ไม่รู้อะไรดลใจพาเข้ามายังร้านบาร์เมื่อคืน แต่วันนี้เขาเลือกนั่งตรงเคาน์เตอร์บาร์แทน บาร์เทนเดอร์ทักทายถามเมนูเครื่องดื่มที่ต้องการ ริมฝีปากบางชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อจะสั่งน้ำแร่ด้วยความเคยชิน เมื่อเมนูเครื่องดื่มเมื่อวานที่เธอคนนั้นเคยแนะนำให้ผุดขึ้นมาในห้วงความคิด
“Gin & Tonic”
ตอนที่ 5
แก้วเครื่องดื่มยื่นมาตรงหน้า ริมฝีปากบางบรรจงริมรสชาติเครื่องดื่มตรงหน้า ความรู้สึกขมของเหล้าถูกเจือจางด้วยความซาบซ่าของโทนิกวอเตอร์ บวกกับความเปรี้ยวจากเปลือกมะนาวทำให้เขารู้สึกสดชื่น สร้างความรู้สึกแปลกใหม่แก่เขาเป็นอย่างมาก เครื่องดื่มนี้ไม่เคยอยู่ในสายตาเขามาก่อน แต่พอได้ลิ้มรสกลับทำให้เขารู้สึกดีอย่างประหลาด
เมื่อเห็นพนักงานที่หน้าคุ้นบริการลูกค้าในบาร์ ตาคมก็จ้องมองหญิงสาวอย่างไม่วางตา ถ้าใครเห็นเข้าคงคิดว่าเขาเป็นพวกถ้ำมอง แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่สามารถละสายตาออกจากเธอได้แม้สักวินาที คำถามมากมายเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้เกิดขึ้น
ทำงานที่เดียวไม่พอหรือไง
ลำพังตัวเขาทำงานที่บริษัทอย่างเดียวก็เหนื่อยจนวุ่นวายไปหมด ไหนจะต้องไปประชุม สัมมนา พบปะลูกค้าอีก แต่เธอคนนี้ที่ทำหน้าที่บริการลูกค้ากลับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบ้างหรืออย่างไร
“มอง แบบฝัน อยู่เหรอครับ?” เสียงบาร์เทนเดอร์ปลุกเขาให้หลุดออกจากความคิด
“แบบฝัน?” เสียงเรียบเอ่ยทวนคำพูดของบาร์เทนเดอร์หนุ่ม
“พนักงานคนนั้นเธอชื่อแบบฝันครับ” คณิณพยักหน้ารับ
คนอะไร ชื่อแปลกดี
“เธอขยันมากเลยนะครับ ได้ยินว่ากำลังทำงานหาเงินเรียนเอง ไหนจะต้องส่งเงินให้ที่บ้านอีก ยังอายุน้อยอยู่แท้ ๆ กลับต้อง ดรอปเรียน น่าสงสารมาก” บาร์เทนเดอร์ว่าพลางเขย่าเชคเกอร์ผสมส่วนเครื่องดื่มแล้วรินใส่แก้วให้ลูกค้าท่านอื่น คณิณไม่ได้พูดอะไรนอกจากรับฟังอยู่เงียบ ๆ
ร่างสูงลุกออกจากเก้าอี้เมื่อคิดว่าได้เวลาอันควรจะต้องกลับแล้ว เขาดื่มไปแค่สองแก้วไม่อยากดื่มมากเท่าไหร่ อันที่จริงก็ไม่ใช่คนดื่มเยอะขนาดนั้นอยู่แล้ว แค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้น เขาไม่อยากกลับบ้านเพราะอึดอัดที่แม่คอยถามแต่เรื่องดูตัว เขาเลยย้ายออกมาอยู่คอนโดเป็นส่วนใหญ่ มือเรียวกดลิฟต์เตรียมลงด้านล่างของโรงแรม จังหวะกำลังก้าวเข้าไปในลิฟต์ก็ได้ยินเสียงเรียกตามหลังอยู่ไม่ไกล
“เดี๋ยวค่ะ คุณลูกค้า!” เขาหยุดเดินเข้าไปด้านในลิฟต์แล้วหันหลังตามเสียงเรียก ก็พบพนักงานสาวที่บาร์เทนเดอร์บอกว่าชื่อแบบฝัน กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางตน
“มือถือของคุณลูกค้าค่ะ” เธอพูดเสียงหอบเหนื่อยแล้วยื่นโทรศัพท์ให้เขา
มือเรียวคลำบริเวณกระเป๋ากางเกงทั้งสองด้าน ก็พบว่าเครื่องมือสารของเขาหายไปจริง นี่เขาเริ่มเมาจนลืมโทรศัพท์เลยหรืออย่างไร ทั้ง ๆ ที่สั่งเครื่องดื่มที่แอลกอฮอล์ไม่แรงมากแท้ ๆ
“ขอบคุณครับ”
“ยินดีค่ะคุณลูกค้า” เธอโค้งศีรษะรับเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินกลับไปทำงานต่อ
“เดี๋ยว” ไม่รู้อะไรทำให้ริมฝีปากเอ่ยออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“คะ?” หญิงสาวเลิกคิ้วหันหน้ามาทางเขาว่าเป็นเชิงถาม
“เอ่อ..” เขานิ่งคิดอยู่ครู่ ถึงจะอยากเรียกแต่ไม่รู้จะพูดอะไรอยู่ดี เขาเลยรีบบอกปัดไป
“ไม่มีอะไร”
“งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” เธอคลี่ยิ้มอย่างจริงใจให้ แล้วรีบเดินกลับไปข้างใน
ทิ้งเขาไว้กับรอยยิ้มสดใสราวกับโลกทั้งใบเป็นของเธอ สายตาเขายังคงมองไปทางเดิมแม้แผ่นหลังเล็กจะเลือนหายไปแล้วก็ตาม
เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ
ตอนที่ 6“เป็นอะไรอีกล่ะ” ชินกรเอ่ยทักคณิณที่มัวแต่จับมีดกับส้อมแต่ไม่ลงมือหั่นเนื้อสเต๊กตรงหน้า กินเสียที เนื่องจากวันนี้เขามาทำธุระละแวกใกล้เคียงกับเจ้าเพื่อนหน้านิ่ง เลยชวนอีกคนมากินมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารด้วยกัน“สมัยนี้ค่าเทอมมหา’ลัยเท่าไหร่วะ”“ฮั่นแน่! สนใจสาวมหา’ลัยเหรอคุณชาย” ชินกรแซว เพราะผู้หญิงที่แม่ของเจ้าเพื่อนไร้หัวใจหามาให้ มีแต่วัยทำงานทั้งนั้น เลยไม่เข้าตาเพราะสนใจสาวมหาวิทยาลัยนี่เอง“พูดบ้าอะไร” คณิณส่งสายตาค้อนใส่“แซวนิดแซวหน่อยไม่ได้” คนผมประบ่าทำปากเบะบ่นอุบอิบ“แล้วถามทำไม”“เปล่า แค่สงสัย” เขาตอบเสียงเรียบสีหน้ายากเกินกว่าจะคาดเดา“อืม ก็แล้วแต่คณะที่เรียนนะ ชื่อเสียงของมหา’ลัยก็มีส่วนด้วย” เจ้าของใบหน้าทะเล้นทรงเสน่ห์ว่าไปพลางเคี้ยวอาหารไป“ทำงานแบบนั้นจะได้เงินเท่าไหร่กัน” คณิณพูดลอย ๆ เสียงเบา เสียงเบาจนชินกรไม่สามารถปะติดปะต่อเป็นประโยคได้“มึงพูดว่าอะไรนะ” เขาเงี่ยหูฟังใกล้ ๆ“เปล่า ไม่มีอะไร”“มีลับลมคมในจริง” ชินกรว่าพลางจิ้มสเต๊กส่งเข้าปากอย่างเซ็ง ๆ ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำภารกิจของตัวเองกันต่อตะวันบ่ายคล้อยวันหนึ่ง เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นพร้อมกับการ
ตอนที่ 7“หน็อย นังนี่ กลับมานะ!” ว่าตามหลังเธอที่กำลังวิ่งออกจากบ้านแล้ววิ่งตาม วันนี้เขาจะต้องได้เชยชมลูกเลี้ยงตัวดีคนนี้ให้ได้ เพราะแม่ของเด็กนี่นานที จะไม่อยู่บ้าน คงมีแต่เวลานี้ที่เหมาะสม“กลับมานี่นะ!” ยิ่งเสียงดังใกล้เข้ามาเท่าไหร่เธอยิ่งต้องเร่งฝีเท้า เธอรับหูหลับตาวิ่งไม่ได้ดูทาง จนไปชนเข้ากับอกแกร่งของชายตัวสูงคนหนึ่ง ทำให้ร่างของเธอจมอบยู่ในอ้อมแขนของชายคนนี้ ตากลมโตสบเข้ากับตาคมที่ดูดุดันแต่ก็มีความลึกลับแฝง เธอขยับตัวจนเขาปล่อย“แบบฝัน!” เสียงเรียกทำให้ร่างบางสะดุ้งไปทั้งตัว คณิณมองท่าทางแปลกประหลาดของเธอ พิษไข้เริ่มที่ทำงานจนร่างกายของเธอเซ เธอไม่มีแรงจะวิ่งหนีพ่อเลี้ยงต่อแล้ว“ช่วยฉันหน่อยได้ไหมคะ” เธอมองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน ใบหน้าซีดเผือดจากพิษไข้และมีหยาดเหงื่อซึมตามขอบหน้าผาก ทำให้เธอเหมือนกระต่ายตัวน้อยกำลังร้องขอชีวิตจากราชสีห์ก็ไม่ปานคณิณหันหน้าไปตามเสียงด้านหลังเพื่อปะติดปะต่อเรื่องราว เขาเข้าใจเพียงแค่ว่าหญิงสาวกำลังหนีคนที่กำลังวิ่งตามมา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่คืออะไรเขายังไม่อาจคาดเดาได้ คงต้องเอาไว้ถามทีหลัง ร่างสูงตัดสินใจอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวพาไปยังรถที่จอดอยู
ตอนที่ 8หลังจากคนเป็นพี่ขับรถออกไป คนหมอคนสวยก็รีบไปซื้อข้าวต้มร้านหน้าปากซอยมาให้คนป่วย“ทานข้าวต้มแล้วทานยาพักผ่อนนะคะ” ญาดาถือถาดพลาสติกที่มีชามข้าวต้ม ยาลดไข้ และแก้วน้ำเปล่า วางข้างเตียงของเธอ“ถามได้ไหมคะ” ญาดาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงที่อีกคนนั่งพิงหลังอยู่ แล้วขยับเข้าไปใกล้“ค่ะ” เธอยกถาดวางบนตักแล้วตักข้าวต้มขึ้นเป่าคลายร้อน“คุณฝันเป็นอะไรกับพี่คณิณเหรอคะ” ข้าวต้มในปากแทบจะพุ่งออกมา เธอรีบคว้าทิชชูมาเช็ดปาก“ไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ” เธอวางช้อนในมือแล้วรีบตอบทันที เพราะไม่อยากให้คุณหมอคนสวยเข้าใจผิด“จริงเหรอคะ” อีกคนถามอย่างไม่เชื่อในคำตอบ เพราะพี่ชายเธอไม่เคยพาสาวคนไหนไปไหนมาไหนด้วยอยู่แล้ว ยกเว้นเธอคนนั้น แต่พี่เธอกับโทรมาหาเธอแล้วพาผู้หญิงที่ชื่อแบบฝันคนนี้ มาให้เธอรักษา ทั้งที่จะไม่สนใจก็ได้“จริง ๆ ฝันไม่ได้รู้จักคุณคณิณหรอกค่ะ” เพราะเธอก็เพิ่งจะรู้จักชื่อของเขาเมื่อครู่นี่เอง“เอ๊ะ” หมอสาวอุทาน“ก่อนหน้านั้นมีเรื่องชุลมุนนิดหน่อย แล้วคุณคณิณเข้ามาช่วยฝันพอดี” เธออธิบาย“อย่างนี้นี่เอง งั้นหมอไม่รบกวนคุณฝันแล้ว อย่าลืมทานยาแล้วก็พักผ่อนนะคะ” ว่าแล้วลุกเดินออกไปแสงแดดยามเช้าเ
ตอนที่ 9แบบฝันนั่งแท็กซี่มาบ้าน เมื่อลงจากรถก็พบแม่ของเธอยืนเท้าเอวจ้องเขม็งมองด้วยแววตาขึงขัง“มานี่เลยนังลูกตัวดี” ยังไม่ทันก้าวเข้าไปในรั้วบ้าน ผู้เป็นแม่ก็รีบเดินเข้ามาจิกเส้นผมกลางศีรษะของเธอ แล้วลากเธอมาใกล้ตัว“แม่! ฝันเจ็บนะ”“ไม่ต้องทำเป็นสำออย เดี๋ยวนี้หัดทำตัวเหลวไหลนักนะ” เธอเงยหน้ามอง เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น“ฝันไม่ได้ทำอะไรเลยนะแม่”“พ่อแกเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว ว่าแกหนีไปกับผู้ชาย หน็อย งานการไม่ทำแต่หนีไปกับผู้ชายมันใช้ได้ที่ไหน!” ผู้เป็นแม่ว่าพลางเอามือทุบตีเข้าที่เนื้อตัวของเธอจนดัง“โอ๊ย! ฝันเจ็บนะแม่ มันไม่ได้เป็นอย่างที่ไอ้ชั่วนั่นบอกเลย” เธอพูดทั้งน้ำตาแล้วปรายตามองคนขี้ฟ้องอย่างเคียดแค้น“นี่แกกล้าด่าผัวฉันเหรอ” ฝ่ามือกระหน่ำทุบดีหนักกว่าเดิมจนผิวขาวขึ้นรอยแดงช้ำ“ที่รักอย่าทำลูกเลยนะ” ถึงปากจะห้าม แต่กลับลอบยิ้มเยาะเย้ยเธอ ที่เธอบังอาจทำเขาเจ็บตัวแล้วหนีไปกับชายอื่น“ดูสิคนที่แกด่า เขารักแกแค่ไหน เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ”“แม่ก็ดีแต่ฟังมันพูด เมื่อไหร่แม่จะฟังฝันพูดบ้าง” เธอว่าทั้งน้ำตาไหลพราก“จะให้ฉันฟังอะไรเด็กขี้โกหกอย่างแก ฮะ วันนี้ฉันจะตีให้แกหลาบจำเลย” แ
ตอนที่ 10หลังจากนั้นเขาก็พาเธอไปหาที่พัก เขาพาเธอไปดูหลายที่เธอไม่ไม่ใช่คนเรื่องมากเธอสามารถพักที่ไหนก็ได้ แต่เขาบอกกับเธอเสมอว่าความปลอดภัยจะละเลยไม่ได้ เธอเลยจำใจตามเขาไปดูที่พักต่าง ๆ จนมาหยุดที่ตึกสีขาวสะอาดตาสูง 5 ชั้น อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า ในซอยที่เงียบสงบ“ที่จริงฉันอยู่ห้องเช่าเล็ก ๆ ก็ได้นะคะ” เธอกระซิบข้างหูร่างสูง เมื่อเดินตามเจ้าของอพาร์ตเมนต์เข้ามาดูห้องด้านใน “ฉันบอกแล้วไง เธออยู่คนเดียวก็ต้องหาที่พักที่ปลอดภัย” ก็จริงตามที่เขาว่า ที่นี่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ครบครัน มีรถสาธารณะวิ่งผ่าน แต่ว่าอยู่ห้องแบบนี้มันไม่เกินกำลังของเธอไปหน่อยหรือ ลำพังรายได้ที่เธอได้รับก็ไม่ได้มากขนาดนั้น ที่ผ่านมาเธอมีบ้านให้อยู่อาศัย พอต้องออกมาใช้ชีวิตคนเดียว ไม่อยากจะคิดถึงค่าใช้จ่ายที่จะบานปลายตามมาเลย ไหนจะค่ามัดจำห้องที่ต้องจ่ายล่วงหน้าอีก“ห้องเป็นอย่างไงบ้างคะ ชอบไหม” เจ้าของถาม“ก็โอเคดีนะ” ห้องโล่งกว้างมีพื้นที่กำลังดี มีระบบรักษาความปลอดภัย เฟอร์นิเจอร์ครบ“ผมตกลงเอาห้องนี้ครับ”“คุณคณิณคะ...” เธอท้วง“ฉันจัดการเอง” เขาหันไปพูดกับเธอ“สะดวกเขาพักวันไหนคะ”“วันนี้”“งั้นเดี๋ย
ตอนที่ 11คฤหาสน์ใหญ่โตตั้งตระหง่านบนพื้นกว้างขวาง โอบล้อมด้วยสวนหย่อมที่ถูกจัดแต่งด้วยความประณีต วันนี้คุณหญิงมณีคุณแม่ของคณิณชวนเขามารับประทานอาหารที่บ้าน เนื่องจากบ่นว่าลูกชายไม่ได้มาร่วมโต๊ะทานข้าวด้วยกันนานแล้ว“น้องรินลดา เป็นอย่างไงบ้างลูก” เธอเอ่ยถาม“ก็ดีครับ” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจนักตักอาหารรับประทาน“แต่หนูรินโทรมาร้องไห้กับแม่ บอกว่าลูกบอกเลิกน้อง” คุณหญิงจ้องมองลูกชายไม่วางตา เขาวางช้อนส้อมลงแล้วถอนหายใจเล็กน้อย คิ้วหนาขมวดเป็นปม จะบอกว่าขอเลิกได้อย่างไร ในเมื่อไม่เคยคบกัน“ผมไม่ชอบครับ”“โถลูก แล้วคนแบบไหนที่ลูกจะชอบล่ะ” คนเป็นแม่ทำหน้าเหนื่อยกับการหาผู้หญิงมาให้ลูกชายดูตัว ซึ่งเธอพยายามหาในหลายแบบให้ลูกชายเลือก แต่ก็ไม่ถูกใจคณิณสักคน เพื่อนของเธอได้อุ้มหลานกันเกือบหมดแล้ว แต่เธอยังไม่มีแม้แต่ลูกสะใภ้ ไม่รู้ลูกมาตรฐานผู้หญิงที่ลูกชายเธอชอบเป็นแบบไหนกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้าเธอก็อายุเริ่มมากขึ้นทุกปี เธออยากมีเรี่ยวแรงช่วยเลี้ยงดูหลาน ไม่อยากแก่หง่อมถึงชนิดที่ว่าอุ้มหลานไม่ไหวหรอกนะ“ผมยังไม่เจอ” เธอถอนหายใจหมดคำจะพูด นึกถึงแม่หนูคนรักเก่าของลูกชาย ขนาดหาคนหน้าคล้ายก็แล้ว ยังไ
ตอนที่ 12“ช่วยแกล้งเป็นแฟนฉันหน่อยได้ไหม” ตากลมเบิกขึ้นด้วยความตกใจ“อะไรนะคะ?” เธอถามอีกครั้ง เมื่อกี้เธออาจจะหูฝาด หรือไม่ก็เริ่มง่วงนอนจนรับสารผิดก็เป็นได้“ฉันอยากให้เธอแกล้งเป็นคนรักของฉัน” สีหน้าแววตาจริงจังของใบหน้าหล่อถูกส่งออกมา เธอคิดว่าคนตรงหน้าอาจจะเมาจนพูดไม่รู้แน่เลย“คุณคณิณเมาอยู่สินะคะ” เธอหัวเราะกลบเกลื่อนเปลี่ยนเรื่อง“ฉันพูดจริง เธอเคยบอกฉันเองไม่ใช่เหรอ ว่าถ้ามีอะไรให้เธอช่วย เธอก็พร้อมจะช่วย”“ใช่ค่ะ ฉันเคยพูดไว้ แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องช่วยแกล้งเป็นแฟนคุณด้วย” คณิณตั้งสติรวบรวมคำพูด“แค่ช่วยแกล้งตบตาแม่ของฉัน ให้ท่านสบายใจแค่นั้น” ยิ่งคำพูดแบบนี้ยิ่งทำให้เธอไม่เข้าใจหนักกว่าเดิม รูปร่าง หน้าตา ฐานะดี ขนาดนี้ทำไมไม่ไปหาคนที่คู่ควรกว่าเธอ“เธอไม่อยากช่วยฉันสินะ” เสียงเข้มเอ่ยเสียงอ่อย“เปล่านะคะ! ฉันแค่สงสัยว่าทำไมถึงต้องเป็นฉันด้วย ในเมื่อคุณเอง น่าจะหาคนที่คู่ควรกับคุณได้มากกว่าฉัน”“ถ้าเธอไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ขอโทษที่มารบกวน” เขาว่าแล้วลุกขึ้นยืน เตรียมออกจากห้อง“เดี๋ยวก่อนค่ะ” เธอรั้ง “ถ้าคุณคณิณไม่รังเกียจ ฉันจะแกล้งเป็นคนรักของคุณให้ค่ะ”เขายกยิ้มขึ้นม
ตอนที่ 13เมื่อแต่งหน้าและทำผมเสร็จ เธอหันไปทางด้านหลังก็ไม่พบคนที่เคยนั่งรอ ดวงตากลมสายแววหม่นหมอง เธอทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าคุณคณิณไปไหน เขาไม่ได้บอกเธออะไรเธอสักคำ ความรู้สึกถูกทอดทิ้งฉายชัดผ่านสีหน้าและท่าทาง“นั่งรอในร้านก่อนก็ได้นะคะ” พนักงานบอก เธอพยักหน้ายิ้มรับแล้วนั่งรอคุณคณิณเมื่อเห็นร่างของคนคุ้นเคยกำลังเดินตรงมา เธอก็ดีดตัวขึ้นยืนด้วยความดีใจ แล้วเดินเข้าไปหาเข้า“ฉันแต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วค่ะ” เธอยิ้มร่าดีใจ ที่เธอไม่ได้ถูกทิ้งไว้ที่ร้านตาคมมองหญิงสาวที่ก่อนหน้ารวบผมต่ำไม่เป็นทรง แต่ตอนนี้ผมของเธอถูกปล่อยแล้วดัดลอนอ่อนสวยงาม ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มด้วยโทนสีชมพูหวานเรียบร้อย แก้มสีชมพูอ่อน ริมฝีปากสีชมพูสุภาพวาววับ องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้เธอดูดีขึ้นมาก ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง“ไปกันเถอะ” เขาว่าแล้วเดินนำไปยังลานจอดรถ เหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง ถือว่ายังทำเวลาได้ดี“มีอะไรติดหน้าฉันหรือเปล่าคะ” แบบฝันถามเมื่อเห็นอีกคนจับจ้องมองเธออยู่นานไม่ยอมขับรถออกไปเสียที“ลองใส่อันนี้ดู” เขายื่นถุงกระดาษแบรนด์หรูให้เธอ เธอรับอย่างงุนงง เมื่อเปิดถุงดูก็พบกล่องกำมะหยี่
ตอนที่ 52ตลอดทั้งวันคณิณไม่ได้กลับไปไหน เขาคอยช่วยยกของและจัดอาหารให้กับเด็กและทุกคน รวมถึงยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมหลาย ๆ อย่างด้วยท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากฟ้าใสกลายเป็นม่วงเข้ม เหล่าดาวระยิบระยับเรียงรายเหนือลานกิจกรรม เสียงหัวเราะและการพูดคุยค่อย ๆ เบาลง เมื่อเด็ก ๆ เริ่มทยอยกลับหลังเสร็จกิจกรรมตลอดวันแบบฝันเดินเข้าไปหาคณิณที่ยังนั่งอยู่ใต้แสงไฟสนามเล็ก ๆ เขากำลังคุยเล่นกับเด็ก ๆ ที่ยังไม่กลับบ้าน“น้ำค่ะ” เธอยื่นแก้วน้ำเปล่าส่งให้“ขอบคุณครับ” เขายิ้มดีใจที่เธอยังใส่ใจเขาอยู่“คุณกลับได้แล้วนะคะ มืดกว่านี้จะขับรถกลับลำบาก”“พี่ฝัน นี่ก็ค่ำแล้ว ให้คุณเขาพักกับพวกเราดีกว่าไหมคะ” น้อยหน่ารีบพูด“นั่นสิพี่ แถวนี้ขับรถยากจะตาย กลับตอนนี้มีแต่อันตราย” มาวินเสริมพลางมองหน้าขอความเห็นใจกับเธอแบบฝันมองบรรยากาศโดยรอบก็พบว่าตอนนี้ฟ้ามืด แล้วทางเข้าหมู่บ้านก็ทางโค้งค่อนข้างเยอะ ระยะทางหลายสิบกิโลเมตรกว่าจะเข้าสู่ถนนใหญ่ที่ไฟเริ่มเยอะ“แล้วจะให้เขาพักที่ไหน ห้องพักเต็มหมดแล้ว” เธอว่า“พักกับพี่ฝันไงคะ เดี๋ยวน้อยหน่าย้ายไปนอนกับเจนเอง มีนัดปาร์ตี้บอร์ดเกมกันน่ะค่ะ”“ถ้าเธอไม่สะดวก ฉันไปหาโรงแรม
ตอนที่ 51ณ ห้องประชุมขนาดกลางของคณะ โต๊ะยาวถูกดันต่อกันเป็นแนวยาวเต็มพื้นที่กลางห้อง รอบ ๆ มีแบบฝันและรุ่นน้องกำลังช่วยกันจัดเตรียมอุปกรณ์สื่อการสอน และเกมที่จะใช้ในค่าย พวกเขาตกลงกันว่าจะไปจัดค่ายสอนภาษาอังกฤษให้เด็กนักเรียนด้อยโอกาส ทุกคนขะมักเขม้นกับงานในมือ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ“การ์ดคำศัพท์เราเตรียมกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” แบบฝันถามขณะเดินตรวจสอบความเรียบร้อย“ใช่ครับ วินกับเพื่อนช่วยกันเช็กดูเรียบร้อยแล้ว” เสียงมาวินดังขึ้นจากอีกฝั่ง เขาชูถุงพลาสติกขนาดใหญ่ที่บรรจุการ์ดคำศัพท์ไว้หลายชุด“ได้แยกคำศัพท์เป็นหมวดหมู่ไหม”“แยกแล้วครับ แถมใส่ซองกันน้ำ เผื่อเจอสภาพอากาศไม่ดีด้วย”“โอเค ดีมากเลย”นอกจากจะเตรียมพวกการ์ดคำศัพท์และรูปภาพประกอบแล้ว พวกเขายังช่วยกันเตรียมเกมภาษาอังกฤษอย่างบิงโกคำศัพท์ และเกมจับคู่กับภาพด้วย“เราไปออกค่ายตั้ง 2 วัน พี่ได้บอกแฟนหรือยังคะ” น้อยหน่ารุ่นน้องกระซิบถาม“ไม่ใช่แฟนสักหน่อย” เธอแก้มแดงแล้วทำเป็นเสียงเข้มใส่“คนจีบก็ได้ค่ะ” คนอายุน้อยกว่าทำหน้าล้อเลียน “แต่จะว่าไปก็ไม่เห็นเขาตั้งหลายวันแล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าเขาถอดใจไปแล้วนะ”“ก็เร
ตอนที่ 50คณิณยืนใต้ต้นไม้ใหญ่ตำแหน่งเดิมที่เขามักจะมารอเธอ เขามองไปรอบ ๆ อย่างประหม่า พยายามหาจังหวะให้ตัวเองกล้าที่จะเดินเข้าไปหาแบบฝันที่เพิ่งเดินออกจากห้องเรียนพร้อมเพื่อน ๆเมื่อสายตาของเธอสบกับเขา ความแปลกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่เธอพยายามรักษาสีหน้าสงบไว้ เธอบอกลาเพื่อนและเดินตรงมาหาเขา“มาที่นี่ทำไมคะ”คณิณยิ้มเล็กน้อย ยื่นถุงกระดาษที่ใส่กล่องเบนโตะไว้ในมือ“ฉันทำข้าวกล่องมาให้เธอ”แบบฝันมองเขาด้วยสายตาฉงนปนประหลาดใจ“คุณทำเองเหรอคะ”“ใช่” คณิณตอบเสียงเบา พยายามปั้นยิ้มให้ดูมั่นใจ แต่แล้วแบบฝันก็สังเกตเห็นปลาสเตอร์สีเนื้อที่พันรอบนิ้วชี้ข้างซ้ายของเขา เธอเลิกคิ้วด้วยความกังวล“นิ้วคุณไปโดนอะไรมาคะ” เธอถามพลางเอื้อมมือมาจับมือเขาดูเบา ๆ เพื่อดูให้ชัด ๆแม้จะรู้สึกดีใจที่อีกคนเป็นห่วง แต่เขาก็รีบชักมือกลับอย่างเขิน ๆ“ไม่มีอะไรหรอก แค่อุบัติเหตุตอนทำอาหารนิดหน่อย”“อุบัติเหตุนิดหน่อย?” แบบฝันขมวดคิ้วจ้องมองเขาไม่วางตา“ฉันไม่ชินกับอุปกรณ์ในครัวน่ะ เลยมีผิดพลาดบ้าง” คณิณหัวเราะแห้ง ๆ พลางหลบสายตา “แต่ไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีเลือดตกลงไปในอาหารแน่นอน”แบบฝันมองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เธ
ตอนที่ 49หลังจากที่เขาไปหาเธอที่มหาวิทยาลัย ซึ่งก็มีนกบ้างไม่นกบ้าง เพราะบางช่วงที่เขาไปเธอไม่มีเรียนในช่วงนั้น เขาจึงตัดสินใจแอบขอตารางเรียนของเธอจากรุ่นน้องกลุ่มเดียวกับเธอ เพราะถ้าต้องขอจากเธอโดยตรง เธอน่าจะไม่ให้แน่นอนวันนี้แบบฝันมีเรียนช่วงเช้า เขาเลยว่าจะทำข้าวกล่องไปฝากเธอช่วงพักกลางวัน เลยกะว่าจะแค่แวะเอาข้าวกล่องไปฝากแล้วรีบกลับ เพราะตอนบ่ายเขามีประชุม แม้จะได้เห็นหน้าเธอแค่ไม่กี่นาทีก็น่าจะพอเยียวยาหัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขาได้คณิณยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ในห้องครัว เขาสวมผ้ากันชนเปื้อนสีเข้มที่เพิ่งแกะจากห่อ เพราะปกติเขาไม่เคยทำอาหารทานเอง เลยเพิ่งจะไปซื้อผ้ากันเปื้อนสด ๆ ร้อน ๆ มาไว้ที่คอนโด เขาเปิดตำราอาหารที่เพิ่งลงทุนเดินเข้าร้านหนังสือในรอบหลายปีวางบนเคาน์เตอร์ทำอาหาร พร้อมเปิดไอแพดดูคลิปประกอบ แต่ถึงจะมีตัวช่วยมากมายแต่เขาก็ยังดูเงอะงะในทุกขั้นตอน“เริ่มจากหุงข้าว... ง่าย ๆ” เขาพึมพำให้กำลังใจตัวเองเขาตวงข้าวญี่ปุ่นใส่หม้อหุงข้าวแล้วเดินไปล้างข้าว แต่เผลอเปิดน้ำแรงเกินไปจนข้าวกระเด็นออกจากหม้อไปกว่าครึ่ง“ให้มันได้อย่างนี้สิ” เขาพึมพำพลางกวาดข้าวที่หกกลับมาใส่ในหม้ออย่างทุ
ตอนที่ 48วันต่อมา คณิณกลับมายังมหาวิทยาลัยอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้มาตัวเปล่า เขานำดอกไม้ช่อโตพร้อมจดหมายที่เขาเขียนความรู้สึกของตัวเองมาตลอดทั้งคืน ตรงมายังคณะที่แบบฝันเรียนเขานั่งรอเธอที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่นและเงียบสงบเช่นเคย ดวงตาคมเข้มจ้องไปยังอาคารเรียน รอจนกระทั่งเสียงฝีเท้าของนักศึกษาทยอยออกจากคลาสเริ่มเบาบางลง เขาก็เห็นร่างเล็กของแบบฝันเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นสองสามคนคณิณรีบลุกขึ้นทันที ก้าวตรงไปหาเธอด้วยหัวใจที่เต้นแรง เมื่อแบบฝันเงยหน้าขึ้นมาเห็นเขา ดวงตาของเธอก็ฉายแววตกใจชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา“คุณมาทำอะไรที่นี่อีกคะ” เสียงของเธอเรียบเฉย ราวกับไม่อยากให้ใครบริเวณนี้สังเกตเห็นเหตุการณ์แปลก ๆ“ฉันมาหาเธอ มาง้อเธอไง” คณิณพูดตรงไปตรงมา เพราะจากประสบการณ์สอนให้เขาต้องกล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง เขายื่นช่อดอกไม้ช่อโตให้เธอ แต่เธอกลับไม่ยื่นมือออกมารับ“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณแล้ว” แบบฝันตอบ น้ำเสียงชัดเจนเช่นกันเมื่อคนตรงหน้าดูจะใจแข็งกับเขา เขาจึงหันไปสบตากับนักศึกษาสาวที่เดินออกมาพร้อมกับแบบฝัน ที่กำลังยืนมองดูพวกเขาจากด้
ตอนที่ 47แบบฝันพาคณิณมาหยุดที่ม้านั่งใต้ร่มไม้ใหญ่ จุดที่ค่อนข้างเงียบสงบของมหาวิทยาลัย ใบไม้พลิ้วไหวตามแรงลมพัดอ่อน ๆ เธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาทางเขา“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันคะ” น้ำเสียงของเธอนิ่งเรียบ แฝงไปด้วยความระมัดระวังคณิณยืนนิ่งไปชั่วอึดใจ สายตาของเขาจับจ้องมาที่เธอราวกับพยายามกลั่นกรองคำพูดที่อัดแน่นภายในใจ“แบบฝัน...” เขาเอ่ยชื่อเธอเบา ก่อนจะถอนหายใจยาว “ฉันแค่อยากขอโทษเธอ ขอโทษที่รู้ตัวช้า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันเพิ่งรู้ว่าใครคือคนที่ฉันรัก”แบบฝันชะงัก เธอกะพริบตา พยายามจับความหมายในคำพูดนั้น“คุณหมายความว่าอย่างไง” เธอถาม น้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจคณิณก้มหน้าลง มือทั้งสองข้างของเขากำแน่นอยู่ข้างตัว ราวกับพยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี “ฉันหมายความว่า... ไม่ใช่แค่เธอที่รู้สึกดีกับฉัน ที่จริงแล้วฉันก็รู้สึกดีกับเธอเหมือนกัน แต่ฉันมันขี้ขลาด ไม่กล้าพูดความรู้สึกของตัวเองให้เธอรู้ เพราะฉันยังลังเล สับสนกับความรู้สึกที่มีต่อแพรวา”แบบฝันนิ่งไป ใจของเธอสั่นไหวเล็กน้อย แต่พยายามไม่แสดงออกทางสีหน้า“ฉันมันโง่ที่เพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือคนที่ฉันอยากใช้ชีวิตด้วยใน
ตอนที่ 46เสียงเครื่องยนต์ดับลงเมื่อคณิณจอดรถหน้ารถอาหารที่แบบฝันเคยทำงาน ความทรงจำของเขาย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่เขาเคยมาที่นี่เพื่อมารับเธอไปหาพ่อกับแม่ครั้งแรก รวมถึงพาเธอไปทำธุระเกี่ยวกับงานแต่ง เธอเคยยืนรอเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน รอยยิ้มที่ติดอยู่ในหัวใจของเขาจนเต็มประดาคณิณก้าวลงจากรถ ฝีเท้าหนักแน่นแต่เร่งรีบ ด้วยความหวังในใจที่อยากจะเจอเธอ ผลักดันให้เขาเปิดประตูร้านเข้าไปอย่างไม่ลังเลเสียงกระดิ่งเหนือประตูดังเบา ๆ เมื่อเขาเดินเข้ามา กลิ่นหอมของอาหารยังคงอบอวลเหมือนเดิม โต๊ะหลายโต๊ะมีลูกค้านั่งอยู่ แต่ไม่มีวี่แววพนักงานที่คุ้นเคย ดวงตาคมของคณิณกวาดมองไปรอบ ๆ ราวกับหวังว่าแบบฝันจะปรากฏตัวขึ้นมาจากที่ใดที่หนึ่งเมื่อไม่พบเธอ คณิณสูดหายใจลึกแล้วตรงเข้าไปที่แคชเชียร์ซึ่งมีรุ่นพี่ของแบบฝันยืนอยู่ เธอคือเจ้าของร้านและหัวหน้างานของแบบฝัน“สวัสดีครับ”เจ้าของร้านเงยหน้าขึ้นมองและจดจำเขาได้ในทันที “อ้าว คุณคณิณ สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”“ครับ พอดีผม... มาหาแบบฝัน เธอได้มาทำงานที่นี่ไหมครับ” คำถามนั้นออกจากปากของเขาอย่างรีบเร่ง ความหวังในใจยังคงมีเจ้าของร้านชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้ม
ตอนที่ 45หลังจากหย่ากับคุณคณิณ แบบฝันตัดสินใจกลับไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่เคยดรอปเรียนไว้ โดยใช้เงินที่เขาเคยให้เธอในตอนเป็นภรรยาจอมปลอม บวกกับเงินเก็บจากการทำงานมาจ่ายค่าเทอม เธอเหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะจบการศึกษาแล้ว นอกจากนี้เธอก็ออกจากอพาร์ตเมนต์ที่เขาเคยเช่าให้เธอพักอาศัย เธอเปลี่ยนมาพักห้องพักใกล้มหาวิทยาลัยแทนเหตุการณ์การตัดสินใจสำคัญในวันนั้นกินเวลากว่าครึ่งปีแล้ว เธอไม่ได้ติดต่อกับเขาอีกเลย เพราะเธอรู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องกลับไปคืนดีกับอดีตคนรักแสนสวยอย่างแพรวา และเธอเองก็ไม่มีธุระจำไปอะไรที่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกแล้ว เธอเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเขาคงไม่มีวันติดต่อเธอก็ตามหลังจบคลาสเรียนขณะแบบฝันกำลังจัดกระเป๋าเตรียมตัวกลับ ก็ได้ยินเสียงของใครบางคนเรียกจากด้านหลัง“พี่แบบฝัน!”เธอหันไปตามเสียงและพบว่าเป็นมาวิน รุ่นน้องที่เรียนร่วมคลาสกับเธอ ยิ้มกว้างพลางวิ่งเข้ามาหา แม้จะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เขาเรียกเธอเสียงดังกลางที่สาธารณะ แต่แบบฝันก็พยายามยิ้มตอบ“ว่าไง มาวิน” เธอถาม น้ำเสียงนุ่มนวลมาวินเป็นเด็กหนุ่มสดใสและร่าเริง เขาเป็นที่รักของเพื่อน ๆ ในชั้นและม
ตอนที่ 44เสียงดนตรีจากบาร์ดังก้องอยู่ในอากาศเมื่อแพรวาผลักประตูเข้ามา ดวงตาของเธอกวาดมองหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เห็นร่างสูงคุ้นตานั่งตรงมุมบาร์ในสุด เธอก็รีบเดินตรงไปหาทันทีโดยไม่สนใจสายตาจากใครอื่น“พี่ควินท์...” เสียงเธอสั่นเล็กน้อย ทั้งจากความตื่นเต้นและความดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้งคณิณเงยหน้าขึ้นมองเธอ ดวงตาแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์และความเหนื่อยล้าทำให้ดูอ่อนแรงกว่าปกติ วาริชและชินกรหันมามองเธอเช่นกัน แต่ไม่ได้พูดอะไร“แพรวา...” เขาเอ่ยชื่อเธอด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ“แพรรีบมาหาพี่หลังจากที่พี่ชินบอก...” แพรวานั่งลงข้างเขาอย่างรวดเร็ว ดวงตาประกายวูบไหว “แพรได้ยินว่าพี่ควินท์หย่ากับเธอแล้ว แพรเลยอยากจะคุยกับพี่”“คุยเรื่องอะไร?” คณิณเหลือบมองแก้วในมือ ก่อนจะวางมันลงช้า ๆแพรวาสูดลมหายใจลึก พยายามเก็บความตื่นเต้นในใจ “แพรแค่อยากจะบอกว่า... แพรยังรักพี่ควินท์อยู่และแพรก็เชื่อว่าความรู้สึกของพี่ที่เคยมีให้แพรมันยังไม่หายไปไหน แพรอยากให้เราลองกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหมคะ”คำพูดของเธอทำให้วาริชและชินกรหันมามองคณิณอย่างรอคอย แต่คณิณกลับนิ่งเงียบ ดวงตาจับจ้องไปยังโต๊ะตรงหน้าเหมือนกำลัง