แชร์

บทที่ 303

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
บรรยากาศอันน่าหลงใหลพลันหายไป

ผ่านไปนานฉินเย่ถึงจะหันหน้ากลับไปมองเธอ

หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเขานึกอะไรออก ในดวงตาสีดำนั้นแฝงด้วยความหืนกาม เขาใช้มือจับคางของเธอไว้อีกครั้ง แล้วสัมผัสที่ริมฝีปากบวมแดงของเธอเบาๆ จากนั้นกล่าวว่า “แต่งงานปลอมๆ ก็จริง แต่เรื่องที่ฉันนอนกับเธอล่ะ ปลอมด้วยเหรอ?”

เสิ่นหยินอู้ไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง

“นายว่าอะไรนะ?”

“ไม่ใช่เหรอ?” ฉินเย่เลื่อนมือลงผ่านลำคอของเธอ แล้วหยุดอยู่ที่กระดูกไหปลาร้าอันงดงามของเธอ

ลูกกระเดือกของเขาเคลื่อนไหว ดูประโยคสารเลวออกมาด้วยน้ำเสียงมึดครึ้ม

“ตอนแรกตอนที่เธอขอให้ฉันนอนกับเธอ ไม่ได้เป็นแบบนี้นี่”

เสิ่นหยินอู้หรี่ตาลง

หลังจากนั้น เธอก็ง้างมือตบหน้าเขาอีกทีหนึ่ง

ใบหน้าอันหล่อเหลาของฉินเย่ถูกตบจนหันหน้าไปอีกทางหนึ่งอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ตบแล้วตบอีก เสิ่นนั่วนั่ว เธอคิดว่าฉันไม่กล้าลงมือกับเธอจริงๆ ใช่ไหม?”

กล่าวจบ เสิ่นหยินอู้ก็ตบเขาอีกครั้งหนึ่ง

เพี๊ยะ!

ฉินเย่หน้าบึ้งในบัดดล

แต่เมื่อเห็นเสิ่นหยินอู้ที่ตาแดง จ้องเขาด้วยความโกรธอยู่ข้างล่างแล้ว เขาก็ไม่อาจลงมือกับเธอเลยจริงๆ

ฉินเย่นึกอะไรออกพลันเบะปาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 304

    เขาถูกต่อย แถมยังอาจแตกหักกับเพื่อนของตัวเองเพราะเรื่องของเธอด้วย แต่ตอนนี้เขากลับมาขอโทษตน เสิ่นหยินอู้รู้สึกผิดมากถึงมากที่สุด“ไม่ได้ล้มไม่เป็นท่าหรอก” เธอเอ่ยเสียงชัดเจน “ฉันไม่เป็นไร คนที่ต้องขอโทษคือฉันต่างหากที่ทำให้นายต้องพลอยถูกต่อยไปด้วย”ได้ยินดังนั้น โม่ไป๋ก็หัวเราะออกมาเบาๆ“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ผู้ชายน่ะถูกต่อยหน่อยก็เป็นเรื่องปกติ”“แต่ว่าต่อไปนายกับเขา…”“วางใจเถอะ ยังไงก็เป็นเพื่อนกัน อย่างมากก็แค่ไม่คุยกับฉันสักช่วงหนึ่ง ถึงแม้จะไม่สนใจฉัน ถึงตอนนั้นฉันก็จะไปขอโทษอยู่ดี”เมื่อได้ยินแบบนั้น เสิ่นหยินอู้ก็วางใจสักที“ถ้างั้นก็ดี”“แล้วทุกอย่างราบรื่นดีไหม?”เสิ่นหยินอู้พยักหน้า จากนั้นก็คิดได้ว่าคุยโทรศัพท์อยู่ เธอพยักหน้าโม่ไป๋ก็ไม่เห็น จึงเปลี่ยนเป็นคำพูด“อืม ชั่วคราวน่ะ”“เป็นยังไง?”เสิ่นหยินอู้อารมณ์ไม่ดีมาก คำขอโทษก่อนหน้านี้เป็นขีดจำกัดของเธอ ดังนั้นตอนนี้เธอจึงไม่อยากตอบคำถามใดๆ ทั้งนั้น หากไม่ใช่เพราะโม่ไป๋เคยช่วยเธอไว้ เธอคงวางสายไปตั้งนานแล้วแต่ว่าครั้งนี้เธอต้องพยายามทำให้อารมณ์ของเธอสมดุลแล้วเอ่ยว่า “โม่ไป๋ ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ น่ะ ได

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 305

    ระหว่างทางไปสำนักกิจการพลเรือน ทั้งสองเงียบมากอุณหภูมิภายในรถต่ำมาก ฉินเย่ไม่เปิดแอร์ด้วยซ้ำอาจจะลืมเพราะความโกรธเสิ่นหยินอู้เพราะรีบออกจากบ้าน จึงสวมแค่เสื้อคลุมตัวเดียวก็ออกมาแล้วตอนแรกยังไม่รู้สึกอะไร แต่พอนั่งนานเข้า เสิ่นหยินอู้ก็ยิ่งรู้สึกหนาวจนตัวสั่นไปทีหนึ่ง แล้วสวมเสื้อคลุมให้แน่นกว่าเดิมฉินเย่ที่ขับรถอยู่ไม่รู้คิดอะไรจึงเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงตลอดเวลาเห็นเธอขยับเสื้อคลุมจากหางตา ก็ไม่พูดอะไร เพียงแค่เปิดแอร์ด้วยสีหน้าเย็นชาไม่นาน อุณหภูมิในรถก็เพิ่มขึ้นเสิ่นหยินอู้อดไม่ได้หันไปมองฉินเย่สันกรามเรียมชัดของเขางดงามราวกับภาพวาด รูปลักษณ์หน้าตาที่ดูดีของเขา แม้จะมองจะด้านข้างก็ยังดูดีไร้ที่ติข้อเสียอย่างเดียวคือหน้าบึ้งตึงตลอดเวลารู้จักกันมานานหลายปี เสิ่นหยินอู้มองออกว่าฉินเย่กำลังโกรธอยู่ และโกรธมากด้วยแต่ทั้งๆ ที่เขาโกรธขนาดนี้…ก็ยังรับรู้ได้จากท่าทีเล็กๆ น้อยๆ ของเธอ แล้วเปิดแอร์ให้กับเธอเสิ่นหยินอู้ละสายตา แล้วก้มหน้าก้มตาจู่ๆ ก็รู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออกเมื่อมาถึงสำนักกิจการพลเรือน ยังคงต้องต่อแถวเหมือนคราวก่อนที่มาเมื่อถึงคิวแล้ว เสิ่นหยินอู้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 306

    ที่โชคร้ายคือเธอพูดถูกเสิ่นหยินอู้เองก็ไม่รู้ว่าตนคิดยังไง ตอนที่เธอได้ยินผู้หญิงคนนี้ด่าฉินเย่นั้น ในใจกลับรู้สึก…สะใจดีเหมือนกันแต่พอย้อนกลับมาคิด เขาไม่เหมือนกับผู้ชายคนอื่น เขาบอกกับตนแต่แรกแล้วว่าเป็นการแต่งงานปลอมๆ เป็นเธอเองที่แอบชอบคนอื่นเขาจะโทษว่าเขาเพอร์เฟคเกินไปไม่ได้หรอกมั้ง?เฮ้อ จะให้เธอด่านั้นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ทำได้เพียงฟังคนอื่นด่าแล้วกัน“เฮ้อ ฉันว่านะ ผู้ชายอย่างพวกคุณน่ะมันสารเลว ถ้ามันไม่หอมหวานแล้วจะแต่งเข้าบ้านทำไม? ทำเอาต้องมาหย่ากัน ตลกจริงๆ”ผู้หญิงนั่นทำเหมือนฉินเย่เป็นศัตรูคู่แค้น ประชดประชันและด่าอย่างเต็มที่ทีแรกฉินเย่ยังทำหน้าไม่สบอารมณ์ และไม่สนใจหล่อนแต่ผู้หญิงคนนี้ปากแจ่วมากจริงๆ ทำให้เขาต้องขมวดคิ้ว แล้วกวาดมองไปที่หล่อนเมื่อหญิงสาวถูกเขามองเช่นนั้น ก็ตกใจจนพูดไม่ออก ถึงขนาดกลืนน้ำลายลงอย่างไม่รู้ตัวเกิดอะไรขึ้น?ผู้ชายคนนี้ออร่าแข็งแกร่งไม่พอ แต่สายตายังดุร้ายขนาดนี้ด้วย…ชั่ววินาทีนั้นราวกับจะคร่าชีวิตเธอไปอย่างไรอย่างนั้นเสิ่นหยินอู้เองก็เห็นสายตาของฉินเย่เช่นกันอย่าว่าเลย เธอที่มองอยู่ข้างๆ ยังรู้สึกกลัวเลยถึงตระหนักได้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 307

    อาจเป็นเพราะไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้พนักงานจึงมองที่เสิ่นหยินอู้สลับมองฉินเย่ จากนั้นถามอย่างระมัดระวังว่า “แล้วคุณผู้ชายล่ะคะ?”ตอนที่ถาม เธอเห็นว่าในตาของผู้ชายแอบคาดหวังเล็กน้อยแต่ว่าครั้งนี้ชายหนุ่มกลับไม่ขยับเปลือกตา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ตามที่เธอว่าเลยครับ”จบกัน ดูท่าแล้วจะห้ามไม่อยู่แล้วเธอไม่พูดพล่ำอีก เพียงแค่ทำเอกสารหย่าร้างให้ทั้งสองเงียบๆปึงปัง!หลังจากประทับตรา หนังสือหย่าร้างสองเล่มก็ถูกยื่นมาตรงหน้าพวกเขาเสิ่นหยินอู้และฉินเย่ยืนอยู่ตรงนั้น ต่างก็มองหนังสือหย่าร้างนิ่งๆ อยู่พักหนึ่ง จากนั้นต่างคนต่างหยิบของตนจากนั้น ก็ออกจากสำนักกิจการพลเรือนไปทันทีที่ออกจากสำนักกิจการพลเรือน เสิ่นหยินอู้ก็สัมผัสได้ถึงสายลมเย็นที่พัดมา ทำให้ผมเพ้าของเธอปลิวไหวกระทบใบหน้าราวกับคมมีดเธอถือหนังสือหย่าร้างไว้ในมือ จากนั้นยื่นมืออีกข้างหนึ่งให้กับฉินเย่ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“ขอบคุณสำหรับการดูแลตลอดเวลาที่ผ่านมานะ”“เธอเป็นอิสระแล้ว”ฉินเย่ไม่ได้จับมือกับเธอ และไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำ เพียงแค่ทิ้งคำพูดไว้แล้วเดินจากไปทิ้งเสิ่นหยินอู้ไว้ที่เดิมต

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 308

    หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เสื้อคลุมตัวใหญ่ตัวหนึ่งก็คลุมบนร่างเธอ แล้วตามด้วยเสียงทอดถอนใจเล็กน้อย“ร้องไห้ขนาดนี้ ชอบเขาขนาดนั้นเลยเหรอ?”นี่มัน…เสียงของโม่ไป๋เสิ่นหยินอู้เงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยน้ำตา แล้วเอ่ยสะอึกสะอื้นว่า “ฉันคิดว่า เป็นคนแปลกหน้าซะอีก”ได้ยินแบบนั้น โม่ไป๋ก็หัวเราะเบาๆ “คนแปลกหน้าไม่ใจดีขนาดคลุมเสื้อผ้าให้เธอหรอก”กล่าวจบ โม่ไป๋ก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า แล้วเช็ดน้ำตาให้กับเธออย่างอ่อนโยนหลังจากที่เช็ดน้ำตาแล้ว ทุกอย่างตรงหน้าก็ชัดเจนขึ้น เสิ่นหยินอู้มองเห็นใบหน้าของโม่ไป๋ได้อย่างชัดเจน ในตาของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง บริเวณมุมปากและใต้คางมีแผลช้ำอยู่เล็กน้อย เป็นร่องรอยจากการถูกฉินเย่ต่อยไม่นานมาก เบื้องตาของเธอก็พร่ามัวอีกครั้งน้ำตาที่เพิ่งเช็ดไปพลันไหลออกมาอีกครั้งตอนอยู่คนเดียวยังไม่เป็นไร แต่ตอนนี้มีโม่ไป๋อยู่ข้างหน้าเธอ ทำให้เสิ่นหยินอู้มักรู้สึกผิดเธอพลางร้องไห้พลางพูดกับโม่ไป๋ว่า “ขอโทษนะ เหมือนว่าฉัน…จะควบคุมตัวเองไม่ได้”แววตาของโม่ไป๋แปลกไป จากนั้นเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยนต่อน่าเสียดายที่น้ำตาของเธอแห้งแล้วก็กลับมาไหลต่อ ไม่นานผ้าเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 309

    รถจอดริมถนนหน้าสำนักงานกิจการพลเรือน โม่ไป๋มองเธอเงียบๆ อยู่นาน ตอนที่กำลังจะขับรถออกไป โทรศัพท์มือถือในอ้อมอกของเสิ่นหยินอู้ก็ดังขึ้นแต่เสิ่นหยินอู้ที่หลับลึกไม่ได้ยินเสียงเลยโม่ไป๋ไม่มีทางเลือกนอกจากหยิบโทรศัพท์ไปรับสาย“หยินอู้ ฉันมาถึงประตูสำนักงานกิจการพลเรือนแล้ว แต่ฉันไม่เห็นเธอเลย เธออยู่ไหนน่ะ?”เสียงของหญิงสาวที่ใสกังวานดังมาจากปลายสายโทรศัพท์หลังจากได้ยินดังนั้น โม่ไป๋ก็มองไปที่ประตูสำนักงานกิจการพลเรือนแล้วก็เห็นหญิงสาวสวมแจ็กเก็ตดาวน์สีดำสะพายเป้ใบเล็กยืนอยู่หน้าประตูสำนักงานกิจการพลเรือนมองหาเสิ่นหยินอู้ไปรอบๆ โม่ไป๋จำเธอได้เธอคือโจวชวงชวง เพื่อนรักของเสิ่นหยินอู้เมื่อจำอีกฝ่ายได้แล้ว โม่ไป๋ ก็ลดเสียงลงแล้วพูดว่า "สวัสดี ผมโม่ไป๋"หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูสำนักงานกิจการพลเรือนมองไปรอบๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เธอก็หยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดทันทีและถามด้วยความระมัดระวัง: “โม่ไป๋? ใครน่ะ? หยินอู้ล่ะ?”โม่ไป๋ไม่พูดจนครึ่งค่อนวัน แม้แต่ตนก็ลืมแล้ว?“เธอจำฉันไม่ได้แล้วเหรอ คนที่อยู่กับหยินอู้บ่อยๆ ตอนเด็กไงล่ะ”หลังจากได้ยินเรื่องนี้ โจวชวงชวงถึงจะตั้งใจนึก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 310

    แต่ว่า เมื่อกี้ตอนคุยโทรศัพท์ เสิ่นหยินอู้ร้องไห้จนหายใจไม่ออก ทำให้โจวซวงซวงตัดสินใจไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะหลับไป ถ้าหากตนปลุกเธอขึ้นมาตอนนี้ เธอจะร้องไห้อีกไหม?หลังจากคิดแบบนี้ โจวชวงชวงก็ตกอยู่ในความสับสนเวลานี้เอง เธอก็ได้ยินโม่ไป๋พูดว่า "ขึ้นรถเถอะ"หลังจากได้ยินดังนั้น โจวชวงชวงก็หยุดชะงักแล้วหันไปมองเขาโม่ไป๋ยิ้มเล็กน้อย “พวกเธอจะไปไหน ฉันจะไปส่งเอง รวดให้เธอได้นอนสักพัก”เมื่อได้ยินดังนี้ ยังจะมีอะไรโจวชวงชวงไม่เข้าใจอีกล่ะ?"ขอบคุณนะ"เธอรีบวางโทรศัพท์แล้วขึ้นไปนั่งในรถเสิ่นหยินอู้นอนอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ ดังนั้น โจวชวงชวงจึงทำได้แต่เฝ้าดูเธอจากเบาะหลังเท่านั้นหลังจากโม่ไป๋ขึ้นรถแล้วรถก็ออกตัวไปอย่างรวดเร็วจากหน้าสำนักงานกิจการพลเรือนหลังจากขับรถไปได้สักพักก็มั่นใจว่าเสิ่นหยินอู้คงไม่ตื่นเร็วขนาดนี้ โม่ไป๋จึงถามเบาๆ “พวกเธอจะไปไหนเหรอ?”โจวชวงชวงที่นั่งอยู่บนเบาะหลังพูดทันที: "พาเธอไปที่บ้านของฉันแล้วกัน"ในเวลานี้ ทางเลือกเดียวคือไปที่บ้านของเธออย่างไรเสีย เธอก็เพิ่งหย่ากับฉินเย่ คงไม่ควรส่งเธอกลับบ้านไปใช่ไหมล่ะ?ไม่นาน โจวชวงชวงก็บอกที่อยู่หนึ่งให้โม่ไป๋

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 311

    ในยามค่ำคืนที่มืดสลัว เสิ่นหยินอู้ค่อยๆ ตื่นขึ้นมา
เธอหลับไปนานมาก
เมื่อตื่นขึ้นมาและมองไปรอบๆ ในความมืด รู้สึกคุ้นเคยกับบรรยากาศรอบๆ เธอมองอยู่นาน เมื่อรู้ว่าที่นี่คือที่ไหนเธอก็รู้สึกอบอุ่นขึ้น
บ้านของโจวชวงชวงขณะที่กำลังคิดอยู่ เสียงจากข้างนอกก็ดังขึ้น โจวชวงชวงเปิดประตูห้องเข้ามา เห็นในห้องยังเงียบอยู่ จึงพึมพำกับตัวเองว่า "นอนนานอะไรขนาดนั้น ทำไมยังไม่ตื่นอีก? ไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ยนะ?"
ทันทีที่พูดจบ โจวชวงชวงก็ได้ยินเสียงเสิ่นหยินอู้เรียก"ชวงชวง"
เมื่อได้ยิน โจวชวงชวงก็ยิ้มด้วยความดีใจและรีบวิ่งมาหาเธอ"คุณพระ เธอตื่นสักทีนะ"
ระหว่างพูด โจวชวงชวงก็เปิดโคมไฟที่หัวเตียงไปด้วย
ก่อนหน้านี้มีแต่แสงจากข้างนอกที่ส่องเข้ามาทำให้เห็นภายในห้อง พอเปิดโคมไฟ แสงที่สว่างขึ้นทำให้เสิ่นหยินอู้ต้องหรี่ตาเพราะรู้สึกปรับตัวไม่ได้
หลังจากปรับตัวอยู่สักพัก เธอถึงได้สติขึ้นมา
"อื้ม""งั้นก็ดีแล้ว หิวมั้ย? ฉันทำบะหมี่ไว้"
ไม่พูดก็ยังไม่รู้สึก แต่พอพูดขึ้นมา เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังท้องว่าง แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยอยากกินอะไร แต่เจ้าตัวน้อยในท้องของเธอคงหิวแล้วเธอจึงพยั

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status