แชร์

บทที่ 737

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
ความทรงจำเหล่านั้นที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาในหัวเธอเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้เธอค่อยๆปะติดปะต่อภาพที่กระจัดกระจายเข้าด้วยกันได้

วันนั้นฉินเย่ลื่นตกลงไปในน้ำ

เนื่องจากเขาเคยมีประสบการณ์จมน้ำในตอนที่ยังเป็นเด็ก เขาจึงกลัวน้ำมาโดยตลอดและไม่เคยเรียนว่ายน้ำเลย

เนื่องจากเธอและฉินเย่ไม่ได้เรียนห้องเดียวกัน ดังนั้นเวลาเธอออกไปข้างนอก เธอจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อนๆในห้อง

ครั้งนั้นเป็นเพื่อนโต๊ะข้างๆเธอที่แนะนำให้ไปที่แม่น้ำเพื่อจับกุ้ง

ทั้งสองตกลงกัน แต่เมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง เพื่อนของเธอก็บอกว่าเธอลืมของ และบอกให้หยินอู้ไปรอเธอที่ริมแม่น้ำก่อน เสิ่นหยินอู้ตกลง และเพื่อนของเธอก็กลับไปเอาของ ส่วนหยินอู้ก็ไปที่ริมแม่น้ำก่อน

ความหนาวเย็นแผ่ไปทั่วริมแม่น้ำในฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างทางเสิ่นหยินอู้ถูกลมพัดจนต้องหดคอลง และยังลังเลอยู่ว่าจะกลับไปบอกเพื่อนว่าไม่ต้องไปจับกุ้งจะดีกว่าไหมเพราะอากาศหนาวเกินไป

ถ้าไปจับกุ้ง ก็ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นจะหนาวจนเป็นหวัดหรือเปล่า

เธอกำลังสับสนอยู่ในใจ และเมื่อเธอกำลังจะกลับไป จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ

เสิ่นหยินอู้มองไปตามเสียงและเห็นเจี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 738

    ในท้ายที่สุดเธอก็หมดสติไป ความทรงจำในอดีต ในขณะนี้กำลังแสดงอยู่ในหัวของเสิ่นหยินอู้เหมือนกับภาพยนตร์ที่ฉายอยู่ คำทรงจำเหล่านั้นที่เธอจำไม่ได้เลย ในตอนนี้กลับชัดเจนมากแม้แต่ในรายละเอียดเล็กๆ หลังจากที่เธอจำทุกอย่างได้ เสิ่นหยินอู้ก็หายใจแรงขึ้น เธอยื่นมือออกมากุมที่หน้าอกของเธอโดยไม่รู้ตัวและสูดหายใจเฮือกใหญ่ๆเข้าไป เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน?ที่แท้คนที่ช่วยฉินเย่ไว้ คือก็เธองั้นหรอ??? แล้วเจียงฉูฉู่ล่ะ? ตอนแรกไม่ได้บอกว่าเจียงฉูฉู่เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฉินเย่ไว้หรอ? แล้วทำไมเธอถึงมีความทรงจำนี้ล่ะ? เจียงฉูฉู่แอบอ้างสิทธิ์ในความดีความชอบของเธอ หรือว่าความทรงจำของเธอมีอะไรผิดพลาด แต่หากมีอะไรผิดพลาด ความทรงจำเหล่านี้จะเหมือนจริงเช่นนี้ได้อย่างไร? ในชั่วขณะหนึ่ง ความถี่ในการหายใจของเสิ่นหยินอู้ไม่สามารถลดลงได้เลย ประมาณสิบนาทีต่อมา เธอก็พลิกตัวและลุกขึ้นจากเตียง เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและหาเบอร์ของฉินเย่เพื่อที่จะโทรหาเขา เธอกดโทรออกอย่างรวดเร็ว และเมื่อโทรติดแล้ว เสิ่นหยินอู้กลับเสียใจขึ้นมาและรีบกดวางสาย จากนั้นเธอก็เอื้อมมือไปกุมหน้าผากด้วยความรำคาญใจ เธอกำล

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 739

    หลังจากวางสายแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆเธอ ถึงเวลาที่เธอจะต้องนอนแล้ว สำหรับเรื่องที่เธอนึกขึ้นได้ในวันนี้ เธอต้องหาทางพิสูจน์ ไม่เช่นนั้นคำพูดเพียงไม่กี่คำของเธอเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถทำให้คนอื่นเชื่อเธอได้เลย ท้ายที่สุดแล้ว...มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน และตอนนี้ปัญหาก็คือ จะพิสูจน์ได้อย่างไรกัน เสิ่นหยินอู้นอนลง แต่เธอไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด ภายในหัวของเธอเต็มไปด้วยภาพเหล่านั้นที่ในที่สุดก็กลับคืนมา ยิ่งเธอคิด เธอก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดอยู่ในหัวมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากเจียงฉูฉู่ช่วยฉินเย่ไว้ในตอนนั้น ฉินเย่จึงปฏิบัติต่อเธอแตกต่างไปจากเดิมมาก จากเดิมที่มีเพียงพวกเขาสองคนที่เล่นด้วยกันตอนเด็ก แต่ต่อมาก็มีเจียงฉูฉู่เพิ่มเข้ามาด้วยอีกคนหนึ่ง เธออิจฉาฉูฉู่แทบจะตลอดเวลา ในตอนที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุด เธอถึงขั้นจินตนาการว่ามันคงจะดีถ้าเธอเป็นคนที่ช่วยเขาไว้ แต่เธอคาดไม่ถึงเลยว่า ที่แท้คนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ก็คือเธอจริงๆ แต่ในตอนนั้นกลับถูกเจียงฉูฉู่แอบอ้างไปก็เท่านั้นเอง แอบอ้าง... ดวงตาที่งดงามของเสิ่นหยินอู้หรี่ลงเล็กน้อย ในตอนนั้นเธอช่วยฉินเย่ก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 740

    ขณะที่เสิ่นหยินอู้กำลังจะพูด ฉินเย่ก็ก้าวเข้ามาและปิดประตู และเขาก็ก้าวไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย ทำให้เธอแทบจะตัวติดกับผนังกำแพงตรงโถงทางเข้า "คุณมีอะไรจะพูดกับผมหรอ?" เสียงของฉินเย่ต่ำและแหบแห้ง สายตาของเขาลึกซึ้งมาก เหมือนกับหมาป่าที่กำลังตามหาเหยื่อในค่ำคืนอันเงียบสงบเสิ่นหยินอู้: "..." เธอรู้สึกว่าเขาได้คืบจะเอาศอกอย่างบอกไม่ถูก ก่อนหน้าคืนก่อนหน้านี้ เขายังไม่กล้าทำแบบนี้กับเธอเลยและในตอนเช้าวันนี้ ก่อนออกจากบ้าน เขาก็จูบเธอที่หน้าผากอีก เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็เอื้อมมือออกไปผลักเขาออกไป "คุณทำอะไรเนี่ย? ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าฉันโทรผิด?" "ผมไม่เชื่อ" ฉินเย่ประสานนิ้วกับเธอและยับยั้งความวู่วามที่จะพูดอะไรเลี่ยนๆของตัวเอง: "คุณเป็นคนมีเหตุผลมาก ไม่มีทางโทรหาผมเพราะโทรผิดในเวลาแบบนี้หรอก" เสิ่นหยินอู้ชะงักไป “ดังนั้นการที่คุณโทรหาผม ก็คงมีเรื่องจะคุยกับผมแน่ๆ” เสียงของฉินเย่อ่อนโยนนุ่มนวลมาก: “คุณไม่อยากบอกผมทางโทรศัพท์ ผมก็เลยได้แต่ต้องมาหาคุณเอง” เขารู้จักเธอมาหลายปี เขาก็ยังเข้าใจเธอดีมาก เสิ่นหยินอู้มองไปที่เขาและเม้มริมฝีปาก แต่กลับไม่พูดอะไร ฉินเย่เ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 741

    เมื่อสัมผัสได้ถึงริมฝีปากบางของเขาที่แนบติดกับริมฝีปากของเธอ เสิ่นหยินอู้ก็หยุดหายใจ เธอเอนตัวไปด้านหลังโดยอัตโนมัติ มือใหญ่คู่หนึ่งจับเอวของเธอไว้แล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา จากนั้นริมฝีปากสีแดงของเธอก็ถูกเขาจุมพิต "อื้อ" หลังจากตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เสิ่นหยินอู้ก็เอื้อมมือออกไปผลักเขาออกไปอย่างแรง "ฉันกำลังคุยกับคุณนะ คุณทำบ้าอะไรเนี่ย?" หลังจากที่ฉินเย่ถูกผลักออกไป เขาก็มองเธออย่างติดใจและพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า "ผมเห็นคุณหึง ก็เลยอยากจูบคุณ" “ใครหึง?” เสิ่นหยินอู้ปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว ฉินเย่ยิ้มและไม่พูดอะไรต่อ เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาเล็กน้อย เธอกำลังพูดกับเขาด้วยความจริงจัง แต่เขากลับทำตัวเอ้อระเหยลอยชาเหมือนกับว่าไม่เชื่อเธอ เขาจึงจงใจทำเช่นนี้เพื่อมาเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า: "คุณกำลังจงใจทำให้ฉันเสียสมาธิใช่ไหม?" ฉินเย่: "..." “คิดเพ้อเจ้ออะไรน่ะ ผมเชื่อคุณอยู่แล้ว” ฉินเย่เอื้อมมือไปบีบแก้มเธอ สีหน้าของเขาจริงจังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “แต่ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? คนที

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 742

    “ช่างมันเถอะ” เสิ่นหยินอู้หันกลับมา “ยังไงมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ถ้าฉันนึกเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ได้ ทุกคนคงคิดว่าเธอเป็นคนช่วยคุณ” เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของเธอ ฉินเย่ก็เม้มริมฝีปาก “ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ปล่อยให้คนอื่นเอาความดีความชอบของคุณไปแอบอ้างโดยไม่มีเหตุผล” เสิ่นหยินอู้หัวเราะเยาะ “คุณพูดไปตอนนี้จะไปมีประโยชน์อะไร? ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอเป็นคนช่วยคุณหมดแล้ว นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว หรือคุณคิดจะออกไปป่าวประกาศว่าคนที่ช่วยคุณไว้คือฉัน ไม่ใช่เธออย่างงั้นหรอ? คุณมีหลักฐานหรอ?” "ไม่มี" "งั้นก็ไม่..." เธอรู้สึกถึงแรงที่ไหล่ของเธอ จู่ๆฉินเย่ก็จับไหล่ของเธอแล้วดึงเธอให้หันหน้ามาหาเขา “หลักฐานน่ะ แค่ถ้าผมอยากได้ มันก็มีอยู่แล้ว” เสิ่นหยินอู้ตกใจ: "อะไรนะ?" ฉินเย่พูดอย่างใจเย็นว่า: "เดิมที ผมแค่อยากจะตัดความสัมพันธ์กับเธอ ท้ายที่สุดเธอก็เคยช่วยผมไว้ แต่ตอนนี้ในเมื่อเธอไม่ได้เป็นคนที่ช่วยผม ผมคงไม่ทำแค่การตัดความสัมพันธ์ง่ายๆอย่างเดียวหรอก" เสิ่นหยินอู้มองเขาอย่างแน่วแน่ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็หันไปแล้วพูดว่า "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?" “นั่วนั่ว” ในโถงทางเข้าที่มีแสงสลัวๆ ฉินเย่เ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 743

    หลังจากที่ฉินเย่ออกไป เสิ่นหยินอู้ก็ยืนอยู่ที่โถงถางเข้าเพื่อสงบลมหายใจและอารมณ์ของเธอ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ยกมือขึ้นแตะที่แก้มของเธอ มันยังร้อนอยู่... มันเป็นเพียงแค่การสวมกอดเองแท้ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้คาดหวังว่าฉินเย่จะเชื่อในสิ่งที่เธอพูดโดยไม่ตั้งคำถามอะไรกับเธอเลย นี่หมายความว่า ตลอดมาหัวใจของเขาอยู่กับเธออย่างงั้นสินะ? "หม่ามี๊?" ทันใดนั้นก็มีเสียงเด็กตัวน้อยดังขึ้นมาจากด้านหลัง เสิ่นหยินอู้สะดุ้ง เธอหันกลับมาและพบว่าเป็นเหนียนเหนียนที่ยืนมองเธออยู่ซึ่งเขามาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เมื่อเห็นเขา เสิ่นหยินอู้ก็ตกใจ “เหนียนเหนียน ลูกตื่นมาตั้งแต่เมื่อไร?” เขาไม่ได้หลับไปแล้วหรอกเหรอ? เสิ่นหยินอู้หลบสายตา เขายืนอยู่ที่นี่มานานเท่าไรแล้ว เมื่อครู่นี้คงไม่เห็นอะไรใช่ไหม? ในขณะที่เธอกำลังคิด เธอก็เดินเข้าไปหาเสิ่นซือเหนียน เธอคุกเข่าลงข้างหน้าแล้วอุ้มเขาขึ้นมา "เดินออกมาก็ไม่รู้จักหาอะไรมาใส่ เป็นหวัดขึ้นมาจะทำยังไง?" หลังจากที่ถูกเธออุ้มขึ้นมา เหนียนเหนียนก็ใช้มือโอบคอของเสิ่นหยินอู้ เสิ่นหยินอู้ถามอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย: "ลูกออกมาตั้งแต่เมื่อไ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 744

    เพราะต่อหน้าเขา เธอเป็นคนอ่อนโยนและใจกว้างมาโดยตลอด เธอไม่เคยดูเหมือนคนปากร้ายที่ชอบด่ากราดแบบในตอนนี้ เจียงฉูฉู่ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เธอเอาผ้าห่มออกแล้วลุกจากเตียง “เย่ นายมาที่นี่ได้ยังไง?” เมื่อพูดไปได้ครึ่งหนึ่ง น้ำตาของเจียงฉูฉู่ก็ไหลออกมา เธอร้องให้และเดินเข้าไปตรงหน้าฉินเย่ “ฉันคิดว่านายจะไม่สนใจฉันแล้ว” ฉินเย่ลดสายตาลงและมองไปที่ข้อมือของเธอ “ทำไมถึงโกรธขนาดนี้?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงฉูฉู่จึงรีบอธิบาย: "ฉัน ฉันคิดว่านายไม่สนใจฉันแล้ว ฉันก็เลยอารมณ์ไม่ดีมากๆ ฉันขอโทษ... ฉันไม่ได้ตั้งใจ เสี่ยวเหลียน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?" เสี่ยวเหลียนส่ายหัว เธอต่อว่าฉูฉู่อยู่ภายในใจว่าเป็นพวกตีสองหน้าเก่ง จากนั้นก็ถอยหลังออกไป: "งั้นฉันออกไปก่อนนะคะ คุณหนูกับคุณฉินค่อยๆคุยกันนะคะ" เธอออกไปอย่างรวดเร็วและปิดประตูห้องผู้ป่วยให้เจียงฉูฉู่ เจียงฉูฉู่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว แต่ก็คงดึกมากแล้ว เธอไม่คิดเลยว่าฉินเย่จะมาหาเธอในเวลานี้ “เย่ นายยังโกรธฉันอยู่ใช่ไหม? ฉันอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ นายอย่าไปฟังข่าวลือพวกนั้นนะ ฉันไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายที่ชื่อต้วนจื่อฝ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 745

    เมื่อเจียงฉูฉู่ถูกเขาถามเช่นนั้น เธอก็ยืนเหม่อลอยอยู่กับที่ มองเขาอย่างงุนงง หลังจากนั้นสักพัก เธอก็ได้สติ หรือว่าฉินเย่จะรู้แล้วว่าเธอแอบอ้างความดีความชอบนั้น? ไม่ เป็นไปไม่ได้ ตอนนั้นที่ช่วยเขาขึ้นมา เขาอยู่ในสภาพที่ไม่ได้สติ และเสิ่นหยินอู้ก็สูญเสียความทรงจำของเธอไปแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้เรื่องนี้ เว้นแต่ว่าเสิ่นหยินอู้จะได้ความทรงจำกลับคืนมา แต่นี่ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว หากเสิ่นหยินอู้จะได้ความทรงจำกลับคืนมา เธอก็คงจะนึกเรื่องนี้ได้ไปนานแล้ว เธอจะรอมาถึงตอนนี้ไปเพื่ออะไร? ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหยินอู้ได้ความทรงจำกลับมาจริงๆ แล้วทำไมจนถึงตอนนี้หยินอู้ถึงไม่มาหาเธอล่ะ? เธอกลัวว่าจะต้องป่าวประกาศให้คนทั้งโลกรับรู้ว่าเธอคือคนที่ช่วยชีวิตฉินเย่งั้นสินะ? หลังจากคิดเช่นนั้นแล้ว เจียงฉูฉู่ก็รู้สึกว่าที่เธออ่อนไหวและหวาดระแวงมากขนาดนี้อาจเป็นเพราะความฝันนั้น การที่ฉินเย่ถามคำถามนี้ขึ้นมา มันก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเธอ ขอแค่เธอแต่งเรื่องให้ตัวเองดูน่าเวทนาสักหน่อย เขาคงจะเห็นใจเธออย่างแน่นอน ถึงตอนนั้น เธอค่อยใช้โอกาสนั้นในการให้ฉินเย่ขอเธอแต่งงาน ถ้าไม่ได้ เธอก็จะใช้ชีวิตข

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status