แชร์

บทที่ 461

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
เสิ่นหยินอู้คาดไม่ถึงว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นในตอนที่ไปเรียน

ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าบรรยากาศของโรงเรียนนั้นค่อนข้างดี จึงให้ลูกทั้งสองไปโรงเรียนนั้น เมื่อก่อนในตอนที่ยังอยู่ต่างประเทศ ทั้งคู่ยังเด็กอยู่เธอจึงไม่ได้คิดอะไรมากนัก

แต่ตอนนี้เด็กๆค่อยๆเติบโตขึ้นมามากแล้ว

ข้อเสียของครอบครัวที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ค่อยๆปรากฎออกมาในหมู่เพื่อนๆที่โรงเรียน

เสิ่นหยินอู้จำได้ว่าในตอนที่ตนเองยังเป็นเด็ก เธอก็เคยประสบกับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน

ความรักที่พ่อของเธอมอบให้กับเธอนั้นมากมาย

และเธอเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเสิ่น ตระกูลเสิ่นเป็นตระกูลที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ คนกลุ่มนั้นจึงไม่กล้าที่จะรวมหัวกันรังแกเธอ และถึงกับพยายามทำให้เธอพอใจเพราะเธอเป็นลูกสาวของตระกูลเสิ่น

ในตอนแรก เสิ่นหยินอู้รู้สึกดีใจเพราะทุกคนยินยอมที่จะเป็นเพื่อนกับเธอ เดิมทีเธอคิดว่าตัวเองเป็นตัวประหลาด

เธอคิดว่าคนที่มาจากครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวแบบเธอจะต้องทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัดอย่างแน่นอน และพวกเขาคงไม่อยากที่จะรู้จักกับเธอ

ดังนั้นการที่ทุกคนจึงยินดีที่จะเป็นเพื่อนกับเธอ เสิ่นหยินอู้จึงคิดมาตลอดว่าเพื่อนๆทุกคนเป็นคนดีมาก

แต่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Kru Askah
แอดค่ะ ช่วยทำให้นางเอกใจอ่อนกับพระเอกบ้างนะคะ อยากเห็นโมเม้นน่ารักๆค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 462

    พูดจบ สายตาคมของเขาก็จ้องมองไปที่หลี่มู่ถิงหลี่มู่ถิงรู้สึกผิดจึงหลบสายตาของเขาเขารู้ว่า ฉินเย่ต้องโกรธที่เขาปล่อยให้เจียงฉูฉู่เข้ามาถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาคงไม่ยอมปล่อยให้เข้ามาแน่ๆแต่นี่คือเจียงฉูฉู่ ถึงฉินเย่กับเธอจะยังไม่ได้คบกันอย่างเป็นทางการ แต่ใครๆ ก็รู้ว่าเจียงฉูฉู่ได้รับการยอมรับจากแม่ของฉินเย่แล้วในสายตาของทุกคน เรื่องที่เธอจะได้แต่งงานเข้าไปในตระกูลฉิน เหลือแค่เรื่องของเวลาว่าจะช้าหรือเร็วแค่นั้นเจียงฉูฉู่รู้ดีว่าฉินเย่หมายความว่าอะไร ถึงจะรู้สึกอึดอัดแต่ก็ต้องยอมอธิบายว่า “คุณอย่าโทษผู้ช่วยหลี่เลยนะ ฉันขอให้เขาปล่อยฉันเข้ามาเอง ฉันบอกเขาว่าถ้าไม่ให้เข้าฉันจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ เขาเลยไม่มีทางเลือก”เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉินเย่ก็ชะงักไปและมองไปที่หน้าของเจียงฉูฉู่"จริงเหรอ?"เจียงฉูฉู่พยักหน้ารับเบาๆ วินาทีถัดมาก็ได้ยินเสียงหัวเราะเย็นๆ ของฉินเย่ “ไม่ให้เข้าแล้วจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่เหรอ? ฉูฉู่ คุณกลายเป็นคนไร้เหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”สีหน้าของเจียงฉูฉู่เปลี่ยนไปเล็กน้อย“เย่ ฉันแค่......”ผู้ช่วยหลี่ไม่คาดคิดว่าฉินเย่จะไม่ไว้หน้าคุณหนูเจียงเลย เข้าใจดี

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 463

    น้ำหอม......
น้ำตาของเจียงฉูฉู่ยังไม่ทันไหลลงมาหมด เธอก็รู้สึกระแวงขึ้นมาทันทีเวลาผ่านไปตั้งห้าปีแล้ว เมื่อไหร่กันที่เขามีกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงบนตัวเขา?และกลิ่นน้ำหอมนี้ มันบางเบาเหมือนกลิ่นดอกไม้ที่ลอยตามลมมา ถ้าไม่ได้ดมใกล้ๆ ก็ไม่ได้กลิ่นเลย
ถ้าเป็นผู้หญิงในบาร์หรือตามโต๊ะเหล้า พวกเธอไม่มีทางใช้น้ำหอมที่บางเบาแบบนี้แน่
ขณะที่เจียงฉูฉู่กำลังคิดถึงเรื่องนี้ มือของเธอก็ถูกฉินเย่ผลักออก ด้วยแรงที่มากพอ ทำให้เจียงฉูฉู่ถอยหลังไปสองสามก้าวและเกือบเสียการทรงตัว
จากนั้นเธอก็เห็นฉินเย่จ้องมองเธออย่างดุร้ายเหมือนกับหมาป่า
"อย่าแตะตัวผม!"
เจียงฉูฉู่ไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของเขามาก่อน เธอถึงกับยืนนิ่งอยู่ที่เดิมด้วยความตกใจ และไม่กล้าเข้าไปอีก
แต่เมื่อคิดถึงกลิ่นน้ำหอมบนตัวเขา เจียงฉูฉู่ก็ไม่ยอมแพ้"โอเค ฉันจะไม่แตะต้องคุณ งั้นคุณบอกฉันมาตรงๆ เลยว่ากลิ่นน้ำหอมบนตัวคุณมาจากไหน? คุณไม่ชอบฉันไม่เป็นไร แล้วคนอื่นล่ะ?"
กลิ่นน้ำหอม?เมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของฉินเย่ก็แสดงออกว่าประหลาดใจนิดหน่อย เขายกแขนขึ้นและก้มลงไปดมกลิ่น พบว่ามีกลิ่นหอมบางๆ จริงๆ
มันเป็นกลิ่นของเธอ
ก็จริง เ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 464

    "แค่คืนสูท?"
ไม่ ฉินเย่เจอจุดบอด "นายบอกว่าให้เธอยืมสูทที่งานประมูลครั้งที่แล้ว งานไหน?""งานไหนนายไม่รู้เหรอ? วันนั้นนายก็อยู่ด้วยนี่ ทำไม? อย่าบอกนะว่าวันนั้นนายไม่เจอเธอ?"ฉินเย่: "......""ไม่ได้เจอจริงดิ?""เล่ามาสิ หลังจากเธอคืนสูทให้นายแล้ว เธอพูดอะไรกับนายอีก?"คราวนี้ถึงตาฟู่ถิงสือที่เงียบไปแล้วพูดขึ้นมาหลังจากผ่านไปสักพัก: "ฉินเย่ ถึงเราจะเป็นพันธมิตรกัน แต่ในมุมส่วนตัวเราก็เป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ? แต่ถึงจะเป็นเพื่อนกัน นายก็ไม่ควรจะยื่นมือเข้ามายุ่งมากขนาดนี้มั้ย? แม้แต่เรื่องที่เธอพูดอะไรกับฉันนายก็ยังจะยุ่งเหรอ?"
ยังไงก็ตาม ฉินเย่ไม่สนใจคำพูดของเขาซักนิด"จะพูดไหม?""โธ่ ฉินเย่ นายมันหน้าด้าน!"
ในที่สุดฟู่ถิงสือก็ทนต่อการข่มขู่ของเขาไม่ไหว จึงเล่าเรื่องเมื่อวานออกมาตรงๆ
หลังจากวางสายแล้ว ฉินเย่ก็จ้องมองโทรศัพท์อย่างเย็นชา หลังจากนั้นสักพักมุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อยเมื่อคิดอะไรบางอย่างได้
เพราะเรื่องที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ อารมณ์ที่เดิมทีว้าวุ่นของฉินเย่ก็ดีขึ้น
ก่อนที่จะเข้านอน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอปพลิเคชันและดูแอคเคาท์ของเด็กน้อยทั้งสองคนครั้งก่อ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 465

    สุดท้าย เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ได้ให้โม่ไป๋ไปส่งเธอไปทำงาน แต่เธอกลับให้เขาไปส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนแทน
เสิ่นหยินอู้ไปทำงานด้วยตัวเองเพราะยังไม่มั่นคง เธอจึงยังไม่ได้ซื้อรถในตอนนี้ จะว่าไปก็ขำดี ในฐานะเจ้านาย เธอต้องนั่งรถไฟฟ้าหรือรถเมล์ไปทำงานทุกวัน ในขณะที่พนักงานของเธออย่างอู๋อี้ไห่ ซื้อรถไปตั้งนานแล้ว
ระหว่างทางไปทำงาน เพื่อนสาวของเธอ โจวชวงชวง ที่อยู่ห่างออกไปอีกฟากฝั่งของมหาสมุทรก็โทรมา"หยินอู้ของฉัน จุ๊บๆ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง? ช่วงก่อนหน้านี้ไม่ได้โทรหาเลย บริษัทไปได้ดีไหม?"เสียงของโจวชวงชวงฟังดูดี เสิ่นหยินอู้ยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ก็ดีนะ แล้วเธอล่ะเป็นยังไงบ้าง?"
"อย่าไปพูดถึงเลย ฉันจะตายเพราะไอ้เจ้านายนั่นอยู่แล้ว ฉันบอกเลยหยินอู้ ตลอดชีวิตที่ฉันมีมา ฉันไม่เคยเจอใครที่ขูดรีดคนได้ขนาดนี้มาก่อน! เธอว่าไง เขาขูดรีดพนักงานขนาดนี้ได้ยังไง?"
เสิ่นหยินอู้ฟังเธอบ่นเกี่ยวกับเจ้านายตัวเอง บ่นแบบจัดเต็ม บางครั้งก็เออออไปด้วยบ้าง โจวชวงชวงบ่นอยู่นานสิบนาที "ช่างมันเถอะ ช่างเขาไป พูดถึงเขาทีไร ฉันก็มีแต่เรื่องไม่ดีจะพูดทั้งนั้น""อืม""ใช่สิ แล้วเธอกับลี่ซือเป็นยังไงบ้าง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 466

    เสิ่นหยินอู้ตอบอย่างจริงจังว่า “ฉันแซ่เสิ่น นัดกับประธานฟู่ไว้เมื่อวานค่ะ”
สีหน้าของพนักงานต้อนรับที่เดิมทีดูไม่ค่อยใส่ใจนัก พอได้ยินเธอบอกว่าแซ่เสิ่น ท่าทีก็เปลี่ยนไปทันทีแบบ 360 องศา“ขอโทษค่ะ คุณคือคุณเสิ่นหยินอู้ใช่ไหมคะ?”
ท่าทีที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายทำให้เสิ่นหยินอู้รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เธอพยักหน้า"ใช่ค่ะ""เป็นอย่างนี้ค่ะคุณเสิ่น คุณฟู่กำชับไว้ว่า ถ้าคุณมาถึงแล้ว ให้พาคุณขึ้นไปชั้นบนเลยค่ะ"
"จริงเหรอคะ?" เสิ่นหยินอู้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "ประธานฟู่ใส่ใจจัง"
พนักงานต้อนรับยิ้มอย่างมีเลศนัยให้เธอ แล้วพาเธอไปที่ลิฟต์"นี่คือลิฟต์ส่วนตัวของประธานฟู่ค่ะ คุณเสิ่น คุณขึ้นไปที่ชั้นบนสุดได้เลยค่ะ"
พอเข้าไปในลิฟต์ พนักงานต้อนรับก็ใส่รหัสผ่านชั่วคราวให้เธอ แล้วพาเธอไปที่ชั้นบนสุด
ตอนที่ประตูลิฟต์ปิดลง เสิ่นหยินอู้เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมถามว่าห้องทำงานคือห้องไหน
พอถึงชั้นบนสุด เสิ่นหยินอู้ถึงพบว่ามีห้องทำงานแค่ห้องเดียว
แบบนี้ก็คงไม่ต้องถามอะไรอีกแล้ว
ประตูห้องทำงานปิดอยู่ เสิ่นหยินอู้เดินเข้าไปแล้วเคาะประตูเบาๆ
ข้างในมีเสียงทุ้มต่ำตอบกลับมา"เข้ามา"
เสียงนี้ทำใ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 467

    ยกแต่เรื่องเก่าๆขึ้นมาพูด แล้วก็พูดถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดในอดีต
เสิ่นหยินอู้สีหน้าฉายแววเปลี่ยนไป ริมฝีปากสีแดงขยับเล็กน้อย ในที่สุดเธอก็จ้องเขาแล้วพูดว่า “ฉินเย่ คุณมันไร้ยางอายจริงๆ”
เขามีเจียงฉูฉู่แล้วแท้ๆ แต่ยังอยากมาพัวพันกับเธออีก
เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร?น่าตลกสิ้นดีเมื่อห้าปีที่แล้ว เขาคิดว่ายังทำร้ายเธอไม่พออีกหรอ?"ไร้ยางอาย?"
ฉินเย่เดินมาข้างหน้า ต้อนเธอจนถอยไปติดมุมผนัง ในขณะที่เธอคิดจะหนี เขาก็ยกมือยันผนังขวางทางเธอไว้ ริมฝีปากยกยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “แต่ก่อนตอนคุณอยู่บนเตียงของผมก็ไม่ได้พูดแบบนี้นี่นา”เพี้ยะ!
เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ เธอตบหน้าฉินเย่ไปหนึ่งที
ฉินเย่คงไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะลงมือ ดังนั้นใบหน้าของเขาจึงโดนตบจนหันไปด้านข้าง
พอเขาตั้งสติได้ ก็จับข้อมือของเสิ่นหยินอู้ไว้ ก้มศีรษะลงเหมือนจะจูบเธอ
เพี้ยะ!
เสิ่นหยินอู้ร้อนใจ จึงตบหน้าเขาไปอีกครั้ง“ฉินเย่ จะมากเกินไปแล้วนะ! เรื่องที่คุณพูดมันผ่านไปนานแล้ว! เราหย่ากันมาห้าปีแล้ว!”
ไม่รู้ว่าเป็นคำไหนที่กระตุ้นให้ฉินเย่หยุดการกระทำทันที เขาจ้องมองเสิ่นหยินอู้ในระยะใกล้และหายใจหอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 468

    ในตอนนี้เมื่อเห็นดวงตาของสาวงามที่มีน้ำตาคลอเบ้า ฟู่ถิงสือก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก รู้สึกว่าตัวเองช่างเลวทรามจริงๆเขาตั้งใจจะถามเธออย่างละเอียด แต่เสิ่นหยินอู้กลับเดินผ่านเขาไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพูดคุยด้วยฟู่ถิงสือยืนอยู่ตรงนั้น ในหัวมีแต่ภาพของดวงตาที่เย็นชาคลอด้วยน้ำตาและเต็มไปด้วยความอดทน ภายในใจมีแต่ความรู้สึกผิด
ในขณะที่เขากำลังจะตามไป เสิ่นหยินอู้ก็หยุดและหันกลับมาหาเขา“ประธานฟู่”ฟู่ถิงสือ: "หือ?""คุณจะไม่ลงทุนในบริษัทของฉันใช่ไหมคะ?""อะไรนะ?"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฟู่ถิงสือก็ตกใจ "ลง ลงทุนในบริษัทของคุณเหรอ? คุณเปิดบริษัทแล้วเหรอ? ที่คุณบอกว่าจะคุยเรื่องงานกับผมหมายถึงเรื่องนี้งั้นเหรอ?"
เมื่อได้ยินแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ก็แสดงความสงสัยเล็กน้อย
"ไม่งั้นจะเป็นเรื่องอะไรล่ะคะ?""ผม ผมคิดว่าคุณคิดได้แล้ว และยอมมาทำงานกับผม ในขณะที่ฉินเย่ไอ้สารเลวนั่นไม่ยอมให้คุณมาเลยตามมาขัดขวาง"เสิ่นหยินอู้: "......"
ที่แท้ฟู่ถิงสือก็ไม่รู้เรื่องนี้ดูเหมือนว่าเป็นฉินเย่ไปสืบเรื่องนี้มาเอง แต่เขาสืบได้ยังไง ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขารู้แค่เรื่องที่เธอต้องการให้ฟู่ถิงสือลงทุนแค่นั้น ม

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 469

    สำนักงานชั้นบนสุดพอฟู่ถิงสือขึ้นมาถึง ก็ตรงไปหาฉินเย่ทันที"เฮ้เฮ้ ฉันคิดว่าเธอจะมาทำงานที่บริษัทฉันซะอีก ใครจะคิดว่าเธอจะมาขอลงทุน นายรู้เรื่องนี้อยู่แล้วใช่ไหม แต่ไม่บอกฉัน?"
"แล้วนายรู้ไหม ตอนเธอลงไป สีหน้าไม่ดีเลย? นายทำให้เธอร้องไห้เลยนะ?"
ฉินเย่ที่เคยพิงกำแพงอยู่ พอได้ยินก็ชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นก็เผยรอยยิ้มเย้ยหยันที่ริมฝีปากบางๆ"จริงเหรอ?"ผู้หญิงใจร้ายแบบนั้น ร้องไห้เป็นด้วยเหรอ? น่าแปลกจริงๆ"อะไร? ดูจากสีหน้านายคงไม่เชื่อสินะ? ฉันพูดจริงๆ นายคงไม่รู้ตัวเลยสินะว่านายมันเลวแค่ไหน? ทำให้เธอโกรธจนร้องไห้ แต่นายยังดูไม่ใส่ใจอีก"
เมื่อได้ยิน ฉินเย่ก็ไม่ตอบอะไร ยืนอยู่ตรงนั้น เม้มปากบางๆ สีปากซีดลงเล็กน้อย
ส่วนฟู่ถิงสือที่ไม่ได้สังเกตุเห็นความผิดปกติก็ยังคงบ่นต่อไป"ด้วยท่าทางแบบนี้ของนาย ฉันไม่รู้เลยว่านายต้องการอะไร ตอนแรกฉันคิดว่านายอยากได้เธอกลับมา แต่ตอนนี้ฉันสงสัยว่านายคงไม่อยากเห็นหน้าเธอเลยใช่ไหม นายเลยโกรธเธอแบบนี้?""......"
ฟู่ถิงสือที่ไม่ได้รับการตอบสนองจึงหันไปมองฉินเย่ แล้วเห็นว่าฉินเย่หน้าซีดจาง และมีเหงื่อซึมอยู่ที่หน้าผากฟู่ถิงสือกระพริบตาหลายคร

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status