Share

บทที่ 4

Penulis: ลั่วหูโยว
ก่อนที่ตระกูลเสิ่นจะล้มละลาย ก็มีผู้ชายจำนวนนับไม่ถ้วนที่มาตามจีบเสิ่นหยินอู้ แต่ไม่มีใครเข้าตาเธอเลย พอเวลาผ่านไป ทุกคนต่างก็บอกว่าลูกสาวคนโตของตระกูลเสิ่นนั้นแสร้งทำเป็นมีจิตใจงดงามและคุณธรรมสูง

ในขณะนี้สูญสิ้นอำนาจไปแล้ว และชายกลุ่มหนึ่งก็เริ่มล้อเลียนเธอ และพวกเขาจึงแอบเรียกราคาออกมาอีกด้วย

ในช่วงที่เธอตกต่ำถึงที่สุด และอับอายจนถึงที่สุด ฉินเย่ก็กลับมา

เขาจัดการกับคนพวกนั้นที่เรียกราคา และทำให้พวกเขาทั้งหมดต้องชดใช้ราคาอันเจ็บปวด รวมทั้งชำระหนี้ให้แทนตระกูลเสิ่น แล้วพูดกับเธอว่า: "หมั้นกับฉันเถอะ"

เสิ่นหยินอู้มองเขาด้วยความตกใจ

ชายหนุ่มเห็นใบหน้าที่ตกตะลึงของเธอ จึงเอื้อมมือมาลูบใบหน้าเธอ

“ตกใจอะไร? กลัวฉันจะเอาเปรียบเธอเหรอ? ไม่ต้องกังวลไปนะ มันเป็นแค่การหมั้นกันแบบปลอม ๆ คุณย่าป่วยน่ะ และท่านก็ชอบเธอมาก เธอกับฉันจะหมั้นกันแบบปลอม ๆ เพื่อปลอบประโลมให้เธอมีความสุข และฉันก็จะช่วยฟื้นคืนตระกูลเสิ่นให้อีกด้วย”

โอ้ ที่แท้ก็เป็นการหมั้น ปลอม ๆ

ปรากฏว่ามันเป็นเพียงการปลอบให้คุณย่ามีความสุขก็เท่านั้น

ปรากฏว่าเขานั้นไม่ได้ชอบเธอแต่อย่างใด

แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังเห็นด้วยไปกับเขา

เธอรู้อย่างแน่ชัดว่าเขาไม่มีตัวเองอยู่ในใจเลย แต่เธอยังคงจมดิ่งอยู่อย่างมีสติ

หลังจากหมั้นแล้วเสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกอึดอัดใจ

ทั้งสองเป็นคู่รักที่เคยเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ในอดีตนั้นเคยเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอด และมักจะเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจเสมอที่เสิ่นหยินอู้จะหมั้นหมายกันอย่างกะทันหัน

แต่ฉินเย่กลับเป็นธรรมชาติมาก และพาเธอไปงานเลี้ยงด้วยทุกงานกับเขา และอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นในอีกหนึ่งปีต่อมา อาการของคุณย่าฉินแย่ลง และทั้งคู่ก็แต่งงานกัน จนเธอได้กลายเป็นคุณหญิงฉินที่ทุกคนต่างพากันอิจฉา

มีข่าวลือจากโลกภายนอกว่า คู่รักที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็กคู่นี้คือการบ่มเพาะจนได้แต่งงานกันจริง ๆ ในที่สุด

หลังจากกลับมามีสติอีกครั้ง เสิ่นหยินอู้ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

น่าเสียดาย ที่ไม่ได้มีการบ่มเพาะอะไรที่ประสบความสำเร็จเลย แต่มันเป็นเพียงธุรกรรมระหว่างคุณกับฉันก็เท่านั้น

“ยังไม่นอนอีกเหรอ?”ทันใดนั้นเสียงของฉินเย่ก็ดังขึ้นมา

จากนั้น ตำแหน่งที่อยู่ถัดจากเสิ่นหยินอู้ก็ยุบลง และลมหายใจอันเย็นสบายของฉินเย่ก็โอบล้อมอยู่รอบ ๆ

"มีเรื่องจะคุยกับเธอน่ะ"

เสิ่นหยินอู้ไม่ได้หันกลับมา และเดาได้ว่าฉินเย่นั้นจะพูดอะไร

ฉินเย่พูดขึ้นว่า: "เราหย่ากันเถอะ"

แม้ว่าเธอจะเดาได้ แต่หัวใจของเสิ่นหยินอู้ก็ยังคงเต้นแรง เธอระงับลมหายใจที่พลุ่งพล่านและพยายามสงบสติอารมณ์: "เมื่อไหร่ดีคะ?"

เธอนอนอยู่ตรงนั้น ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย โดยไม่มีเสียงติดขัดใด ๆ น้ำเสียงของเธอเรียบเฉยมากราวกับเธอกำลังพูดเรื่องอะไรที่ธรรมดามากอยู่

ท่าทีของเธอทำให้ฉินเย่ขมวดคิ้ว แต่เขายังคงพูดขึ้นมาต่อว่า: "เร็ว ๆ นี้ รอจนกว่าคุณย่าจะผ่าตัดเสร็จ"

เสิ่นหยินอู้พยักหน้า

"ค่ะ"

ฉินเย่:"...…ไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?"

หลังจากได้ยินเช่นนี้ เสิ่นหยินอู้ก็เหลือบมองไปด้านข้าง: "อะไรเหรอคะ?"

ดวงตาของเธอแจ่มชัด โดยไม่มีสิ่งใดเจือปนอยู่เลย ฉินเย่ชะงักไปเมื่อถูกเธอถามแบบนี้ หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“ไม่มีอะไร เธอมันผู้หญิงใจร้าย”

ว่ากันว่าเมื่อคู่สามีภรรยาแต่งงานกันความมีน้ำใจของทั้งสองก็จะยาวนานไปนับร้อยวัน ร้ายดีอย่างไรก็เป็นสามีภรรยากับตัวเองกันมาได้หนึ่งหรือสองปีแล้ว และเขาก็ขอหย่า แต่เธอนั้นกลับนิ่งเฉยมาก

ก็จริงอยู่ เดิมทีทั้งสองนั้นแต่งงานกันแบบแลกเปลี่ยนกัน โดยที่แต่ละคนได้รับในสิ่งที่ต้องการ

การดำรงอยู่ของเขา ก็เพื่อจะทำให้คนที่มาตามจีบรอบตัวเธอลืมและถอยไปก็ เท่านั้น

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่เพราะย่า เธอก็คงจะตีตัวออกห่างจากตัวเองไปตั้งนานแล้ว

ฉินเย่เก็บความรู้สึกไม่สบายใจที่เกิดจากปฏิกิริยาอันนิ่งเฉยของเสิ่นหยินอู้ ก่อนจะนอนลงข้าง ๆ เธอ แล้วหลับตาลง

“ฉินเย่”

จู่ ๆ เสิ่นหยินอู้กลับก็เรียกเขาขึ้นมา

ฉินเย่ลืมตาขึ้นทันที และมองไปที่เธอ ดวงตาสุดลึกล้ำคู่นั้นชัดเจนมากในตอนกลางคืน

"เธออยากพูดอะไรกับฉันเหรอ?"

เสิ่นหยินอู้มองดูใบหน้าหล่อเหลาของเขา ก่อนจะเผยอริมฝีปากสีชมพูของเธอออก และในที่สุดก็พูดออกมาว่า: "สำหรับสองปีมานี้.…..ขอบคุณนะคะ"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของฉินเย่ก็หรี่ลง หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็กระตุกมุมริมฝีปากแล้วพูดว่า"พูดพร่ำไปเรื่อย"

พูดพร่ำไปเรื่อย?

เสิ่นหยินอู้หันหลังกลับ โดยคิดว่าหลังจากหย่าร้างไปแล้ว ก็จะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกต่อไป

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (3)
goodnovel comment avatar
ทับทิม แย้มอรุณ
ชอบน่าติดตามจ้า
goodnovel comment avatar
Rangsinee Chaiyabutr
ต่อคะ สงสารนางเอก
goodnovel comment avatar
Hasanee Samee
สนุกมากไปค่ะ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 5

    เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อเสิ่นหยินอู้ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองเป็นหวัดเล็กน้อย เธอจึงหยิบยาแก้หวัดออกมาจากลิ้นชัก แล้วเทน้ำอุ่นมาหนึ่งแก้วทันทีที่โยนยาแก้หวัดเข้าไปปาก เสิ่นหยินอู้ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และสีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปคายยาในห้องน้ำเธอคว่ำหน้าบ้วนปากบนอ่างล้างหน้า และคายเอารสขมที่เธอเพิ่งกลืนลงไปทั้งหมดออกมา“เป็นอะไรหรือเปล่า? ลุกลี้ลุกลนขนาดนั้นเชียว? ไม่สบายเหรอ?”ทันใดนั้นเสียงของผู้ชายที่ชัดเจนก็ดังขึ้นมาตรงประตู เสิ่นหยินอู้ตกใจ และมองไปที่เขาฉินเย่มองมาที่เธอพร้อมกับขมวดคิ้วทันทีที่สบตากัน เสิ่นหยินอู้ก็รีบหลบสายตา และเธอก็พูดอย่างช้า ๆ ว่า "ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่กินยาผิดเข้าไปค่ะ"พูดจบ เธอก็เอื้อมมือไปเช็ดคราบน้ำบนริมฝีปาก แล้วลุกขึ้นออกจากห้องน้ำไปฉินเย่หันกลับไป และมองดูร่างของเธออย่างครุ่นคิดซึ่งมักจะรู้สึกเสมอว่าเธอทำตัวแปลก ๆ ไปตั้งแต่เธอกลับมาเมื่อคืนนี้หลังทานอาหารเช้าเสร็จ คู่สามีภรรยาก็ออกไปข้างนอกด้วยกันฉินเย่เหลือบมองไปที่เสิ่นหยินอู้ซึ่งยังหน้าซีดอยู่เล็กน้อย แล้วพูดว่า: "นั่งรถฉันไปไหม?"เมื่อวานเสิ่นหยินอู้โดนฝนจึงร

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 6

    “ไม่เป็นไรจริง ๆ สรุปงานของเมื่อวานทำเสร็จหรือยัง?”คุยกันไม่กี่คำก็พูดถึงเรื่องงาน หลินโยวโยวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปเอาข้อมูลที่เธอจัดการเอาไว้แล้วมา จากนั้นก็เทน้ำร้อนหนึ่งแก้วให้กับเธอ"ในเมื่อพี่หยินอู้ไม่ยอมไปโรงพยาบาล งั้นพี่ควรดื่มน้ำร้อนให้เยอะ ๆ หน่อยนะคะ"หลินโยวโยวเป็นผู้ช่วยที่ตัวเองคัดเลือกมาในตอนแรก โดยปกติจะขยันทำงานมาก แต่ทั้งสองก็ไม่มีการติดต่อกันเป็นการส่วนตัวเว้นแต่เรื่องงานแต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะใส่ใจตัวเองจริง ๆเสิ่นหยินอู้รู้สึกอบอุ่นในใจและดื่มน้ำร้อนไปสองสามอึกก่อนหน้านี้เธอรู้สึกหนาว ๆ นิดหน่อย แต่หลังจากดื่มน้ำร้อนแล้ว ในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกสบายขึ้นมากแต่หลินโยวโยวยังคงมองเธออย่างเป็นทุกข์“พี่หยินอู้ ไม่งั้นวันนี้ให้ฉันทำรายงานเองดีไหมคะ? ส่วนพี่ก็พักผ่อนในออฟฟิศสักหน่อยดีไหมคะ?”เสิ่นหยินอู้ส่ายหัว "ไม่ต้องหรอก ฉันทำเองได้"ก็แค่ไม่สบายนิดหน่อย เธอไม่ได้ไร้เหตุผลขนาดนั้นที่ถ้ามีปัญหาอะไรนิดหน่อยเธอก็จะพัก และปล่อยให้คนอื่นต้องมาทำงานแทนและพอนานไป เธอก็จะขี้เกียจเอาได้และเมื่อเธอไม่สบายขึ้นมาอีกในภายหลัง แล้วไม่มีใครช่วยเหลือเธ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 7

    เสิ่นหยินอู้ทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย "ก็แค่เปียกฝนเอง ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ"หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็ก้าวไปข้างหน้าและวางรายงานของเมื่อวานลงบนโต๊ะ“นี่คือสรุปงานของเมื่อวานค่ะ ฉันจัดเอาไว้หมดแล้ว และฉันยังมีเรื่องอื่นต้องไปจัดการต่อ งั้นไม่ขัดจังหวะในการรำลึกความหลังของพวกคุณแล้วนะคะ”เสิ่นหยินอู้มองไปที่เจียงฉูฉู่ และเจียงฉูฉู่ก็ยิ้มออกมาทันทีเสิ่นหยินอู้ออกไปแล้ว แต่คิ้วของฉินเย่ยังคงขมวดแน่นอยู่“ฉินเย่คะ?”จนกระทั่งเจียงฉูฉู่เรียกเขาขึ้นมา เขาก็กลับมาได้สติขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นท่าทีของฉินเย่ เจียงฉูฉู่ก็รู้สึกสับสน แต่ก็ยังคงพูดอย่างนุ่มนวลและมีน้ำใจว่า: "ฉันคิดว่าอาการของเสิ่นหยินอู้ไม่ค่อยดีนัก แม้ว่าตอนนี้เธอจะทำงานเป็นเลขานุการของคุณ แต่เธอก็ยังเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเสิ่นที่ล้มละลายไปก่อนหน้านี้อีกด้วย คุณอย่าปฏิบัติกับเธออย่างเข้มงวดนักเลยค่ะ”เข้มงวด?ฉินเย่เยาะเย้ยอยู่ในใจ ใครจะไปเข้มงวดกับแม่ทูนหัวคนนั้นได้ล่ะ?แต่ภายนอกเขาไม่ได้พูดคำเหล่านี้ออกมา และเขาก็แค่ตอบไปว่า: "อืม"เสิ่นหยินอู้จึงเดินย่ำกลับไปที่ห้องทำงานทันทีที่นั่งลง เธอก็อดไม่ได้ที่จะฟุบหน้าลงมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 8

    แต่เรื่องนี้ เสิ่นหยินอู้ก็ไม่รู้อะไรแน่ชัดนักเพราะในปีนั้นเธอเองก็เหมือนจะตกน้ำไปด้วย เธอมีไข้สูง จนป่วยหนัก และพอฟื้นขึ้นมาก็ลืมหลายสิ่งหลายอย่างก่อนหน้านี้ไป ซึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตกลงไปในน้ำได้อย่างไรเพื่อนร่วมชั้นก็ยังบอกด้วยว่า เพราะเธอมัวแต่ห่วงเล่น จึงไม่ทันระวังตกลงไปในน้ำแต่เสิ่นหยินกลับรู้สึกอยู่เสมอว่าตัวเองลืมอะไรบางอย่างไป แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเธอก็นึกไม่ออกเลย ต่อมาเวลาก็ผ่านเลยไปหลายปี เธอก็ลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานั้นไปอย่างสิ้นเชิงคิดไม่ถึงว่าฉินเย่จะหมกมุ่นอยู่กับคนที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ขนาดนี้และคงจะดีไม่น้อยถ้าคนที่กระโดดลงไปช่วยเขานั้นเป็นเธออารมณ์ในความฝันดูเหมือนจะผสานเข้ากับเสิ่นหยินอู้ในขณะนี้หัวใจของเธอรู้สึกราวกับถูกก้อนหินทับอยู่ และอาการปวดหัวก็ยิ่งแย่ลงไปอีก ทำไมคนที่กระโดดเข้าไปช่วยเขาในตอนแรกไม่ใช่เธอกันล่ะ?ถ้า..….ถ้า...…ทันใดนั้น ใบหน้าของฉินเย่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ดวงตาของเขาเย็นชาและโหดเหี้ยม"หยินอู้เอาเด็กออกซะ"จากนั้นเจียงฉูฉู่ก็ปรากฏตัวขึ้นข้างกายเขา และเกาะติดอยู่กับฉินเย่ราวกับเถาวัลย์“หยินอู้ เธอเอาเด็กออก ไม่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 9

    เธอไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้ พอไปโรงพยาบาล เธอก็จะถูกเปิดเผยความลับอย่างแน่นอน พูดไปก็ตลกดี เธอไม่อยากให้ใครรู้เรื่องลูก เพราะเธอต้องการรักษาศักดิ์ศรีเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเองเอาไว้ แม้ว่าเสิ่นหยินอู้จะรู้ว่าตั้งแต่วันที่เธอตกลงที่จะแต่งงานปลอม ๆ กับฉินเย่ สิ่งที่เรียกว่าศักดิ์ศรีของเธอก็ได้หมดไปแล้ว ตอนนี้ ต่อหน้าเขา และต่อหน้าคนในใจของเขา เธอจะไปมีศักดิ์ศรีอะไรกัน? แต่ถึงอย่างนั้น.….. เสิ่นหยินอู้หรี่ตาลง ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังไม่สามารถเปิดเผยทุกสิ่งที่สามารถทำให้ผู้คนขบขันกันออกไปได้ หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ ฉินเย่ก็ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะหมุนรถไปรอบ ๆ และจอดอย่างกะทันหันตรงริมถนน เมื่อเสิ่นหยินอู้เห็นแบบนี้ ก็คิดว่าเขาตั้งใจที่จะให้ตัวเองลงจากรถ จึงเอื้อมมือออกไปเปิดประตูรถ คลิก-- วินาทีต่อมา รถกลับถูกล็อคเอาไว้ ฉินเย่มองผ่านกระจกมองหลัง และจ้องมองเธอด้วยเจตจำนงที่ไม่แน่ชัด “ทำไมไม่ไปโรงพยาบาล?” ตั้งแต่กลับมาจากเปียกฝนเมื่อคืนนี้ ก็แปลก ๆ มาโดยตลอด เสิ่นหยินอู้รักษาความนิ่งเอาไว้และพูดว่า "ถ้าไม่สบาย ฉันไปตรวจเองได้ค่ะ" ได้ยินเช่นนี้ ฉินเย่ก็หรี่ตาลงอย่างอันตรา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 10

    เสิ่นหยินอู้ลดสายตาลง และครุ่นคิดอยู่ในใจเจียงฉูฉู่ไม่เพียงแต่สวยเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่โดดเด่นมากอีกด้วยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เธอได้ช่วยชีวิตของฉินเย่เอาไว้และหากเธอเป็นฉินเย่ ก็เกรงว่าจะชอบเธอเข้าเช่นกันหลังจากที่เพื่อนของเจียงฉูฉู่มาถึง เธอก็ขึ้นไปคุยกับเพื่อนของเธออยู่นาน ชายหนุ่มนั้นสวมเสื้อคลุมสีขาว และในที่สุดเขาก็จ้องมองไปที่ใบหน้าของเสิ่นหยินอู้ จากนั้นก็พยักหน้า แล้วเดินออกมา"สวัสดีครับ เป็นเพื่อนของฉูฉู่ใช่ไหม? ผมชื่อกู้ตงเฉิงนะครับ"เสิ่นหยินอู้พยักหน้าให้เขา: "สวัสดีค่ะ""มีไข้เหรอครับ?"กู้ตงเฉิงถามเบา ๆ พร้อมกับพยายามวางหลังมือลงบนหน้าผากของเสิ่นหยินอู้การเข้าใกล้อย่างกะทันหันทำให้เสิ่นหยินอู้หลบอย่างลืมตัว ปฏิกิริยาของเธอทำให้กู้ตงเฉิงยิ้มและพูดเบา ๆ ว่า: "แค่วัดอุณหภูมิดูน่ะครับ"หลังจากพูดจบ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่หยิบเทอร์โมมิเตอร์ออกมาแล้วพูดว่า "วัดอุณหภูมิก่อนแล้วกัน"เสิ่นหยินอู้รับมันมาจากนั้นเสียงของฉินเย่ก็ดังขึ้นมาจากข้างหลัง: "ใช้เทอร์โมมิเตอร์เป็นไหม?"เสิ่นหยินอู้:"…..."เธอเพิกเฉยต่อเขา ทำไมแม้แต่เทอร์โมมิเตอร์เธอถึงจะใช้ไม่เป็นด้ว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 11

    เสแสร้ง?เสิ่นหยินอู้ นิ่งไปชั่วครู่แล้วเยาะเย้ยในใจ“แน่ล่ะ เรื่องเข้าอกเข้าใจฉันเทียบกับฉูฉู่ของคุณไม่ได้หรอก”ประโยคหนึ่งที่เพิ่งโพล่งออกมาฉินเย่ตะลึงจนพูดไม่ออกเสิ่นหยินอู้เองก็อึ้งไปเช่นกันเธอ……กำลังพูดมั่วอะไรเนี่ย?เสิ่นหยินอู้เสียใจในคำพูดที่ไม่ถูกของเขา คางของเสิ่นหยินถูกฉินเย่ยกขึ้น และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับดวงตาสีเข้มของเขาฉินเย่หรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาของเขาเฉียบคมราวกับดวงตาของนกอินทรี“คุณอิจฉาเธอเหรอ?”คิ้วของเสิ่นหยินอู้กระตุก และรีบปัดมือของเขาออก“คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร?”อย่างไรก็ตาม มือของเธอไม่มีกำลังและเมือสัมผัสเขา นุ่มมนวลและไร้กำลังขัดขืน การกระทำนี้ทำให้ฉินเย่เลิกคิ้ว ยิ้มเยาะและคว้าข้อมือของเธอ"อ่อนแอขนาดนี้เลย?""คุณโง่มาก."เสิ่นหยินอู้ว่าจบประโยค แล้วชักมือกลับ ผลก็คือ เขาเอนหลังโซฟาเพราะออกแรงมากเกินไปหลังจากนั้นก็ลุกไม่ขึนไม่มีแรง.ฉินเย่ยืนอยู่ที่นั่นมองเธอด้วยสายตาที่ซับซ้อน แล้วพูดว่า:"เดี๋ยวก่อน"หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องน้ำ หยิบกะละมังพลาสติกที่มีน้ำและผ้าเช็ดตัวออกมา วางบนเก้าอี้ข้างๆ เธอฉินเย่แช่ผ้าเช็ดตั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 12

    ฉินเย่จำต้องยื่นผ้าขนหนูเปียก ๆ ไปให้เธอ"ตงเฉิงบอกวิธีการทั้งหมดมาอย่างละเอียดแล้ว ตรงนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน เย่คุณไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะดูแลหยินอู้ให้เป็นอย่างดีเลยค่ะ"หลังจากได้ยินแบบนี้ ฉินเย่ก็เหลือบมองไปที่เสิ่นหยินอู้ซึ่งกำลังนอนนิ่งเหมือนศพอยู่ตรงนั้น ก่อนจะพยักหน้า: "อืม"จากนั้นเขาก็ออกไปและประตูก็ปิดลงในห้องเงียบสงบ หลังจากนั้นไม่นาน เสิ่นหยินอู้ก็ซักผ้าขนหนูใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็เปิดกระเป๋าแล้วเดินไปหาเธอ“หยินอู้ ฉันช่วยเช็ดตัวให้คุณได้ไหมคะ?”ตอนนี้เสิ่นหยินอู้ไม่มีแรงเลยจริง ๆ และจำเป็นต้องให้คนอื่นช่วยเธอ แต่ว่า…...“ทำไมไม่เรียกพยาบาลล่ะคะ แบบนี้จะรบกวนคุณมากเกินไปหรือเปล่า?” เธอเสนอขึ้นมาเจียงฉูฉู่ยิ้มเบา ๆ : "ไม่รบกวนเลยค่ะ พยาบาลจะเช็ดครอบคลุมแบบฉันได้ยังไงกันคะ? ตราบใดที่คุณไม่รังเกียจที่จะให้ฉันเห็นทุกอย่างก็ได้แล้วล่ะค่ะ"เมื่อพูดแบบนี้แล้ว เธอจะพูดอะไรได้อีก จึงทำได้เพียงกระตุกมุมริมฝีปากและพยักหน้าหลังจากที่เธอตกลง เจียงฉูฉู่ก็เข้ามาและปลดกระดุมเสื้อผ้าให้เธอและเพื่อหลีกเลี่ยงความอาย เสิ่นหยินอู้จึงหลับตาลงและไม่จ้องมองในขณะที่เจียงฉูฉู่ปล

Bab terbaru

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status