“พี่เปา! คนบ้า หื่นที่สุด... ปล่อยพุดลงนะ!”“พี่รักพุดมาก... พี่ก็ต้องหื่นกับพุดสิ หืม... ไม่หื่นกับพุดจะให้พี่ไปหื่นกับใคร?”หัวใจดวงน้อยปั่นป่วนรุนแรงกับคำบอกรักแสนหวาน ร่างบางจึงค่อยสงบลงซึ่งเขาก็ปล่อยให้ขาของเธอลงสัมผัสพื้นหินเย็นเฉียบ ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาอย่างหวาดหวั่น“ไม่เอาเชือกแดง ๆ นั่นนะ พุดยังไม่พร้อมจะโดนมัด ขอเวลาทำใจก่อนสักวันสองวัน”ชายหนุ่มแค่นหัวเราะเบา ๆ “พุดหมายถึงเชือกชิบาริ [1] ในห้องพี่? อืม... เป็นเด็กตาดีจริง ๆ”ว่าแล้วก็หยิบของแดงที่ว่าออกจากกระเป๋ากางเกงขาสั้น ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างทันทีที่เห็นของซึ่งเธอน่าจะเข้าใจผิดไปมันเป็นกล่องกำมะหยี่สีแดงที่มีเพชรเม็ดงามจรัสตาอยู่ข้างใน เขาเปิดมันออกแล้วพันธนาการเธอไว้บนนิ้วเรียวเล็ก สวมมันแล้วก็ยังกอบกุมมือของเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยน ทะนุถนอม“พุดเรียนจบเมื่อไร... แต่งงานกับพี่นะ พี่ไม่ขอ... พี่บังคับว่าพุดต้องแต่ง มีลูกให้พี่ด้วยสักคน”ดวงตาคู่หวานสั่นระริกพรั่งพรูน้ำตาแห่งความตื้นตันออกมาไม่ขาดสาย ก่อนที่เธอจะเอี้ยวตัวไปสบตาคม เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“พี่เปาอายุเยอะแล้วนะ... จะมีลูกจริงเหรอ?”“อืม... พี่อยากมีลูกพุทร
หลังเสร็จสิ้นการออกบูธในช่วงบ่ายของเหล่านักศึกษาสาขาวิชาการจัดการการตลาด ซึ่งต่างคนได้ช่วยกันระดมความคิดการจัดแสดงงานสินค้าของไทย หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ได้รับการตอบรับที่ดีจากอาจารย์และผู้บริหาร ผู้ชมทั่วไปที่เดินทางผ่านบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยปรายลดายังคงวุ่นวายอยู่กับการเก็บของจุกจิกใส่ลังกระดาษ ทำความสะอาดโต๊ะสีขาวที่วางรายเรียงกันไปเป็นแถวยาว กับเพื่อนนักศึกษาทั้งสามคนรวมไปถึงนัชชา เนื่องจากว่าจะมีนิทรรศการแสงสีเสียงต่อในโซนพื้นที่ของกลุ่มเธอ ขณะที่บางบูธนั้นสามารถที่จะขายของต่อ พวกเขาก็นำเสนอผลงานกันเต็มที่‘ทางนี้ครับ ๆ พี่ป้าน้าอา แวะเข้ามาชม... งานแฮนเมดของเราชาวคณะนิเทศฯ’เสียงโทรโข่งดังจากนักศึกษารุ่นพี่คณะอื่น ๆ เป็นความใจดีของอาจารย์ที่อนุญาตให้เรียกลูกค้าได้แต่ไม่ให้ดังจนมากเกินไป บางบูธมีเพลงสนุก ๆ เปิดอย่างพอเหมาะสมให้นักศึกษาและผู้คนทั่วไปสนุกสนานไปกับบรรยากาศของนิทรรศการ“ดีจัง น้ำผลไม้เราหมดไว้ไว! ไม่ต้องยืนนาน ๆ ให้เมื่อยขา เครื่องประดับทำมือนี่ก็ขายหมดแว้บเดียว เพราะมีคนมาเหมา” นัชชาเอ่ยปากชมเพื่อนสาวที่หลุบตาหนี สาเหตุของการขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีนายปิง หนุ่มนักศึก
“พี่ได้ยินว่าเป็นโปรเจคจบนี่... ตกลงจบวันไหน?”“ไม่รู้...”“ไม่รู้ได้ไง? พี่เพิ่งไปคุยกับอาจารย์มา บอกว่าเดือนหน้าสอบเสร็จแล้ว”นั่นคือเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ได้พบอาจารย์สาวรุ่นป้าเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร ตอนมารับนักศึกษากลับบ้าน จากนั้นปรายลดาก็ทำท่าว่าไม่พอใจที่เขาเข้าไปยุ่งวุ่นวาย เธอมองค้อนวงโตอมแก้มตุ่ย“รู้แล้วจะถามทำไมคะ?”“พี่อยากมีลูก!” ฟังชัดทุกถ้อยคำจนผู้คนที่เดินผ่านไปมามองขวับเป็นตาเดียว ปรายลดาก้มหน้าลงซุกซ่อนใบหน้าแดงซ่านลงกระซิบว่าในลำคอ“พี่เปา...! พุดอายนะ พูดเบา ๆ สิ”ด้วยเครื่องแบบนักศึกษาแล้วถึงไม่ใช่เรื่องประหลาดมากกับการที่บางคนจะมีครอบครัว เรียนหนังสือไป เพียงแต่มันไม่ใช่เรื่องสมควรเปิดเผยในที่สาธารณะ ทว่าเขากลับพูดมันออกมาหน้าตาเฉย“ไปจดทะเบียนกับพี่นะพุด... วันนี้เลย”“อะไรเล่า... จดทะเบียนอะไรของพี่?”“จดทะเบียนสมรสไง พี่แพลนเรื่องลูกไว้ทุกอย่างแล้ว เก็บของเสร็จหรือยัง? ไปเร็ว... อำเภอปิดสี่โมง” ในน้ำเสียงเข้มขรึมจริงจัง หญิงสาวลอบมองซ้ายขวา เริ่มที่จะหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อหลายวันมานี้เขายังเซ้าซี้เรื่องเดิม ๆพักหลังมานี้พ่อเลี้ยงที่ไม่ใช่พ่อเลี้ยงอีกต่อไปยังเอาแ
เป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้วของปรายลดาในสมัยที่เธอได้ครองตำแหน่งนางงามโรงเรียน นางสงกรานต์ นางนพมาศประจำจังหวัดปทุมธานี ไม่ว่าปีไหน ๆ แม่อนงค์มักจะพาไปล่าเงินรางวัลได้ตลอดทว่าพอได้ตำแหน่งชนะเลิศทีไร ดันติดปัญหาอยู่บ่อย ๆ อย่างเช่นว่าขบวนแห่นางนพมาศล่มกลางคัน เพราะมีกลุ่มคนจุดประทัด ขบวนเชิดสิงโตผิดคิว บางปีกรรมการยกรางวัลให้รองชนะเลิศไปเฉย ๆแม่อนงค์เล่าให้ทุกคนบนโต๊ะรับประทานอาหารฟังว่าเป็นฝีมือใคร หล่อนยังบ่นเรื่องหนุ่ม ๆ เพื่อนร่วมชั้นเรียน ที่เป็นแฟนคลับตามเอาอกเอาใจ ซื้อน้ำ ซื้อขนมให้ เพราะแอบชอบพอปรายลดาเป็นการส่วนตัว จะมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นกับพวกเขาเสมอ หนักกว่าสำหรับบางคนที่ย้ายโรงเรียนไปเลยยังมีเรื่องล่าสุด... เมื่อผู้ปกครองโทรโข่งเรียกนักศึกษาให้ไปจดทะเบียนสมรสกลางงานนิทรรศการของมหาวิทยาลัย!เพื่อน ๆ ชาวนักศึกษาลามไปถึงแม่ค้าที่ตลาดละแวกใกล้เคียงนินทากันอย่างสนุกปาก หล่อนไปได้ยินเข้าเพราะต้องไปจ่ายตลาดทุกวัน รู้อีกครั้งหนึ่งตอนลูกชายตัวดีมาบอกว่าจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแม่อนงค์ไม่ได้ดีใจเท่าไรนัก เพราะกำลังโมโห...“ไอ้นี่ นี่มันจริง ๆ นะ ฉันไม่รู้จะทำยังไง? อลัน คุณบอกมาให้หม
“ถ้ามดลูกน้องไม่ฝ่อ ยังไงก็ต้องท้อง อาจจะได้ลูกชายก็ได้...”แม่อนงค์ยิ้มระรื่น ก่อนจะเก็บอาการไว้ในสีหน้าเรียบเฉย แต่ก่อนนั้นหล่อนเป็นคุณครูสอนเด็กอนุบาล ปลดเกษียรมาหล่อนชอบที่จะอยู่กับเด็ก ๆ ถึงจะเหนื่อยอยู่สักหน่อยก็ดีกว่าไม่มีอะไรทำในบ้านหลังใหญ่โตกว่าบ้านของปรเมษฐ์ อยู่อาศัยกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก สองครอบครัวไป ๆ มา ๆ มีเด็กน้อยวัยสามขวบ สี่ขวบสองคน อีกคนหนึ่งสิบห้าปี ทุกคนเป็นผู้หญิง... ในวัยช่างพูดช่างสงสัย“คุณยายคะ... มดลูกคืออะไร? ”“ย่าคะ... มินนี่อยากรู้... มดลูกอะไร?”“คุณอากับพี่พุทราเป็นพ่อลูกกัน... น้องออกมาจะไม่เอ๋อหรือคะ?”“ย่าคะ... ครูบอกว่าครอบครัวเดียวกันแต่งงานกันไม่ได้ ลูกออกมาจะเอ๋อ”“เขาเป็นพ่อเลี้ยง ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ เข้าใจกันบ้างป่ะ? เด็กพวกนี้...”“พ่อเลี้ยงก็เป็นครอบครัวเดียวกันนี่... น้องของมินนี่ต้องเอ๋อแน่ ๆ เลย”เสียงแหลมเล็กของทั้งเด็กน้อยเด็กสาวพาต่างคนผ่อนลมหายใจหนัก เด็กวัยสี่ขวบสองคนคงยังไม่เข้าใจคำว่าพ่อเลี้ยงนัก ปรเมษฐ์เองก็นาน ๆ ครั้งจะมารับประทานอาหารด้วยกัน ที่ผ่านมาเขาอยู่แต่เมืองนอกไม่ก็อยู่บ้านหลังที่ซื้อไว้อาศัยอยู่กับพี่ชายปองกานต์ และ
หลายวันมานี้ เจ้าของบ้านมีเหตุจำเป็นให้ต้องไปสะสางงานในฟิลิปปินส์ ไม่สามารถปฏิเสธหรือส่งงานช่องทางออนไลน์ได้ ด้วยเป็นหน้าที่ของสถาปนิกที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างอาคารโปรเจคใหญ่ของรีสอร์ตหรูริมทะเล ซึ่งเขาต้องไปเข้าประชุม เพื่อประสานงานกับวิศวกรโดยตรงปรายลดาจึงใช้เวลาทั้งหมดในวันหยุดอยู่กับการส่งรายงานและทำเรื่องขอจบการศึกษาในเดือนหน้า เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ทำงานของตัวเองต่อในช่วงบ่ายเธอจ้างคนมาเพิ่มทั้งแอดมินตอบคำถามลูกค้าทางช่องทางโซเชียล คนส่งผ้า แม่ค้าขายของออนไลน์ การเริ่มต้นเป็นเจ้าของกิจการครั้งแรก เธอจึงกังวลตามประสา กลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำโดยไม่รู้ตัว มือกดโทรศัพท์ หยิบมันขึ้นดูแล้วดูอีกแต่สุดท้ายแล้วเธอกลับหยุดสายตาไว้ที่สติ๊กเกอร์น่ารักรูปเล็กบริเวณมุมจอโน๊ตบุ๊คเครื่องโปรดที่พ่อเลี้ยงซื้อให้เธอเมื่อหลายปีก่อนใบหน้าหวานระบายยิ้มตื้นตันใจ อดคิดถึงบางคนไม่ไหว ถึงได้รับสายผ่านวิดิโอคอลเช้าเย็น ทั้งที่เขาไม่ค่อยจะได้ทำมันเมื่อคราวที่ทิ้งเธอไปอยู่บ่อย ๆเรื่องที่เขาได้พูดเอาไว้คือลูก... มันคงจะเป็นวินาทีอันแสนอัศจรรย์ใจ พอได้รับรู้ว่ากำลังจะมีเด็กตัวน้อย ๆ ที่หน้าตาเหมือนเธอหรือเขา..
“พี่เปา.. เล่นอะไรโลดโผนไม่เอานะ... อื้ม...!”ริมฝีปากสีชมพูถูกประกบปิดด้วยเรียวปากหนาหยักได้รูปหวังให้เธอเงียบเสียงลง กระชับคนในอ้อมแขนแน่น พาหญิงสาวขึ้นบันไดไปพร้อมรสจูบเร่าร้อน ขณะที่สองมือเรียวตวัดขึ้นโอบรอบคอแกร่งคล้ายมีความรู้สึกนึกคิดของมันเองปากของเขาไม่ต่างจากแม่เหล็กที่ดูดกลืนริมฝีปากของเธออยู่เรื่อยไป ปลายลิ้นหนาชอนไชเข้ามาได้ก็ถือโอกาสกระหวัดไปมา ตามหาความหอมหวานอย่างคนตะกละตะกลาม อดอยากปากแห้งมาแรมปีปรายลดายังคงไม่ประสีประสาไม่ว่าจะพยายามร่ำเรียนบทพิสวาสจากครูดีสักเท่าไร แต่เพียงไม่นานเขาก็ปล่อยเธอลงบนที่นอนนุ่ม เท้าข้อศอกลงล้อมร่างบางไว้ พร้อมมอบอ็อกซิเจนให้เธอต้องหอบมันเข้าปอด“พี่เปา... จะทำอะไร...? บอกพุดก่อน”“ทีแรกก็อยากจะเข้ามา ตอนนี้มากลัวอะไร?” เขาถามกลับ หลังจากที่พากระต่ายน้อยขี้กลัวเข้ามาตามคำขอ ในสภาพสะอาดไร้ฝุ่นโดยแม่บ้านที่จ้างมา ไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของปรายลดาปากแดงเจ่อเพราะพิษจูบเม้มเข้าหากันแน่น เหตุด้วยสายตาคู่คมเหมือนว่าจะเรื่องเซอร์ไพรส์ เป็นเรื่องที่ต้องรู้จากเจ้าตัว น้ำเสียงเข้มขรึมเอ่ย“ตอนพี่ไม่อยู่... พุดไปโรงพยาบาลทำไม?”นิสัยของปรเมษฐ์อย่าง
คำว่าเบา ๆ ของเขาเริ่มต้นด้วยจุมพิตแสนวาบหวาม แรงสั่นสะเทือนจากของเล่นอันจิ๋ว ลากไล้ไปตามเรือนกายเปลือยเปล่า ชุดนอนสีชมพูหวานที่ถูกเลิกขึ้นกองไว้เหนือสองเต้าเต่งตึง ทรวงอกงามเคลื่อนไหวขึ้นลงตามแรงหอบหายใจเสียงหนุบหนิบจากริมฝีปากคราวผละกันแต่ละครั้ง สร้างความรู้สึกรัญจวนประหลาดอย่างที่ว่าจูบของพ่อเลี้ยงเร่าร้อนขนาดไหน ยังไม่ลดระดับความร้อนลงแม้แต่น้อย แม้แต่มือหนาหยาบที่หยุดตัวสั่นสีชมพูลงบนปลายยอดแหลมมน“อื้ม...” สุ้มเสียงผ่านปากที่ถูกประกบปิดไว้ และถอดถอนออกไปอย่างนวยนาด เขายังสนุกอยู่กับปลายยอดสีชมพูหวานบนเต้าอวบอัดขยับตามกายสาวที่แอ่นขึ้นรับแรงสั่นสะเทือนใต้ร่างหนาที่หยัดกายคร่อมเท้าข้อศอกทั้งสองไว้เหนือพันธนาการของปลอกข้อมือสีดำสนิท เธอไม่ได้นึกรังเกียจหรือหวาดกลัวของเล่นสำหรับผู้ใหญ่ พอได้เปิดใจที่จะเรียนรู้เรื่องราวแปลกใหม่จากชายหนุ่มทีละน้อยร่างบางบิดเร่าไปมา ความเสียวซ่านเกิดขึ้นราวพายุลูกใหญ่เมื่อมันกระตุ้นจุดอ่อนไหวอยู่อย่างไม่มีวี่แววว่าจะหยุด ช่องท้องวูบวาบเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ถึงชอบมันอยู่ แต่ด้วยความคิดถึงที่มีต่อเขา เสียงเรียกร้องของร่างกายและจิตใจคงอยากจะถูกเติมเ