Chapter 5
บัวชมพูคว้ากระสอบกับเสียมเดินดุ่ม ๆ ไปที่ป่าไผ่ท้ายหมู่บ้าน มันเป็นป่าไผ่ของผู้ใหญ่สิงห์คนโหด ใครก็ไม่กล้าเข้ามาสับหน่อไม้กิน เพราะต่างเกรงกลัวผู้ใหญ่สิงห์
ส่วนเธอน่ะเหรอ ไม่เคยกลัว มาสับไปขายตลอดบ่อย ฝนตกพายุเข้าเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว หน่อไม้กำลังขึ้นหลายหน่อ มีทั้งหน่อยาวหน่อสั้น หน่อดินเกิดขึ้นเยอะ เป็นที่ต้องการของลูกค้าในตลาด
“หูยเยอะจังเลย” บัวชมพูรีบสับหน่อไม้ วันนี้หน่อไม้ออกเยอะ สับแป๊บเดียวได้เกือบเต็มกระสอบ ได้แต่หน่อสวย ๆ ยิ่งหน่อดินยิ่งขาวน่ากิน พอได้ตามที่ต้องการก็เอาไปนั่งปอกที่กระท่อมไม้ไผ่ เป็นกระท่อมของผู้ใหญ่สิงห์ ทำไว้แถวป่าไผ่นั่นแหละ
หน้าฝนเธอก็หาสับหน่อไม้แบบนี้ตลอด ผู้ใหญ่ชีกอปลูกไว้ ไม่มาดูแลไม่มาสับไปกินไปขาย เธอเลยจัดการให้ซะเลย ^[]^
ปอกหน่อไม้เสร็จก็จะเอาไปต้ม ต้มทั้งหน่อแล้วเอามามัดขาย มัดล่ะยี่สิบสามมัดห้าสิบ หน่อใหญ่ก็เอามาฝานต้มใส่ถุงขาย มากหน่อยก็ทำหน่อไม้ถุงไว้ขาย ทำไว้กินได้ตลอดทั้งปี ขายได้เก็บได้ เอามาแปรรูปได้หลายอย่าง
“อีบัวเอ้ย วันนี่ไม่ต่ำกว่าห้าร้อยแน่มึง” บัวชมพูพูดอย่างดีใจ
“กูก็นึกว่าใคร?” น้ำเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นพร้อมกับชายฉกรรจ์อีกสี่คน บัวชมพูเห็นขวับไปมอง ผู้ชายที่พูดเมื่อครู่คือปกรณ์รุ่นพี่จอมเกเรในหมู่บ้าน ถัดไปอีกหน่อย ก็เป็นผู้ชายจากหมู่บ้านอื่น
“น้องบัวคนสวยของเรานี่เอง”
“พี่ปกรณ์”
“น้องบัวคนสวยมาทำอะไรในป่าไผ่คนเดียว” ปกรณ์เห็นแล้วว่าหญิงสาวมาสับหน่อไม้ แต่เขาแกล้งยียวนไปงั้น “ป่าหน่อไม้ผู้ใหญ่สิงห์ซะด้วย ผู้ใหญ่รู้น้องบัวซวยแน่”
“พี่มีอะไร?”
“พี่จะมาช่วยน้องบัวปอกหน่อไม้”
“ไม่ต้องมายุ่งค่ะ บัวทำเองได้”
“ถ้าไม่อยากให้ยุ่ง พวกพี่ขอทำอย่างอื่นนะ”
“ทำอะไร?”
“หาความสุขไงจ๊ะ ถอดผ้ากระแทกร่องน้องบัว” ปกรณ์ว่าแล้วเข้าคุกคาม กอดรัดร่างบอบบางพวงชมพูเอาไว้
“ว๊าย หยุดนะจะทำอะไร?” บัวชมพูตกใจ คว้าด้ามเสียมฟาดเข้าที่ศีรษะปกรณ์อย่างแรง ร่างหนานั้นล้มตึงไปกองกับพื้น เธอทั้งเตะทั้งถีบ แต่ชายอีกสี่คนก็กรูเข้าจับตัวบัวชมพู “ปล่อยนะ!”
“โอ๊ยอีเหี้ย แม่ง! กูหัวแตกเลย” ปกรณ์สบถลุกขึ้นยืน เลือดสีแดงสดไหลอาบแก้ม
“ช่วยด้วย”
“ไม่มีใครช่วยมึงได้หรอก”
“กรี๊ดดดด!” ชุดที่สวมใส่ถูกกระชากอย่างแรงจนขาดวิ่น ชายฉกรรจ์ทั้งสี่ส่งเสียงฮือฮา เมื่อเห็นอกอวบถูกห่อหุ้มด้วยบราสีชมพู กางเกงขายาวถูกดึงหลุดพ้นปลายเท้าเหลือเพียงแพนตี้ตัวจิ๋ว
“อา สวยทั้งตัวเลย”
“ช่วยด้วย ปล่อยนะ!”
“มัดปากมันไว้สิว่ะ ปล่อยให้มันแหกปากร้องอยู่ได้” ปกรณ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด เอามือกุมศีระเอาไว้ “อีเหี้ยนี่ กูจะกระแทกให้แหกเลย”
“กูจัดการมันให้เอง” เพื่อนของปกณ์ยิ้มร่า ดึงบราของบัวชมพูออก เต้าสวยดีดเด้ง ชายทั้งสี่ยิ่งส่งเสียงชอบใจ “แม่งเอ้ย เห็นผอม ๆ ไม่คิดว่าจะซ่อนรูป แม่งเอ้ย สวยชะมัด!”
“กูจะดูดน มมัน” ชายอีกคนทำหน้าหื่นกาม ส่วนอีกสองคนจับเธอขึงพืดกับพื้นกระท่อม ใบหน้าสวยส่ายไปมา น้ำตาไหลรินออกมาอย่างหวาดกลัว เธอสู้ไม่ได้แน่เพราะคนใจสัตว์พวกนี้เยอะกว่า จะตะโกนให้ใครช่วยก็ไม่ได้เพราะถูกมัดปากเอาไว้
“อา กูจะถอดกางเกงในมัน อยากรู้เหมือนกัน ว่าตรงนั้นจะสวยแค่ไหน กลีบน่าจะสีชมพูปิ๊ง”
“จัดการเลย”
“ฮ่า ๆ”
“ก็ูจะเย่อให้แหกเลย แม่งตีกูหัวแตก มันต้องโดนให้หนัก” ปกรณ์เข่นเคี้ยว มองเด็กสาวอย่างแค้นเคือง
“อ่อย ๆ อือ ๆ อ่อยอัน” บัวชมพูพยายามดิ้นรน ยิ่งเห็นนัยน์ตาหื่นกามของพวกคนใจทราม เธอก็ยิ่งรังเกียจ
ปกรณ์เริ่มจูบไปตามเนื้อตัว บัวชมพูยิ่งขยะแขยง ในขณะที่เธอร้องไห้รู้สึกหมดหวัง เสียงปืนก็ดังขึ้น
ปัง!
“ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้ไอ้พวกเวร!” พวกใหญ่สิงห์ยืนจังก้า เล็งปืนลูกซองไปที่ชายทั้งห้า ใบหน้าคมเข้มถมึงทึง มองชายพวกนั้นอย่างโกรธจัด
“ผะ…ผู้ใหญ่สิงห์” ปกรณ์หน้าซีดเผือด แข้งขาสั่นขึ้นมาดื้อ ๆ ผู้ใหญ่สิงห์ใคร ๆ ก็รู้ว่าโหดแค่ไหน ยิ่งมาทำอะไรไม่ดีในที่ของผู้ใหญ่สิงห์ โดนจับได้แบบนี้ มีแต่ซวยกับซวย
“เออ กูเอง กูให้โอกาสพวกมึงได้วิ่ง ถ้าวิ่งทันก็ไม่แดกลูกปืน แต่ถ้าวิ่งไม่ทัน พวกมึงตาย!”
บัวชมพูไม่คิดเลยว่า ตอนที่เธอกำลังหมดหวัง ผู้ใหญ่สิงห์คนที่เธอเกลียดชัง จะเป็นคนมาช่วยเหลือ น้ำตาเธอไหลพรากออกมาอย่างดีใจ ถึงจะเกลียดเขามากแค่ไหน แต่เขาก็เป็นคนที่มาช่วย
ปัง! กระสุนนัดแรกยิงเฉียดใบหูปกรณ์ไปชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด ชายทั้งห้าใส่เกียร์หมาวิ่งแตกกระเจิงไปคนล่ะทิศล่ะทาง พร้อมกับเสียงปืนและกระสุนที่พุ่งตามรัว ๆ
“โอ๊ย ไอ้ผู้ใหญ่ยิงขากู”
“วิ่งไปอย่าหยุด!”
“เหี้ยเอ้ย แม่งเหี้ยอะไร!?”
ปัง ๆ
“อ้าก เหี้ย แม่งเอ้ย!” ผู้ใหญ่สิงห์ขาโหดยิงปืนตาม ถ้าวิ่งช้าก็โดนยิง ถ้าวิ่งเร็วก็รอด
“ลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าได้แล้ว หรือจะให้พวกมันมารุมโทรมเธออีก ถึงจะลุกได้” น้ำเสียงเข้มนั้นทำให้หญิงสาวที่นอนคุดขู้อยู่ ยกมือปิดอกตัวเอง หันมามองหน้าเขา “ลุกสิ หรือจะให้ฉันเรียกพวกมันมา”
“…” บัวชมพูลุกขึ้นรีบหันหลังให้ แล้วเอาผ้าที่ปิดปากออก “ผู้ใหญ่ก็รีบไปสิ ฉันจะได้ใส่เสื้อผ้า”
“ไม่ต้องอายหรอก เพราะฉันเห็นหมดแล้ว”
“นี่ผู้ใหญ่!”
“อย่ามาขึ้นเสียง ฉันเป็นคนมาช่วยนะ” เขาถอดเสื้อแขนยาวมายื่นให้ “ใส่ จะได้กลับ ส่วนพวกหน่อไม้ ฉันจะให้ลูกน้องมาขนไป เธอกล้ามากที่มาขโมยหน่อไม้ฉัน เบ็ดที่บ่อปลา ก็คงจะเป็นของเธอด้วยสินะ”
“…” บัวชมพูไม่พูดตอบ พอใส่เสื้อผ้าเสร็จผู้ใหญ่สิงห์ก็อุ้มร่างบอบบางของเธอขึ้นสู่อ้อมแขน
“ว้ายปล่อยฉันนะผู้ใหญ่!”
“ถ้าดิ้นไม่หยุด ฉันจะโยนใส่ก้อนหินให้หลังหัก”
“อย่ามาขู่นะ”
“ไม่ได้ขู่ ฉันทำจริง หรือจะลอง” ผู้ใหญ่สิงห์ทำท่าจะโยนบัวชมพูลง เธอกอดคอเขาแน่นเพราะกลัวเขาโยน เพราะถ้าเขาโยนไปจริง ๆ เธอได้หลังหักแน่
เอาวะ! ทิ้งความไม่พอใจเอาไว้ก่อน ยังไงเขาก็ช่วยเหลือ ถ้าไม่ได้เขามาช่วยเธอคงแย่ ถึงบ้านก่อนค่อยเกลียดต่อ ตอนนี้พักยกไปก่อน….
Chapter 1“ผู้ใหญ่สิงห์ครับ เอ่อ ผม…” ปณตทำท่าทางกระอักกระอ่วน มองชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ราคาแพง ใบหน้าของผู้ใหญ่สิงห์เรียบนิ่ง สีหน้ายากคาดเดา ว่ากำลังคิดอะไรอยู่“อะไรของมึงไอ้ปณต?” ผู้ใหญ่สิงห์แห่งโคกกระบือแดงชักสีหน้าสีหงุดหงิด“ผม…” ปณตอึกอัก ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับคนตรงหน้าอย่างไรดี จะพูดอะไรก็กลัวคนตรงหน้าไม่พอใจ ผู้ใหญ่สิงห์เป็นคนห่าม ๆ อารมณ์ร้อน ไม่พอใจได้กินปลาตีนเป็นแน่“ผมอะไร? มึงจะพูดอะไร ทำไมไม่พูด” สีหน้าแววตาคาดคั้นให้พูดออกมา“ผม…เอ่อ…ผม ผมยังไม่มีเงินใช้หนี้ผู้ใหญ่เลย” สิ้นประโยคคนตรงหน้า ผู้ใหญ่สิงห์ก็มองหน้าอย่างไม่พอใจ“มึงเลื่อนกูมาหลายครั้งแล้วนะไอ้ปณต มึงควรจ่ายกูให้ตรงสิ!”“แต่ผมไม่มีเงินจริง ๆ ปีนี้พายุถล่มกะหล่ำปลีเสียหายหมด ผมไม่รู้ว่าผมจะหาเงินที่ไหนมาให้ผู้ใหญ่” ปณตพูดอย่างจนใจ“อันนั้นมันคือเหตุผลของมึง ไม่ใช่เหตุผลของกู กูให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว ถ้ามึงหาเงินมาจ่ายกูไม่ได้ ที่ดินที่มึงเอามาจำกับกู กูจะยึดเป็นของกู”“ผู้ใหญ่ครับ” ปณตหน้าเครียด ที่จริงผู้ใหญ่สิงห์ก็บอกอยู่แล้ว ถ้าหาเงินที่กู้ยืมมาคืนไม่ได้ ที่ดินที่เคยเอาไปจำนองกับผู้ใหญ่สิงห์ จะโดนยึด
Chapter 2“ผู้ใหญ่ว่ายังไงคะพ่อ?” บัวชมพูเอ่ยถามเมื่อบิดาขับรถมาจอด สีหน้าของท่านเป็นกังวลจนปิดไม่มิด มันทำให้เธอกลัว กลัวว่าผู้ใหญ่จอมโหดแห่งโคกกระบือแดง จะไม่ยอมให้ผัดผ่อนหนี้“ไม่ได้ คราวนี้ไม่ให้เลื่อน เราต้องเสียที่ดินนี้จริง ๆ แล้วล่ะ”“ใจดำที่สุด ถ้าโดนยึด แล้วเราจะทำอะไรกินล่ะจ๊ะ” บัวชมพูหน้าเครียด ผู้ใหญ่จอมโหดที่เธอไม่ชอบขี้หน้า เห็นที่ไหนเป็นต้องหลบ เธอไม่อยากเห็นหน้า ถ้ามีโอกาสเธอก็หาทางกลั่นแกล้ง คราวก่อนเธอแกล้งเป็นผี ไปหลอกที่สวนยาง โดนผู้ใหญ่ผีบ้าไล่ยิง หนีตายเกือบเอาตัวไม่รอดเธอเกลียดผู้ใหญ่สิงห์เข้าไส้ เพราะตอนเป็นเด็กเขาทำท่าทางรังเกียจเธอเสียเต็มประดา แถมยังบุลลี่เธออีก“ยัยเด็กสกปรกนี่ลูกใครวะไอ้ณต”“ลูกผมเองครับ”“ลูกมึงไปตกบ่อเกรอะมาเหรอ ถึงได้มอมขนาดนี้ เด็กอะไรไม่รู้ขี้เหร่เสียจริง น้ำมูกน้ำลาย ดูมือสิดำฉิบหาย” “ผมไม่มีเวลาดูแลครับผู้ใหญ่ ช่วงนี้วุ่น ๆอยู่กับการเก็บกะหล่ำปลี ผมเอากะหล่ำปลีขึ้นรถเสร็จก่อนถึงจะไปล้างให้”“ล้างก็คงไม่ออกหรอกขี้เหร่ขนาดนี้ แม่มันก็สวยนี่น่า ทำไมลูกถึงไม่สวยวะ เด็กอะไรขี้เหร๊ขี้เหร่”คำพูดของผู้ใหญ่สิงห์ยังคงดังกึกก้องในหู ไม่มีว
Chapter 3“ไอ้ผู้ใหญ่หมา มึงอย่ามาแส่” เสี่ยตู่ชี้หน้าไม่พอใจ ไอ้ผู้ใหญ่หมามันคิดจะมายุ่งกับที่ดินผืนนี้ เรื่องอะไรเขาจะยอม เขาไม่ยอมเด็ดขาดที่มาทวงเงิน ที่จริงก็ใช่ว่าอยากจะได้เงินคืน เขาอยากจะยึดที่ดินตรงนี้ ที่ทำเลดีขนาดนี้ เอาไว้โฮมสเตย์ให้คนท่องเที่ยว ได้เงินตลอดทั้งปี“ที่เป็นของกู มึงก็อย่ามาเสือกมาแส่ ที่นี่ถิ่นกูเว้ย!” สิ้นประโยคของผู้ใหญ่สิงห์ ลูกน้องของเขาก็กรูเข้ามาสายตาคมกริบหันไปจ้องมองเด็กสาว เธอหน้าง้ำทันที มองมาที่เขาอย่างไม่พอใจ เด็กคนนี้เป็นใครกัน เขาไม่เคยเห็นหน้า แต่หน้าตาสระสวย เรียกว่าสวยจัด ใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากจิ้มลิ้ม แม่ใบหน้าจะบูดบึ้ง กลับไม่ได้ลดทอนความสวยของเธอลงแม้แต่น้อย“ไอ้เหี้ยเอ้ย มึงคิดว่ามึงจะได้ที่นี่เหรอ กูมีสัญญาที่ไอ้เวรปณตทำตอนไปกู้ยืม ในสัญญามีรายละเอียดชัดเจน ที่สำคัญโฉนดที่มันเอาไปค้ำประกันอยู่กับกู!” เสี่ยตู่ชูสัญญาขึ้น พร้อมโฉนดที่ดินปณตถึงกับหน้าซีด ตัวสั่นขึ้นมาดื้อ ๆ เขาหันไปมองที่ประตูด้านหลังหลายระลอก ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เขาจะฝากลูกสาวกับผู้ใหญ่สิงห์ แล้วชิ่งออกประตูหลัง กระโดดข้ามคลองหนีไปอีกฝั่ง“ฮ่า ๆ ไอ้ตู่มึงนี่โง่ฉิบหาย โฉนดจริง
“ไปเก็บของแล้วไปอยู่ที่ไร่กับฉัน” ผู้ใหญ่สิงห์ออกคำสั่ง บัวชมพูชักสีหน้าไม่พอใจ พอได้ทีล่ะเอาใหญ่ ทั้งที่เมื่อก่อน ออกจะรังเกียจเด็กมอมแมม อย่างเธอด้วยซ้ำบูลลี่เก่งปากคอเราะร้ายก็ขั้นสุด“ไม่ไป ฉันจะอยู่บ้าน ไร่ผู้ใหญ่ไม่ใช่บ้านฉัน ผู้ใหญ่ควรจะกลับไปที่บ้านผู้ใหญ่ ส่วนฉันจะทำกับข้าวรอพ่อแล้วอาบน้ำนอน ผู้ใหญ่ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก” เธอเอ่ยไล่ ใจก็เป็นห่วงบิดา แต่จะให้ฟูมฟายตีโพยตีพายหวาดกลัวเกินเหตุ ตีตนไปก่อนไข้ เธอไม่ทำเด็ดขาดพ่อเธอแค่หนีไปตั้งหลัก เย็น ๆ คงจะกลับมา ที่จริงก็อยากโกรธที่ท่านทำอะไรไม่ตรองให้ดี แต่มาคิดดูอีกที บิดาของเธอคงจะอับจนหนทางแล้วถึงได้ทำที่ผ่านมาท่านลำบากมาตลอด ปีไหนกะหล่ำปลีเป็นราคาท่านจะซื้อเสื้อผ้าดี ๆ พาไปซื้อของกินดี ๆ แต่ถ้าปีไหนผักราคาตกกะหล่ำปลีล้นตลาด บิดาของเธอก็ขาดทุนย่อยยับ นั่งหน้าเครียดเป็นเดือน ๆ“ทุกอย่างที่นี่เป็นของฉัน รวมทั้งตัวหนูด้วย”“อย่ามาหนูด้วยนะ” หล่อนถลึงตาใส่ คนอะไรไม่รู้หน้ามึน หนำซ้ำยังไล่ยากไล่เย็น“ก็หนูเป็นเด็กผู้ใหญ่สิงห์ ต่อไปนี้ฉันต้องเรียกว่าหนูชมพู”“อย่ามาเรียกหนู ที่สำคัญฉันไม่ได้เป็นเด็กผู้ใหญ่” หล่อนแหวใส่“ไม่หนูก็
Chapter 5บัวชมพูคว้ากระสอบกับเสียมเดินดุ่ม ๆ ไปที่ป่าไผ่ท้ายหมู่บ้าน มันเป็นป่าไผ่ของผู้ใหญ่สิงห์คนโหด ใครก็ไม่กล้าเข้ามาสับหน่อไม้กิน เพราะต่างเกรงกลัวผู้ใหญ่สิงห์ส่วนเธอน่ะเหรอ ไม่เคยกลัว มาสับไปขายตลอดบ่อย ฝนตกพายุเข้าเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว หน่อไม้กำลังขึ้นหลายหน่อ มีทั้งหน่อยาวหน่อสั้น หน่อดินเกิดขึ้นเยอะ เป็นที่ต้องการของลูกค้าในตลาด“หูยเยอะจังเลย” บัวชมพูรีบสับหน่อไม้ วันนี้หน่อไม้ออกเยอะ สับแป๊บเดียวได้เกือบเต็มกระสอบ ได้แต่หน่อสวย ๆ ยิ่งหน่อดินยิ่งขาวน่ากิน พอได้ตามที่ต้องการก็เอาไปนั่งปอกที่กระท่อมไม้ไผ่ เป็นกระท่อมของผู้ใหญ่สิงห์ ทำไว้แถวป่าไผ่นั่นแหละหน้าฝนเธอก็หาสับหน่อไม้แบบนี้ตลอด ผู้ใหญ่ชีกอปลูกไว้ ไม่มาดูแลไม่มาสับไปกินไปขาย เธอเลยจัดการให้ซะเลย ^[]^ปอกหน่อไม้เสร็จก็จะเอาไปต้ม ต้มทั้งหน่อแล้วเอามามัดขาย มัดล่ะยี่สิบสามมัดห้าสิบ หน่อใหญ่ก็เอามาฝานต้มใส่ถุงขาย มากหน่อยก็ทำหน่อไม้ถุงไว้ขาย ทำไว้กินได้ตลอดทั้งปี ขายได้เก็บได้ เอามาแปรรูปได้หลายอย่าง“อีบัวเอ้ย วันนี่ไม่ต่ำกว่าห้าร้อยแน่มึง” บัวชมพูพูดอย่างดีใจ“กูก็นึกว่าใคร?” น้ำเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นพร้อมกับชายฉกรรจ์อ
“ไปเก็บของแล้วไปอยู่ที่ไร่กับฉัน” ผู้ใหญ่สิงห์ออกคำสั่ง บัวชมพูชักสีหน้าไม่พอใจ พอได้ทีล่ะเอาใหญ่ ทั้งที่เมื่อก่อน ออกจะรังเกียจเด็กมอมแมม อย่างเธอด้วยซ้ำบูลลี่เก่งปากคอเราะร้ายก็ขั้นสุด“ไม่ไป ฉันจะอยู่บ้าน ไร่ผู้ใหญ่ไม่ใช่บ้านฉัน ผู้ใหญ่ควรจะกลับไปที่บ้านผู้ใหญ่ ส่วนฉันจะทำกับข้าวรอพ่อแล้วอาบน้ำนอน ผู้ใหญ่ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก” เธอเอ่ยไล่ ใจก็เป็นห่วงบิดา แต่จะให้ฟูมฟายตีโพยตีพายหวาดกลัวเกินเหตุ ตีตนไปก่อนไข้ เธอไม่ทำเด็ดขาดพ่อเธอแค่หนีไปตั้งหลัก เย็น ๆ คงจะกลับมา ที่จริงก็อยากโกรธที่ท่านทำอะไรไม่ตรองให้ดี แต่มาคิดดูอีกที บิดาของเธอคงจะอับจนหนทางแล้วถึงได้ทำที่ผ่านมาท่านลำบากมาตลอด ปีไหนกะหล่ำปลีเป็นราคาท่านจะซื้อเสื้อผ้าดี ๆ พาไปซื้อของกินดี ๆ แต่ถ้าปีไหนผักราคาตกกะหล่ำปลีล้นตลาด บิดาของเธอก็ขาดทุนย่อยยับ นั่งหน้าเครียดเป็นเดือน ๆ“ทุกอย่างที่นี่เป็นของฉัน รวมทั้งตัวหนูด้วย”“อย่ามาหนูด้วยนะ” หล่อนถลึงตาใส่ คนอะไรไม่รู้หน้ามึน หนำซ้ำยังไล่ยากไล่เย็น“ก็หนูเป็นเด็กผู้ใหญ่สิงห์ ต่อไปนี้ฉันต้องเรียกว่าหนูชมพู”“อย่ามาเรียกหนู ที่สำคัญฉันไม่ได้เป็นเด็กผู้ใหญ่” หล่อนแหวใส่“ไม่หนูก็
Chapter 3“ไอ้ผู้ใหญ่หมา มึงอย่ามาแส่” เสี่ยตู่ชี้หน้าไม่พอใจ ไอ้ผู้ใหญ่หมามันคิดจะมายุ่งกับที่ดินผืนนี้ เรื่องอะไรเขาจะยอม เขาไม่ยอมเด็ดขาดที่มาทวงเงิน ที่จริงก็ใช่ว่าอยากจะได้เงินคืน เขาอยากจะยึดที่ดินตรงนี้ ที่ทำเลดีขนาดนี้ เอาไว้โฮมสเตย์ให้คนท่องเที่ยว ได้เงินตลอดทั้งปี“ที่เป็นของกู มึงก็อย่ามาเสือกมาแส่ ที่นี่ถิ่นกูเว้ย!” สิ้นประโยคของผู้ใหญ่สิงห์ ลูกน้องของเขาก็กรูเข้ามาสายตาคมกริบหันไปจ้องมองเด็กสาว เธอหน้าง้ำทันที มองมาที่เขาอย่างไม่พอใจ เด็กคนนี้เป็นใครกัน เขาไม่เคยเห็นหน้า แต่หน้าตาสระสวย เรียกว่าสวยจัด ใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากจิ้มลิ้ม แม่ใบหน้าจะบูดบึ้ง กลับไม่ได้ลดทอนความสวยของเธอลงแม้แต่น้อย“ไอ้เหี้ยเอ้ย มึงคิดว่ามึงจะได้ที่นี่เหรอ กูมีสัญญาที่ไอ้เวรปณตทำตอนไปกู้ยืม ในสัญญามีรายละเอียดชัดเจน ที่สำคัญโฉนดที่มันเอาไปค้ำประกันอยู่กับกู!” เสี่ยตู่ชูสัญญาขึ้น พร้อมโฉนดที่ดินปณตถึงกับหน้าซีด ตัวสั่นขึ้นมาดื้อ ๆ เขาหันไปมองที่ประตูด้านหลังหลายระลอก ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เขาจะฝากลูกสาวกับผู้ใหญ่สิงห์ แล้วชิ่งออกประตูหลัง กระโดดข้ามคลองหนีไปอีกฝั่ง“ฮ่า ๆ ไอ้ตู่มึงนี่โง่ฉิบหาย โฉนดจริง
Chapter 2“ผู้ใหญ่ว่ายังไงคะพ่อ?” บัวชมพูเอ่ยถามเมื่อบิดาขับรถมาจอด สีหน้าของท่านเป็นกังวลจนปิดไม่มิด มันทำให้เธอกลัว กลัวว่าผู้ใหญ่จอมโหดแห่งโคกกระบือแดง จะไม่ยอมให้ผัดผ่อนหนี้“ไม่ได้ คราวนี้ไม่ให้เลื่อน เราต้องเสียที่ดินนี้จริง ๆ แล้วล่ะ”“ใจดำที่สุด ถ้าโดนยึด แล้วเราจะทำอะไรกินล่ะจ๊ะ” บัวชมพูหน้าเครียด ผู้ใหญ่จอมโหดที่เธอไม่ชอบขี้หน้า เห็นที่ไหนเป็นต้องหลบ เธอไม่อยากเห็นหน้า ถ้ามีโอกาสเธอก็หาทางกลั่นแกล้ง คราวก่อนเธอแกล้งเป็นผี ไปหลอกที่สวนยาง โดนผู้ใหญ่ผีบ้าไล่ยิง หนีตายเกือบเอาตัวไม่รอดเธอเกลียดผู้ใหญ่สิงห์เข้าไส้ เพราะตอนเป็นเด็กเขาทำท่าทางรังเกียจเธอเสียเต็มประดา แถมยังบุลลี่เธออีก“ยัยเด็กสกปรกนี่ลูกใครวะไอ้ณต”“ลูกผมเองครับ”“ลูกมึงไปตกบ่อเกรอะมาเหรอ ถึงได้มอมขนาดนี้ เด็กอะไรไม่รู้ขี้เหร่เสียจริง น้ำมูกน้ำลาย ดูมือสิดำฉิบหาย” “ผมไม่มีเวลาดูแลครับผู้ใหญ่ ช่วงนี้วุ่น ๆอยู่กับการเก็บกะหล่ำปลี ผมเอากะหล่ำปลีขึ้นรถเสร็จก่อนถึงจะไปล้างให้”“ล้างก็คงไม่ออกหรอกขี้เหร่ขนาดนี้ แม่มันก็สวยนี่น่า ทำไมลูกถึงไม่สวยวะ เด็กอะไรขี้เหร๊ขี้เหร่”คำพูดของผู้ใหญ่สิงห์ยังคงดังกึกก้องในหู ไม่มีว
Chapter 1“ผู้ใหญ่สิงห์ครับ เอ่อ ผม…” ปณตทำท่าทางกระอักกระอ่วน มองชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ราคาแพง ใบหน้าของผู้ใหญ่สิงห์เรียบนิ่ง สีหน้ายากคาดเดา ว่ากำลังคิดอะไรอยู่“อะไรของมึงไอ้ปณต?” ผู้ใหญ่สิงห์แห่งโคกกระบือแดงชักสีหน้าสีหงุดหงิด“ผม…” ปณตอึกอัก ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับคนตรงหน้าอย่างไรดี จะพูดอะไรก็กลัวคนตรงหน้าไม่พอใจ ผู้ใหญ่สิงห์เป็นคนห่าม ๆ อารมณ์ร้อน ไม่พอใจได้กินปลาตีนเป็นแน่“ผมอะไร? มึงจะพูดอะไร ทำไมไม่พูด” สีหน้าแววตาคาดคั้นให้พูดออกมา“ผม…เอ่อ…ผม ผมยังไม่มีเงินใช้หนี้ผู้ใหญ่เลย” สิ้นประโยคคนตรงหน้า ผู้ใหญ่สิงห์ก็มองหน้าอย่างไม่พอใจ“มึงเลื่อนกูมาหลายครั้งแล้วนะไอ้ปณต มึงควรจ่ายกูให้ตรงสิ!”“แต่ผมไม่มีเงินจริง ๆ ปีนี้พายุถล่มกะหล่ำปลีเสียหายหมด ผมไม่รู้ว่าผมจะหาเงินที่ไหนมาให้ผู้ใหญ่” ปณตพูดอย่างจนใจ“อันนั้นมันคือเหตุผลของมึง ไม่ใช่เหตุผลของกู กูให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว ถ้ามึงหาเงินมาจ่ายกูไม่ได้ ที่ดินที่มึงเอามาจำกับกู กูจะยึดเป็นของกู”“ผู้ใหญ่ครับ” ปณตหน้าเครียด ที่จริงผู้ใหญ่สิงห์ก็บอกอยู่แล้ว ถ้าหาเงินที่กู้ยืมมาคืนไม่ได้ ที่ดินที่เคยเอาไปจำนองกับผู้ใหญ่สิงห์ จะโดนยึด