Share

บทที่ 302

Author: ลั่วหูโยว
last update Last Updated: 2024-07-29 17:00:00
ก็แค่ตัวเองต้องการหย่าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทำให้โม่ไป๋ต้องมาถูกต่อยตลอดแบบนี้

สองหมัดเมื่อกี้นี้ เขาก็รับไปฟรีๆ แล้ว

ทันใดนั้น ฉินเย่กวาดมองที่ใบหน้าของโม่ไป๋ แล้วหยุดอยู่ที่ข้อมือของเขา

“ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ปล่อยมือ”

เสิ่นหยินอู้ได้ยินดังนั้นก็รีบมองไปที่โม่ไป๋ แล้วอธิบาย “เรื่องนี้ ฉันจัดการเอง”

ได้ยินดังนั้น โม่ไป๋ก็มองที่เธอนิ่งๆ อยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มออกมา

“โอเค ฉันจะรอ”

กล่าวจบ โม่ไป๋ก็ปล่อยมือ

เขาเพิ่งจะปล่อยมือออกหลวมๆ ฉินเย่ก็ลากคนออกไปแล้ว

หลังจากที่พวกเขาออกไป ผู้ช่วยของโม่ไป๋ถึงจะเดินเข้ามา แล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับโม่ไป๋

“คุณชายโม่ ไม่เป็นอะไรนะครับ?”

โม่ไป๋รับผ้าเช็ดหน้ามา แล้วเช็ดมุมปากของตนนิ่งๆ ในตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

จุดที่ถูกฉินเย่ต่อย ทั้งๆ ที่เป็นแผล

แต่เขากลับเช็ดหนักๆ เหมือนไม่รู้สึกเจ็บราวกับว่าตนเป็นร่างศพที่ไร้ความรู้สึกอย่างไรอย่างนั้น ผู้ช่วยมองเขาอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปหลายส่วน

อีกแล้ว

ท่าทีของคุณชายโม่แบบนี้…

เขาไม่กล้าพูดอะไรต่อ ทำได้เพียงยืนเฝ้าอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ

ผ่านไปพักหนึ่ง โม่ไป๋ก็โยนผ้าเช็ดหน้าลงถังขยะ แ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 303

    บรรยากาศอันน่าหลงใหลพลันหายไปผ่านไปนานฉินเย่ถึงจะหันหน้ากลับไปมองเธอหลังจากนั้นไม่รู้ว่าเขานึกอะไรออก ในดวงตาสีดำนั้นแฝงด้วยความหืนกาม เขาใช้มือจับคางของเธอไว้อีกครั้ง แล้วสัมผัสที่ริมฝีปากบวมแดงของเธอเบาๆ จากนั้นกล่าวว่า “แต่งงานปลอมๆ ก็จริง แต่เรื่องที่ฉันนอนกับเธอล่ะ ปลอมด้วยเหรอ?”เสิ่นหยินอู้ไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง“นายว่าอะไรนะ?”“ไม่ใช่เหรอ?” ฉินเย่เลื่อนมือลงผ่านลำคอของเธอ แล้วหยุดอยู่ที่กระดูกไหปลาร้าอันงดงามของเธอลูกกระเดือกของเขาเคลื่อนไหว ดูประโยคสารเลวออกมาด้วยน้ำเสียงมึดครึ้ม“ตอนแรกตอนที่เธอขอให้ฉันนอนกับเธอ ไม่ได้เป็นแบบนี้นี่”เสิ่นหยินอู้หรี่ตาลงหลังจากนั้น เธอก็ง้างมือตบหน้าเขาอีกทีหนึ่งใบหน้าอันหล่อเหลาของฉินเย่ถูกตบจนหันหน้าไปอีกทางหนึ่งอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ตบแล้วตบอีก เสิ่นนั่วนั่ว เธอคิดว่าฉันไม่กล้าลงมือกับเธอจริงๆ ใช่ไหม?”กล่าวจบ เสิ่นหยินอู้ก็ตบเขาอีกครั้งหนึ่งเพี๊ยะ!ฉินเย่หน้าบึ้งในบัดดลแต่เมื่อเห็นเสิ่นหยินอู้ที่ตาแดง จ้องเขาด้วยความโกรธอยู่ข้างล่างแล้ว เขาก็ไม่อาจลงมือกับเธอเลยจริงๆฉินเย่นึกอะไรออกพลันเบะปาก

    Last Updated : 2024-07-29
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 304

    เขาถูกต่อย แถมยังอาจแตกหักกับเพื่อนของตัวเองเพราะเรื่องของเธอด้วย แต่ตอนนี้เขากลับมาขอโทษตน เสิ่นหยินอู้รู้สึกผิดมากถึงมากที่สุด“ไม่ได้ล้มไม่เป็นท่าหรอก” เธอเอ่ยเสียงชัดเจน “ฉันไม่เป็นไร คนที่ต้องขอโทษคือฉันต่างหากที่ทำให้นายต้องพลอยถูกต่อยไปด้วย”ได้ยินดังนั้น โม่ไป๋ก็หัวเราะออกมาเบาๆ“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ผู้ชายน่ะถูกต่อยหน่อยก็เป็นเรื่องปกติ”“แต่ว่าต่อไปนายกับเขา…”“วางใจเถอะ ยังไงก็เป็นเพื่อนกัน อย่างมากก็แค่ไม่คุยกับฉันสักช่วงหนึ่ง ถึงแม้จะไม่สนใจฉัน ถึงตอนนั้นฉันก็จะไปขอโทษอยู่ดี”เมื่อได้ยินแบบนั้น เสิ่นหยินอู้ก็วางใจสักที“ถ้างั้นก็ดี”“แล้วทุกอย่างราบรื่นดีไหม?”เสิ่นหยินอู้พยักหน้า จากนั้นก็คิดได้ว่าคุยโทรศัพท์อยู่ เธอพยักหน้าโม่ไป๋ก็ไม่เห็น จึงเปลี่ยนเป็นคำพูด“อืม ชั่วคราวน่ะ”“เป็นยังไง?”เสิ่นหยินอู้อารมณ์ไม่ดีมาก คำขอโทษก่อนหน้านี้เป็นขีดจำกัดของเธอ ดังนั้นตอนนี้เธอจึงไม่อยากตอบคำถามใดๆ ทั้งนั้น หากไม่ใช่เพราะโม่ไป๋เคยช่วยเธอไว้ เธอคงวางสายไปตั้งนานแล้วแต่ว่าครั้งนี้เธอต้องพยายามทำให้อารมณ์ของเธอสมดุลแล้วเอ่ยว่า “โม่ไป๋ ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ น่ะ ได

    Last Updated : 2024-07-29
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 305

    ระหว่างทางไปสำนักกิจการพลเรือน ทั้งสองเงียบมากอุณหภูมิภายในรถต่ำมาก ฉินเย่ไม่เปิดแอร์ด้วยซ้ำอาจจะลืมเพราะความโกรธเสิ่นหยินอู้เพราะรีบออกจากบ้าน จึงสวมแค่เสื้อคลุมตัวเดียวก็ออกมาแล้วตอนแรกยังไม่รู้สึกอะไร แต่พอนั่งนานเข้า เสิ่นหยินอู้ก็ยิ่งรู้สึกหนาวจนตัวสั่นไปทีหนึ่ง แล้วสวมเสื้อคลุมให้แน่นกว่าเดิมฉินเย่ที่ขับรถอยู่ไม่รู้คิดอะไรจึงเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงตลอดเวลาเห็นเธอขยับเสื้อคลุมจากหางตา ก็ไม่พูดอะไร เพียงแค่เปิดแอร์ด้วยสีหน้าเย็นชาไม่นาน อุณหภูมิในรถก็เพิ่มขึ้นเสิ่นหยินอู้อดไม่ได้หันไปมองฉินเย่สันกรามเรียมชัดของเขางดงามราวกับภาพวาด รูปลักษณ์หน้าตาที่ดูดีของเขา แม้จะมองจะด้านข้างก็ยังดูดีไร้ที่ติข้อเสียอย่างเดียวคือหน้าบึ้งตึงตลอดเวลารู้จักกันมานานหลายปี เสิ่นหยินอู้มองออกว่าฉินเย่กำลังโกรธอยู่ และโกรธมากด้วยแต่ทั้งๆ ที่เขาโกรธขนาดนี้…ก็ยังรับรู้ได้จากท่าทีเล็กๆ น้อยๆ ของเธอ แล้วเปิดแอร์ให้กับเธอเสิ่นหยินอู้ละสายตา แล้วก้มหน้าก้มตาจู่ๆ ก็รู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออกเมื่อมาถึงสำนักกิจการพลเรือน ยังคงต้องต่อแถวเหมือนคราวก่อนที่มาเมื่อถึงคิวแล้ว เสิ่นหยินอู้

    Last Updated : 2024-07-30
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 306

    ที่โชคร้ายคือเธอพูดถูกเสิ่นหยินอู้เองก็ไม่รู้ว่าตนคิดยังไง ตอนที่เธอได้ยินผู้หญิงคนนี้ด่าฉินเย่นั้น ในใจกลับรู้สึก…สะใจดีเหมือนกันแต่พอย้อนกลับมาคิด เขาไม่เหมือนกับผู้ชายคนอื่น เขาบอกกับตนแต่แรกแล้วว่าเป็นการแต่งงานปลอมๆ เป็นเธอเองที่แอบชอบคนอื่นเขาจะโทษว่าเขาเพอร์เฟคเกินไปไม่ได้หรอกมั้ง?เฮ้อ จะให้เธอด่านั้นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ทำได้เพียงฟังคนอื่นด่าแล้วกัน“เฮ้อ ฉันว่านะ ผู้ชายอย่างพวกคุณน่ะมันสารเลว ถ้ามันไม่หอมหวานแล้วจะแต่งเข้าบ้านทำไม? ทำเอาต้องมาหย่ากัน ตลกจริงๆ”ผู้หญิงนั่นทำเหมือนฉินเย่เป็นศัตรูคู่แค้น ประชดประชันและด่าอย่างเต็มที่ทีแรกฉินเย่ยังทำหน้าไม่สบอารมณ์ และไม่สนใจหล่อนแต่ผู้หญิงคนนี้ปากแจ่วมากจริงๆ ทำให้เขาต้องขมวดคิ้ว แล้วกวาดมองไปที่หล่อนเมื่อหญิงสาวถูกเขามองเช่นนั้น ก็ตกใจจนพูดไม่ออก ถึงขนาดกลืนน้ำลายลงอย่างไม่รู้ตัวเกิดอะไรขึ้น?ผู้ชายคนนี้ออร่าแข็งแกร่งไม่พอ แต่สายตายังดุร้ายขนาดนี้ด้วย…ชั่ววินาทีนั้นราวกับจะคร่าชีวิตเธอไปอย่างไรอย่างนั้นเสิ่นหยินอู้เองก็เห็นสายตาของฉินเย่เช่นกันอย่าว่าเลย เธอที่มองอยู่ข้างๆ ยังรู้สึกกลัวเลยถึงตระหนักได้

    Last Updated : 2024-07-30
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 307

    อาจเป็นเพราะไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้พนักงานจึงมองที่เสิ่นหยินอู้สลับมองฉินเย่ จากนั้นถามอย่างระมัดระวังว่า “แล้วคุณผู้ชายล่ะคะ?”ตอนที่ถาม เธอเห็นว่าในตาของผู้ชายแอบคาดหวังเล็กน้อยแต่ว่าครั้งนี้ชายหนุ่มกลับไม่ขยับเปลือกตา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ตามที่เธอว่าเลยครับ”จบกัน ดูท่าแล้วจะห้ามไม่อยู่แล้วเธอไม่พูดพล่ำอีก เพียงแค่ทำเอกสารหย่าร้างให้ทั้งสองเงียบๆปึงปัง!หลังจากประทับตรา หนังสือหย่าร้างสองเล่มก็ถูกยื่นมาตรงหน้าพวกเขาเสิ่นหยินอู้และฉินเย่ยืนอยู่ตรงนั้น ต่างก็มองหนังสือหย่าร้างนิ่งๆ อยู่พักหนึ่ง จากนั้นต่างคนต่างหยิบของตนจากนั้น ก็ออกจากสำนักกิจการพลเรือนไปทันทีที่ออกจากสำนักกิจการพลเรือน เสิ่นหยินอู้ก็สัมผัสได้ถึงสายลมเย็นที่พัดมา ทำให้ผมเพ้าของเธอปลิวไหวกระทบใบหน้าราวกับคมมีดเธอถือหนังสือหย่าร้างไว้ในมือ จากนั้นยื่นมืออีกข้างหนึ่งให้กับฉินเย่ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“ขอบคุณสำหรับการดูแลตลอดเวลาที่ผ่านมานะ”“เธอเป็นอิสระแล้ว”ฉินเย่ไม่ได้จับมือกับเธอ และไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำ เพียงแค่ทิ้งคำพูดไว้แล้วเดินจากไปทิ้งเสิ่นหยินอู้ไว้ที่เดิมต

    Last Updated : 2024-07-30
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 308

    หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เสื้อคลุมตัวใหญ่ตัวหนึ่งก็คลุมบนร่างเธอ แล้วตามด้วยเสียงทอดถอนใจเล็กน้อย“ร้องไห้ขนาดนี้ ชอบเขาขนาดนั้นเลยเหรอ?”นี่มัน…เสียงของโม่ไป๋เสิ่นหยินอู้เงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยน้ำตา แล้วเอ่ยสะอึกสะอื้นว่า “ฉันคิดว่า เป็นคนแปลกหน้าซะอีก”ได้ยินแบบนั้น โม่ไป๋ก็หัวเราะเบาๆ “คนแปลกหน้าไม่ใจดีขนาดคลุมเสื้อผ้าให้เธอหรอก”กล่าวจบ โม่ไป๋ก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า แล้วเช็ดน้ำตาให้กับเธออย่างอ่อนโยนหลังจากที่เช็ดน้ำตาแล้ว ทุกอย่างตรงหน้าก็ชัดเจนขึ้น เสิ่นหยินอู้มองเห็นใบหน้าของโม่ไป๋ได้อย่างชัดเจน ในตาของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง บริเวณมุมปากและใต้คางมีแผลช้ำอยู่เล็กน้อย เป็นร่องรอยจากการถูกฉินเย่ต่อยไม่นานมาก เบื้องตาของเธอก็พร่ามัวอีกครั้งน้ำตาที่เพิ่งเช็ดไปพลันไหลออกมาอีกครั้งตอนอยู่คนเดียวยังไม่เป็นไร แต่ตอนนี้มีโม่ไป๋อยู่ข้างหน้าเธอ ทำให้เสิ่นหยินอู้มักรู้สึกผิดเธอพลางร้องไห้พลางพูดกับโม่ไป๋ว่า “ขอโทษนะ เหมือนว่าฉัน…จะควบคุมตัวเองไม่ได้”แววตาของโม่ไป๋แปลกไป จากนั้นเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยนต่อน่าเสียดายที่น้ำตาของเธอแห้งแล้วก็กลับมาไหลต่อ ไม่นานผ้าเ

    Last Updated : 2024-07-30
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 309

    รถจอดริมถนนหน้าสำนักงานกิจการพลเรือน โม่ไป๋มองเธอเงียบๆ อยู่นาน ตอนที่กำลังจะขับรถออกไป โทรศัพท์มือถือในอ้อมอกของเสิ่นหยินอู้ก็ดังขึ้นแต่เสิ่นหยินอู้ที่หลับลึกไม่ได้ยินเสียงเลยโม่ไป๋ไม่มีทางเลือกนอกจากหยิบโทรศัพท์ไปรับสาย“หยินอู้ ฉันมาถึงประตูสำนักงานกิจการพลเรือนแล้ว แต่ฉันไม่เห็นเธอเลย เธออยู่ไหนน่ะ?”เสียงของหญิงสาวที่ใสกังวานดังมาจากปลายสายโทรศัพท์หลังจากได้ยินดังนั้น โม่ไป๋ก็มองไปที่ประตูสำนักงานกิจการพลเรือนแล้วก็เห็นหญิงสาวสวมแจ็กเก็ตดาวน์สีดำสะพายเป้ใบเล็กยืนอยู่หน้าประตูสำนักงานกิจการพลเรือนมองหาเสิ่นหยินอู้ไปรอบๆ โม่ไป๋จำเธอได้เธอคือโจวชวงชวง เพื่อนรักของเสิ่นหยินอู้เมื่อจำอีกฝ่ายได้แล้ว โม่ไป๋ ก็ลดเสียงลงแล้วพูดว่า "สวัสดี ผมโม่ไป๋"หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูสำนักงานกิจการพลเรือนมองไปรอบๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เธอก็หยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดทันทีและถามด้วยความระมัดระวัง: “โม่ไป๋? ใครน่ะ? หยินอู้ล่ะ?”โม่ไป๋ไม่พูดจนครึ่งค่อนวัน แม้แต่ตนก็ลืมแล้ว?“เธอจำฉันไม่ได้แล้วเหรอ คนที่อยู่กับหยินอู้บ่อยๆ ตอนเด็กไงล่ะ”หลังจากได้ยินเรื่องนี้ โจวชวงชวงถึงจะตั้งใจนึก

    Last Updated : 2024-07-30
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 310

    แต่ว่า เมื่อกี้ตอนคุยโทรศัพท์ เสิ่นหยินอู้ร้องไห้จนหายใจไม่ออก ทำให้โจวซวงซวงตัดสินใจไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะหลับไป ถ้าหากตนปลุกเธอขึ้นมาตอนนี้ เธอจะร้องไห้อีกไหม?หลังจากคิดแบบนี้ โจวชวงชวงก็ตกอยู่ในความสับสนเวลานี้เอง เธอก็ได้ยินโม่ไป๋พูดว่า "ขึ้นรถเถอะ"หลังจากได้ยินดังนั้น โจวชวงชวงก็หยุดชะงักแล้วหันไปมองเขาโม่ไป๋ยิ้มเล็กน้อย “พวกเธอจะไปไหน ฉันจะไปส่งเอง รวดให้เธอได้นอนสักพัก”เมื่อได้ยินดังนี้ ยังจะมีอะไรโจวชวงชวงไม่เข้าใจอีกล่ะ?"ขอบคุณนะ"เธอรีบวางโทรศัพท์แล้วขึ้นไปนั่งในรถเสิ่นหยินอู้นอนอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ ดังนั้น โจวชวงชวงจึงทำได้แต่เฝ้าดูเธอจากเบาะหลังเท่านั้นหลังจากโม่ไป๋ขึ้นรถแล้วรถก็ออกตัวไปอย่างรวดเร็วจากหน้าสำนักงานกิจการพลเรือนหลังจากขับรถไปได้สักพักก็มั่นใจว่าเสิ่นหยินอู้คงไม่ตื่นเร็วขนาดนี้ โม่ไป๋จึงถามเบาๆ “พวกเธอจะไปไหนเหรอ?”โจวชวงชวงที่นั่งอยู่บนเบาะหลังพูดทันที: "พาเธอไปที่บ้านของฉันแล้วกัน"ในเวลานี้ ทางเลือกเดียวคือไปที่บ้านของเธออย่างไรเสีย เธอก็เพิ่งหย่ากับฉินเย่ คงไม่ควรส่งเธอกลับบ้านไปใช่ไหมล่ะ?ไม่นาน โจวชวงชวงก็บอกที่อยู่หนึ่งให้โม่ไป๋

    Last Updated : 2024-07-30

Latest chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 868

    แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็ยังไม่เร่งรีบ เสิ่นหยินอู้กับฉินเย่ซึ่งแต่งงานกันแล้วในเวลานั้นคงจะมีความคิดของตัวเองในแบบของคนหนุ่มสาว พวกเขาในฐานะผู้ใหญ่ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งมากเกินไป เช่นเดียวกับตอนที่เธอยังเด็ก การตั้งท้องฉินเย่ขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเช่นกัน เดิมทีเธอต้องการใช้เวลากับสามีของเธอในโลกของพวกเขาสองคนให้นานกว่านี้ และคุณนายฉินก็ไม่ได้กดดันเธอ ดังนั้นเธอจึงอยู่ในโลกที่หวานชื่นของพวกเธอสองคนกับสามี และแล้ว...เธอก็ท้องโดยไม่ได้ตั้งใจเธอเองก็เป็นเช่นนี้ ดังนั้นแล้วเธอจึงไม่ต้องการเร่งหยินอู้กับฉินเย่ ใครจะรู้ว่าต่อมาพวกเขาจะหย่าร้างกัน และหยินอู้ก็จากไปในที่ไกลแสนไกล ต่อมาก็มีคนมาล้อเธอเรื่องหลานมากขึ้น ในเวลานั้นคุณแม่ฉินยิ้มเล็กน้อยและขี้เกียจเกินกว่าจะตอบโต้อะไร เธอเพียงแค่ยุติสัญญาระหว่างบริษัททั้งสองหลังจากที่กลับไป เธอทำให้อีกฝ่ายตกใจจนแทบจะหัวใจวาย ในคืนนั้นอีกฝ่ายมาหาเธอและร้องไห้โดยบอกว่าเขาผิดไปแล้ว ขอให้ตระกูลฉินปล่อยเขาไป หลังจากไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาหลายปี คุณแม่ฉินก็ไม่ได้หวังอะไรมากนัก แต่ตอนนี้... เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ คุณแม่ฉินก็อดไม่ได้ที่จะย่อต

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 867

    จากระยะไกล คุณแม่ฉินสามารถมองเห็นเสิ่นหยินอู้และลูกๆทั้งสองได้ เด็กๆที่อยู่ข้างๆเธอเป็นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง และพวกเขาก็ดูมีหน้าตาที่คล้ายกันมากเพราะเป็นฝาแฝดกัน เธอตกใจมากเมื่อหลี่มู่ถิงโทรหาเธอก่อนหน้านี้ “ลูกเหรอ? เป็นลูกของฉินเย่กับหยินอู้หรอ?” "ครับคุณผู้หญิง" “นี่...หยินอู้มีลูกกับฉินเย่จริงๆเหรอ? อายุเท่าไรแล้ว?” เมื่อหลี่มู่ถิงบอกเธอว่าเด็กสองคนอายุห้าขวบและเป็นฝาแฝดหญิงชาย คุณแม่ฉินก็แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ เนื่องจากท่าทางที่ไม่สนใจใครของฉินเย่ก่อนหน้านี้ บวกกับการที่หยินอู้ไม่ต้องการที่จะมาเจอพวกเขาอีก คุณแม่ฉินจึงคิดว่าฉินเย่คงจะไม่มีคู่ครองอีกแล้วในชีวิตนี้ และเธอคงไม่มีโอกาสที่ได้อุ้มหลานๆแล้ว เรื่องนี้ทำให้เธอต้องเตรียมใจอยู่เป็นเวลานาน คุณแม่ฉินโน้มน้าวตัวเองอย่างยากลำบากว่าหากเธอไม่มีหลานก็ช่างมันไปเถอะ สำหรับลูกชายของเธอ ไม่ว่าเขาจะมีลูกหรือไม่ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอควรกังวล ฉินเย่ไม่ได้กังวล แล้วเธอจะกังวลอะไรล่ะ? เธอไม่คิดว่าเรื่องเหนือความคาดหมายจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เธอยังกังวลว่าเธอจะไม่มีหลานอยู่เลย แต่ผ่านไปไม่เท่าไรก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 866

    “ตอนคุณคิดบัญชีกับเขา ผมไปขวางคุณเมื่อไร? นับตั้งแต่ที่คุณแต่งงานเข้ามาในตระกูลฉิน คุณไม่ได้เป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจทุกอย่างมาโดยตลอดหรอกเหรอ?” หลังจากคิดอยู่สักพัก ฉินซวีโก้วก็รู้สึกว่าที่เขาพูดนั้นสมเหตุสมผล เธอเม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไรอีก นับตั้งแต่หยินอู้หย่ากับฉินเย่และจากไป นิสัยของคุณแม่ฉินก็เปลี่ยนไปมาก บวกกับการจากไปของคุณนายฉินก็ทำให้อารมณ์ของเธอไม่ได้อ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่อดทนกับลูกชายเหมือนเมื่อก่อน เพราะเธอรู้สึกว่าการจากไปของหยินอู้จะต้องหนีไม่พ้นเรื่องลูกชายของเธออย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว พวกเธอทั้งคู่ก็เป็นผู้หญิงที่แต่งงานกันแล้วเหมือนกัน หากผู้หญิงยังต้องการจะจากไป แสดงว่าปัญหาจะต้องอยู่ที่ผู้ชาย ไม่เช่นนั้นก็คงจะเป็นผู้หญิงที่เปลี่ยนใจ แต่เธอเห็นหยินอู้เติบโตมาตั้งแต่เธอยังเด็ก และเธอก็เข้าใจอารมณ์ของหยินอู้ได้อย่างลึกซึ้ง ในความคิดของคุณแม่ฉิน เด็กคนนั้นไม่มีทางจะทำอะไรที่เป็นผลร้ายแรงต่อเรื่องการแต่งงานอย่างแน่นอน ดังนั้นความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือการที่ลูกชายของเธอทำอะไรสักอย่างผิด เมื่อลูกชายทำผิด แม่ก็ต้องรับผิดชอบด้วยเพราะเธอสอนลูกไม

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 865

    หลังจากลงจากเครื่องบินแล้ว หลี่มู่ถิงยังคงยุ่งอยู่กับการเข็นกระเป๋าเดินทางให้เธอ เสิ่นหยินอู้เพียงแค่พาลูกๆสองคนเดินไปข้างหน้าเท่านั้น อาจเพราะกังวลว่าเรื่องลักพาตัวเธอครั้งก่อนจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นจึงมีบอดี้การ์ดร่างสูงกำยำหลายคนเดินขนาบข้างเธอ บอดี้การ์ดแทบจะล้อมอยู่รอบๆข้างกายเธอ ด้านหน้าหนึ่งคน หลังหนึ่งคน ซ้ายหนึ่งคน หนึ่งขวาคน จากมุมมองของคนนอก เธอกับลูกๆสองคนของเธอจะต้องปลอดภัยเต็มร้อย ถ้าใครคิดที่จะทำอะไรกับเธอ คงไม่ได้แม้แต่จะคิด หลี่มู่ถิงเข็นกระเป๋าเดินทางเดินตามหลังเธอไป เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงทางออกแล้ว เขาจึงพูดเตือนออกมา: "คุณหนูเสิ่น คุณผู้หญิงฉินกับคนอื่นๆกำลังรออยู่ที่ทางออก เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้วครับ" เมื่อเขาเตือนเธอ เสิ่นหยินอู้ก็พยักหน้า "อืม" จากนั้นเธอก็ก้มลงและกระซิบบอกเด็กน้อยทั้งสอง: "เหมิงเหมิง เหนียนเหนียน ได้ยินแล้วใช่ไหม? อีกเดี๋ยวก็จะได้เจอคุณปู่กับคุณย่าแล้วนะ จำได้ไหมว่าหม่ามี๊บอกพวกหนูตอนที่อยู่บนเครื่องบินว่าอะไร?" "จำได้ค่า" “ไม่ต้องห่วงค่ะหม่ามี๊ เหมิงเหมิงกับพี่ชายมีมารยาทให้มากที่สุดค่ะ” เด็กน้อยสองคนทำให้เธอมั่นใจได้อย่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 864

    "ดีใจค่ะ" เสิ่นเหมิงเหมิงเอื้อมมือออกไปด้วยความดีใจและคิดจะเข้าไปกอดเธอ แต่นี่เป็นบนเครื่องบิน และทั้งคู่ก็คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกอดหยินอู้ได้เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงยื่นมือออกมาให้เหมิงเหมิงจับมือเธอเพื่อแสดงความดีใจออกมา “หม่ามี๊คะ แล้วลุงเย่มู่รู้หรือเปล่า?”เขารู้หรือเปล่าเหรอ? มุมปากของเสิ่นหยินอู้โค้งขึ้น สีหน้าของเธออ่อนโยนขึ้น เดี๋ยวพอกลับถึงจีนเขาก็คงจะรู้เองแหละ "เดี๋ยวก็รู้แล้วจ๊ะ" “หม่ามี๊คะ แล้วคุณปู่กับย่าเข้ากับคนง่ายไหมคะ? พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่หรอคะ?” “ใช่แล้ว พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่ พวกเขาอ่อนโยนมาก แล้วก็เข้ากับคนง่าย ไม่ต้องห่วง พวกเขาคือ…” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็พูดว่า "พวกเขาคือปู่กับย่าแท้ๆของลูก" หลังจากได้ยิน ดวงตาของเหมิงเหมิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ “ปู่กับย่าเหรอคะ?” "อืม" เสิ่นหยินอู้ลูบหัวของเหมิงเหมิงและมองไปที่เสิ่นซือเหนียน: "เหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิง ลูกเข้าใจสิ่งที่หม่ามี๊พูดไหม? ลุงเย่มู่เป็นพ่อแท้ๆของลูก" เสิ่นซือเหนียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการบอกว่าเขาเข้าใจ อย่าง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 863

    อารมณ์ของเธอในเที่ยวบินขากลับแตกต่างไปจากในตอนขามาอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าดีมากนัก สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกว่าโชคดีก็คือการที่ไม่ว่าจะเป็นขามาหรือขากลับ ลูกๆทั้งสองคนของเธอก็ล้วนอยู่ข้างกายเธอ หลังจากที่หลี่มู่ถิงได้รับข้อความจากฉินเย่ เขาก็เล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กๆสองคนให้คุณพ่อคุณแม่ฉินฟังก่อนขึ้นเครื่องบิน หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ฉินรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ตกใจและเงียบไปนาน ในที่สุดพวกเขาก็พูดว่า "เราจะกลับไปเดี๋ยวนี้ เที่ยวบินของพวกคุณคือเที่ยวไหน เดี๋ยวถึงแล้วเราจะไปรับ" หลังจากที่หลี่มู่ถิงบอกเสิ่นหยินอู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ฉินบอกมา เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เนื่องจากเธอไม่ได้เจอพวกเขามานานแล้ว เมื่อนึกถึงห้าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เธอจากไป เธอจึงไม่รู้ว่าจะทักทายพวกเขาได้อย่างไรเมื่อต้องพบกันอีกครั้ง หลี่มู่ถิงไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาทำได้เพียงคาดเดาจากการดูสีหน้าของเธอเท่านั้น เมื่อเห็นเธอดูไม่ค่อยมีความสุข เขาจึงถามด้วยท่าทีระมัดระวัง: "คุณหนูเสิ่น ประธานฉินบอกผมว่าถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจหรือกังวลอะไร คุณบอกผมได้เสมอ และเรื่องนี้ก็สามารถล้มเลิก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 862

    ขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยกัน พวกเขาก็เดินไปที่ประตู ดังนั้นเสียงของพวกเขาจึงดังลอดผ่านประตูเข้าไปถึงหูของเสิ่นหยินอู้ได้อย่างชัดเจน เสิ่นหยินอู้ชะงักไปชั่วคราว เธอเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่ กดเสียงลงแล้วพูดว่า "ฉันต้องออกไปแล้ว ไม่งั้น..." คำพูดของเธอถูกขัดจากการที่ฉินเย่โน้มตัวเข้าไปหาเธออย่างกะทันหันลมหายใจที่ร้อนรุ่มของฉินเย่กระทบเข้ากับใบหน้าของเธอ ออร่าของเขาปกคลุมเธอเธอไว้ และริมฝีปากบางแนบกดลงไปบนมุมปากของเธอ เสียงของเขาแหบห้าว: "ขอจูบอีกที" ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็จูบเธออีกครั้งในทันทีโดยไม่รอให้ได้ทันเธอโต้ตอบอะไรทั้งนั้น "อื้อ" เสิ่นหยินอู้ยังไม่ทันได้ผลักเขาออกไปก็ถูกเขาจูบอีกครั้ง เธอส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่เธอก็ตระหนักได้ว่าเสียงที่เธอเปล่งออกมาอาจทำให้คนที่อยู่นอกประตูได้ยินเข้า ดังนั้นเธอจึงรีบกลั้นเสียงนั้นไว้ในลำคอ เธอยื่นมือออกไปขวางไว้ระหว่างหน้าอกของฉินเย่ด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาที่ช่างกล้าจริงๆ เขายังทำอะไรเช่นนี้ได้ในขณะที่เด็กๆกับหลี่มู่ถิงมาตามหาเธอ... เนื่องจากเด็กๆอยู่ข้างนอก เสิ่นหยินอู้จึงไม่กล้าแม้แต่จะดิ้นขัดขืนเพราะกลัวว่าพวกเขาจะไ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 861

    “ก่อนออกเดินทาง เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนถามฉันว่าพวกเขาจะได้เจอคุณเมื่อไร”เสิ่นหยินอู้พิงอยู่ในอ้อมแขนของเขาและพูดเบาๆ "อืม" ฉินเย่ตอบแล้วพูดว่า: "พวกเขาน่ะ ผมว่าจะไม่ไปเจอ" เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของเขาด้วยท่าทางสับสน: "ทำไมล่ะ? คุณมาหาฉันแล้ว แล้วทำไมไม่ไปเจอพวกเขาด้วยเลยล่ะ?" ฉินเย่ก้มหน้าลง มองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง แล้วสัมผัสริมฝีปากสีแดงของเธอเบาๆ "ไว้รอผมกลับไปค่อยเจอ แต่ผมหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น... ในตอนที่เจอกันอีกครั้ง พวกเขาจะเปลี่ยนคำเรียกผม โอเคไหม?” เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่างและไม่ตอบอะไร “ยังไม่ยอมอีกเหรอ?” เขาสัมผัสหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าวและต่ำ “คุณให้ผมจูบมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมอีกล่ะ?” เดิมทีเขารู้สึกหึงหวงเล็กน้อยที่รู้สึกว่าเขายังต้องแข่งกับโม่ไป๋อยู่ แต่หลังจากการจูบครั้งนี้ ความหึงหวงภายในใจของฉินเย่ก็หายไปในทันที เพราะเขาสัมผัสได้ถึงการตอบสนองและความไว้วางใจของเธอ ตอนนี้เพียงแค่ต้องรอให้เขาจัดการเรื่องทางนี้ให้เสร็จ และหลังจากที่กลับไป พวกเขาสี่คนก็สามารถอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 860

    แต่ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะสัมผัสได้ถึงเจตนาของเธอ และก่อนที่เธอจะกรีดร้องออกมา เขาก็เอื้อมมือออกไปปิดปากของเธอไว้ "อื้อ" ดังนั้นเสียงร้องของเสิ่นหยินอู้จึงกลายเป็นเสียงที่อุดอู้ขึ้นมาทันที ภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ มีแต่ความมืดมิด บวกกับหลังจากที่เธอเข้ามา ประตูก็ถูกปิดลง เธอมองเห็นเพียงร่างสูงร่างหนึ่งตรงหน้าเธอผ่านแสงสลัวๆที่ส่องมาจากด้านนอกหน้าต่าง เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่มือและเท้าของเธอถูกพันธนาการเอาไว้ และเธอไม่สามารถขยับได้ จนกระทั่งบุคคลนั้นปล่อยมือของเขาที่ปิดปากของเธอไว้เสิ่นหยินอู้คิดจะใช้โอกาสนี้ในการร้องออกมา แต่คนตรงหน้าเธอก็รวดเร็วกว่า เขาโน้มตัวลงมาและจูบเธอ ลมหายใจอุ่นๆที่หนักหน่วงกระทบเข้ากับใบหน้าของเสิ่นหยินอู้ และในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็รับรู้ได้ถึงออร่าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนในขณะนี้ นี่มัน…… ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในหัวใจของเธอ และก่อนที่เธอจะทันได้ตอบสนองอะไรอื่น เธอก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายดันฟันของเธอให้แยกจากกัน ทำให้จูบนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะที่พวกเขานัวเนียกัน ลมหายใจของพวกเขาล้วนมีแต่กลิ่นของทั้งคู่ เสิ่นหยินอู้ยังได้กลิ่นบุหรี่ที

DMCA.com Protection Status