แชร์

บทที่ 222

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-10 17:00:00
หลังจากรออยู่ข้างนอกประมาณสิบนาที รถของคุณพ่อฉินก็มาถึง คนที่ขับรถคือคนขับ และเนื่องจากคุณนายฉินอยู่ในรถ เขาจึงขับอย่างมั่นคงมาก

ทันทีที่ลงจากรถ คุณพ่อฉินก็มองฉินเย่อย่างไม่พอใจ และพูดอย่างเย็นเยียบ "ขับอะไรเร็วขนาดนั้น? นี่แกลืมไปแล้วหรอว่าเสิ่นหยินอู้ก็อยู่ในรถของแก"

หลังจากดุลูกชายของตัวเองเสร็จ คุณพ่อฉินก็เป็นห่วงเสิ่นหยินอู้

คุณแม่ฉินเข็นคุณนายฉินไปอย่างช้าๆ ในช่วงเวลานี้ เธอเหลือบมองลูกชายของเธออย่างไม่สนใจใยดี เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเขาบูดบึ้ง เธอจึงสบถอยู่ในใจ แล้วส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

เธอสอนเคล็ดลับให้เขาไปหมดแล้ว แต่ก็ยังโง่แบบนี้ สมควรแล้วแหละ

คุณนายฉินซึ่งกำลังนั่งอยู่บนรถเข็นคงสังเกตเห็นถึงบางอย่าง จึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "พวกเขาเหมือนจะมีปัญหากันในช่วงนี้ มักจะอารมณ์ไม่ดีอยู่เสมอ"

หลังจากได้ยิน คุณแม่ฉินก็หยุดครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็เข้าใจได้ทันทีในว่าคุณนายฉินกังวลอะไรอยู่ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ยิ้มแล้วพูดว่า "แม่คะ วัยรุ่นน่ะชอบมีปัญหากับความรัก ไม่ต้องไปสนใจมันมากหรอกค่ะ พอลองคิดถึงตอนที่ฉันยังเป็นวัยรุ่น ฉันก็ทะเลาะกับกับอาหมิงแทบทุกวี่ทุกวัน ไม่ใช่เพรา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 223

    การตรวจร่างกายนั้นมีเพียงคุณนายฉินเท่านั้นที่สามารถเข้าไปตรวจได้ คนอื่นทำได้เพียงนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอกเท่านั้น ฉินเย่พิงหน้าต่างและคลำที่กระเป๋ากางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว แต่ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้สัมผัสบุหรี่มานานมากแล้ว เขาติดนิสัยที่ชอบสูบบุหรี่เมื่อในใจรู้สึกไม่สงบ และยังไม่ได้แก้นิสัยนี้ จริงๆแล้วเมื่อก่อนเขาไม่ได้สูบบุหรี่มากนัก แต่เขาเลิกสูบบุหรี่อย่างสมบูรณ์ไปเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันโดยไม่ได้ตั้งใจ ฉินเย่ไม่สามารถหยุดความต้องการในร่างกายและกลิ่นของเธอได้ ราวกับว่าเขาเสพติดมัน เขาเริ่มจูบเธอเป็นครั้งคราว ทุกเวลา ทุกสถานที่ เขาไม่พลาดเลยสักโอกาส มีครั้งหนึ่ง เขาประชุมเป็นเวลาหลายชั่วโมง เนื้อหาของการประชุมในวันนั้นทำให้ฉินเย่รู้สึกแย่มาก เขากลับมาที่ห้องประชุมและเริ่มสูบบุหรี่ หลังจากสูบไปได้ไม่นาน เสิ่นหยินอู้ก็เข้ามาพร้อมกับเอกสาร เมื่อเห็นเขาสูบบุหรี่ เธอก็ถามด้วยความเป็นกังวลว่า "ทำไมคุณถึงสูบบุหรี่ในเวลานี้ล่ะ? อารมณ์ไม่ดีหรอ?" เขาไม่ตอบ เพียงแค่จ้องมองเธออย่างเคร่งขรึมด้วยดวงตาสีดำคู่หนึ่ง ในเวลานั้น ความสัมพันธ์ของเสิ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-11
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 224

    หลังจากโทรศัพท์ดังขึ้นไม่กี่วินาที ฉินเย่ก็ตัดสายโทรศัพท์ รอบๆตัวเขาก็กลับสู่ความเงียบอีกครั้ง ฉินเย่รีบปิดเสียงโทรศัพท์อย่างรวดเร็วเมื่อคุณแม่ฉินเห็นปฏิกิริยาของลูกชายเธอ จะมีอะไรที่เธอไม่เข้าใจล่ะ?ถ้ามันสำคัญ เขาจะรับสายแน่นอนแต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ปรากฎบนหน้าจอ เขาก็มองไปที่เสิ่นหยินอู้โดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็ตัดสาย นี่มันหมายความว่าอย่างไรล่ะ?คนที่โทรมา... คงจะเป็นเจียงฉูฉู่สินะคุณแม่ฉินไม่สบอารมณ์กับสิ่งที่ฉินเย่ทำ เธอมองไปที่เสิ่นหยินอู้อีกครั้ง เธอลดสายตาลงและทำท่าทางที่ดูไม่สะทกสะท้าน ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่-หลังจากที่เจียงฉูฉู่ถูกตัดสาย เธอก็ตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิมและไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี่เป็น... ครั้งแรกที่ฉินเย่ตัดสายเธอทำไมกัน?หรือว่าเพราะเธอกำลังจะเสียโฉม ฉินเย่จึงเปลี่ยนใจ?แต่เธอเป็นผู้มีพระคุณของเขาไม่ใช่หรอ? แม้ว่าเธอจะเสียโฉมจริงๆ แต่เขาก็ไม่ควรทำเช่นนี้กับเธอ เมื่อก่อนเขาจะรับสายของเธอในทันทีซูเชี่ยวอยู่ข้างๆเธอ เมื่อเธอเห็นสีหน้าของเจียงฉูฉู่ไม่ค่อยดี เธอก็ด่าทอในทันที "จะต้องเป็นอีเลวเสิ่นหยินอู้ให้ท่าฉินเย่แน่ๆ ไม่งั้นฉินเย่จะไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-11
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 225

    ซูเชี่ยวยืนขึ้น “ตอนนี้เขายังอยู่ที่ชั้นล่างหรือเปล่า? ฉันจะไปบอกให้เขากลับไป ช่างเป็นคนที่ไม่รู้จักสำเหนียกตัวเองเลยจริงๆ ใฝ่หาในสิ่งที่ไม่มีวันได้ซะได้” เมื่อเธอกำลังจะออกไป เธอก็ถูกเจียงฉูฉู่หยุดไว้ "รอเดี๋ยว" "ฉูฉู่?" ไม่มีใครคาดคิดว่าเจียงฉูฉู่จะยิ้มออกมาในวินาทีถัดไปและพูดเบาๆ "ให้เขาขึ้นมา" หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ทุกคนในห้องผู้ป่วยก็มองเธอด้วยความตกใจและพูดพร้อมกัน "ฉูฉู่!?" “เธอลืมไปแล้วหรอว่าเขาเคยทำอะไรกับเธอบ้าง? ต้วนจื่อเย่เป็นแค่ไอ้ขยะคนนึงนะ ถ้าคุณปล่อยให้เขาขึ้นมา เธอจะไม่…” “ซูเชี่ยว” เสียงของเจียงฉูฉู่ฟังดูอ่อนโยนมาก “ไม่ว่าเมื่อก่อนเขาจะเคยทำอะไรกับฉันไว้บ้าง แต่ตอนนี้ที่ฉันได้รับบาดเจ็บ เขาสามารถสืบหาและมาเยี่ยมฉันถึงที่โรงพยาบาลได้ นี่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นห่วงฉัน การกระทำแบบนี้ ฉันไม่ควรรู้สึกซาบซึ้งหรอ?จะไล่ให้เขากลับไปได้ยังไง?” คนอื่นๆในห้องผู้ป่วยไม่เห็นด้วย “ฉูฉู่ เขาเป็นห่วงเธอตรงไหน เขาก็แค่คิดอะไรแบบนั้นกับเธอ ถ้าเธอสนใจเขา เขาอาจจะเป็นบ้าขึ้นมาก็ได้ เราอย่าไปสนใจเขาเลยดีกว่านะ?” “ใช่ๆ ฉูฉู่ ฉันรู้ว่าเธอมีจิตใจดี แต่ฉันคิดว่ามีเขามาเยี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-11
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 226

    “ฉูฉู่ แผลของเธอเป็นยังไงบ้าง? เป็นอะไรมากไหม? ฉัน...ฉันซื้อช่อดอกไม้มาเยี่ยมเธอ ไม่รู้ว่าเธอชอบหรือเปล่า? ตอนแรกฉันจะซื้อผลไม้มาด้วย แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเธอชอบกินผลไม้ไหม” ต้วนจื่อเย่พูดกับเจียงฉูฉู่อย่างระมัดระวัง เมื่อเจียงฉูฉู่ได้ยิน เสียงของเขาหยาบและแหบแห้ง น้ำเสียงของเขาไม่มั่นใจเป็นอย่างมาก มันไม่น่าฟังเป็นอย่างยิ่ง แต่เธอก็ยังคงระงับความเศร้าใจไว้และยิ้มออกมา “แผลของฉันไม่เป็นไรมาก ที่จริงนายมาตัวเปล่าก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อของมาฝากฉันเยอะแยะหรอก” “จะให้มามือเปล่าหรอ? ไม่ได้หรอก ฉันรู้สึกแย่” คนอื่นๆให้ห้องทำสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม “ไม่ได้ให้นายมามือเปล่า แต่ถ้ามาทั้งทีก็ควรซื้ออะไรที่มันดีกว่านี้หน่อยไหม? ดูสิว่านายซื้อดอกไม้อะไรมา สีน่าเกลียดและฉูดฉาดมากขนาดนี้ ไม่ได้เก็บมาจากริมถนนใช่ไหม?” “ใช่สิ แบบนี้นายยังมีหน้ามาเยี่ยมฉูฉู่อีก” หลังจากได้ยินคำดูหมิ่นเหล่านั้น ดวงตาของต้วนจื่อเย่ก็หม่นลง มือที่ถือดอกไม้อยู่ก็กำแน่นขึ้นเล็กน้อย การกระทำเหล่านี้ล้วนอยู่ในสายตาของเจียงฉูฉู่ เธอเม้มริมฝีปากแล้วลองพูดดูว่า "พวกเธอหยุดพูดได้แล้ว เขาเต็มใจมาเยี่ยมฉัน มันก็เป็นควา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-11
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 227

    ทันทีที่พูดจบ ภายในห้องผู้ป่วยก็เงียบลงทันที อาจเพราะคิดไม่ถึงว่าซูเชี่ยวจะพูดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เหตุผลที่ทุกคนเงียบไปพร้อมๆกันก็เพราะคำพูดของซูเชี่ยว จู่ๆพวกเธอก็ตระหนักได้ว่าต้วนจื่อเย่ก็ไม่ได้จะไร้ประโยชน์ซะทีเดียว เขาเป็นนักเลงที่ต้องหนีไปทั่ว เรื่องจัดการใครสักคน ดูเหมือนการปล่อยให้เขาทำจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ทุกคนคาดไม่ถึงว่าซูเชี่ยวจะเปลี่ยนใจเร็วขนาดนี้ ดูเหมือนว่าการทะเลาะกับเสิ่นหยินอู้ในงานเลี้ยงต้อนรับจะทำให้เธอเกลียดเสิ่นหยินอู้จนเข้าไส้จริงๆ หลังจากเงียบไปนาน เจียงฉูฉู่ก็พูดด้วยความตกใจ "ซูเชี่ยว เธอหมายความอะไรน่ะ? จะให้คุณต้วนทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไงกัน? คุณต้วน ซูเชี่ยวก็แค่พูดไร้สาระ คุณอย่าไปสนใจเลย" ต้วนจื่นเย่เปิดริมฝีปากของเขา "แล้วถ้าผมบอกว่าผมสนใจล่ะ? ฉูฉู่ ผมไม่เคยทำอะไรให้คุณมาก่อน แต่ผมเคยสาบานว่าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายคุณได้เด็ดขาด ใครก็ตามที่กล้าทำร้ายคุณ มันจะอยู่ร่วมโลกกับผมต้วนจื่อเย่ไม่ได้ และผมจะไม่มีวันปล่อยคนๆนั้นไปอย่างเด็ดขาด” “คุณต้วน สถานการณ์ตอนนั้นวุ่นวายมาก มันไม่แน่หรอกว่าเสิ่นหยินอู้จะเป็นคนทำ” “ฉูฉู่” ซูเชี่ยวข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-12
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 228

    "โอเค งั้นฉันจะไปซื้อตั๋วเครื่องบินให้นะคะ คุณสามี" "ขอบคุณครับคุณภรรยา"ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างหวานชื่นพร้อมกับเดินไปข้างหน้าด้วยกัน เหลือไว้ก็แต่คู่ที่แสนเย็นชาด้านหลัง เสิ่นหยินอู้และฉินเย่ต่างคนต่างเดิน เสิ่นหยินอู้มองดูพ่อแม่ของฉินเย่ที่เดินด้วยกันอย่างหวานชื่น ขณะที่เธอและฉินเย่กลับไม่มีความใกล้ชิดกันเลย ถ้าไปหาคุณย่าแบบนี้อาจไม่ดีเท่าไร เธอจึงหยุดเดินและพูดกับฉินเย่ว่า "ฉันจะไปรอคุณที่รถนะ" ได้ยินแบบนั้นนั้น ฉินเย่ก็หยุดเดินไปสักพัก เขามองเธอครู่หนึ่งและนึกถึงคำพูดที่ตัวเองยังไม่ได้พูดออกมา แต่ก่อนที่จะได้เปิดปากพูดออกมา เสิ่นหยินอู้ก็หันหลังเดินไปแล้ว สีหน้าของฉินเย่เปลี่ยนไป เขาตามเธอไปด้วยสีหน้าโกรธ ทางฝั่งคุณแม่ของฉินเย่เมื่อซื้อตั๋วเครื่องบินเสร็จแล้ว และกำลังหันกลับมาจะพูดกับทั้งสองคน แต่เห็นเพียงแค่แผ่นหลังฉินเย่ที่วิ่งตามเสิ่นหยินอู้ไป "เด็กสองคนนี้......" คุณแม่ฉินเย่ส่ายหน้าอย่างจนใจ แล้วโบกมือ "งั้นปล่อยพวกเขาไปก่อน เราไปหาคุณแม่กันเถอะ" "อืม เอาตามที่คุณว่าเลย"สำหรับลูกชายของเขา คุณพ่อฉินเย่ไม่ได้กังวลอะไรเลย เพราะลูกชายเขาโตแล้ว ไม่น่าจะจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-12
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 229

    จริงๆแล้วฉินเย่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยากพูดอะไร เขาแค่มีอารมณ์บางอย่างอยู่ในอก จนเหมือนว่าจะระเบิดออกมาให้ได้ แต่ก็ยังไม่เจอทางที่จะระบายออกมา แต่เขารู้อย่างแจ่มแจ้งว่าคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้คือเสิ่นหยินอู้ ความกังวลนี้ทำให้ฉินเย่รู้สึกไม่สบายใจ เสิ่นหยินอู้เห็นฉินเย่ยังจับข้อมือตัวเองอยู่ เขาคิ้วขมวด ทำเหมือนไม่อยากปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป เธอจึงพูดอีกครั้งว่า "ไม่ว่าคุณจะอยากพูดอะไรตอนนี้ ช่วยบอกหลังจากคุณย่าผาตัดเสร็จแล้วก็คงไม่ต่างกันใช่ไหม?" ถ้าฉินเย่มีเรื่องอะไรที่อยากจะพูดกับเธอ ก็คงไม่พ้นเรื่องเขากับฉูฉู่ เหตุการณ์ที่ฉูฉู่ล้มครั้งก่อน ดูเหมือนไม่มีผลอะไรตามมา เขาไม่ได้มาพูดอะไรกับเธออีก อาจเป็นเพราะตอนอยู่บ้านต้องรักษาหน้าคุณย่าเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะลืมเรื่องนี้ไป แม้ฉินเย่จะบอกวันนั้นว่าเขารู้ว่าเจียงฉูฉู่ล้มลงไปเอง แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายหรือแก้ตัวให้เธอเหมือนกัน? ดังนั้นถ้าเจียงฉูฉู่คิดจะทำอะไรขึ้นมาจริงๆ ก็คงเป็นหลังจากที่คุณย่าผ่าตัดเสร็จแต่ถึงตอนนั้นเสิ่นหยินอู้ก็คงหย่ากับฉินเย่แล้ว แล้วเธอจะต้องกังวลอะไรอีก? แต่ตอนนี้เธอไม่อยากจะพูดเรื่องฉู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-12
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 230

    หลังจากที่ฉินเย่จัดการเรื่องของคุณย่าเรียบร้อยแล้ว เขาก็ถึงส่งข้อความไปหาเจียงฉูฉู่ บอกเธอเกี่ยวกับการเตรียมทำการผ่าตัดของคุณย่า เพราะแบบนั้นเขาจึงไม่ได้รับสายเธอเดิมทีเจียงฉูฉู่คิดว่าฉินเย่กำลังหลบหน้าเธอ ดังนั้นถึงแม้ว่าต้วนจื่อเย่จะไปแก้แค้นให้เธอแล้ว แต่ถ้าฉินเย่ไม่อยู่เคียงข้างเธอ เธอก็ยังรู้สึกไม่มีความสุขอยู่ดี ดังนั้นเมื่อเจียงฉูฉู่ได้รับข้อความจากฉินเย่ อารมณ์ของเธอก็เริ่มดีขึ้นทันทีถ้าเป็นเพราะเรื่องของคุณนายฉินเขาเลยไม่ได้รับสายเธอ งั้นเจียงฉูฉู่ก็ไม่รู้สึกกังวลอีกต่อไป เธอโทรหาฉินเย่อีกครั้งด้วยความระมัดระวัง ครั้งนี้ฉินเย่รับสายอย่างรวดเร็ว "เย่" เสียงของฉินเย่ฟังดูเหนื่อยนิดหน่อย "อืม ช่วงนี้เธออยู่โรงพยาบาลพักผ่อนดีๆนะ เดี๋ยวฉันจะหาเวลาไปหาเธอ" "ฉันรู้ว่านายยุ่ง ไม่มีเวลาเข้ามาก็ไม่เป็นไร" น้ำเสียงของเจียงฉูฉู่อ่อนโยนเหมือนกับน้ำ "เมื่อเทียบกับเรื่องของย่าของคุณ แผลที่หน้าผากของฉันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย นายไปจัดการเรื่องของคุณย่าก่อนเถอะ" เดิมทีฉินเย่กังวลว่าเธออาจมีความรู้สึกที่ไม่ดีเพราะเขาไม่ได้เข้าไปหา แต่เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ เขาก็รู้สึกสบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-12

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 862

    ขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยกัน พวกเขาก็เดินไปที่ประตู ดังนั้นเสียงของพวกเขาจึงดังลอดผ่านประตูเข้าไปถึงหูของเสิ่นหยินอู้ได้อย่างชัดเจน เสิ่นหยินอู้ชะงักไปชั่วคราว เธอเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่ กดเสียงลงแล้วพูดว่า "ฉันต้องออกไปแล้ว ไม่งั้น..." คำพูดของเธอถูกขัดจากการที่ฉินเย่โน้มตัวเข้าไปหาเธออย่างกะทันหันลมหายใจที่ร้อนรุ่มของฉินเย่กระทบเข้ากับใบหน้าของเธอ ออร่าของเขาปกคลุมเธอเธอไว้ และริมฝีปากบางแนบกดลงไปบนมุมปากของเธอ เสียงของเขาแหบห้าว: "ขอจูบอีกที" ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็จูบเธออีกครั้งในทันทีโดยไม่รอให้ได้ทันเธอโต้ตอบอะไรทั้งนั้น "อื้อ" เสิ่นหยินอู้ยังไม่ทันได้ผลักเขาออกไปก็ถูกเขาจูบอีกครั้ง เธอส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่เธอก็ตระหนักได้ว่าเสียงที่เธอเปล่งออกมาอาจทำให้คนที่อยู่นอกประตูได้ยินเข้า ดังนั้นเธอจึงรีบกลั้นเสียงนั้นไว้ในลำคอ เธอยื่นมือออกไปขวางไว้ระหว่างหน้าอกของฉินเย่ด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาที่ช่างกล้าจริงๆ เขายังทำอะไรเช่นนี้ได้ในขณะที่เด็กๆกับหลี่มู่ถิงมาตามหาเธอ... เนื่องจากเด็กๆอยู่ข้างนอก เสิ่นหยินอู้จึงไม่กล้าแม้แต่จะดิ้นขัดขืนเพราะกลัวว่าพวกเขาจะไ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 861

    “ก่อนออกเดินทาง เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนถามฉันว่าพวกเขาจะได้เจอคุณเมื่อไร”เสิ่นหยินอู้พิงอยู่ในอ้อมแขนของเขาและพูดเบาๆ "อืม" ฉินเย่ตอบแล้วพูดว่า: "พวกเขาน่ะ ผมว่าจะไม่ไปเจอ" เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของเขาด้วยท่าทางสับสน: "ทำไมล่ะ? คุณมาหาฉันแล้ว แล้วทำไมไม่ไปเจอพวกเขาด้วยเลยล่ะ?" ฉินเย่ก้มหน้าลง มองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง แล้วสัมผัสริมฝีปากสีแดงของเธอเบาๆ "ไว้รอผมกลับไปค่อยเจอ แต่ผมหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น... ในตอนที่เจอกันอีกครั้ง พวกเขาจะเปลี่ยนคำเรียกผม โอเคไหม?” เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่างและไม่ตอบอะไร “ยังไม่ยอมอีกเหรอ?” เขาสัมผัสหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าวและต่ำ “คุณให้ผมจูบมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมอีกล่ะ?” เดิมทีเขารู้สึกหึงหวงเล็กน้อยที่รู้สึกว่าเขายังต้องแข่งกับโม่ไป๋อยู่ แต่หลังจากการจูบครั้งนี้ ความหึงหวงภายในใจของฉินเย่ก็หายไปในทันที เพราะเขาสัมผัสได้ถึงการตอบสนองและความไว้วางใจของเธอ ตอนนี้เพียงแค่ต้องรอให้เขาจัดการเรื่องทางนี้ให้เสร็จ และหลังจากที่กลับไป พวกเขาสี่คนก็สามารถอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 860

    แต่ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะสัมผัสได้ถึงเจตนาของเธอ และก่อนที่เธอจะกรีดร้องออกมา เขาก็เอื้อมมือออกไปปิดปากของเธอไว้ "อื้อ" ดังนั้นเสียงร้องของเสิ่นหยินอู้จึงกลายเป็นเสียงที่อุดอู้ขึ้นมาทันที ภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ มีแต่ความมืดมิด บวกกับหลังจากที่เธอเข้ามา ประตูก็ถูกปิดลง เธอมองเห็นเพียงร่างสูงร่างหนึ่งตรงหน้าเธอผ่านแสงสลัวๆที่ส่องมาจากด้านนอกหน้าต่าง เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่มือและเท้าของเธอถูกพันธนาการเอาไว้ และเธอไม่สามารถขยับได้ จนกระทั่งบุคคลนั้นปล่อยมือของเขาที่ปิดปากของเธอไว้เสิ่นหยินอู้คิดจะใช้โอกาสนี้ในการร้องออกมา แต่คนตรงหน้าเธอก็รวดเร็วกว่า เขาโน้มตัวลงมาและจูบเธอ ลมหายใจอุ่นๆที่หนักหน่วงกระทบเข้ากับใบหน้าของเสิ่นหยินอู้ และในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็รับรู้ได้ถึงออร่าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนในขณะนี้ นี่มัน…… ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในหัวใจของเธอ และก่อนที่เธอจะทันได้ตอบสนองอะไรอื่น เธอก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายดันฟันของเธอให้แยกจากกัน ทำให้จูบนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะที่พวกเขานัวเนียกัน ลมหายใจของพวกเขาล้วนมีแต่กลิ่นของทั้งคู่ เสิ่นหยินอู้ยังได้กลิ่นบุหรี่ที

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 859

    ดังนั้นการทานอาหารมื้อนี้ก็เป็นไปตามที่เสิ่นหยินอู้คาดไว้ เมื่อพวกเขากินเกือบเสร็จแล้ว แล้วก็จนอาหารเย็นชืดหมดแล้ว ฉินเย่ก็ยังไม่มาปรากฏให้เห็น ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะต้องเดินทางไปสนามบิน เสิ่นหยินอู้พาเด็กน้อยทั้งสองคนขึ้นไปชั้นบน หลังจากเข้าไปในห้องแล้ว เหมิงเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: "หม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่อยู่ไหนล่ะคะ? เขาจะกลับมาเมื่อไร?" เสิ่นหยินอู้ตอบคำถามของเธอแบบเดียวกันกับที่หลี่มู่ถิงตอบเธอ “หม่ามี๊ก็เหมือนลุงหลี่มู่ถิงจ๊ะ ยังไม่รู้เลย เขาไม่ได้บอกหม่ามี๊ว่าเขาจะไปทำอะไร แน่นอนว่าหม่ามี๊ไม่รู้หรอกว่าเขาจะกลับมาเมื่อไร” หลังจากได้ยิน เหมิงเหมิงก็ร้อง อ่า ออกมาเบาๆ เธอขมวดคิ้วราวกับรู้สึกเป็นไม่สบายใจเพราะเรื่องนี้ “ถ้างั้นหม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่คงจะไม่ได้จะไม่กลับมาแม้แต่ตอนเราไปสนามบินใช่ไหมคะ? แปลว่าวันนี้เราก็จะไม่ได้เจอลุงเย่มู่แล้วหรอคะ?” เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้เด็กๆทั้งสองคนมีความหวังมากเกินไป เสิ่นหยินอู้จึงพูดว่า: "อืม ก็อาจจะเป็นแบบนี้ ลุงเย่มู่มีเรื่องหลายอย่างที่ต้องทำ เดี๋ยวเขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาจะกลับไปหาเราที่จีน” หากพู

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 858

    แม้ว่าในที่สุดเขาก็พบเธอ แต่ใครจะกล้ารับประกันกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นได้? "พอได้แล้ว" เมื่อเห็นเธอกัดริมฝีปากล่างและคิดจะพูดอะไรอื่นอีก ฉินเย่ก็เอามือใหญ่โอบไปที่เอวบางของเธอ "ไม่ต้องคิดแล้ว ในเมื่อผมเลือกที่จะอยู่ นั่นก็หมายความว่าผมมั่นใจ" “แต่... เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรทำตั้งแต่แรกนะ” “นั่วนั่ว” ฉินเย่เรียกชื่อเธอด้วยเสียงแผ่วเบา “การจะทำอะไรสักอย่างน่ะ ไม่มีคำว่าควรหรือไม่ควร มีแต่เต็มหรือไม่เต็มใจเท่านั้นแหละ” “ถ้าคุณรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผมจะอยู่ที่นี่จริงๆ งั้นหลังจากที่ผมกลับไปที่จีนแล้วก็ลองคิดเรื่องที่จะเปลี่ยนสถานะให้ผมดูดีกว่าไหม?” เสิ่นหยินอู้เข้าใจในทันทีว่าเขาหมายถึงเรื่องการเรียกชื่อ เขาต้องการให้เด็กทั้งสองหยุดเรียกเขาว่าลุงเย่มู่และเรียกเขาว่าพ่อแทน หรือจะบอกว่า ที่เขาทำมามากขนาดนั้นก็เพียงเพื่อความปรารถนาเล็กๆน้อยๆเช่นนี้งั้นหรอ? เมื่อเธอคิดได้เช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็นิ่งไป แล้วพูดว่า "คุณจะไม่บอกพวกเขางั้นหรอ?" ริมฝีปากของฉินเย่โค้งขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเธอ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดเบาๆว่า: "ครั้งนี้ ผมจะไม่ไปเจอพวกเข

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 857

    คำพูดทางจิตวิทยาเช่นนี้... ถ้าเขาบอกว่าเขาชอบลุงโม่ไป๋มากกว่า ถึงตอนนั้น... เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นซือเหนียนก็พูดว่า: "ลุงโม่ไป๋อยู่กับพวกเรามานานกว่า" เมื่อได้ยิน ฉินเย่ก็กลั้นหายใจ "ถ้างั้น……" “แต่ลุงเย่มู่มาดูไลฟ์สดของเราบ่อยๆแล้วก็ให้รางวัลเราตลอดเลยด้วย” คำพูดประโยคหลังทำให้หัวใจที่กำลังจมดิ่งลงไปของฉินเย่ลอยกลับขึ้นมาอีกครั้ง เดิมทีเขาคิดว่าตามความคิดของซือเหนียน เขาคงจะหมดโอกาสแล้ว แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าคำพูดของซือเหนียนจะเปลี่ยนไป ซึ่งมันไม่ต่างกับเป็นการทำให้หัวใจของฉินเย่ลุกเป็นไฟ "แล้วไงต่อ?" ฉินเย่ยังคงรู้สึกประหม่ามากในขณะที่เขาถามคำถามนี้ออกมา เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะสนใจความคิดของเด็กคนหนึ่งมากขนาดนี้ เพราะกลัวว่าเด็กคนนี้จะไม่เลือกเขาแต่ไปเลือกคนอื่นแทน "ก็……"เสิ่นซือเหนียนจงใจพูดเสียงยาว เมื่อเห็นว่าการหายใจของฉินเย่ดูเหมือนจะติดๆขัดๆขึ้นมา เขาก็คิดว่ามันค่อนข้างน่าขันเล็กน้อย เขาจงใจเอียงศีรษะแล้วพูดว่า: "ลุงเย่มู่กับลุงโม่ไป๋เสมอกันครับ" เสมอกัน? ฉินเย่ตกตะลึง “เสมอกันงั้นเหรอ?” “ลุงเย่มู่ หรือว่าลุงคิดว่าลุงจะแพ้ลุงโม่ไป๋เหรอครั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 856

    “ซือเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของซือเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เขาถามว่ามีคุณสมบัติมากพอหรือไม่ ไม่ใช่ยินยอมหรือไม่ แม้ว่าเสิ่นซือเหนียนจะยังเด็ก แต่ความรู้ที่เขาได้เรียนมาก็มากมายพอสมควร ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความหมายของคำพูดที่ฉินเย่พูดได้อย่างรวดเร็ว เขาตกตะลึงอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า "เอ่อ...ต้องดูว่าหม่ามี๊จะยอมหรือไม่ยอมครับ" “ลุงเย่มู่หมายความว่า ถ้าไม่เกี่ยวกับหม่ามี๊ เอาแค่ความเห็นของเหนียนเหนียนเองที่เป็นความคิดที่จากใจจริงที่สุด เหนียนเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของเหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เสิ่นซือเหนียน: "..." "ไม่ต้องกลัว" มือใหญ่ของฉินเย่วางลงบนไหล่ของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: "แค่พูดความจริงก็พอ" สิ่งที่ซือเหนียนต้องการจะพูดอาจทำให้ฉินเย่ไม่พอใจจริงๆ แม้ว่าลุงเย่มู่จะทำอะไรให้พวกเขามากมายในช่วงที่ผ่านมานี้ บวกกับที่ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาดูพวกเขาในห้องไลฟ์สดเสมอ ความยิ่งใหญ่ของชื่อ 'ลุงเย่มู่เฉิน' ยังคงทรงพลังมากสำหรับเด็กน้อยสองคน ตัวอย่างเช่น คนแปลกหน้าคนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นพ่อแท้ๆของพวกเขา แต่หากไม่มีฉา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 855

    จากคำอธิบายของเสิ่นหยินอู้ เด็กน้อยทั้งสองเชื่อว่าตอนนี้โม่ไป๋กำลังป่วยอยู่ และจะดีขึ้นในอนาคต จนกว่าจะถึงตอนนั้น เขาจะยังคงเป็นลุงโม่ไป๋ของพวกเขา หลังจากได้รู้เรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยทั้งสองมีความสุขมาก ในเวลานี้ฉินเย่เข้ามาพอดี ทั้งสองจึงเข้าไปเกาะแกะเขา แน่นอนว่าเด็กน้อยทั้งสองยังคงเรียกเขาว่าลุงเย่มู่ เสิ่นซือเหนียนน่ะไม่เท่าไร แต่เสิ่นเหมิงเหมิงกลับไม่คิดอะไรเลย เธอถึงกับเอื้อมมือไปทางฉินเย่เพื่อที่จะให้เขาอุ้ม ฉินเย่ไม่ได้คิดอะไร เมื่อเห็นว่าเธอต้องการให้เขาอุ้ม เขาก็คุกเข่าลงไปหาเธอ เสิ่นหยินอู้เห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินเข้าไป “เหมิงเหมิง ลุงเย่มู่ยังบาดเจ็บอยู่” เพียงประโยคเดียวมันก็ทำให้เหมิงเหมิงหยุดการกระทำของเธอลง และมองไปที่ฉินเย่อย่างว่างเปล่า จากนั้นจึงรีบดึงมือของเธอกลับมา จู่ๆเด็กสาวตัวน้อยก็หยุดพูด และถึงกับถอยหลังไปสองก้าวเพื่อเลี่ยงไม่ให้ฉินเย่แตะต้องเธอได้ การกระทำของเธอทำให้ฉินเย่ตกตะลึงเล็กน้อย หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า "มันเป็นแค่แผลเล็กๆน้อยๆเอง อีกอย่าง เธอยังตัวเล็กขนาดนี้ คงไม่ทำให้แผลของผมแย่ลงหรอกมั้ง?" เ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 854

    หลังจากได้ยินเช่นนั้น หลี่มู่ถิงก็พูดเสริมในทันที: "ใช่ครับ คุณหนูเสิ่น ประธานฉินพูดถูก การไม่มีข่าวอะไรเลยเป็นเรื่องที่ดีที่สุด สบายใจเถอะครับ เราจะตรวจสอบต่อไป ถ้ามีโอกาสช่วยเขาออกมา เราก็จะทำอย่างเต็มที่แน่นอน” แม้ว่าพวกเขาจะพยายามปลอบใจเธออย่างเต็มที่ แต่อารมณ์ของเสิ่นหยินอู้ก็ไม่ดีขึ้นเลย เธอเอนตัวพิงไปกับหน้าต่างและมองไปในที่ไกลๆด้วยความสงบ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆเรื่องถึงกลายมาเป็นเช่นนี้ได้ ในตอนแรกทุกคนต่างก็ยังใช้ชีวิตตามปกติของตัวเองอยู่เลยแท้ๆ แต่จู่ๆเรื่องก็กลับร้ายแรงขึ้นมาเช่นนี้“หม่ามี๊ เป็นอะไรไปหรอคะ?” เสียงของเด็กน้อยทั้งสองดังมาจากด้านหลัง ดึงเสิ่นหยินอู้ให้กลับมามีสติอีกครั้ง เมื่อเธอได้สติ เธอก็เห็นเด็กน้อยสองคนมองเธอด้วยความเป็นห่วง “เหมิงเหมิง เหนียนเหนียน”พวกเขาทั้งสองเดินเข้าไปหาเธอพร้อมๆกันและกอดเธอไว้ “หม่ามี๊คะ ช่วงนี้หม่ามี๊ดูไม่แฮปปี้เลยนะคะ” ใช่สิ เธอออกมาแล้ว แต่ทำไมเธอถึงยังไม่มีความสุขล่ะ อาจเป็นเพราะเรื่องราวยังไม่ได้คลี่คลายลงอย่างสมบูรณ์ แต่ต่อหน้าลูกๆทั้งสอง เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถแสดงออกมาให้ชัดเจนเกินไปได้ ดังนั้นเ

DMCA.com Protection Status