ตอนที่ 76"จะกลับบ้านใช่ไหม? เดี๋ยวไปส่ง"ใบหน้าคมพยายามปรับอารมณ์ลงให้ได้มากที่สุด ก่อนหน้านี้เขาตั้งใจจะมาหาฟาลิดาที่นี่อยู่แล้ว เพราะม๊าของเขาบอกว่าว่าเธอกำลังเปลี่ยนชุด แต่แล้วพอมาถึงกลับผิดพลาดเล็กน้อย เมื่อเจอถ่านไฟเก่าของเธออยู่ด้วยนาทีแรกที่ได้เห็นหน้ามัน แทบอยากจะกระโดดสองขาให้มันลอยติดผนังห้อง เพื่อนน้องชายก็ช่างเถอะเขาไม่สน ในเมื่อมันกำลังมาแตะต้องตัวเมียเขาอยู่ซึ่งไอ้อรรถ มันก็รู้ดีว่าเขากับฟาลิดากำลังคบหากันอยู่"แหม เฮียก็... ทำเป็นอารมณ์ร้อน ของขึ้นไปได้ ผมกับแฟนท์ก็แค่ทักกันตามประสา" อัครเดชทำท่าทางไหวไหล่ เหมือนกับเป็นเรื่องขี้ประติ๋ว หรืออันที่จริงจะเรียกได้ว่าเขาไม่แคร์กับความสัมพันธ์ระหว่างเฮียซานกับแฟนท์เลยสักนิดก็แค่คนเคยเอ็นดู แต่ตอนนี้เอ็นของอรรถมันมีเจ้าของแล้ว ซึ่งไม่ใช่ฟาลิดาแน่นอนพี่ชายเพื่อนรักจะหวงก้างอะไรนักหนา นึกขึ้นได้ว่าเฮียซานชักเริ่มหวงก้างจนเสียทรง เสียมาดความเนี๊ยบ สุขุม ที่ตัวเขาสร้างมา พอนึกแบบนี้แล้วก็อดขำออกมาไม่ได้แต่แล้วเสียงหัวเราะขบขันของอรรถจำเป็นต้องหยุดะงักลง เมื่อชลากรชี้นิ้วคาดโทษ แม้แต่ฟาลิดาเองที่ยืนอยู่ข้างๆ ยังต้องหวาดกลัว"
ตอนที่ 77อนุญาต"ผมเรียนคุณน้าตรงๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเลยนะครับ""!?" นางเกสรแอบใจสั่นกับสิ่งที่ชายร่างสูงกำลังจะพูดต่อจากนี้ชลากรขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งเล็ก ก่อนจะหันมาจ้องนัยน์คนที่มีอายุมากกว่าเขา"ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าแฟนท์ได้บอกกับคุณน้ารึยังครับ เรื่องที่เธอท้อง""อะไรนะ!!!!???" คราวนี้ในฐานะคนเป็นแม่ที่มีลูกสาวทั้งสองคน เมื่อได้ฟังเรื่องที่ไม่เคยคิดมาก่อนในชีวิต กับบุคคลที่นั่งอยู่ต่อหน้าคือคนเดียวที่ลูกสาวคนเล็กเคยหนีไปอยู่กับเขา พอกลับมาบ้านได้ไม่ถึงสัปดาห์ก็มาป่าวประกาศว่าท้องจะให้คนเป็นแม่แบบเธอทำอย่างไร"ก่อนอื่นเลยผมต้องขอโทษ คุณน้าและสามีคุณน้าด้วยนะครับ ทั้งเรื่องที่ลูกสาวคุณน้าหนีไปอยู่กับผมที่กรุงเทพฯ และยังจะเป็นเรื่องที่เธอท้อง ผมไม่มีคำแก้ตัวอะไร เพราะมันคือเรื่องจริง ...ผมรักน้องครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมจริงจัง และอยากคบหาน้อง ไม่เคยคิดไม่ดีกับน้อง ไม่เคยทิ้งขว้าง ไม่เคยไม่ให้เกียรติ ส่วนเรื่องความบาดหมางของเฮียฮั่วและป๊าของผม ผมมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กและก็ไร้สาระมากเลยครับ และผมตะให้มันเกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างผมกับน้องแน่นอน ที่มาถึงบ้านคุณน้าวันนี้
ตอนที่ 783 สัปดาห์ก่อนหน้านี้การเจรจาเรื่องสู่ขอฟาลิดาเป็นไปอย่างราบรื่น เสี่ยชัชชาติสิ้นลายความอีโก้ต่อพ่อของเธออย่างสิ้นเชิงรวมทั้งคู่กรณีด้วย อาจจะเป็นเพราะอำนาจมืดจากฝั่งเมียทั้งสองบ้าน เพราะพวกท่านล้วนหนักแน่นในเรื่องนี้ทั้งสองครอบครัวตกลงกันเรื่องฤกษ์งามยามดีกันไว้แล้ว เดิมทีคุณนายบ้านเจียรกิติอยากจะให้แต่สิ้นเดือนนี้เลย ทว่าฝ่ายเจ้าสาวอย่างเธอนั้นกลับปฏิเสธไปก่อน ด้วยเหตุเพราะมันเร็วเกินไป แม้จะรู้สปีริทของท่านนั้นสามารถเนรมิตวานให้เกิดขึ้นได้จริงเพียงข้ามคืนฟอดดด~"นั่งคิดอะไรอยู่ หืมม?"ร่างเล็กตัวแทบจมลงไปในอ้อมกอดของคนเพิ่งเดินออกมา"อื้ออ แน่นไปแล้วค่ะ" หายใจแทบไม่ออก นับวันชลากรยิ่งทำตัวติดเธอเข้าไปทุกที ทุกวันนี้แทบจะไม่ไปเดินตลาดดูกิจการตัวเองแล้ว เพราะเอาเวลาส่วนมากมาดูแลเมียแทน"ก็คิดถึงเมียนี่นา""กล้าพูด ก็อยู่ด้วยกันตลอด" เช้า สาย บ่าย เย็นก็เจอแต่หน้าเขาเดิมทีในเมื่อเธอเอ่ยปากบอกขอเลื่อนวานแต่งจนกว่าลูกจะคลอด ทางเฮียฮั่วก็ขอให้ฝ่ายนั้นหมั้นหมายลูกสาวตัวเองเอาไว้ก่อน อย่างน้อยก็เพื่อความสะบายใจกันสองฝ่าย แต่ประเด็นหักมันอยู่ที่ ในเมื่อยังไม่ได้แต่งกันวันนี้ ฟาล
Introหลวมตัวเข้ามาแล้วซ่าส์!!!เสียงสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักหน่วง พร้อมกับลมกระโชกแรงที่พักปลิวเศษไม้ใบหญ้าไปมาร่อนกลางฝน เสียงเอียดอ๊าดของต้นไม้ใหญ่ที่ลำต้นมันยืนเสียดสีกันไปมาจนเกิดเสียงดังชัดเจน ทำเอาใจของคนที่ยืนหลบอยู่ใต้หลังคาโรงจอดรถหน้าตลาดถึงกับหวั่นกลัวว่ามันจะหักลงมาทับตนเองได้ไม่ช้าก็นานเป็นเวลาหกโมงเย็นเศษๆ ที่แฟนท์ยืนหลบฝนอยู่ใต้หลังคาโรงจอดรถนี้ บอกตามตรงว่าเธอเริ่มท้อใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าตนเองจะได้กลับบ้านตามเวลา ก็ในเมื่อฝนยังคงตกหนักหน่วงอยู่เช่นเดิม คงต้องติดอยู่ที่นี่จนมืดค่ำอย่างแน่นอน“รู้งี้ยอมให้ป๊ากับม๊าซื้อรถให้ดีกว่า” ร่างบางยืนพึมพำตัดพ้อถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาดไปของตนเองท่ามกลางเสียงฝนกระทบหลังคาสังกะสีโรงจอดรถอย่างต่อเนื่องที่ต้องบ่นเช่นนั้นก็เป็นเพราะว่า เธอมาขายของที่ตลาดในแต่ละวันได้ เพราะใช้รถจักรยานยนต์คันเก่งของตัวเองมาทุกวัน เนื่องจากเธอขับรถยนต์ไม่เป็นอย่างใครอื่นในวัยไล่เลี่ยกันทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวเอ่ยปากว่าจะซื้อรถคันใหม่ให้เพื่อจะได้มีความสะดวกสบายมากกว่าที่เป็นอยู่ ทว่าเธอกลับไม่อยากได้มันแต่ตอนนี้แฟนท์ต้องคิดใหม่อีกครั้งแ
ตอนที่ 1 ขึ้นรถผิด ชีวิตเปลี่ยน โครงการคอนโดมิเนียมหรูแห่งใหม่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเขตพื้นที่เศรษฐกิจใหม่และอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก วิวรอบนอกหลายห้องถูกจัดแต่งในเห็นด้านนอกในลักษณะพาโนรามา สามารถมองเห็นทะเลฝั่งอ่าวไทยได้อย่างชัดเจน ส่วนมากทางโครงการจะจัดขายห้องให้เฉพาะลูกค้าชาวญี่ปุ่นและต่างชาติที่เข้ามาทำงานในกลุ่มอุตสาหกรรมภาคตะวันออกและนักลงทุนเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากราคาห้องที่สูงเกินกว่ามนุษย์เงินเดือนหลายคนจะจับต้องได้ ทว่าไม่ใช่กับคนอย่างซาน ชลากร เจียรกิติ “เลิกทำหน้าและท่าทางแบบนั้นได้แล้ว สายล่อฟ้าเต็มทั่วตึก เผื่อเธอไม่รู้” ร่างสูงเดินหยิบเสื้อยืดพร้อมกางเกงที่คิดว่าเล็กที่สุดในตู้ออกมาให้กับแขกไม่รับเชิญที่กำลังนั่งขดตัวหนาวสั่นเพราะได้รับไอฝนจากตอนก่อนหน้าที่จะมาถึงคอนโดของเขา เขาไม่รู้และไม่เข้าใจเลยว่าสาวน้อยกลัวฝนคนนี้เข้ามาอยู่ในรถของเขาได้อย่างไรกัน แถมยังไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมลงจากรถเขาง่ายๆ จนต้องติดสอยห้อยตามมาถึงที่พักอย่างจำยอม “ปิดม่านได้ไหม?” ในที่สุดสาวน้อยกลัวฝนคนนี้ก็ยอมเปิดปากพูดออกมา ทว่าประโยคที่เธอบอก กลับไม่ใช่คำตอบที่เขาอยากฟัง แต่กระนั้นร่างสูง
ตอนที่ 2ย่องเบา21.00 น.“จะนั่งอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม?”“….”ร่างสูงเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ตอนนี้อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็ยังกลับมานั่งนิ่งตรงโซฟาของเขาอีกเช่นเคย จนกระทั่งเขาเข้าไปอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว เธอก็ยังนั่งอยู่แบบนี้ไม่กระดิกตัวไปไหน แน่นอนว่าเธอคงคิดหาทางกลับบ้านตัวเองอยู่ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายดังความคิดในหัว เนื่องด้วยสภาพอากาศที่ไม่เอื้อ ทั้งยังไม่มีรถโดยสารให้แฟนท์ได้ใช้บริการในเวลานี้อีกแล้ว หากจะกลับบ้านถ้าเขาไม่ยอมไปส่ง แน่นอนว่าเธอต้องติดแงกอยู่ที่นี่จนกว่าจะเช้า“แฟนท์ทำโทรศัพท์ตกไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ น่าจะตอนหลบฝนที่ตลาด จะโทรให้เฮียเฟยมารับก็ไม่ได้ ถ้าฝนหยุดตกแล้วเฮียซาน .... ไปส่งได้ไหม? ถึงบ้านแล้วเดี๋ยวแฟนท์จะให้ค่าน้ำมันเลย”ชลากรนึกขำกับคำพูดคำจาที่ออกมาจากปากของแฟนท์ นี่เขาดูเหมือนคนไม่มีอันจะกินขนาดนั้นเลยเหรอ เธอถึงได้จะให้เงินเขาถ้าหากยอมไปส่ง หรือว่าเด็กนี่กลัวฝนฟ้ามากจนประสาทไปแล้ว ถึงได้ไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร มาเซราติคันคู่ใจราคาหลายสิบล้านของเขา ไม่เคยปล่อยให้น้ำค่อนถังเลยแม้แต่ครั้งเดียว แล้วทำไมเขาถึงจะต้องทำตามอย่างที่เด็กคนนี้บอกด้วยบ้าไปแล
ตอนที่ 3อยากช่วยร่างบางเดินมาถึงเดินในครัวในเวลาต่อมา มือเรียวค่อยๆ เปิดฝาตู้เย็นอย่างเบามือเพื่อทำให้เกิดเสียงในนี้เบาที่สุด แม้ว่าเธอจะเข้ามาโดยที่ไม่ได้เปิดไฟสักดวง แต่ก็ยังหวาดกลัวว่าคนที่นอนหลับในห้องทำงานอาจจะตื่นขึ้นมาได้“แฟนท์ไม่ได้ขโมยนะ สัญญาว่ากลับบ้านพรุ่งนี้แล้วจะซื้อมาคืน”คนตัวเล็กยืนพูดอยู่หน้าตู้เย็นคนเดียว และอย่างที่บอก เธอไม่ได้มีเจตนาอยากจะลักขโมย เพียงแค่เป็นหยิบยืมของกินก่อน โดยที่ไม่ทันได้บอกเจ้าของห้องดวงตาคู่สวยกวาดสำรวจมองไปยังชั้นต่างๆ ภายในตู้เย็น ก่อนจะเห็นอาหารกระป๋องหลายอย่าง รวมทั้งพวกน้ำผลไม้กล่องมากมายเกือบเต็มตู้ อาหารสุขภาพมากมายหลากชนิด รวมทั้งพวกธัญพืชที่สายดูแลสุขภาพมักจะมีติดตู้เอาไว้ ชลากรก็เป็นหนึ่งคนในประชากรสายสุขภาพเช่นกัน ซึ่งเธอไม่แปลกใจเลยสักนิดร่างบางรีบเลือกหยิบของที่ถูกสุดในนั้น ก่อนจะวางและแกะมันลงไว้ตรงโต๊ะเคาท์เตอร์ที่อยู่ตรงหน้า‘แล้วแฟนท์จะซื้อมาคืนนะเฮีย’คราวนี้หญิงสาวรีบลงมือทานด้วยความหิวโหยที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เย็นหลังเลิกงาน เพราะความหิวตอนนี้เลยต้องตัวสั่นปากสั่น ทั้งยังตักอาหารกระป๋องเข้าปากด้วยความโหยอย่างถึ
ตอนที่ 4เลิกคิดไม่ได้วันต่อมา...“ไอ้แฟนท์โว๊ย!!”“ห... ห๊ะ!?” แฟนท์สะดุ้งโหยงขึ้นหลังตรง เมื่อได้ยินเสียงเรียกข้างหูดังขึ้น“รู้สึกตัวช้านะ เป็นอะไรทั้งวันเลยเนี่ย ไม่สบายหรือเปล่า?”เสียงแปดหลอดของอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ แฟนท์ส่งเสียงดังขึ้นไปทั่วร้าน อันที่จริงขนมผิงเรียกเพื่อนนานแล้ว ทว่ากว่าที่อีกคนจะรู้สึกตัว ก็ปาเข้าหลายนาทีแล้ว ทำเอาเธอเกิดความสงสัยในปฏิกิริยาท่าทางของเพื่อนสนิท“เอ่อ... ป... เปล่าๆ”ตึก!“โต๊ะ 4” ขนมผิงยื่นชามใหญ่ลงใส่ถาดให้แฟนท์ไปเสิร์ฟ เธอรอเพื่อนนานแล้ว ก่อนที่กวยจั๊บในถ้วยมันจะเย็นชืดไปหมด หากต้องรอนานกว่านี้ผ่านมาครึ่งค่อนวันแล้วผิงรู้สึกถึงความผิดปกติของเพื่อนสนิทที่เปลี่ยนไป แล้วไหนจะเมื่อเช้าอีก ที่เธอเห็นเพื่อนเดินลงมาจากรถหรูราคาแพงที่ขับมาส่ง ซึ่งผิงรู้ว่านั่นคงไม่ใช่รถของคนในครอบครัวของแฟนท์อย่างแน่นอน หากแต่ในใจมันกลับรู้สึกคุ้นตากับรถคันเมื่อเช้าอยู่บ้าง ทว่ายังนึกไม่ออกว่าเจ้าของรถคือใครและตั้งแต่เมื่อเช้าผิงได้ถามกับเพื่อนไปแล้วว่าใครมาส่ง แต่กลับไร้ซึ่งคำตอบจากปากเพื่อนสนิทร่างบางเดินกลับมานั่งที่โต๊ะเดิมหลังจากที่ไปเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าเสร็
ตอนที่ 783 สัปดาห์ก่อนหน้านี้การเจรจาเรื่องสู่ขอฟาลิดาเป็นไปอย่างราบรื่น เสี่ยชัชชาติสิ้นลายความอีโก้ต่อพ่อของเธออย่างสิ้นเชิงรวมทั้งคู่กรณีด้วย อาจจะเป็นเพราะอำนาจมืดจากฝั่งเมียทั้งสองบ้าน เพราะพวกท่านล้วนหนักแน่นในเรื่องนี้ทั้งสองครอบครัวตกลงกันเรื่องฤกษ์งามยามดีกันไว้แล้ว เดิมทีคุณนายบ้านเจียรกิติอยากจะให้แต่สิ้นเดือนนี้เลย ทว่าฝ่ายเจ้าสาวอย่างเธอนั้นกลับปฏิเสธไปก่อน ด้วยเหตุเพราะมันเร็วเกินไป แม้จะรู้สปีริทของท่านนั้นสามารถเนรมิตวานให้เกิดขึ้นได้จริงเพียงข้ามคืนฟอดดด~"นั่งคิดอะไรอยู่ หืมม?"ร่างเล็กตัวแทบจมลงไปในอ้อมกอดของคนเพิ่งเดินออกมา"อื้ออ แน่นไปแล้วค่ะ" หายใจแทบไม่ออก นับวันชลากรยิ่งทำตัวติดเธอเข้าไปทุกที ทุกวันนี้แทบจะไม่ไปเดินตลาดดูกิจการตัวเองแล้ว เพราะเอาเวลาส่วนมากมาดูแลเมียแทน"ก็คิดถึงเมียนี่นา""กล้าพูด ก็อยู่ด้วยกันตลอด" เช้า สาย บ่าย เย็นก็เจอแต่หน้าเขาเดิมทีในเมื่อเธอเอ่ยปากบอกขอเลื่อนวานแต่งจนกว่าลูกจะคลอด ทางเฮียฮั่วก็ขอให้ฝ่ายนั้นหมั้นหมายลูกสาวตัวเองเอาไว้ก่อน อย่างน้อยก็เพื่อความสะบายใจกันสองฝ่าย แต่ประเด็นหักมันอยู่ที่ ในเมื่อยังไม่ได้แต่งกันวันนี้ ฟาล
ตอนที่ 77อนุญาต"ผมเรียนคุณน้าตรงๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเลยนะครับ""!?" นางเกสรแอบใจสั่นกับสิ่งที่ชายร่างสูงกำลังจะพูดต่อจากนี้ชลากรขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งเล็ก ก่อนจะหันมาจ้องนัยน์คนที่มีอายุมากกว่าเขา"ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าแฟนท์ได้บอกกับคุณน้ารึยังครับ เรื่องที่เธอท้อง""อะไรนะ!!!!???" คราวนี้ในฐานะคนเป็นแม่ที่มีลูกสาวทั้งสองคน เมื่อได้ฟังเรื่องที่ไม่เคยคิดมาก่อนในชีวิต กับบุคคลที่นั่งอยู่ต่อหน้าคือคนเดียวที่ลูกสาวคนเล็กเคยหนีไปอยู่กับเขา พอกลับมาบ้านได้ไม่ถึงสัปดาห์ก็มาป่าวประกาศว่าท้องจะให้คนเป็นแม่แบบเธอทำอย่างไร"ก่อนอื่นเลยผมต้องขอโทษ คุณน้าและสามีคุณน้าด้วยนะครับ ทั้งเรื่องที่ลูกสาวคุณน้าหนีไปอยู่กับผมที่กรุงเทพฯ และยังจะเป็นเรื่องที่เธอท้อง ผมไม่มีคำแก้ตัวอะไร เพราะมันคือเรื่องจริง ...ผมรักน้องครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมจริงจัง และอยากคบหาน้อง ไม่เคยคิดไม่ดีกับน้อง ไม่เคยทิ้งขว้าง ไม่เคยไม่ให้เกียรติ ส่วนเรื่องความบาดหมางของเฮียฮั่วและป๊าของผม ผมมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กและก็ไร้สาระมากเลยครับ และผมตะให้มันเกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างผมกับน้องแน่นอน ที่มาถึงบ้านคุณน้าวันนี้
ตอนที่ 76"จะกลับบ้านใช่ไหม? เดี๋ยวไปส่ง"ใบหน้าคมพยายามปรับอารมณ์ลงให้ได้มากที่สุด ก่อนหน้านี้เขาตั้งใจจะมาหาฟาลิดาที่นี่อยู่แล้ว เพราะม๊าของเขาบอกว่าว่าเธอกำลังเปลี่ยนชุด แต่แล้วพอมาถึงกลับผิดพลาดเล็กน้อย เมื่อเจอถ่านไฟเก่าของเธออยู่ด้วยนาทีแรกที่ได้เห็นหน้ามัน แทบอยากจะกระโดดสองขาให้มันลอยติดผนังห้อง เพื่อนน้องชายก็ช่างเถอะเขาไม่สน ในเมื่อมันกำลังมาแตะต้องตัวเมียเขาอยู่ซึ่งไอ้อรรถ มันก็รู้ดีว่าเขากับฟาลิดากำลังคบหากันอยู่"แหม เฮียก็... ทำเป็นอารมณ์ร้อน ของขึ้นไปได้ ผมกับแฟนท์ก็แค่ทักกันตามประสา" อัครเดชทำท่าทางไหวไหล่ เหมือนกับเป็นเรื่องขี้ประติ๋ว หรืออันที่จริงจะเรียกได้ว่าเขาไม่แคร์กับความสัมพันธ์ระหว่างเฮียซานกับแฟนท์เลยสักนิดก็แค่คนเคยเอ็นดู แต่ตอนนี้เอ็นของอรรถมันมีเจ้าของแล้ว ซึ่งไม่ใช่ฟาลิดาแน่นอนพี่ชายเพื่อนรักจะหวงก้างอะไรนักหนา นึกขึ้นได้ว่าเฮียซานชักเริ่มหวงก้างจนเสียทรง เสียมาดความเนี๊ยบ สุขุม ที่ตัวเขาสร้างมา พอนึกแบบนี้แล้วก็อดขำออกมาไม่ได้แต่แล้วเสียงหัวเราะขบขันของอรรถจำเป็นต้องหยุดะงักลง เมื่อชลากรชี้นิ้วคาดโทษ แม้แต่ฟาลิดาเองที่ยืนอยู่ข้างๆ ยังต้องหวาดกลัว"
ตอนที่ 75ถ่านไฟเก่าในช่วงใกล้ถึงยามเย็น ตะวันใกล้คล้อยลงเข้ามาทุกที ช่วงนี้เป็นเวลาคู่บ่าวสาวเริ่มเตรียมตัวเข้าหอในไม่ช้าฟาลิดาปราบปลื้มใจแทนเพื่อน ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ขนมผิงกับเฮียฉีเข้าเรือนหอตามประเพณีอย่างที่คาดหวังเอาไว้ เรื่อราวความรักและบททดสอบมากมายระหว่างคู่นี้กว่าจะผ่านพ้นมาได้ ค่อนข้างจะใช้เวลาและความเข้าอกเข้าใจกันมามากพอสมควรเธอเองก็เป็นหนึ่งในตัวละครเรื่องนี้ ย่อมรู้ดีว่ากว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ได้พวกเขาต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง สิ่งที่พวกเขาทำมันได้ดีคือการให้อภัยกัน และต้องเข้าใจกัน ปล่อยวางเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด แล้วเริ่มต้นใหม่มือบางวางทับทาบหน้าท้องนูนเล็กของตนเอง ท้องแรก หากไม่สังเกตดีๆ คงจะคิดกันไปว่าเธอแค่อวบขึ้น ซึ่งคนในงานแต่งวันนี้คงจะคิดกันแบบนั้น แม้กระทั่งเจ้าสาวในงาน ยังทักเลยว่าเธออวบขึ้นอันที่จริงเรื่องท้อง... เธอไม่ได้อยากจะปิดบังใคร ในเมื่อพ่อของลูกก็ยืนหัวโด่อยู่ในงานด้วยแท้ๆ เพียงแต่มันยังไม่ใช่จังหวะนี้ปัญหาระหว่างเธอกับเขามันยังไม่ถูกเคลียร์ ลึกๆ ในใจเเม้จะบอกเขาไปแล้วว่าต้องการห่างกันสักพัก ทว่าเอาความจริงเลย คือก็รอให้เขามาง้ออยู่ทุกวันอย่า
ตอนที่ 74งานแต่งน้องชายเมื่อได้เห็นหน้าลูกชายกลับมาอยู่บ้านอย่างที่คาดหวังมาโดยตลอด คุณนายเพลงพิณพอทราบเรื่องราวที่ผ่านมาของลูกชายคนโตบ้างแล้ว นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้คิดไม่ตกมาสักพักใหญ่ เกี่ยวกับเรื่องบาดหมาง ที่กำลังทำให้ลูกชายเธอต้องยอมปริปากสารภาพความทุกข์ใจที่มันสะสมอยู่มานานพอสมควรโดยเฉพาะเรื่องที่ฟาลิดากำลังตั้งครรภ์เธอจึงหาทางออกอย่างที่คิดว่าสมควรทำแต่ยังไม่ใช่วันนี้หรือพรุ่งนี้แน่นอนคุณนายคนเดียวของตระกูลเจียรกิติอยู่ในชุดไทยสีชมพูอ่อน งดงามตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมเผ้าถูกยกขึ้นตีโป่งให้เข้ากับใบหน้ารูปไข่ เครื่องประดับราคาแพงที่ไม่เคยคิดว่าวันนี้จะได้หยิบมาใส่อวดแขกในงาน แต่แล้วฟ้าก็ดนบรรดานมาให้ตามโอกาสเหมาะสมงานแต่งงานของลูกชายคนเล็กของเจียรกิติ วันนี้แขกเหรื่อในงานเฉพาะคนที่รู้จักเสี่ยชัชชาติก็ปาไปแล้วเกือบทั้งจังหวัด ยังไม่รวมกับสมาคมคุณหญิงคุณนายฝ่ายเธออีกส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวกับฝั่งเจ้าสาวก็มีมากพอสมควร งานแต่งคราวนี้ก็เลยเนื่องแน่นยิ่งกว่างานประจำจังหวัดขณะที่กำลังยืนนิ้มปลื้มปิติในงานวันนี้ ก็มีชายหนุ่มในชุดสูทสีเดียวกันกับเธอเดินมาดมั่นมาทางนี้"ม๊าครับ งานจะเริ่มแ
ตอนที่ 73ผ่านมา 2 วันแล้วกับการตัดสินใจกลับมาอยู่ที่บ้าน ฟาลิดาเอาแต่ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องนอนไม่ออกไปไหน ไม่อยากออกไปฟังคำแขวะจากปากของป๊าตัวเองที่เอาแต่เย้ยหยันลูกสาวที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อแม้แต่เรื่องมันนานมากแล้ว เฮียฮั่วก็ยังไม่เคยลืม หรือคิดจะทิ้งมันไปจากสมองคนตัวเล็กเอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปทางหน้าต่าง หลังจากที่ชลากรเป็นคนขับรถมาส่งเธอถึงที่ ได้เข้ามาในบ้านทักทายป๊าม๊าของเธออยู่สองสามประโยคก็กลับไปป่านนี้เขาคงยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวเรื่องงานแต่งของฉีกับผิงอยู่เช่นกัน'จะเอาอย่างนี้จริงๆ เหรอ?''แฟนท์คิดดีแล้ว''เฮียทำอะไรให้เธอต้องขุ่นข้องหมองใจ พูดกันมาตอนนี้เลยก็ได้ ขอร้องเถอะ โตๆ กันแล้ว แล้วนี่ท้องไส้นับวันยิ่งโตขึ้น อย่าคิดอะไรเด็กๆ แบบนี้ได้ไหม?''คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก ... ใช่ไง! ก็เป็นเด็กแบบนี้มาตั้งนานแล้วไง เพิ่งจะรู้?''โถ่เว้ย!' เขาทุบพวงมาลัยเสียงดัง'ป๊าเฮียก็พูดถูก แฟนท์ว่าเราไม่เหมาะกันหรอก หรือเราควรเลิก?''ไม่เลิก! ให้ตายยังไงก็ไม่เลิก เธอกลับไปคิดดีๆ ก็แล้วกันนะ ลูกน่ะ จะอยู่ได้ยังไงถ้าพ่อแม่ต้องแยกทางกัน คิดให้ดี อย่าเอาแต่ใจตัวเอง'คำก็เด็ก... คำก็เอาแต่ใจ งี
ตอนที่ 72"เฮียไม่คิดเลยนะ ว่าเธอจะเป็นเอาหนักขนาดนี้? ช่วยน่ารักเหมือนวันแรกที่เจอกันหน่อยได้ไหม? ทำไมต้องเอาแต่ใจตัวเองด้วย?"คำพูดของเขาดังก้องเข้าโสตประสาทการรับรู้ของเธอได้อย่างชัดเจน คนฟังอย่างเธอสลดใจอยู่ไม่ใช่น้อย ในหัวมันมีคำถามเต็มไปหมดอย่างแรกคือทุกวันนี้เธอไม่น่ารักเหมือนวันแรกที่เจอกันตรงไหนน้ำตาเจ้ากรรมมันเริ่มทำงาน ไล่ขึ้นมาจากทรวงอกจนถึงเบ้าตา หลั่งเอาน้ำสีใสเค็มๆ คลอเคลียอยู่รอวันไปปลดปล่อยอาบสองแก้มนวลใจเจ้ากรรมก็ดันเจ็บปวดกับคำพูดเขาขึ้นมาเสียดื้อๆ ไม่รู้ว่าเพราะฮอร์โมนปรับเปลี่ยนจากการตั้งครรภ์ หรือเพราะความงี่เง่าเจ้าบทบาทอย่างที่เขากล่าวหาหากจะเอาง่ายๆ ถ้าเขาอยากจะพูดคำว่าเบื่อก็ควรบอกกันตามตรงหรือถ้ามันยากนักที่จะต้องพูดคำๆ นั้นออกมา เธอนี่แหละที่จะพูดออกมาเอง"แฟนท์จะกลับบ้านพรุ่งนี้ ไปช่วยเตรียมงานแต่งผิง" ระหว่างนี้เขาก็คิดเอาเองละกันว่าที่ผ่านมาเรื่องของเรา มันควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้เธอยังไม่อยากจะใช้คำว่าเลิก เพราะยังมีอีกหนึ่งชีวิตในท้องแต่ถ้าชีวิตคู่มันยังไปต่อด้วยกันยาก สามวันดีสี่วันไข้อยู่แบบนี้ บอกตามตรงเลยว่าเธอมองไม่เห็นอนาคตร่างบางเดินไปรื้อ
ตอนที่ 71ชลากรรีบบึ่งรถกลับมาที่คอนโดฯ หลังจากเคลียร์งานตัวเองเสร็จสับ ฟ้าลดาส่งข้อความมาให้เขารีบกลับโดยด่วน เหตุเพราะน้องสาวตัวเองไม่ต้อนรับการมาเยี่ยมเยือนของเธอจากที่คิดเอาไว้ว่าอยากให้สองพี่น้องได้มีโอกาสอยู่ด้วยกัน เพื่อปรับความเข้าใจ กลับกลายเป็นว่าเขากำลังหาเรื่องใส่ตัวเเท้ๆร่างสูงเข้ามาถึงภายในห้องกวาดสายตามองก็เห็นอย่างที่อีกคนส่งข้อความมารายงานคนท้องแรกเริ่มนั่งทำตาขลึงใส่พี่สาวตัวเองที่นั่งอีกมุมห้อง ขณะที่ฟ้าลดาเองหอบงานตัวเองขึ้นมาทำไปพลางๆ"เอ้า ...เฮียซาน มาพอดีเลย" เป็นฟ้าลดาที่ผละหน้าออกจากเอกสารในมือ แล้วหันมาสนใจคนมาใหม่ ส่วนอีกคนที่ยังนั่งแยกเขี้ยวใส่พี่สาว แม้ว่าจะเห็นแล้วว่าเขามาถึง ทว่าก็ยังไม่ให้ความสนใจ"จะเย็นแล้ว ทานไรกันยัง?" เขาถาม พลางหันหน้าไปเอาคำตอบจากฟาลิดาคนนั่งหน้าบูดปรับเปลี่ยนอารมณ์เล็กน้อย แต่ยังคงความตึงใส่อยู่ก็แค่ไม่พอใจที่เขาชวนพี่สาวเธอมาที่นี่ ทั้งๆ ที่ควรจะถามความสมัครใจกันก่อน ว่าอยากต้อนรับแขกหรือไม่"ยังเลยค่ะ นี่กะว่ารอเฮียกลับมา แล้วจะชวนออกไปกินข้าวข้างนอกกัน เห็นว่าแถวนี้มีร้านอาหารยุโรป อร่อยๆ เลยอยากลอง"ร่างอรชรลุกขึ้นยืน
ตอนที่ 70เฝ้าน้องชลากรจำเป็นต้องพาลูกเมียกลับไปที่คอนโดฯ ก่อน ภายหลังจากพาไปหาหมอ เขามีงานด่วนที่ต้องแก้ไข ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดของตัวเองแล้วแท้ๆ อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าคนท้องจะอยู่คนเดียวไม่ได้เพราะประเมินจากที่ตัวเองเห็นแล้วว่าเมื่อเช้าฟาลิดายังอาเจียนและเวียนหัวไม่หยุด อาการของคนแพ้ท้องก็คงประมาณนี้ ยิ่งเห็นยิ่งรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เธอต้องอยู่คนเดียวเขาจึงตัดสินใจยกหูต่อสายไปยังพี่สาวคนเดียวของฟาลิดา เขาเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ให้พี่สาวเธอฟัง ระหว่างขับรถออกไปยังบริษัท โชคดีที่ฟ้าลดาเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย จึงไหว้วานเธอให้ไปที่คอนโดฯ ของตนอีกนัยยะสำคัญอย่างหนึ่ง ก็เพื่อหวังว่าคนที่มีสายเลือดเดียวกัน จะปรับความเข้าใจกันบ้าง ไม่มากก็น้อยอย่างไรเสียเลือดก็ย่อมข้นกว่าน้ำ เขาไม่รู้หรอกว่าทำไมฟาลิดาถึงไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่สาวตัวเอง แต่คิดว่าหากมีฟ้าลดามาคอยช่วยเหลือระหว่างที่อีกคนอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ นั่นอาจจะเป็นโอกาสที่ดีทำให้สองคนนั้นสนิทกันมากขึ้นกระทั่งเขาขับรถมาถึงที่ทำงาน และขลุกอยู่หน้าคอมฯ เพื่อดูปัญหาที่เกิดขึ้นจากคนของเขาที่ส่งมาให้ดูทางเมลล์ก็อกๆๆ"เชิญ!"เมื่อเจ้าของห้องอนุญา