แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: ดอกท้อน้อย
เซี่ยฉิงคิดว่ายังสนิทกับหวังซือซืออยู่ เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน เรียนโรงเรียนเดียวกันด้วย เลยตกลงเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เธอ

“ได้สิ!”

เดี๋ยวนี้ เธอไม่ค่อยไปงานแต่งงานเพื่อน งานรวมรุ่นก็เปลี่ยนไป กลายเป็นการแข่งขันกันไปหมด

ไม่ก็แข่งงาน ก็แข่งแฟน แข่งฐานะ

ต่อมา เซี่ยฉิงวางโทรศัพท์ แล้วหยิบลูกปัดคริสตัลจากพื้นที่พิเศษออกมา เริ่มบีบและดูดซับพลังงาน

มีอยู่เจ็ดเม็ด เธอใช้มือบีบและดูดซับพลังงานทั้งหมด แรกๆ เธอไม่ชอบกลิ่นนี้ แต่ตอนนี้ชินแล้ว

หลังจากดูดซับพลังงานเสร็จ เธอรูสึกมึนๆ มองอะไรไม่ค่อยชัด เลยถอดแว่นสายตาออก

เธออ้าปากค้าง มองโลกที่ชัดเจน เงยหน้าขึ้นมองคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องใส่แว่น ก็มองเห็นตัวหนังสือได้ชัดแจ๋ว

“ฉัน…ฉันไม่เป็นโรคสายตาสั้นแล้ว!”

ฮ่าๆ! เธอหายจากโรคสายตาสั้นแล้ว! ไม่คิดเลยว่าพลังงานจากลูกปัดคริสตัลจะมีประโยชน์แบบนี้! ตอนนี้ถึงจะรู้ว่ามันมาจากสมองซอมบี้ เธอก็ไม่สนใจแล้ว!

แค่นี้ก็ดีใจแล้วที่เธอไม่ต้องใส่แว่นสายตาอีกต่อไป!

ไม่ใช่แค่ตา แต่รู้สึกว่าร่างกายก็แข็งแรง เหมือนมีแรงเหลือเฟือ เดี๋ยวเธอจะไปช่วยพ่อแม่ทำงานที่ไร่

ตอนนี้ก็รู้ว่าพื้นที่พิเศษขยายใหญ่ขึ้นจริงๆ! การดูดซับลูกปัดคริสตัลทำให้พื้นที่พิเศษอัพเกรดได้จริงๆ!

เครื่องประดับพวกนี้สวยมาก ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน นึกถึงงานแต่งงานของหวังซือซือ ที่เธอจะไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว เลยเลือกสร้อยคอสีชมพูให้เธอ ส่วนที่เหลือก็เก็บใส่กล่องใหญ่ๆ ไว้ ค่อยหาโอกาสขายทีหลัง!

เช้าวันนั้น เซี่ยจี้เสียงไปทำงานที่ไร่ หยางเซี่ยไปตลาด เหลือแต่คุณย่าที่บ้าน นั่งรับแดด ไม่ก็ไปคุยกับคนอื่น

บ้านของเธอและบ้านของลุงใหญ่ ผลัดกันดูแลคุณย่า เดือนละครั้ง

เซี่ยฉิงกินข้าวเช้าเสร็จ ก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปไร่

ระหว่างทาง ก็เจอลุงข้างบ้าน

“ฉิงฉิง แกอยู่เมืองใหญ่ได้ดี ทำไมกลับมาล่ะ?”

ตอนนี้ คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ ต่างก็ไปทำงานที่อื่น ไปสร้างอนาคตข้างนอก

“ค่ะ ฉันลาออกจากงานแล้ว กลับมาช่วยพ่อแม่ทำงานที่ไร่”

ลุงข้างบ้านมองเธอด้วยสีหน้าตกตะลึง เหมือนไม่เชื่อ

“แกไม่กลัวลุงจะหัวเราะเยาะเหรอ การทำงานที่ไร่น่ะมันเหนื่อยนะ แกเป็นนักศึกษา กลับมาทำไร่ได้ยังไง”

ลุงส่ายหัว พ่อแม่ทำงานหนัก ส่งเสียลูกเรียนจนจบมหาวิทยาลัย ก็เพื่อจะไม่ให้ลูกต้องลำบากทำงานหนักแบบนี้

เซี่ยฉิงก็ไม่โกรธ หัวเราะแล้วพูดว่า “ตอนเด็กๆ ฉันช่วยพ่อแม่ทำงานบ่อยค่ะ!”

“นั่นเรียกว่าช่วยทำงานได้ยังไงล่ะ?” ลุงหัวเราะ

“งานที่ไร่น่ะ ต้องใช้แรงเยอะ แกตัวเล็กๆ คงทำไม่ได้หรอก”

“อย่างถังยาฆ่าแมลงนี่ ถ้าเติมน้ำและยาเต็มถัง ก็หนักหลายสิบกิโลแล้ว”

“ต้องแบกมันเดินไปทั่วไร่ด้วย! ฤดูใบไม้ผลิยังพอไหว แต่ฤดูร้อนอากาศร้อน ยุงเยอะด้วย”

เทียบกับงานอื่นๆ งานนี้ถือว่าสบายแล้ว

เซี่ยฉิงคิดว่า พอขายทอง ขายเครื่องประดับได้เงินแล้ว เดี๋ยวจะซื้อเครื่องจักร แล้วก็จ้างคนมาช่วยทำงาน จะได้ไม่เหนื่อยมาก

การใช้เครื่องจักรกลนั้นต้นทุนสูง ยิ่งจ้างคนงานด้วยแล้ว ยิ่งแพงเข้าไปอีก ตอนนี้ผักผลไม้ก็ขายได้ราคาไม่ดี ถ้าใช้เครื่องจักรกล ยิ่งขาดทุนหนักเข้าไปอีก

ลุงเห็นเซี่ยฉิงยังตั้งใจจะทำไร่ อดเสียดายไม่ได้ มองตามหลังเธอไปพลางส่ายหัวไปพลาง

เธอเดินไปที่ไร่ เห็นพ่อกำลังแบกถังยาฆ่าแมลงหนักๆ เดินไปทั่วไร่ หลังก็ค่อมลง ตัวก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เซี่ยจี้เสียงเห็นเธอ ก็รีบพูดว่า: “แกมาที่ไร่ทำไมล่ะ? รีบกลับไป! ไม่ต้องมาช่วยหรอก”

“ฉันบอกแล้วไงคะ ว่ากลับมาช่วยทำงานที่ไร่! แล้วผักพวกนี้ก็โตหมดแล้ว ฉันขายได้!”

เธอต้องมาดูผักพวกนี้สิ!

“ขายได้เหรอ? แกขายได้จริงๆ เหรอ?” เซี่ยจี้เสียงตกใจดีใจที่ได้ยินเธอพูดอย่างนั้น

ตอนนี้ ราคาผักถูกมาก ทำงานหนัก แต่ขายได้ราคาถูกมาก

สาเหตุหลักก็เพราะว่า ตอนนี้มีโรงเรือนเพาะปลูก อยากกินผักอะไรก็ปลูกได้นอกฤดู แล้วช่วงหลายปีมานี้ ผลผลิตก็ดี ราคาผักเลยยิ่งถูกลง

ตอนนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่หันไปปลูกผักคุณภาพสูง มาตรฐานสูงขึ้น! เมล็ดพันธุ์ก็เป็นเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง ราคาแพง ชาวนาธรรมดาไม่ค่อยอยากปลูก

อย่างแรกก็กลัวปลูกไม่ดี ได้ผลผลิตไม่ดี อย่างที่สองก็กลัวขายไม่ได้จนขาดทุน!

“ได้สิคะ! ไม่งั้นฉันจะกลับมาทำไมล่ะคะ? ฉันมีลูกค้าประจำ จ่ายเงินมัดจำมาแล้ว! ผักของเราขายหมดแน่นอน!”

เซี่ยจี้เสียงนึกถึงลูกสาว ที่ซื้อโทรศัพท์ ซื้อของต่างๆ อาจจะได้เงินมัดจำมาจริงๆ

“ดีมากเลย พ่อกำลังกังวลอยู่พอดี ผักของเราขายไม่ได้ราคาที่อำเภอ”

“มะเขือเทศที่เราปลูกครั้งนี้ คุณภาพดีมาก”

เซี่ยฉิงมองไปที่มะเขือเทศในไร่ อีกไม่นานก็คงจะสุก เธอก็ให้ซูอวี้ไปหมด นี่ก็ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่เหมือนกันใช่ไหม?

“พ่อ พักก่อนเถอะ ฉันช่วยฉีดยาให้”

พอพูดจบ ก็รับถังยาฆ่าแมลงไป

“อย่าเลย มันหนักนะ! แกคงแบกไม่ไหวหรอก!” เซี่ยจี้เสียงพูดจบ ก็เห็นเซี่ยฉิงแบกถังยาฆ่าแมลงได้อย่างสบายๆ

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะทำไม่ได้ แต่ตอนนี้ หลังจากดูดซับพลังงานจากลูกปัดคริสตัลแล้ว แรงของเธอก็เพิ่มขึ้นมาก ร่างกายก็แข็งแรงขึ้นด้วย!

เธอเดินไปฉีดยาที่ไร่ ด้วยก้าวย่างที่มั่นคง ไม่รู้สึกหนักเลย

เซี่ยจี้เสียงเห็นภาพนั้น เห็นท่าทางที่ลูกสาวทำได้อย่างไม่ลำบาก ก็รู้สึกใจหาย พวกเขามีลูกสาวคนเดียว ไม่เคยให้เธอทำงานหนักเลย

ประหยัดอดออม ให้ลูกสาวเรียนที่เมือง ลำบากมาเยอะ ค่าใช้จ่ายในหมู่บ้านต่อเดือนไม่ถึง 500 ผักก็กินของที่บ้าน

แต่ทุกเดือน พวกเขาก็ส่งเงินให้ลูกสาว 2500 ลูกสาวทำงานพิเศษ ก็ไม่ค่อยอยากใช้เงิน

สงสัยฉิงฉิงลำบากมาเยอะ ลูกสาวกลับมาทำไร่ก็ทำเถอะ ถึงจะเหนื่อยหน่อย แต่ก็จะไม่ให้ลูกสาวลำบากอีกแล้ว

แต่การทำไร่นี่มันเหนื่อย ถ้าไม่ไหว ก็ให้ลูกสาวหางานทำที่อำเภอก็ได้?

เซี่ยจี้เสียงกำลังจะบอกให้ลูกสาวพัก แต่ก็เห็นว่าเธอแบกถังยาได้อย่างสบายๆ

เหมือนว่าข้างในไม่ได้บรรจุน้ำหนักหลายสิบกิโล ไม่นานเธอก็ฉีดยาเสร็จหมดแล้ว

เดินไปทั่วไร่ ก็ไม่รู้สึกเหนื่อย เซี่ยฉิงคิดว่า น่าจะเป็นเพราะการดูดซับพลังงานจากลูกปัดคริสตัล

ผักที่เหลือ เธอก็ฉีดยาเสร็จหมดแล้ว ถ้าเป็นเซี่ยจี้เสียง คงต้องพักบ้าง

แต่เซี่ยฉิงฉีดยาเสร็จหมดแล้ว ไม่เหนื่อยเลยด้วยซ้ำ

เซี่ยจี้เสียงคิดว่าลูกสาวคงทนไม่ได้ แต่กลับเห็นลูกสาวทำงานเสร็จแล้ว ยังยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่

เขามองมือหยาบกร้านของตัวเอง ก็รู้สึกงงงวย

ปกติเขาฉีดยา ต้องใช้เวลาอย่างน้อยชั่วโมงกว่าๆ แต่ลูกสาวมา แค่สิบนาทีก็เสร็จแล้ว

เขาแก่แล้วเหรอ? เขายังไม่ถึง 50 เลยนะ!

เซี่ยฉิงเห็นผักสดๆ ก็ดีใจ เลยโอนเงินให้พ่อ 25,000 :

“พ่อ รับเงินไว้เลยนะคะ ผักของเราอย่าเอาไปขายที่อื่นแล้วนะคะ! ฉันรับซื้อหมดแล้ว!”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 8

    “25,000 เหรอ? เยอะแยะเลย! ไม่ต้องเยอะขนาดนั้นหรอก! มะเขือเทศก็แค่โลละร้อยห้า ในเมืองขายโลละสี่ร้อยกว่าเอง”“แล้วกะหล่ำปลี ราคาตอนนี้ก็แค่โลละห้าสิบหรือร้อยเอง”เซี่ยฉิงรู้ว่าผักราคาถูก แต่ไม่คิดว่าจะถูกขนาดนี้เซี่ยจี้เสียงไม่ค่อยเชื่อคำพูดของลูกสาว ปกติเขาขายผักได้แค่หมื่นถึงหมื่นห้าพัน ก็ถือว่าดีแล้วบางทีก็ได้แค่ห้าพันกว่ามะเขือเทศตั้งแต่เพาะกล้า จนติดผล สุก ก็ใช้เวลาสองถึงสามเดือน“สามเดือนที่ผ่านมา นอกจากมะเขือเทศ เรายังปลูกอะไรอีกบ้าง?”“ปลูกแตงโมด้วย แตงโมอีกเดือนกว่าๆ ก็สุกแล้ว” เซี่ยจี้เสียงพูดที่บ้านเขาปลูกแต่ผลไม้ตามฤดูกาล เลยขายไม่ได้ราคาดีถ้ามีโรงเรือน การเพาะปลูกก็จะเร็วขึ้น ปลูกผักผลไม้นอกฤดู ราคาก็จะสูงขึ้นนึกถึงราคาของกะหล่ำปลีที่พ่อพูด แล้วกะหล่ำปลีก็ปลูกเร็ว แค่เดือนกว่าๆ ก็เก็บเกี่ยวได้“อีกไม่กี่วัน มะเขือเทศชุดนี้ก็สุกแล้ว เราไปปลูกกะหล่ำปลีกันเถอะ!”“กะหล่ำปลีเหรอ? ไม่ได้! ตอนนี้ขายไม่ได้ราคาที่ดี รอปลูกตอนเดือนพฤศจิกายนดีกว่า!”เดือนพฤศจิกายน เป็นฤดูหนาว อากาศหนาว คนก็อยากซื้อกะหล่ำปลีไว้กินกัน“พ่อคะ! ลูกค้าของฉันสั่งกะหล่ำปลี! เราปลูกกะหล่ำปล

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 9

    หลายคนหน้าตาผอมโซ ร่างกายผอมแห้ง สายตาต่างก็จ้องมองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่หลี่เยากำลังต้มอยู่ ไอน้ำลอยขึ้นมา พร้อมกลิ่นหอมยั่วยวนในดวงตาของพวกเขามีทั้งความปรารถนาอย่างแรงกล้า และความเศร้าโศกที่ไม่อาจบรรยายได้มุมปากกระตุกเล็กน้อย เหมือนกับว่าทุกการหายใจ ต่างพยายามดมกลิ่นหอมนั้นบางคนก็กลืนน้ำลาย มีเสียงดังเล็กๆ ในลำคอ อากาศราวกับแข็งตัว เวลาช้าลง ได้ยินแต่เสียงบะหมี่เดือดปุดๆ สายตาของทุกคนแสดงออกถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าถ้ามีใครสักคนเข้ามาแย่ง คนอื่นๆ คงจะกรูกันเข้ามาด้วยหลี่เยามองไปที่เพิงของคนข้างๆ สีหน้าของทุกคนไม่ค่อยดี ความหิวโหยทำให้ร่างกายผอมแห้งคนที่กูกปลูกตื่น มีพลังพิเศษ ก็มีน้อยมากหลี่เยาหันไปบังสายตาของคนอื่นๆ“พวกเขาจะมาแย่งอาหารของเราไหมนะ?” สายตาที่ร้อนแรงแบบนั้น น่ากลัวเกินไปเถียนรุ่ยอุ้มลูก โต้วโต้วดื่มนมถั่วเหลืองแล้ว ตอนนี้ดูมีแรงขึ้นเยอะ“พวกนั้นไม่กล้าหรอก” สายตาของหลี่เยาแข็งกร้าวขึ้น มองไปที่พวกเขาคนอื่นๆ ต่างก็หน้าซีด ไม่กล้าเข้ามา แต่ก็ยังมองมาทางนี้ น้ำลายไหลไม่หยุดซูอวี้เห็นเด็กๆ มารวมตัวกันอยู่ที่เพิง เด็กพวกนี้ พ่อแม่ตายหมดแล้ว เหลือแต่พ

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 10

    เมื่อกลับถึงบ้าน เซี่ยฉิงก็ใช้โทรศัพท์มือถือดาวน์โหลดโปรแกรมสแกน แล้วสแกนหนังสือสองเล่ม รวมทั้งหมด 450,000 คำครั้งแรก เธอลง 50,000 คำ พอเซ็นสัญญาเสร็จ เธอก็ลงอีก 50,000 คำ ที่เหลือ เธอไม่ได้ทำอะไรแล้ว! ต่อไปนี้ แค่ลงวันละ 10,000 คำ ก็พอสแกนเสร็จแล้ว เธอก็ฉีกหนังสือทิ้งถังขยะไม่รู้ว่าจะมีค่าตอบแทนไหม น่าจะรู้ผลต้นเดือนหน้า ถ้านิยายเล่มนี้ดัง เดี๋ยวเธอจะให้ซูอวี้หาเล่มท้ายมาให้!แล้วก็ให้ซูอวี้ไปหาร้านหนังสือ หาหนังสือมาให้เยอะๆ!เธอจะเอาค่าตอบแทนที่ได้ ไปซื้อเสบียงให้คนโลกาวินาศ คิดว่าพวกเขาคงเข้าใจเธอนะ การได้เงินจากการเขียน น่าเชื่อถือกว่าการขายทองคำเยอะเทคโนโลยีของสองโลกนี้ก็ใกล้เคียงกัน ที่นี่มีโทรศัพท์ ที่นั่นคงมีเหมือนกันใช่ไหม?เซี่ยฉิงเอาเครื่องประดับธรรมดาๆ ไปขายในแอปฯ มือสอง ราคาตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 เครื่องประดับเหล่านี้ บางชิ้นมีป้ายราคา แพงสุดก็แค่ไม่กี่ร้อยบาท แต่ดีไซน์สวยงาม ทันสมัยแค่ครึ่งวัน ก็มีคนซื้อไปเยอะแล้ว!เธอรีบไปที่ร้านส่งของในหมู่บ้าน ส่งของไปให้ลูกค้าเงินก็เข้าบัญชีอีก ตอนนี้ เงินในบัญชีของเธอ มีสองแสนห้าแล้วแค่ไม่กี่วันนี้เอง! ก่อนหน้า

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 11

    หลายคนต่างก็ถามเซี่ยฉิง เพราะว่าชาวบ้านปลูกผักผลไม้ได้ แต่ขายไม่ออกนี่สิ เป็นเรื่องยากถ้าขายออนไลน์ ชาวบ้านก็ขาดทุน ต้องเสียค่าส่ง ต้นทุนไม่คุ้มการทำไร่นั้น เหนื่อยอยู่แล้วชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ ส่วนใหญ่ขายที่อำเภอ หรือไม่ก็ไปขายที่เมืองใกล้ๆ“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันติดต่อไปก่อน ดูว่าต้องการอะไร แล้วฉันจะติดต่อกลับไปนะคะ!”เซี่ยฉิงเองก็ไม่คิดว่า จะซื้อมันเทศได้เยอะขนาดนี้เจ้าสาวหวังซือซือ ถูกทิ้งไว้ข้างๆคิดว่าพรุ่งนี้ ไม่ต้องไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้ว เลยไม่ต้องไปงานแต่งงานด้วยตอนนี้เธอมีเรื่องต้องทำเยอะ! เลยโอนเงินไปให้หวังซือซือหนึ่งพัน เธอมั่งคั่ง แล้วเธอก็จะรวยขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งพันไม่ใช่เรื่องใหญ่ตอนนี้ เธอมีเงินเป็นแสน ต่อไปนี้ ก็จะมีมากกว่านี้ในหมู่บ้าน ถ้าเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ไม่ใช่ญาติ ก็ให้แค่สองร้อยห้าแต่ถ้าอยู่ในเมือง อย่างน้อยก็หนึ่งพัน หรือสองพันห้าหวังซือซือ เห็นว่าผิวของเซี่ยฉิง สวยกว่าเธอ ก็รู้สึกไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้ เห็นเซี่ยฉิงให้เงินค่าสินสอดหนึ่งพัน ก็เลยไม่โกรธแล้วพูดคุยกับเซี่ยฉิงอย่างกระตือรือร้น เงินสามารถซื้อความสุขได้จริงๆ!บ่ายวันนั้น เมื่อกลับ

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 12

    ซูอวี้ตื่นขึ้นมา เห็นอาหารเต็มพื้นที่พิเศษ ก็ดีใจมากมีหนึ่งกล่อง เป็นของเซี่ยฉิง จัดเตรียมไว้ให้เขาโดยเฉพาะ เป็นข้าวหน้าเนื้อย่าง เซี่ยฉิงคงคิดว่าเขาเป็นลูกค้าประจำจัดให้พิเศษหน่อย ก็ไม่ผิดอะไร ยังมีโค้กให้ด้วย ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบเครื่องดื่มแบบนี้ซูอวี้ก็รู้สึกมีความสุขหลี่เยาและพวกเขาก็กินขนมปัง แต่คนในฐานยังเยอะอยู่ พื้นที่พิเศษของเซี่ยฉิง ต้องอัพเกรดแล้วคนก็เยอะ ต้องกินข้าวทุกวัน การใช้จ่ายก็สูงมากถึงแม้ว่าจะซื้อขนมปังมาเยอะ ก็ไม่พอแจกทุกคน หลายคนได้กินแค่ครึ่งเดียว แต่ก็ไม่ต้องกินดิน กินใบไม้ที่มีพิษ พวกเขาก็ดีใจมากแล้วขนมปังนุ่มๆ บางคนกินไปก็ร้องไห้“นมผง น่าจะมาถึงอีกวันสองวัน” ซูอวี้พูด“ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ยังมีนมถั่วเหลืองผงเหลืออีกหลายถุง”เด็กๆ ที่อดอาหารมาสองสามวัน ตอนนี้ได้กินข้าวปกติ ก็เหมือนถูกหวยแล้วหลี่เยา หวังเฉียง จางเลี่ยง กำลังกินขนมปังอยู่ ก็รู้สึกมีความสุข แล้วก็เห็นซูอวี้กำลังกินข้าวหน้าเนื้อย่าง แล้วยังมีโค้กอีกด้วย“ทำไม พี่มีเนื้อด้วย?” หลี่เยาวิ่งเข้ามาทันทีอย่าหัวเราะเขาเลย เพราะเขาไม่ได้กินเนื้อมานานมากแล้ว คนอื่นๆ ก็วิ่งเข้ามาด้วย“นี่

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 13

    สร้อยคอทอง กำไลทอง แหวนทองหลากหลายแบบ ไข่มุก หินอาเกต และลูกปัดคริสตัล เขาคงขนร้านทองทั้งร้านมาที่นี่แน่ๆ! เซี่ยฉิงเดาไม่ผิด: เกือบครึ่งร้านถูกขนมาจริงๆจากนั้นเซี่ยฉิงก็เห็นโน้ตที่เขาเขียน ลายมือหนักแน่นมั่นคง ถ้าลายมือบ่งบอกตัวตน นี่คงเป็นคนที่แข็งแกร่งมากทีเดียวเธออ่านรายการสิ่งของที่เขาต้องการ: หมั่นโถว ขนมปังย่าง ยา และยารักษาโรคลำไส้อักเสบ!ต้องซื้อแน่นอน! เงินทองมากมายขนาดนี้! สร้อยคอและสร้อยข้อมือบางอันสวยมากจริงๆ เธอแทบไม่อยากขายเลย!แต่ก็ต้องขาย! จะได้มีเงินไงล่ะ!แต่ก่อนอื่นต้องจัดการเครื่องประดับพวกนี้ก่อน! เธอดึงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมาจากใต้เตียง แล้วเทเครื่องประดับจากพื้นที่พิเศษลงไปจนเกลื่อนสร้อยคอที่ชอบ เธอก็สวมไว้เลยกระเป๋าใบเดียวใส่ไม่พอ เธอจึงหากระเป๋าใบใหญ่อีกใบมา แล้วเก็บไว้ใต้เตียงทั้งหมด ใต้เตียงของเธอเต็มไปด้วยเครื่องประดับจริงๆ!ตู้เสื้อผ้าก็เต็มไปด้วยเครื่องประดับเช่นกัน เธอต้องทำให้พื้นที่พิเศษว่างก่อนจึงจะเอาของให้ซูอวี้ได้!โชคดีที่บ้านในชนบทมักสร้างห้องใหญ่ๆ ห้องของเธอก็มีพื้นที่ราว 20 ตารางเมตรเธอหยิบกำไลทองทั้งหมดใส่เป้ ตั้งใจจะเอาไปขาย

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 14

    เธอคิดในใจว่า ถ้าต่อไปซูอวี้เอาของจากพิพิธภัณฑ์ที่ได้มาจากพวกเขามาให้เธอ แค่ขายออกไปก็คงได้เป็นสิบล้าน หรืออาจจะถึงร้อยล้านเลยนะ!คิดถึงตรงนี้แล้วใจของเซี่ยฉิงก็ตื่นเต้นมาก คราวนี้บ้านเราจะได้สร้างใหม่ สร้างเป็นบ้านหลังใหญ่โตเลย! พาพ่อแม่ไปเที่ยวต่างประเทศก็ได้ด้วย!พอถึงบ้าน เซี่ยฉิงก็รีบบอกหยางเซี่ยกับเซี่ยจี้เสียงทันที“พ่อ แม่ ฉันไปสมัครเรียนขับรถให้ทั้งสองคนแล้วนะ โหลดแอปลงมือถือแล้วก็เรียนทฤษฎีให้ผ่านก่อนเลย!”“เรียนขับรถ?” คุณย่าเซี่ยถามด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจสมัครเรียนขับรถนี่ก็ต้องใช้เงินเป็นห้าพันเป็นหมื่นอยู่แล้วนี่นา! ลูกชายคนโตของคุณลงใหญ่ จบมหาวิทยาลัยแล้วยังหางานไม่ได้ ก็ยังจะเรียนขับรถอยู่เลยวันนั้นที่เธอเอาเงินไปให้เซี่ยจื้อเฉียง หลานชายคนโตของเธอก็โทรขอเงินพ่อ บอกว่าเรียนขับรถในเมืองต้องใช้เงินเป็นหมื่น“ใช่ค่ะ! พอเรียนขับรถได้แล้วก็ซื้อรถ เดี๋ยวเราทุกคนก็ขับได้ ไปอำเภอก็จะเร็วขึ้นเยอะเลย!” เซี่ยฉิงพูดพร้อมกับยิ้มขี่มอเตอร์ไซค์ต้องใช้เวลาสี่สิบนาที แต่ถ้าขับรถยนต์แค่ยี่สิบนาทีก็ถึงแล้ว“ดี! ดี! ฉันจะไปเรียนเลย!” เซี่ยจี้เสียงพูดด้วยความดีใจสุดๆคิดว่าต่อไปล

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 15

    คุณย่าเซี่ยได้ยินเซี่ยฉิงพูดอย่างนั้น ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา“ฉันอยู่บ้านลูกชายฉันอีกสักสองวันไม่ได้เหรอ?”“ได้สิคะ! แต่ว่าคุณย่าอยู่มาเดือนนึงแล้วนี่คะ! กลัวว่าคุณย่าจะไปไม่สะดวก หนูเลยจะไปส่งคุณย่าค่ะ”ในหมู่บ้าน ลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้วก็เหมือนน้ำที่หกรดลงดินไปแล้ว หน้าที่เลี้ยงดูพ่อแม่เป็นของลูกชายตอนนั้นพี่น้องสองคนตกลงกันว่า จะผลัดกันมาอยู่เดือนเว้นเดือน พรุ่งนี้ก็วันที่หนึ่งแล้ว ถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว“ใกล้แค่นี้เอง! เดี๋ยวฉันไปกินข้าวที่นั่นก็ได้” คุณย่าเซี่ยพูดพร้อมกับขมวดคิ้วอยู่ที่ไหนไม่สบายตัว ก็ไปกินข้าวแล้วกลับมาที่นี่ก็ได้นี่นา?เซี่ยฉิงไม่อยากเถียงกับคุณย่าต่อ เลยรีบขึ้นไปชั้นบนเธอจ่ายเงินมัดจำในลาซาด้า แค่สองชั่วโมงก็ได้รับการอนุมัติแล้วของที่ขายในแอพขายของมือสอง ก็ขายได้หลายชิ้น พรุ่งนี้ต้องไปส่งของต่อจากนั้น เธอก็สั่งของในลาซาด้า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป บะหมี่แห้งตอนนี้การสั่งของออนไลน์สะดวกมาก ไม่ต้องออกไปซื้อเองแล้วคิดว่าอีกเดือนเดียวก็จะถึงหน้าร้อนแล้ว บ้านไม่มีแอร์เลย ทุกปีหน้าร้อนก็ต้องพัดแต่พัดลมเก่าๆ ทั้งครอบครัวใช้พัดลมอันเดียวกันเธอเลยสั่งซื้อ

บทล่าสุด

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 40

    “อ้อ พี่อวี้ สองคนที่โดนซอมบี้กัดเมื่อครั้งก่อน คนหนึ่งกลายเป็นซอมบี้ ผมกำจัดไปแล้ว อีกคนกลายเป็นผู้มีพลังพิเศษ ผมให้เขาเข้าร่วมทีมงานพิเศษแล้ว”ชายคนนั้นชื่อหวังสุ่ย เป็นทหารผ่านศึก!ตอนนั้นทั้งสองคนโดนกัด คนหนึ่งกลัวตาย กลัวจะเป็นซอมบี้ เลยดิ้นไปมา แต่หวังสุ่ยไม่ใช่ กลับนั่งนิ่งๆรอ จิตใจเข้มแข็งมาก“ได้!”ผู้มีพลังพิเศษ จะมีภูมิคุ้มกันต่อซอมบี้ จะเสริมสร้างร่างกาย และภูมิคุ้มกัน แต่ถ้าเป็นผู้มีพลังพิเศษที่อ่อนแอ โดนซอมบี้กัด หรือเจอซอมบี้ที่แข็งแกร่ง สารพิษก็จะเพิ่มขึ้น ผู้มีพลังพิเศษก็อาจจะติดเชื้ออีกครั้งถ้าผู้มีพลังพิเศษติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้ ก็จะกลายเป็นซอมบี้กลายพันธุ์ แข็งแกร่งกว่าเดิมฟ้าสางแล้ว ก็มีคนมายืนเข้าแถวหน้าประตู เริ่มรับอาหาร ทุกคนก็เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบซูอวี้ยืนอยู่บนที่สูง พูดเสียงเย็นชาว่า:“วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการแจกจ่ายอาหาร ต่อไปนี้ จะต้องใช้ของมีค่ามาแลกอาหาร”“ของมีค่าอะไรก็ได้ ยกเว้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์!”อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็คือ โทรศัพท์มือถือ เครื่องรับส่งสัญญาณ และอื่นๆ“วันนี้แจกขนมปัง และข้าวหุงครึ่งกิโลกรัม พรุ่งนี้เป็นเนื้อต้ม!

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 39

    ใบหน้าข้างหนึ่งของเขา ส่องสว่างด้วยแสงแฟลช เส้นสายคมชัด สง่างาม ดั้งโด่ง สวยงามถ่ายแค่ข้างเดียว!เซี่ยฉิงรู้สึกตื่นเต้น และคาดหวัง ใจเต้นตึกตัก?ทั้งคาดหวังทั้งเสียดาย ทำไมถ่ายแค่ข้างเดียวล่ะ?เธอชาร์จโทรศัพท์มือถือ รอให้ตื่นนอนพรุ่งนี้ค่อยใส่กลับเข้าไปในพื้นที่พิเศษ เช้าไปส่งนม แล้วก็ไปซื้อของอีกชีวิตที่นั่น ยากลำบากมาก โดยเฉพาะเด็กๆ ได้ยินซูอวี้บอกว่า อย่างน้อยก็มีเด็กหลายสิบคนส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้า วันนี้เธอไปตลาดในเมือง สั่งซื้อหมูสามตัว ชำแหละแล้วส่งมาที่โกดังหมูตัวหนึ่ง สองร้อยกิโลกรัม เธอซื้อสามตัว ข้าวและข้าวฟ่าง ก็ซื้อห้าสิบถุง ใส่ไว้ในโกดังเธอไม่แน่ใจว่า จะซื้อของได้เยอะไหมที่เมืองโหมตูไข่สิบกิโลกรัมต่อลัง เธอก็ซื้อหลายสิบลังรวมแล้ว ใช้เงินไปเกือบห้าแสนในโกดัง ของที่เธอซื้อ ก็ส่งมาเรียบร้อยแล้ว“ซูอวี้”ได้ยินเสียงทุ้มต่ำ “อืม” เสียงค่อนข้างทุ้ม“ผมอยู่”เขารอเธออยู่รู้ว่าเขาอยู่ เซี่ยฉิงก็เริ่มเก็บของเข้าไปในพื้นที่พิเศษเพื่อรักษาความสดใหม่ของนม ซูอวี้ไม่ได้รีบนำออกมา แค่เอาออกมาถังละถัง แจกจ่ายให้กับคนเหล่านั้นทุกวันก็พอนมที่เหลืออีกหลายถัง และไ

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 38

    เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้มาตั้งแต่ต้น“ตอนที่เขากำลังแย่งของ ทำไมแกไม่ห้ามล่ะ?”“ถ้าให้ฉันเจออีกครั้ง ก็ออกไปให้หมด!”“ครับๆๆ! ไม่กล้าแล้วครับ ไม่กล้าแล้วครับ!” ชายคนนั้นรีบพูดตอนนี้ฐานมีอาหาร ใครจะยอมออกไปล่ะ?ซูอวี้วางเด็กชายลง ตอนนี้ ดวงตาของเด็กชายเต็มไปด้วยความกลัวแม้แต่จะมองซูอวี้ ก็ยังตัวสั่นซูอวี้ประคองเด็กผู้หญิงที่ล้มลง ลูบหัวเธอ“เด็กไม่รู้เรื่อง ผู้ใหญ่ก็ไม่รู้เรื่องด้วยเหรอ? พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมารับอาหารแล้ว”ซูอวี้พูดจบ ก็อุ้มเด็กผู้หญิง ถือกล่อง แล้วก็จากไปชายคนนั้นที่กำลังตกใจ ก็จะคุกเข่าขอร้องซูอวี้ แต่พอสบตาที่เย็นชา ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้วเด็กกำพร้าคนอื่นๆ ก็ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกล พวกเขาก็อิจฉามาก แต่ก็ไม่ได้ไปแย่งพวกเขามีอาหารที่ได้รับ ก็รู้สึกพอใจแล้วซูอวี้มองดูเด็กกำพร้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก้มมองเด็กผู้หญิงที่อุ้มอยู่ กอดตุ๊กตาที่ “แม่” ให้ไว้แน่นๆต่อไปนี้ ทุกอย่างจะดีขึ้น พรุ่งนี้ เซี่ยฉิงจะส่งนมมาให้เยอะๆ เด็กๆทุกคนจะได้ดื่มแม่ของเซี่ยฉิงกำลังเก็บของอยู่ที่บ้าน นึกถึงเมืองใหญ่ ของทุกอย่างแพง ก็เลยเอาผักที่ทำเอง ใส่ไว้ในกล่อง และขนมปังไส้เนื้อที่น

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 37

    ซูอวี้ไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้นแต่เช้า ไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆที่มักจะทำหน้ามึนงงมีเพียงเด็กผู้หญิงคนนี้เท่านั้นที่มีดวงตาที่ส่องแสง ในโลกที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง เหมือนกับแสงแห่งความหวัง“ชื่ออะไรจ๊ะ?”เด็กผู้หญิงส่ายหัว เธอไม่รู้ว่าตัวเองชื่ออะไร“มีพี่สาวฟ้าใส ให้ฉันเอาอันนี้มาให้คุณ”ซูอวี้วางกล่องเล็กๆไว้ข้างๆเด็กผู้หญิงสำหรับเขาแล้ว ไม่ใช่กล่องใหญ่ แต่สำหรับเด็กผู้หญิงอายุสี่ขวบ ก็ถือว่าใหญ่แล้วเด็กผู้หญิงมองกล่องที่อยู่บนพื้นด้วยสีหน้าสงสัย ไม่รู้ว่าข้างในมีอะไรซูอวี้มองดูเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่อยู่ตรงหน้า พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า:“พี่ช่วยเปิดให้”ซูอวี้เปิดกล่อง สิ่งแรกที่เห็นคือตุ๊กตาขนปุยน่ารักๆ ต่อมาก็เป็นชุดเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม และรองเท้าข้างล่างเป็นขนมปังสำหรับเด็ก กล่องเล็กๆใบนี้ เต็มไปหมด“ว้าว”เด็กผู้หญิงเห็นตุ๊กตาขนปุยน่ารักๆ ก็ชอบทันทีเด็กผู้หญิงคนไหนล่ะที่ไม่ชอบตุ๊กตา! เธออยากจะอุ้มตุ๊กตา แต่ว่ามือของเธอสกปรก ร่องเล็บก็ดำปี๋พอสัมผัสตุ๊กตาที่สะอาด เด็กผู้หญิงก็รู้สึกตื่นเต้น เหมือนกับว่ามันไม่เข้ากับเธอซูอวี้หยิบตุ๊กตาขึ้นมา วางไว้ในอ้อมกอดของเธอ“

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 36

    ซูอวี้ได้ยินเสียงเซี่ยฉิง ก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันที พูดว่า:“ได้! รอผมหน่อย!”ซูอวี้รีบเรียกคนมาหลายคน ครั้งนี้ ของที่เซี่ยฉิงส่งมา ก็เยอะมาก“กล่องใหญ่ใบนี้ เป็นของขวัญสำหรับคุณโดยเฉพาะ!”เซี่ยฉิงซื้อของให้เขาโดยเฉพาะ ใส่ไว้ในกล่องกระดาษใบใหญ่!“กล่องเล็กใบนั้น เป็นของที่ซื้อให้เด็กผู้หญิงที่ถ่ายรูป ยังไม่รู้ชื่อเธอเลย”“ครั้งหน้าผมจะถามให้ แล้วค่อยบอกคุณ”“ได้ค่ะ ฉันจะไปเมืองโหมตู หาของมีค่ามาให้ฉันบ้างนะคะ ฉันจะเอาไปขายที่เมืองโหมตู!”“ไม่ต้องเยอะมากนะคะ!” เซี่ยฉิงรีบบอกซูอวี้หยุดพูดสักครู่ แล้วพูดว่า “ได้!”ที่นี่เขาหาของมีค่าไว้ให้เธอเยอะแล้ว แม้แต่ในโกดังใต้ดินของบ้านเถียนรุ่ย ในย่านวิลล่า ก็มีของดีๆซ่อนอยู่เยอะมากแต่เขาก็คิดว่า เซี่ยฉิงก็ต้องหาช่องทางที่เหมาะสม เพื่อขายของพวกนี้ด้วยจัดการอาหารที่เซี่ยฉิงส่งมา หลี่เยากับพวกเขาก็พบว่า อาหารเหล่านี้มีอายุการเก็บรักษา และอาหารบางอย่าง พวกเขาก็ไม่เคยเห็นมาก่อน“ของพวกนี้มาจากอีกโลกหนึ่ง หม้อไฟแบบนี้ กินยังไงเหรอคะ?” หวังเฉียงมองดูหม้อไฟ ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูด“อันนี้ฉันรู้ เดี๋ยวฉันสอนให้ หม้อไฟแบบนี้ เราแบ่งกันเ

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 35

    ผู้หญิงคนนั้นได้ยินว่าเซี่ยฉิงสั่งซื้อนมสดสิบถัง ก็ยิ้มแฉ่ง ท่าทางและน้ำเสียงก็ดีขึ้นทันที“สั่งซื้อสิบถัง ฉันให้เพิ่มอีกสิบกิโลกรัม รวมเป็นห้าหมื่นบาท”ห้าร้อยกิโลกรัมต่อถัง สิบบาทต่อกิโลกรัม ถังละหนึ่งห้าพัน! นมบรรจุถุงทั่วไป สองร้อยห้าสิบมิลลิลิตร ก็คือครึ่งกิโลกรัมถ้าเธอไปซื้อนมบรรจุถุงที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ก็จะแพงกว่านี้ และต้องใส่สารกันบูดด้วย อันนี้เป็นนมสดแท้ๆแต่มีข้อเสีย เว้นแต่จะเก็บไว้ในพื้นที่พิเศษ ไม่งั้นก็เก็บได้แค่เจ็ดวันทั้งสองคนเพิ่มไลน์เซี่ยฉิงโอนเงินห้าหมื่นไปทันที ถือน้ำนมสิบกิโลกรัมที่ได้รับ กลับบ้านกลับถึงบ้านแล้ว นิยายสองเล่ม ก็อัพเดตไปอีกห้าหมื่นคำ!เธอดูคอมเมนต์:“ผู้แต่งสุดยอด! ชอบนิยายแบบนี้มาก อัพเดตเร็ว ไม่ต้องรอเลย!”“ผู้แต่งอัพเดตเร็วมาก! รักเลย!”มีต้นฉบับเก็บไว้ ไม่ต้องกังวล! เธอดูสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีปัญหาอะไร ก็เลยเซ็นสัญญาแต่สัญญาจะมีผล ต้องอัพเดตนิยายให้จบก่อนเธอจึงตั้งค่า ให้นิยายสองเล่ม อัพเดตอัตโนมัติวันละห้าหมื่นคำนิยายสองเล่มนี้ เล่มหนึ่งเป็นเรื่องสั้น อีกเล่มเป็นเรื่องยาว“อัพเดตวันละห้าหมื่นคำ! ผู้เขียนขยันจัง!”เซี่ยฉิ

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 34

    “สวัสดีค่ะ!”เซี่ยฉิงจำได้ว่า นิยายสองเล่มที่เธอเซ็นสัญญากับแอปฯ ชีเมาก็ผ่านการอนุมัติแล้ว อยู่ภายใต้การดูแลของซวนซวน“นิยายสองเล่มของคุณ 《อำนาจที่ครอบคลุมทั่วหล้า》และ《หญิงสาวอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ》 มีบริษัทภาพยนตร์อยากซื้อลิขสิทธิ์!”“แต่สองเล่มนี้ยังไม่จบเลยนะคะ?”เมื่อคืนเซี่ยฉิงอัพเดตนิยายสองเล่ม ห้าหมื่นคำ!ไม่ต้องเขียนเอง แค่สแกนแล้วอัพโหลดก็ได้“ฉันเห็นว่าเมื่อวานคุณอัพเดตไปหนึ่งแสนคำ คงจะมีต้นฉบับเก็บไว้เยอะแล้วสินะคะ”“บริษัทที่อยากซื้อลิขสิทธิ์ของคุณคือบริษัทเทียนหยู ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์สามปี สิบล้าน หักภาษีส่วนบุคคลแล้ว ค่าลิขสิทธิ์นิยายสองเล่มนี้ จะได้ทั้งหมดเก้าล้าน”ได้ยินแบบนี้ ใจของเซี่ยฉิงก็รู้สึกตื่นเต้น ได้ยินเสียง “ปัง” เธอมองขึ้นไป เห็นว่าตะเกียบของเซี่ยจี้เสียงตกพื้นหยางเซี่ยอุดปาก ไม่เชื่อ“ถ้าพิมพ์เป็นหนังสือ เราก็จะแบ่งรายได้กัน ถ้าคุณยินดี ลองดูสัญญา ฉันส่งไปที่อีเมลของคุณแล้ว”“ได้ค่ะ! ฉันจะลองดูสัญญาก่อน”โต๊ะอาหารเงียบไปห้านาที สุดท้ายเซี่ยฉิงก็อดกลั้นความตื่นเต้น ทำเป็นพูดอย่างใจเย็นว่า: “ดูสิ ฉันบอกแล้วว่าฉันมีเงิน!”หยางเซี่ยก็ชอบอ่านนิยาย นิ

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 33

    เช้าวันถัดไป เซี่ยฉิงตื่นแต่เช้า จัดการเครื่องประดับที่เหลือ กระเป๋าเดินทางสองใบที่อยู่ใต้เตียง จัดการได้เกือบหมดแล้วแล้วเธอก็เห็นโทรศัพท์มือถือที่ซูอวี้ใส่ไว้ในพื้นที่พิเศษ ครั้งนี้เปิดเครื่องแล้ว ดูเหมือนว่าที่นั่นจะมีไฟฟ้าแล้วเพราะเซี่ยฉิงไม่มีที่ชาร์จที่เข้ากันได้ เธอจึงเปิดโทรศัพท์ เห็นข้อความที่พิมพ์ไว้:{“ผมขอขอบคุณแทนพวกเขาสำหรับอาหาร มีรูปภาพด้วยนะ”} มีรูปภาพด้วยเหรอ? เซี่ยฉิงเปิดอัลบั้มรูปด้วยความอยากรู้อยากเห็น โทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าแบบนี้ เธอไม่ค่อยชิน หน้าจอสัมผัสไม่ได้รูปแรกทำให้เธอตกใจ! นี่มันยากจนกว่าชนบทที่ยากจนเสียอีก ผู้หญิงและผู้ชาย ผอมซูบ หนังติดกระดูกแต่ดวงตาของพวกเขามีความหวัง คนแรกที่ได้รับมันเทศ ก็ยิ้มอย่างมีความสุขแค่ได้มันเทศ ก็ทำให้พวกเขารู้สึกพึงพอใจแล้วต่อมาเป็นรูปเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อายุแค่ไม่กี่ขวบ ผมบางมาก ดูเหมือนว่าจะร่วงหมดแล้วถือมันเทศและมะเขือเทศ แต่ก็ดูมีความสุข เหมือนกับว่าได้กินของอร่อยที่สุดดวงตาของเซี่ยฉิงเริ่มแดงขึ้น เธอคิดว่าตัวเองเคยลำบาก แต่สำหรับเด็กๆเหล่านี้ อย่างน้อยเธอก็ไม่เคยขาดแคลนอาหารการกินวันนี้เธอตั้งใจจะไปหมู่

  • ข้ามยุคโลกาวินาศ: ผู้ล้นหลามทรัพย์เพื่อเลี้ยงกองทัพ   บทที่ 32

    “ครับ พี่อวี้! ถึงแม้ว่าเราจะตาย ก็จะไม่ให้ผักพวกนี้สูญหาย!”ไม่นาน ทั่วทั้งฐานก็มีควันไฟ บางคนมีหม้อก็เอาไปต้มมันเทศ ต้มมะเขือม่วงกิน!คนที่ไม่มีหม้อก็เอาไปย่างมันเทศ ย่างมะเขือม่วงกิน ทันใดนั้น ก็มีควันไฟลอยขึ้นมา นี่คือความหวังในการมีชีวิตรอดเด็กเล็กๆ โดยเฉพาะเด็กกำพร้า จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ“พี่ชาย อันนี้อร่อยจังเลย อร่อยกว่ากินเปลือกไม้เยอะเลย” เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่ใส่รองเท้าไม่พอดี นิ้วโป้งดำคล้ำ ถือมันเทศและมะเขือเทศ หน้าเปื้อน กัดมะเขือเทศคำหนึ่ง น้ำมะเขือเทศแดงๆเปื้อนปาก ยิ้มอย่างน่าสงสาร มองซูอวี้ด้วยดวงตาเป็นประกายซูอวี้ลูบหัวเธอ เด็กอายุแค่สี่ห้าขวบ แค่สัมผัสเบาๆก็มีผมร่วงหลายเส้นเด็กอายุเท่านี้ ลืมรสชาติอาหารเดิมไปแล้ว นับตั้งแต่จำความได้ ก็กินแต่ขนมที่หมดอายุ และใบไม้ที่มีพิษอีกด้านหนึ่ง หลี่เยากำลังต้มมันเทศและมันฝรั่งให้ภรรยา ต้มสุกแล้วบด เด็กก็กินได้“ที่รัก กินเยอะๆนะ!”“ไม่เป็นไรค่ะ เก็บไว้เถอะค่ะ” เถียนรุ่ยพูดอย่างเสียดาย“ยังมีอีกเยอะ! พี่อวี้บอกแล้ว ต่อไปนี้จะไม่ขาดอาหาร! คำพูดของพี่อวี้ คุณไม่เชื่อเหรอคะ? ต้องกินเยอะๆ ร่างกายถึงจะฟื้นตัวได้”“ร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status