Share

บทที่ 839

Auteur: ลั่วหูโยว
เมื่อเห็นว่าในที่สุดเขาก็คิดได้ เสิ่นหยินอู้จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เธอลุกขึ้นไปเทน้ำแก้วหนึ่งและดื่ม เมื่อเธอหันกลับมา เธอก็สังเกตเห็นว่ามีเหงื่อเย็นๆออกมาบนหน้าผากของฉินเย่มากมาย

“คุณเหงื่อออกขนาดนี้ แผลของคุณโอเคไหมเนี่ย?”

ในขณะที่ถาม เสิ่นหยินอู้ก็เอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเขา "เป็นไข้หรอ?"

อุณหภูมิที่ผ่านมือเธอมาดูเหมือนจะสูงเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีไข้

"ไม่มีไข้หรอก"

ฉินเย่มองเธออย่างใจเย็น "ที่ว่าทำไมอุณหภูมิภุงสูง ก็ลองคิดถึงสิ่งที่เราเพิ่งทำไปเมื่อกี้นี้สิ"

เสิ่นหยินอู้: "..."

หลังจากพูดประโยคหลังออกมาแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็เข้าใจความหมายของเขาในทันที และเธอก็ชักมือของเธอกลับ

โอเค ในที่สุดก็รู้แล้วว่าทำไมเขาถึงตัวร้อน แต่ก็ไม่เหมือนว่าจะมีไข้ แต่เขาก็หน้าหนามากกว่าที่คิดไว้ที่สามารถพูดมันออกมาได้อย่างเปิดเผยแบบนี้

"ไปนอนเถอะ" ฉินเย่ชี้ไปที่ที่เธอนอนอยู่ก่อนหน้านี้เป็นการบอกเป็นนัยให้เธอไปนอน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ลังเลเล็กน้อย ถ้าเธอนอนลงไปอีกครั้ง ถ้าหากฉินเย่ทำอะไรเธอ...

“ครั้งนี้ผมจะไม่ทำอะไรคุณแล้ว ผมสัญญา”

เสิ่นหยินอู้: "ค
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 840

    เธอโต้กลับอย่างไม่พอใจ: "ไม่ ถ้าคุณพิการขึ้นมา งั้นฉันก็ไม่ต้องการคุณแล้ว" "จริงเหรอ?" "จริง" “โอเค ถ้าเป็นงั้น ผมจะพยายามไม่ให้พิการ…” “คุณรู้ตัวก็ดี...” ห้าปีกว่าแล้วที่ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยกันแบบนี้ พวกเขาเพียงนอนด้วยกันเงียบๆแบบนี้ แล้วพูดเกี่ยวกับ'เรื่องไร้สาระ' ต่างๆที่ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร แม้ว่าบทสนทนาพวกนี้จะไม่ได้มีสาระอะไร แต่ภายในใจของเสิ่นหยินอู้กลับรู้สึกสงบมาก ความสงบเช่นนี้เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนในอดีต ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นสันกรามที่สมบูรณ์แบบของเขา ขณะหายใจเข้าไป รอบๆเธอก็เต็มไปด้วยกลิ่นของเขา หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาไม่มีกลิ่นเลือดสดๆที่เหม็นคาวอีกต่อไป ทั้งหมดล้วนเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยจากร่างกายของเขาซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกสบายใจ เมื่อคิดเช่นนั้น มือของเสิ่นหยินอู้ซึ่งเดิมทีไม่รู้จะวางตรงไหนก็ค่อยๆเคลื่อนไปข้างหน้าและโอบกอดเขาไว้ เธอหลับตาลงพิงไปกับหน้าอกของเขา “ฉันง่วงแล้ว” เธอพูดเบาๆ "ถ้างั้นก็นอนเถอะ" “อืม ถ้ารู้สึกไม่สบายก็เรียกฉันนะ” "โอเค" ฉินเย่ได้ยินเสียงลมหายใจที่ดังมาจากในอ้อมแขนของเขาค่อยๆสม่ำเสมอและยาวขึ้น

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 841

    เมื่อได้ยินเสียงอะไรเบาๆ ขนตาของเสิ่นหยินอู้ก็ขยับ แสงที่สาดส่องทิ่มแทงเข้ามาที่ดวงตาของเธอแทบจะทำให้เธอไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้ ต้องใช้เวลาสักพักในการปรับสายตาให้เข้ากับแสงที่ส่องเข้ามา จากนั้นเธอก็ลืมตาขึ้นมา ทันทีที่เธอลืมตาขึ้น เธอก็เห็นเหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล เมื่อเห็นพวกเขา เสิ่นหยินอู้คิดว่าเธอดูผิด แต่เธอก็ยังสะดุ้งตกใจจนลุกขึ้นมานั่งทันที ทันทีที่เธอลุกขึ้นนั่ง เด็กน้อยทั้งสองจึงเห็นว่าเธอตื่นแล้วและเข้ามาทักทายเธอทันที "หม่ามี๊! ตื่นแล้วหรอคะ!" เสียงของเหมิงเหมิงดังมากจนทำให้ฉินเย่ที่ยังคงหลับอยู่ตื่นขึ้นมาด้วย เมื่อเห็นฉินเย่ลืมตาขึ้นมา เหมิงเหมิงก็เรียกเขาด้วยความปลื้มปิติ “ลุงเย่มู่!” เธอเดินเข้าไปข้างหน้าด้วยความดีใจและจับชายเสื้อของเขา: "ลุงเย่มู่ ลุงกับหม่ามี๊นอนด้วยกันแล้ว ต่อจากนี้จะมาเป็นพ่อของเหมิงเหมิงแล้วใช่ไหมคะ?" แม้ว่าสาวน้อยจะยังเด็ก แต่เธอก็แก่แดดในระดับหนึ่ง เธอไม่เคยเห็นหม่ามี๊กับโม่ไป๋นอนด้วยกันมาก่อนเลย ไม่ต้องพูดถึงการนอนด้วยกันเลย มันไม่มีแม้แต่การกระทำที่ใกล้ชิดใดๆ แม้ว่าพวกเขาจะเด็กอยู่ แต่เรื่องบางเรื่อง แค่เห

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 842

    เสิ่นหยินอู้เงียบไปสักพัก แล้วจึงพูดว่า: "ถ้างั้นฉันจะไปอาบน้ำก่อน แผลของคุณ ... " “ดีขึ้นมากแล้ว ผมกินยาไปแล้วเมื่อคืนนี้ คุณลืมหรอ?” หลังจากได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็มองเขา พบว่าสีหน้าของเขาดูดีขึ้นกว่าเมื่อคืนมาก ดูเหมือนว่ายาจะได้ผล เธอรู้สึกโล่งใจ จากนั้นจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำ ทันทีที่เธอจากไป เด็กน้อยทั้งสองก็เดินตามเธอไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาอยู่ในที่ๆไม่เห็นฉินเย่แล้ว เสิ่นเหมิงเหมิงก็ถามว่า "หม่ามี๊ ทำไมหม่ามี๊ถึงไม่ยอมล่ะคะ?" เมื่อรู้ว่าเธอจะตามมาและถามคำถามนี้ เสิ่นหยินอู้ก็ถอนหายใจเบาๆ "ยังไม่ถึงเวลาจ๊ะ" ยังไม่ถึงเวลางั้นเหรอ? "แล้วเมื่อไร..." “เหมิงเหมิง” เสิ่นซือเหนียนขัดจังหวะเธอและเตือนเบาๆว่า “ไม่ต้องถามแล้ว เดี๋ยวหม่ามี๊ยอมรับลุงเย่มู่เมื่อไรก็บอกเราเองแหละ” เมื่อเหมิงเหมิงได้ยินสิ่งที่พี่ชายของเธอพูด เธอก็ทำได้เพียงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง "งั้นก็ได้ค่ะ" พวกเขาทั้งสามเข้าห้องน้ำไปด้วยกัน หลังจากเข้าไปแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็พบว่าแม้แต่แปรงสีฟันสำหรับเด็กก็ถูกเตรียมไว้แล้ว มีสีน้ำเงินกับสีชมพูที่มาพร้อมกับแก้วสำหรับเด็ก เพียงมองแวบเดียว หัวใจของเสิ่นหยินอู้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 843

    “ผมให้คนเตรียมการไว้แล้ว” ฉินเย่กล่าว เขาให้คนเตรียมการไว้แต่ไม่ได้บอกให้เตรียมตัวใดๆ ดูเหมือนว่าจะพบกับอุปสรรคบางอย่าง แม้ว่าเขาจะสู้กับโม่ไป๋และพาตัวเองกลับมาได้ แต่หลักฐานยืนยันตัวตนของเธอยังคงอยู่กับโมไป๋ ถ้าเธอไม่มีเอกสารยืนยันตัวตน เธอคงจะต้องคิดหาทางหากต้องการกลับประเทศจีน ดูเหมือนว่าสองวันที่ผ่านมานี้เธอจะไม่ได้คิดถึงเรื่องที่จะกลับไปที่จีนเลย แต่การอยู่ในคฤหาสน์ทั้งวันนั้นก็น่าเบื่อมาก หลังจากที่ลงไปทานอาหารเช้าไม่นาน คุณหมอก็เข้ามาทำแผลให้ฉินเย่ บาดแผลของเขาสาหัส ดังนั้นคุณหมอจึงต้องจับตาดูแลเขาเป็นการส่วนตัวอย่างใกล้ชิด หลังจากทำแผลให้เขาเสร็จแล้ว เขาก็ยังกำชับถึงสิ่งที่ต้องระมัดระวังอีกด้วย จากนั้นก็ไปตรวจดูอาการบาดเจ็บที่เท้าของเหมิงเหมิง หลังจากเสร็จแล้ว หลี่มู่ถิงก็ไปส่งเขาออกไป แล้วก็ไปส่งเด็กทั้งสองกลับไปที่ห้อง เสิ่นหยินอู้ยืนอยู่ที่เดิมและจ้องมองฉินเย่ที่กำลังกินยา ยาขมๆพวกนั้นเหมือนกับลูกอมหลากสี พวกมันเข้าไปในปากของฉินเย่ทีละเม็ด มันขมมากจนเขาขมวดคิ้ว แต่เขาทำได้เพียงฝืนกลืนมันลงไปเพราะเสิ่นหยินอู้กำลังเฝ้ามองเขาอยู่ ความรู้สึกนี้มันทั้งขมและหวา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 844

    แต่...เธอไม่คิดจริงๆว่าคนที่ทำร้ายเขาจะเป็นโม่ไป๋ จะบอกว่าเธอเป็นแม่พระก็ได้ สำหรับเสิ่นหยินอู้ ในช่วงเวลาที่สำคัญ โม่ไป๋ถือได้ว่าเป็นเพื่อนที่พิเศษคนหนึ่ง แม้ว่าเธอจะไม่ได้ถามอีก แต่หลี่มู่ถิงก็เป็นคนช่างสังเกตมาก เขาจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าเสิ่นหยินอู้ลังเลที่จะพูด ดังนั้นเขาจึงได้แต่ถอนหายใจและพูดว่า: "คุณหนูเสิ่น คุณคงไม่ได้เป็นห่วงโม่ไป๋หรอกใช่ไหมครับ?" “ผมอยากจะบอกว่า คุณไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเขาหรอกครับ ไม่ว่าที่ผ่านมาเขาจะดีกับคุณแค่ไหน แต่สิ่งที่เขาทำในช่วงนี้มันไม่ใช่สิ่งที่คนปกติจะทำได้เลยจริงๆ เขาพาคุณมาถึงที่ต่างประเทศโดยไม่ได้รับความยินยอมจากคุณ นี่มันคืออะไรล่ะครับ มันคือการลักพาตัว! ถ้าคุณโจวไม่ได้เอาแต่บอกเราว่าคุณไม่ให้แจ้งตำรวจ เขาที่ทำเรื่องพวกนี้ก็คงจะต้องเข้าไปนั่งอยู่ในคุกแล้วล่ะครับ" เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ “ตอนนี้เขาแค่ยังคิดไม่ได้ ถ้าเขาคิดได้ เขาก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้” สำหรับเสิ่นหยินอู้ โม่ไป๋เคยช่วยเหลือเธอในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด และชีวิตของเขาเองก็มืดมน อาการทางจิตของเขาคงจะรุนแรงมากพอสมควร ช่วงเวลานี้คงเป็นช่วงเวลาที่ย

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 845

    เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เธอก็เป็นห่วงเขาเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้ฉินเย่รู้สึกหวานชื่น เขารู้สึกว่าการที่เขาได้รับบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร มันคุ้มค่าเสียด้วยซ้ำ แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เป็นห่วงคนอื่นเหมือนกัน และคนๆนั้นก็คือคนที่พาเธอมาถึงที่ต่างประเทศ ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเย่คิดถึงความสัมพันธ์ในอดีตของพวกเขา โม่ไป๋จะยังมีวันนี้ได้ที่ไหนกัน? “ประธานฉิน ถ้างั้น... เรามาทำให้มันจบๆไปเลยดีกว่าไหมครับ? ไม่อย่างนั้น หลังจากนี้คุณหนูเสิ่นคงจะคิดถึงแต่คนที่ชื่อโม่ไป๋อะไรนั่น” “ทำให้จบๆเหรอ? ทำอะไรให้จบๆ?” ฉินเย่หรี่ตาลงและพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างไม่สบายใจ: “ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บ เธอก็เป็นห่วงเขาขนาดนั้นแล้ว ถ้าผมทำให้มันจบๆไป ต่อจากนี้ผมจะเป็นคนแบบไหนในใจเธอล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น ผมมีครอบครัวแล้วก็ลูกแล้ว ผมต้องเคารพกฎหมาย” เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด หลี่มู่ถิงก็รู้ว่าเขาเข้าใจผิดในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ จึงพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า: "ประธานฉิน คุณเข้าใจผมผิดแล้วครับ อันที่จริง ที่ผมหมายถึงคือ จากนี้อย่าให้คุณหนูเสิ่นติดต่อกับโม่ไป๋นั่นอีก แล้วก็อย่าให้คุณหนูเสิ่นได้ยินเรื่องอะไรเกี่ยวกั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 846

    ต่อให้ในอดีต เขาจะได้รับประสบการณ์ที่น่าขมขื่นในวัยเด็ก แต่แล้วมันยังไงล่ะ? มันเกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ? ใครบ้างที่ไม่เคยได้รับประสบการณ์ที่น่าขมขื่นในวัยเด็ก? แต่เนื่องจากมันเป็นการตัดสินใจของประธานฉิน หลี่มู่ถิงจึงไม่สามารถพูดอะไรได้อีก "ผมเข้าใจแล้วครับประธานฉิน ไม่ต้องห่วง ถ้าคุณต้องการทราบเรื่องนี้ ผมจะไปตรวจสอบให้คุณ" ในไม่ช้า หลี่มู่ถิงก็จากไป เหลือเพียงฉินเย่ที่อยู่ที่เดิมตามลำพัง ริมฝีปากบางของเขาเม้มจนเกือบจะเป็นเส้นตรง สิ่งที่เข้ามาในหัวคือคำพูดที่หลี่มู่ถิงบอกเขา ดูเหมือนเธอจะเป็นห่วงโม่ไป๋มากเลยสินะ? ที่หน้าอกของเขามีความรู้สึกเจ็บจี๊ดแผ่ซ่านเข้ามา ฉินเย่จึงอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นและไปหาเธอ - หลังจากที่เสิ่นหยินอู้กลับมาจากที่ๆคุยกับหลี่มู่ถิง เธอก็นึกถึงโม่ไป๋มาตลอด เด็กน้อยทั้งสองคนกำลังดูการ์ตูนอยู่ในห้อง พวกเขาถือโทรศัพท์อยู่ในมือ เสิ่นหยินอู้ก็มีอีกเครื่องที่โม่ไป๋ให้คนเตรียมไว้ให้เธอ ในคืนที่เธอหนีไปคืนนั้น เป็นเพราะสถานการณ์ฉุกเฉินมาก เธอจึงลืมเอาโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย ในตอนนี้เธอสามารถใช้ได้เฉพาะโทรศัพท์ที่ฉินเย่เตรียมไว้ให้เธอเท่านั้น และซิมการ์ดก็เป

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 847

    เสิ่นหยินอู้ตกใจเล็กน้อย “จะลาออกเหรอ? เพราะอะไรล่ะ? ไม่ใช่เพราะฉันใช่ไหม?” “ไม่ใช่” โจวชวงชวงส่ายหัว ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาออกจากหางตา แล้วลดสายตาลงต่ำและพูดว่า: “เรื่องของเธอมันเป็นแค่ส่วนหนึ่ง หลักๆคือฉันไม่อยากทำแล้ว" ตอนที่เธอมาก็ไม่เห็นเธอจะบอกว่าเธอไม่อยากทำงานต่อแท้ๆ แต่ตอนนี้... เสิ่นหยินอู้รู้สึกผิดและโทษตัวเองเล็กน้อย กังวลว่าชวงชวงต้องการลาออกเพราะเธอ "ฉันจริงจัง เราเป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปีแล้ว เธอไม่เชื่อฉันเหรอ? ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้บ่นให้เธอฟังมาตลอดเหรอว่าเขาคือโจวเปาผีที่ใจร้ายน่ะ? เขาเอาเวลาของฉันไปเยอะ ฉันไม่มีโอกาสได้ไปแม้แต่ดูตัวกับผู้ชายสักคนด้วยซ้ำ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันก็คงไม่ต้องแต่งงานกันพอดี และช่วงนี้ฉันก็เหนื่อยมาก ช่วงนี้ฉันก็อยากลาออกพอดี ก็เลยจะกลับจีนไปสะสางทุกอย่างให้เรียบร้อย” เธอพูดมาทั้งหมดก็เพราะหวังว่าเสิ่นหยินอู้จะไม่โทษตัวเอง หากเธอยังคงโทษตัวเองต่อไปในเวลานี้ เธอเกรงว่าโจวชวงชวงอาจจะต้องมานั่งอธิบายอะไรอีกมาก ดังนั้น เสิ่นหยินอู้จึงพยักหน้า “โอเค ในเมื่อเธอคิดดีแล้ว งั้นฉันก็จะไม่โน้มน้าวอะไรเธออีก” ผู้ใหญ่ควรรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะ

Latest chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status