แชร์

ปีศาจแห่งท้องทะเล 1

“นี่คนนะ ทำกันเบา ๆ บ้างก็ได้” มณีรัตน์แหวใส่โจรสลัดหนุ่มทันทีที่เธอถูกโยนลงบนเรือเล็ก และเธอเพิ่งสังเกตว่ามีอีกหลายลำที่ประกบติดกับเรือขนส่งสินค้านี้อยู่ มันเป็นรูปแบบการปล้นที่รวดเร็วฉับไว อีกทั้งยังมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วย ทั้งจีพีเอส และโซน่า แสดงว่าโจรสลัดกลุ่มนี้ไม่ใช่โจรกระจอก

“ปกติล้มลงแต่บนกองเงินกองทองงั้นสินะ ถึงได้ไม่เคยเจ็บตัวอะไรกับเขาเลย”

โจรสลัดหนุ่มไม่ยี่หระ เขาติดเครื่องเรือแล้วขับออกไปทันทีโดยไม่สนใจว่าร่างกายของมณีรัตน์นั้นจะถูกแรงเหวี่ยงสะบัดไปซ้ายทีขวาทีจนมึนหัวไปหมด

เรือเล็กแล่นแหวกเกลียวคลื่นเข้าไปในทะเลลึก นั่นเป็นช่วงเวลาที่หญิงสาวไม่รู้ทิศรู้ทางอีกแล้ว เธอไม่มีวันรู้ด้วยซ้ำว่าจะไปที่ไหน...หรือจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่เส้นขอบฟ้าในวันต่อไปหรือไม่ มันเป็นความสิ้นหวังที่สุดในชีวิต

“ไม่ต้องพาฉันไปไหนทั้งนั้น พาฉันขึ้นฝั่ง แล้วจะโทรบอกพ่อให้เอาเงินมาให้”

“เฮอะ...” โจรหนุ่มแค่นหัวเราะ ก่อนจะปลดส่วนที่ปิดหน้าของหมวกหนาใบนั้นออกแล้วกระชากมันโยนลงไปกับพื้น แววตาของเขาแข็งกร้าว หากแต่ใบหน้าที่ดุดันนั้นกลับมีเสน่ห์เสียจนมณีรัตน์รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาในอกจนหัวใจเต้นตุบ ๆ แยกไม่ออกว่าเป็นเพราะรู้สึกตื่นตกใจกลัวหรือว่าเพราะอะไรกันแน่

อะไรกัน...

ร่างกายของผู้ชายนี้กำยำล่ำสัน แสงสว่างจากภายในเรือทำให้เห็นผิวพรรณที่เข้มคล้ำกร้านแดด หากแต่เครื่องหน้ากลับอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเอ่ยได้ว่าเขาเป็นหนุ่มรูปงามเสียทีเดียว ความรู้สึกของมณีรัตน์ ณ เวลานี้เธอเหมือนต้องมนตร์ จดจ้องเพียงใบหน้าของโจรสลัดที่เพิ่งลากถูเธอมาที่นี่ คิ้วเข้ม ดวงตาคมกริบ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักเล็กน้อยพอได้ขับเคลื่อนโครงหน้าให้ชวนมอง เส้นผมตรงปรกหน้า หากแต่เมื่อกระแสลมพัดผ่านให้เส้นผมปลิวสยาย รอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่คิ้วของเขากลับปรากฏชัด มันทั้งกว้าง และเป็นทางยาว แม้จะดูหน้ากลัว แต่มันกลับชวนพิศวงในอก

เขาดูดีเกินกว่าจะมาเป็นโจรสลัดด้วยซ้ำ...

“เธอคิดว่าฉันจะโง่ขึ้นฝั่งให้โดนจับงั้นเหรอ พวกเราคือโจรสลัด อาณาเขตของเราคือท้องทะเล ถ้าพ่อรักเธอจริง ต่อให้ต้องฝ่าคลื่นลมพายุก็ต้องมาช่วยสิ” โจรสลัดหนุ่มเลิกคิ้วแล้วออกเรือต่อไป โดยไม่ได้หันกลับมามองว่าตอนนี้สีหน้าของเชลยสาวสิ้นหวังขนาดไหน

นั่นสินะ เรื่องที่เธอก่อขึ้นมา...พ่อจะรักเธอขนาดที่ยอมทำแบบนั้นเพื่อมาพาเธอกลับไปหรือเปล่า หากว่าพ่อรู้

ตอนนี้ที่งานจะวุ่นวายขนาดไหนกันนะ

พ่อจะคิดว่าเธอหนีไปที่ไหน จะรู้หรือเปล่า ว่าระหว่างความเป็นกับความตาย เธอมีมันโอบกอดอยู่อย่างเท่าเที่ยมกัน

เรือแล่นไปอีกหลายสิบนาที กว่าที่เขาจะเริ่มชะลอความเร็วลงไป แม้ท้องฟ้าจะค่อนข้างมืด แต่มณีรัตน์มองเห็นสีดำทะมึนของทิวเขาเล็ก ๆ เหมือนว่าตอนนี้เขาจะมาจอดที่เกาะแห่งหนึ่ง โยนสมอทิ้ง เมื่อสายตาชินกับความมืดก็ได้เห็นว่าบริเวณท่าเทียบเรือมีเรือเล็กใหญ่อีกหลายลำ และมีเรือที่สามารถขนส่งคนได้ปริมาณมากลำหนึ่งจอดเอาไว้อยู่ มันทำให้เธอเกิดความสงสัยว่าโจรสลัดพวกนี้รวยกันขนาดนี้เชียวหรือ

การปล้นแต่ละครั้ง พวกมันได้อะไรกันบ้าง

“มานี่”

ข้อมือถูกกระชากอย่างแรง มณีรัตน์กรีดร้อง แต่รั้งแรงของอีกฝ่ายไม่ไหวเลยจริง ๆ เขาสามารถยกตัวเธอด้วยมือข้างเดียวได้ด้วยซ้ำ จนกระทั่งเขาฉุดกระชากเธอมายังบ้านหลังเล็กหลังหนึ่ง มันเป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นมาจากดิน หลังคามุงจาก แต่กลับดูแข็งแรงน่าเหลือเชื่อ ตะเกียงจ้าวพายุเหม็นน้ำมันก๊าดหึ่งคือสิ่งให้แสงสว่าง เตียงนอนเองก็ถูกสร้างขึ้นมาอย่างง่าย ๆ เท่านั้น

โจรสลัดหนุ่มโยนเธอลงไปบนเตียง กระโจนคร่อมร่างกายของเธอเอาไว้ทันที

“นี่แกจะทำอะไรฉัน...” มณีรัตน์พยายามกระถดตัวหนีด้วยความกลัวจับใจ

ใบหน้าคมเข้มยกยิ้ม “นาน ๆ จะมีสาวสวย ๆ มาอยู่แบบนี้...คิดว่าฉันจะจับเธออาบน้ำแร่แช่น้ำนมเหรอ...ไม่เสียหรอก มีแต่น้ำข้น ๆ ของฉันนี่แหละที่จะราดรดบนตัวเธอ”

“อ๊ะ ว้ายยย!!!”

สองมือถูกแขนแกร่งจับยกขึ้นเหนือศีรษะ แรงมหาศาลขนาดที่ว่ามณีรัตน์แทบจะจนแต้ม ทั้งพยายามผลัก ถีบ แต่มันไม่เป็นผลเลยด้วยซ้ำ เมื่อลมหายใจร้อนผ่าวค่อย ๆ ดังใกล้เข้ามา มันเต็มไปด้วยความหิวกระหายของสัตว์ร้ายแห่งท้องทะเล ก่อนจะจุมพิตลงที่ลำคอของมณีรัตน์ทันที

เธอดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดแรง ไม่ต้องการให้มีตำหนิบนเรือนร่างของเธอ หากแต่มันเป็นเพียงความฝันลม ๆ แล้ง ๆ นั่นเพราะว่าบัดนี้ ความเจ็บแสบจากการดูดดุนของอีกฝ่ายฝังลึกลงมาที่คอของเธอราวกับอสรพิษฝังเขี้ยวและฉีดพิษให้ซึมซาบทั่วร่างกายของเธอ

อกแกร่งโถมทับลงมา มือที่จับกุมยังคงบีบแน่นยิ่งขึ้นหากว่าเธอนั้นยังพยายามจะขัดขืนต่อไป สัมผัสที่วามหวิวเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน ลมหายใจร้อนผ่าวกวาดต้อนตัวของเธอไปที่รอบ ๆ ลำคอระหง ฝากรอยแดงด่างเอาไว้อย่างไม่รู้จบ พร้อมกับเริ่มตรึงแขนทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ด้วยกันด้วยเชือกป่านเส้นหนึ่ง

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status