แชร์

บทที่ 162

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่ว่าทั้งสองจะมีสงครามเย็นกันกี่ครั้ง ฉินเย่ก็มักจะเป็นคนที่ทำลายกำแพงน้ำแข็งระหว่างพวกเขาก่อนเสมอ แน่นอนว่า แม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่สีหน้าของเขาก็ยังดูแย่อยู่มาก

หากเธอเมินเขา เขาจะยิ่งโกรธและกัดฟันพูดคุยกับเธอต่อไป

หลังจากที่เธอคิดได้ เธอจึงพยักหน้าเบาๆ

"ได้"

จากนั้นสีหน้าของฉินเย่ก็อ่อนโยนขึ้น

หลังอาหารเย็น ทั้งสองก็ออกไปด้วยกัน เดิมทีเสิ่นหยินอู้ต้องการขับรถเอง แต่ทันทีที่เธอเดินอ้อมไปทางที่นั่งคนขับ เธอก็เห็นฉินเย่กระจกและมองเธออย่างเย็นชา

"ขึ้นรถ"

เมื่อคิดว่าทั้งสองคนไปงานรวมตัวด้วยกันในตอนเย็น เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

พวกเขาเงียบใส่กันตลอดทาง เมื่อถึงที่บริษัท ต่างฝ่ายก็ต่างเดินไปที่ทำงานของตัวเอง

ทันทีที่เสิ่นหยินอู้นั่งลง เธอก็ได้รับข้อความจากเพื่อนสนิทของเธอโจวชวงชวง

“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง? การผ่าตัดของคุณย่าฉินเลื่อนออกไปแบบนี้ งั้นเรื่องของพวกเธอก็ต้องเลื่อนออกไปด้วยใช่ไหม?”

"อืม"

“อ่า แล้วได้บอกหรือเปล่าว่าเราต้องเลื่อนออกไปนานแค่ไหน?”

“ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด ตอนนี้คุณย่ายังพักผ่อนอยู่ น่าจะต้องแล้วแต่คุณย่าน่ะ”

“……”

โจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 163

    เสียงที่เย็นชาดังออกมาจากโทรศัพท์ แม้ว่าเสิ่นหยินอู้คิดที่จะตัดสาย แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เมื่อเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เสียงก็ดังออกมาเองจนจบ เสิ่นหยินอู้ "....." ทำยังไงดี? เธอคิดว่าชวงชวงไปทำธุระเสร็จแล้ว และเธอเดาว่าเมื่อชวงชวงกลับมาก็คงจะตะโกนด่าใส่เธอเกี่ยวกับไอสารเลวที่แย่กว่าเจ้านายของชวงชวง ใครจะไปรู้ว่าชวงชวงจะพูดถึงเรื่องของเธอ เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ สีหน้าของหยินอู้ก็เปลี่ยนไป เธอลุกขึ้นและเปิดประตู ด้านนอกประตูนั้นว่างเปล่า ไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียว เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอให้หลินโยวโยวปิดประตูในตอนที่เธอออกไป เธอคงไม่น่าจะอยู่ตรงนี้แล้วถึงจะถูกต้อง เธอคงไม่ได้ยินเสียงเมื่อครู่นี้ อย่างไรก็ตาม เสิ่นหยินอู้ยังคงไม่วางใจ เธอก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวและสำรวจอยู่สักพักหลัง จากแน่ใจว่าไม่มีใคร เธอจึงกลับเข้าห้องไป จากนั้นเธอก็ลบข้อความเสียงที่โจวชวงชวงส่งมาให้เธอทิ้ง จากนั้นก็ต่อว่าชวงชวงอย่างรุนแรง เมื่อเห็นว่าเธอโกรธ โจวชวงชวงก็รีบคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว และขอโทษเธอด้วยวิธีต่างๆมากมาย เธอแค่ตื่นเต้นเกินไป ครั้งหน้าจะไม่ให้เป็นแบบนี้อีก ในอีกด้านหนึ่งณ บันได

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 164

    เพราะสาเหตุก็มาจากฉินเย่ เนื่องจากเมื่อครู่นี้เขาตกใจเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ เมื่อหลินโยวโยวเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร เธอก็ลดเสียงลงแล้วถามว่า "คุณว่ามันเป็นแบบนั้นไหม? หรือว่าคุณไม่คิดว่านี่เป็นการหักหลังงั้นเหรอ?" หลี่ผิงจุนไม่มีอะไรจะพูด เมื่อคิดแทนเลขาเสิ่น เขาก็เข้าใจได้ และถึงขั้นโกรธแทนเธอด้วยซ้ำ “คุณไม่พูดนี่คือคุณยอมรับแล้วใช่ไหม? งั้น…” หลินโยวโยวพูดเบาๆว่า “เรื่องในวันนี้ พวกเราเก็บไว้เป็นความลับกันก่อนแล้วกัน” หลังจากได้ยินเช่นนั้น หลี่ผิงจุนก็พยักหน้าเห็นด้วย “ผมรู้ เรื่องแบบนี้ เราไม่ควรพูดถึงมันด้วยซ้ำ” “งั้นก็ดี งั้นก็ถือซะว่าเราไม่ได้ยินก็แล้วกัน ที่เลขาเสิ่นเป็นอยู่ในตอนนี้ก็น่าสงสารมากพอแล้ว เราไม่ควรสร้างปัญหาให้เธอเพิ่ม” "แต่...." หลี่ผิงจุนขมวดคิ้ว "ผมไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมเลขาเสิ่นถึงไม่บอกประธานฉินล่ะ? ถ้าเธอบอกประธานฉิน บางทีประธานฉินอาจจะไม่ติดต่อไปมาหาสู่กับเจียงฉูฉู่อีกเลยก็ได้" "โอ้ย" หลินโยวโยวทำเสียงที่ดูเหยียดหยามมาก "นี่นายอายุเท่าไรแล้ว ยังมาพูดเรื่องบ้าบอที่ใช้ลูกมาเป็นข้ออ้างเพื่อผูกมัดผู้ชายเอาไว้อีก" หลี่ผิงจุนรู้สึกป

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 165

    "ผู้ชายหลายใจ!" “คุณพูดว่าอะไรนะ?” ฉินเย่หรี่ตาลงด้วยความไม่พอใจ ออร่าของเขารุนแรงขึ้นมาในทันที เสียงที่เย็นชาทำให้ผู้ช่วยหลี่ได้สติ ให้ตายเถอะ ไม่ใช่ว่าเขาแค่สาปแช่งอยู่ในใจเพื่อความสะใจหรอ? ทำไมเขาถึงพูดออกมาล่ะ? หลี่ผิงจุนรู้สึกพูดไม่ออกกับตัวเอง อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในที่ทำงาน เขาจึงรับมือกับมันได้อย่างรวดเร็ว “ขอโทษทีครับประธานฉิน ผมไม่ได้พูดถึงคุณ เมื่อคืนผมดูละครน้ำเน่ากับแม่มา พระเอกในเรื่องนั้นมันเป็นผู้ชายหลายใจ!” ใช่แล้ว ถูกต้อง เขาอธิบายออกไปแบบนี้ ละครน้ำเน่า? ฉินเย่ขมวดคิ้วและจ้องมองเขาด้วยความไม่พอใจ "นี่คือสิ่งที่คุณคิดในเวลาที่คุณทำงานหรอ?" โอ้ย คิดเรื่องนี้แล้วมันทำไมล่ะ? ตอนที่คุณทำงาน คุณก็ไปเล่นชู้กับผู้หญิงด้วยไม่ใช่หรอ? ฮ่าๆๆ! แน่นอนว่าหลี่ปิงปิงไม่ได้พูดคำพูดเหล่านี้ออกมา “เปล่าครับประธานฉิน จู่ๆผมก็แค่นึกขึ้นมาได้ระหว่างทางมาที่นี่ ที่สำคัญคือละครเรื่องนี้น้ำเน่าเกินไป แล้วพระเอกก็น่าขยะแขยงจริงๆ เขาไปพัวพันกับผู้หญิงสองคนโดยไม่ทำตัวให้ชัดเจนกับคนใดคนหนึ่ง ประธานฉินว่า แบบนี้ไม่ใช่ผู้ชายหลายใจหรอครับ?” “ผมไม่มีเวลามาฟังคุ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 166

    หลี่ผิงจุนเดินออกจากห้องทำงานด้วยสีหน้าที่ซีดเซียวโดยมีแฟ้มเอกสารหลายเล่มอยู่ในมือ เขาก้มลงไปมองเอกสารที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา นี่คืองานที่เขาต้องทำให้เสร็จในอีกสามวันข้างหน้า นั่นก็เพราะเขาด่าประธานฉิน เฮ้อ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้เขาคงอดทนไว้ อย่างไรก็ตาม เมื่อใดก็ตามที่หลี่ผิงจุนคิดถึงเรื่องที่เลขาเสิ่นที่กำลังตั้งครรภ์ แต่เพราะเขาไม่กล้าบอกฉินเย่เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนของเขากับเจียงฉูฉู่ ผิงจุนจึงทำได้เพียงกลืนความเจ็บปวดนี้ลงไป เขาก็รู้สึกได้ถึงไฟแห่งความโกรธที่กำลังแผดเผาอยู่ในใจ หัวใจของเลขาเสิ่นจะเจ็บปวดแค่ไหนกันนะ? ดังนั้นผู้ช่วยหลี่จึงตัดสินใจแล้วว่า แม้ว่าในอนาคตฉินเย่จะกดขี่เขาเช่นนี้ แต่เขาก็จะยังด่าฉินเย่ว่าผู้ชายหลายใจ! - เสิ่นหยินอู้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ เธอยังคงจัดการกับงานอยู่ แต่จัดการไปได้ไม่นาน เธอก็รู้สึกง่วงและหาวอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ไปหลายครั้ง เมื่อหลินโยวโยวยกน้ำเข้ามาให้เธอ โยวโยวบังเอิญเห็นหน้าจอของเธอพอดี โยวโยวจึงนึกถึงอะไรบางอย่าง จากนั้นเธอก็ก้าวไปข้างหน้าในทันทีและพูดอย่างเป็นห่วงว่า "พี่หยินอู้ พี่เหนื่อยใช่ไหม? ให้ฉันช่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 167

    จบกัน เธอทำเกินไปงั้นหรอ? หากเธอรู้ก่อนเธอคงจะอยู่เงียบๆ แต่เมื่อเธอรู้ว่าพี่หยินอู้กำลังท้องและประธานฉินยังไปพัวพันกับผู้หญิงคนอื่น หลินโยวโยวจึงได้แต่สงสารเธอจับใจ เธอคิดแค่เพียงอยากที่จะช่วยเหลือหยินอู้และไม่ได้คิดถึงสิ่งอื่นเลย “หืม?” เมื่อเห็นเธอหลบสายตา หัวใจของเสิ่นหยินอู้ก็ดิ่งลง เธอคงจะไม่ได้ยินจริงๆใช่ไหม? แม้ว่าปกติหลินโยวโยวจะไม่มีความกล้า แต่สมองของเธอค่อนข้างมีไหวพริบ เมื่อรู้สึกได้ถึงออร่าที่ผิดปกติ เธอก็จะตอบสนองทันที “ที่จริงแล้ว มัรเป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้” หลินโยวโยวลูบท้ายทอยของเธอด้วยความประหม่า “ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน พี่หยินอู้คงไม่โดนคุณชายเฉินพูดคำพูดเหล่านั้นใส่ ฉันแค่อยากจะชดใช้ในความผิดของตัวเอง” ถ้าเธอพูดแบบนี้ พี่หยินอู้คงจะไม่สงสัยเธออีกต่อไปแล้วสินะ? อย่างที่คิด หลังจากที่ฟังคำพูดของเธอแล้ว ในที่สุดสีหน้าของเสิ่นหยินอู้ก็ดีขึ้นเล็กน้อย ที่แท้ก็เป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ถ้าเป็นเช่นนั้นเธอก็เข้าใจได้ เมื่อเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็หัวเราะออกมาเบาๆ "เมื่อคืนนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด แต่ก็ถือได้ว่าเป็นบทเรียนเช่นกัน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 168

    เมื่อเทียบกับโม่ไป๋ที่ยังคงมีความรู้สึกเป็นเด็กอยู่เมื่อห้าปีที่แล้ว เขาในตอนนี้ดูโตขึ้นอย่างมั่นคงและสง่างาม ซึ่งทำให้ผู้คนแทบจะละสายตาไปจากเขาไม่ได้เลย “โม่ไป๋” ทุกคนยืนมาขึ้นเพื่อทักทายเขา โม่ไป๋ยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้าให้ทุกคน สายตาของเขามองสำรวจไปรอบๆสถานที่ เขาไม่เห็นคนที่เขาต้องการจะเจอ ดังนั้นเขาจึงหยุดคิด คืนนี้ยัยเด็กน้อยคงจะไม่ได้ไม่มาสินะ? ไม่น่าใช่ ฉินเย่ยังไม่ปรากฏตัว และด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันของเธอ เธอก็คงจะมากับฉินเย่ ขณะที่เขากำลังคิดอยู่ ที่ด้านหลังเขาก็มีเสียงที่นุ่มนวลดังขึ้น "ขอถามหน่อย……" "ฉูฉู่!" ก่อนที่เสียงของผู้หญิงคนนั้นจะพูดจบ คนในห้องก็ตะโกนเรียกชื่อของเจียงฉูฉู่ขึ้นมา ฉูฉู่ก็เข้าใจได้ว่าห้องนี้เป็นสถานที่ที่เธอกำลังหาอยู่ โม่ไป๋หันกลับไป เขากวาดสายตาไปมองเจียงฉูฉู่ที่แต่งตัวเซ็กซี่ และก้มหัวพยักหน้าให้เธอ ภายในดวงตาของเจียงฉูฉู่เปล่งประกายอย่างน่าทึ่ง ใบหน้าที่คุ้นเคยของชายตรงหน้าเธอทำให้เธอจำได้อย่างรวดเร็วว่าบุคคลนี้เป็นใคร “โม่ไป๋??” หลังจากคำถามที่มีความตกใจเล็กน้อยของเธอ โม่ไป๋พยักหน้าด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยและยกมือขึ้นเพื่อดัน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 169

    จนกระทั่งมีคนในห้องถามว่า "ฉินเย่จะมางานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของโม่ไป๋ไหม?" “ต้องมาอยู่แล้วล่ะ ตอนนั้นพวกเขาเป็นถึงเพื่อนสนิทกัน” “ทำไมจนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงาเลยล่ะ?” ใช่สิ ทำไมจนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงาเลยล่ะ? เจียงฉูฉู่มองไปที่โทรศัพท์ของเธอโดยไม่รู้ตัว เธอส่งข้อความไปหาฉินเย่ก่อนออกมา โดยถามว่าเขาถึงไหนแล้ว ใครจะรู้ว่าเขาจะยังไม่ตอบเธอ ดังนั้นเจียงฉูฉู่จึงเดาว่าเขาอาจจะกำลังขับรถอยู่ ดังนั้นจึงไม่สะดวกที่จะตอบข้อความ แต่เธอก็มาถึงแล้ว และเวลาผ่านไปนานมากแล้ว แต่เขาก็ยังไม่มา แล้วก็ไม่ได้ตอบกลับข้อความของเธอ เจียงฉูฉู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเพื่อนของเธอเห็นเธอถือโทรศัพท์ ในแววตาของเธอก็มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมา จากนั้นก็พูดต่อหน้าทุกคนว่า "ฉูฉู่ ทำไมเธอไม่โทรไปถามฉินเย่ล่ะ? ถ้าเธอโทรไป เขารับสายแน่นอนอยู่แล้ว" หลังจากได้ เจียงฉูฉู่ก็มองไปที่เพื่อนคนที่พูดโดยไม่รู้ตัว เพื่อนคนนั้นขยิบตาให้เธอเป็นการส่งสัญญาณให้เธอโทร อันที่จริง ฉูฉู่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร พวกเธอแค่อยากช่วยฉูฉู่พิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างฉูฉู่กับฉินเย่ต่อหน้าทุกคน แต่...

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 170

    และถ้ามีความรู้สึกให้แก่กันจริงๆก็คบกันไปนานแล้ว ดังนั้นเมื่อพวกเขาปรากฏตัวพร้อมกันโดยแต่งตัวแบบนี้ นั่นทำให้ทุกคนต้องถอนหายใจเล็กน้อย และพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังเจียงฉูฉู่ที่อยู่ตรงนั้น ในตอนนี้เจียงฉูฉู่รู้สึกรับไม่ได้อยู่ภายในใจ เนื่องจากสองคนนี้แต่งตัวแบบนี้ จึงดูเหมือนว่าเธอกำลังโดนพวกเขาต่อยหน้าเข้าให้ ความตื่นตระหนกในใจของเธอแผ่ขยายออกไป สิ่งต่างๆเริ่มอยู่เหนือการควบคุมของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอจะทำอะไรได้ในเมื่อมีผู้คนมากมายอยู่ตรงนั้น เธอก็ไม่สามารถทำให้ตัวเองต้องเสียหน้าได้ เมื่อคิดถึงถึงตรงนี้ เจียงฉูฉู่ก็ยืนขึ้นและเดินไปหาเสิ่นหยินอู้ และควงแขนของเธออย่างอบอุ่น “ไม่เป็นไร มาช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก มาถึงที่นี่อย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว เธอนั่งด้วยกันกับฉันสิ” เสิ่นหยินอู้ได้เห็นธาตุแท้ของเธอ และรู้ว่าเธอชอบแสดงละครต่อหน้าทุกคน ดังนั้นเมื่อเธอควงแขนของหยินอู้ หยินอู้ก็หรี่ตาลงและก็ไม่ปฏิเสธ หยินอู้เดินตามเธอไปและนั่งข้างๆเธอ ทุกคนประหลาดใจ สายตามองไปยังใบหน้าของทั้งสองคนครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน ฉินเย่นั่งลงข้างๆโม่ไป๋โดยธอัตโนมัติ "มาแล้ว"

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status