“ฉันกลับก่อนนะ ใส่เสื้อผ้าพุดมาหลายวันละ ไปเอาของก่อนค่อยมานั่งทำงานห้องแกใหม่” ใบหน้าสดสวยของสาววัยสี่สิบประดับด้วยรอยยิ้ม เหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเสียงสุดแสบเสียวของคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ซึ่งอยากจะอยู่กันตามลำพัง โดยไม่ได้สนใจหล่อนเลยแม้กระทั่งตอนนี้เจ้าของร่างสูงในชุดนอนบุรุษเรียบร้อยเหยียดกายอยู่บนเปลตาข่ายกับโน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่ง ยังคงจับจ้องหญิงสาวที่กำลังนั่งเก้าอี้ม้านั่งในสวนเป็นพัก ๆ หากว่าพอละวางจากงานของตนได้“อืม... มาเมื่อไร โทรมาบอกล่วงหน้าล่ะ ช่วงนี้ฉันกับพุดไม่ค่อยอยู่บ้านนี้”“ไปอยู่ไหนกัน?” ปิ่นแก้วมีสีหน้าแปลกใจ หลายเดือนที่ผ่านมาหล่อนอยู่ฟิลิปปินส์กับปรเมษฐ์และทีมงาน พูดคุยกันแค่เรื่องงานถึงได้ไม่รู้ความเคลื่อนไหวของลูกเลี้ยงเขาเลย“พุดซื้อคอนโดฯ ไว้ใกล้ ๆ มอ เลยไปนอนนู่น”“โอเค ถ้าจะเข้ามา ฉันจะโทรมาก่อน เออ... ฝากกระเป๋าเครื่องสำอางให้น้องด้วย ฉันซื้อมาฝากจากฟิลิปปินส์น่ะ” พูดแล้วก็หยิบของในกระเป๋าสะพายส่งให้ชายหนุ่มรับไป ในความริษยาของปิ่นแก้วลึก ๆ นั้นเขาไม่เคยรู้หรือระแคะระคาย“ขอบใจมาก...”“ไม่เป็นไร ฉันชอบซื้อของมาฝากน้องสาวอยู่แล้ว” หยักยิ้มมุมปากครั้งหนึ่ง ก
“นังเด็กร่าน... เป็นลูกเลี้ยงดี ๆ ไม่ชอบ...” เสียงแหลมเล็กสบถด่าผ่านไรฟันขาวที่ขบกัดกัน ขณะสาดอารมณ์เดือดดาลใส่จอสี่เหลี่ยมในมือที่สามารถสร้างเรื่องราวขึ้นมาด้วยปลายนิ้วเคาะพิมพ์ปิ่นแก้วอยู่ในสถานะเพื่อนรู้ใจมาสิบกว่าปี เคยไปหาเขาเมื่อไรก็ได้ กับแม่อนงค์ ลูกหลานทุกคนในบ้านสนิทกันเหมือนเป็นเครือญาติตั้งแต่ปรเมษฐ์เอ่ยปากขอสิ้นสุดความสัมพันธ์เร่าร้อนบนเตียงกับเธอ เพราะความรักที่มีต่อลูกเลี้ยง เขาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนอีก หัวใจร้อนผ่าวไปทั้งดวงแค่คิดว่าชายหนุ่มกำลังจะถูกแย่งไปในเมื่อความเป็นเพื่อนยังคงอยู่ เธอคงไม่อยู่เฉยกับเรื่องนี้...ในช่วงหัวค่ำของวันหยุด หลังจากที่เปิดหัวข้อสนทนาในโลกโซเชียล ระบายความคับแค้นใจนี้ออกไปให้ผู้คนได้เห็นความชั่วร้ายของเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งแย่งผู้ชายไปจากเธอหน้าด้าน ๆ!เธอไม่ได้เข้าไปจัดการแบบแปลนงานอาคารของบริษัทที่จะต้องส่งกลับไปให้วิศวกรในฟิลิปปินส์ งานซึ่งปรเมษฐ์ทิ้งมาเสียเฉย ๆ ปล่อยให้เป็นภาระของเธอและลูกทีมก่อสร้างโปรเจคใหญ่อีกหลายชีวิต ปิ่นแก้วตรงไปยังห้องพักชานเมืองพอเหมาะสมราคาเดือนละสามพันกว่าบาท เพื่อพบคนที่อดนึกถึงไม่ได้...“ลมอะไรหอบแกมา... นัง
ในห้องทำงานกว้างขวางโอ่อ่าโทนสีเขาเข้ากันกับตัวบ้านหลังใหญ่ ถัดจากโต๊ะเขียนแบบงานของสถาปนิก โต๊ะไม้สักอย่างดีวางโน๊ตบุ๊คเอาไว้สองเครื่อง กองเอกสาร กระดาษเปื้อนหมึกปากกาด้วยลายมือขยุกขยิก สมุดจดเล่มเล็ก ๆปรเมษฐ์ยังคงหยุดงานทั้งเดือนตามรับปากไว้ เขาเพียงแก้แบบงานในบ้าน เพื่อที่จะคอยอยู่ใกล้ ๆ คนป่วยตลอด อาการของปรายลดาดีขึ้นตามลำดับ ด้วยความช่างเอาอกเอาใจของเขาเองทว่าสองสามวันมานี้ หลังจากที่นำกระเป๋าเดินทางเต็มไปด้วยสัมภาระมาวางไว้ในห้องของเขาทั้งหมด เพราะยังเดินทางไปคอนโดฯ บ้างก็กลับมาบ้าน บางคนจงใจทำตัวให้ยุ่งอยู่แต่กับงาน เพื่อน และเรื่องเรียน ไม่แม้แต่จะสนใจเขาที่ไม่ยอมพาเธอเข้าห้องนั้นเด็ดขาด“พี่ไม่ชอบสีชมพู มันขายไม่ออก น้องไลฟ์สีดำกับแดงเยอะ ๆ เลย”“ออ... แกจะไปเช็คของให้ฉันเหรอ? ใจมากเพื่อนรัก เพิ่งลงจากสนามบินมาสองคอนเทนเนอร์นะ ฉันให้พม่าแบกไปไว้ที่สต็อกละ”ในสีหน้าแย้มยิ้มของคนที่วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ร่างบางในชุดสบาย ๆ เสื้อตัวหลวมโคร่งกางเกงขาสั้นเปลี่ยนเป็นคนละคนเมื่อมองไปทางชายหนุ่ม เขาวางดินสอจากมือที่หุ้มด้วยถุงมือสำหรับเขียนงานออกในทันที“พุด...”“รอเดี๋ยวนะ พุดทำงานอ
ห้องสี่เหลี่ยมโล่งกว้าง โทนสีขาวสะอาดมีฝุ่นหนาเกรอะเกาะเหมือนไม่มีใครได้เข้ามาทำความสะอาดเป็นเวลานานคิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเป็นปม เมื่อหยุดปลายเท้าและสายตาที่กวาดมองไปรอบกาย ขณะสำรวจเตียงนอนและตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อินขนาดใหญ่ เธอคิดว่าเขาน่าจะเก็บทุกอย่างเอาไว้ในนั้น และก็คงจะต้องขอบคุณปิ่นแก้วที่ให้ของฝากน่ารัก ๆ มากับกระเป๋าเครื่องสำอางร่างบางในชุดคลุมอาบน้ำ ผมเปียกหมาดก้มหน้าลงมองกุญแจดอกใหญ่ในมือ ก่อนจะตรงไปเปิดประตูตู้ไม้สีขาวตู้ไม้ขนาดใหญ่แบ่งแยกของเป็นสะสมเป็นสัดส่วนชัดเจน ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างมองของทุกอย่างถูกเก็บไว้ในตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยรูปถ่ายในกรอบรูปไม้อันเล็กบอกว่าเจ้าของรูปคงตั้งใจสั่งทำมันมาเป็นอย่างดี วางรายเรียงกันไปเป็นชั้นนับได้หลายสิบรูป โปสเตอร์ขนาดใหญ่เป็นรูปของเด็กสาวหน้าตาสะสวยในวัยสิบกว่าขวบ แปะอยู่ข้างหลังเต็มอยู่ทั่วทั้งผนัง ยังมีของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เธอทำให้เขากับมือแต่เล็กจนโตนกกระดาษตัวเล็กหลากสีสันในขวดโหลใบใหญ่... คงจะสักหนึ่งพันตัวถัดไปนั้นก็เป็น...การ์ดวันพ่อ... กับดอกกุหลาบสีแดงที่เฉาไปกับกาลเวลาใช่สินะ... ความสัมพันธ์ของเธอและเขา
“พี่เปา! คนบ้า หื่นที่สุด... ปล่อยพุดลงนะ!”“พี่รักพุดมาก... พี่ก็ต้องหื่นกับพุดสิ หืม... ไม่หื่นกับพุดจะให้พี่ไปหื่นกับใคร?”หัวใจดวงน้อยปั่นป่วนรุนแรงกับคำบอกรักแสนหวาน ร่างบางจึงค่อยสงบลงซึ่งเขาก็ปล่อยให้ขาของเธอลงสัมผัสพื้นหินเย็นเฉียบ ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาอย่างหวาดหวั่น“ไม่เอาเชือกแดง ๆ นั่นนะ พุดยังไม่พร้อมจะโดนมัด ขอเวลาทำใจก่อนสักวันสองวัน”ชายหนุ่มแค่นหัวเราะเบา ๆ “พุดหมายถึงเชือกชิบาริ [1] ในห้องพี่? อืม... เป็นเด็กตาดีจริง ๆ”ว่าแล้วก็หยิบของแดงที่ว่าออกจากกระเป๋ากางเกงขาสั้น ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างทันทีที่เห็นของซึ่งเธอน่าจะเข้าใจผิดไปมันเป็นกล่องกำมะหยี่สีแดงที่มีเพชรเม็ดงามจรัสตาอยู่ข้างใน เขาเปิดมันออกแล้วพันธนาการเธอไว้บนนิ้วเรียวเล็ก สวมมันแล้วก็ยังกอบกุมมือของเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยน ทะนุถนอม“พุดเรียนจบเมื่อไร... แต่งงานกับพี่นะ พี่ไม่ขอ... พี่บังคับว่าพุดต้องแต่ง มีลูกให้พี่ด้วยสักคน”ดวงตาคู่หวานสั่นระริกพรั่งพรูน้ำตาแห่งความตื้นตันออกมาไม่ขาดสาย ก่อนที่เธอจะเอี้ยวตัวไปสบตาคม เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“พี่เปาอายุเยอะแล้วนะ... จะมีลูกจริงเหรอ?”“อืม... พี่อยากมีลูกพุทร
หลังเสร็จสิ้นการออกบูธในช่วงบ่ายของเหล่านักศึกษาสาขาวิชาการจัดการการตลาด ซึ่งต่างคนได้ช่วยกันระดมความคิดการจัดแสดงงานสินค้าของไทย หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ได้รับการตอบรับที่ดีจากอาจารย์และผู้บริหาร ผู้ชมทั่วไปที่เดินทางผ่านบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยปรายลดายังคงวุ่นวายอยู่กับการเก็บของจุกจิกใส่ลังกระดาษ ทำความสะอาดโต๊ะสีขาวที่วางรายเรียงกันไปเป็นแถวยาว กับเพื่อนนักศึกษาทั้งสามคนรวมไปถึงนัชชา เนื่องจากว่าจะมีนิทรรศการแสงสีเสียงต่อในโซนพื้นที่ของกลุ่มเธอ ขณะที่บางบูธนั้นสามารถที่จะขายของต่อ พวกเขาก็นำเสนอผลงานกันเต็มที่‘ทางนี้ครับ ๆ พี่ป้าน้าอา แวะเข้ามาชม... งานแฮนเมดของเราชาวคณะนิเทศฯ’เสียงโทรโข่งดังจากนักศึกษารุ่นพี่คณะอื่น ๆ เป็นความใจดีของอาจารย์ที่อนุญาตให้เรียกลูกค้าได้แต่ไม่ให้ดังจนมากเกินไป บางบูธมีเพลงสนุก ๆ เปิดอย่างพอเหมาะสมให้นักศึกษาและผู้คนทั่วไปสนุกสนานไปกับบรรยากาศของนิทรรศการ“ดีจัง น้ำผลไม้เราหมดไว้ไว! ไม่ต้องยืนนาน ๆ ให้เมื่อยขา เครื่องประดับทำมือนี่ก็ขายหมดแว้บเดียว เพราะมีคนมาเหมา” นัชชาเอ่ยปากชมเพื่อนสาวที่หลุบตาหนี สาเหตุของการขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีนายปิง หนุ่มนักศึก
“พี่ได้ยินว่าเป็นโปรเจคจบนี่... ตกลงจบวันไหน?”“ไม่รู้...”“ไม่รู้ได้ไง? พี่เพิ่งไปคุยกับอาจารย์มา บอกว่าเดือนหน้าสอบเสร็จแล้ว”นั่นคือเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ได้พบอาจารย์สาวรุ่นป้าเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร ตอนมารับนักศึกษากลับบ้าน จากนั้นปรายลดาก็ทำท่าว่าไม่พอใจที่เขาเข้าไปยุ่งวุ่นวาย เธอมองค้อนวงโตอมแก้มตุ่ย“รู้แล้วจะถามทำไมคะ?”“พี่อยากมีลูก!” ฟังชัดทุกถ้อยคำจนผู้คนที่เดินผ่านไปมามองขวับเป็นตาเดียว ปรายลดาก้มหน้าลงซุกซ่อนใบหน้าแดงซ่านลงกระซิบว่าในลำคอ“พี่เปา...! พุดอายนะ พูดเบา ๆ สิ”ด้วยเครื่องแบบนักศึกษาแล้วถึงไม่ใช่เรื่องประหลาดมากกับการที่บางคนจะมีครอบครัว เรียนหนังสือไป เพียงแต่มันไม่ใช่เรื่องสมควรเปิดเผยในที่สาธารณะ ทว่าเขากลับพูดมันออกมาหน้าตาเฉย“ไปจดทะเบียนกับพี่นะพุด... วันนี้เลย”“อะไรเล่า... จดทะเบียนอะไรของพี่?”“จดทะเบียนสมรสไง พี่แพลนเรื่องลูกไว้ทุกอย่างแล้ว เก็บของเสร็จหรือยัง? ไปเร็ว... อำเภอปิดสี่โมง” ในน้ำเสียงเข้มขรึมจริงจัง หญิงสาวลอบมองซ้ายขวา เริ่มที่จะหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อหลายวันมานี้เขายังเซ้าซี้เรื่องเดิม ๆพักหลังมานี้พ่อเลี้ยงที่ไม่ใช่พ่อเลี้ยงอีกต่อไปยังเอาแ
เป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้วของปรายลดาในสมัยที่เธอได้ครองตำแหน่งนางงามโรงเรียน นางสงกรานต์ นางนพมาศประจำจังหวัดปทุมธานี ไม่ว่าปีไหน ๆ แม่อนงค์มักจะพาไปล่าเงินรางวัลได้ตลอดทว่าพอได้ตำแหน่งชนะเลิศทีไร ดันติดปัญหาอยู่บ่อย ๆ อย่างเช่นว่าขบวนแห่นางนพมาศล่มกลางคัน เพราะมีกลุ่มคนจุดประทัด ขบวนเชิดสิงโตผิดคิว บางปีกรรมการยกรางวัลให้รองชนะเลิศไปเฉย ๆแม่อนงค์เล่าให้ทุกคนบนโต๊ะรับประทานอาหารฟังว่าเป็นฝีมือใคร หล่อนยังบ่นเรื่องหนุ่ม ๆ เพื่อนร่วมชั้นเรียน ที่เป็นแฟนคลับตามเอาอกเอาใจ ซื้อน้ำ ซื้อขนมให้ เพราะแอบชอบพอปรายลดาเป็นการส่วนตัว จะมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นกับพวกเขาเสมอ หนักกว่าสำหรับบางคนที่ย้ายโรงเรียนไปเลยยังมีเรื่องล่าสุด... เมื่อผู้ปกครองโทรโข่งเรียกนักศึกษาให้ไปจดทะเบียนสมรสกลางงานนิทรรศการของมหาวิทยาลัย!เพื่อน ๆ ชาวนักศึกษาลามไปถึงแม่ค้าที่ตลาดละแวกใกล้เคียงนินทากันอย่างสนุกปาก หล่อนไปได้ยินเข้าเพราะต้องไปจ่ายตลาดทุกวัน รู้อีกครั้งหนึ่งตอนลูกชายตัวดีมาบอกว่าจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแม่อนงค์ไม่ได้ดีใจเท่าไรนัก เพราะกำลังโมโห...“ไอ้นี่ นี่มันจริง ๆ นะ ฉันไม่รู้จะทำยังไง? อลัน คุณบอกมาให้หม