เพชรกล้ารีบเดินฝ่าวงล้อมของเหล่าประชาชนเข้ามาหาร่างของมะลิ สีหน้าของเขาเรียบนิ่งไร้อารมณ์แววตาพยายามตรวจดูไปตามร่างกายเพื่อสังเกตอาการของเธอ
"ผมเป็นหมอ ขอให้ทุกคนช่วยหลีกทางให้คนป่วยมีอากาศหายใจได้สะดวกด้วยครับ"เหล่าประชากรทุกคนต่างทยอยขับออกมาจากตรงนั้น แต่ทุกคนก็ยังคงจับจ้องสถานการณ์ไม่ไปไหน ทุกคนในที่นี้มักจะเห็นมะลิออกมาซื้อของคนเดียวเพียงลำพังอยู่บ่อยครั้งในช่วงเช้า ความสนิทสนมและเป็นกันเองทำให้พวกเขารู้จักและเป็นห่วงหญิงสาวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ไหนตอนนี้ "มะลิ มะลิ เธอเป็นอย่างไรบ้าง"เพชรกล้าเขย่าตัวเรียกชื่อของหญิงสาว เขาใช้นิ้ววางนาบลงบนข้อมือเรียวเล็กเพื่อต้องการวัดชีพจร คิ้วเข้มทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันเมื่อชีพจรการเต้นของหัวใจนั้นมันช่างผิดปกติและสีหน้าซีดเผือดของเธอและไหนกำปั้นเล็ก ๆ ที่ทุบลงบนหน้าอกซ้ำ ๆ เบา ๆ ราวกับว่าเธอเจ็บปวดตรงบริเวณนั้นอีก อาการเบื้องต้นผ่านที่เขาสังเกตการณ์มันยิ่งทำให้เพชรกล้าขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นขึ้นไปอีก "ขอทางหน่อยครับ"เพชรกล้าพยุงร่างของมะลิขึ้นมาอุ้มอยู่ในท่าเจ้าสาวซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนขับรถของตนเองวิ่งกลับมาจากการซื้อของตรงหัวมุมตลาด "เกิดอะไรขึ้นครับคุณเพชร" "เธอไม่สบาย เดี๋ยวนายนำของพวกนี้ไปส่งให้ที่บ้านคุณหญิงแสงมณีด้วยนะ ฉันจะพามะลิไปหาหมอ"เพชรกล้าไม่รอช้าอุ้มร่างของมะลิไปที่รถก่อนจะรีบขับมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลด้วยความเร็ว ระหว่างที่อยู่ภายในรถเพชรกล้าเหลือบหันหน้ามามองคนนั่งข้างอยู่บ่อยครั้ง สีหน้าของมะลิแสดงถึงความเจ็บปวดและทรมานจนเพชรกล้าต้องกดเหยียบคันเร่งให้เพิ่มเร็วขึ้นไปอีก "ขอบคุณมากเลยนะคะ"แจ๋วเอ่ยขอบคุณคนที่อาสามาส่งอาหารให้แทนมะลิ หัวใจของคนที่รับรู้ข่าวสารอย่างเธอตกหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ร่างของแจ๋วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในมือของเธอถือของที่มะลิเป็นคนไปซื้อมาทั้งหมดไว้ สมองของเธอกำลังขบคิดถึงเรื่องเกี่ยวกับเด็กสาวด้วยความเป็นห่วงจนไม่ได้มองว่ามีใครบางคนกำลังยืนดักทางอยู่ด้านหน้า "นางแจ๋ว" "ว้าย พี่โฉมฉันตกใจหมด"เสียงเรียกชื่อของเธอดังสนั่นจนทำให้แจ๋วถึงกับตกใจจนแทบจะปล่อยของตกลงกับพื้น แต่ยังดีที่เธอเรียกสติกลับมาได้ทัน "ตกใจอะไรกัน ฉันเป็นคนไม่ใช่ผี แล้วนี่นางมะลิยังไม่กลับมาจากจ่ายตลาดอีกหรือไง แล้วเมื่อกี้แกยืนคุยกับใครนางแจ๋ว"คำถามของโฉมมันยิ่งทำให้แจ๋วไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตามอง และโฉมเองก็จ้องมองด้วยสายตาจับพิรุธจนแจ๋วถึงกับยืนตัวสั่น "ฉันถามว่านางมะลิกลับมาจากจ่ายตลาดแล้วหรือยังฮะ "มะลิยังไม่กลับมาทีจ้ะ แต่ว่าของที่พี่สั่ง มีคนเอามาส่งให้แล้วนะจ๊ะ"แจ๋วยื่นถุงใส่ของทั้งหมดไปตรงหน้าให้โฉมได้ดู แต่ตอนนี้โฉมเองไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเธอสนใจเรื่องการหายตัวไปของมะลิมากกว่า "แล้วนางมะลิมันหายหัวไปไหน ทำไมไม่กลับมาแกได้ถามคนที่มาส่งของหรือเปล่า" "ผู้ชายคนนั้นเขาบอกว่ามะลิเป็นลมอยู่ที่ตลาด มีพลเมืองดีพาไปหาหมออีกเดี๋ยวก็คงจะกลับแล้วล่ะจ้ะ"แจ๋วพูดจบก่อนจะก้มมองพื้นหลบสายตาต่ำเช่นดังเดิม "แกเอาของพวกนี้ไปจัดการให้เรียบร้อย แล้วให้เร็วด้วยล่ะ เดี๋ยวคุณราชากับคุณดอกฟ้าก็จะมาถึงแล้ว"โฉมออกคำสั่งก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในตัวคฤหาสน์มุ่งหน้าไปยังห้องรับแขกที่ตอนนี้มีร่างของสองสามีภรรยาซึ่งเป็นเจ้าของบ้านกำลังนั่งจิบกาแฟยามเช้าอยู่ "จริงเหรอนางโฉม นางมะลิมันเป็นลมอยู่ที่ตลาดจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ" "จริงค่ะคุณนาย นางแจ๋วมันเป็นคนบอกโฉมเองว่านางมะลิมันเป็นลมอยู่ที่ตลาด แล้วมีคนพามันไปส่งโรงพยาบาลแถมตอนนี้มันยังไม่ได้กลับมาบ้านถึงบ้านเลยนะคะ"โฉมเล่าตามจากที่ได้ไปสอบถามจากแจ๋วมาอีกที สองคนสามีภรรยาหันมามองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย "แกออกไปดูในครัวก่อนนางโฉม เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจะจัดการมะลิเองทันทีที่มันกลับมาถึงบ้าน" "ค่ะ คุณผู้หญิง"โฉมลุกออกไปทำตามหน้าที่ของตัวเองโดยทันทีหลังจากรายงานเรื่องของมะลิให้ผู้เป็นเจ้านายได้ฟังโดยเสร็จ คุณหญิงแสงมณีขยับตัวเข้ามาใกล้สามีที่กำลังนั่งดูหุ่นอยู่ในแท็บเล็ตพร้อมกับหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบด้วยความสบายใจและไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับเรื่องราวของมะลิที่ได้ยินมา "ทำไมวันนี้คุณพี่ดูอารมณ์ดีแปลก ๆ จังเลยคะ ทำไมดูไม่สนใจเรื่องของเด็กมะลิเลย"ผู้เป็นภรรยาถามพร้อมกับจ้องมองผู้เป็นสามีด้วยแววตาจับผิด "นางเด็กมะลิมันจะเป็นจะตายก็ปล่อยมันไปสิคุณหญิง เราสองคนไม่เห็นจะต้องไปสนใจอะไรกับเด็กไร้ค่าอย่างมันเลย ดีเสียอีกถ้ามันตายไปลูกของเราจะได้ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายอะไรเกี่ยวกับมันอีก"คุณธำรงเอ่ยออกมาราวกับว่าเขาเองนั้นไม่มีหัวใจ ใช่ ผู้ชายอย่างเขาไม่ได้มีหัวใจไว้สนใจใครนอกจากคนในครอบครัวและคนที่เป็นดั่งญาติสนิทมิตรสหายเท่านั้นเอง "ถ้านางมะลิมันตายตามที่คุณพี่คิดไว้ก็ดีสิคะ"แต่คุณหญิงแสงมณีกลับคิดไปในอีกทาง เพียงแค่เป็นลมจะตายกันได้ง่าย ๆ อย่างนั้นเชียวหรือ เมื่อไหร่กันนะที่ราชาลูกชายของเธอจะเลิกวุ่นวายเกี่ยวกับนางเด็กคนรับใช้นั่นเสียที หรือว่าต้องให้นางเด็กมะลินั่นตายเสียก่อน ลูกชายของเธอถึงจะเลิกอาลัยอาวรณ์นางเด็กมะลินั่นเสียที ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกพร้อมกับร่างของผู้เป็นหมอเดินออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพชรกล้ารีบเดินเข้าไปหาหมอคนนั้นทันที "มะลิเธอเป็นอย่างไรบ้างครับหมอ" "เชิญคุณเพชรกล้าไปคุยเรื่องนี้ที่ห้องพักของหมอดีกว่านะครับ"ดูจากสีหน้าและฟังด้วยน้ำเสียงแล้ว อาการของมะลิคงจะไม่ใช่เรื่องดี ๆ แล้วแน่ ๆ และอาการของมะลิที่แสดงออกมาในตอนนั้นมันเริ่มทำให้เขาใจไม่ดีเอาเสียเลย "ก่อนอื่นหมอต้องขอถามตรงก่อนเลยนะครับว่า คนไข้รายนี้มีอาการแบบนี้มานานแล้วหรือยังครับคุณเพชรกล้า" "ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ เธอเป็นคนรักของเพื่อนสนิทน้องชาย ที่ตลาดเมื่อเช้าเห็นเธอเป็นลมล้มลงนอนกับพื้น ว่าแต่คุณหมอถามแบบนี้หมายความว่าอย่างไรครับ"สีหน้าของคนเป็นหมอดูเคร่งเครียดจนทำให้เพชรกล้าแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ "คนไข้เธอเป็นโรคหัวใจครับ"ไม่ผิดไปมากจากความคิดของเขาตอนที่เห็นอาการของเธอในครั้งแรก "อย่างที่คนเป็นหมอรู้ โรคหัวใจมันมีหลายภาวะ ซึ่งคนไข้รายนี้เป็นโรคหัวใจในภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจอ่อนกำลังครับ" "แล้วมันพอจะมีวิธีรักษาให้หายขาดไหมครับ ผมอยากทราบว่าเราควรรักษามะลิเธอต่ออย่างไรดี อย่างเช่น การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ" "เราคงยังผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้คนไข้ไม่ได้ครับถ้าหากว่าคนไข้ไม่ได้รับการยินยอม " "ไม่เป็นอะไรเอาไว้เรื่องนี้ผมจะจัดการเอง" "และอีกอย่างตอนนี้ยังไม่มีคนใจบุญมาบริจาคหัวใจให้กับทางโรงพยาบาล และอาการของคนไข้ในตอนนี้ก็น่าเป็นห่วง หมอกลัวว่าคนไข้อาจจะอยู่กับเราได้อีกไม่นานครับ" "มันไม่มีวิธีอื่นเลยเหรอครับที่จะรักษาให้มะลิหายจากโรคนี้ได้" "ไม่มีเลยครับ และอีกอย่างถ้าจะดำเนินการผ่าตัดตอนนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะคนไข้กำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ อยู่ด้วยครับ ซึ่งมันเสี่ยงมากหากเราทำการผ่าตัดในตอนนี้"สีหน้าของเพชรกล้าเคร่งเครียดจนเห็นได้ชัดเจน คนมีอาการเป็นโรคหัวใจ ไม่ควรทำตัวเองให้เหนื่อย และต้องพักผ่อนให้มาก ๆ ห้ามมีเรื่องให้กระทบต่อจิตใจ เพราะมันจะส่งผลต่อการเต้นของหัวใจและเป็นผลอันตรายต่อร่างกายของตัวเธอเอง และสิ่งที่น่าเป็นห่วงไปกว่านั้น คนเป็นโรคหัวใจในภาวะอ่อนแรงไม่สมควรที่จะตั้งครรภ์ถ้าไม่อยากให้ชีวิตของผู้เป็นแม่ต้องถึงอันตราย คนไข้ก็ต้องตัดสินใจเอาเองว่าจะให้รักษาใครคนหนึ่งคนใดเอาไว้ เพราะถ้าไม่เช่นนั้นโรคหัวใจอ่อนแรกอาจจะคร่าชีวิตของทั้งแม่และลูกไปก็เป็นได้รถซูเปอร์คาร์คันหรูวิ่งเล่นเข้ามาจอดตรงบริเวณหน้าบ้าน ราชาเปิดประตูเดินลงมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์โดยไม่คิดจะร่องดอกฟ้าที่เปิดประตูรถเดินลงมาเลยสักนิด"มากันแล้วเหรอราชา หนูดอกฟ้า""สวัสดีค่ะคุณป้า"น้ำเสียงร่าเริงของคุณหญิงแสงมณีดังมาแต่ไกล ดอกฟ้ารีบยกมือไหว้โดยทันที ต่างจากราชายืนชักสีหน้าเรียบนิ่งราวกับว่าเขาไม่มีความรู้สึกอะไรเลยในตอนนี้"สวัสดีจ้ะ หนูดอกฟ้าคนสวยของป้า""ผมขอตัวก่อนนะครับคุณแม่"ราชาเอ่ยขึ้นระหว่างที่ทั้งสองกำลังยืนคุย แต่ก่อนขาของเขาจะได้ก้าวเดินออกไป ก็มีเสียงของผู้เป็นแม่ดังขึ้นมาเสียก่อน"แกไม่ต้องคิดจะไปหานางมะลิหรอกนะ เพราะมันออกไปมหาลัยตั้งแต่เช้าแล้ว""คุณแม่ว่าอะไรนะครับ มะลิออกไปมหาลัยตั้งแต่เช้าแล้วอย่างนั้นเหรอครับ""ใช่ และมันก็ยังฝากให้แม่บอกลูกด้วยนะ ว่าให้ลูกคอยไปรับไปส่งหนูดอกฟ้าที่มหาลัยด้วย"ราชาหรี่ตาจับผิดสีหน้าและคำพูดของผู้เป็นแม่ แต่น่าแปลกเมื่อในครั้งนี้เขาไม่เป็นความผิดปกติในสายตาคู่นั้นของมารดา"คุณแม่ไม่ได้โกหกผมใช่ไหมครับ""แม่จะไปโกหกลูกให้ได้อะไรขึ้นมาราชา ถ้าลูกไม่เชื่อก็ไปถามคุณพ่อเสียสิ เพราะตอนที่มะลิมาพูดกับแม่คุณพ่อก็อยู่ในเหตุการณ์ด้
เปลือกตาหนักอึ้งค่อย ๆ เปิดขึ้นอย่างยากลำบาก กลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อและกลิ่นยาของโรงพยาบาลลอยแตะจมูกโด่งของเธอโดยทันที ภาพตรงหน้ามันพร่ามัวจนมะลิต้องหลับตาลงอีกครั้ง ความรู้สึกเจ็บบวกบริเวณตรงหน้าอกตอนนี้ทุเลาลงไปบ้าง แต่นั่นมันก็ยังหลงเหลือความรู้สึกจุกอยู่ด้านใน ยามเมื่อเธอหายใจหนัก ๆ หลังจากปิดเปลือกตาลงไปได้สักพักมะลิก็เปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทันทีเมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่ามีชายหนุ่มรูปงามกำลังนั่งมองเธออยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงคนไข้ "คุณเพชรกล้า"น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยเรียกชื่อของชายหนุ่ม เพชรกล้าใช้สายตากวาดมองไปตามร่างกายของมะลิอย่างพิจารณาในอาการของเธอ ณ ตอนนี้ ซึ่งมันก็ตรงกับที่คุณหมอก่อนหน้านี้รายงานเขามา"ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้างมะลิ เจ็บอยู่ตรงที่หน้าอกไหม""ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะค่ะคุณเพชรกล้า ว่าแต่ทำไมคุณเพชรกล้าถึงรู้ได้ล่ะคะว่ามะลิเจ็บตรงที่หน้าอก"อาการของเธอที่เป็นอยู่ไม่มีใครรู้นอกเสียจากตัวเธอเองแม้หรือแต่ราชาเธอก็ไม่เคยเล่าถึงเรื่องนี้ให้เขาได้ฟัง แต่อาการเจ็บหน้าอกมันเกิดขึ้นมาเพราะอะไรเธอก็ยังหาคำตอบไม่ได้เช่นเดียวกัน"ว่าอย่างไรคะคุณเพชรกล้า คุณรู้ได้ยังไงว่ามันไม่
รถยนต์คันหนูของเพชรกล้าวิ่งมาจอดตรงหน้าประตูรั้วในเวลาช่วงบ่ายของบ้านคุณธำรงหลังจากพักให้น้ำเกลือกับมะลิจนหมดขวด"มะลิต้องขอขอบคุณ คุณเพชรกล้ามากนะคะที่ช่วยมะลิเอาไว้""ไม่เป็นอะไร ว่าแต่เธอยังจำเรื่องที่ฉันสั่งได้ใช่ไหมมะลิ""มะลิจำได้ค่ะ ว่าแต่คุณเพชรกล้าสัญญากับมะลิแล้วนะคะว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครได้รู้ ยิ่งเป็นคุณราชายิ่งห้ามบอก"เพชรกล้าพยักหน้ารับ เขาสัญญากับเธอว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครได้รู้จามที่เธอต้องการ "ถ้าอย่างนั้นมะลิขอตัวก่อนนะคะ""เธออย่าลืมไปให้ฉันดูอาการที่โรงพยาบาลทุก ๆ อาทิตย์ด้วยล่ะ ส่วนเรื่องลูกอาทิตย์หน้าเธอไปหาฉันที่โรงพยาบาลก็แล้วกัน ฉันจะพาเธอไปฝากครรภ์เอง""มะลิขอบคุณมากเลยนะคะที่คุณเพชรกล้ามีเมตตาต่อมะลิ""ไม่เป็นอะไร เธอก็เปรียบเสมือนน้องสาวของฉันคนหนึ่งเหมือนกัน"น้ำเสียงอบอุ่นพร้อมกับฝ่ามือใหญ่วางลงบนศีรษะเล็กของหญิงสาวด้วยความเอ็นดู มะลิส่งยิ้มหวานตอบรับกลับไป ความรู้สึกของเธอมันบอกว่าเพชรกล้าเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอแม้ว่าเธอกับเขาจะเจอกันได้เพียงไม่กี่ครั้งดวงตากลมโตมองแสงไฟตรงท้ายรถคันหรูขับเล่นออกห่างไปไกล ดวงตาสั่นเครือเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีคราม
หลังจากจัดการทำงานเรื่องทุกอย่างเสร็จมะลิก็ขอตัวกลับมายังห้องพักของตนเอง ร่างกายบอบบางนั่งลงบนเตียงนอน แววตาเต็มไปด้วยความรักและความสุขก้มลงมองหน้าท้องของตัวเอง "หนูจะเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายกันนะ"ฝ่ามือเรียวเล็กอันแสนจะบอบบางลูบหน้าท้องแบนราบซึ่งกำลังมีลูกน้อยอยู่ภายด้านในด้วยความรักอย่างแผ่วเบา "แต่ไม่ว่าหนูจะเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายแม่ก็รักหนูนะลูก"เธอขอมองหัวใจทั้งหมดให้กับลูกน้อยที่อยู่ภายในท้อง ความรักของคนเป็นแม่มันช่างใหญ่หลวงมากยิ่งนั้น รู้ทั้งรู้ว่าการตั้งครรภ์ทั้งที่ตัวเองเป็นโรคร้ายมันเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตของตัวเองมากขนาดไหน แต่ด้วยความรักและหัวใจเธอขอมอบให้ลูกน้อย เธอขอแลกกับทุกอย่างเพื่อให้ลูกน้อยของเธอปลอดภัย แม้ว่าชีวิตของเธอจะต้องดับสลายก็จะไม่เสียใจอะไรอีกต่อไป"มะลิกลับมาที่บ้านแล้วหรือยังครับคุณแม่"ราชาเอ่ยถามทันทีเมื่อเขามาถึงบ้าน น้ำเสียงของราชาฟังดูก็รู้ได้ว่าเขากำลังเป็นกังวลมากขนาดไหนเมื่อไปถึงมหาวิทยาลัยก็ไม่เจอแม้แต่เงาของแฟนสาวอย่างวันนี้ ถามเพื่อนในห้องหรือแม้แต่เพื่อนในคณะก็ไม่มีใครเห็นมะลิเลยแม้แต่สักคนเดียว โทรไปหากี่ร้อยสายก็ไม่มีวี่แววว่าเธอจะกดรับ
วันนี้ก็ครบหนึ่งสัปดาห์ที่มะลิจะต้องมาหาหมอเพื่อฝากครรภ์ตามคำแนะนำของเพชรกล้า ตลอดเวลาระยะหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาราชาดูแปลกไปมากจนเธอนึกหวั่นใจ เขามักจะพูดราวกับรู้ว่าเธอกำลังปิดบังอะไรอยู่และตอนกลางคืนเขามักจะแอบทุกคนลงมานอนกับเธอและผลสุดท้ายก็ไม่พ้นเรื่องบนเตียง แม้ว่าเธอเอ่ยห้ามแต่ช่วงนี้ราชาเอาแต่ใจเป็นอย่างมากและไม่คิดฟังคำทักท้วงอะไรของเธอเลยในเวลามีอะไรกัน ความดุดันเพิ่มขึ้นจนเธอนึกเป็นห่วงว่าลูกน้อยในท้องจะเกิดได้รับการกระทบกระเทือน"ไม่สบายเป็นอย่างไรบ้างมะลิ ยังปวดหัวอยู่ไหม""มะลิไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ""แต่หน้าของเธอยังดูซีด ๆ อยู่เลยนะ วันนี้ไม่ต้องไปเรียนหรอก เดี๋ยวฉันจะอยู่ดูแลเธอเอง"มะลิหน้าซีดเผือดเข้าไปใหญ่เมื่อได้ยินว่าราชาจะหยุดเรียนเพื่อขอดูแลเธอ"มะลิไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วค่ะ พักผ่อนสักหน่อยเดี๋ยวก็คงหาย คุณราชาไปมหาวิทยาลัยเถอะนะคะ วันนี้มีโปรเจกต์เรื่องงานจะต้องส่งไม่ใช่เหรอคะ"มะลิคิดได้ว่าวันนี้เขามีงานสำคัญมากต้องส่งอาจารย์และถ้าขาดงานนี้ไปราชาก็ไม่สามารถจบตามหลักสูตรได้ เธอจึงใช้เรื่องนี้หยิบยกเพื่อมาเป็นข้ออ้างให้เขาออกไปจากบ้านเพื่อที่เธอจะได้ไปโรงพยาบาล"แต่ฉ
เพียงแค่ได้เห็นภาพลูกน้อยอันเป็นที่รักกำลังดิ้นไปมาอยู่ในท้องของตนเองผ่านทางหน้าจอเครื่องอัลตร้าซาวด์น้ำตาแห่งความดีใจของผู้เป็นแม่ก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่"นั่นคือลูกของมะลิใช่ไหมคะคุณหมอ"น้ำเสียงสั่นเอ่ยถามออกมาด้วยความดีใจ แววตาสั่นเครือยังคงจับจ้องอยู่บนหน้าจอไม่ไปไหน"ใช่ค่ะคุณแม่ ตอนนี้อายุครรภ์ของคุณแม่เพียงแค่หกสัปดาห์เท่านั้น คุณแม่เห็นอะไรนั่นไหมคะ"คุณหมอใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์กดเคลื่อนเบา ๆ เป็นวงกลม มะลิจับจ้องภาพบนหน้าจออย่างไม่อาจจะละสายตาไปไหนได้ ส่วนเพชรกล้าก็นั่งให้กำลังใจหญิงสาวอยู่ข้าง ๆ "หัวใจของน้องกำลังเต้นอยู่ตรงนี้ คุณแม่เห็นหรือเปล่าคะ"แม้ว่าจะยังดูได้ไม่ชัดแต่สิ่งที่คุณหมอหญิงสาวเอ่ยบอกกับเธอก็ทำเอาน้ำตารินไหลออกมาอีกครั้ง"ร้องไห้เยอะ ๆ ไม่ดีนะมะลิ เดี๋ยวลูกก็ติดนิสัยขี้แยไปด้วยหรอก"เพชรกล้าลุกขึ้นยืนก่อนจะล้วงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงมาซับน้ำตาให้กับหญิงสาว"ฝากครรภ์ได้เลยใช่ไหมม่านฟ้า""ได้เลยค่ะ คุณเพชรกล้า"แพทย์หญิงม่านฟ้ายิ้มออกมาก่อนจะได้ไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ก่อนจะหญิงสมุดสีชมพูขึ้นมาจัดการกรอกประวัติของคนไข้ที่เธอสักถามไปในตอนแรกลงใส่สมุดสำหรับค
และมันก็เป็นไปดั่งที่เพชรกล้าคิดเอาไว้ไม่มีผิด เมื่อมะลิเปิดประตูรั้วเข้ามาภายในก็เจอเข้ากับร่างของโฉมซึ่งกำลังยืนอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว"หายหัวไปไหนมาฮะนางมะลิ"สายตาของโฉม จับจ้องมองมะลิด้วยการมองจับผิด เธอเดินไปหามะลิที่ห้องแต่กลับไม่พบแม้แต่เงา ถามหาทุกคนภายในบ้านก็ไม่มีใครพบเห็น สัญญาณมันบอกว่ามะลิคงไม่ได้อยู่ภายในอาณาเขตของรั้วบ้านจึงทำให้โฉมมายืนรอจับผิดหญิงสาวอยู่ตรงด้านหลังประตูรั้วอยู่ตั้งนานสองนาน"ฉันถามว่าแกหายหัวไปไหนมาฮะ""มะลิไปซื้อยามาค่ะพี่โฉม"มะลิยื่นถุงยาที่เพชรกล้าซื้อไปตรงหน้าเพื่อเป็นการยืนยันว่าเธอพูดความจริง "สำออย แล้วนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะฮะ ปวดหัวไม่สบายหรือกำลังใกล้จะตายกันแน่ถึงได้ซื้อของกินมาบำรุงถึงขนาดนี้""ถ้ามะลิตายไป พี่โฉมจะดีใจไหมคะ"ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้มะลิเอ่ยถามแบบนั้นออกไป ส่วนโฉมเองถึงกับใจหวิวเมื่อได้ยินคำถามที่ออกจากปากของหญิงสาวตรงหน้า"ถ้ามะลิตายไปสักคน ทุกคนต้องย่อมดีใจอยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะ"ใบหน้าขาวซีดแหงนหน้ามองบนท้องฟ้า ก่อนจะหันกลับลงมาจ้องหน้าของโฉมซึ่งกำลังจ้องมองหน้าของมะลิอยู่เช่นเดียวกัน"แต่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เพราะอีกไม่นานมะลิก็คงจะ
หลังจากเกิดเหตุภายในวันนั้น เวลาที่ดอกฟ้ามาหาราชาที่บ้านเธอมักจะหลบหน้ามะลิอยู่เสมอเพราะรู้สึกละอายแก่ใจความขี้ขลาดมันทำให้เธอไม่กล้าจะเดินเข้าไปขอโทษอีกฝ่าย ส่วนมะลินั่นก็เท่าแต่ได้อยู่ในที่ของตัวเอง ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับดอกฟ้าอีกเลย ส่วนราชานั้นเขาก็ยังถูกผู้เป็นบิดาบังคับให้คอยไปรับไปส่งดอกฟ้าที่มหาลัยอยู่บ่อยครั้งจนทำให้ทั้งคู่เกิดความสนิทสนมกัน แต่ไม่ได้ถึงขั้นสนิทกันในเชิงชู้สาวในความคิดของราชา แต่สำหรับดอกฟ้ามันไม่ใช่ เธอกลับไม่ได้คิดอยู่เพียงแค่นั้น ตั้งแต่แรกราชาหัวใจของเธอมันก็ยิ่งเต้นแรง และมันยิ่งเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่นอนอกเมื่อได้สนิทสนมกับราชามากกว่าเมื่อก่อน น้ำเสียงของเขายามเมื่อพูดกับเธอไม่ติดเหวี่ยงและเจ้าอารมณ์ เพียงแค่เขาไม่ผลักไสไล่ส่งเหมือนเมื่อก่อนมันก็ดีมากแล้ว"ช่วงนี้ปีสี่งานเยอะมากเลยใช่ไหมคะคุณราชา"นิ้วเรียวเล็กลูบลงบนเส้นผมสีดำเงาของแฟนหนุ่มอย่างเบามือ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังพักผ่อนอยู่ในห้องพักของหญิงสาว"ใช่ ช่วงนี้งานเยอะมาก ยิ่งใกล้จบแบบนี้ฉันยิ่งต้องทำงานส่งอาจารย์ให้เสร็จ"ราชาบอกพร้อมกับขยับศีรษะซุกลงบนหน้าท้องแบนราบของเธอ ถ้าเขาใช้หัวใจฟังก็จ
"ราชาลูก ฟื้นสิราชา""อย่าเป็นอะไรนะลูก หมอครับช่วยลูกผมด้วย"เสียงตะโกนเรียกชื่อลูกชายดังกึกก้องภายในโรงพยาบาล ร่างไร้สติเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดของราชาดูน่ากลัวสำหรับคนพบเห็นไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่ของตัวเขาเอง"ญาติคนไข้รอด้านนอกนะคะ""ช่วยชีวิตลูกชายของฉันด้วยนะคะหมอ ช่วยชีวิตลูกชายของพวกเราด้วย""หมอจะพยายามจนสุดความสามารถครับ"คุณหญิงแสงมณีร้องไห้ออกมาหัวใจของผู้เป็นแม่แทบจะแตกสลายเมื่อเห็นภาพลูกชายถูกรถชนไปต่อหน้าต่อตา คุณธำรงคว้าร่างของภรรยาเข้ามากอดตัวเขาเองก็รู้สึกตกใจไม่ต่างกันไม่นึกว่าราชาจะหยุดยืนอยู่ตรงกลางถนนอย่างกะทันหันแบบนั้น"ฮือ คุณคะลูกของเราจะเป็นอะไรไหม""ผมเชื่อว่าราชาจะต้องไม่เป็นอะไร ลูกของเราจะต้องปลอดภัยรวมถึงมะลิกับหลานของเราด้วย"'คุณพระคุณเจ้า ช่วยคุ้มครองลูกชายกับลูกสะใภ้และหลานของผมด้วย ช่วยคุ้มครองพวกเขาที'"คนไข้เสียเลือดมากและมีอาการเลือดคลั่งในสมอง ต้องทำการผ่าตัดด่วน""คุณหมอคะ คุณมะลิหัวใจเต้นอ่อนลงค่ะ""คนไข้หยุดหายใจครับคุณหมอ"ภายในห้องฉุกเฉินต่างวุ่นวายเมื่อคนไข้อาการหนักเข้าไปอยู่ในนั้นพร้อมกันถึงสองคน ทำเอาเหล่าพยาบาลแต่หมอต่างพากันวิ่งวุ่นจนหัวหมุ
วันเวลาเดินผ่านหมุนเวียนไป อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ผู้ชายที่มะลิรักก็จะต้องเข้าพิธีวิวาห์กับหญิงสาวที่ทางครอบครัวของเขาหามาให้ "ตื่นขึ้นมาได้แล้วนะมะลิ เธอจะนอนนานแบบนี้ไม่ได้นะ"น้ำเสียงอ่อนโยนของคุณหมอเพชรกล้าเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ดวงตาสั่นเครือคู่นั้นจ้องมองร่างเล็กบนเตียงคนไข้หัวใจแกร่งที่สั่นไหว"ฉันอยากให้เธอตื่นขึ้นมา ตื่นขึ้นมาหาฉันสักทีจะได้ไหม""...""พูดอะไรกับฉันหน่อยสิ อย่าเงียบแบบนี้"ไร้วี่แววว่ามะลิจะฟื้นขึ้นมาเธอนอนหลับตาไม่รู้สึกตัวราวกับว่าเธอได้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปเสียแล้ว"ฉันรักเธอนะ มะลิ"นี่คือสิ่งที่เพชรกล้าอยากบอกมะลิมาโดยตลอดแต่คนอย่างเขารู้ตัวเองดีว่าไม่มีสิทธิ์บรรยากาศในยามเช้า ณ บ้านหลังใหญ่ของฝ่ายเจ้าสาวกำลังอบอวลไปด้วยความสุข ใบหน้าสวยพริ้งพราวของดอกฟ้ามีแต่รอยยิ้มสดใส "คุณดอกฟ้าสวยที่สุดเลยค่ะ"ช่างแต่งหน้าเอ่ยชื่นชม สตรีร่างเล็กมีรูปโฉมสง่าผ่าเผยท่าท่ากิริยางดงามน่าชื่นชมอยู่ในชุดแต่งงานทรงไทยสไบเฉียงสีขาวขับเน้นผิวพรรณของนางให้ขาวกระจ่าง แม้แต่พวงแก้มทั้งสองข้างยังแดงปลั่งงดงามดุจดั่งภาพเขียนร่างเพรียวบางลุกขึ้นยืนหมุนกายไปมาตรงหน้ากระจกใส นั
ราชายืนนิ่งอยู่กับสิ่งที่ได้ยินเขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะช็อกกับเรื่องไหนก่อนดี ก่อนร่างสูงใหญ่ของราชาจะหมุนตัวเดินกลับออกไปเพราะไม่อยากให้ทั้งคู่ได้รู้ว่าเขายืนแอบฟังตลอดระยะทางที่นั่งอยู่บนรถเกิดความเงียบไร้เสียงพูดคุยจนชีต้าห์ขับรถมาจอดถึงหน้าปากซอยหมู่บ้านในเวลาพลบค่ำ"ฉันขอส่งแกแค่นี้นะ"ชีต้าห์พูดออกมาโดยไม่คิดจะหันหน้ามามอง"ฉันอยากรู้เรื่องราวของมะลิ ว่าเธอเป็นใครนายพอจะเล่าให้ฉันฟังจะได้ไหม""มะลิเธอก็เป็นเพื่อนของเราสองคนไง""ไม่ใช่""....""ฉันหมายถึง มะลิเธอมีคนรักไหม"คำถามของราชาเรียกความสนใจให้ชีต้าห์หันหน้ากลับมามอง"พยาบาลในห้องนั้นบอกฉันว่ามะลิกำลังจะมีน้อง ฉันก็เลยอยากจะรู้ว่าใครเป็นคนรักของเธอ"ริมฝีปากหยักเม้มเข้าหากันด้วยความประหม่ากับการหาข้ออ้างไม่ให้ชีต้าห์ได้สงสัย"มะลิเธอเป็นเพียงลูกสาวของแม่บ้าน ความรักของเธอนั้นมีแต่อุปสรรคที่ดันไปรักกับลูกชายของเจ้านาย"สุดท้ายแล้วชีต้าห์ยินยอมเปิดปากเล่าถึงความรักอันแสนหวานและขมขื่นของทั้งคู่"เธอกับผู้ชายคนนั้นรักกันมาก มากเสียจนไม่มีใครมาขัดขวางหรือคิดที่จะเข้ามาแทรกกลางได้ แต่ก็อย่างว่า ความรักของลูกชายกับเจ้ากับลูกสาวคนใช้
โรงพยาบาลตึก ตึก ตึกชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สองคนเดินเข้ามาภายในโรงยาบาลโดยมีร่างของชีต้าห์เดินนำหน้าไปยังห้องปลอดเชื้อสำหรับคนไข้ที่มีอาการรุนแรงอยู่ในตอนนี้ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือมะลิที่สามารถเฝ้ามองดูเธอผ่านกระจกแผ่นใสตึก"ผมมาเยี่ยมมะลิครับ""เชิญเลยค่ะคุณชีต้าห์ แต่มีเวลาเยี่ยมแค่สิบนาทีนะคะ""ขอบคุณมากครับ"ชีต้าห์หันมาพยักหน้าให้ราชาเดินตามตนเองเข้าไป ห้องพักมากมายถูกแบ่งแยกไว้เป็นสัดส่วนมีทั้งพยาบาลและหมอเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดตึก"ถึงแล้ว"ทั้งสองเดินมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของกระจกสามารถมองเห็นเข้าไปด้านในได้ ร่างกายของราชาราวกับถูกแช่แข็งเอาไว้เมื่อได้เห็นร่างหมดสติของมะลิกำลังนอนรักษาตัวอยู่บนเตียง"มะลิ ธะ...เธอเป็นอะไรทำไมถึงได้"ตอนแรกเขาคิดว่าเธอคงจะเป็นไข้ไม่สบายตามปกติ แต่เมื่อได้เห็นเครื่องช่วยหายใจสายระโยงระยางมากมายมันยิ่งทำให้ความคิดของเขาเริ่มเปลี่ยนไปใบหน้าสดใสดั่งในรูปกลับกลายเป็นใบหน้าซูบเซียวไร้สีเลือดไม่มีความสดใส ผิวพรรณขาวใสกลับซีดเซียวดั่งราวหิมะ ลมหายใจผ่อนเข้าออกอย่างเชื่องช้าราวกับว่าคนบนเตียงกำลังรู้สึกเหนื่อยจนไม่สามารถหายใจด้วยตนเองได้ เพียงแต่ได้เห็นก็ทำให้หั
เมฆหมอกครึ้มควันสีจางไม่มีวันเลือนหาย ร่างกายอ่อนแรงบนเตียงคนไข้ลืมตาตื่นขึ้นมา หยาดน้ำตารินไหนออกมาดั่งราวกับสายเลือดเมื่อนึกย้อนกลับไปก่อนเธอจะได้เข้ามาอยู่ในที่แห่งนี้'ความรักของเราสองคนมันคงจบลงแล้ว'นี่คือสิ่งที่เธอคิดมาตลอดและมันก็เป็นจริงดั่งว่าไว้"อาการของคนไข้กำลังอยู่ในวิกฤต หมออยากให้คนไข้ยุติการตั้งครรภ์เพื่อทำการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายหัวใจ"หมอคนเดิมที่รักษาอาการของเธอมาตั้งแต่ข้างต้นได้กล่าวเอาไว้ แม้มันจะเป็นทางเลือกที่ทำใจยากแต่มันเป็นทางเดียวที่จะรักษาชีวิตของมะลิเอาไว้ได้"คุณมะลิครับ"ใบหน้าซีดเซียวเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาหันมามองหน้าของคุณหมอด้วยความเศร้าเสียใจ"รักษาตัวเองก่อนเถอะนะครับ""ฮือ"เสียงสะอื้นของคนไข้ทำให้คนเป็นหมอเองก็แทบจะน้ำตาไหลเขารู้สึกเห็นใจหญิงสาวอยู่ไม่น้อย เหลือเวลาอีกเพียงแค่สีเดือนเท่านั้นที่ลูกน้อยจะได้ออกมาลืมตาแต่ทว่าร่างกายของเธอกลับแบกรับเอาไว้ไม่ไหว"มะลิทำไม่ได้ค่ะคุณหมอ อย่าบังคับให้มะลิต้องทำร้ายลูกเลยนะคะ"หัวอกคนเป็นแม่ย่อมไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ลูกน้อยเป็นดั่งแก้วตาดวงใจแม้จะยังไม่ได้เห็นหน้าแต่ความรักความผูกพันผ่านทางสายเลือดไม่สามารถบังคับใ
เพชรกล้าสั่งทุกคนให้ปิดเรื่องข่าวการแต่งงานระหว่างราชากับดอกฟ้าเป็นความลับ ห้ามคนในบ้านพูดถึงเพราะไม่ต้องการให้มะลิได้รับรู้ เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนเธอก็จะให้กำเนิดลูกน้อยออกมาและเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะเป็นคนผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้เธอเองแต่ใครจะไปติดล่ะว่าทางด้านครอบครัวของราชาจะออกมาประกาศข่าวจนมีนักข่าวให้ความสนใจจนเป็นที่รับรู้กันทั้งประเทศว่าลูกชายของนักธุรกิจใหญ่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในไม่ช้านี้"มะลิ"เพชรกล้ารีบวิ่งเข้ามาคว้าร่างของมะลิโดยทันทีเมื่อเธอดันเคลื่อนทีวีเจอครอบครัวของราชาและดอกฟ้าแถลงข่าวซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี ร่างเล็กโอบอุ้มลูกน้อยในครรภ์เอาไว้ทรุดกายลงนั่งบนโซฟาตัวใหญ่อย่างคนไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนไหว"คุณเพชร"ใบหน้าซีดเซียวของมะลิอาบไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาจนเปียกชุ่มทันทีเมื่อได้เห็นข่าวคนรักกำลังจะแต่งงานในไม่ช้านี้"ไม่เป็นอะไรนะ เธอยังมีฉันอยู่ตรงนี้""ฮึก มะลิเจ็บเหลือเกินค่ะ"สีหน้าของเธอแสดงถึงความเจ็บปวดและทรมานจนหายใจแทบจะไม่ทัน มันเหมือนกับว่ากำลังมีใครเอามือมาบีบหัวใจของเธอเอาไว้ให้เต้นลงช้า ๆ "มะลิ เธออย่าหลับนะ"เพชรกล้าคว้าร่างอ่อนแรงของมะลิขึ้นมาอ
เมืองไทยหนึ่งอาทิตย์ต่อมาคุณธำรงและทุกคนต่างพากันเดินทางกลับมาเมื่อไทย ราชากวาดสายตามองไปยังบริเวณโดยรอบด้วยความไม่คุ้นเคย แม้จะเดินทางกลับมาถึงบ้านหลังใหญ่ความทรงจำก็คงยังไม่กลับมาเหมือนกับความทรงจำในอดีตมันถูกลบไปจนหมด"พรุ่งนี้พ่อกับแม่จะไปดูฤกษ์แต่งงาน ในระหว่างนี้แกต้องพักอยู่ที่นี่ห้ามออกไปไหนเข้าใจไหม"น้ำเสียงเด็ดขาดของผู้เป็นใหญ่ในบ้านทำให้ราชาได้แต่พยักหน้ารับ ถึงแม้ผู้เป็นบิดาจะไม่เอ่ยปากออกคำสั่งเขาเองก็ไม่คิดที่จะก้าวขาออกไปไหนเมื่อวันเวลาผ่านพ้นไปราชาได้ใช้ชีวิตผ่านไปวัน ๆ ภายในบ้านเขาขาดการติดต่อจากโลกภายนอก แม้อยากจะถามบิดาและมารดาถึงเรื่องราวก่อนที่เขาจะประสบอุบัติเหตุแต่ก็ไม่กล้าเพราะทุกคนในตอนนี้กำลังวุ่นวายอยู่กับการจัดงานแต่งงานซึ่งกำลังจะถึงวันนั้นภายในไม่ช้า"พี่ราชาว่าชุดนี้สวยไหมคะ"น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยถามว่าที่เจ้าบ่าวพร้อมกับหมุนตัวไปมา ดอกฟ้าในชุดเจ้าสาวสีขาวแบบเกาะอกกระโปรงฟูฟ่องลากยาวดั่งเจ้าหญิงกำลังส่งยิ้มอ่อนหวานมาให้ ความดีใจแสดงบนดีใจหน้าฉายผ่านแววตาอย่างปิดบังไม่มิด"ชุดแต่งงานชุดไหนก็สวยเหมือนกันหมดนั่นแหละ รีบ ๆ เลือกเร็วเข้าฉันหิวข้าว"เพราะตั้งแต
รุ่งเช้าวันต่อมาปังเสียงประตูบานใหญ่ภายในห้องนอนถูกผลักเข้ากระแทกเข้ากับฝาผนังจนเกิดเสียงดังปลุกให้ร่างของทั้งสองชายหญิงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา "ราชา หนูดอกฟ้า"คุณธำรงตะเบ่งเสียงเรียกชื่อของทั้งสองเสียงดังลั่นก่อนทั้งคู่นั้นจะรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นว่าใครกำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตู"คุณพ่อ คุณแม่"ดอกฟ้าแสดงสีหน้าตกใจเมื่อเห็นว่าทั้งบิดาและมารดากำลังยืนโกรธหน้าดำหน้าแดงไม่พอใจอยู่ใกล้กับพ่อแม่ของราชาที่เดินทางมาพร้อมกัน"รีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วตามลงไปข้างล่าง"คุณแสนชัยจ้องมองหน้าลูกสาวด้วยแววตาจริงจังก่อนจะจูงมือภรรยาเดินลงไปชั้นล่างตามด้วยบิดาและมารดาของราชา"ฮึก"ดอกฟ้าถึงกับน้ำไหลเพราะรู้ตัวเองดีกว่ากำลังทำตนให้บิดาและมารดาเสียใจ ใบหน้าสวยมีหยาดน้ำตาไหลจนราชานึกเห็นใจเพราะความผิดพลาดในครั้งนี้มันเริ่มต้นมาจากเขาเอง"ดอกฟ้า""ฮึก พี่ราชาไปอาบน้ำเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณลุงกับคุณป้าจะรอนาน""ไม่ เราสองคนต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"ราชาออกแรงคว้าตัวหญิงสาวให้เข้ามาใกล้ แต่แรงกระชากของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ทำให้ดอกฟ้าต้องเผลอเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บ"อื้อ เจ็บ""ขอโทษ เธอเจ็บตรงไหน""ดอกฟ้
ยามค่ำคืนดึกเงียบสงัดมีสองร่างของชายหญิงกำลังนั่งรับประทานอาหารภายในบ้านกันอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบเชียบไร้เสียงพูดคุย สีหน้าและแววตาของราชาดูสดชื่นมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนคงเป็นเพราะเขาออกไปนั่งรับลมอยู่ตรงบริเวณสวนดอกไม้ทุกวันซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่สร้างความหงุดหงิดให้กับดอกฟ้า "พี่ราชาอิ่มแล้วเหรอคะ"ดอกฟ้าเอ่ยทักเมื่อเห็นราชารวบช้อนก่อนจะวางลงบนจาน"อืม ฉันอิ่มแล้ว เธอทานเถอะเดี๋ยวฉันนั่งอยู่เป็นเพื่อน"ชาราพูดออกมาโดยไม่คิดอะไร เขาคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อดับความกระหายโดยมีสายตาของดอกฟ้าจ้องมองอยู่ มุมปากเรียวสวยคลี่ยิ้มหวานเมื่อชายหนุ่มดื่มน้ำในแก้วจนหมด"อาการของพี่ราชาเป็นยังไงบ้างคะตอนนี้ ยังรู้สึกปวดตรงไหนอยู่หรือเปล่าคะ""ไม่แล้วล่ะ แต่ช่วงนี้ฉันแค่รู้สึกปวดนิดหน่อย"ดอกฟ้าพยักหน้ารับ เธอมองหน้าราชาด้วยความหลงใหลและใจรัก เธอรักผู้ชายคนนี้คนที่ไม่เคยเห็นคุณค่าของเธอเลย"ฮึก อื้อ""เป็นอะไรคะพี่ราชา"ดอกฟ้ารีบวางช้อนก่อนจะลุกขึ้นพุ่งเข้ามาหา ดวงตาของเธอแสดงออกถึงความเป็นห่วง"ฉันเป็นอะไรก็ไม่รู้ ฮึก"ภายในกายร้อนวูบวาบอย่างไม่ทราบสาเหตุขึ้นมาทันควันซึ่งความรู้สึกเหล่านั้นมัน