“ไปเก็บของแล้วไปอยู่ที่ไร่กับฉัน” ผู้ใหญ่สิงห์ออกคำสั่ง บัวชมพูชักสีหน้าไม่พอใจ พอได้ทีล่ะเอาใหญ่ ทั้งที่เมื่อก่อน ออกจะรังเกียจเด็กมอมแมม อย่างเธอด้วยซ้ำ
บูลลี่เก่งปากคอเราะร้ายก็ขั้นสุด
“ไม่ไป ฉันจะอยู่บ้าน ไร่ผู้ใหญ่ไม่ใช่บ้านฉัน ผู้ใหญ่ควรจะกลับไปที่บ้านผู้ใหญ่ ส่วนฉันจะทำกับข้าวรอพ่อแล้วอาบน้ำนอน ผู้ใหญ่ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก” เธอเอ่ยไล่ ใจก็เป็นห่วงบิดา แต่จะให้ฟูมฟายตีโพยตีพายหวาดกลัวเกินเหตุ ตีตนไปก่อนไข้ เธอไม่ทำเด็ดขาด
พ่อเธอแค่หนีไปตั้งหลัก เย็น ๆ คงจะกลับมา ที่จริงก็อยากโกรธที่ท่านทำอะไรไม่ตรองให้ดี แต่มาคิดดูอีกที บิดาของเธอคงจะอับจนหนทางแล้วถึงได้ทำ
ที่ผ่านมาท่านลำบากมาตลอด ปีไหนกะหล่ำปลีเป็นราคาท่านจะซื้อเสื้อผ้าดี ๆ พาไปซื้อของกินดี ๆ แต่ถ้าปีไหนผักราคาตกกะหล่ำปลีล้นตลาด บิดาของเธอก็ขาดทุนย่อยยับ นั่งหน้าเครียดเป็นเดือน ๆ
“ทุกอย่างที่นี่เป็นของฉัน รวมทั้งตัวหนูด้วย”
“อย่ามาหนูด้วยนะ” หล่อนถลึงตาใส่ คนอะไรไม่รู้หน้ามึน หนำซ้ำยังไล่ยากไล่เย็น
“ก็หนูเป็นเด็กผู้ใหญ่สิงห์ ต่อไปนี้ฉันต้องเรียกว่าหนูชมพู”
“อย่ามาเรียกหนู ที่สำคัญฉันไม่ได้เป็นเด็กผู้ใหญ่” หล่อนแหวใส่
“ไม่หนูก็ได้ พ่อเธอยกเธอให้ฉันเพื่อล้างหนี้ เธอเป็นของฉันแล้ว เธอต้องไปอยู่ไร่กับฉัน เธอเป็นสมบัติของฉัน เรื่องอะไรจะยอมให้อยู่ห่างตา”
“นี่…” บัวชมพูชักสีหน้า เธออยากจะกรีดร้องออกมาให้หนัก ๆ ผู้ใหญ่ผีบ้าตอนนี้ไม่ยอมกลับ หนำซ้ำยังเดินสำรวจบ้านของเธอ ราวกับเป็นเจ้าของ
“แต่ถ้าไม่กลับเรานอนที่นี่ก่อนก็ได้”
“ไม่ค่ะ อย่ามาพูดนั่นนี่ ฉันไม่อยากเห็นหน้าผู้ใหญ่”
“แพ้ความหล่อของฉันล่ะสิ” เขามองเสี้ยวใบหน้าสวย แม้ใบหน้านั้นจะบูดบึ้งแต่ก็สวยมาก
“แหวะจะอ้วก หล่อตายล่ะแก่ก็แก่”
“แหม่ ยังไม่ได้ปึกปักกันเลย จะท้องแล้วเหรอ?”
“นี่ ผู้ใหญ่เฮงซวย!” บัวชมพูแผดเสียงลั่น เธอทั้งไล่ทั้งด่า สุดท้ายแล้วผู้ใหญ่สิงห์จอมโหด ก็ไม่ยอมล่าถอยกลับไป
ผู้ใหญ่สิงห์ยืนพิงวงกบประตู มองคนตัวเล็กที่กำลังง่วนกับการทำอาหาร เขาไม่กลับบ้าน เธอไปไหนเขาก็เดินตาม
สุดท้ายแล้วแม่เด็กแสบ ก็มาทำอาหารในครัว เธอจับปลาช่อนตัวใหญ่ขึ้นมาจากโอ่งวางลงบนเขียง หยิบสากตีหัวปลาอย่างว่องไว ผู้ใหญ่สิงห์ถึงกับลอบกลืนน้ำลายลงคอ มองปลาชักกระแด่ว ไม่คิดว่าสาวสวยอย่างบัวชมพู จะใจกล้าทำอะไรแบบนี้
“มายืนมองทำหอกอะไร?” แหม่ ๆ คำพูดคำจา ช่างปากคอเราะร้ายเสียจริง ถ้าไม่ติดว่าสวยเขาคงด่าเปิงไปแล้ว เขามันเป็นพวกแพ้ความสวยด้วยสิ ยิ่งสวย ๆ แบบนี้ใจก็ยิ่งอ่อนระทวย
“ก็ยืนมองคนสวยทำอาหารสิจ๊ะ จะรอกินข้าวด้วย” เสียงอ่อนเสียงหวาน บัวชมพูยิ่งไม่พอใจ ชีกอหน้าม่อเธอไม่ชอบ
“ไปให้พ้นเลย! บ้านก็มีข้าวให้กิน ยังจะมาวุ่นวายอยู่อีก” เธอพูดอย่างหงุดหงิดขอดเกล็ดปลาแล้วหั่นเป็นท่อน ๆ ทำเสร็จก็เดินไปเด็ดใบมะกรูดขุดข่ากับหักตะไคร้ วันนี้เธอจะต้มยำปลาช่อน เผื่อบิดากลับมา จะได้รับประทานอาหารดี ๆ อร่อย ๆ
“ก็อยากไปนะ แต่ต้องมีเธอไปด้วย”
“ฉันบอกให้ไปให้พ้นไง!”
“ที่กับบ้านเธอเป็นของฉัน เธอไม่มีสิทธิ์มาไล่เจ้าของบ้าน เจ้าของที่อย่างฉัน”
“จะไล่ ผู้ใหญ่จะทำไม?” บัวชมพูเสียงขุ่นมองอย่างไม่พอใจ แต่ไม่ทันที่ผู้ใหญ่จะอ้าปากทำอะไร โทรศัพท์ของเขาก็แผดเสียงขึ้น
ผู้ใหญ่สิงห์พูดคุยกับคนปลายสายสองสามประโยค สีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะรีบเดินออกไปจากบ้าน ขับรถปิกอัพสีดำกระชากออกไปอย่างรวดเร็ว
บัวชมพูถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะหั่นตะไคร้กับข่าใส่หม้อ ตำพริกใส่เครื่องปรุง ทำทุกอย่างตามสูตรที่บิดาเคยสอน เพียงไม่นานต้มยำปลาช่อนก็สุกส่งกลิ่นหอมฉุยไปทั่วครัว
ผ่านไปอีกหลายชั่วโมง
แสงจันทร์สาดส่องไปทั่วบริเวณ บัวชมพูเดินไปมาในบ้าน ก่อนจะเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน ชะโงกหน้ารอบิดากลับมา แต่ทว่า กลับไร้เงาผู้ชายที่อยู่บ้านกับเธอทุกค่ำคืน พอไม่มีพ่ออยู่ด้วยก็รู้สึกอ้างว้าง มองไปทางไหนก็เคว้งคว้าง เธอกลัวเหลือเกิน กลัวว่าท่านจะไม่ปลอดภัย
ผู้ใหญ่ใจโฉดจะยึดที่ เธอจะทำยังไงไม่ให้ที่กับบ้านตกเป็นของผู้ใหญ่ เธอจะทำยังไงให้ได้โฉนดที่ดินคืนมา
ติ๊ง! เสียงข้อความโทรศัพท์ดังขึ้น บัวชมพูรีบกดดู พอเห็นว่าเป็นข้อความที่บิดาส่งมาบอกว่าปลอดภัยดี พร้อมกำชับให้เธอไปอยู่กับผู้ใหญ่สิงห์จะได้ปลอดภัย เธอจะไปอยู่ได้ยังไง ในเมื่อเธอเกลียดผู้ใหญ่สิงห์เข้าไส้
พอรู้ว่าท่านยังอยู่ดีบัวชมพูก็โล่งอกหายห่วง รีบโทรกลับไป มันกลับไม่สามารถติดต่อได้ แต่ก็ไม่เป็นไร ขอเพียงรู้ว่าท่านปลอดภัยเธอก็ดีใจแล้ว
เธอนั่งรับประทานอาหารเย็นอย่างเงียบ ๆ แม้ต้มยำวันนี้จะอร่อยมาก แต่เธอก็รับประทานไปได้นิดเดียว เพราะบ้านมันเงียบเหงา พาลให้ไม่อยากรับประทานอาหารต่อ
Chapter 5บัวชมพูคว้ากระสอบกับเสียมเดินดุ่ม ๆ ไปที่ป่าไผ่ท้ายหมู่บ้าน มันเป็นป่าไผ่ของผู้ใหญ่สิงห์คนโหด ใครก็ไม่กล้าเข้ามาสับหน่อไม้กิน เพราะต่างเกรงกลัวผู้ใหญ่สิงห์ส่วนเธอน่ะเหรอ ไม่เคยกลัว มาสับไปขายตลอดบ่อย ฝนตกพายุเข้าเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว หน่อไม้กำลังขึ้นหลายหน่อ มีทั้งหน่อยาวหน่อสั้น หน่อดินเกิดขึ้นเยอะ เป็นที่ต้องการของลูกค้าในตลาด“หูยเยอะจังเลย” บัวชมพูรีบสับหน่อไม้ วันนี้หน่อไม้ออกเยอะ สับแป๊บเดียวได้เกือบเต็มกระสอบ ได้แต่หน่อสวย ๆ ยิ่งหน่อดินยิ่งขาวน่ากิน พอได้ตามที่ต้องการก็เอาไปนั่งปอกที่กระท่อมไม้ไผ่ เป็นกระท่อมของผู้ใหญ่สิงห์ ทำไว้แถวป่าไผ่นั่นแหละหน้าฝนเธอก็หาสับหน่อไม้แบบนี้ตลอด ผู้ใหญ่ชีกอปลูกไว้ ไม่มาดูแลไม่มาสับไปกินไปขาย เธอเลยจัดการให้ซะเลย ^[]^ปอกหน่อไม้เสร็จก็จะเอาไปต้ม ต้มทั้งหน่อแล้วเอามามัดขาย มัดล่ะยี่สิบสามมัดห้าสิบ หน่อใหญ่ก็เอามาฝานต้มใส่ถุงขาย มากหน่อยก็ทำหน่อไม้ถุงไว้ขาย ทำไว้กินได้ตลอดทั้งปี ขายได้เก็บได้ เอามาแปรรูปได้หลายอย่าง“อีบัวเอ้ย วันนี่ไม่ต่ำกว่าห้าร้อยแน่มึง” บัวชมพูพูดอย่างดีใจ“กูก็นึกว่าใคร?” น้ำเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นพร้อมกับชายฉกรรจ์อ
Chapter 1“ผู้ใหญ่สิงห์ครับ เอ่อ ผม…” ปณตทำท่าทางกระอักกระอ่วน มองชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ราคาแพง ใบหน้าของผู้ใหญ่สิงห์เรียบนิ่ง สีหน้ายากคาดเดา ว่ากำลังคิดอะไรอยู่“อะไรของมึงไอ้ปณต?” ผู้ใหญ่สิงห์แห่งโคกกระบือแดงชักสีหน้าสีหงุดหงิด“ผม…” ปณตอึกอัก ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับคนตรงหน้าอย่างไรดี จะพูดอะไรก็กลัวคนตรงหน้าไม่พอใจ ผู้ใหญ่สิงห์เป็นคนห่าม ๆ อารมณ์ร้อน ไม่พอใจได้กินปลาตีนเป็นแน่“ผมอะไร? มึงจะพูดอะไร ทำไมไม่พูด” สีหน้าแววตาคาดคั้นให้พูดออกมา“ผม…เอ่อ…ผม ผมยังไม่มีเงินใช้หนี้ผู้ใหญ่เลย” สิ้นประโยคคนตรงหน้า ผู้ใหญ่สิงห์ก็มองหน้าอย่างไม่พอใจ“มึงเลื่อนกูมาหลายครั้งแล้วนะไอ้ปณต มึงควรจ่ายกูให้ตรงสิ!”“แต่ผมไม่มีเงินจริง ๆ ปีนี้พายุถล่มกะหล่ำปลีเสียหายหมด ผมไม่รู้ว่าผมจะหาเงินที่ไหนมาให้ผู้ใหญ่” ปณตพูดอย่างจนใจ“อันนั้นมันคือเหตุผลของมึง ไม่ใช่เหตุผลของกู กูให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว ถ้ามึงหาเงินมาจ่ายกูไม่ได้ ที่ดินที่มึงเอามาจำกับกู กูจะยึดเป็นของกู”“ผู้ใหญ่ครับ” ปณตหน้าเครียด ที่จริงผู้ใหญ่สิงห์ก็บอกอยู่แล้ว ถ้าหาเงินที่กู้ยืมมาคืนไม่ได้ ที่ดินที่เคยเอาไปจำนองกับผู้ใหญ่สิงห์ จะโดนยึด
Chapter 2“ผู้ใหญ่ว่ายังไงคะพ่อ?” บัวชมพูเอ่ยถามเมื่อบิดาขับรถมาจอด สีหน้าของท่านเป็นกังวลจนปิดไม่มิด มันทำให้เธอกลัว กลัวว่าผู้ใหญ่จอมโหดแห่งโคกกระบือแดง จะไม่ยอมให้ผัดผ่อนหนี้“ไม่ได้ คราวนี้ไม่ให้เลื่อน เราต้องเสียที่ดินนี้จริง ๆ แล้วล่ะ”“ใจดำที่สุด ถ้าโดนยึด แล้วเราจะทำอะไรกินล่ะจ๊ะ” บัวชมพูหน้าเครียด ผู้ใหญ่จอมโหดที่เธอไม่ชอบขี้หน้า เห็นที่ไหนเป็นต้องหลบ เธอไม่อยากเห็นหน้า ถ้ามีโอกาสเธอก็หาทางกลั่นแกล้ง คราวก่อนเธอแกล้งเป็นผี ไปหลอกที่สวนยาง โดนผู้ใหญ่ผีบ้าไล่ยิง หนีตายเกือบเอาตัวไม่รอดเธอเกลียดผู้ใหญ่สิงห์เข้าไส้ เพราะตอนเป็นเด็กเขาทำท่าทางรังเกียจเธอเสียเต็มประดา แถมยังบุลลี่เธออีก“ยัยเด็กสกปรกนี่ลูกใครวะไอ้ณต”“ลูกผมเองครับ”“ลูกมึงไปตกบ่อเกรอะมาเหรอ ถึงได้มอมขนาดนี้ เด็กอะไรไม่รู้ขี้เหร่เสียจริง น้ำมูกน้ำลาย ดูมือสิดำฉิบหาย” “ผมไม่มีเวลาดูแลครับผู้ใหญ่ ช่วงนี้วุ่น ๆอยู่กับการเก็บกะหล่ำปลี ผมเอากะหล่ำปลีขึ้นรถเสร็จก่อนถึงจะไปล้างให้”“ล้างก็คงไม่ออกหรอกขี้เหร่ขนาดนี้ แม่มันก็สวยนี่น่า ทำไมลูกถึงไม่สวยวะ เด็กอะไรขี้เหร๊ขี้เหร่”คำพูดของผู้ใหญ่สิงห์ยังคงดังกึกก้องในหู ไม่มีว
Chapter 3“ไอ้ผู้ใหญ่หมา มึงอย่ามาแส่” เสี่ยตู่ชี้หน้าไม่พอใจ ไอ้ผู้ใหญ่หมามันคิดจะมายุ่งกับที่ดินผืนนี้ เรื่องอะไรเขาจะยอม เขาไม่ยอมเด็ดขาดที่มาทวงเงิน ที่จริงก็ใช่ว่าอยากจะได้เงินคืน เขาอยากจะยึดที่ดินตรงนี้ ที่ทำเลดีขนาดนี้ เอาไว้โฮมสเตย์ให้คนท่องเที่ยว ได้เงินตลอดทั้งปี“ที่เป็นของกู มึงก็อย่ามาเสือกมาแส่ ที่นี่ถิ่นกูเว้ย!” สิ้นประโยคของผู้ใหญ่สิงห์ ลูกน้องของเขาก็กรูเข้ามาสายตาคมกริบหันไปจ้องมองเด็กสาว เธอหน้าง้ำทันที มองมาที่เขาอย่างไม่พอใจ เด็กคนนี้เป็นใครกัน เขาไม่เคยเห็นหน้า แต่หน้าตาสระสวย เรียกว่าสวยจัด ใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากจิ้มลิ้ม แม่ใบหน้าจะบูดบึ้ง กลับไม่ได้ลดทอนความสวยของเธอลงแม้แต่น้อย“ไอ้เหี้ยเอ้ย มึงคิดว่ามึงจะได้ที่นี่เหรอ กูมีสัญญาที่ไอ้เวรปณตทำตอนไปกู้ยืม ในสัญญามีรายละเอียดชัดเจน ที่สำคัญโฉนดที่มันเอาไปค้ำประกันอยู่กับกู!” เสี่ยตู่ชูสัญญาขึ้น พร้อมโฉนดที่ดินปณตถึงกับหน้าซีด ตัวสั่นขึ้นมาดื้อ ๆ เขาหันไปมองที่ประตูด้านหลังหลายระลอก ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เขาจะฝากลูกสาวกับผู้ใหญ่สิงห์ แล้วชิ่งออกประตูหลัง กระโดดข้ามคลองหนีไปอีกฝั่ง“ฮ่า ๆ ไอ้ตู่มึงนี่โง่ฉิบหาย โฉนดจริง
Chapter 5บัวชมพูคว้ากระสอบกับเสียมเดินดุ่ม ๆ ไปที่ป่าไผ่ท้ายหมู่บ้าน มันเป็นป่าไผ่ของผู้ใหญ่สิงห์คนโหด ใครก็ไม่กล้าเข้ามาสับหน่อไม้กิน เพราะต่างเกรงกลัวผู้ใหญ่สิงห์ส่วนเธอน่ะเหรอ ไม่เคยกลัว มาสับไปขายตลอดบ่อย ฝนตกพายุเข้าเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว หน่อไม้กำลังขึ้นหลายหน่อ มีทั้งหน่อยาวหน่อสั้น หน่อดินเกิดขึ้นเยอะ เป็นที่ต้องการของลูกค้าในตลาด“หูยเยอะจังเลย” บัวชมพูรีบสับหน่อไม้ วันนี้หน่อไม้ออกเยอะ สับแป๊บเดียวได้เกือบเต็มกระสอบ ได้แต่หน่อสวย ๆ ยิ่งหน่อดินยิ่งขาวน่ากิน พอได้ตามที่ต้องการก็เอาไปนั่งปอกที่กระท่อมไม้ไผ่ เป็นกระท่อมของผู้ใหญ่สิงห์ ทำไว้แถวป่าไผ่นั่นแหละหน้าฝนเธอก็หาสับหน่อไม้แบบนี้ตลอด ผู้ใหญ่ชีกอปลูกไว้ ไม่มาดูแลไม่มาสับไปกินไปขาย เธอเลยจัดการให้ซะเลย ^[]^ปอกหน่อไม้เสร็จก็จะเอาไปต้ม ต้มทั้งหน่อแล้วเอามามัดขาย มัดล่ะยี่สิบสามมัดห้าสิบ หน่อใหญ่ก็เอามาฝานต้มใส่ถุงขาย มากหน่อยก็ทำหน่อไม้ถุงไว้ขาย ทำไว้กินได้ตลอดทั้งปี ขายได้เก็บได้ เอามาแปรรูปได้หลายอย่าง“อีบัวเอ้ย วันนี่ไม่ต่ำกว่าห้าร้อยแน่มึง” บัวชมพูพูดอย่างดีใจ“กูก็นึกว่าใคร?” น้ำเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นพร้อมกับชายฉกรรจ์อ
“ไปเก็บของแล้วไปอยู่ที่ไร่กับฉัน” ผู้ใหญ่สิงห์ออกคำสั่ง บัวชมพูชักสีหน้าไม่พอใจ พอได้ทีล่ะเอาใหญ่ ทั้งที่เมื่อก่อน ออกจะรังเกียจเด็กมอมแมม อย่างเธอด้วยซ้ำบูลลี่เก่งปากคอเราะร้ายก็ขั้นสุด“ไม่ไป ฉันจะอยู่บ้าน ไร่ผู้ใหญ่ไม่ใช่บ้านฉัน ผู้ใหญ่ควรจะกลับไปที่บ้านผู้ใหญ่ ส่วนฉันจะทำกับข้าวรอพ่อแล้วอาบน้ำนอน ผู้ใหญ่ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก” เธอเอ่ยไล่ ใจก็เป็นห่วงบิดา แต่จะให้ฟูมฟายตีโพยตีพายหวาดกลัวเกินเหตุ ตีตนไปก่อนไข้ เธอไม่ทำเด็ดขาดพ่อเธอแค่หนีไปตั้งหลัก เย็น ๆ คงจะกลับมา ที่จริงก็อยากโกรธที่ท่านทำอะไรไม่ตรองให้ดี แต่มาคิดดูอีกที บิดาของเธอคงจะอับจนหนทางแล้วถึงได้ทำที่ผ่านมาท่านลำบากมาตลอด ปีไหนกะหล่ำปลีเป็นราคาท่านจะซื้อเสื้อผ้าดี ๆ พาไปซื้อของกินดี ๆ แต่ถ้าปีไหนผักราคาตกกะหล่ำปลีล้นตลาด บิดาของเธอก็ขาดทุนย่อยยับ นั่งหน้าเครียดเป็นเดือน ๆ“ทุกอย่างที่นี่เป็นของฉัน รวมทั้งตัวหนูด้วย”“อย่ามาหนูด้วยนะ” หล่อนถลึงตาใส่ คนอะไรไม่รู้หน้ามึน หนำซ้ำยังไล่ยากไล่เย็น“ก็หนูเป็นเด็กผู้ใหญ่สิงห์ ต่อไปนี้ฉันต้องเรียกว่าหนูชมพู”“อย่ามาเรียกหนู ที่สำคัญฉันไม่ได้เป็นเด็กผู้ใหญ่” หล่อนแหวใส่“ไม่หนูก็
Chapter 3“ไอ้ผู้ใหญ่หมา มึงอย่ามาแส่” เสี่ยตู่ชี้หน้าไม่พอใจ ไอ้ผู้ใหญ่หมามันคิดจะมายุ่งกับที่ดินผืนนี้ เรื่องอะไรเขาจะยอม เขาไม่ยอมเด็ดขาดที่มาทวงเงิน ที่จริงก็ใช่ว่าอยากจะได้เงินคืน เขาอยากจะยึดที่ดินตรงนี้ ที่ทำเลดีขนาดนี้ เอาไว้โฮมสเตย์ให้คนท่องเที่ยว ได้เงินตลอดทั้งปี“ที่เป็นของกู มึงก็อย่ามาเสือกมาแส่ ที่นี่ถิ่นกูเว้ย!” สิ้นประโยคของผู้ใหญ่สิงห์ ลูกน้องของเขาก็กรูเข้ามาสายตาคมกริบหันไปจ้องมองเด็กสาว เธอหน้าง้ำทันที มองมาที่เขาอย่างไม่พอใจ เด็กคนนี้เป็นใครกัน เขาไม่เคยเห็นหน้า แต่หน้าตาสระสวย เรียกว่าสวยจัด ใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากจิ้มลิ้ม แม่ใบหน้าจะบูดบึ้ง กลับไม่ได้ลดทอนความสวยของเธอลงแม้แต่น้อย“ไอ้เหี้ยเอ้ย มึงคิดว่ามึงจะได้ที่นี่เหรอ กูมีสัญญาที่ไอ้เวรปณตทำตอนไปกู้ยืม ในสัญญามีรายละเอียดชัดเจน ที่สำคัญโฉนดที่มันเอาไปค้ำประกันอยู่กับกู!” เสี่ยตู่ชูสัญญาขึ้น พร้อมโฉนดที่ดินปณตถึงกับหน้าซีด ตัวสั่นขึ้นมาดื้อ ๆ เขาหันไปมองที่ประตูด้านหลังหลายระลอก ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เขาจะฝากลูกสาวกับผู้ใหญ่สิงห์ แล้วชิ่งออกประตูหลัง กระโดดข้ามคลองหนีไปอีกฝั่ง“ฮ่า ๆ ไอ้ตู่มึงนี่โง่ฉิบหาย โฉนดจริง
Chapter 2“ผู้ใหญ่ว่ายังไงคะพ่อ?” บัวชมพูเอ่ยถามเมื่อบิดาขับรถมาจอด สีหน้าของท่านเป็นกังวลจนปิดไม่มิด มันทำให้เธอกลัว กลัวว่าผู้ใหญ่จอมโหดแห่งโคกกระบือแดง จะไม่ยอมให้ผัดผ่อนหนี้“ไม่ได้ คราวนี้ไม่ให้เลื่อน เราต้องเสียที่ดินนี้จริง ๆ แล้วล่ะ”“ใจดำที่สุด ถ้าโดนยึด แล้วเราจะทำอะไรกินล่ะจ๊ะ” บัวชมพูหน้าเครียด ผู้ใหญ่จอมโหดที่เธอไม่ชอบขี้หน้า เห็นที่ไหนเป็นต้องหลบ เธอไม่อยากเห็นหน้า ถ้ามีโอกาสเธอก็หาทางกลั่นแกล้ง คราวก่อนเธอแกล้งเป็นผี ไปหลอกที่สวนยาง โดนผู้ใหญ่ผีบ้าไล่ยิง หนีตายเกือบเอาตัวไม่รอดเธอเกลียดผู้ใหญ่สิงห์เข้าไส้ เพราะตอนเป็นเด็กเขาทำท่าทางรังเกียจเธอเสียเต็มประดา แถมยังบุลลี่เธออีก“ยัยเด็กสกปรกนี่ลูกใครวะไอ้ณต”“ลูกผมเองครับ”“ลูกมึงไปตกบ่อเกรอะมาเหรอ ถึงได้มอมขนาดนี้ เด็กอะไรไม่รู้ขี้เหร่เสียจริง น้ำมูกน้ำลาย ดูมือสิดำฉิบหาย” “ผมไม่มีเวลาดูแลครับผู้ใหญ่ ช่วงนี้วุ่น ๆอยู่กับการเก็บกะหล่ำปลี ผมเอากะหล่ำปลีขึ้นรถเสร็จก่อนถึงจะไปล้างให้”“ล้างก็คงไม่ออกหรอกขี้เหร่ขนาดนี้ แม่มันก็สวยนี่น่า ทำไมลูกถึงไม่สวยวะ เด็กอะไรขี้เหร๊ขี้เหร่”คำพูดของผู้ใหญ่สิงห์ยังคงดังกึกก้องในหู ไม่มีว
Chapter 1“ผู้ใหญ่สิงห์ครับ เอ่อ ผม…” ปณตทำท่าทางกระอักกระอ่วน มองชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ราคาแพง ใบหน้าของผู้ใหญ่สิงห์เรียบนิ่ง สีหน้ายากคาดเดา ว่ากำลังคิดอะไรอยู่“อะไรของมึงไอ้ปณต?” ผู้ใหญ่สิงห์แห่งโคกกระบือแดงชักสีหน้าสีหงุดหงิด“ผม…” ปณตอึกอัก ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับคนตรงหน้าอย่างไรดี จะพูดอะไรก็กลัวคนตรงหน้าไม่พอใจ ผู้ใหญ่สิงห์เป็นคนห่าม ๆ อารมณ์ร้อน ไม่พอใจได้กินปลาตีนเป็นแน่“ผมอะไร? มึงจะพูดอะไร ทำไมไม่พูด” สีหน้าแววตาคาดคั้นให้พูดออกมา“ผม…เอ่อ…ผม ผมยังไม่มีเงินใช้หนี้ผู้ใหญ่เลย” สิ้นประโยคคนตรงหน้า ผู้ใหญ่สิงห์ก็มองหน้าอย่างไม่พอใจ“มึงเลื่อนกูมาหลายครั้งแล้วนะไอ้ปณต มึงควรจ่ายกูให้ตรงสิ!”“แต่ผมไม่มีเงินจริง ๆ ปีนี้พายุถล่มกะหล่ำปลีเสียหายหมด ผมไม่รู้ว่าผมจะหาเงินที่ไหนมาให้ผู้ใหญ่” ปณตพูดอย่างจนใจ“อันนั้นมันคือเหตุผลของมึง ไม่ใช่เหตุผลของกู กูให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว ถ้ามึงหาเงินมาจ่ายกูไม่ได้ ที่ดินที่มึงเอามาจำกับกู กูจะยึดเป็นของกู”“ผู้ใหญ่ครับ” ปณตหน้าเครียด ที่จริงผู้ใหญ่สิงห์ก็บอกอยู่แล้ว ถ้าหาเงินที่กู้ยืมมาคืนไม่ได้ ที่ดินที่เคยเอาไปจำนองกับผู้ใหญ่สิงห์ จะโดนยึด