Share

บทที่ 297

Author: ลั่วหูโยว
last update Last Updated: 2024-07-28 17:00:00
ออกจากบริษัทฉิน เสิ่นหยินอู้เพิ่งมาถึงข้างล่างตึก ก็ได้รับสายจากโม่ไป๋

“ทำไมวันนี้ถึงแวะมาที่บริษัทล่ะ?”

คำพูดนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ชะงัก “นายรู้ได้ยังไง…”

พูดไปครึ่งประโยค เสิ่นหยินอู้ก็เหมือนนึกบางอย่างขึ้นได้ แล้วมองไปทางที่จอดรถก่อนหน้านี้

เป็นไปตามคาด เธอเห็นรถคันคุ้นตาหนึ่งจอดอยู่ตรงนั้น

“นายมาที่นี่ได้ยังไง?”

“บังเอิญน่ะ” โม่ไป๋ที่อยู่ปลายสายหัวเราะออกมา “สัญญาที่คุยกันคราวก่อนน่ะ แวะมาจัดการให้เสร็จ”

เมื่อพูดถึงคราวก่อน เสิ่นหยินอู้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ

อีกอย่างแม้ว่าโม่ไป๋จะไม่พูดถึงคราวก่อน เธอก็ไม่มีอะไรต้องสงสัยเช่นกัน เพราะช่วงนี้เธอไม่ได้เข้าบริษัทเลย โม่ไป๋ไม่มีทางมารอเธอที่นี่แน่

คงไม่ได้มาทุกวันหรอกมั้ง?

ไหนๆ ก็พบกันแล้ว เสิ่นหยินอู้จึงก้าวเท้าเตรียมจะเดินไปหา

แต่ใครจะคิดว่าเธอเพิ่งก้าวเท้าออกไป ก้ได้ยินโม่ไป๋พูดขึ้นว่า “เธออย่าขยับ เดี๋ยวฉันให้คนขับรถขับไปตรงนั้น”

“ไม่ต้อง แค่ไม่กี่ก้าวเอง เดินไปก็ได้”

ไม่คิดว่าโม่ไป๋จะตอบว่า “เธออยากหย่าไม่ใช่เหรอ?”

ได้ยินดังนั้น เสิ่นหยินอู้พลันหยุดฝีเท้า “เกี่ยวอะไรกันด้วย?”

“เกี่ยวสิ”

เสิ่นหยินอู้ “…”

คิดไม่ตกจริงๆ ว่าโม
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 298

    หลังจากที่โม่ไป๋ได้ยินสิ่งที่เธอพูด ก็อดไม่ได้หัวเราะออกมา “เธอไม่เกรงใจจริงๆ ด้วย”“แหง่สิ ตอนนี้ฉันกินเก่งมาก กลับคำตอนนี้ยังทันนะ”โม่ไป๋คิดๆ แล้วกล่าวว่า “จ่ายไหวน่ะ”จริงๆ เขาอยากพูดว่า เลี้ยงไหวน่ะ แต่ทว่าพูดแบบนี้ในเวลานี้ดูจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ และอาจทำให้เธอตกใจวิ่งหนีไปก็ได้มั้ง?ต้องค่อยเป็นค่อยไประหว่างทางไปร้านอาหาร โม่ไป๋ถามเธอเรื่องฉินเย่หลังจากที่ได้ทราบว่าตอนนี้ฉินเย่กำลังหลบหน้าเธอ ไม่ยอมหย่า ดวงตาที่อยู่ข้างหลังแว่นตาของโม่ไป๋พลันตกตะลึงเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นาน ก็กลับมาเป็นปกติ แล้วยกมุมปากขึ้นวิธีการของฉินเย่อยู่เหนือความคาดหมายของตนจริงๆเขาหันไปมองเสิ่นหยินอู้ที่นั่งอยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง แล้วถามเบาๆ ว่า “ถ้างั้นตอนนี้เธอคิดยังไง?”“อะไร?”“ถ้าเขายังยืนยันว่าจะไม่หย่า เธอจะเป็นคุณผู้หญิงฉินต่อไปไหม?”เป็นคุณผู้หญิงฉินต่อไป?ไม่อยู่แล้วเสิ่นหยินอู้ตอบในใจ เธอไม่ได้ชั่วขนาดนั้นสักหน่อย ไม่ว่าตอนนี้ฉินเย่จะคิดยังไงถึงได้ไม่อยากหย่ากับเธอกะทันหันแต่ตราบใดที่เจียงฉูฉู่ยังเป็นผู้มีพระคุณของเขาอยู่หนึ่งวัน เขาก็จะไม่มีทางตัดขาดกับเจียงฉูฉู่แน่นอนในเรื่อ

    Last Updated : 2024-07-28
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 299

    “เป็นไปไม่ได้หรอก”ถ้าหากเขารู้แล้วมา เสิ่นหยินอู้อาจจะเชื่อแต่ถ้าจะบอกว่าเขารีบมาล่ะก็ เสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าโอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นนั้นมีน้อยมาก“ดูท่าแล้วความคิดของเราจะต่างกัน ถ้างั้นก็ตามนี้ ถ้าเขามา ฉันช่วยเธอ”พูดมาขนาดนี้แล้ว เสิ่นหยินอู้ก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีก ทำได้เพียงถามว่า “แล้วนายจะช่วยฉันยังไง?”โม่ไป๋ยิ้ม แต่ไม่พูดเสิ่นหยินอู้ “…”ทำตัวลึกลับทำไมร้านอาหารที่พวกเขาจองไว้ไกลพอสมควร ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะมาถึง ตอนลงรถ โม่ไป๋ยังคงเปิดประตูให้เธอเหมือนเดิมเสิ่นหยินอู้กล่าว “ไม่ต้องแล้วมั้ง ฉันเปิดเองได้น่ะ”“แสดงละคร ต้องแสดงให้สมจริง”“…”เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงลงรถตามเขา แล้วเดินเข้าไปในร้านอาหารก่อนมา โม่ไป๋ได้จองที่นั่งไว้ก่อนแล้ว ที่นั่งอยู่ที่ชั้นสอง เป็นที่นั่งเดี่ยวที่เข้าใกล้บานหน้าต่างใสตั้งแต่นั่งลง จนกระทั่งสั่งอาหารเสร็จ ใช้เวลาไปทั้งหมดประมาณแปดนาทีเสิ่นหยินอู้ยังคงคิดถึงคำพูดของโม่ไป๋ ดังนั้นจิตใจก็เลยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเธออยากหันกลับไปหลายครั้ง ดูว่าฉินเย่จะมาเหมือนที่โม่ไป๋พูดไหม แต่ทุกครั้งที่เธอคิดจะหันกลับไป ก็จะบังคับ

    Last Updated : 2024-07-28
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 300

    เมื่อคิดเช่นนี้ เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ปฏิเสธอีกต่อไป เธอผ่อนคลายลงราวกับยอมจำนนโม่ไป๋เองก็สัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายของเธอไม่สิ จะบอกว่าเธอผ่อนคลาย สู้บอกว่าเธอเหมือนท่อนไม้ที่ลอยอยู่บนคลื่นทะเลอยู่เนิ่นนานดีกว่า เธอที่ฝ่าลมฝนอันหนักหน่วงมา ไม่อยากต่อต้านใดๆ อีกแล้ว เพียงแค่อยากปล่อยตัวปล่อยใจ ปล่อยไปตามยถากรรมเมื่อเห็นเธอแบบนี้แล้ว โม่ไป๋ทั้งหมดหนทางและเจ็บปวดใจถึงแม้จะเป็นท่อนไม้ แต่ก็ต้องการให้คนตักและดูแลอย่างระมัดระวังเหมือนกันระหว่างนั้น มือของโม่ไป๋ที่กอดเธอไว้ค่อยๆ บีบแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัวจากนั้น เขาเงยหน้าขึ้น ยกมุมปากมองไปที่ฉินเย่ที่อยู่ข้างนอก กำลังก้าวเท้าเดินเข้ามาด้วยสีหน้าบูดบึ้งรอยยิ้มนั้น แฝงด้วยชัยชนะอยู่เล็กน้อยรู้จักกันมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่โม่ไป๋ใช้รอยยิ้มแบบนี้กับฉินเย่ตุบ!ฉินเย่ก้าวเท้าเดินเข้ามา แล้วต่อยเข้าที่คางของโม่ไป๋ราวกับหมัดเหล็กพร้อมกระชากเสิ่นหยินอู้ให้มาอยู่ข้างหลังตนทว่าหมัดเดียวไม่เพียงพอที่จะระบายความโกรธในใจของเขาได้หลังจากที่เขากระชากเสิ่นหยินอู้มาข้างหลังแล้ว ก็กระชากคอเสื้อของโม่ไป๋พร้อมต่อยลงไปอีกหมัด เส้นเลือดบนหน้าผาก

    Last Updated : 2024-07-28
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 301

    ฉินเย่หรี่ตาลงอย่างอันตราย“เธอไม่อยากอยู่กับฉันแล้ว นายมีสิทธิ์มาพูดตั้งแต่เมื่อไหร่?”“ก็จริง” โม่ไป๋หัวเราะ ไม่โกรธ เพียงแค่มองไปที่เสิ่นหยินอู้ “ถ้างั้นก็ให้นั่วนั่วบอกนายเองดีไหม?”นั่วนั่วนี่เป็นชื่อเล่นของเสิ่นหยินอู้ฉินเย่มองเธอด้วยสายตาดุดันหรือว่าคนที่เธอเลือกคือโม่ไป๋? ดังนั้นถึงได้ยอมให้เขาเรียกชื่อเล่นของเธอ?เสิ่นหยินอู้ชะงักเธอรู้ว่าโม่ไป๋กำลังช่วยตนอยู่ อยากให้เธอหลุดพ้นจากฉินเย่ด้วยตัวเอง และจะได้หย่ากับฉินเย่อย่างราบรื่นด้วยเธอมองฉินเย่ตรงหน้า แล้วเม้มริมฝีปากแดงเธอควรคว้าโอกาสนี้เอาไว้จริงๆเมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ขยับปากกำลังจะปริปากพูดแต่ทันใดนั้นเอง ฉินเย่ก็กัดฟันมองเธอ “เสิ่นหยินอู้ คิดให้ดีล่ะว่าเธอจะพูดอะไร”ถูกเขาขัดเช่นนี้ ทำให้เสิ่นหยินอู้ชะงักงันโม่ไป๋เลิกคิ้วอยู๋ข้างๆ ยังคงกล่าวอย่างสบายๆ “เย่ ฉันควรเตือนนายหน่อยไหมว่าพวกนายแค่แต่งงานกันปลอมๆ แค่นั้น นายทำแบบนี้เท่ากับขู่เธอ ทำให้เธอกลัวอยู่”กล่าวจบ โม่ไป๋ยังคงมองเสิ่นหยินอู้ยิ้มๆ “นั่วนั่ว”เสิ่นหยินอู้รู้ดีว่าที่เขาเรียกชื่อตนนั้น เพราะต้องการจะบอกให้ตนรีบตัดสินใจ ไม่อย่างน

    Last Updated : 2024-07-29
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 302

    ก็แค่ตัวเองต้องการหย่าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทำให้โม่ไป๋ต้องมาถูกต่อยตลอดแบบนี้สองหมัดเมื่อกี้นี้ เขาก็รับไปฟรีๆ แล้วทันใดนั้น ฉินเย่กวาดมองที่ใบหน้าของโม่ไป๋ แล้วหยุดอยู่ที่ข้อมือของเขา“ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ปล่อยมือ”เสิ่นหยินอู้ได้ยินดังนั้นก็รีบมองไปที่โม่ไป๋ แล้วอธิบาย “เรื่องนี้ ฉันจัดการเอง”ได้ยินดังนั้น โม่ไป๋ก็มองที่เธอนิ่งๆ อยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มออกมา“โอเค ฉันจะรอ”กล่าวจบ โม่ไป๋ก็ปล่อยมือเขาเพิ่งจะปล่อยมือออกหลวมๆ ฉินเย่ก็ลากคนออกไปแล้วหลังจากที่พวกเขาออกไป ผู้ช่วยของโม่ไป๋ถึงจะเดินเข้ามา แล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับโม่ไป๋“คุณชายโม่ ไม่เป็นอะไรนะครับ?”โม่ไป๋รับผ้าเช็ดหน้ามา แล้วเช็ดมุมปากของตนนิ่งๆ ในตาเต็มไปด้วยความเย็นชาจุดที่ถูกฉินเย่ต่อย ทั้งๆ ที่เป็นแผลแต่เขากลับเช็ดหนักๆ เหมือนไม่รู้สึกเจ็บราวกับว่าตนเป็นร่างศพที่ไร้ความรู้สึกอย่างไรอย่างนั้น ผู้ช่วยมองเขาอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปหลายส่วนอีกแล้วท่าทีของคุณชายโม่แบบนี้…เขาไม่กล้าพูดอะไรต่อ ทำได้เพียงยืนเฝ้าอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆผ่านไปพักหนึ่ง โม่ไป๋ก็โยนผ้าเช็ดหน้าลงถังขยะ แ

    Last Updated : 2024-07-29
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 303

    บรรยากาศอันน่าหลงใหลพลันหายไปผ่านไปนานฉินเย่ถึงจะหันหน้ากลับไปมองเธอหลังจากนั้นไม่รู้ว่าเขานึกอะไรออก ในดวงตาสีดำนั้นแฝงด้วยความหืนกาม เขาใช้มือจับคางของเธอไว้อีกครั้ง แล้วสัมผัสที่ริมฝีปากบวมแดงของเธอเบาๆ จากนั้นกล่าวว่า “แต่งงานปลอมๆ ก็จริง แต่เรื่องที่ฉันนอนกับเธอล่ะ ปลอมด้วยเหรอ?”เสิ่นหยินอู้ไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง“นายว่าอะไรนะ?”“ไม่ใช่เหรอ?” ฉินเย่เลื่อนมือลงผ่านลำคอของเธอ แล้วหยุดอยู่ที่กระดูกไหปลาร้าอันงดงามของเธอลูกกระเดือกของเขาเคลื่อนไหว ดูประโยคสารเลวออกมาด้วยน้ำเสียงมึดครึ้ม“ตอนแรกตอนที่เธอขอให้ฉันนอนกับเธอ ไม่ได้เป็นแบบนี้นี่”เสิ่นหยินอู้หรี่ตาลงหลังจากนั้น เธอก็ง้างมือตบหน้าเขาอีกทีหนึ่งใบหน้าอันหล่อเหลาของฉินเย่ถูกตบจนหันหน้าไปอีกทางหนึ่งอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ตบแล้วตบอีก เสิ่นนั่วนั่ว เธอคิดว่าฉันไม่กล้าลงมือกับเธอจริงๆ ใช่ไหม?”กล่าวจบ เสิ่นหยินอู้ก็ตบเขาอีกครั้งหนึ่งเพี๊ยะ!ฉินเย่หน้าบึ้งในบัดดลแต่เมื่อเห็นเสิ่นหยินอู้ที่ตาแดง จ้องเขาด้วยความโกรธอยู่ข้างล่างแล้ว เขาก็ไม่อาจลงมือกับเธอเลยจริงๆฉินเย่นึกอะไรออกพลันเบะปาก

    Last Updated : 2024-07-29
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 304

    เขาถูกต่อย แถมยังอาจแตกหักกับเพื่อนของตัวเองเพราะเรื่องของเธอด้วย แต่ตอนนี้เขากลับมาขอโทษตน เสิ่นหยินอู้รู้สึกผิดมากถึงมากที่สุด“ไม่ได้ล้มไม่เป็นท่าหรอก” เธอเอ่ยเสียงชัดเจน “ฉันไม่เป็นไร คนที่ต้องขอโทษคือฉันต่างหากที่ทำให้นายต้องพลอยถูกต่อยไปด้วย”ได้ยินดังนั้น โม่ไป๋ก็หัวเราะออกมาเบาๆ“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ผู้ชายน่ะถูกต่อยหน่อยก็เป็นเรื่องปกติ”“แต่ว่าต่อไปนายกับเขา…”“วางใจเถอะ ยังไงก็เป็นเพื่อนกัน อย่างมากก็แค่ไม่คุยกับฉันสักช่วงหนึ่ง ถึงแม้จะไม่สนใจฉัน ถึงตอนนั้นฉันก็จะไปขอโทษอยู่ดี”เมื่อได้ยินแบบนั้น เสิ่นหยินอู้ก็วางใจสักที“ถ้างั้นก็ดี”“แล้วทุกอย่างราบรื่นดีไหม?”เสิ่นหยินอู้พยักหน้า จากนั้นก็คิดได้ว่าคุยโทรศัพท์อยู่ เธอพยักหน้าโม่ไป๋ก็ไม่เห็น จึงเปลี่ยนเป็นคำพูด“อืม ชั่วคราวน่ะ”“เป็นยังไง?”เสิ่นหยินอู้อารมณ์ไม่ดีมาก คำขอโทษก่อนหน้านี้เป็นขีดจำกัดของเธอ ดังนั้นตอนนี้เธอจึงไม่อยากตอบคำถามใดๆ ทั้งนั้น หากไม่ใช่เพราะโม่ไป๋เคยช่วยเธอไว้ เธอคงวางสายไปตั้งนานแล้วแต่ว่าครั้งนี้เธอต้องพยายามทำให้อารมณ์ของเธอสมดุลแล้วเอ่ยว่า “โม่ไป๋ ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ น่ะ ได

    Last Updated : 2024-07-29
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 305

    ระหว่างทางไปสำนักกิจการพลเรือน ทั้งสองเงียบมากอุณหภูมิภายในรถต่ำมาก ฉินเย่ไม่เปิดแอร์ด้วยซ้ำอาจจะลืมเพราะความโกรธเสิ่นหยินอู้เพราะรีบออกจากบ้าน จึงสวมแค่เสื้อคลุมตัวเดียวก็ออกมาแล้วตอนแรกยังไม่รู้สึกอะไร แต่พอนั่งนานเข้า เสิ่นหยินอู้ก็ยิ่งรู้สึกหนาวจนตัวสั่นไปทีหนึ่ง แล้วสวมเสื้อคลุมให้แน่นกว่าเดิมฉินเย่ที่ขับรถอยู่ไม่รู้คิดอะไรจึงเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงตลอดเวลาเห็นเธอขยับเสื้อคลุมจากหางตา ก็ไม่พูดอะไร เพียงแค่เปิดแอร์ด้วยสีหน้าเย็นชาไม่นาน อุณหภูมิในรถก็เพิ่มขึ้นเสิ่นหยินอู้อดไม่ได้หันไปมองฉินเย่สันกรามเรียมชัดของเขางดงามราวกับภาพวาด รูปลักษณ์หน้าตาที่ดูดีของเขา แม้จะมองจะด้านข้างก็ยังดูดีไร้ที่ติข้อเสียอย่างเดียวคือหน้าบึ้งตึงตลอดเวลารู้จักกันมานานหลายปี เสิ่นหยินอู้มองออกว่าฉินเย่กำลังโกรธอยู่ และโกรธมากด้วยแต่ทั้งๆ ที่เขาโกรธขนาดนี้…ก็ยังรับรู้ได้จากท่าทีเล็กๆ น้อยๆ ของเธอ แล้วเปิดแอร์ให้กับเธอเสิ่นหยินอู้ละสายตา แล้วก้มหน้าก้มตาจู่ๆ ก็รู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออกเมื่อมาถึงสำนักกิจการพลเรือน ยังคงต้องต่อแถวเหมือนคราวก่อนที่มาเมื่อถึงคิวแล้ว เสิ่นหยินอู้

    Last Updated : 2024-07-30

Latest chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 864

    "ดีใจค่ะ" เสิ่นเหมิงเหมิงเอื้อมมือออกไปด้วยความดีใจและคิดจะเข้าไปกอดเธอ แต่นี่เป็นบนเครื่องบิน และทั้งคู่ก็คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกอดหยินอู้ได้เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงยื่นมือออกมาให้เหมิงเหมิงจับมือเธอเพื่อแสดงความดีใจออกมา “หม่ามี๊คะ แล้วลุงเย่มู่รู้หรือเปล่า?”เขารู้หรือเปล่าเหรอ? มุมปากของเสิ่นหยินอู้โค้งขึ้น สีหน้าของเธออ่อนโยนขึ้น เดี๋ยวพอกลับถึงจีนเขาก็คงจะรู้เองแหละ "เดี๋ยวก็รู้แล้วจ๊ะ" “หม่ามี๊คะ แล้วคุณปู่กับย่าเข้ากับคนง่ายไหมคะ? พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่หรอคะ?” “ใช่แล้ว พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่ พวกเขาอ่อนโยนมาก แล้วก็เข้ากับคนง่าย ไม่ต้องห่วง พวกเขาคือ…” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็พูดว่า "พวกเขาคือปู่กับย่าแท้ๆของลูก" หลังจากได้ยิน ดวงตาของเหมิงเหมิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ “ปู่กับย่าเหรอคะ?” "อืม" เสิ่นหยินอู้ลูบหัวของเหมิงเหมิงและมองไปที่เสิ่นซือเหนียน: "เหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิง ลูกเข้าใจสิ่งที่หม่ามี๊พูดไหม? ลุงเย่มู่เป็นพ่อแท้ๆของลูก" เสิ่นซือเหนียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการบอกว่าเขาเข้าใจ อย่าง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 863

    อารมณ์ของเธอในเที่ยวบินขากลับแตกต่างไปจากในตอนขามาอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าดีมากนัก สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกว่าโชคดีก็คือการที่ไม่ว่าจะเป็นขามาหรือขากลับ ลูกๆทั้งสองคนของเธอก็ล้วนอยู่ข้างกายเธอ หลังจากที่หลี่มู่ถิงได้รับข้อความจากฉินเย่ เขาก็เล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กๆสองคนให้คุณพ่อคุณแม่ฉินฟังก่อนขึ้นเครื่องบิน หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ฉินรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ตกใจและเงียบไปนาน ในที่สุดพวกเขาก็พูดว่า "เราจะกลับไปเดี๋ยวนี้ เที่ยวบินของพวกคุณคือเที่ยวไหน เดี๋ยวถึงแล้วเราจะไปรับ" หลังจากที่หลี่มู่ถิงบอกเสิ่นหยินอู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ฉินบอกมา เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เนื่องจากเธอไม่ได้เจอพวกเขามานานแล้ว เมื่อนึกถึงห้าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เธอจากไป เธอจึงไม่รู้ว่าจะทักทายพวกเขาได้อย่างไรเมื่อต้องพบกันอีกครั้ง หลี่มู่ถิงไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาทำได้เพียงคาดเดาจากการดูสีหน้าของเธอเท่านั้น เมื่อเห็นเธอดูไม่ค่อยมีความสุข เขาจึงถามด้วยท่าทีระมัดระวัง: "คุณหนูเสิ่น ประธานฉินบอกผมว่าถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจหรือกังวลอะไร คุณบอกผมได้เสมอ และเรื่องนี้ก็สามารถล้มเลิก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 862

    ขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยกัน พวกเขาก็เดินไปที่ประตู ดังนั้นเสียงของพวกเขาจึงดังลอดผ่านประตูเข้าไปถึงหูของเสิ่นหยินอู้ได้อย่างชัดเจน เสิ่นหยินอู้ชะงักไปชั่วคราว เธอเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่ กดเสียงลงแล้วพูดว่า "ฉันต้องออกไปแล้ว ไม่งั้น..." คำพูดของเธอถูกขัดจากการที่ฉินเย่โน้มตัวเข้าไปหาเธออย่างกะทันหันลมหายใจที่ร้อนรุ่มของฉินเย่กระทบเข้ากับใบหน้าของเธอ ออร่าของเขาปกคลุมเธอเธอไว้ และริมฝีปากบางแนบกดลงไปบนมุมปากของเธอ เสียงของเขาแหบห้าว: "ขอจูบอีกที" ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็จูบเธออีกครั้งในทันทีโดยไม่รอให้ได้ทันเธอโต้ตอบอะไรทั้งนั้น "อื้อ" เสิ่นหยินอู้ยังไม่ทันได้ผลักเขาออกไปก็ถูกเขาจูบอีกครั้ง เธอส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่เธอก็ตระหนักได้ว่าเสียงที่เธอเปล่งออกมาอาจทำให้คนที่อยู่นอกประตูได้ยินเข้า ดังนั้นเธอจึงรีบกลั้นเสียงนั้นไว้ในลำคอ เธอยื่นมือออกไปขวางไว้ระหว่างหน้าอกของฉินเย่ด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาที่ช่างกล้าจริงๆ เขายังทำอะไรเช่นนี้ได้ในขณะที่เด็กๆกับหลี่มู่ถิงมาตามหาเธอ... เนื่องจากเด็กๆอยู่ข้างนอก เสิ่นหยินอู้จึงไม่กล้าแม้แต่จะดิ้นขัดขืนเพราะกลัวว่าพวกเขาจะไ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 861

    “ก่อนออกเดินทาง เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนถามฉันว่าพวกเขาจะได้เจอคุณเมื่อไร”เสิ่นหยินอู้พิงอยู่ในอ้อมแขนของเขาและพูดเบาๆ "อืม" ฉินเย่ตอบแล้วพูดว่า: "พวกเขาน่ะ ผมว่าจะไม่ไปเจอ" เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของเขาด้วยท่าทางสับสน: "ทำไมล่ะ? คุณมาหาฉันแล้ว แล้วทำไมไม่ไปเจอพวกเขาด้วยเลยล่ะ?" ฉินเย่ก้มหน้าลง มองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง แล้วสัมผัสริมฝีปากสีแดงของเธอเบาๆ "ไว้รอผมกลับไปค่อยเจอ แต่ผมหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น... ในตอนที่เจอกันอีกครั้ง พวกเขาจะเปลี่ยนคำเรียกผม โอเคไหม?” เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่างและไม่ตอบอะไร “ยังไม่ยอมอีกเหรอ?” เขาสัมผัสหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าวและต่ำ “คุณให้ผมจูบมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมอีกล่ะ?” เดิมทีเขารู้สึกหึงหวงเล็กน้อยที่รู้สึกว่าเขายังต้องแข่งกับโม่ไป๋อยู่ แต่หลังจากการจูบครั้งนี้ ความหึงหวงภายในใจของฉินเย่ก็หายไปในทันที เพราะเขาสัมผัสได้ถึงการตอบสนองและความไว้วางใจของเธอ ตอนนี้เพียงแค่ต้องรอให้เขาจัดการเรื่องทางนี้ให้เสร็จ และหลังจากที่กลับไป พวกเขาสี่คนก็สามารถอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 860

    แต่ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะสัมผัสได้ถึงเจตนาของเธอ และก่อนที่เธอจะกรีดร้องออกมา เขาก็เอื้อมมือออกไปปิดปากของเธอไว้ "อื้อ" ดังนั้นเสียงร้องของเสิ่นหยินอู้จึงกลายเป็นเสียงที่อุดอู้ขึ้นมาทันที ภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ มีแต่ความมืดมิด บวกกับหลังจากที่เธอเข้ามา ประตูก็ถูกปิดลง เธอมองเห็นเพียงร่างสูงร่างหนึ่งตรงหน้าเธอผ่านแสงสลัวๆที่ส่องมาจากด้านนอกหน้าต่าง เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่มือและเท้าของเธอถูกพันธนาการเอาไว้ และเธอไม่สามารถขยับได้ จนกระทั่งบุคคลนั้นปล่อยมือของเขาที่ปิดปากของเธอไว้เสิ่นหยินอู้คิดจะใช้โอกาสนี้ในการร้องออกมา แต่คนตรงหน้าเธอก็รวดเร็วกว่า เขาโน้มตัวลงมาและจูบเธอ ลมหายใจอุ่นๆที่หนักหน่วงกระทบเข้ากับใบหน้าของเสิ่นหยินอู้ และในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็รับรู้ได้ถึงออร่าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนในขณะนี้ นี่มัน…… ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในหัวใจของเธอ และก่อนที่เธอจะทันได้ตอบสนองอะไรอื่น เธอก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายดันฟันของเธอให้แยกจากกัน ทำให้จูบนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะที่พวกเขานัวเนียกัน ลมหายใจของพวกเขาล้วนมีแต่กลิ่นของทั้งคู่ เสิ่นหยินอู้ยังได้กลิ่นบุหรี่ที

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 859

    ดังนั้นการทานอาหารมื้อนี้ก็เป็นไปตามที่เสิ่นหยินอู้คาดไว้ เมื่อพวกเขากินเกือบเสร็จแล้ว แล้วก็จนอาหารเย็นชืดหมดแล้ว ฉินเย่ก็ยังไม่มาปรากฏให้เห็น ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะต้องเดินทางไปสนามบิน เสิ่นหยินอู้พาเด็กน้อยทั้งสองคนขึ้นไปชั้นบน หลังจากเข้าไปในห้องแล้ว เหมิงเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: "หม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่อยู่ไหนล่ะคะ? เขาจะกลับมาเมื่อไร?" เสิ่นหยินอู้ตอบคำถามของเธอแบบเดียวกันกับที่หลี่มู่ถิงตอบเธอ “หม่ามี๊ก็เหมือนลุงหลี่มู่ถิงจ๊ะ ยังไม่รู้เลย เขาไม่ได้บอกหม่ามี๊ว่าเขาจะไปทำอะไร แน่นอนว่าหม่ามี๊ไม่รู้หรอกว่าเขาจะกลับมาเมื่อไร” หลังจากได้ยิน เหมิงเหมิงก็ร้อง อ่า ออกมาเบาๆ เธอขมวดคิ้วราวกับรู้สึกเป็นไม่สบายใจเพราะเรื่องนี้ “ถ้างั้นหม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่คงจะไม่ได้จะไม่กลับมาแม้แต่ตอนเราไปสนามบินใช่ไหมคะ? แปลว่าวันนี้เราก็จะไม่ได้เจอลุงเย่มู่แล้วหรอคะ?” เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้เด็กๆทั้งสองคนมีความหวังมากเกินไป เสิ่นหยินอู้จึงพูดว่า: "อืม ก็อาจจะเป็นแบบนี้ ลุงเย่มู่มีเรื่องหลายอย่างที่ต้องทำ เดี๋ยวเขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาจะกลับไปหาเราที่จีน” หากพู

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 858

    แม้ว่าในที่สุดเขาก็พบเธอ แต่ใครจะกล้ารับประกันกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นได้? "พอได้แล้ว" เมื่อเห็นเธอกัดริมฝีปากล่างและคิดจะพูดอะไรอื่นอีก ฉินเย่ก็เอามือใหญ่โอบไปที่เอวบางของเธอ "ไม่ต้องคิดแล้ว ในเมื่อผมเลือกที่จะอยู่ นั่นก็หมายความว่าผมมั่นใจ" “แต่... เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรทำตั้งแต่แรกนะ” “นั่วนั่ว” ฉินเย่เรียกชื่อเธอด้วยเสียงแผ่วเบา “การจะทำอะไรสักอย่างน่ะ ไม่มีคำว่าควรหรือไม่ควร มีแต่เต็มหรือไม่เต็มใจเท่านั้นแหละ” “ถ้าคุณรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผมจะอยู่ที่นี่จริงๆ งั้นหลังจากที่ผมกลับไปที่จีนแล้วก็ลองคิดเรื่องที่จะเปลี่ยนสถานะให้ผมดูดีกว่าไหม?” เสิ่นหยินอู้เข้าใจในทันทีว่าเขาหมายถึงเรื่องการเรียกชื่อ เขาต้องการให้เด็กทั้งสองหยุดเรียกเขาว่าลุงเย่มู่และเรียกเขาว่าพ่อแทน หรือจะบอกว่า ที่เขาทำมามากขนาดนั้นก็เพียงเพื่อความปรารถนาเล็กๆน้อยๆเช่นนี้งั้นหรอ? เมื่อเธอคิดได้เช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็นิ่งไป แล้วพูดว่า "คุณจะไม่บอกพวกเขางั้นหรอ?" ริมฝีปากของฉินเย่โค้งขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเธอ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดเบาๆว่า: "ครั้งนี้ ผมจะไม่ไปเจอพวกเข

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 857

    คำพูดทางจิตวิทยาเช่นนี้... ถ้าเขาบอกว่าเขาชอบลุงโม่ไป๋มากกว่า ถึงตอนนั้น... เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นซือเหนียนก็พูดว่า: "ลุงโม่ไป๋อยู่กับพวกเรามานานกว่า" เมื่อได้ยิน ฉินเย่ก็กลั้นหายใจ "ถ้างั้น……" “แต่ลุงเย่มู่มาดูไลฟ์สดของเราบ่อยๆแล้วก็ให้รางวัลเราตลอดเลยด้วย” คำพูดประโยคหลังทำให้หัวใจที่กำลังจมดิ่งลงไปของฉินเย่ลอยกลับขึ้นมาอีกครั้ง เดิมทีเขาคิดว่าตามความคิดของซือเหนียน เขาคงจะหมดโอกาสแล้ว แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าคำพูดของซือเหนียนจะเปลี่ยนไป ซึ่งมันไม่ต่างกับเป็นการทำให้หัวใจของฉินเย่ลุกเป็นไฟ "แล้วไงต่อ?" ฉินเย่ยังคงรู้สึกประหม่ามากในขณะที่เขาถามคำถามนี้ออกมา เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะสนใจความคิดของเด็กคนหนึ่งมากขนาดนี้ เพราะกลัวว่าเด็กคนนี้จะไม่เลือกเขาแต่ไปเลือกคนอื่นแทน "ก็……"เสิ่นซือเหนียนจงใจพูดเสียงยาว เมื่อเห็นว่าการหายใจของฉินเย่ดูเหมือนจะติดๆขัดๆขึ้นมา เขาก็คิดว่ามันค่อนข้างน่าขันเล็กน้อย เขาจงใจเอียงศีรษะแล้วพูดว่า: "ลุงเย่มู่กับลุงโม่ไป๋เสมอกันครับ" เสมอกัน? ฉินเย่ตกตะลึง “เสมอกันงั้นเหรอ?” “ลุงเย่มู่ หรือว่าลุงคิดว่าลุงจะแพ้ลุงโม่ไป๋เหรอครั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 856

    “ซือเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของซือเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เขาถามว่ามีคุณสมบัติมากพอหรือไม่ ไม่ใช่ยินยอมหรือไม่ แม้ว่าเสิ่นซือเหนียนจะยังเด็ก แต่ความรู้ที่เขาได้เรียนมาก็มากมายพอสมควร ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความหมายของคำพูดที่ฉินเย่พูดได้อย่างรวดเร็ว เขาตกตะลึงอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า "เอ่อ...ต้องดูว่าหม่ามี๊จะยอมหรือไม่ยอมครับ" “ลุงเย่มู่หมายความว่า ถ้าไม่เกี่ยวกับหม่ามี๊ เอาแค่ความเห็นของเหนียนเหนียนเองที่เป็นความคิดที่จากใจจริงที่สุด เหนียนเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของเหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เสิ่นซือเหนียน: "..." "ไม่ต้องกลัว" มือใหญ่ของฉินเย่วางลงบนไหล่ของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: "แค่พูดความจริงก็พอ" สิ่งที่ซือเหนียนต้องการจะพูดอาจทำให้ฉินเย่ไม่พอใจจริงๆ แม้ว่าลุงเย่มู่จะทำอะไรให้พวกเขามากมายในช่วงที่ผ่านมานี้ บวกกับที่ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาดูพวกเขาในห้องไลฟ์สดเสมอ ความยิ่งใหญ่ของชื่อ 'ลุงเย่มู่เฉิน' ยังคงทรงพลังมากสำหรับเด็กน้อยสองคน ตัวอย่างเช่น คนแปลกหน้าคนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นพ่อแท้ๆของพวกเขา แต่หากไม่มีฉา

DMCA.com Protection Status