Chapter 2
“ผู้ใหญ่ว่ายังไงคะพ่อ?” บัวชมพูเอ่ยถามเมื่อบิดาขับรถมาจอด สีหน้าของท่านเป็นกังวลจนปิดไม่มิด มันทำให้เธอกลัว กลัวว่าผู้ใหญ่จอมโหดแห่งโคกกระบือแดง จะไม่ยอมให้ผัดผ่อนหนี้
“ไม่ได้ คราวนี้ไม่ให้เลื่อน เราต้องเสียที่ดินนี้จริง ๆ แล้วล่ะ”
“ใจดำที่สุด ถ้าโดนยึด แล้วเราจะทำอะไรกินล่ะจ๊ะ” บัวชมพูหน้าเครียด ผู้ใหญ่จอมโหดที่เธอไม่ชอบขี้หน้า เห็นที่ไหนเป็นต้องหลบ เธอไม่อยากเห็นหน้า ถ้ามีโอกาสเธอก็หาทางกลั่นแกล้ง คราวก่อนเธอแกล้งเป็นผี ไปหลอกที่สวนยาง โดนผู้ใหญ่ผีบ้าไล่ยิง หนีตายเกือบเอาตัวไม่รอด
เธอเกลียดผู้ใหญ่สิงห์เข้าไส้ เพราะตอนเป็นเด็กเขาทำท่าทางรังเกียจเธอเสียเต็มประดา แถมยังบุลลี่เธออีก
“ยัยเด็กสกปรกนี่ลูกใครวะไอ้ณต”
“ลูกผมเองครับ”
“ลูกมึงไปตกบ่อเกรอะมาเหรอ ถึงได้มอมขนาดนี้ เด็กอะไรไม่รู้ขี้เหร่เสียจริง น้ำมูกน้ำลาย ดูมือสิดำฉิบหาย”
“ผมไม่มีเวลาดูแลครับผู้ใหญ่ ช่วงนี้วุ่น ๆอยู่กับการเก็บกะหล่ำปลี ผมเอากะหล่ำปลีขึ้นรถเสร็จก่อนถึงจะไปล้างให้”
“ล้างก็คงไม่ออกหรอกขี้เหร่ขนาดนี้ แม่มันก็สวยนี่น่า ทำไมลูกถึงไม่สวยวะ เด็กอะไรขี้เหร๊ขี้เหร่”
คำพูดของผู้ใหญ่สิงห์ยังคงดังกึกก้องในหู ไม่มีวันไหนที่เธอจะลืมเลือน ตัวเองหล่อตายแหละไอ้ผู้ใหญ่ผีทะเล อยู่จนจะแก่ตาย ไม่มีใครอยากเป็นเมียเป็นตัวเป็นตน เจ้าชู้ชีกอ ชื่อเสียงเรียงนามเรื่องผู้หญิงดังกระฉ่อน เธอสาปส่ง ขอให้ตายคาอกผู้หญิง
“ไม่รู้สิ ที่สำคัญพ่อไม่เป็นหนี้ผู้ใหญ่สิงห์คนเดียว พ่อเป็นหนี้เสี่ยตู่ด้วย”
“โอ๊ยพ่อ พ่อไปเป็นหนี้เสี่ยบ้านี่ตอนไหน?” บัวชมพูหน้าเครียด นึกว่าบิดาเป็นหนี้แค่ผู้ใหญ่หื่นกาม ที่ไหนได้เป็นหนี้เสี่ยตู่อีก เสี่ยตู่เองก็พวกหื่นกามเหมือนผู้ใหญ่แต่หนักกว่า วิปริตวิตถาร เธอได้ยินข่าวบ่อยๆ ว่าเสี่ยชอบซ้อมผู้หญิง เป็นพวกซาดิสม์ ล่าสุดก็เพิ่งโดนภรรยาฟ้องหย่า เพราะทนความวิตถารไม่ไหว
“ก็ตั้งแต่ต้นปี ตอนนั้นพ่อต้องลงทุนปลูกผัก แต่เงินที่มีดันไม่พอ พ่อก็เลยไปกู้กับผู้ใหญ่อีก แต่ผู้ใหญ่ไม่ให้เพราะพ่อเอามาเยอะแล้ว พ่อก็เลยไปกู้เสี่ยตู่ ดอกมันค่อนข้างแพง พ่อคิดว่าขายกะหล่ำปลีได้จะเอาไปใช้เสี่ยตู่ แต่กะหล่ำเสียหายเพราะพายุ ถ้าพ่อไม่มีเงินคืน พ่อตายแน่”
“แต่พ่อเอาโฉนดไปจำนองกับผู้ใหญ่แล้ว พ่อเอาอะไรไปค้ำประกันเงินกู้กับเสี่ยตู่ล่ะจ๊ะ”
“พ่อก็โฉนดไปค้ำประกันเหมือนกัน”
“ทำได้ยังไงล่ะพ่อ โฉนดใบจริงอยู่กับผู้ใหญ่” บัวชมพูท้วง ที่สี่ไร่สามงาน สามงานปลูกบ้านสี่ไร่ปลูกกะหล่ำปลี บิดาของเธอมีโฉนดตรงนี้แค่ผืนเดียว ไม่มีที่อื่นแน่ ท่านเอาโฉนดที่ไหนไปค้ำประกันเสี่ยตู่
“มีที่รับทำโฉนดปลอม” ปณตตอบอ้อมแอ้ม ดีที่ตอนไปกู้เงินเสี่ยตู่มันไม่ได้ตรวจเช็คให้ดี เขารู้ว่าผิดแต่ตอนนั้นมันอับจนหนทาง ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายแบบนี้
“โอ๊ยพ่อ มันผิดกฏหมาย”
“พ่อไม่มีทางเลือก ถ้ากะหล่ำไม่เสียหายด้วยพายุลูกเห็บ พ่อก็มีเงินคืนเสี่ยตู่กับผู้ใหญ่สิงห์ ตอนนี้พ่อไม่มีเงิน ถ้าเสี่ยรู้ว่าโฉนดปลอม เสี่ยตู่จัดการพ่อแน่”
“แล้วเราจะทำยังไงต่อไปล่ะพ่อ”
“เฮ้อ พ่อเครียดจังเลยลูก” ปณตกุมขมับตัวเอง
“พ่ออย่าเพิ่งเครียดนะจ๊ะ กินข้าวกันดีกว่า ท้องอิ่มเราจะคิดออกค่ะ” บัวชมพูยิ้มเจื่อน ๆ แม้จะเครียดแต่มันต้องมีทางออก เธอลุกขึ้นจากแคร่แล้วรีบเดินเข้าครัว วันนี้เธอไปปักเบ็ดได้ปลามาหลายตัว อาหารวันนี้มีแต่เมนูปลา มีปิ้งปลาหมอไข่ ลาบปลา ป่นปลา กับแกงอ่อมปลา เป็นอาหารง่าย ๆ ที่เธอชอบทำ
“แต่พ่อไม่มีเงินซื้อกับข้าวนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ วันนี้บัวไปบักเบ็ดได้ปลาตัวเลยค่ะ ขังไว้ในโอ่งก็มี กินได้หลายวันเลย” เธอว่าแล้วยกถาดมาวางบนแคร่ ไม่มีเงินซื้อกับข้าวเธอก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะเธอมีอาหารตุนเอาไว้แล้ว “พรุ่งนี้จะทำแป๊ะซะให้กิน”
“ลูกไปปักเบ็ด?” ปณตขมวดคิ้ว ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะบัวชมพูชอบไปปักเบ็ดหาเห็ดหาหอย มันเป็นเรื่องปกติ แต่ที่เขาสงสัยลูกสาวเขาเอาเวลาไหนไปปักเบ็ด เมื่อเช้ายังปลูกผักอยู่เลย
“ใช่ค่ะ ปักเบ็ดบ่อปลานาผู้ใหญ่นั่นแหละ ปลาเยอะมาก ตัวใหญ่ ๆ ทั้งนั้น” ปณตแทบสำลักปั้นข้าวเหนียวลาบปลาที่เพิ่งปากไปเมื่อครู่ เมื่อรู้ว่าลูกสาวไปปักเบ็ดบ่อปลาใคร
“หูย ผู้ใหญ่เจอโดนด่าเปิง ถ้าจับได้เราซวยแน่” ใคร ๆ ก็รู้ว่าผู้ใหญ่มีนิสัยยังไง ถ้าโดนจับได้คือซวยกับซวย ซวยโคตรซวย เพราะเคยมีคนไปขโมยปลา ทั้งโดนปรับโดนจับ หนำซ้ำยังต้องซื้อปลาคืน หน้าเลือดขั้นสุด
“ก็ไม่เห็นจับได้นิคะ ผู้ใหญ่บ้านั่นมีที่เยอะจะตาย ไม่มีเวลามาสนใจบ่อปลาหรอกค่ะ” บัวชมพูหัวเราะ ผู้ใหญ่ชีกอไม่มีเวลามาสนใจ ที่ดินเยอะขนาดนั้น ไม่มีเวลามานาหรอก นอกจากไปสนใจเรื่องใต้ร่มผ้าผู้หญิง
“พ่อว่าอย่าไป…”
“ไอ้ณตเว้ย!” เสียงเอะอะดังอยู่ที่หน้าบ้านทำให้บทสนทนาของพ่อลูกสิ้นสุดลง ปณตถึงกับหน้าซีดเมื่อได้ยินเสียง เขาจำได้ว่าเจ้าของนั้นคือใคร
“เสี่ยตู่” ปณตหน้าซีด
“ครบกำหนดที่มึงต้องคืนเงินกูแล้ว ทั้งต้นทั้งดอก เอามาคืนกู ถ้าไม่มีกูยึดหมดแน่”
“เอาไงดีพ่อ” อาหารแสนอร่อยกร่อยลงทันที เมื่อผู้มาใหม่เป็นผู้ที่เธอกับบิดาไม่ปรารถนาให้มาสักนิด
“พ่อจะออกไป”
“ชมพูกลัวว่าเสี่ยตูบจะไม่ยอมน่ะสิ!” สถานการณ์ตึงเครียด แต่ลูกสาวของเขาก็ตั้งฉายาได้ตลกที่สุด
“พ่อจะลองพูดดูก่อน”
“ปึง!” ประตูถูกถีบแรง ๆ จนประตูบานหนาหลุดเอียงกระเท่เร่ พร้อมกับร่างเสี่ยตู่และลูกน้องที่กรูเข้ามา พื้นที่บ้านไม่ได้ใหญ่มาก พอเสี่ยกับลูกน้องเข้ามา บ้านก็ดูเล็กไปถนัดตา
“มึงอย่าคิดหนี เพราะกูไม่ปล่อยมึงแน่” เสี่ยชี้หน้า ก่อนจะสะดุดตาเด็กสาววัยสิบแปด ที่นั่งอยู่บนแคร่ข้าง ๆ ปณต
“ผมไม่ได้หนีนะเสี่ย ผมกำลังกินข้าวกับลูกอยู่ เสี่ยมาโวยวายพังประตูบ้านมา เสี่ยกับลูกน้องกำลังบุกรุกบ้านผมอยู่นะ”
“กูไม่ได้บุกรุก ถ้าไม่มีเงินมาจ่ายกู บ้านมึงที่ปลูกผักมึงกูจะยึดให้หมด” มือหนาทุบฝาบ้านดังปัง “ถ้าไม่พอกูจะยึดลูกมึงด้วย”
“….”
“ใครจะยึดที่อะไรนะ ไอ้ณตใครยึดที่กู มึงจำนองกับกูแล้ว ในสัญญาก็มีบอก มึงไม่มีเงินคืนที่ต้องเป็นของกู อย่าคิดว่ากูจะยอมให้ใครมายึดไป!” ผู้ใหญ่สิงห์ยืนจังก้าอยู่ที่ประตู ปณตหน้าเครียดอยู่แล้วยิ่งเครียดกว่าเดิม เสี่ยตู่หันไปมองผู้ใหญ่สิงห์ด้วยสายตาไม่พอใจ ศัตรูคู่อริเข้ามาแส่ อย่าคิดว่าจะยอม
Chapter 3“ไอ้ผู้ใหญ่หมา มึงอย่ามาแส่” เสี่ยตู่ชี้หน้าไม่พอใจ ไอ้ผู้ใหญ่หมามันคิดจะมายุ่งกับที่ดินผืนนี้ เรื่องอะไรเขาจะยอม เขาไม่ยอมเด็ดขาดที่มาทวงเงิน ที่จริงก็ใช่ว่าอยากจะได้เงินคืน เขาอยากจะยึดที่ดินตรงนี้ ที่ทำเลดีขนาดนี้ เอาไว้โฮมสเตย์ให้คนท่องเที่ยว ได้เงินตลอดทั้งปี“ที่เป็นของกู มึงก็อย่ามาเสือกมาแส่ ที่นี่ถิ่นกูเว้ย!” สิ้นประโยคของผู้ใหญ่สิงห์ ลูกน้องของเขาก็กรูเข้ามาสายตาคมกริบหันไปจ้องมองเด็กสาว เธอหน้าง้ำทันที มองมาที่เขาอย่างไม่พอใจ เด็กคนนี้เป็นใครกัน เขาไม่เคยเห็นหน้า แต่หน้าตาสระสวย เรียกว่าสวยจัด ใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากจิ้มลิ้ม แม่ใบหน้าจะบูดบึ้ง กลับไม่ได้ลดทอนความสวยของเธอลงแม้แต่น้อย“ไอ้เหี้ยเอ้ย มึงคิดว่ามึงจะได้ที่นี่เหรอ กูมีสัญญาที่ไอ้เวรปณตทำตอนไปกู้ยืม ในสัญญามีรายละเอียดชัดเจน ที่สำคัญโฉนดที่มันเอาไปค้ำประกันอยู่กับกู!” เสี่ยตู่ชูสัญญาขึ้น พร้อมโฉนดที่ดินปณตถึงกับหน้าซีด ตัวสั่นขึ้นมาดื้อ ๆ เขาหันไปมองที่ประตูด้านหลังหลายระลอก ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เขาจะฝากลูกสาวกับผู้ใหญ่สิงห์ แล้วชิ่งออกประตูหลัง กระโดดข้ามคลองหนีไปอีกฝั่ง“ฮ่า ๆ ไอ้ตู่มึงนี่โง่ฉิบหาย โฉนดจริง
“ไปเก็บของแล้วไปอยู่ที่ไร่กับฉัน” ผู้ใหญ่สิงห์ออกคำสั่ง บัวชมพูชักสีหน้าไม่พอใจ พอได้ทีล่ะเอาใหญ่ ทั้งที่เมื่อก่อน ออกจะรังเกียจเด็กมอมแมม อย่างเธอด้วยซ้ำบูลลี่เก่งปากคอเราะร้ายก็ขั้นสุด“ไม่ไป ฉันจะอยู่บ้าน ไร่ผู้ใหญ่ไม่ใช่บ้านฉัน ผู้ใหญ่ควรจะกลับไปที่บ้านผู้ใหญ่ ส่วนฉันจะทำกับข้าวรอพ่อแล้วอาบน้ำนอน ผู้ใหญ่ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก” เธอเอ่ยไล่ ใจก็เป็นห่วงบิดา แต่จะให้ฟูมฟายตีโพยตีพายหวาดกลัวเกินเหตุ ตีตนไปก่อนไข้ เธอไม่ทำเด็ดขาดพ่อเธอแค่หนีไปตั้งหลัก เย็น ๆ คงจะกลับมา ที่จริงก็อยากโกรธที่ท่านทำอะไรไม่ตรองให้ดี แต่มาคิดดูอีกที บิดาของเธอคงจะอับจนหนทางแล้วถึงได้ทำที่ผ่านมาท่านลำบากมาตลอด ปีไหนกะหล่ำปลีเป็นราคาท่านจะซื้อเสื้อผ้าดี ๆ พาไปซื้อของกินดี ๆ แต่ถ้าปีไหนผักราคาตกกะหล่ำปลีล้นตลาด บิดาของเธอก็ขาดทุนย่อยยับ นั่งหน้าเครียดเป็นเดือน ๆ“ทุกอย่างที่นี่เป็นของฉัน รวมทั้งตัวหนูด้วย”“อย่ามาหนูด้วยนะ” หล่อนถลึงตาใส่ คนอะไรไม่รู้หน้ามึน หนำซ้ำยังไล่ยากไล่เย็น“ก็หนูเป็นเด็กผู้ใหญ่สิงห์ ต่อไปนี้ฉันต้องเรียกว่าหนูชมพู”“อย่ามาเรียกหนู ที่สำคัญฉันไม่ได้เป็นเด็กผู้ใหญ่” หล่อนแหวใส่“ไม่หนูก็
Chapter 5บัวชมพูคว้ากระสอบกับเสียมเดินดุ่ม ๆ ไปที่ป่าไผ่ท้ายหมู่บ้าน มันเป็นป่าไผ่ของผู้ใหญ่สิงห์คนโหด ใครก็ไม่กล้าเข้ามาสับหน่อไม้กิน เพราะต่างเกรงกลัวผู้ใหญ่สิงห์ส่วนเธอน่ะเหรอ ไม่เคยกลัว มาสับไปขายตลอดบ่อย ฝนตกพายุเข้าเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว หน่อไม้กำลังขึ้นหลายหน่อ มีทั้งหน่อยาวหน่อสั้น หน่อดินเกิดขึ้นเยอะ เป็นที่ต้องการของลูกค้าในตลาด“หูยเยอะจังเลย” บัวชมพูรีบสับหน่อไม้ วันนี้หน่อไม้ออกเยอะ สับแป๊บเดียวได้เกือบเต็มกระสอบ ได้แต่หน่อสวย ๆ ยิ่งหน่อดินยิ่งขาวน่ากิน พอได้ตามที่ต้องการก็เอาไปนั่งปอกที่กระท่อมไม้ไผ่ เป็นกระท่อมของผู้ใหญ่สิงห์ ทำไว้แถวป่าไผ่นั่นแหละหน้าฝนเธอก็หาสับหน่อไม้แบบนี้ตลอด ผู้ใหญ่ชีกอปลูกไว้ ไม่มาดูแลไม่มาสับไปกินไปขาย เธอเลยจัดการให้ซะเลย ^[]^ปอกหน่อไม้เสร็จก็จะเอาไปต้ม ต้มทั้งหน่อแล้วเอามามัดขาย มัดล่ะยี่สิบสามมัดห้าสิบ หน่อใหญ่ก็เอามาฝานต้มใส่ถุงขาย มากหน่อยก็ทำหน่อไม้ถุงไว้ขาย ทำไว้กินได้ตลอดทั้งปี ขายได้เก็บได้ เอามาแปรรูปได้หลายอย่าง“อีบัวเอ้ย วันนี่ไม่ต่ำกว่าห้าร้อยแน่มึง” บัวชมพูพูดอย่างดีใจ“กูก็นึกว่าใคร?” น้ำเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นพร้อมกับชายฉกรรจ์อ
Chapter 1“ผู้ใหญ่สิงห์ครับ เอ่อ ผม…” ปณตทำท่าทางกระอักกระอ่วน มองชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ราคาแพง ใบหน้าของผู้ใหญ่สิงห์เรียบนิ่ง สีหน้ายากคาดเดา ว่ากำลังคิดอะไรอยู่“อะไรของมึงไอ้ปณต?” ผู้ใหญ่สิงห์แห่งโคกกระบือแดงชักสีหน้าสีหงุดหงิด“ผม…” ปณตอึกอัก ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับคนตรงหน้าอย่างไรดี จะพูดอะไรก็กลัวคนตรงหน้าไม่พอใจ ผู้ใหญ่สิงห์เป็นคนห่าม ๆ อารมณ์ร้อน ไม่พอใจได้กินปลาตีนเป็นแน่“ผมอะไร? มึงจะพูดอะไร ทำไมไม่พูด” สีหน้าแววตาคาดคั้นให้พูดออกมา“ผม…เอ่อ…ผม ผมยังไม่มีเงินใช้หนี้ผู้ใหญ่เลย” สิ้นประโยคคนตรงหน้า ผู้ใหญ่สิงห์ก็มองหน้าอย่างไม่พอใจ“มึงเลื่อนกูมาหลายครั้งแล้วนะไอ้ปณต มึงควรจ่ายกูให้ตรงสิ!”“แต่ผมไม่มีเงินจริง ๆ ปีนี้พายุถล่มกะหล่ำปลีเสียหายหมด ผมไม่รู้ว่าผมจะหาเงินที่ไหนมาให้ผู้ใหญ่” ปณตพูดอย่างจนใจ“อันนั้นมันคือเหตุผลของมึง ไม่ใช่เหตุผลของกู กูให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว ถ้ามึงหาเงินมาจ่ายกูไม่ได้ ที่ดินที่มึงเอามาจำกับกู กูจะยึดเป็นของกู”“ผู้ใหญ่ครับ” ปณตหน้าเครียด ที่จริงผู้ใหญ่สิงห์ก็บอกอยู่แล้ว ถ้าหาเงินที่กู้ยืมมาคืนไม่ได้ ที่ดินที่เคยเอาไปจำนองกับผู้ใหญ่สิงห์ จะโดนยึด
Chapter 5บัวชมพูคว้ากระสอบกับเสียมเดินดุ่ม ๆ ไปที่ป่าไผ่ท้ายหมู่บ้าน มันเป็นป่าไผ่ของผู้ใหญ่สิงห์คนโหด ใครก็ไม่กล้าเข้ามาสับหน่อไม้กิน เพราะต่างเกรงกลัวผู้ใหญ่สิงห์ส่วนเธอน่ะเหรอ ไม่เคยกลัว มาสับไปขายตลอดบ่อย ฝนตกพายุเข้าเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว หน่อไม้กำลังขึ้นหลายหน่อ มีทั้งหน่อยาวหน่อสั้น หน่อดินเกิดขึ้นเยอะ เป็นที่ต้องการของลูกค้าในตลาด“หูยเยอะจังเลย” บัวชมพูรีบสับหน่อไม้ วันนี้หน่อไม้ออกเยอะ สับแป๊บเดียวได้เกือบเต็มกระสอบ ได้แต่หน่อสวย ๆ ยิ่งหน่อดินยิ่งขาวน่ากิน พอได้ตามที่ต้องการก็เอาไปนั่งปอกที่กระท่อมไม้ไผ่ เป็นกระท่อมของผู้ใหญ่สิงห์ ทำไว้แถวป่าไผ่นั่นแหละหน้าฝนเธอก็หาสับหน่อไม้แบบนี้ตลอด ผู้ใหญ่ชีกอปลูกไว้ ไม่มาดูแลไม่มาสับไปกินไปขาย เธอเลยจัดการให้ซะเลย ^[]^ปอกหน่อไม้เสร็จก็จะเอาไปต้ม ต้มทั้งหน่อแล้วเอามามัดขาย มัดล่ะยี่สิบสามมัดห้าสิบ หน่อใหญ่ก็เอามาฝานต้มใส่ถุงขาย มากหน่อยก็ทำหน่อไม้ถุงไว้ขาย ทำไว้กินได้ตลอดทั้งปี ขายได้เก็บได้ เอามาแปรรูปได้หลายอย่าง“อีบัวเอ้ย วันนี่ไม่ต่ำกว่าห้าร้อยแน่มึง” บัวชมพูพูดอย่างดีใจ“กูก็นึกว่าใคร?” น้ำเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นพร้อมกับชายฉกรรจ์อ
“ไปเก็บของแล้วไปอยู่ที่ไร่กับฉัน” ผู้ใหญ่สิงห์ออกคำสั่ง บัวชมพูชักสีหน้าไม่พอใจ พอได้ทีล่ะเอาใหญ่ ทั้งที่เมื่อก่อน ออกจะรังเกียจเด็กมอมแมม อย่างเธอด้วยซ้ำบูลลี่เก่งปากคอเราะร้ายก็ขั้นสุด“ไม่ไป ฉันจะอยู่บ้าน ไร่ผู้ใหญ่ไม่ใช่บ้านฉัน ผู้ใหญ่ควรจะกลับไปที่บ้านผู้ใหญ่ ส่วนฉันจะทำกับข้าวรอพ่อแล้วอาบน้ำนอน ผู้ใหญ่ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก” เธอเอ่ยไล่ ใจก็เป็นห่วงบิดา แต่จะให้ฟูมฟายตีโพยตีพายหวาดกลัวเกินเหตุ ตีตนไปก่อนไข้ เธอไม่ทำเด็ดขาดพ่อเธอแค่หนีไปตั้งหลัก เย็น ๆ คงจะกลับมา ที่จริงก็อยากโกรธที่ท่านทำอะไรไม่ตรองให้ดี แต่มาคิดดูอีกที บิดาของเธอคงจะอับจนหนทางแล้วถึงได้ทำที่ผ่านมาท่านลำบากมาตลอด ปีไหนกะหล่ำปลีเป็นราคาท่านจะซื้อเสื้อผ้าดี ๆ พาไปซื้อของกินดี ๆ แต่ถ้าปีไหนผักราคาตกกะหล่ำปลีล้นตลาด บิดาของเธอก็ขาดทุนย่อยยับ นั่งหน้าเครียดเป็นเดือน ๆ“ทุกอย่างที่นี่เป็นของฉัน รวมทั้งตัวหนูด้วย”“อย่ามาหนูด้วยนะ” หล่อนถลึงตาใส่ คนอะไรไม่รู้หน้ามึน หนำซ้ำยังไล่ยากไล่เย็น“ก็หนูเป็นเด็กผู้ใหญ่สิงห์ ต่อไปนี้ฉันต้องเรียกว่าหนูชมพู”“อย่ามาเรียกหนู ที่สำคัญฉันไม่ได้เป็นเด็กผู้ใหญ่” หล่อนแหวใส่“ไม่หนูก็
Chapter 3“ไอ้ผู้ใหญ่หมา มึงอย่ามาแส่” เสี่ยตู่ชี้หน้าไม่พอใจ ไอ้ผู้ใหญ่หมามันคิดจะมายุ่งกับที่ดินผืนนี้ เรื่องอะไรเขาจะยอม เขาไม่ยอมเด็ดขาดที่มาทวงเงิน ที่จริงก็ใช่ว่าอยากจะได้เงินคืน เขาอยากจะยึดที่ดินตรงนี้ ที่ทำเลดีขนาดนี้ เอาไว้โฮมสเตย์ให้คนท่องเที่ยว ได้เงินตลอดทั้งปี“ที่เป็นของกู มึงก็อย่ามาเสือกมาแส่ ที่นี่ถิ่นกูเว้ย!” สิ้นประโยคของผู้ใหญ่สิงห์ ลูกน้องของเขาก็กรูเข้ามาสายตาคมกริบหันไปจ้องมองเด็กสาว เธอหน้าง้ำทันที มองมาที่เขาอย่างไม่พอใจ เด็กคนนี้เป็นใครกัน เขาไม่เคยเห็นหน้า แต่หน้าตาสระสวย เรียกว่าสวยจัด ใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากจิ้มลิ้ม แม่ใบหน้าจะบูดบึ้ง กลับไม่ได้ลดทอนความสวยของเธอลงแม้แต่น้อย“ไอ้เหี้ยเอ้ย มึงคิดว่ามึงจะได้ที่นี่เหรอ กูมีสัญญาที่ไอ้เวรปณตทำตอนไปกู้ยืม ในสัญญามีรายละเอียดชัดเจน ที่สำคัญโฉนดที่มันเอาไปค้ำประกันอยู่กับกู!” เสี่ยตู่ชูสัญญาขึ้น พร้อมโฉนดที่ดินปณตถึงกับหน้าซีด ตัวสั่นขึ้นมาดื้อ ๆ เขาหันไปมองที่ประตูด้านหลังหลายระลอก ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เขาจะฝากลูกสาวกับผู้ใหญ่สิงห์ แล้วชิ่งออกประตูหลัง กระโดดข้ามคลองหนีไปอีกฝั่ง“ฮ่า ๆ ไอ้ตู่มึงนี่โง่ฉิบหาย โฉนดจริง
Chapter 2“ผู้ใหญ่ว่ายังไงคะพ่อ?” บัวชมพูเอ่ยถามเมื่อบิดาขับรถมาจอด สีหน้าของท่านเป็นกังวลจนปิดไม่มิด มันทำให้เธอกลัว กลัวว่าผู้ใหญ่จอมโหดแห่งโคกกระบือแดง จะไม่ยอมให้ผัดผ่อนหนี้“ไม่ได้ คราวนี้ไม่ให้เลื่อน เราต้องเสียที่ดินนี้จริง ๆ แล้วล่ะ”“ใจดำที่สุด ถ้าโดนยึด แล้วเราจะทำอะไรกินล่ะจ๊ะ” บัวชมพูหน้าเครียด ผู้ใหญ่จอมโหดที่เธอไม่ชอบขี้หน้า เห็นที่ไหนเป็นต้องหลบ เธอไม่อยากเห็นหน้า ถ้ามีโอกาสเธอก็หาทางกลั่นแกล้ง คราวก่อนเธอแกล้งเป็นผี ไปหลอกที่สวนยาง โดนผู้ใหญ่ผีบ้าไล่ยิง หนีตายเกือบเอาตัวไม่รอดเธอเกลียดผู้ใหญ่สิงห์เข้าไส้ เพราะตอนเป็นเด็กเขาทำท่าทางรังเกียจเธอเสียเต็มประดา แถมยังบุลลี่เธออีก“ยัยเด็กสกปรกนี่ลูกใครวะไอ้ณต”“ลูกผมเองครับ”“ลูกมึงไปตกบ่อเกรอะมาเหรอ ถึงได้มอมขนาดนี้ เด็กอะไรไม่รู้ขี้เหร่เสียจริง น้ำมูกน้ำลาย ดูมือสิดำฉิบหาย” “ผมไม่มีเวลาดูแลครับผู้ใหญ่ ช่วงนี้วุ่น ๆอยู่กับการเก็บกะหล่ำปลี ผมเอากะหล่ำปลีขึ้นรถเสร็จก่อนถึงจะไปล้างให้”“ล้างก็คงไม่ออกหรอกขี้เหร่ขนาดนี้ แม่มันก็สวยนี่น่า ทำไมลูกถึงไม่สวยวะ เด็กอะไรขี้เหร๊ขี้เหร่”คำพูดของผู้ใหญ่สิงห์ยังคงดังกึกก้องในหู ไม่มีว
Chapter 1“ผู้ใหญ่สิงห์ครับ เอ่อ ผม…” ปณตทำท่าทางกระอักกระอ่วน มองชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ราคาแพง ใบหน้าของผู้ใหญ่สิงห์เรียบนิ่ง สีหน้ายากคาดเดา ว่ากำลังคิดอะไรอยู่“อะไรของมึงไอ้ปณต?” ผู้ใหญ่สิงห์แห่งโคกกระบือแดงชักสีหน้าสีหงุดหงิด“ผม…” ปณตอึกอัก ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับคนตรงหน้าอย่างไรดี จะพูดอะไรก็กลัวคนตรงหน้าไม่พอใจ ผู้ใหญ่สิงห์เป็นคนห่าม ๆ อารมณ์ร้อน ไม่พอใจได้กินปลาตีนเป็นแน่“ผมอะไร? มึงจะพูดอะไร ทำไมไม่พูด” สีหน้าแววตาคาดคั้นให้พูดออกมา“ผม…เอ่อ…ผม ผมยังไม่มีเงินใช้หนี้ผู้ใหญ่เลย” สิ้นประโยคคนตรงหน้า ผู้ใหญ่สิงห์ก็มองหน้าอย่างไม่พอใจ“มึงเลื่อนกูมาหลายครั้งแล้วนะไอ้ปณต มึงควรจ่ายกูให้ตรงสิ!”“แต่ผมไม่มีเงินจริง ๆ ปีนี้พายุถล่มกะหล่ำปลีเสียหายหมด ผมไม่รู้ว่าผมจะหาเงินที่ไหนมาให้ผู้ใหญ่” ปณตพูดอย่างจนใจ“อันนั้นมันคือเหตุผลของมึง ไม่ใช่เหตุผลของกู กูให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว ถ้ามึงหาเงินมาจ่ายกูไม่ได้ ที่ดินที่มึงเอามาจำกับกู กูจะยึดเป็นของกู”“ผู้ใหญ่ครับ” ปณตหน้าเครียด ที่จริงผู้ใหญ่สิงห์ก็บอกอยู่แล้ว ถ้าหาเงินที่กู้ยืมมาคืนไม่ได้ ที่ดินที่เคยเอาไปจำนองกับผู้ใหญ่สิงห์ จะโดนยึด