แชร์

ความทรงจำในวันวาน 1

“อีกสามวันเท่านั้น แกจะเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในจังหวัด ไม่สิ อาจจะในภาค หรือประเทศด้วยซ้ำ” เสียงชื่นชมยินดียังคงดังออกมาไม่ขาดปาก เมื่อศจีเอ่ยถึงชุดเจ้าสาวที่ถูกตัดเย็บอย่างประณีต ราคาของมันอีกเล็กน้อยก็จะขึ้นเจ็ดหลักอยู่แล้ว หญิงสาวชื่นชมมันด้วยความยินดีแกมอิจฉา ไม่คิดเลยว่ารุ่นน้องที่ฝึกงานด้วยกันเมื่อหลายปีก่อนจะมีบ้านหลังใหญ่โตขนาดที่ว่าต้องขับรถจากบานประตูสูงเทียมฟ้าเข้ามาในตัวบ้านเลยทีเดียว

“ถ้าหนูเลือกได้หนูให้พี่แต่งแทนหนูแล้วพี่ศจี” ว่าที่เจ้าสาวกลับเอ่ยถ้อยคำออกมาด้วยท่าทีเบื่อโลกเสียอย่างนั้น

มณีรัตน์นั่งจ่อมอยู่กับโต๊ะทำงานของเธอมาตั้งแต่เช้า ไม่ได้สนอกสนใจชุดเจ้าสาวที่เพิ่งตัดเสร็จซึ่งถูกนำเอามาให้ชื่นลมเลยสักนิดเดียว ภายในห้องหับที่โอ่โถง ประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งนำเข้า กระทั่งพรมเช็ดเช้ายังราคาหลักหมื่น แต่มณีรัตน์หาได้ปรารถนาสิ่งเร้าเหล่านั้นไม่

“หนูไม่ได้รักเขาเลย...ไม่เลยจริง ๆ”

ศจีถอนหายใจ เดินเข้ามาวางมือบ่นบ่าหญิงสาวจากด้านหลังเพื่อให้กำลังใจ “มันเป็นเรื่องของธุรกิจสินะ ทำไงได้ ครอบครัวของแกมีธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้ามูลค่าเป็นพัน ๆ ล้านต่อปี จะให้ลูกสาวมาแต่งงานกับไอ้เข้ม ไอ้ดำ ไอ้ขุนที่ไหนไม่รู้ก็คงไม่ได้แหละ”

“แต่พี่รู้ไหม ว่าฉันเองก็อยากจะมีชีวิตของตัวเองเหมือนกัน”

ศจีทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้หรูยกเท้าไขว่ห้างกอดอก “นี่แหละน้า...ลูกคนรวยที่มีพร้อมอยู่แล้วก็มักจะตามหาชีวิตธรรมดา ส่วนคนอย่างนังศจีที่หาเช้าก็กินเช้า อยากถูกหวยแล้วรวย นั่งกินนอนกินเฉย ๆ”

มณีรัตน์หน้าเง้า หันมองรุ่นพี่ “ถ้ามันรวยแล้วมันอิสระก็ว่าไปอย่างค่ะ แต่นี่ตั้งแต่เกิดมา หนูไม่เคยได้รู้สึกว่ามีชีวิตของตัวเองเลย จนกระทั่งได้ไปเรียนที่ต่างปประเทศนั้นแหละที่พอจะได้อิสระบ้าง ตั้งแต่หนูเกิดจนโตมา หนูไม่เคยได้ยินคำว่า จะเอาอะไร อยากได้อะไรไหมลูก จากพ่อกับแม่เลย มีแต่คำว่า ต้องเอาอันนี้สิลูก ต้องทำแบบนี้สิลูกจากพ่อเสมอ ถ้าบอกว่าหนูเป็นหุ่นยนต์ที่รูปร่างเหมือนมนุษย์ที่สุดก็คงจะใช่”

“ขอโทษที่พูดอะไรไม่ค่อยดีออกไปนะ แต่พี่แค่รู้สึกว่าคนเรามันก็อยากได้อยากมีทั้งนั้น”

“และหนูก็อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง”

ศจียกสองมือขึ้นยิ้มกว้าง “โอเคจ้ะ น้องมณีรัตน์คนงามทรายเชยของพี่...พี่ยอมแล้ว แต่แบบนั้นจะทำยังไงล่ะ ในเมื่อทุกอย่างมันถูกจัดวางเอาไว้แล้ว และมันก็เป็นเรื่องของธุรกิจแบบสามร้อยเปอร์เซ็นต์”

“หนูอยากจะไปทำงานที่ร้านกาแฟของพี่นะ แต่นั่นแหละ ถ้าไปแค่นั้นก็คงจะโดนลากคอกลับมาแน่นอน” มณีรัตน์ถอนหายใจ “เฮ้อออ...หนูละอยากจะหนีไปไกล ๆ อยากไปในที่ที่พ่อตามหาหนูไม่เจอ ให้เขาได้รู้ว่าหนูไม่ใช่สิ่งของที่จะบงการทุกอย่าง...” คนพูดกล่าวด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ

มณีรัตน์ ลูกสาวคนสุดท้องของนักธุรกิจใหญ่ที่ถูกขนานนามว่าเจ้าสัวแห่งการส่งออก เธอเกิดมาบนกองเงินกองทองสูงเทียมฟ้า ชีวิตของเธอฝ่าเท้าแทบจะไม่ได้สัมผัสพื้นดินเลยด้วยซ้ำ ด้วยความที่เป็นลูกคนสุดท้ายก่อนที่แม่ของเธอตัดสินใจทำหมัน ทำให้มณีรัตน์ได้รับความรักและความเอ็นดูจากบรรดาพี่ ๆ และคนรอบตัวเต็มเปี่ยมมาตั้งแต่เด็ก

ทว่ามันเต็มจนล้น

ทุกคนต่างมั่นใจว่าจะมีเรื่องราวดี ๆ ของที่สมฐานะ หรือเครื่องใช้ที่หรูหรามามอบให้เธอ ต่างมั่นใจว่าการได้สรรหาข้าวของเหล่านั้นมาปรนเปรอ เธอจะมีความสุข เพียงแต่มณีรัตน์กลับคิดเพียงอย่างเดียวว่าเธอดูเหมือนตุ๊กตากระดาษที่ใครจะดึงทึ้งเธอไปทางไหนก็ได้ ทั้ง ๆ ที่ความฝันของเธอเป็นเพียงเรื่องง่าย ๆ ได้ใช้ชีวิตแบบไม่ลำบาก รวมทั้งเขียนนิยายที่เธอโปรดปราน

กระทั่งตอนที่เธอเรียนอยู่และนิยายของเธอได้รับการเสนอซื้อลิขสิทธิ์ตีพิมพ์ เธอยังไม่กล้าบอกที่บ้านด้วยซ้ำ เพราะเม็ดเงินที่ได้รับจากตรงนั้นจะโดนพ่อของเธอดูถูก สุดท้ายก็จะน้อยอกน้อยใจ พูดกับเธอว่า พ่อทำให้หนูลำบากจนต้องเสียเวลาไปเหน็ดเหนื่อยแลกกับเศษเงินแค่นั้นเองหรือ?

แต่พ่อไม่เคยถามเลยว่าเธอภูมิใจและรู้สึกมีความสุขจากสิ่งที่ได้ทำบ้างไหม?

ความสุขของเธอ...คือคำสั่งจากพ่อ เธอจะต้องมีความสุข เท่านั้น นั่นแหละคือพ่อของเธอ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status