ปึง ปึง ปึง
เสียงทุบประตูหนัก ๆ ดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้งในเวลาช่วงเช้าตรู่ เสียงรบกวนดังติดกันหลายครั้งทำให้สติของมะลิฟื้นตื่นขึ้นมา สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณห้องพักเป็นอันดับแรกก็พบว่าตัวเองนั้นกำลังนอนฟุบอยู่กับพื้นปูแสนจะเย็นเฉียบ ปึง ปึง เสียงทุบประตูหนัก ๆ ดังขึ้นติดต่อกันอีกหลายครั้งจนทำให้ร่างไร้เรี่ยวแรงของมะลิต้องค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก เนื่องจากอาการหน้ามือเล่นงานเธอเข้าอย่างกะทันหัน สองเท้าเดินก้าวไปยังประตูห้องพักด้วยความเชื่องช้าอย่างคนอ่อนแรงล้า แกรก ประตูห้องพักถูกเปิดออกด้วยน้ำมือเจ้าของห้องทำให้ผู้มายืนเคาะประตูอยู่แสนนานอย่างโฉมตวาดใส่ใบหน้าซีดเผือดด้วยความไม่พอใจ "มัวแต่นอนกินบ้านกินเมืองไม่ได้ยินหรืออย่างไรว่าฉันมาเคาะประตูอยู่ตั้งนานแล้ว" "ได้ยินค่ะพี่โฉม ว่าแต่พี่โฉมมีอะไรจะใช้มะลิเหรอจ๊ะ" "เอาเงินนี่ไปซื้อของที่ตลาด อย่ามัวชักช้าล่ะวันนี้คุณราชาจะต้องไปรับคุณหนูดอกฟ้ามาทานข้าวเช้าที่บ้าน"โฉมยัดเงินจำนวนหนึ่งใส่มือของมะลิก่อนจะเดินออกไป แต่ก็ไม่วายทิ้งท้ายคำพูดบาดหัวใจให้มะลิได้เจ็บเล่น "คุณราชาไปรับคุณดอกฟ้ามาทานข้าวที่บ้านอย่างนั้นเหรอ"นัยน์ตาเศร้าน้ำเสียงแผ่วเอ่ยพูดพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่ตัวเธอจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปภายในห้องพักของตัวเองเพื่อรีบจัดการอาบน้ำเตรียมตัวไปจ่ายตลาดตามหน้าที่ของตัวเอง ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศภายในรถซูเปอร์คาร์คันหรูไม่ได้ช่วยดับความร้อนรุ่มภายในใจของราชาให้ดับลงได้เลย และทุกวินาทีมันยิ่งเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาถูกผู้เป็นพ่อบังคับให้มารับลูกสาวของเพื่อนตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง แถมตอนนี้ต้องมานั่งพยายามสงบสติอารมณ์เมื่อต้องมาเจอกับสถานการณ์รถติดเป็นทางยาว แววตาของเขาเหลือบมองตัวเองบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนแพงสีทองอยู่บ่อยครั้งอย่างหงุดหงิด "โถ่เว้ย มาติดบ้าอะไรเอาตอนนี้วะ"น้ำเสียงหงุดหงิดสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อรถไม่สามารถขยับขับเคลื่อนไปไหนได้ จนทำให้คนที่นั่งอยู่ด้านข้างถึงกับต้องพลอยตกใจกับน้ำเสียงเข้มของชายหนุ่มไปด้วย "พี่ราชามีธุระต่ออย่างนั้นเหรอคะ"ดอกฟ้ารวบรวมความกล้าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก อารมณ์ร้อนดั่งไฟเผาของชายหนุ่มในตอนนี้มันทำให้เธอรู้สึกหวั่นจนต้องขยับร่างให้นั่งแนบชิดติดกับประตู คำตามของดอกฟ้าไร้ซึ่งคำตอบออกจากปากของราชา เขาเพียงแค่หันไปมองใบหน้าของเธอเพียงไม่ถึงเสี้ยววินาทีก่อนจะหันมาจอดจ้องมองถนนเช่นดั้งเดิม "พี่ราชาเรียนใกล้จะจบแล้วใช่ไหมคะ ดอกฟ้าก็ใกล้จะเรียนจบแล้วเหมือนกัน อีกไม่นานเราสองคน" "ฉันไม่มีพี่น้อง ฉันเป็นลูกคนเดียว เธอไม่มานับญาติกับฉัน เพราะนั่นมันเป็นสิ่งที่ฉันไม่ต้องการ"น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของดอกฟ้าเงียบลงก่อนจะเอ่ยพูดจบ นัยน์ตาสีดำสนิทฉายแววเกรี้ยวกราดหันมาจ้องมองหน้าเธอ น้ำเสียงเยือกเย็นทำเขาขนกายของดอกฟ้าลุกชัน "แต่คุณลุงกับคุณป้า ท่าน" "คุณพ่อกับคุณแม่จะบอกหรือจะสั่งให้เธอทำอะไรฉันไม่สน และฉันอยากจะให้เธอจำเอาไว้ด้วยว่าฉันจะไม่มีทางไปดูแลกิจการกับเธอที่อังกฤษตามคำจุดประสงค์ของคุณพ่อเด็ดขาด" "..." "และอีกอย่างฉันจะไม่มีทางแต่งงานกับเธอหรือว่าผู้หญิงคนไหนทั้งนั้นนอกจากมะลิเพียงคนเดียว"น้ำเสียงและแววตาของราชาสื่อถึงความรักอันแสนหนักแน่นต่อแฟนสาว ความรักที่เขามอบให้ผู้หญิงคนนั้นมันกำลังก่อเกิดความอิจฉาอยู่ภายในใจของดอกฟ้า ราชาหันกลับไปจนใจกับการจราจรบนท้องถนนต่อเมื่อรถทุกคันในตอนนี้สามารถขับเคลื่อนไปทางข้างหน้าได้ถึงแม้ว่ามันจะไปได้ทีละน้อยก็ตาม ความเงียบก่อเกิดหลังจากเขาพูดประโยคนั้นออกไป แต่มันก็เงียบได้เพียงไม่กี่นาที "พี่ราชาคงจะรักเธอมากสินะคะ ผู้หญิงที่ชื่อมะลิอะไรนั่นน่ะ" "รักสิ รักมาก เพราะมะลิเธอคือผู้หญิงคนเดียวที่ฉันอยู่ด้วยแล้วมีความสุข มีอิสระไม่ต้องมาคอยนั่งทำตามคำสั่ง และสิ่งที่ทำให้ฉันอยากจะอยู่กับมะลิต่อไปก็คือความรัก ฉันรักมะลิ"เป็นคำบอกรักที่ทำให้คนฟังรู้สึกจุกแปลก ๆ แต่คนพูดกลับยิ้มหน้าบาน ดอกฟ้าหันหน้าไปมองด้านข้างกระจกอย่างไม่ต้องการเห็นสีหน้าเปื้อนรอยยิ้มอย่างมีความสุขของราชายามเมื่อเขาเอ่ยพูดถึงผู้หญิงคนนั้น เกิดคำถามขึ้นภายในใจของดอกฟ้า ทำไมราชาถึงได้ตัดสินใจทุ่มเทรักให้ผู้หญิงคนนั้นจนหมดหัวใจ ทั้งที่ชาติตระกูลของผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้มีดี เป็นเพียงแค่แม่บ้านธรรมดา ไม่ได้ร่ำรวยหรือมั่งมีทรัพย์สินเงินทองมากมายอะไร ไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์ให้ใครเทิดทูน แต่ทำไมผู้ชายที่นั่งขับรถอยู่ข้างเธอถึงได้ทุ่มเทรักให้กับผู้หญิงธรรมดาอย่างมะลิจนหมดหัวใจ ทำไมกัน "วันนี้ซื้อของเยอะจังเลยนะแม่หนู ถือของคนเดียวไหวเหรอ ให้ไอ้แดงหลานป้าไปส่งที่บ้านคุณนายให้เอาไหม"แม่ค้าในตลาดที่มะลิมักจะมาซื้อของร้านนี้เป็นประจำเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงและยังไม่อดที่จะแบ่งปันน้ำใจให้ด้วยการให้หลานชายวัยมัธยมต้นไปส่งเพราะดูแล้ววันนี้ในมือของหญิงสาวมีข้าวของมากมายจนผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แทบจะถืออยู่ไม่ไหว "ขอบคุณมากนะคะคุณป้า แต่ไม่รบกวนดีกว่าค่ะอีกเดี๋ยวมะลิต้องไปซื้อของที่อื่นต่อ" "แต่แม่หนูแน่ใจนะลูก ถือของก็หนักแถมใบหน้าของแม่หนูยังซีดอีก ป้ากลัวว่าจะเป็นลมเป็นแล้งกลางทางเอา"มะลิส่งยิ้มหวานให้ศีรษะน้อยส่ายไปมาเบา ๆ อย่างต้องการบอกอีกฝ่ายว่าตนไม่เป็นอะไร "หนูไหวค่ะป้า ขอตัวก่อนนะคะ" "ถ้ากลับไม่ไหวเดินมาหาป้าที่ร้านได้นะแม่หนู ป้าจะได้ให้หลานชายไปส่ง"แม่ค้าคนดังกล่าวตะโกนบอกไล่หลังตาม แววตาของแม่ค้าคนนี้มองแผ่นหลังบอบบางของมะลิด้วยความเป็นห่วง "ยังเหลืออะไรอีกนะที่จะต้องซื้อ"น้ำเสียงแผ่วเบาพึมพำก่อนจะก้มมองแผ่นกระดาษจดสิ่งของที่เธอจำเป็นจะต้องซื้อในวันนี้ ดวงตาพร่ามัวโดยทันทีเมื่อเธอก้มมองแผ่นกระดาษด้วยความเร็ว แถมเรี่ยวแรงก็มาหายเอาเสียดื้อ ๆ อาการเจ็บตรงบริเวณหน้าอกเริ่มรุนแรงขึ้นจนร่างของมะลิทรุดตัวลงนั่งกับพื้นจนข้าวของที่ซื้อมาหล่นกระจัดกระจาย ผู้คนในบริเวณนั้นต่างพากันร้องส่งเสียงขอความช่วยเหลือ "ช่วยด้วย ช่วยด้วย มีคนเป็นลม"เสียงโหวกเหวกโวยวายขอความช่วยเหลือของแม่ค้าดังกันสั่นจนทำให้ เพชรกล้า คุณหมอหนุ่มวัยใกล้จะสามสิบปีพ่วงด้วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลชื่อดังและยังเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิทราชารีบเดินเข้ามายังที่ได้ยินเสียง จนเขาได้เห็นร่างคุ้นเคยของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนสาวของเพื่อนน้องชายกำลังนั่งกุมหน้าอกฟุบตัวลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนทรมานเพชรกล้ารีบเดินฝ่าวงล้อมของเหล่าประชาชนเข้ามาหาร่างของมะลิ สีหน้าของเขาเรียบนิ่งไร้อารมณ์แววตาพยายามตรวจดูไปตามร่างกายเพื่อสังเกตอาการของเธอ"ผมเป็นหมอ ขอให้ทุกคนช่วยหลีกทางให้คนป่วยมีอากาศหายใจได้สะดวกด้วยครับ"เหล่าประชากรทุกคนต่างทยอยขับออกมาจากตรงนั้น แต่ทุกคนก็ยังคงจับจ้องสถานการณ์ไม่ไปไหน ทุกคนในที่นี้มักจะเห็นมะลิออกมาซื้อของคนเดียวเพียงลำพังอยู่บ่อยครั้งในช่วงเช้า ความสนิทสนมและเป็นกันเองทำให้พวกเขารู้จักและเป็นห่วงหญิงสาวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ไหนตอนนี้"มะลิ มะลิ เธอเป็นอย่างไรบ้าง"เพชรกล้าเขย่าตัวเรียกชื่อของหญิงสาว เขาใช้นิ้ววางนาบลงบนข้อมือเรียวเล็กเพื่อต้องการวัดชีพจร คิ้วเข้มทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันเมื่อชีพจรการเต้นของหัวใจนั้นมันช่างผิดปกติและสีหน้าซีดเผือดของเธอและไหนกำปั้นเล็ก ๆ ที่ทุบลงบนหน้าอกซ้ำ ๆ เบา ๆ ราวกับว่าเธอเจ็บปวดตรงบริเวณนั้นอีก อาการเบื้องต้นผ่านที่เขาสังเกตการณ์มันยิ่งทำให้เพชรกล้าขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นขึ้นไปอีก"ขอทางหน่อยครับ"เพชรกล้าพยุงร่างของมะลิขึ้นมาอุ้มอยู่ในท่าเจ้าสาวซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนขับรถของตนเองวิ่งกลับมาจากการซื้อของตรงหัวมุมตลา
รถซูเปอร์คาร์คันหรูวิ่งเล่นเข้ามาจอดตรงบริเวณหน้าบ้าน ราชาเปิดประตูเดินลงมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์โดยไม่คิดจะร่องดอกฟ้าที่เปิดประตูรถเดินลงมาเลยสักนิด"มากันแล้วเหรอราชา หนูดอกฟ้า""สวัสดีค่ะคุณป้า"น้ำเสียงร่าเริงของคุณหญิงแสงมณีดังมาแต่ไกล ดอกฟ้ารีบยกมือไหว้โดยทันที ต่างจากราชายืนชักสีหน้าเรียบนิ่งราวกับว่าเขาไม่มีความรู้สึกอะไรเลยในตอนนี้"สวัสดีจ้ะ หนูดอกฟ้าคนสวยของป้า""ผมขอตัวก่อนนะครับคุณแม่"ราชาเอ่ยขึ้นระหว่างที่ทั้งสองกำลังยืนคุย แต่ก่อนขาของเขาจะได้ก้าวเดินออกไป ก็มีเสียงของผู้เป็นแม่ดังขึ้นมาเสียก่อน"แกไม่ต้องคิดจะไปหานางมะลิหรอกนะ เพราะมันออกไปมหาลัยตั้งแต่เช้าแล้ว""คุณแม่ว่าอะไรนะครับ มะลิออกไปมหาลัยตั้งแต่เช้าแล้วอย่างนั้นเหรอครับ""ใช่ และมันก็ยังฝากให้แม่บอกลูกด้วยนะ ว่าให้ลูกคอยไปรับไปส่งหนูดอกฟ้าที่มหาลัยด้วย"ราชาหรี่ตาจับผิดสีหน้าและคำพูดของผู้เป็นแม่ แต่น่าแปลกเมื่อในครั้งนี้เขาไม่เป็นความผิดปกติในสายตาคู่นั้นของมารดา"คุณแม่ไม่ได้โกหกผมใช่ไหมครับ""แม่จะไปโกหกลูกให้ได้อะไรขึ้นมาราชา ถ้าลูกไม่เชื่อก็ไปถามคุณพ่อเสียสิ เพราะตอนที่มะลิมาพูดกับแม่คุณพ่อก็อยู่ในเหตุการณ์ด้
เปลือกตาหนักอึ้งค่อย ๆ เปิดขึ้นอย่างยากลำบาก กลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อและกลิ่นยาของโรงพยาบาลลอยแตะจมูกโด่งของเธอโดยทันที ภาพตรงหน้ามันพร่ามัวจนมะลิต้องหลับตาลงอีกครั้ง ความรู้สึกเจ็บบวกบริเวณตรงหน้าอกตอนนี้ทุเลาลงไปบ้าง แต่นั่นมันก็ยังหลงเหลือความรู้สึกจุกอยู่ด้านใน ยามเมื่อเธอหายใจหนัก ๆ หลังจากปิดเปลือกตาลงไปได้สักพักมะลิก็เปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทันทีเมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่ามีชายหนุ่มรูปงามกำลังนั่งมองเธออยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงคนไข้ "คุณเพชรกล้า"น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยเรียกชื่อของชายหนุ่ม เพชรกล้าใช้สายตากวาดมองไปตามร่างกายของมะลิอย่างพิจารณาในอาการของเธอ ณ ตอนนี้ ซึ่งมันก็ตรงกับที่คุณหมอก่อนหน้านี้รายงานเขามา"ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้างมะลิ เจ็บอยู่ตรงที่หน้าอกไหม""ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะค่ะคุณเพชรกล้า ว่าแต่ทำไมคุณเพชรกล้าถึงรู้ได้ล่ะคะว่ามะลิเจ็บตรงที่หน้าอก"อาการของเธอที่เป็นอยู่ไม่มีใครรู้นอกเสียจากตัวเธอเองแม้หรือแต่ราชาเธอก็ไม่เคยเล่าถึงเรื่องนี้ให้เขาได้ฟัง แต่อาการเจ็บหน้าอกมันเกิดขึ้นมาเพราะอะไรเธอก็ยังหาคำตอบไม่ได้เช่นเดียวกัน"ว่าอย่างไรคะคุณเพชรกล้า คุณรู้ได้ยังไงว่ามันไม่
รถยนต์คันหนูของเพชรกล้าวิ่งมาจอดตรงหน้าประตูรั้วในเวลาช่วงบ่ายของบ้านคุณธำรงหลังจากพักให้น้ำเกลือกับมะลิจนหมดขวด"มะลิต้องขอขอบคุณ คุณเพชรกล้ามากนะคะที่ช่วยมะลิเอาไว้""ไม่เป็นอะไร ว่าแต่เธอยังจำเรื่องที่ฉันสั่งได้ใช่ไหมมะลิ""มะลิจำได้ค่ะ ว่าแต่คุณเพชรกล้าสัญญากับมะลิแล้วนะคะว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครได้รู้ ยิ่งเป็นคุณราชายิ่งห้ามบอก"เพชรกล้าพยักหน้ารับ เขาสัญญากับเธอว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครได้รู้จามที่เธอต้องการ "ถ้าอย่างนั้นมะลิขอตัวก่อนนะคะ""เธออย่าลืมไปให้ฉันดูอาการที่โรงพยาบาลทุก ๆ อาทิตย์ด้วยล่ะ ส่วนเรื่องลูกอาทิตย์หน้าเธอไปหาฉันที่โรงพยาบาลก็แล้วกัน ฉันจะพาเธอไปฝากครรภ์เอง""มะลิขอบคุณมากเลยนะคะที่คุณเพชรกล้ามีเมตตาต่อมะลิ""ไม่เป็นอะไร เธอก็เปรียบเสมือนน้องสาวของฉันคนหนึ่งเหมือนกัน"น้ำเสียงอบอุ่นพร้อมกับฝ่ามือใหญ่วางลงบนศีรษะเล็กของหญิงสาวด้วยความเอ็นดู มะลิส่งยิ้มหวานตอบรับกลับไป ความรู้สึกของเธอมันบอกว่าเพชรกล้าเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอแม้ว่าเธอกับเขาจะเจอกันได้เพียงไม่กี่ครั้งดวงตากลมโตมองแสงไฟตรงท้ายรถคันหรูขับเล่นออกห่างไปไกล ดวงตาสั่นเครือเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีคราม
หลังจากจัดการทำงานเรื่องทุกอย่างเสร็จมะลิก็ขอตัวกลับมายังห้องพักของตนเอง ร่างกายบอบบางนั่งลงบนเตียงนอน แววตาเต็มไปด้วยความรักและความสุขก้มลงมองหน้าท้องของตัวเอง "หนูจะเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายกันนะ"ฝ่ามือเรียวเล็กอันแสนจะบอบบางลูบหน้าท้องแบนราบซึ่งกำลังมีลูกน้อยอยู่ภายด้านในด้วยความรักอย่างแผ่วเบา "แต่ไม่ว่าหนูจะเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายแม่ก็รักหนูนะลูก"เธอขอมองหัวใจทั้งหมดให้กับลูกน้อยที่อยู่ภายในท้อง ความรักของคนเป็นแม่มันช่างใหญ่หลวงมากยิ่งนั้น รู้ทั้งรู้ว่าการตั้งครรภ์ทั้งที่ตัวเองเป็นโรคร้ายมันเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตของตัวเองมากขนาดไหน แต่ด้วยความรักและหัวใจเธอขอมอบให้ลูกน้อย เธอขอแลกกับทุกอย่างเพื่อให้ลูกน้อยของเธอปลอดภัย แม้ว่าชีวิตของเธอจะต้องดับสลายก็จะไม่เสียใจอะไรอีกต่อไป"มะลิกลับมาที่บ้านแล้วหรือยังครับคุณแม่"ราชาเอ่ยถามทันทีเมื่อเขามาถึงบ้าน น้ำเสียงของราชาฟังดูก็รู้ได้ว่าเขากำลังเป็นกังวลมากขนาดไหนเมื่อไปถึงมหาวิทยาลัยก็ไม่เจอแม้แต่เงาของแฟนสาวอย่างวันนี้ ถามเพื่อนในห้องหรือแม้แต่เพื่อนในคณะก็ไม่มีใครเห็นมะลิเลยแม้แต่สักคนเดียว โทรไปหากี่ร้อยสายก็ไม่มีวี่แววว่าเธอจะกดรับ
วันนี้ก็ครบหนึ่งสัปดาห์ที่มะลิจะต้องมาหาหมอเพื่อฝากครรภ์ตามคำแนะนำของเพชรกล้า ตลอดเวลาระยะหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาราชาดูแปลกไปมากจนเธอนึกหวั่นใจ เขามักจะพูดราวกับรู้ว่าเธอกำลังปิดบังอะไรอยู่และตอนกลางคืนเขามักจะแอบทุกคนลงมานอนกับเธอและผลสุดท้ายก็ไม่พ้นเรื่องบนเตียง แม้ว่าเธอเอ่ยห้ามแต่ช่วงนี้ราชาเอาแต่ใจเป็นอย่างมากและไม่คิดฟังคำทักท้วงอะไรของเธอเลยในเวลามีอะไรกัน ความดุดันเพิ่มขึ้นจนเธอนึกเป็นห่วงว่าลูกน้อยในท้องจะเกิดได้รับการกระทบกระเทือน"ไม่สบายเป็นอย่างไรบ้างมะลิ ยังปวดหัวอยู่ไหม""มะลิไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ""แต่หน้าของเธอยังดูซีด ๆ อยู่เลยนะ วันนี้ไม่ต้องไปเรียนหรอก เดี๋ยวฉันจะอยู่ดูแลเธอเอง"มะลิหน้าซีดเผือดเข้าไปใหญ่เมื่อได้ยินว่าราชาจะหยุดเรียนเพื่อขอดูแลเธอ"มะลิไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วค่ะ พักผ่อนสักหน่อยเดี๋ยวก็คงหาย คุณราชาไปมหาวิทยาลัยเถอะนะคะ วันนี้มีโปรเจกต์เรื่องงานจะต้องส่งไม่ใช่เหรอคะ"มะลิคิดได้ว่าวันนี้เขามีงานสำคัญมากต้องส่งอาจารย์และถ้าขาดงานนี้ไปราชาก็ไม่สามารถจบตามหลักสูตรได้ เธอจึงใช้เรื่องนี้หยิบยกเพื่อมาเป็นข้ออ้างให้เขาออกไปจากบ้านเพื่อที่เธอจะได้ไปโรงพยาบาล"แต่ฉ
เพียงแค่ได้เห็นภาพลูกน้อยอันเป็นที่รักกำลังดิ้นไปมาอยู่ในท้องของตนเองผ่านทางหน้าจอเครื่องอัลตร้าซาวด์น้ำตาแห่งความดีใจของผู้เป็นแม่ก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่"นั่นคือลูกของมะลิใช่ไหมคะคุณหมอ"น้ำเสียงสั่นเอ่ยถามออกมาด้วยความดีใจ แววตาสั่นเครือยังคงจับจ้องอยู่บนหน้าจอไม่ไปไหน"ใช่ค่ะคุณแม่ ตอนนี้อายุครรภ์ของคุณแม่เพียงแค่หกสัปดาห์เท่านั้น คุณแม่เห็นอะไรนั่นไหมคะ"คุณหมอใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์กดเคลื่อนเบา ๆ เป็นวงกลม มะลิจับจ้องภาพบนหน้าจออย่างไม่อาจจะละสายตาไปไหนได้ ส่วนเพชรกล้าก็นั่งให้กำลังใจหญิงสาวอยู่ข้าง ๆ "หัวใจของน้องกำลังเต้นอยู่ตรงนี้ คุณแม่เห็นหรือเปล่าคะ"แม้ว่าจะยังดูได้ไม่ชัดแต่สิ่งที่คุณหมอหญิงสาวเอ่ยบอกกับเธอก็ทำเอาน้ำตารินไหลออกมาอีกครั้ง"ร้องไห้เยอะ ๆ ไม่ดีนะมะลิ เดี๋ยวลูกก็ติดนิสัยขี้แยไปด้วยหรอก"เพชรกล้าลุกขึ้นยืนก่อนจะล้วงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงมาซับน้ำตาให้กับหญิงสาว"ฝากครรภ์ได้เลยใช่ไหมม่านฟ้า""ได้เลยค่ะ คุณเพชรกล้า"แพทย์หญิงม่านฟ้ายิ้มออกมาก่อนจะได้ไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ก่อนจะหญิงสมุดสีชมพูขึ้นมาจัดการกรอกประวัติของคนไข้ที่เธอสักถามไปในตอนแรกลงใส่สมุดสำหรับค
และมันก็เป็นไปดั่งที่เพชรกล้าคิดเอาไว้ไม่มีผิด เมื่อมะลิเปิดประตูรั้วเข้ามาภายในก็เจอเข้ากับร่างของโฉมซึ่งกำลังยืนอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว"หายหัวไปไหนมาฮะนางมะลิ"สายตาของโฉม จับจ้องมองมะลิด้วยการมองจับผิด เธอเดินไปหามะลิที่ห้องแต่กลับไม่พบแม้แต่เงา ถามหาทุกคนภายในบ้านก็ไม่มีใครพบเห็น สัญญาณมันบอกว่ามะลิคงไม่ได้อยู่ภายในอาณาเขตของรั้วบ้านจึงทำให้โฉมมายืนรอจับผิดหญิงสาวอยู่ตรงด้านหลังประตูรั้วอยู่ตั้งนานสองนาน"ฉันถามว่าแกหายหัวไปไหนมาฮะ""มะลิไปซื้อยามาค่ะพี่โฉม"มะลิยื่นถุงยาที่เพชรกล้าซื้อไปตรงหน้าเพื่อเป็นการยืนยันว่าเธอพูดความจริง "สำออย แล้วนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะฮะ ปวดหัวไม่สบายหรือกำลังใกล้จะตายกันแน่ถึงได้ซื้อของกินมาบำรุงถึงขนาดนี้""ถ้ามะลิตายไป พี่โฉมจะดีใจไหมคะ"ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้มะลิเอ่ยถามแบบนั้นออกไป ส่วนโฉมเองถึงกับใจหวิวเมื่อได้ยินคำถามที่ออกจากปากของหญิงสาวตรงหน้า"ถ้ามะลิตายไปสักคน ทุกคนต้องย่อมดีใจอยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะ"ใบหน้าขาวซีดแหงนหน้ามองบนท้องฟ้า ก่อนจะหันกลับลงมาจ้องหน้าของโฉมซึ่งกำลังจ้องมองหน้าของมะลิอยู่เช่นเดียวกัน"แต่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เพราะอีกไม่นานมะลิก็คงจะ
"ราชาลูก ฟื้นสิราชา""อย่าเป็นอะไรนะลูก หมอครับช่วยลูกผมด้วย"เสียงตะโกนเรียกชื่อลูกชายดังกึกก้องภายในโรงพยาบาล ร่างไร้สติเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดของราชาดูน่ากลัวสำหรับคนพบเห็นไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่ของตัวเขาเอง"ญาติคนไข้รอด้านนอกนะคะ""ช่วยชีวิตลูกชายของฉันด้วยนะคะหมอ ช่วยชีวิตลูกชายของพวกเราด้วย""หมอจะพยายามจนสุดความสามารถครับ"คุณหญิงแสงมณีร้องไห้ออกมาหัวใจของผู้เป็นแม่แทบจะแตกสลายเมื่อเห็นภาพลูกชายถูกรถชนไปต่อหน้าต่อตา คุณธำรงคว้าร่างของภรรยาเข้ามากอดตัวเขาเองก็รู้สึกตกใจไม่ต่างกันไม่นึกว่าราชาจะหยุดยืนอยู่ตรงกลางถนนอย่างกะทันหันแบบนั้น"ฮือ คุณคะลูกของเราจะเป็นอะไรไหม""ผมเชื่อว่าราชาจะต้องไม่เป็นอะไร ลูกของเราจะต้องปลอดภัยรวมถึงมะลิกับหลานของเราด้วย"'คุณพระคุณเจ้า ช่วยคุ้มครองลูกชายกับลูกสะใภ้และหลานของผมด้วย ช่วยคุ้มครองพวกเขาที'"คนไข้เสียเลือดมากและมีอาการเลือดคลั่งในสมอง ต้องทำการผ่าตัดด่วน""คุณหมอคะ คุณมะลิหัวใจเต้นอ่อนลงค่ะ""คนไข้หยุดหายใจครับคุณหมอ"ภายในห้องฉุกเฉินต่างวุ่นวายเมื่อคนไข้อาการหนักเข้าไปอยู่ในนั้นพร้อมกันถึงสองคน ทำเอาเหล่าพยาบาลแต่หมอต่างพากันวิ่งวุ่นจนหัวหมุ
วันเวลาเดินผ่านหมุนเวียนไป อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ผู้ชายที่มะลิรักก็จะต้องเข้าพิธีวิวาห์กับหญิงสาวที่ทางครอบครัวของเขาหามาให้ "ตื่นขึ้นมาได้แล้วนะมะลิ เธอจะนอนนานแบบนี้ไม่ได้นะ"น้ำเสียงอ่อนโยนของคุณหมอเพชรกล้าเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ดวงตาสั่นเครือคู่นั้นจ้องมองร่างเล็กบนเตียงคนไข้หัวใจแกร่งที่สั่นไหว"ฉันอยากให้เธอตื่นขึ้นมา ตื่นขึ้นมาหาฉันสักทีจะได้ไหม""...""พูดอะไรกับฉันหน่อยสิ อย่าเงียบแบบนี้"ไร้วี่แววว่ามะลิจะฟื้นขึ้นมาเธอนอนหลับตาไม่รู้สึกตัวราวกับว่าเธอได้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปเสียแล้ว"ฉันรักเธอนะ มะลิ"นี่คือสิ่งที่เพชรกล้าอยากบอกมะลิมาโดยตลอดแต่คนอย่างเขารู้ตัวเองดีว่าไม่มีสิทธิ์บรรยากาศในยามเช้า ณ บ้านหลังใหญ่ของฝ่ายเจ้าสาวกำลังอบอวลไปด้วยความสุข ใบหน้าสวยพริ้งพราวของดอกฟ้ามีแต่รอยยิ้มสดใส "คุณดอกฟ้าสวยที่สุดเลยค่ะ"ช่างแต่งหน้าเอ่ยชื่นชม สตรีร่างเล็กมีรูปโฉมสง่าผ่าเผยท่าท่ากิริยางดงามน่าชื่นชมอยู่ในชุดแต่งงานทรงไทยสไบเฉียงสีขาวขับเน้นผิวพรรณของนางให้ขาวกระจ่าง แม้แต่พวงแก้มทั้งสองข้างยังแดงปลั่งงดงามดุจดั่งภาพเขียนร่างเพรียวบางลุกขึ้นยืนหมุนกายไปมาตรงหน้ากระจกใส นั
ราชายืนนิ่งอยู่กับสิ่งที่ได้ยินเขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะช็อกกับเรื่องไหนก่อนดี ก่อนร่างสูงใหญ่ของราชาจะหมุนตัวเดินกลับออกไปเพราะไม่อยากให้ทั้งคู่ได้รู้ว่าเขายืนแอบฟังตลอดระยะทางที่นั่งอยู่บนรถเกิดความเงียบไร้เสียงพูดคุยจนชีต้าห์ขับรถมาจอดถึงหน้าปากซอยหมู่บ้านในเวลาพลบค่ำ"ฉันขอส่งแกแค่นี้นะ"ชีต้าห์พูดออกมาโดยไม่คิดจะหันหน้ามามอง"ฉันอยากรู้เรื่องราวของมะลิ ว่าเธอเป็นใครนายพอจะเล่าให้ฉันฟังจะได้ไหม""มะลิเธอก็เป็นเพื่อนของเราสองคนไง""ไม่ใช่""....""ฉันหมายถึง มะลิเธอมีคนรักไหม"คำถามของราชาเรียกความสนใจให้ชีต้าห์หันหน้ากลับมามอง"พยาบาลในห้องนั้นบอกฉันว่ามะลิกำลังจะมีน้อง ฉันก็เลยอยากจะรู้ว่าใครเป็นคนรักของเธอ"ริมฝีปากหยักเม้มเข้าหากันด้วยความประหม่ากับการหาข้ออ้างไม่ให้ชีต้าห์ได้สงสัย"มะลิเธอเป็นเพียงลูกสาวของแม่บ้าน ความรักของเธอนั้นมีแต่อุปสรรคที่ดันไปรักกับลูกชายของเจ้านาย"สุดท้ายแล้วชีต้าห์ยินยอมเปิดปากเล่าถึงความรักอันแสนหวานและขมขื่นของทั้งคู่"เธอกับผู้ชายคนนั้นรักกันมาก มากเสียจนไม่มีใครมาขัดขวางหรือคิดที่จะเข้ามาแทรกกลางได้ แต่ก็อย่างว่า ความรักของลูกชายกับเจ้ากับลูกสาวคนใช้
โรงพยาบาลตึก ตึก ตึกชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สองคนเดินเข้ามาภายในโรงยาบาลโดยมีร่างของชีต้าห์เดินนำหน้าไปยังห้องปลอดเชื้อสำหรับคนไข้ที่มีอาการรุนแรงอยู่ในตอนนี้ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือมะลิที่สามารถเฝ้ามองดูเธอผ่านกระจกแผ่นใสตึก"ผมมาเยี่ยมมะลิครับ""เชิญเลยค่ะคุณชีต้าห์ แต่มีเวลาเยี่ยมแค่สิบนาทีนะคะ""ขอบคุณมากครับ"ชีต้าห์หันมาพยักหน้าให้ราชาเดินตามตนเองเข้าไป ห้องพักมากมายถูกแบ่งแยกไว้เป็นสัดส่วนมีทั้งพยาบาลและหมอเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดตึก"ถึงแล้ว"ทั้งสองเดินมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของกระจกสามารถมองเห็นเข้าไปด้านในได้ ร่างกายของราชาราวกับถูกแช่แข็งเอาไว้เมื่อได้เห็นร่างหมดสติของมะลิกำลังนอนรักษาตัวอยู่บนเตียง"มะลิ ธะ...เธอเป็นอะไรทำไมถึงได้"ตอนแรกเขาคิดว่าเธอคงจะเป็นไข้ไม่สบายตามปกติ แต่เมื่อได้เห็นเครื่องช่วยหายใจสายระโยงระยางมากมายมันยิ่งทำให้ความคิดของเขาเริ่มเปลี่ยนไปใบหน้าสดใสดั่งในรูปกลับกลายเป็นใบหน้าซูบเซียวไร้สีเลือดไม่มีความสดใส ผิวพรรณขาวใสกลับซีดเซียวดั่งราวหิมะ ลมหายใจผ่อนเข้าออกอย่างเชื่องช้าราวกับว่าคนบนเตียงกำลังรู้สึกเหนื่อยจนไม่สามารถหายใจด้วยตนเองได้ เพียงแต่ได้เห็นก็ทำให้หั
เมฆหมอกครึ้มควันสีจางไม่มีวันเลือนหาย ร่างกายอ่อนแรงบนเตียงคนไข้ลืมตาตื่นขึ้นมา หยาดน้ำตารินไหนออกมาดั่งราวกับสายเลือดเมื่อนึกย้อนกลับไปก่อนเธอจะได้เข้ามาอยู่ในที่แห่งนี้'ความรักของเราสองคนมันคงจบลงแล้ว'นี่คือสิ่งที่เธอคิดมาตลอดและมันก็เป็นจริงดั่งว่าไว้"อาการของคนไข้กำลังอยู่ในวิกฤต หมออยากให้คนไข้ยุติการตั้งครรภ์เพื่อทำการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายหัวใจ"หมอคนเดิมที่รักษาอาการของเธอมาตั้งแต่ข้างต้นได้กล่าวเอาไว้ แม้มันจะเป็นทางเลือกที่ทำใจยากแต่มันเป็นทางเดียวที่จะรักษาชีวิตของมะลิเอาไว้ได้"คุณมะลิครับ"ใบหน้าซีดเซียวเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาหันมามองหน้าของคุณหมอด้วยความเศร้าเสียใจ"รักษาตัวเองก่อนเถอะนะครับ""ฮือ"เสียงสะอื้นของคนไข้ทำให้คนเป็นหมอเองก็แทบจะน้ำตาไหลเขารู้สึกเห็นใจหญิงสาวอยู่ไม่น้อย เหลือเวลาอีกเพียงแค่สีเดือนเท่านั้นที่ลูกน้อยจะได้ออกมาลืมตาแต่ทว่าร่างกายของเธอกลับแบกรับเอาไว้ไม่ไหว"มะลิทำไม่ได้ค่ะคุณหมอ อย่าบังคับให้มะลิต้องทำร้ายลูกเลยนะคะ"หัวอกคนเป็นแม่ย่อมไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ลูกน้อยเป็นดั่งแก้วตาดวงใจแม้จะยังไม่ได้เห็นหน้าแต่ความรักความผูกพันผ่านทางสายเลือดไม่สามารถบังคับใ
เพชรกล้าสั่งทุกคนให้ปิดเรื่องข่าวการแต่งงานระหว่างราชากับดอกฟ้าเป็นความลับ ห้ามคนในบ้านพูดถึงเพราะไม่ต้องการให้มะลิได้รับรู้ เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนเธอก็จะให้กำเนิดลูกน้อยออกมาและเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะเป็นคนผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้เธอเองแต่ใครจะไปติดล่ะว่าทางด้านครอบครัวของราชาจะออกมาประกาศข่าวจนมีนักข่าวให้ความสนใจจนเป็นที่รับรู้กันทั้งประเทศว่าลูกชายของนักธุรกิจใหญ่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในไม่ช้านี้"มะลิ"เพชรกล้ารีบวิ่งเข้ามาคว้าร่างของมะลิโดยทันทีเมื่อเธอดันเคลื่อนทีวีเจอครอบครัวของราชาและดอกฟ้าแถลงข่าวซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี ร่างเล็กโอบอุ้มลูกน้อยในครรภ์เอาไว้ทรุดกายลงนั่งบนโซฟาตัวใหญ่อย่างคนไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนไหว"คุณเพชร"ใบหน้าซีดเซียวของมะลิอาบไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาจนเปียกชุ่มทันทีเมื่อได้เห็นข่าวคนรักกำลังจะแต่งงานในไม่ช้านี้"ไม่เป็นอะไรนะ เธอยังมีฉันอยู่ตรงนี้""ฮึก มะลิเจ็บเหลือเกินค่ะ"สีหน้าของเธอแสดงถึงความเจ็บปวดและทรมานจนหายใจแทบจะไม่ทัน มันเหมือนกับว่ากำลังมีใครเอามือมาบีบหัวใจของเธอเอาไว้ให้เต้นลงช้า ๆ "มะลิ เธออย่าหลับนะ"เพชรกล้าคว้าร่างอ่อนแรงของมะลิขึ้นมาอ
เมืองไทยหนึ่งอาทิตย์ต่อมาคุณธำรงและทุกคนต่างพากันเดินทางกลับมาเมื่อไทย ราชากวาดสายตามองไปยังบริเวณโดยรอบด้วยความไม่คุ้นเคย แม้จะเดินทางกลับมาถึงบ้านหลังใหญ่ความทรงจำก็คงยังไม่กลับมาเหมือนกับความทรงจำในอดีตมันถูกลบไปจนหมด"พรุ่งนี้พ่อกับแม่จะไปดูฤกษ์แต่งงาน ในระหว่างนี้แกต้องพักอยู่ที่นี่ห้ามออกไปไหนเข้าใจไหม"น้ำเสียงเด็ดขาดของผู้เป็นใหญ่ในบ้านทำให้ราชาได้แต่พยักหน้ารับ ถึงแม้ผู้เป็นบิดาจะไม่เอ่ยปากออกคำสั่งเขาเองก็ไม่คิดที่จะก้าวขาออกไปไหนเมื่อวันเวลาผ่านพ้นไปราชาได้ใช้ชีวิตผ่านไปวัน ๆ ภายในบ้านเขาขาดการติดต่อจากโลกภายนอก แม้อยากจะถามบิดาและมารดาถึงเรื่องราวก่อนที่เขาจะประสบอุบัติเหตุแต่ก็ไม่กล้าเพราะทุกคนในตอนนี้กำลังวุ่นวายอยู่กับการจัดงานแต่งงานซึ่งกำลังจะถึงวันนั้นภายในไม่ช้า"พี่ราชาว่าชุดนี้สวยไหมคะ"น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยถามว่าที่เจ้าบ่าวพร้อมกับหมุนตัวไปมา ดอกฟ้าในชุดเจ้าสาวสีขาวแบบเกาะอกกระโปรงฟูฟ่องลากยาวดั่งเจ้าหญิงกำลังส่งยิ้มอ่อนหวานมาให้ ความดีใจแสดงบนดีใจหน้าฉายผ่านแววตาอย่างปิดบังไม่มิด"ชุดแต่งงานชุดไหนก็สวยเหมือนกันหมดนั่นแหละ รีบ ๆ เลือกเร็วเข้าฉันหิวข้าว"เพราะตั้งแต
รุ่งเช้าวันต่อมาปังเสียงประตูบานใหญ่ภายในห้องนอนถูกผลักเข้ากระแทกเข้ากับฝาผนังจนเกิดเสียงดังปลุกให้ร่างของทั้งสองชายหญิงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา "ราชา หนูดอกฟ้า"คุณธำรงตะเบ่งเสียงเรียกชื่อของทั้งสองเสียงดังลั่นก่อนทั้งคู่นั้นจะรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นว่าใครกำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตู"คุณพ่อ คุณแม่"ดอกฟ้าแสดงสีหน้าตกใจเมื่อเห็นว่าทั้งบิดาและมารดากำลังยืนโกรธหน้าดำหน้าแดงไม่พอใจอยู่ใกล้กับพ่อแม่ของราชาที่เดินทางมาพร้อมกัน"รีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วตามลงไปข้างล่าง"คุณแสนชัยจ้องมองหน้าลูกสาวด้วยแววตาจริงจังก่อนจะจูงมือภรรยาเดินลงไปชั้นล่างตามด้วยบิดาและมารดาของราชา"ฮึก"ดอกฟ้าถึงกับน้ำไหลเพราะรู้ตัวเองดีกว่ากำลังทำตนให้บิดาและมารดาเสียใจ ใบหน้าสวยมีหยาดน้ำตาไหลจนราชานึกเห็นใจเพราะความผิดพลาดในครั้งนี้มันเริ่มต้นมาจากเขาเอง"ดอกฟ้า""ฮึก พี่ราชาไปอาบน้ำเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณลุงกับคุณป้าจะรอนาน""ไม่ เราสองคนต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"ราชาออกแรงคว้าตัวหญิงสาวให้เข้ามาใกล้ แต่แรงกระชากของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ทำให้ดอกฟ้าต้องเผลอเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บ"อื้อ เจ็บ""ขอโทษ เธอเจ็บตรงไหน""ดอกฟ้
ยามค่ำคืนดึกเงียบสงัดมีสองร่างของชายหญิงกำลังนั่งรับประทานอาหารภายในบ้านกันอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบเชียบไร้เสียงพูดคุย สีหน้าและแววตาของราชาดูสดชื่นมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนคงเป็นเพราะเขาออกไปนั่งรับลมอยู่ตรงบริเวณสวนดอกไม้ทุกวันซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่สร้างความหงุดหงิดให้กับดอกฟ้า "พี่ราชาอิ่มแล้วเหรอคะ"ดอกฟ้าเอ่ยทักเมื่อเห็นราชารวบช้อนก่อนจะวางลงบนจาน"อืม ฉันอิ่มแล้ว เธอทานเถอะเดี๋ยวฉันนั่งอยู่เป็นเพื่อน"ชาราพูดออกมาโดยไม่คิดอะไร เขาคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อดับความกระหายโดยมีสายตาของดอกฟ้าจ้องมองอยู่ มุมปากเรียวสวยคลี่ยิ้มหวานเมื่อชายหนุ่มดื่มน้ำในแก้วจนหมด"อาการของพี่ราชาเป็นยังไงบ้างคะตอนนี้ ยังรู้สึกปวดตรงไหนอยู่หรือเปล่าคะ""ไม่แล้วล่ะ แต่ช่วงนี้ฉันแค่รู้สึกปวดนิดหน่อย"ดอกฟ้าพยักหน้ารับ เธอมองหน้าราชาด้วยความหลงใหลและใจรัก เธอรักผู้ชายคนนี้คนที่ไม่เคยเห็นคุณค่าของเธอเลย"ฮึก อื้อ""เป็นอะไรคะพี่ราชา"ดอกฟ้ารีบวางช้อนก่อนจะลุกขึ้นพุ่งเข้ามาหา ดวงตาของเธอแสดงออกถึงความเป็นห่วง"ฉันเป็นอะไรก็ไม่รู้ ฮึก"ภายในกายร้อนวูบวาบอย่างไม่ทราบสาเหตุขึ้นมาทันควันซึ่งความรู้สึกเหล่านั้นมัน