Talk ภาคิณ (คุณป๋า)ฝุ่นเธอประครองไอ้นั่นขึ้น ผมที่ยังโมโหอยู่ก็สติหลุดอีกครั้ง ไม่ชอบให้ยุ่งกับใครนอกจากผม เธอไม่เข้าใจเลยหรือไงวะ !! ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปดึงฝุ่นมาก่อนจะผลักไอ้นั่นให้ล้มฟุบลงไปกองที่พื้น “พี่ไนท์” เป็นมายที่รีบวิ่งไปประครองมัน “หึ!! ดีจริงๆ มีแต่ผู้หญิงปกป้อง” เพี๊ยะ!! ผมรู้สึกถึงฝ่ามือเล็กๆ ที่ฟาดมาบนใบหน้าของผมแรงๆ จนมันชาไปเลยทั้งซีก “เธอตบหน้าฉัน ?” เพี๊ยะ!! ฝุ่นเธอฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของผมอีกครั้ง “จะเลิกบ้าได้หรือยังคะ !!” เธอจ้องหน้าผมตาเขม็งบ่งบอกให้รู้ว่ากำลังโกรธ “หรือต้องให้ฝุ่นหนีจริงๆ !!” “ใครมันจะอยากเห็นเมียตัวเองอยู่กับผู้ชายคนอื่นวะ ห๊ะ!!” “ฝุ่นไม่ใช่เมียคุณป๋า !!”“ได้!!” ผมดึงเธอมากอดแล้วก็กดจูบลงบนริมฝีปากบางทันที ฝุ่นเธอทั้งผลัก ทั้งทุบแผงอกของผมอย่างบ้าคลั่ง แต่ผมไม่ยอมปล่อยเธอไป Talk ฝุ่นฉันพยายามดันตัวเองออกจากสัมผัสที่น่ารังเกียจนี้ ในตอนนี้พี่ไนท์คงจะรู้แล้วว่าคุณป๋ากับฉัน....ในเมื่อคุณป๋าประกาศออกมาขนาดนี้แล้ว พรึบ! ฉันผลักคุณป๋าออกไปจากตัวก่อนจะ (เพี๊ยะ) ฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าของคุณป๋าอีกครั้ง คุณป๋าจ้องหน้าฉันดวงตาแดงกล่ำก่อนจะ
ฉันผลักคุณป๋าออก แล้วตบหน้าไปเต็มแรง วันนี้คุณป๋าเจอฉันตบไปกี่ครั้งแล้วยังไม่จำอีกงั้นหรอ หรือชอบความเจ็บปวด “เธอตบฉันในฐานะอะไร...?” คุณป๋าถาม มองฉันแววตาเศร้า “.....” ฉันไม่เข้าใจว่าตอนนี้คุณป๋ากำลังหมายถึงอะไร“ฉันจูบเธอในฐานะที่เธอเป็นเมียฉัน” คุณป๋าจะเอื้อมมือมาจับมือของฉันแต่ฉันรีบดึงมือออก “แล้วเธอล่ะ ตบฉันในฐานะที่ฉันเป็นพ่อเลี้ยงเธอ หรือ เป็นผัวเธอ ?” “หยุดตั้งคำถามอะไรบ้าๆ สักที คุณป๋าควรกลับไปได้แล้วค่ะ” “ฉันเคยรักฝน...” จู่ๆ คุณป๋าก็พูดขึ้น ทำเอาฉันถึงกับสะอึกไปทันทีเมื่อได้ยิน รักพี่ฝน! แล้วมาบอกฉันทำไม คุณป๋ายกมือขึ้นมาจับพวงแก้มของฉัน แน่นอนว่าฉันไม่ยอมและปัดออก แต่คุณป๋าก็ยังเอามือมาจับอีก จนในที่สุดฉันก็นิ่งไปปล่อยให้คุณป๋าทำ ดวงตาคู่นั้นของคุณป๋าจ้องมองใบหน้าของฉันตาแดงกล่ำ มือหนาลูบไปจนทั่วใบหน้าของฉัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงจะคิดถึงพี่ฝนอยู่ และฉันทำไมต้องมารู้สึกเจ็บปวดแบบนี้อีกล่ะ “เธอเหมือนฝนจนฉันอดใจไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ...”“ฝุ่นกับพี่ฝนเป็นแฝดกันค่ะ คุณป๋าก็รู้ดี ฝุ่นกับพี่ฝนจะหน้าเหมือนกันคงไม่แปลกอะไร” “ฉันตั้งใจจะไม่รู้สึกอะไรกับใครนอกจากฝน แต่แล้วฉัน
“เป็นอะไร ?” คุณป๋าถามเสียงเรียบ คิ้วหนาขมวดเป็นปม “หรือว่าเธอกำลังหึงฉันอยู่...” ฉันนะหรอกำลังหึงคุณป๋าอยู่ ไม่มีทาง ฉันก็แค่หงุดหงิดเท่านั้น “ไม่ค่ะ!! ฝุ่นไม่ได้หึง ทำไมต้องหึงด้วยคะคุณป๋าเป็นผู้มีพระคุณของฝุ่นนะ อีกอย่างถ้าคุณป๋าจะมีใครฝุ่นก็ยินดีด้วยค่ะ” “พูดซะยาวเหยียดขนาดนี้บอกไม่หึง ?” คุณป๋าเลิกคิ้วขึ้นถามพร้อมกับยิ้มมุมปาก “อะไรกันคะ ก็บอกไม่หึงไง!!” “พูดกับฉันดีๆ หน่อย”“ทำไมต้องพูดดีด้วย” “หื้ม! ไหนบอกว่าฉันคือผู้มีพระคุณของเธอ” คุณป๋ายื่นหน้ามาใกล้ๆ “แต่อาการของเธอมันเหมือนเมียกำลังงอนผัวอยู่เลยนะ” “พะ...พูดอะไรบ้าๆ” ฉันสะบัดแขนออกแล้วรีบสับขาเดินไปที่รถ บ้าจริง!! ทำไมถึงหงุดหงิดได้มากขนาดนี้กัน คุณป๋าเดินตามฉันมาก่อนจะเปิดประตูขึ้นมานั่งตรงเบาะคนขับแล้วหันมาถามฉัน “แวะกินข้าวก่อนมั้ย” “ฝุ่นไม่หิวค่ะ” ตอบเสร็จฉันก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่น “อื้ม งั้นกลับบริษัทเลยนะ” จ้อก~ (เสียงท้องร้อง) ฉันรีบยกมือขึ้นมาจับท้องตัวเองทันที ทั้งที่อุตส่าห์บอกคุณป๋าไปแล้วว่าไม่หิว จะมาร้องทำไมตอนนี้ คุณป๋าหันกลับมามองหน้าฉันอีกครั้งแล้วหลุดยิ้มออกมา “ปากแข็งจริงๆ” คุณป๋าส่ายไปมาเล
เพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมงข่าวลือที่คุณป๋าจูบกับฉันในลิฟต์ก็แพร่สะพัดไปทั่วบริษัทจนไปถึงหูของอาเพทายที่ทำงานอยู่อีกตึก อาเพทายมาหาฉันและเรียกให้ฉันเข้าไปในห้องทำงานของคุณป๋าทันที “มึงคิดอะไรอยู่” อาเพทายถามคุณป๋าโดยมีฉันที่ยืนอยู่ข้างๆ คุณป๋าเงียบไม่ตอบคำถามของอาเพทายแต่กลับเอาแต่จ้องมองใบหน้าของฉัน “มึงรู้มั้ยว่าตอนนี้พนักงานพูดกันหนาหูมากขนาดไหนเรื่องที่มึงจูบฝุ่นในลิฟต์” คุณป๋าละสายตาจากฝบหน้าของฉันมองอาเพทายแล้วตอบอย่างไม่คิดอะไร “แล้วยังไง ?” “มึงควรให้เกียรติฝุ่นมากกว่านี้นะ สถานะของมึงไม่ควรทำอะไรต่ำๆ แบบนั้นต่อหน้าพนักงาน”“สถานะของกู คือฝุ่นเป็นเมียกู” คุณป๋าสวนกลับทันควัน ฉันไม่พูดและไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว เห็นตำตาขนาดนั้นจะให้ฉันกล้าปฏิเสธอะไร ถึงจะอยากปฏิเสธมากขนาดไหน คนอื่นก็คงจะมองว่าฉันกำลังแก้ตัวอยู่ดี “แต่มึงไม่ควรทำแบบนั้นไอ้คิน !!”“ทำไปแล้วมึงจะให้กูทำยังไงห๊ะ!!” คุณป๋าขึ้นเสียงกลับ ทำเอาอาเพทายเงียบไป ดูจากสีหน้าของอาเพทายแล้วคงจะไม่พอใจคุณป๋าเอามากๆ “มึงออกไปทำงาน เรื่องทั้งหมดกูจะจัดการเอง” “มึงจะจัดการยังไง ?” “กูจะแต่งงานกับฝุ่
คุณป๋ามองหน้าฉันพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะหันหลังแล้วเดินไปที่กระจกบานใหญ่ ที่มองเห็นตึกที่ตั้งอยู่ลายล้อมบริษัท “เธอออกไปเถอะ ส่วนเรื่องวันนี้ฉันจะจัดการเอง” “จัดการยังไงคะ” ฉันมีสิทธิ์จะรู้ไม่ใช่หรอ เพราะมันก็เกี่ยวกับฉันโดยตรง แต่เมื่อถูกถามคุณป๋าก็เงียบไม่ตอบอะไร ฉันยืนรอคำตอบอยู่สักพัก แต่ก็ได้แค่ความเงียบกลับมา เลยตัดสินใจเดินออกไปจากห้องทำงานของคุณป๋า แต่ก่อนที่จะออกไปคุณป๋าพูดขัดไว้ก่อน “ฉันให้เธอหยุดงานสามวัน” “คะ ?” ถึงฉันจะไม่เข้าใจแค่ก็ไม่ได้คำอธิบายอะไรอีก เพราะคุณป๋าไม่บอกอะไรนอกจากคำพูดเมื่อกี้ ส่วนฉันก็ได้แต่เดินออกมาจากห้องแบบงงๆ โชคดีที่บริเวณหน้าห้องทำงานของคุณป๋าไม่มีพนักงานเดินพลุกพล่าน เพราะเป็นเขตเฉพาะผู้บริหารและหุ่นส่วน หรือมีแค่เลขาส่วนตัวเท่านั้นที่จะผ่านไปมาได้ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตก็ไม่มีใครผ่านมาทางนี้ได้ ฉันนั่งเหม่อลอย คิดถึงเหตุการณ์ในลิฟต์ก่อนจะค่อยๆ ยกมือขึ้นมาแตะลงบนริมฝีปากของตัวเองเบาๆ ตึก! ตัก! ตึก! ตัก! หัวใจดวงน้อยมันถึงกับเต้นรัวไม่เป็นท่า กว่าจะเอาความคิดและความรู้สึกบ้าๆ ออกจากหัวไปได้ก็กินเวลาไปหลายนาที ฉันรีบก้มหน้าเปิดเอกสารบ
คุณป๋าเปลี่ยนเป็นกำชับกอดแน่น และเป็นฉันที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ในวงแขนแกร่งของคุณป๋าโดยไม่ได้ขัดขืนอะไร “ฉันอาจจะเป็นผู้ชายที่ดูเห็นแก่ตัว แต่ตอนนี้ฉันอยากบอกกับทุกคนว่าเธอไม่ใช่ลูกเลี้ยงของฉัน เธอเป็นมากกว่านั้น...” คุณป๋ามองหน้าฉันสีหน้าจริงจัง “ไม่ได้นะคะ...อีกอย่างฝุ่นไม่ได้เป็นมากกว่านั้น” ฉันรีบปฏิเสธ “ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องปฏิเสธ ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันยากที่เธอจะให้โอกาส”“ฝุ่นอยากกลับบ้านแล้วค่ะ” ฉันใช้มือดันแผงอกแกร่งของคุณป๋าให้ออกไปไกลๆ แต่ก็เปล่าประโยชน์ “คืนนี้....” คุณป๋าค่อยๆ ยื่นใบหน้ามาใกล้ๆ กับหูของฉัน “นอนกับฉันได้มั้ย”“มะ ไม่” ทำไมกัน ทำไมถึงปฏิเสธออกไปได้ไม่เต็มปาก ทั้งที่ตัวฉันเองก็ไม่ได้อยากนอนกับคุณป๋าสักหน่อย “ฉันอยากอยู่ใกล้เธอ อยากทำดีกับเธอ อยากให้เธอรู้ว่าที่ผ่านมาฉันอยากจะแก้ไขมันจริงๆ” “เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้หรอกนะคะ”“แต่เราทำปัจจุบันให้มันดีได้ไม่ใช่หรอ ถ้าเธอร่วมมือ” คุณป๋ายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำเหมือนจะฝังจมูกลงบนพวงแก้มของฉัน แต่เป็นฉันเองที่เอนตัวหนี“ฝุ่นไม่พร้อมจริงๆ ค่ะ” “ต้องขอโทษอีกกี่ครั้ง ฉันถึงจะได้รับโอกาสจากเธอ หื้ม” ในครั้งน
“คิด” คุณป๋าตอบแบบตรงไปตรงมา “คิดแบบนั้นแค่กับเธอ” “ลุกขึ้นไปนะ ฝุ่นหนัก!!” ฉันใช้มือดันคุณป๋าออกจากตัว ก่อนที่ร่างหนาของคุณป๋าจะค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วเปลี่ยนเป็นยืนจ้องฉันแทน “รอฉันอาบน้ำก่อน เสร็จแล้วจะไปส่ง” พูดจบคุณป๋าก็เดินไป ไม่ได้เดินธรรมดาแต่ยังถอนเสื้อออกพร้อมๆ กับเดินไปด้วย เห็นแบบนั้นฉันก็รีบหันหน้าหนีทันที เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลง ฉันจึงลุกขึ้นนั่งพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ ยกมือขึ้นมาทาบบนหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองที่มันกำลังเต้นรัวอยู่ ทำไมถึงต้องหวั่นไหวขนาดนี้ด้วย...ผ่านไปหลายนาทีที่ฉันนั่งอยู่ที่เดิม คือบนเตียง ไม่ได้ลุกขึ้นไปไหน แต่จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง ทำให้ฉันลุกขึ้นไปเปิดตู้เสื้อผ้าของคุณป๋าดู “ไปไหนแล้วนะ” ฉันบ่นพึมพำเบาๆ แล้วหากล่องที่มีภาพพี่ฝนอยู่ข้างในนั้น แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ทั้งที่ตอนนั้นฉันจำได้ว่าฉันเอาไว้ตรงนี้แท้ๆ “หรือคุณป๋าจะเอาไปซ้อนแล้ว” “หาอะไรอยู่” เสียงทุ้มเข้มกระซิบถามใกล้ๆ กับหูของฉัน ทำให้ฉันสะดุ้งตัวโหยงด้วยความตกใจก่อนจะหมุนตัวหันหน้าไปประจันกับคุณป๋า ไม่รู้ว่าคุณป๋าออกมาจากห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วนี
“ฝุ่น เดี๋ยว!! ฟังฉันก่อน” เสียงคุณป๋าตะโกนเรียกชื่อฉันดังมาจากทางด้านหลัง นั่นจึงทำให้ฉันรีบสับขาวิ่งหนีให้เร็วกว่าเดิม แต่!! ด้วยความที่ฉันใส่รองเท้าส้นสูงจึงทำให้การวิ่งทุลักทุเล และในที่สุดเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น “กรี๊ด อร้าย....~” ส้นรองเท้าพลิก ทำให้ร่างของฉันล้มฟุบลงไปกองกับพื้นไม่เป็นท่า “โอ้ย ~” พอฉันจะลุกขึ้นวิ่งต่อก็ลุกไม่ได้เพราะขาแพลงพนักงานที่เห็นเหตุการณ์กำลังจะเข้ามาช่วย แต่ไม่ทันเพราะเป็นคุณป๋าที่มาถึงตัวฉันก่อนใคร “อย่าเข้ามาใกล้ฝุ่น ออกไปให้ไกลๆ เลยนะ!!” ฉันไล่ให้คุณป๋าออกไปด้วยความโกรธ คุณป๋าไม่พูดอะไรทั้งนั้นแค่มองหน้าฉันแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ “บอกว่าอย่าไง โอ้ย!!” ฉันขยับตัวหนีคุณป๋า แต่มันก็เจ็บที่ข้อเท้าเอามากๆ จู่ๆ คุณป๋าก็โน้มตัวลงมา ก่อนจะช้อนมือมาใต้ร่างของฉันแล้วอุ้มขึ้น เสียงพนักงานหือฮากันใหญ่จากการกระทำของคุณป๋าในครั้งนี้ “ทำอะไรคะ วางฝุ่นลงเดี๋ยวนี้!!” ฉันตวาดบอกคุณป๋าเบาๆ แล้วจ้องตาเขม็งพร้อมกับดิ้นเล็กน้อยคุณป๋าก้มหน้าลงมามองฉัน “ถ้ายังไม่หยุดดิ้น...ฉันจะจูบเธอมันตรงนี้” เหมือนโดนไฟฟ้ากระแสแรงช๊อตมาที่ตัว ทำให้ฉันที่ดิ้นอยู่หยุดชะงักไป
คุณป๋ายืนกอดอกทำหน้ายักษ์ไม่รับมุกที่ฉันส่งไปให้ ใจคอจะตีฉันด้วยไม้เรียวนี่จริงๆ หรือไง“เลือกได้หรือยัง” คุณป๋าถามเสียงเข้ม สมองของฉันคิดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องอย่างว่า ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหยุดตรงหน้าของคุณป๋า“เลือกได้แล้วค่ะ” “เลือกอันไหนก็หยิบขึ้นมา”ฉันวางมือลงบนแผงอกแกร่ง แล้วค่อยๆ เลื่อนมือลงช้าๆ ลูบไล้ซิกแพ๊คแน่นๆ กำยำของคุณป๋าลงมาคลำตรงเป้ากางเกง“หนูเลือกอันนี้ค่ะ ^_^” “เมเบล!!” คุณป๋าดุฉันอีกแล้ว คอยดูเถอะจะทำให้ครางลั่นห้องเลย “ก็เลือกแล้วนี่คะ เอามันมาฟาดหนูสิ” ฉันปล่อยมือออกจากเป้ากางเกงของคุณป๋า ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงอย่างเชื้อเชิญให้คุณป๋าอดใจไม่ไหว คุณป๋ามองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของฉันตาไม่กระพริบ พร้อมกับขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์กามของตัวเอง “นิ่งอยู่ทำไมล่ะคะ ไม่อยากตีหนูแล้วหรอ”“จะดื้อไปถึงไหนห๊ะ!!”“หนูเปล่าดื้อสักหน่อย” คุณป๋าเดินตรงมาหาฉัน ก่อนจะกดร่างของฉันให้นอนราบไปกับที่นอนแล้วขึ้นมาคร่อม “ชอบแบบนี้ ?” “ใครบ้างอยากโดนตีล่ะคะ” ฉันยกมือขึ้นคล้องคอของคุณป๋าเอาไว้ “อยากโดนคุณป๋าปู้ยี่ปู้ยำมากกว่า ^
3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ฉันแต่งงานกับคุณป๋าแล้ว แต่งแบบงงๆ ในตอนนั้นที่คุณป๋าคุกเข่าขอฉันแต่งงาน หลังจากนั้นสองอาทิตย์เราทั้งคู่ก็จูงมือกันเข้าหอ จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ผ่านมสฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณป๋าดูแลฉันดีมาก และซื่อสัตย์กับฉันอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้ฉันเสียใจ แต่!!! หนึ่งเรื่องที่ฉันไม่ชอบเลยคาอเรื่องห้าม ห้ามใส่สั้น ห้ามมองผู้ชาย ห้ามไปเที่ยวคลับ ในตอนนี้ฉันแทบจะเก็บกดตายอยู่แล้ว “เมเบลดื่มดิวะ แมลงวันลงไปวางไข่ในแก้วแล้วมั้งนั่น” ฟาร์นบอกพร้อมกับโยกตัวไปมาตามเสียงเพลง ในตอนนี้ฉันอยู่ที่คลับกับฟาร์นและเอวา ไม่ต้องแปลกใจว่าฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ก็เพราะว่าคุณป๋าไปธุระที่ต่างประเทศน่ะสิ ไปหนึ่งอาทิตย์ แน่นอนว่าฉันที่เก็บกดมานานสามปีต้องไม่พลาดโอกาสทองแบบนี้แน่ ฉันออกมาดื่มกับเพื่อนทุกวันหลังจากที่คุณป๋าบินไปต่างประเทศ คิดดูสิว่าเก็บกดมากขนาดไหน แล้วฉันก็กำชับพวกลูกน้องของคุณป๋าเอาไว้แล้วทุกคนว่าห้ามปริปากฟ้องเรื่องที่ฉันมาเที่ยว ไม่อย่างนั้นจะไล่ออกให้หมด แน่นอนว่าทุกคนเชื่อฟัง เพราะในตอนนี้ฉันก็เปรียบเสหมือนคุณหญิงของบ้านฉันยกแก้วข
ในตอนนี้ฉันกำลังนั่งทำแผลให้กับคุณป๋าอยู่ คิดแล้วก็ขำ ใครจะไปคิดว่าคุณป๋าจะมีมุมที่อ่อนแอแบบนี้ ความรักมักทำให้คนอ่อนแอเสมอ “ห้ามโดนน้ำนะคะเดี๋ยวแผลจะอักเสบ” “เป็นหมอหรือไง” คุณป๋าทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน “เป็นเมียคุณหิรัญค่ะ ^_^” พอฉันพูดแบบนั้นคุณป๋าก็หน้าแดงขึ้นมาเฉียบพลัน ก่อนที่จะคว้ามือมาดึงตัวฉันไปสวมกอด เสียงหัวใจของคุณป๋ามันกำลังเต้นรัว ทำให้ฉันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ในตอนนี้บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงหัวใจของฉันกับคุณป๋าที่มันกำลังเต้นรัวแข่งกัน “คุณป๋าเคยคิดจะแต่งงานบ้างมั้ยคะ…” ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ฉันเอ่ยถามคำนี้ออกไป “ทำไมจะไม่เคย แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วงานแต่งงานมันก็ไม่ได้สำคัญไปมากกว่าที่วันนี้เธออยู่กับฉัน” พูดจบคุณป๋าก็ผละกอดออก มือหนาช้อนปลายคางของฉันให้เงยขึ้นมองตัวเอง “ถามแบบนี้แปลว่าเธออยากแต่งงาน ?”“มะ ไม่หรอกค่ะ หนูยังไงก็ได้ตามใจคุณป๋า เพราะสถานะของเราด้วย คงยากที่คนอื่นจะยอมรับ” ฉันยื่นริมฝีปากไปหอมแก้มคุณป๋า “แค่ตอนนี้คุณป๋ารักและซื่อสัตย์กับหนู หนูก็ดีใจมากกว่าการได้ใส่ชุดเจ้าสาวอีกค่ะ” “พรุ่งนี้จะมีงานจัดเลี้ยงของบริษัท ไปกับฉันนะ ในฐานะเ
ถึงจะคิดว่าคุณป๋าไม่ได้อยู่หน้าประตูแล้วแต่ฉันก็ยังโวยวาย เอาแต่ทุบประตูห้องอยู่แบบนั้นเผื่อคุณป๋าจะเห็นใจกลับมาเปิดให้ “อื้อ หนูทุบประตูจนมือแดงหมดแล้วนะคะ” ฉันแสร้งทำเป็นพูด ถ้าคุณป๋าแอบฟังอยู่คงจะเห็นใจ นี่ฉันเป็นเมียเชียวนะ จะใจดำขนาดนั้นหรือไง แต่!!! ไร้สัญญาณใดๆ จากด้านนอก เงียบกริบไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น “คุณป๋าหนูปวดฉี่ ฉี่จะลาดแล้ว” ปังๆๆๆๆ พูดจบฉันก็ทุบประตูห้องรัวๆ “คุณป๋าหนูพูดจริงๆ นะ เปิดประตูให้หน่อย หนูจะไม่ทำแล้ว ไม่ดื้อแล้ว” ไม่ว่าจะตะเบ็งเสียงออกไปเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววจากนั้นด้านนอก ถ้าคุณป๋าคิดจะขังฉันไว้ในห้องนี้ถึงเช้าจริงๆ ฉันจะหักเงินจากวันละสามร้อยให้เหลือวันละร้อยห้าสิบเลยคอยดูเถอะ!!ฉันนั่งลงที่พื้นอย่างหมดแรง ทั้งแหกปากตะโกนทั้งทุบประตูห้องผ่านไปครึ่งชั่วโมงทุกอย่างยังคงเงียบ ฉันก้มหน้าลงดูมือของตัวเองทั้งสองข้างที่แดงเถือกจากกับเคาะประตูรัวๆ ติดกันเป็นเวลานาน“ไม่คิดเลยว่าคุณป๋าจะใจดำได้มากขนาดนี้” ฉันพัดพ้อออกมาเพราะความโกรธ ใช่! ฉันเองที่ผิดไปยั่วโมโหคุณป๋าทำให้ฟิวขาด แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณป๋าจะมาขังไว้แบบนี้ ที่คิดไว้มันคนละแบบกันเลย ป่านนี้ไม
น้ำเสียงอำมหิตของคุณป๋าทำให้ขนทั้งตัวของฉันมันลุกซู่ คืนนี้คงจะเจอศึกหนักอีกแล้วสินะ ไหนๆ ก็จะเจอศึกหนักแล้วขอแกล้งหน่อยแล้วกัน อยากเห็นจังว่าเวลาคนแก่หึงมากๆ จะเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหรอกเพราะปกติคุณป๋าก็ขี้หึง แต่ครั้งนี้อยากทำให้หึงสุดๆ ไปเลย แล้วก็ไปจบที่เตียง คืนนี้ฉันคงต้องร้องขอชีวิตกับคุณป๋าอีกแน่ๆ “นี่เอวาไปเข้าห้องน้ำกัน ^_^” เอวามองฉันอย่างแปลกใจที่จู่ๆ ฉันก็ชวนไปห้องน้ำ คุณป๋าที่ได้ยินฉันพูดจึงกระตุกแขนเบาๆ แล้วพูดเสียงเข้ม “ถ้าอยากไปเข้าห้องน้ำ ฉันจะพาไป” “ไม่เอาค่ะ หนูอยากไปกับเอวามากกว่า” ฉันรีบปฏิเสธ ขืนให้ไปด้วยก็ไม่สนุกสิ ฉันตั้งท่าจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่คุณป๋าไม่ยอมปล่อยมือที่รั้งเอวของฉันอยู่ ฉันจึงหันไปทำหน้าดุใส่ “ปล่อยนะคะ” คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ดูก็รู้ว่าไม่อยากให้ฉันลุกขึ้นจากตักของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมปล่อยมือออก ฉันจับมือเอวาให้ลุกขึ้น ก่อนจะจูงมือพาเดินเข้ามาในบ้าน “เดี๋ยว! ห้องน้ำอยู่ทางนั้นแกจะไปไหนเมเบล” เอวาชี้ไปทางห้องน้ำชั้นล่างของบ้าน“ใครบอกว่าฉันอยากจะมาเข้าห้องน้ำจริงๆ ล่ะ”“หื้อ อะไรของแกเนี่ยเมเบล” “ตามมาเถอะน่า ถามเยอะจริ
เลิกเรียน ฉันนัดกับเพื่อนและพี่กินให้มาที่บ้านของฉันตอนหนึ่งทุ่ม พอขึ้นมาบนรถฉันก็รีบบอกคุณป๋าไว้ก่อนว่าวันนี้เพื่อนจะมาที่บ้าน “วันนี้หนูนัดเอวากับฟาร์นให้มาปาร์ตี้ที่บ้านนะคะ” ฉันบอกแต่บอกไม่หมด เพราะไม่ได้บอกว่าพี่ดินจะมาที่บ้านด้วยเหมือนกัน“ปาร์ตี้ ?” คุณป๋ามองหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วเป็นปม “ก็ใช่ไงคะ ขอไปคลับคุณป๋าก็ไม่อนุญาต หนูเลยชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้าน”“ทำไมถึงไม่ถามฉันก่อน ?” “ทำไมล่ะคะ หนูไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรตามใจตัวเองเลยหรือไง ต้องขออนุญาตทุกครั้งเลยใช่มั้ยคะ” คุณป๋าถอนหายใจออกมาเบาๆ “มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันก็แค่อยากให้เธอบอกก่อน”“นี่ไง หนูก็บอกคุณป๋าอยู่นี่ไงล่ะคะ” ทั้งฉันและคุณป๋าต่างก็ทำเงียบใส่กัน อยากจะงอนก็งอนไปเถอะวันนี้ฉันไม่ง้อหรอก ไม่ยอมให้ฉันไปเที่ยวดีนัก อีกอย่างฉันก็แค่ชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้านเอง นี่แหละ ฉันกับคุณป๋ามักจะงอนกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องประจำ พอมาถึงบ้านคุณป๋าก็เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้น เดินมาเปิดประตูรถให้ แต่ยังฟอร์มอยู่ “ฝากบอกให้พี่กล้าจัดเตรียมของที่สระว่ายน้ำด้วยนะคะ เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปอาบน้ำ” ฉันออกคำสั่ง “ห้ามใส่บิกินี่” คุณป๋าชี้หน้าฉันออกคำสั
ฉันนั่งหน้าบึ้งภายในรถโดยมีคุณป๋าเป็นคนมาส่งที่มหาวิทยาลัย จะให้หน้าบึ้งได้ไงล่ะ ก็เพราะคุณป๋าน่ะสิ หยิบกระโปรงตัวที่ยาวคลุมตาตุ่มมาให้ใส่ คิดแล้วก็ไม่น้าเก็บกระโปรงตัวนี้เอาไว้เลย คอยดูเถอะกลับบ้านไปฉันจะเผามันทิ้งซะ!!“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย” คุณป๋าหันหน้ามาบอกในขณะที่กำลังขับรถอยู่ “ไม่ต้องมาพูดกับหนูเลย!!” “แค่ให้ใส่กระโปรงยาวแค่นี้ ต้องโกรธฉันมากขนาดนั้นเลยหรือไง”“ยาวแค่นี้ พูดมาได้ไงว่ายาวแค่นี้ อีกนิดเดียวก็จะลากดินอยู่แล้วนะคะ” “มันก็ดูเหมาะกับเธอดี” คุณป๋าทำหน้ากวน เหอะ! เหมาะอะไรล่ะ “มีผัวแล้วจะใส่สั้นๆ ไปอ่อยใคร!!” เอ้า! จู่ๆ คุณป๋าก็ทำเสียงดุใส่ฉันเฉยเลย แถมยังทำหน้าบึ้งอีกด้วย “อื้อ กระโปรงยาวแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะคะ ใส่สบายด้วย ^_^” ต้องเป็นฉันที่เป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อให้ เพราะไม่อยากจะทะเลาะกันให้ยืดยาว “อยู่เป็น” คุณป๋าพึมพำออกมาเบาๆ ทำให้ฉันจิ๊ปากใส่ แต่ก็แอบๆ ทำเพราะเดี๋ยวจะงอนอีก ยิ่งช่วงนี้คนแกยิ่งชอบอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ด้วย #มหาวิทยาลัย“หื้อ! เอวาเธอช่วยฉันดูทีว่าไม่ได้ตาฟาดไปใช่มั้ย วันนี้เมลมันใส่กระโปรงแทบจะลากดินเลยว่ะ” พอมาถึงฟาร์นมันก็พูดล้อฉันขึ้นมาทันท
เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่มหาวิทยาลัยของฉันเปิดภาคเทอม…วันนี้คุณป๋าจะต้องไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัยด้วยตัวเองและไปรับ นี้ไม่ใช่กฏที่ตัวฉันตั้งขึ้น แต่เป็นกฏของคุณป๋าเองต่างหาก แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ฉันมองผู้ชายคนไหนอีกด้วย “ขอยกเว้นพี่ดินสักคนไม่ได้หรอคะ” ฉันอ้อนคุณป๋าในขณะที่กำลังแต่งตัวอยู่ พี่ดินคือพี่ชายที่แสนดีคนหนึ่ง เขาเคยช่วยฉันในหลายเรื่อง จะให้ฉันทำเมินใส่เขาคงไม่ได้“ไม่ได้!!” คุณป๋าตอบเสียงแข็ง“หัดมีเหตุผลบ้างสิคะ” “จะใส่ใจมันทำไมนักหนา!!” อีกแล้ว พูดถึงพี่ดินทีไรก็ทักจะมีปากเสียงกันตลอด ล่าสุดฉันขอไปกินข้าวกับพี่ดิน อย่กจะเลี้ยงขอบคุณเขาก็ถูกห้ามแล้วก็มีปากเสียงกันใหญ่โต “เขาเป็นคนดีนะคะ”คุณป๋าเงียบทำเมินไม่สนใจคำพูดของฉัน ก็ได้ถ้าอยากจะเมินใส่กันแบบนี้ ฉันเอื้อมมือหยิบกระโปรงนักศึกษาตัวที่สั้นที่สุดในตู้เสื้อผ้าออกมา แล้สสวมใส่มัน หลังจากที่ใส่กระโปรงแล้วก็หันกลับมามองคุณป๋า เห็นว่าตอนนี้คุณป๋ากำลังจ้องหน้าฉันตาเขม็งอยู่ “ไปส่งหนูได้แล้วค่ะ จะสายแล้ว”“ไม่คิดบ้างหรือไงว่ากระโปรงที่ใส่อยู่มันจะขัดหูขัดตาฉันขนาดไหน” คุณป๋าตวัดสายตาจ้องเขม็งมองกระโปรงของฉัน“หนูก็ใส่แบบนี้
เฮือก!! ใจมันกระตุกวูบทันทีเมื่อได้ยินคำพูดที่รู้ทันแผนการของคุณป๋า ใบหน้าของฉันซีดเผือดพร้อมกับมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมา ฉันหลับตาลงแล้วนับหนึ่งถึงสามในใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากตักแกร่งแล้ววิ่งหนี แต่!! ทำได้เพียงแค่ลุกขึ้น ร่างของฉันก็ถูกคุณป๋าคว้าจับที่เอวเอาไว้ออกแรงดึงให้กลับมานั่งลงบนตักของตัวเองเหมือนเดิม บ้าที่สุด!! “คิดจะหนี มันง่ายไปหรือเปล่า” ฉันค่อยๆ หันหน้ามองคุณป๋าที่กำลังทำหน้ายักษ์ใส่ ก่อนจะตัดสินใจถาม “พะ พี่กล้าบอกหรอคะ” คุณป๋าส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ ได้ไง! ถ้าพี่กล้าไม่บอกแล้วคุณป๋าจะรู้ได้ยังไง “ฉันแอบฟังเธอคุยกับมัน” เฮือก!! ให้ตายเถอะ สรุปคือฉันพลาดที่ไม่ได้สังเกตอะไรให้ดีๆ ก่อนใช่มั้ย “ส่วนยานั่นที่เธอคิดว่าเป็นยานอนหลับ มันเป็นแค่ยาบำรุง” มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น “ฉันเป็นคนสั่งให้ไอ้กล้าเปลี่ยน”“……” ฉันค่อยๆ เม้มปากเข้าหากันแน่น ไม่รอดแน่ ถึงจะชอบเวลาที่มีอะไรกับคุณป๋า แต่ฉันไม่ค่อยชอบเลยเวลาที่ต้องถูกลงโทษ เพราะนั่นหมายความว่านอกจากคืนนี้จะไม่ได้ไปคลับแล้ว ฉันยังจะไม่ได้นอนอีกทั้งคืน คุณป๋ากดจูบหนักๆ ลงมาบนริมฝีปากของฉันเพื่อเป็นการลงโทษ ริมฝีปากมั