Share

บทที่ 833

Auteur: ลั่วหูโยว
นี่ก็เป็นเวลาดึกแล้ว

ภายในห้องยังคงเปิดไฟดวงใหญ่อยู่ ทำให้มันสว่างราวกับเวลากลางวัน

ฉินเย่ที่แต่งตัวแบบมีเสื้อผ้าไม่ครบชิ้นนั่งมองผู้หญิงที่เขารักถือถือฉลากยาขึ้นมาอ่านอยู่บนโซฟา เธออ่านมันอย่างละเอียด จากนั้นจัดยาที่เขาต้องทานเอาไว้เป็นหมวดหมู่ เธอเงยหน้าขึ้นลงเป็นระยะๆ

แม้ว่าบาดแผลที่ท้องของเขาจะเจ็บปวดมาก แต่การได้เห็นเธอเป็นห่วงเขาและเห็นท่าทางของเธอที่กำลังอ่านฉลากยาอย่างตั้งอกตั้งใจเพื่อเขา ความรู้สึกพึงพอใจก็เพิ่มขึ้นอยู่ภายในใจเป็นอย่างมาก

ความพึงพอใจแบบนี้ไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึกผิวเผินเหมือนในอดีต แต่มันฝังลึกอยู่ในหัวใจ

ในขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอ ทันใดนั้น เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นและจ้องเขาพร้อมกับขมวดคิ้ว

ฉินเย่ถูกท่าทางของเธอดึงสติให้กลับคืนมา จากนั้นจึงถามว่า "มีอะไรผิดหรอ?"

จู่ๆ เสิ่นหยินอู้ก็ถามว่า: "เย็นนี้คุณกินข้าวหรือยัง?"

ฉินเย่: "..."

"สรุปยังไง?"

“ดูเหมือนจะยังไม่ได้กิน ยาพวกนี้กินหลังอาหารด้วยนะ คุณ...”

"งั้นเหรอ?" ท่าทางของฉินเย่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจมากนัก "ถ้าเป็นยาที่ต้องกินหลังอาหาร งั้นพรุ่งนี้ค่อยกินแล้วกัน"

"ไม่ไ
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 834

    “แต่คุณหมอก็บอกไม่ใช่หรอว่าไม่ได้บาดเจ็บถึงตาย แผลฉีกก็ฉีกสิ มันก็เจ็บแค่แป๊ปเดียวเอง คุณเตรียมของกินเสร็จแล้วเราค่อยกลับมา” ก่อนที่เสิ่นหยินอู้จะได้พูดเพื่อหยุดเขา ฉินเย่ก็ลุกขึ้นมาแล้ว "ไปกันเถอะ" “คุณอยากไปกับฉันจริงๆเหรอ? แผลของคุณ…” "ไปกันเถอะ" เมื่อเห็นว่าเธอยังคงยืนอยู่ที่เดิม ฉินเย่จึงพูดออกมา: "รีบไปรีบกลับเถอะ ถ้าคุณยังลีลาอยู่ เย็นนี้ผมจะได้กินยาเมื่อไรล่ะ?" ในที่สุด เสิ่นหยินอู้ก็ใจอ่อน เธอพาเขาไปที่ห้องครัวด้วยกัน ระหว่างนั้น หลี่มู่ถิงได้ยินเสียงดังจึงวิ่งไปดู เขาพบว่าทั้งสองคนกำลังเดินไปที่ห้องครัว จึงเสนอให้เรียกพ่อครัวมา แต่เนื่องจากมันดึกมากแล้ว เสิ่นหยินอู้จึงปฏิเสธ และหลี่มู่ถิงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ในครัว เสิ่นหยินอู้เปิดตู้เย็นซึ่งเต็มไปด้วยวัตถุดิบมากมาย เสิ่นหยินอู้มองดู ในที่สุดก็เลือกวัตถุดิบง่ายๆมาสองสามอย่าง และเริ่มต้มน้ำ มันดึกมากแล้ว เสิ่นหยินอู้เพียงแค่ใส่เส้นบะหมี่และวัตถุดิบลงไปต้มในหม้อ กระบวนการทั้งหมดนี้ดูเรียบง่ายเป็นอย่างมาก ฉินเย่ดูอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ “มันดึกมากแล้ว กินเยอะเกินไปเดี๋ยวจะไม่ย่อย กินอะไรง่ายๆรองท้องไปก่อนแล้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 835

    หลังจากพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็ตกอยู่ในความเงียบ ไม่ใช่ว่าพวกเขาทั้งสองไม่เคยอยู่ห้องเดียวกันมาก่อน แต่ทั้งหมดนั่นล้วนเป็นเรื่องในอดีต หลังจากนั้นเป็นเวลาเนิ่นนาน ทั้งสองก็ไม่ได้เจอกัน และไม่ได้อยู่ร่วมห้องกันอีก ตอนนี้พวกเขาทั้งสองจะต้องอยู่ด้วยกันอย่างกะทันหัน เมื่อเห็นความลังเลของเธอ ฉินเย่ก็ลดสายตาลงแล้วจับข้อมือของเธอ “ผมเป็นแผลหนักขนาดนี้ คุณทิ้งผมไว้คนเดียวแล้วจะวางใจได้หรอ? ถ้าผมรู้สึกไม่สบายตรงไหนในกลางดึกโดยที่ไม่รู้ตัวจะทำยังไง?” เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็มองเขา แม้ว่าการแสดงออกและคำพูดของเขาจะดูเหมือนเป็นการทำตัวให้ดูน่าสงสาร แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมีเหตุผล เพราะเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจริงๆ เธอเห็นมันด้วยตาของตัวเองว่าอาการบาดเจ็บนั้นร้ายแรงเพียงใด เธอยังถามคุณหมอในขณะที่เขากำลังจะไป ถ้าเป็นกรณีปกติก็คงจะไม่มีอะไร แต่ถ้ามีเกิดอะไรขึ้นล่ะ? ช่างมันเถอะ นั่นมันก็เป็นห้องเขาอยู่แล้ว ถ้าเขาอยากไปก็ให้เขาไปเถอะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บ เขาคงทำอะไรไม่ได้มาก หลังจากคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกโล่งใจ "ไปกันเถอะ" เมื่อเห็นเธอตามใจ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 836

    “โอเค จะไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้แหละ” ไม่สามารถกระตุ้นเธอได้อีก หากยังกระตุ้นเธอต่อไป เธอคงจะระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างแน่นอน ฉินเย่หยิบเสื้อผ้าแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ เดิมทีเสิ่นหยินอู้คิดที่จะรอเขาอยู่ข้างนอก แต่ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรขึ้นได้จึงเดินตามเขาไป ก่อนที่เขาจะเข้าไปในห้องน้ำ เธอก็กำชับเขาว่า: "คุณยังไม่ลืมสิ่งที่หมอพูดใช่ไหม? อย่าให้แผลแผลโดนน้ำนะ" ฉินเย่กำลังจะปิดประตูห้องน้ำ เมื่อเขาได้ยินเธอพูดแบบนี้ เขาก็หยุดอยู่ที่เดิม มองเธอแล้วพูดว่า "เขาเป็นคนบอกผม ผมจำได้อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณเป็นห่วง ทำไมไม่ตามเข้ามาเฝ้าด้วยตัวเองล่ะ?" หลังจากได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ตอบกลับโดยไม่รู้ตัว: "ฝันไปเถอะ" จากนั้นเธอก็หันหลังและเดินออกไป ฉินเย่มองดูแผ่นหลังของเธอแล้วค่อยๆปิดประตูห้องน้ำ ทันทีที่ประตูปิดลง สีหน้าของฉินเย่ก็แย่ลงในทันที รอยยิ้มที่เดิมทีปรากฎอยู่บนริมฝีปากของเขาหายไป เหลือเพียงเส้นเลือดดำที่ปูดขึ้นอย่างกะทันหันและเหงื่อเย็นๆ บาดแผลลึกมากจนรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดแม้ไม่ได้ขยับ ไม่ต้องพูดถึงการยกมือขึ้นเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ในตอนที่เขาอยู่กับเธอก่อนหน้านี้ เพราะเขากลัวว่าเธอจะเป็นห่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 837

    โซฟามีขนาดใหญ่มาก แม้เสิ่นหยินอู้จะนอนลงบนนั้น แต่ก็ยังมีที่ว่างเหลืออยู่ แต่มันก็ดูค่อนข้างน้อย ฉินเย่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม มองดูเธอนอนลงที่ด้านหลังเขาและกินพื้นที่กว่าครึ่งไปอย่างรวดเร็ว เขาเม้มริมฝีปากบาง แต่ในที่สุดก็ควบคุมตัวเองไม่ได้และถามว่า "คุณไม่ได้เอามาให้ผมเหรอ?" เสิ่นหยินอู้นอนอยู่ตรงนั้นและสบตากับเขา "ใช่" "งั้น?" ถ้าเอามาให้เขา เธอจะมานอนอยู่ตรงนี้ด้วยทำไม? ถ้าไม่ได้เอามาให้เขา แล้วทำไมเธอถึงตอบว่าใช่? ฉินเย่ไม่เข้าใจเธอเลย เมื่อเขารู้สึกสับสน ทันใดนั้นเสิ่นหยินอู้ก็พูดว่า: "ฉันมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ" ฉินเย่ชะงักไป หลังจากนั้นครู่หนึ่งสายตาของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย หากก่อนหน้านี้สายตาของเขากระจ่างสดใส ตอนนี้ดวงตาของเขาก็มืดลง สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่เธอโดยไม่ละไปไหนราวกับนักล่ากำลังล็อคเป้าหมาย แม้ว่าเขาจะรู้ว่าหากบาดแผลของเขาฉีกขึ้นมามันจะเจ็บ แต่ในตอนนี้ฉินเย่กลับโน้มตัวไปใกล้ๆเธอและพูดเบาๆว่า: "อยู่เป็นเพื่อนผม? คุณแน่ใจเหรอ?" ลมหายใจอุ่นๆที่เข้ามาใกล้อย่างกะทันหันทำให้เสิ่นหยินอู้หดตัวลงโดยไม่รู้ตัว หัวใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย เมื่อตระหนักไ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 838

    สัมผัสที่นุ่มนวลจากฝ่ามือทำให้เสิ่นหยินอู้คิดที่จะดึงมือของเธอกลับไปโดยไม่รู้ตัว แต่ในวินาทีต่อมา ฉินเย่กลับจับมันไว้ ทันทีที่ผิวหนังของพวกเขาสัมผัสกัน เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกได้ถึงอุณหภูมิบนฝ่ามือที่ร้อนรุ่มราวกับไฟ เขาก้มศีรษะลงไปจูบที่ฝ่ามือของเธอด้วยความจริงใจ เสิ่นหยินอู้รู้สึกจั๊กจี้และต้องการจะชักมือของเธอกลับไป แต่แรงของฉินเย่นั้นแข็งแกร่งมากจนเธอไม่มีทางที่จะสลัดมือของเธอออกมาได้ เธอทำได้เพียงมองดูริมฝีปากบางๆของเขาค่อยๆขยับขึ้นมาจากฝ่ามือของเธอ จากนั้นเขาก็บรรจงจูบลงไปที่นิ้วแทบทุกนิ้วของเธอ ในช่วงเวลานี้ เสิ่นหยินอู้ดิ้นรนอย่างไรไปก็ไร้ประโยชน์ ในเวลานี้ แม้ว่าฉินเย่จะได้รับบาดเจ็บอยู่ แต่ความพละกำลังของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่เสิ่นหยินอู้จะเทียบด้วยได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เสิ่นหยินอู้กลัวว่าถ้าเธอดิ้นแรงเกินไปมันจะทำให้แผลของเขาฉีกก เธอจึงใช้แรงเพียงครึ่งเดียว... จนกระทั่งเมื่อเขาจูบครบทุกนิ้วของเธอ เขาก็จูบไปที่ซอกคอของเธอ แล้วยังเคลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ ทันใดนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ได้สติขึ้นมา "ไม่……" “ไม่ได้นะ!” จู่ๆเสิ่นหยินอู้ก็กดมือที่อยู่ไม่เป็นสุขของเขาไว้ “ค

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 839

    เมื่อเห็นว่าในที่สุดเขาก็คิดได้ เสิ่นหยินอู้จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอลุกขึ้นไปเทน้ำแก้วหนึ่งและดื่ม เมื่อเธอหันกลับมา เธอก็สังเกตเห็นว่ามีเหงื่อเย็นๆออกมาบนหน้าผากของฉินเย่มากมาย “คุณเหงื่อออกขนาดนี้ แผลของคุณโอเคไหมเนี่ย?” ในขณะที่ถาม เสิ่นหยินอู้ก็เอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเขา "เป็นไข้หรอ?" อุณหภูมิที่ผ่านมือเธอมาดูเหมือนจะสูงเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีไข้ "ไม่มีไข้หรอก" ฉินเย่มองเธออย่างใจเย็น "ที่ว่าทำไมอุณหภูมิภุงสูง ก็ลองคิดถึงสิ่งที่เราเพิ่งทำไปเมื่อกี้นี้สิ"เสิ่นหยินอู้: "..." หลังจากพูดประโยคหลังออกมาแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็เข้าใจความหมายของเขาในทันที และเธอก็ชักมือของเธอกลับ โอเค ในที่สุดก็รู้แล้วว่าทำไมเขาถึงตัวร้อน แต่ก็ไม่เหมือนว่าจะมีไข้ แต่เขาก็หน้าหนามากกว่าที่คิดไว้ที่สามารถพูดมันออกมาได้อย่างเปิดเผยแบบนี้ "ไปนอนเถอะ" ฉินเย่ชี้ไปที่ที่เธอนอนอยู่ก่อนหน้านี้เป็นการบอกเป็นนัยให้เธอไปนอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ลังเลเล็กน้อย ถ้าเธอนอนลงไปอีกครั้ง ถ้าหากฉินเย่ทำอะไรเธอ... “ครั้งนี้ผมจะไม่ทำอะไรคุณแล้ว ผมสัญญา” เสิ่นหยินอู้: "ค

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 840

    เธอโต้กลับอย่างไม่พอใจ: "ไม่ ถ้าคุณพิการขึ้นมา งั้นฉันก็ไม่ต้องการคุณแล้ว" "จริงเหรอ?" "จริง" “โอเค ถ้าเป็นงั้น ผมจะพยายามไม่ให้พิการ…” “คุณรู้ตัวก็ดี...” ห้าปีกว่าแล้วที่ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยกันแบบนี้ พวกเขาเพียงนอนด้วยกันเงียบๆแบบนี้ แล้วพูดเกี่ยวกับ'เรื่องไร้สาระ' ต่างๆที่ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร แม้ว่าบทสนทนาพวกนี้จะไม่ได้มีสาระอะไร แต่ภายในใจของเสิ่นหยินอู้กลับรู้สึกสงบมาก ความสงบเช่นนี้เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนในอดีต ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นสันกรามที่สมบูรณ์แบบของเขา ขณะหายใจเข้าไป รอบๆเธอก็เต็มไปด้วยกลิ่นของเขา หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาไม่มีกลิ่นเลือดสดๆที่เหม็นคาวอีกต่อไป ทั้งหมดล้วนเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยจากร่างกายของเขาซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกสบายใจ เมื่อคิดเช่นนั้น มือของเสิ่นหยินอู้ซึ่งเดิมทีไม่รู้จะวางตรงไหนก็ค่อยๆเคลื่อนไปข้างหน้าและโอบกอดเขาไว้ เธอหลับตาลงพิงไปกับหน้าอกของเขา “ฉันง่วงแล้ว” เธอพูดเบาๆ "ถ้างั้นก็นอนเถอะ" “อืม ถ้ารู้สึกไม่สบายก็เรียกฉันนะ” "โอเค" ฉินเย่ได้ยินเสียงลมหายใจที่ดังมาจากในอ้อมแขนของเขาค่อยๆสม่ำเสมอและยาวขึ้น

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 841

    เมื่อได้ยินเสียงอะไรเบาๆ ขนตาของเสิ่นหยินอู้ก็ขยับ แสงที่สาดส่องทิ่มแทงเข้ามาที่ดวงตาของเธอแทบจะทำให้เธอไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้ ต้องใช้เวลาสักพักในการปรับสายตาให้เข้ากับแสงที่ส่องเข้ามา จากนั้นเธอก็ลืมตาขึ้นมา ทันทีที่เธอลืมตาขึ้น เธอก็เห็นเหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล เมื่อเห็นพวกเขา เสิ่นหยินอู้คิดว่าเธอดูผิด แต่เธอก็ยังสะดุ้งตกใจจนลุกขึ้นมานั่งทันที ทันทีที่เธอลุกขึ้นนั่ง เด็กน้อยทั้งสองจึงเห็นว่าเธอตื่นแล้วและเข้ามาทักทายเธอทันที "หม่ามี๊! ตื่นแล้วหรอคะ!" เสียงของเหมิงเหมิงดังมากจนทำให้ฉินเย่ที่ยังคงหลับอยู่ตื่นขึ้นมาด้วย เมื่อเห็นฉินเย่ลืมตาขึ้นมา เหมิงเหมิงก็เรียกเขาด้วยความปลื้มปิติ “ลุงเย่มู่!” เธอเดินเข้าไปข้างหน้าด้วยความดีใจและจับชายเสื้อของเขา: "ลุงเย่มู่ ลุงกับหม่ามี๊นอนด้วยกันแล้ว ต่อจากนี้จะมาเป็นพ่อของเหมิงเหมิงแล้วใช่ไหมคะ?" แม้ว่าสาวน้อยจะยังเด็ก แต่เธอก็แก่แดดในระดับหนึ่ง เธอไม่เคยเห็นหม่ามี๊กับโม่ไป๋นอนด้วยกันมาก่อนเลย ไม่ต้องพูดถึงการนอนด้วยกันเลย มันไม่มีแม้แต่การกระทำที่ใกล้ชิดใดๆ แม้ว่าพวกเขาจะเด็กอยู่ แต่เรื่องบางเรื่อง แค่เห

Latest chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status