ตอนที่ 4เลิกคิดไม่ได้วันต่อมา...“ไอ้แฟนท์โว๊ย!!”“ห... ห๊ะ!?” แฟนท์สะดุ้งโหยงขึ้นหลังตรง เมื่อได้ยินเสียงเรียกข้างหูดังขึ้น“รู้สึกตัวช้านะ เป็นอะไรทั้งวันเลยเนี่ย ไม่สบายหรือเปล่า?”เสียงแปดหลอดของอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ แฟนท์ส่งเสียงดังขึ้นไปทั่วร้าน อันที่จริงขนมผิงเรียกเพื่อนนานแล้ว ทว่ากว่าที่อีกคนจะรู้สึกตัว ก็ปาเข้าหลายนาทีแล้ว ทำเอาเธอเกิดความสงสัยในปฏิกิริยาท่าทางของเพื่อนสนิท“เอ่อ... ป... เปล่าๆ”ตึก!“โต๊ะ 4” ขนมผิงยื่นชามใหญ่ลงใส่ถาดให้แฟนท์ไปเสิร์ฟ เธอรอเพื่อนนานแล้ว ก่อนที่กวยจั๊บในถ้วยมันจะเย็นชืดไปหมด หากต้องรอนานกว่านี้ผ่านมาครึ่งค่อนวันแล้วผิงรู้สึกถึงความผิดปกติของเพื่อนสนิทที่เปลี่ยนไป แล้วไหนจะเมื่อเช้าอีก ที่เธอเห็นเพื่อนเดินลงมาจากรถหรูราคาแพงที่ขับมาส่ง ซึ่งผิงรู้ว่านั่นคงไม่ใช่รถของคนในครอบครัวของแฟนท์อย่างแน่นอน หากแต่ในใจมันกลับรู้สึกคุ้นตากับรถคันเมื่อเช้าอยู่บ้าง ทว่ายังนึกไม่ออกว่าเจ้าของรถคือใครและตั้งแต่เมื่อเช้าผิงได้ถามกับเพื่อนไปแล้วว่าใครมาส่ง แต่กลับไร้ซึ่งคำตอบจากปากเพื่อนสนิทร่างบางเดินกลับมานั่งที่โต๊ะเดิมหลังจากที่ไปเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าเสร็
ตอนที่ 5คัพ Bวันต่อมา...,07.00 น.แฟนท์อาศัยเป็นคนมาเปิดร้านก่อนเพื่อนในเช้าวันใหม่ อันที่จริงหน้าที่นี้ส่วนมากจะตกเป็นของเธอ เนื่องจากบ้านของผิงอยู่ห่างไกลกว่าตนเอง ทั้งต้องเลิกช้าเพราะมัวจ่ายตลาด แถมยังต้องตื่นเช้ามาเปิดร้านให้ก่อนอีก ถ้าหากว่าไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็ก ป่านนี้เธอคงจะไม่ยอมมาทำให้แบบนี้แน่ร่างบางเดินหยิบจับวัตถุดิบขึ้นมาเตรียมไว้รอเพื่อที่จะได้สะดวกและง่ายต่อการจัดเตรียม ระหว่างที่รอเพื่อนสนิทเดินทางมาถึง นอกจากต้องเตรียมวัตถุดิบแล้วยังต้องต้มน้ำซุบเอาไว้รออีก“ทำเองคนเดียวหมดเลยหรอ?”“!!?” ร่างบางรีบผละหน้าออกจากหม้อต้มน้ำใบใหญ่หลังจากที่ได้ยินเสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้นข้างๆ หู“ทำไมหน้าตกใจอย่างกับเห็นผี”“ร... ร้านยังไม่เปิดหรอกจ้ะ” แม่ค้าคนสวยรีบบอก เพราะตอนนี้ยังเจ็ดโมงเช้าอยู่เลย หากว่าเขาจะมาสั่งออเดอร์ตอนนี้คงจัดเตรียมทุกอย่างให้ไม่ทัน อีกอย่างคนทำออเดอร์อย่างเพื่อนสนิทของเธอเองก็ยังมาไม่ถึงร้านเลยด้วยซ้ำ“ไม่ได้มากิน แต่มาเก็บค่าเช่า”‘อ... เอ่อ จริงสินะ นี่เราลืมไปได้ยังไงกันว่าเฮียซานเขาต้องมาเก็บค่าเช่าแผงอยู่แล้ว บ้าเอ๊ย! ทำไมเราต้องทำตัวไม
ตอนที่ 6ลูกค้าหน้างอ“เดือนหน้าเจ้ลื้อมา อย่าลืมทำความสะอาดให้ด้วยล่ะ” ชายแก่วัยหกสิบปลายๆ หันหน้ามามองลูกสาวคนเล็กหลังจากที่ตักแกงใส่จานตนเองแล้วเสร็จแฟนท์ชะงักมือเล็กน้อยขณะที่กำลังตักข้าวเข้าปาก ร้อยวันพันปีพี่สาวของเธอจะยอมกลับมาบ้าน ทั้งๆ ที่กรุงเทพฯ – ชลบุรี อยู่ใกล้แค่เอื้อม“มากี่วัน?” ร่างบางถามผู้เป็นพ่อขณะที่นั่งทานอาหารมื้อเย็นด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา จะยกเว้นก็แต่ฟ้าใสพี่สาวคนกลาง“เจ้ลื้อน่ะเขาหยุดยาว พักร้อน น่าจะกลับมาอยู่นี่เป็นเดือน”“มาแล้วก็หวังว่าจะช่วยงานป๊าบ้างนะ” ที่พูดแบบนั้นไปก็เพราะว่ารู้นิสัยของพี่สาวตัวเองว่าเป็นคนอย่างไร“อีมาพักผ่อน นี่ลื้อจะให้อีมาช่วยอั๊วทำไมกัน เจ้ลื้อเขามาเหนื่อยๆ นะ”“ทีอั๊วเลิกงานมาเหนื่อยๆ ยังช่วยป๊ากับม๊าเก็บร้านได้เลย”“นี่ลื้อ...”“พอๆๆ พอกันทั้งคู่เลยนะ กินข้าวอยู่แท้ๆ จะทะเลาะกันทำไม ห๊ะ?” สุดท้ายแล้วม๊าของแฟนท์ก็ทนไม่ไหว เลยต้องรีบเบรกทั้งคู่เอาไว้ก่อนที่จะทานข้าวกันไม่ลงไปมากกว่านี้ก่อนจะตามมาด้วยพี่ชายคนโตอย่างเฮียเฟย ที่นั่งเงียบมานานมากแล้ว “ป๊าแค่บอกให้ทำความสะอาดห้องให้พี่เค้า อย่าสาวความกันให้มาก”ก็ใช่สิ อย่างเจ้ฟ้
ตอนที่ 7คนเก่าไม่มีสิทธิ์18.00 น.หลังเลิกงานเป็นประจำทุกวัน หนึ่งอย่างที่แฟนท์ต้องทำก่อนกลับบ้านคือการซื้อวัตถุดิบที่ใช้ขายของในวันถัดไปก่อนร่างบางเดินเลือกของในตลาดพร้อมกับถุงมากมายที่ถือมาเต็มไม้เต็มมือ ที่ต้องเลือกมาจ่ายตลาดคนเดียวแบบนี้ก็เพราะเพื่อนสนิทอย่างผิงทำหน้าที่เก็บร้านให้ อีกอย่างบ้านของผิงเองก็อยู่ห่างไกล ไม่เหมือนกับแฟนท์ที่ขับรถจักรยานยนต์ไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงบ้านแล้ว“ป้าสวยจ๊ะ หมูยอวันนี้ทำไมมันดูมีกลิ่นแล้ว” ระหว่างกำลังยืนเลือกของอยู่ ร่างบางก็ต้องรีบถามแม่ค้าเจ้าประจำขึ้นขณะที่ถือขึ้นมาแล้วได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ หากเธอซื้อไปทำขายมีหวังลูกค้าอาจจะท้องเสาะขึ้นมาก็เป็นได้“ไหน... อันไหนมาให้ป้าดูซิ”“อันนี้จ้ะป้า” ร่างบางยื่นของไปให้แม่ค้าได้ดู“อ่า... จริงสินะ ลุงหมายแกคงลืมเก็บให้ป้าอีกแล้วน่ะสิ ขอบใจเอ็งมากนะที่ช่วยดูให้ เกือบซื้อไปขายแล้วไหมล่ะ ไอ้หมายนะไอ้หมาย... บอกแล้วไม่เคยจำ”“ช่างเถอะป้า ยังไงก็ดูดีๆ หน่อยละกันนะ”“จ้า เอานี่ เอาแพ็คใหม่ไปเลย” ป้าสวยแกรีบหาหมูยอแพ็คใหม่มาแทนของเดิม ก่อนจะยื่นส่งให้ลูกค้าเจ้าประจำ“ขอบคุณจ้ะป้า อ่ะนี่เงิน” แฟนยื่นเงินให้
ตอนที่ 8โดนลากมาอีกแล้ว@คอนโดฯ“ปล่อยได้แล้ว” คนตัวเล็กพยายามบิดแขนตนเองออกจากมือหนาหลังจากที่มีปากเสียงกันกับอรรถพลได้พักใหญ่ อีกคนก็ยอมยกธงขาวลงให้ก่อนชั่วคราว เนื่องจากมีสายเข้าให้รีบไปจัดการธุระก่อนตอนนี้เขาพาแฟนท์กลับมาที่คอนโดฯ ของเขาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับลากแขนให้เข้ามาถึงห้องนอนส่วนตัวของเขาตลอดทางที่มา คนตัวเล็กพยายามคะยั้นคะยอขอกลับบ้าน ทว่าเขากลับไม่ยอมฟัง หนำซ้ำยังเหยียบคันเร่งจนมิด เพื่อให้ถึงที่หมายเร็วที่สุดเมื่อมาถึงห้องนอนของเขาแล้ว คนตัวโตถึงได้ปล่อยให้เธอเป็นอิสระ จากนั้นซานก็เดินพลางถอดเสื้อเชิ้ตที่ใส่ทิ้งลงในตะกร้าผ้ามุมห้อง“นี่! จะถอดเสื้อทำไมเนี่ย” ร่างบางเริ่มโวยวาย ก่อนจะเสมองไปทางอื่น“ก็มันร้อน อยากอาบน้ำ”“เฮียจะอาบน้ำแล้วทำไมต้องพาแฟนท์มาที่นี่ด้วย?”“อุตส่าห์ช่วยนะ ขอบคุณสักคำน่ะ พูดเป็นไหม?” ว่าพลางหันหน้ากลับมามองคนตัวเล็กอีกครั้งหนึ่งตอนนี้ท่อนบนของเขาไม่เหลือเสื้อผ้าสักชิ้น ส่วนท่อนล่างก็ใกล้จะหลุดออกจากตัวเขาอีกไม่ช้านี้แล้วแฟนท์แอบเหลือบสายตาไปมองร่างสูงอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าตอนนี้เขากำลังถอดกางเกงสแล็คสีดำของตนเองลงไปพร้อมๆ กับบ๊อกเซอร์ที่เ
ตอนที่ 9กดดัน2 สัปดาห์ต่อมา....,‘งั้นก็เป็นเลยสิ อ่า... คนเป็นแฟนกันขั้นตอนแรกคือจีบก่อนใช่ไหม?’หมั่บ!“อ๊ะ!?” ขณะที่แฟนท์กำลังนั่งนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทว่ากลับมีมือของมารดามาสะกิดไหล่เอาไว้ซะก่อน จนต้องกลับมาสนใจเหตุการณ์ในปัจจุบัน“อาแฟนท์ ...เจ้ลื้อถามตั้งนานแล้ว เป็นอะไรหรือเปล่า มั้งเหม่อเชียว” เกสรผู้เป็นมารดาเรียกสติลูกสาวคนเล็ก พี่สาวคนกลางเรียกลูกสาวคนเล็กตั้งนานสองนานแล้ว ทว่ากลับนิ่งเฉยราวกับกำลังคิดอะไรในใจอยู่วันนี้ที่บ้านแฟนท์มีนัดทานมื้อค่ำกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาในรอบหลายเดือน เนื่องจากฟ้าใสผู้เป็นพี่สาวคนกลางอุตส่าห์ลาพักร้อนกลับมาพักผ่อนอยู่บ้าน เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม และนี่ก็เป็นสัปดาห์แรกได้แล้วที่ฟ้าใสมาอยู่ที่บ้านและดูเหมือนว่าทั้งพ่อกับแม่ของเธอจะเห่อกันเอาใจลูกคนกลางเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่จัดอาหารกันเต็มโต๊ะใหญ่ขนาดนี้ ลำพังแค่แฟนท์กับเฮียเฟยอยู่ที่นี่ นานๆ ทีถึงจะได้ทานของอร่อยที่พวกท่านอุตส่าห์ลงมือทำเอง“เหม่ออะไรนักหนา?” ฟ้าใสบ่นให้น้องสาว พร้อมทั้งตักข้าวเข้าปากตนเองไปด้วย“ไม่มีอะไรหรอกเจ้”“เห็นม๊าบอกว่าเธอไม่อ
ตอนที่ 10เสียอาการ3San_Chalakorn: สั่งกวยจั๊บในนี้เลยได้ไหม? มาส่งด้วยFant Falida: แม่ค้าไม่ว่าง3San_Chalakorn: งานเยอะ ลูกน้องไม่อยู่Fant Falida: งั้นก็ได้2 สัปดาห์ที่แล้วที่ชลากรมาส่งเธอกลับบ้าน เขาได้เอาโทรศัพท์ของเธอไปแอดไลน์เองเลย โดยที่ไม่ได้ถามความสมัครใจจากเจ้าของเครื่องเลยแม้แต่น้อยว่าอยากจะได้หรือไม่แต่เอาเข้าจริงแล้ว แฟนท์เองก็รู้สึกใจฟูอยู่ไม่น้อย ที่จู่ๆ ผู้ชายมาดนิ่งคุณสมบัติครบเครื่องในย่านตำบลนี้ อย่างเฮียซานจะมาขอจีบตนเอง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอกับเขาไม่เคยมีเคมีดึงดูดกันเลย ทั้งที่ก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก“ผิง เอากวยจั๊บพิเศษใส่ถุง 1” ร่างบางละสายสายออกจากหน้าจอขณะที่กำลังนั่งอยู่ในครัวเพื่อนสนิทพยักหน้ารับคำ ก่อนจะลงมือทำออเดอร์ตามที่เธอบอก โดยที่ไม่ทันได้ถามเลยว่าใครสั่งเมื่อจัดออเดอร์ที่ถุงเรียบร้อยดีแล้ว แฟนท์จึงอาสารับมาจากมือเพื่อน ก่อนจะเตรียมตัวเดินออกจากร้าน“ออเดอร์ใครหรอ?” ยังไม่ทันก้าวขาหลุดพ้นหน้าร้าน ก็ดันมีคำถามให้หนักใจตอบ“ของป้าสวยน่ะ แกไลน์มาสั่ง”“อ้าวหรอ? แต่เมื่อเช้าแกยังใช้ลูกมาซื้อไปแล้วนี่”“เอ่อ... อันนี้แกน่าจะสั่งให้ลุงหมายน่ะ” แก
ตอนที่ 11จะโดนคนแก่หลอกไหม“เงียบทำไม?” เขานั่งรอคำตอบจนขาเริ่มชาเพราะยังมีคนตัวเล็กนั่งอยู่เธอไม่รู้จะตอบอีกฝ่ายอย่างไรดี ใจหนึ่งก็กลัวผิดหวังกับความรักอีกครั้งเหมือนอย่างที่ผ่านมา แต่อีกใจหนึ่งก็อยากลองเรียนรู้เขาให้มากกว่าที่จะไปตัดสินชลากรทั้งเก่งทั้งเพียบพร้อมไปทุกอย่าง เขาโตกว่าเธอตั้งหลายปี ความคิด ประสบกาณ์ และการใช่ชีวิตไม่แตกต่านกัน“ว่าไง?” เขาถามย้ำ“กลัวจะไม่รอด”“เอาอะไรมาตัดสิน?” เขาไม่เคยต้องมาพูดแบบนี้กับใครเลย นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิต แฟนท์เองก็ควรจะดีใจ ทว่าดูท่าทีแล้วกลับไม่ใช่อย่างที่คิด“แฟนท์กับเฮีย ไม่เหมือนกันเลยสักนิด”ตั้งแต่ฐานะ ไปจนถึงการใช้ชีวิต ระหว่างเธอกับเขามันต่างกันจนไม่มีภาพในหัวเลยว่าจะไปกันรอด เท่าที่รู้มาเฮียซานไม่เคยมีแฟน เพราะเขาเป็นคนที่อยู่ได้ด้วยตัวเองเหมือนอย่างที่ผิงเคยเล่าให้ฟัง หากนั่นคือความจริง งานนี้ก็ถือว่ายากต่อการปรับตัวกันทั้งคู่“เดือนหน้าจะอายุ 30 แล้ว ใครเค้าพูดเล่นๆ กัน นับวันยิ่งแก่ขึ้น”“หือ? จริงดิ? เฮียจะ 30 แล้วจริงดิ?”“ก็เออสิ”เอาจริงๆ ถ้ามองผิวเผินแทบไม่เชื่อเลยว่าเฮียซานจะอายุ 30 แล้ว เขายังดูหนุ่มและสุขภาพดี
ตอนที่ 783 สัปดาห์ก่อนหน้านี้การเจรจาเรื่องสู่ขอฟาลิดาเป็นไปอย่างราบรื่น เสี่ยชัชชาติสิ้นลายความอีโก้ต่อพ่อของเธออย่างสิ้นเชิงรวมทั้งคู่กรณีด้วย อาจจะเป็นเพราะอำนาจมืดจากฝั่งเมียทั้งสองบ้าน เพราะพวกท่านล้วนหนักแน่นในเรื่องนี้ทั้งสองครอบครัวตกลงกันเรื่องฤกษ์งามยามดีกันไว้แล้ว เดิมทีคุณนายบ้านเจียรกิติอยากจะให้แต่สิ้นเดือนนี้เลย ทว่าฝ่ายเจ้าสาวอย่างเธอนั้นกลับปฏิเสธไปก่อน ด้วยเหตุเพราะมันเร็วเกินไป แม้จะรู้สปีริทของท่านนั้นสามารถเนรมิตวานให้เกิดขึ้นได้จริงเพียงข้ามคืนฟอดดด~"นั่งคิดอะไรอยู่ หืมม?"ร่างเล็กตัวแทบจมลงไปในอ้อมกอดของคนเพิ่งเดินออกมา"อื้ออ แน่นไปแล้วค่ะ" หายใจแทบไม่ออก นับวันชลากรยิ่งทำตัวติดเธอเข้าไปทุกที ทุกวันนี้แทบจะไม่ไปเดินตลาดดูกิจการตัวเองแล้ว เพราะเอาเวลาส่วนมากมาดูแลเมียแทน"ก็คิดถึงเมียนี่นา""กล้าพูด ก็อยู่ด้วยกันตลอด" เช้า สาย บ่าย เย็นก็เจอแต่หน้าเขาเดิมทีในเมื่อเธอเอ่ยปากบอกขอเลื่อนวานแต่งจนกว่าลูกจะคลอด ทางเฮียฮั่วก็ขอให้ฝ่ายนั้นหมั้นหมายลูกสาวตัวเองเอาไว้ก่อน อย่างน้อยก็เพื่อความสะบายใจกันสองฝ่าย แต่ประเด็นหักมันอยู่ที่ ในเมื่อยังไม่ได้แต่งกันวันนี้ ฟาล
ตอนที่ 77อนุญาต"ผมเรียนคุณน้าตรงๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเลยนะครับ""!?" นางเกสรแอบใจสั่นกับสิ่งที่ชายร่างสูงกำลังจะพูดต่อจากนี้ชลากรขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งเล็ก ก่อนจะหันมาจ้องนัยน์คนที่มีอายุมากกว่าเขา"ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าแฟนท์ได้บอกกับคุณน้ารึยังครับ เรื่องที่เธอท้อง""อะไรนะ!!!!???" คราวนี้ในฐานะคนเป็นแม่ที่มีลูกสาวทั้งสองคน เมื่อได้ฟังเรื่องที่ไม่เคยคิดมาก่อนในชีวิต กับบุคคลที่นั่งอยู่ต่อหน้าคือคนเดียวที่ลูกสาวคนเล็กเคยหนีไปอยู่กับเขา พอกลับมาบ้านได้ไม่ถึงสัปดาห์ก็มาป่าวประกาศว่าท้องจะให้คนเป็นแม่แบบเธอทำอย่างไร"ก่อนอื่นเลยผมต้องขอโทษ คุณน้าและสามีคุณน้าด้วยนะครับ ทั้งเรื่องที่ลูกสาวคุณน้าหนีไปอยู่กับผมที่กรุงเทพฯ และยังจะเป็นเรื่องที่เธอท้อง ผมไม่มีคำแก้ตัวอะไร เพราะมันคือเรื่องจริง ...ผมรักน้องครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมจริงจัง และอยากคบหาน้อง ไม่เคยคิดไม่ดีกับน้อง ไม่เคยทิ้งขว้าง ไม่เคยไม่ให้เกียรติ ส่วนเรื่องความบาดหมางของเฮียฮั่วและป๊าของผม ผมมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กและก็ไร้สาระมากเลยครับ และผมตะให้มันเกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างผมกับน้องแน่นอน ที่มาถึงบ้านคุณน้าวันนี้
ตอนที่ 76"จะกลับบ้านใช่ไหม? เดี๋ยวไปส่ง"ใบหน้าคมพยายามปรับอารมณ์ลงให้ได้มากที่สุด ก่อนหน้านี้เขาตั้งใจจะมาหาฟาลิดาที่นี่อยู่แล้ว เพราะม๊าของเขาบอกว่าว่าเธอกำลังเปลี่ยนชุด แต่แล้วพอมาถึงกลับผิดพลาดเล็กน้อย เมื่อเจอถ่านไฟเก่าของเธออยู่ด้วยนาทีแรกที่ได้เห็นหน้ามัน แทบอยากจะกระโดดสองขาให้มันลอยติดผนังห้อง เพื่อนน้องชายก็ช่างเถอะเขาไม่สน ในเมื่อมันกำลังมาแตะต้องตัวเมียเขาอยู่ซึ่งไอ้อรรถ มันก็รู้ดีว่าเขากับฟาลิดากำลังคบหากันอยู่"แหม เฮียก็... ทำเป็นอารมณ์ร้อน ของขึ้นไปได้ ผมกับแฟนท์ก็แค่ทักกันตามประสา" อัครเดชทำท่าทางไหวไหล่ เหมือนกับเป็นเรื่องขี้ประติ๋ว หรืออันที่จริงจะเรียกได้ว่าเขาไม่แคร์กับความสัมพันธ์ระหว่างเฮียซานกับแฟนท์เลยสักนิดก็แค่คนเคยเอ็นดู แต่ตอนนี้เอ็นของอรรถมันมีเจ้าของแล้ว ซึ่งไม่ใช่ฟาลิดาแน่นอนพี่ชายเพื่อนรักจะหวงก้างอะไรนักหนา นึกขึ้นได้ว่าเฮียซานชักเริ่มหวงก้างจนเสียทรง เสียมาดความเนี๊ยบ สุขุม ที่ตัวเขาสร้างมา พอนึกแบบนี้แล้วก็อดขำออกมาไม่ได้แต่แล้วเสียงหัวเราะขบขันของอรรถจำเป็นต้องหยุดะงักลง เมื่อชลากรชี้นิ้วคาดโทษ แม้แต่ฟาลิดาเองที่ยืนอยู่ข้างๆ ยังต้องหวาดกลัว"
ตอนที่ 75ถ่านไฟเก่าในช่วงใกล้ถึงยามเย็น ตะวันใกล้คล้อยลงเข้ามาทุกที ช่วงนี้เป็นเวลาคู่บ่าวสาวเริ่มเตรียมตัวเข้าหอในไม่ช้าฟาลิดาปราบปลื้มใจแทนเพื่อน ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ขนมผิงกับเฮียฉีเข้าเรือนหอตามประเพณีอย่างที่คาดหวังเอาไว้ เรื่อราวความรักและบททดสอบมากมายระหว่างคู่นี้กว่าจะผ่านพ้นมาได้ ค่อนข้างจะใช้เวลาและความเข้าอกเข้าใจกันมามากพอสมควรเธอเองก็เป็นหนึ่งในตัวละครเรื่องนี้ ย่อมรู้ดีว่ากว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ได้พวกเขาต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง สิ่งที่พวกเขาทำมันได้ดีคือการให้อภัยกัน และต้องเข้าใจกัน ปล่อยวางเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด แล้วเริ่มต้นใหม่มือบางวางทับทาบหน้าท้องนูนเล็กของตนเอง ท้องแรก หากไม่สังเกตดีๆ คงจะคิดกันไปว่าเธอแค่อวบขึ้น ซึ่งคนในงานแต่งวันนี้คงจะคิดกันแบบนั้น แม้กระทั่งเจ้าสาวในงาน ยังทักเลยว่าเธออวบขึ้นอันที่จริงเรื่องท้อง... เธอไม่ได้อยากจะปิดบังใคร ในเมื่อพ่อของลูกก็ยืนหัวโด่อยู่ในงานด้วยแท้ๆ เพียงแต่มันยังไม่ใช่จังหวะนี้ปัญหาระหว่างเธอกับเขามันยังไม่ถูกเคลียร์ ลึกๆ ในใจเเม้จะบอกเขาไปแล้วว่าต้องการห่างกันสักพัก ทว่าเอาความจริงเลย คือก็รอให้เขามาง้ออยู่ทุกวันอย่า
ตอนที่ 74งานแต่งน้องชายเมื่อได้เห็นหน้าลูกชายกลับมาอยู่บ้านอย่างที่คาดหวังมาโดยตลอด คุณนายเพลงพิณพอทราบเรื่องราวที่ผ่านมาของลูกชายคนโตบ้างแล้ว นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้คิดไม่ตกมาสักพักใหญ่ เกี่ยวกับเรื่องบาดหมาง ที่กำลังทำให้ลูกชายเธอต้องยอมปริปากสารภาพความทุกข์ใจที่มันสะสมอยู่มานานพอสมควรโดยเฉพาะเรื่องที่ฟาลิดากำลังตั้งครรภ์เธอจึงหาทางออกอย่างที่คิดว่าสมควรทำแต่ยังไม่ใช่วันนี้หรือพรุ่งนี้แน่นอนคุณนายคนเดียวของตระกูลเจียรกิติอยู่ในชุดไทยสีชมพูอ่อน งดงามตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมเผ้าถูกยกขึ้นตีโป่งให้เข้ากับใบหน้ารูปไข่ เครื่องประดับราคาแพงที่ไม่เคยคิดว่าวันนี้จะได้หยิบมาใส่อวดแขกในงาน แต่แล้วฟ้าก็ดนบรรดานมาให้ตามโอกาสเหมาะสมงานแต่งงานของลูกชายคนเล็กของเจียรกิติ วันนี้แขกเหรื่อในงานเฉพาะคนที่รู้จักเสี่ยชัชชาติก็ปาไปแล้วเกือบทั้งจังหวัด ยังไม่รวมกับสมาคมคุณหญิงคุณนายฝ่ายเธออีกส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวกับฝั่งเจ้าสาวก็มีมากพอสมควร งานแต่งคราวนี้ก็เลยเนื่องแน่นยิ่งกว่างานประจำจังหวัดขณะที่กำลังยืนนิ้มปลื้มปิติในงานวันนี้ ก็มีชายหนุ่มในชุดสูทสีเดียวกันกับเธอเดินมาดมั่นมาทางนี้"ม๊าครับ งานจะเริ่มแ
ตอนที่ 73ผ่านมา 2 วันแล้วกับการตัดสินใจกลับมาอยู่ที่บ้าน ฟาลิดาเอาแต่ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องนอนไม่ออกไปไหน ไม่อยากออกไปฟังคำแขวะจากปากของป๊าตัวเองที่เอาแต่เย้ยหยันลูกสาวที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อแม้แต่เรื่องมันนานมากแล้ว เฮียฮั่วก็ยังไม่เคยลืม หรือคิดจะทิ้งมันไปจากสมองคนตัวเล็กเอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปทางหน้าต่าง หลังจากที่ชลากรเป็นคนขับรถมาส่งเธอถึงที่ ได้เข้ามาในบ้านทักทายป๊าม๊าของเธออยู่สองสามประโยคก็กลับไปป่านนี้เขาคงยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวเรื่องงานแต่งของฉีกับผิงอยู่เช่นกัน'จะเอาอย่างนี้จริงๆ เหรอ?''แฟนท์คิดดีแล้ว''เฮียทำอะไรให้เธอต้องขุ่นข้องหมองใจ พูดกันมาตอนนี้เลยก็ได้ ขอร้องเถอะ โตๆ กันแล้ว แล้วนี่ท้องไส้นับวันยิ่งโตขึ้น อย่าคิดอะไรเด็กๆ แบบนี้ได้ไหม?''คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก ... ใช่ไง! ก็เป็นเด็กแบบนี้มาตั้งนานแล้วไง เพิ่งจะรู้?''โถ่เว้ย!' เขาทุบพวงมาลัยเสียงดัง'ป๊าเฮียก็พูดถูก แฟนท์ว่าเราไม่เหมาะกันหรอก หรือเราควรเลิก?''ไม่เลิก! ให้ตายยังไงก็ไม่เลิก เธอกลับไปคิดดีๆ ก็แล้วกันนะ ลูกน่ะ จะอยู่ได้ยังไงถ้าพ่อแม่ต้องแยกทางกัน คิดให้ดี อย่าเอาแต่ใจตัวเอง'คำก็เด็ก... คำก็เอาแต่ใจ งี
ตอนที่ 72"เฮียไม่คิดเลยนะ ว่าเธอจะเป็นเอาหนักขนาดนี้? ช่วยน่ารักเหมือนวันแรกที่เจอกันหน่อยได้ไหม? ทำไมต้องเอาแต่ใจตัวเองด้วย?"คำพูดของเขาดังก้องเข้าโสตประสาทการรับรู้ของเธอได้อย่างชัดเจน คนฟังอย่างเธอสลดใจอยู่ไม่ใช่น้อย ในหัวมันมีคำถามเต็มไปหมดอย่างแรกคือทุกวันนี้เธอไม่น่ารักเหมือนวันแรกที่เจอกันตรงไหนน้ำตาเจ้ากรรมมันเริ่มทำงาน ไล่ขึ้นมาจากทรวงอกจนถึงเบ้าตา หลั่งเอาน้ำสีใสเค็มๆ คลอเคลียอยู่รอวันไปปลดปล่อยอาบสองแก้มนวลใจเจ้ากรรมก็ดันเจ็บปวดกับคำพูดเขาขึ้นมาเสียดื้อๆ ไม่รู้ว่าเพราะฮอร์โมนปรับเปลี่ยนจากการตั้งครรภ์ หรือเพราะความงี่เง่าเจ้าบทบาทอย่างที่เขากล่าวหาหากจะเอาง่ายๆ ถ้าเขาอยากจะพูดคำว่าเบื่อก็ควรบอกกันตามตรงหรือถ้ามันยากนักที่จะต้องพูดคำๆ นั้นออกมา เธอนี่แหละที่จะพูดออกมาเอง"แฟนท์จะกลับบ้านพรุ่งนี้ ไปช่วยเตรียมงานแต่งผิง" ระหว่างนี้เขาก็คิดเอาเองละกันว่าที่ผ่านมาเรื่องของเรา มันควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้เธอยังไม่อยากจะใช้คำว่าเลิก เพราะยังมีอีกหนึ่งชีวิตในท้องแต่ถ้าชีวิตคู่มันยังไปต่อด้วยกันยาก สามวันดีสี่วันไข้อยู่แบบนี้ บอกตามตรงเลยว่าเธอมองไม่เห็นอนาคตร่างบางเดินไปรื้อ
ตอนที่ 71ชลากรรีบบึ่งรถกลับมาที่คอนโดฯ หลังจากเคลียร์งานตัวเองเสร็จสับ ฟ้าลดาส่งข้อความมาให้เขารีบกลับโดยด่วน เหตุเพราะน้องสาวตัวเองไม่ต้อนรับการมาเยี่ยมเยือนของเธอจากที่คิดเอาไว้ว่าอยากให้สองพี่น้องได้มีโอกาสอยู่ด้วยกัน เพื่อปรับความเข้าใจ กลับกลายเป็นว่าเขากำลังหาเรื่องใส่ตัวเเท้ๆร่างสูงเข้ามาถึงภายในห้องกวาดสายตามองก็เห็นอย่างที่อีกคนส่งข้อความมารายงานคนท้องแรกเริ่มนั่งทำตาขลึงใส่พี่สาวตัวเองที่นั่งอีกมุมห้อง ขณะที่ฟ้าลดาเองหอบงานตัวเองขึ้นมาทำไปพลางๆ"เอ้า ...เฮียซาน มาพอดีเลย" เป็นฟ้าลดาที่ผละหน้าออกจากเอกสารในมือ แล้วหันมาสนใจคนมาใหม่ ส่วนอีกคนที่ยังนั่งแยกเขี้ยวใส่พี่สาว แม้ว่าจะเห็นแล้วว่าเขามาถึง ทว่าก็ยังไม่ให้ความสนใจ"จะเย็นแล้ว ทานไรกันยัง?" เขาถาม พลางหันหน้าไปเอาคำตอบจากฟาลิดาคนนั่งหน้าบูดปรับเปลี่ยนอารมณ์เล็กน้อย แต่ยังคงความตึงใส่อยู่ก็แค่ไม่พอใจที่เขาชวนพี่สาวเธอมาที่นี่ ทั้งๆ ที่ควรจะถามความสมัครใจกันก่อน ว่าอยากต้อนรับแขกหรือไม่"ยังเลยค่ะ นี่กะว่ารอเฮียกลับมา แล้วจะชวนออกไปกินข้าวข้างนอกกัน เห็นว่าแถวนี้มีร้านอาหารยุโรป อร่อยๆ เลยอยากลอง"ร่างอรชรลุกขึ้นยืน
ตอนที่ 70เฝ้าน้องชลากรจำเป็นต้องพาลูกเมียกลับไปที่คอนโดฯ ก่อน ภายหลังจากพาไปหาหมอ เขามีงานด่วนที่ต้องแก้ไข ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดของตัวเองแล้วแท้ๆ อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าคนท้องจะอยู่คนเดียวไม่ได้เพราะประเมินจากที่ตัวเองเห็นแล้วว่าเมื่อเช้าฟาลิดายังอาเจียนและเวียนหัวไม่หยุด อาการของคนแพ้ท้องก็คงประมาณนี้ ยิ่งเห็นยิ่งรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เธอต้องอยู่คนเดียวเขาจึงตัดสินใจยกหูต่อสายไปยังพี่สาวคนเดียวของฟาลิดา เขาเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ให้พี่สาวเธอฟัง ระหว่างขับรถออกไปยังบริษัท โชคดีที่ฟ้าลดาเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย จึงไหว้วานเธอให้ไปที่คอนโดฯ ของตนอีกนัยยะสำคัญอย่างหนึ่ง ก็เพื่อหวังว่าคนที่มีสายเลือดเดียวกัน จะปรับความเข้าใจกันบ้าง ไม่มากก็น้อยอย่างไรเสียเลือดก็ย่อมข้นกว่าน้ำ เขาไม่รู้หรอกว่าทำไมฟาลิดาถึงไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่สาวตัวเอง แต่คิดว่าหากมีฟ้าลดามาคอยช่วยเหลือระหว่างที่อีกคนอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ นั่นอาจจะเป็นโอกาสที่ดีทำให้สองคนนั้นสนิทกันมากขึ้นกระทั่งเขาขับรถมาถึงที่ทำงาน และขลุกอยู่หน้าคอมฯ เพื่อดูปัญหาที่เกิดขึ้นจากคนของเขาที่ส่งมาให้ดูทางเมลล์ก็อกๆๆ"เชิญ!"เมื่อเจ้าของห้องอนุญา