นไปอีก มือหนาลูบไล้แผ่นหลังบอบบาง พร้อมทั้งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก แต่อยู่ๆ วันเมษาก็ถอนจูบออก“ยัยเอวาจูบคุณนานแค่ไหน”“ผมจำไม่ได้ ทำไมครับ” ใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างจากใบหน้าวันเมษาแค่คืบเอ่ยตอบ ขณะที่ใจก็เต้นรัวเพื่อรอฟังคำตอบ วันเมษาเม้มริมฝีปาก
เพียงแค่มืออุ่นๆ ไล้สัมผัสลงไปบนกล้ามเนื้อ ธาวินก็เสียววูบ มันวาบหวามจนใจเขาเต้นแรง สายตาจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากอิ่ม ก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้ง พร้อมกับจงใจเบียดร่างกายเข้าหา ความแนบชิดยามไร้อาภรณ์ยิ่งทำให้สติของวันเมษากระเจิง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อธาวินยื่นมือลงต่ำ เพื่อสัมผัสกับส่วนที่เธอหวงแหนมากที่สุดบนร่างกายสัมผัสที่เขามอบให้ ทำเอาคนอ่อนประสบการณ์พยายามหนีบขาเข้าหากัน แต่ก็ยากเพราะมีธาวินขวางอยู่ บิกินี่ตัวน้อย ปราการชิ้นสุดท้ายบนร่างกายของวันเมษาค่อยๆ ถูกถอดออก โดยที่เจ้าของมันแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เพื่อไม่ให้เธอเสียเปรียบ ธาวินจึงรีบจัดการถอดกางเกงและอันเดอร์แวร์ของตัวเองออกบ้าง ไม่นานเขาก็เปลือยเปล่าไม่แพ้วันเมษา“ใจเราสองคน มันเต้นแรงไม่แพ้กัน” ธาวินเอ่ยยิ้มๆ เพราะความใกล้ชิดทำให้เขาได้ยินเสียงเต้นของหัวใจวันเมษาได้อย่างชัดเจน ตึกๆ ตึกๆวันเมษาเม้มปากแน่น เพราะไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกมา ได้แต่หลบสายตาคมกริบของธาวิน เขาจึงรั้งปลายคางเธอขึ้นเพื่อให้คนตรงหน้าหันมาสบตาด้วยความรู้สึกบางอย่างถูกถ่ายทอดผ่านสายต
“หยุดทำไมครับพี่ษา” วันเมษาไม่ตอบอะไร แต่กลับวกขึ้นมาจูบธาวินใหม่อีกครั้ง พร้อมกับใช้มือเล็กๆ รั้งกางเกงบ็อกเซอร์ให้ออกไปจากร่างกายชายหนุ่ม โดยที่ธาวินนั้นคอยยกสะโพกขึ้นสูงช่วยอีกแรงเมื่อวันเมษาถอนจูบออก เธอก็ไล้กึ่งปากกึ่งจมูกลงต่ำไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงจุดที่ทำเอาธาวินแทบจะกลั้นหายใจ ก่อนที่เขาจะสะดุ้งวาบเมื่อรับรู้ได้ว่าตอนนี้วันเมษากำลังสัมผัสแกนกายเขาด้วยริมฝีปากอุ่นใบหน้าของธาวินเหยเก ทรมานอย่างถึงที่สุด แต่เป็นความทรมานที่เขาแสนจะชื่นชอบและรอคอย สำหรับวันเมษาแม้จะเธอจะเป็นมือใหม่หัดดูดไอศกรีม แต่สัมผัสจากเธอก็ไม่ทำให้ธาวินผิดหวัง ยิ่งเธอเร่งจังหวะก็ยิ่งทำให้เขาทรมานจนต้องบอกให้หยุดก่อน“ขืนทำแบบนี้ เดี๋ยวผมก็ถึงหรอกครับพี่ษา” ทั้งคู่สบตากันและกัน แววตาที่เต็มไปด้วยความเสน่หาก่อนที่ธาวินจะกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกม เขาจัดการถอดบิกินี่ตัวน้อยให้ออกไปจากร่างกายของคนรัก แล้วแทรกตัวเข้าหา บดเบียดความแข็งขืนที่ตื่นตัวเต็มที่เข้ากับกุหลาบดอกงามที่ตรงกึ่งกลางนั้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำหวาน ไม่ว่า
วันเมษานั่งอยู่บนเตียง ตรงหน้าเธอคือคนรักหนุ่มที่มีท่าทีอายๆ อยู่เล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเปิดเพลงช่วยธาวินบิวต์อารมณ์อีกแรง เมื่อจังหวะเพลงขึ้น ธาวินก็เริ่มขยับร่างกาย พร้อมกับค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัว เริ่มจากเสื้อเชิ้ตก่อนแค่ได้เห็นหน้าอกขาวๆ ซิกซ์แพ็กลอนสวยๆ ของเขาทำเอาวันเมษาแทบกำเดาพุ่ง แต่ก็ยังคงเก็บอาการไว้ ทั้งๆ ที่ใจนั้นเต้นไม่เป็นส่ำ สั่งตัวเองให้ยุบหนอ พองหนอ อดใจไว้หนอ ก่อนจะตาลุกวาวเมื่อเห็นว่าตอนนี้ธาวินกำลังปลดเข็มขัดและรั้งกางเกงลงไปกองไว้ที่ข้อเท้า“กำเดาจ๋า อย่าพึ่งไหลออกมาตอนนี้นะ อย่าพึ่ง” วันเมษาเอ่ยสั่งตัวเอง เพราะแม้จะเคยมีอะไรๆ กับธาวินแล้ว แต่เธอไม่เคยเห็นเขาในลักษณะยั่วยวนมากขนาดนี้ พึ่งรู้ว่าผู้ชายก็ยั่วเป็น ดูๆ สะโพกกลมๆ เนื้อแน่นๆ ที่หันมาหาน่าตบจริง“โอ๊ย! ยุบหนอ พองหนอ ใจเย็นไว้หนอ ไม่ปล้ำหนอ” นี่คือบทที่วันเมษาท่องอยู่ในใจ แต่ท่าทางของเธอก็ยิ่งทำให้ธาวินยิ้ม ก่อนจะเต้นยั่วเธออย่างจงใจ ตอนนี้บนตัวเขามีเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวและอีกไม่กี่อึดใจเขาจะถอดมันออก แต่พอเห
“ใช่ครับ ผมสาบานได้เลยนะว่าไม่ได้เป็นเกย์ ถ้าเป็นขอให้น้องชายเหี่ยว ใช้งานไม่ได้ไปตลอดชีวิตเลยเอา” คำสาบานของธาวินทำเอาคนฟังสะดุ้งเล็กๆ แต่ก็ยังไม่แสดงออกอะไรมาก“หรือถ้าไม่เชื่อ ผมต่อสายให้พี่ษาคุยกับแอดดี้ตอนนี้เลยยังได้” ยังไม่ทันที่ธาวินจะได้หยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาแอดดี้ เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน คนที่โทรเข้ามาคือเจ้าของปาร์ตี้สละโสดคืนนี้ธาวินหยิบโทรศัพท์มากดรับสาย ก่อนจะยื่นให้วันเมษาได้คุย เธอดูลังเลแต่ก็ยอมรับสาย ก่อนที่แอดดี้จะอธิบายให้ฟังว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ก่อนที่แอดดี้จะวางสายไปเมื่อได้ฟัง วันเมษาก็คิดตาม สรุปนี่เธอเชื่อความฝันจนทะเลาะกับธาวินเสียใหญ่โต บ้านแทบแตก เธอนี่งี่เง่า ไร้เหตุผล หวังว่าธาวินจะไม่โกรธเธอหรอกนะ“แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอกษา ว่าไปปาร์ตี้ที่บาร์เกย์ด้วย” น้ำเสียงที่เอ่ยถามนั้น ไม่ได้ฟังดูห้วนอย่างครั้งแรก พลอยทำให้ธาวินใจชื้นขึ้นมาได้มากโข“ผมเองก็พึ่งรู้ตอนไปถึงว่าที่นั่นเป็นบาร์เฉพาะชาวสีม่วง” สี
“ครับ…ผมจะรีบเข้าไปเดี๋ยวนี้” เอ่ยจบก็รีบวางสายแล้วรีบขับรถไปที่บ้านเฟื่องรัตน์ทันทีแต่ขณะนั้นสายของธาวินก็ต้องสะดุ้ง เมื่อวันเมษาเข้ามาได้ยินบทสนทนาเข้า เธอจ้องมองเพื่อนทั้งสองคนเขม็ง“อย่ามองแบบนั้นสิษา น่ากลัว” เฟื่องรัตน์ส่งยิ้มแห้งๆ มายังวันเมษา แต่คนตรงหน้ากลับมีแต่ความบึ้งตึง“ไหนแกสองคนสัญญากับฉันแล้วไง ว่าจะไม่บอกอีตาพี่วิน”“ก็ฉันไม่อยากให้แกเข้าใจหมอผิด หมอไม่ได้เป็นเกย์นะแก” เก๋ไก๋เอ่ยขึ้น“แกรู้ได้ไง”“ก็ตอนที่แกวิ่งปรู๊ดออกมาเรียกแท็กซี่น่ะ ฉันกับเฟื่องเข้าไปถามคนในห้องมาว่าอะไรยังไง”“ฉันไม่เชื่อ คนพวกนั้นก็คงรวมหัวกันหลอก สนุกมากสินะที่หลอกให้ฉันรักได้แบบนี้ ป่านนี้คงเอาไปคุยจนสนุกปากว่าฉันใจง่าย”“แกก็คิดมากไปษา คนที่น่าจะรู้ว่าหมอวินใช่เกย์ไหม น่าจะคือแกนะ” เฟื่องรัตน์เอ่ยสีหน้าซีเรียส“ไม่รู้ ตอนนี้ฉั
“สแกนมาดีแล้วพลาด หมายความว่ายังไงแก สรุปหมอวินเป็นเสือไบจริงๆ น่ะเหรอ” วันเมษาอ้าปากค้าง สรุปฝันเธอมันกลายมาเป็นเรื่องจริงใช่ไหม“เป็นไม่เป็น เดี๋ยวเห็นแกก็รู้”“ไป ลุย” เฟื่องรัตน์เอ่ยเสียงดัง ราวกับต้องการปลุกใจ แต่วันเมษากลับยกมือขึ้นมาเบรก เพื่อขอเวลานอก“เดี๋ยวๆ ฉันขอทำใจแป๊บนึง” ว่าแล้วก็หยิบกระปุกยาดมอันใหญ่ยักษ์จากกระเป๋าออกมาเปิดฝาก่อนจะสูดดมไปเสียเต็มปอดอยู่หลายครั้ง ก่อนจะพยักหน้าให้สองคนตรงหน้า ว่าเธอพร้อมแล้วทั้งสามจึงก้าวเข้าไปยังบาร์ตรงหน้า แม้ที่นี่จะเปิดให้บริการหนุ่มๆ ที่มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกันหรือได้ทั้งรุกและรับ แต่ก็ไม่รังเกียจหากชายแท้หรือสาวแท้จะเข้ามาใช้บริการ เพราะมีการแยกโซนไว้อย่างชัดเจนสายตาสามคู่สอดส่องมองหาเป้าหมาย แต่กลับไม่พบธาวิน เมื่อโต๊ะด้านนอกไม่เห็น ก็คงต้องตามหากันตามห้องวีไอพีแทน ไล่มาตั้งแต่วีไอพีหนึ่งถึงสิบ แต่ก็ยังหาตัวชายหนุ่มไม่พบ“แกไน่ใจนะเฟื่อง ว่าหมอวินมาที่นี่” เก๋ไก๋ยืนพ
“ผมขอโทษนะครับ ที่ไม่สามารถพาพี่ษาไปที่ที่มันโรแมนติกกว่าชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาล”“ไม่เป็นไรค่ะ ที่ไหนก็ไม่สำคัญถ้าไม่มีพี่วินอยู่ด้วย”“ไว้ผมจะชดเชยให้ทีหลังนะครับ”“ค่ะ” วันเมษายิ้มเขินนาฬิกาจอยักษ์ของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง โชว์เวลาอยู่ไกลๆ เสียงนับถอยหลังดังผ่านลำโพงขนาดใหญ่ให้ได้ยินแว่วๆ แต่ก็พอจะจับใจความได้ กระทั่งเสียงห้า สี่ สาม สองและหนึ่งดังขึ้น ตามด้วยเสียงพลุที่พร้อมใจกันจุดขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างสวยงามตระการตาแต่วันเมษามีเวลาได้ชื่นชมความสวยงามของพลุ ได้เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เพราะตอนนี้เธอกำลังหลับตาพริ้มรับจูบที่แสนอ่อนหวานจากธาวิน ในที่สุดจูบที่เธอปรารถนาในคืนเคาท์ดาวน์ก็เป็นจริง“สวัสดีปีใหม่ครับพี่ษา”“สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่วิน” ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ก่อนที่ธาวินจะโน้มตัวลงมาจูบวันเมษาอีกครั้งซึ่งเธอก็เขย่งปลายเท้าจูบเขากลับไปเช่นเดียวกัน จูบจากความรักจึงแสนหอมหวานแล
วันเมษาบอกพี่ชายว่าเธอจะกลับมาช่วยงานที่โรงแรม ซึ่งวันธันวาก็ไม่ได้คัดค้าน ดีเสียอีกหลังจากนี้เขาจะได้แบกเป้ขึ้นหลัง ออกเที่ยวรอบโลก ทำตามความฝันดูสักตั้งเพราะชายอันเป็นที่รัก อยู่ใกล้แค่รั้วกั้น ทำให้นาราชาแทบกินไม่ได้ นอนไม่หลับ วันๆ ได้แต่ตามส่องธาม หลบตามเสาบ้าง หลบตามผ้าม่านบ้าง พฤติกรรมชวนหลอนของเธอพลอยทำให้ธามรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ แต่ใช่ว่าธามเท่านั้นที่รู้สึก สองสาวฝาแฝดเองก็รู้สึกไม่น้อย“แกจะหลบตามมุม ตามหลืบในบ้านฉันอีกนานไหมยัยจิ้ง” พระเพื่อนเอ่ยถามขึ้น“ถ้าไม่หลบ คุณธามก็ต้องเห็นฉันน่ะสิ”“เห็นก็เห็นไปสิ ไม่เห็นแปลกเลย” พระแพงมาเป็นลูกคู่ให้แฝดผู้พี่“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวเขารู้ว่าฉันแอบชอบเขาอยู่” ขณะพูดก็ยังไม่วายชะเง้อคอยาวออกไปยังบ้านหลังที่อยู่ติดกัน“โอ๊ย! ถ้ารู้นะ ป่านนี้รู้ไปตั้งนานแล้ว แกไม่ใช่จะพึ่งชอบเขาเสียหน่อย ชอบมาเป็นปีๆ ไม่สิ นี่เข้าปีที่สามแล้วนะ”“ใช่” คราวนี้พระเพื่อนเปลี่ยนมาเป็นลูกคู่ให้น้องสาวบ้าง“แอบช
“ครับ” เสียงทุ้มน่าฟังเอ่ยรับ ก่อนจะเดินตามแม่เลี้ยงดุจดาวเข้าไปภายในบ้านส่วนพ่อเลี้ยงกำธรนั้นก็ยังคงนั่งนิ่ง ไม่ยอมสนทนากับธาวินสักเท่าไหร่นัก หนำซ้ำบางครั้งยังหันมาจ้องราวกับจับผิด“คบหากันตั้งแต่เมื่อไหร่”“ประมาณครึ่งปีครับ”“ทำงานอะไร หน้าอ่อนๆ แบบนี้คงยังเรียนหนังสืออยู่มั้ง” ขณะถาม พ่อเลี้ยงกำธรก็สบตาธาวินมาตรงๆ ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่ได้หลบสายตาแต่อย่างใด“ผมเป็นหมอครับ ปีนี้อายุยี่สิบเก้า” คำตอบที่ได้ยิน ทำให้คนฟังพอใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็จะติก็แค่เรื่องอายุของธาวินที่น้อยกว่าวันเมษาบุตรสาวอยู่หลายปี“แต่ลูกสาวฉันปีนี้สามสิบสาม อายุห่างกันแบบนี้ไม่กลัวคนอื่นนินทา ว่าคบผู้หญิงแก่หรือไง” ประโยคนี้ดังไปถึงหูคนที่อายุสามสิบสามเข้าอย่างจังวันเมษาหน้ายู่ พ่อนะพ่อ เผาเธอซะได้“ไม่กลัวครับ”“อืม…แล้วนี่พ่อแม่ล่ะทำอะไร เป็นหมอเหมือนกันไหม”“ท่านสองคนเสียไปแล้วครับ”“มีพี่น้องกี่คน” คนถามยังคงยิงคำ
“บุกยังไงเพื่อน ขืนสุ่มสี่สุ่มห้า ให้ยัยจิ้งเข้าไปหาตอนนี้ มีหวังเขาได้ตอกหน้าหงายกลับมาน่ะสิ แถมนี่กำลังจะแต่งงานด้วย ขืนโผล่หน้าไปสารภาพรัก มีหวังได้หัวเราะเยาะเอา ดีไม่ดีว่าที่ภรรยาเขาได้จ้างคนมาตบ โทษฐานไปสร้างความรำคาญกับว่าที่สามีสุดหล่อ” คำพูดของพระแพงที่พอจะเดาความคิดของแฝดผู้พี่ออกนั้น ทำเอาคนฟังถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“คิดแล้วก็กลับไปซดน้ำใบบัวบกแก้ช้ำในแป๊บ” นาราชาคอตก รู้สึกเศร้าใจกับความรักที่ไม่อาจสมหวังได้ของตน“อย่าพึ่งถอยสิแก” พระเพื่อนตบบ่าเล็กๆ ของนาราชาเบาๆ“ไม่ถอยได้ยังไง มองมุมไหน ฉันก็คงไม่สมหวังหรอก อกหักรักคุดต่อไปยัยจิ้งเอ๊ย”“เอาน่ะ ถ้าเป็นฉันนะ จะใช้เวลาที่เหลือก่อนที่คุณธามจะแต่งงานให้คุ้มค่าที่สุด เก็บเกี่ยวความสุขไว้ เพื่อรักษาแผลใจตอนเขาไม่โสดแล้ว” ฟังแบบนี้ใจของนาราชาก็ชื้นขึ้นมาได้หน่อย ก่อนจะดีดนิ้วราวกับคิดแผนอะไรดีๆ ออก“แกคิดแผนอะไรดีๆ ออกแล้วงั้นเหรอจิ้ง”“ต