“เช่นนั้นก็รับปากข้ามาสิเจ้าคะ ว่าจะไม่สังหารข้าไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม” คุณหนูจางยกมือเช็ดน้ำตาที่มีน้อยนิดด้วยท่าทางน่าสงสาร
“ได้ๆ พี่รับปาก พี่สาบานว่าจะไม่สังหารเจ้าไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ ข้าจะได้สนทนากับท่านอย่างสบายใจเสียที”
“ชิงหนี่ว์ เรื่องราวความฝันมันก็เป็นแค่ความฝัน มิใช่ความจริง พี่จะสังหารเจ้าเพื่อผู้อื่นได้อย่างไร”
“...”
“หากเจ้าไม่ได้ฝันเรื่องราวเหล่านั้น พี่ขอถามเจ้า ว่าเจ้าลังเลหรือคิดเปลี่ยนใจจากตัวซวยผู้นั้นหรือไม่”
“ไม่เจ้าค่ะ เพราะอย่างไรสิ่งที่ข้าต้องการท่านก็ให
“เจ้าคิดว่าชิงหนี่ว์จะถูกหลี่เฉียงล่อลวงหรือไม่” “...” “เจ้าหลี่เฉียงนั่นพึงใจนาง” “หากมีใจให้นางมากถึงเพียงนี้ ข้าว่าเจ้าควรแสดงออกให้มากหน่อย หากมัวแต่นิ่งเฉย นางคงหลงใหลไปกับบุรุษอื่นเข้าสักวัน” “ชินอ๋องซื่อจื่อ องครักษ์ของท่านฝากคำกล่าวมาขอรับ” องครักษ์คนสนิทขององค์รัชทายาทเดินเข้ามาทูลรายงาน “รีบกล่าวมา” “คุณหนูจางเมามาย หลานชายเถ้าแก่เนี้ยจึงต้องประคองขึ้นรถม้าพาไปส่งถึงจวน” “ว่าอย่างไรนะ”&nbs
“บ่าวไม่พูดแล้วก็ได้ แต่หากพรุ่งนี้โดนคุณชายใหญ่ต่อว่า บ่าวไม่รู้ด้วยแล้วนะเจ้าคะ” สิ้นเสียงสาวใช้คนสนิท คุณหนูจางลุกขึ้นนั่ง “ข้าอ้อนแค่คำสองคำ พี่ใหญ่ก็ใจอ่อนแล้ว เจ้าอย่าได้บ่นเลย ไปนอนเถิด” นางกล่าวจบก็ล้มตัวลงนอน “คุณหนู! เฮ้อ...” จื่อรั่วร้องเสียงหลงด้วยความตกใจก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าแท้จริงคุณหนูแค่หลับไป “เช่นนั้นบ่าวจะนอนเฝ้าท่านอยู่ตรงนี้นะเจ้าคะ” สิ้นเสียงกล่าวคุณหนูที่คิดว่าหลับไปแล้วก็ใช้ศอกชันตัวขึ้นมองสาวใช้แล้วตอบกลับ “ไม่ต้อง เสียงกรนของเจ้าจะทำให้ข้านอนไม่หลับ” จางชิงหนี่ว์กล่าวจบก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง “คุณหนู!” จื่อรั่ว
18 สตรีเช่นข้าไม่ได้โง่เขลา ดวงตาเมล็ดซิ่งลืมขึ้นมองความมืดมิดในห้อง บุรุษสวมหน้ากากผู้นั้นออกไปแล้ว นางลุกขึ้นนั่งไร้ท่าทีของสตรีเมามายคนเมื่อครู่ ยากันเมามายที่จื่อเป่ามอบให้ช่างใช้ได้ผลดี ส่วนเรื่องราวทั้งหมดแม้จะสงสัยและพอจะคาดเดาได้อยู่แล้ว แต่พอถึงเวลาที่ทุกอย่างปลดเปลื้องนางก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
“หากข้าตอบว่าไม่ ท่านจะปล่อยข้าไปหรือไม่เจ้าคะ” ชิงหนี่ว์เอ่ยถามเสียงอ่อน ท่าทางก้มหน้าเล็กน้อยแล้วช้อนตาขึ้นมองพี่ชายช่างน่าเอ็นดู หากไม่ติดว่าสั่งสมความผิดไว้มาก พี่ใหญ่อย่างเขาคงจะยอมปล่อยผ่าน “ไม่!” “เช่นนั้นก็ถามมาเถิดเจ้าค่ะ” นางจะพยายามตอบให้ตรงกับที่พี่ใหญ่อยากฟัง “ชายที่มาส่งเจ้าเมื่อคืนเป็นใคร” “เขาเป็นหลานชายของเถ้าแก่เนี้ยหยุนซือ ที่ร้านขายภาพวาดซือซือ ที่ข้ามักจะนำภาพวาดทิวทัศน์ไปขายให้เจ้าค่ะ” เรื่องวาดภาพบุรุษขายจะให้พี่ใหญ่ทราบไม่ได้ มิเช่นนั้นโทษคงเพิ่มขึ้น “แล้วเหตุใดเจ้าถึงได้ดื่มสุราเมามายจนเขาต้องมาส่ง”&nb
“เห็นตอนนั้นเจ้ากล่าวว่าอยากฝึกเขียนคำว่าแต่งชินอ๋อง พี่คิดว่าเจ้ายังเด็กไม่ได้เข้าใจลึกซึ้งอันใดกับคำนี้ แต่มาตอนนี้ เฮอะ...” ที่แท้เจ้าหมูน่าตายจ้องขโมยหัวผักกาดที่เขาเฝ้าฟูมฟัก ไม่รู้ว่าแท้จริงลอบเกี้ยวพาน้องเล็กลับหลังเขามานานเท่าใดแล้ว นางถึงได้คิดเข้าข้างเช่นนี้ “เรื่องในตอนนั้นข้ากล่าวไปเพราะความเป็นเด็กจริงๆ เจ้าค่ะ” เรื่องผ่านมานานถึงสิบปีแล้วท่านก็ควรลืมไปเสียบ้าง “เหอะ พี่ก็แค่เป็นห่วงเจ้าไม่อยากให้เจ้ามีชะตากรรมเดียวกับท่านแม่” จางชิงเทียนเค้นเสียงลอดไรฟัน ก่อนจะเบือนหน้าหนีไม่ยอมสบตาน้องสาวให้ใจอ่อนไหวละลายง่ายดายดั่งขี้ผึ้งลนไฟ “พี่ใหญ่ท่านอย่าได้กังวลเรื่องของชินอ๋องซื่อจื่อเกินไปเจ้าค่ะ หากสุดท้ายแล้วเขาทำร้ายจิตใจข้า ข้ายินดีท
“เจ้าค่ะ” ท่าทางออดอ้อนราวกับเด็กกลัวความผิดเมื่อครู่เลือนหายเหลือเพียงรอยยิ้มสดใสก่อนที่น้องสาวของเขาจะกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกจากห้อง แม้จะกล่าววาจาไปกับน้องสาวเช่นนั้นแต่คุณชายจางที่บอกว่าจะออกไปหาสหาย แท้จริงแล้วเขากำลังมุ่งหน้าตรงไปยังจวนของท่านราชครูจาง “ชิงเทียน เป็นอย่างไรบ้าง เห็นลุงเจ้าบอกว่าเจ้าขอหยุดงานกับฮ่องเต้” “ข้ามิเป็นอันใดขอรับ ท่านปู่ท่านยังจำได้หรือไม่ขอรับที่เราเคยสนทนากันว่าจะหาซื้อทาสมาเลี้ยงดูและฝึกฝนให้แต่งเข้าเป็นเขยตระกูลจาง” คำกล่าวของหลานชายทำให้แววตาของท่านปู่วูบไหว “จำได้ มีอันใดหรือ”&
“พระองค์คงยืนฟังได้พักใหญ่แล้ว” “ขออภัยขอรับท่านปู่ ที่ข้าเสียมารยาท” หลังจากที่ฝากตัวเป็นหลานเขยแล้วชินอ๋องซื่อจื่อผู้นี้ก็เรียกขานและสนทนากับคนตระกูลจางราวกับคนในครอบครัวเดียวกัน “พระองค์ได้ยินก็ดีแล้ว จะได้ทราบว่าชิงเทียนรักและหวงแหนน้องสาวมากเช่นไร และเพราะเหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น” “ข้าทราบแล้วขอรับ ข้ายังยืนยันกับท่านปู่เช่นเดิมว่าข้ารักและหวงแหนชิงหนี่ว์ไม่ต่างจากพวกท่าน” แม้จะทราบว่าจางชิงเทียนหวงแหนน้องสาว แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่าจะมีเบื้องหลังเช่นนี้ เพราะมีรอยแผลในจิตใจ บุรุษผู้นี้จึงห่วงใยน้องสาวมากถึงเพียงนี้ แต่จางชิงเทียนคงไม่ทราบเช่นกันว่าแท้จริงเขาก็มีความหลังคล้ายคลึงกัน นั่นคือแรงริษยาจากสตรีของบิดาทำให้มารดาต้องตายเช่นกัน&n
19 สตรีในดวงใจของท่านลุง พรึ่บ ชายชุดดำคุกเข่าลงตรงหน้าผู้เป็นนาย ก่อนจะยกมือปาดเหงื่อที่ชื้นเล็กน้อยบริเวณไรผม “ว่ามา” “ท่านราชเลขาฯ ซื้อตัวทาสไปเรียบร้อยแล้วขอรับ” 
“โอ๊ย! พี่เวียนหัว เจ้าช่วยประคองพี่ได้หรือไม่” ‘บุรุษเจ้ามารยา’ นางคิดก่อนจะลุกยืนขึ้นทั้งๆ ที่โดนสวมกอดจากทางด้านหลัง “ท่านเกาะข้าแน่นๆ นะเจ้าคะ ประเดี๋ยวข้าจะประคองท่านไปที่เตียง” “ขอรับน้องหญิง” คำกล่าวเรียกของเขาทำให้นางหน้าแดงลามไปถึงใบหู ยิ่งให้โจวอันฉีรู้สึกอยากหยอกเย้านางมากขึ้นไปอีก ฟู่ว...เขาเป่าหูนางอย่างแผ่วเบาก่อนจะแลบลิ้นเลียใบหูที่แดงก่ำ “ท่านทำอันใด” เป็นสุนัขหรืออย่างไร “ขออภัยหูเจ้าแดงก่ำช่างน่าลิ้มรส พี่จึงเผลอไผลไปบ้าง”&nb
“รีบไปทำอาหารเถิดเจ้าค่ะ ข้าอยากชิมอาหารฝีมือท่านแล้ว” คำหวานจากสตรีที่พึงใจทำให้ชินอ๋องรีบไปเข้าครัว โดยไม่สนใจสายตาของจางชิงเทียนที่จับจ้องอยู่ ใช้เวลาอยู่ราวหนึ่งชั่วยาม อาหารทั้งหมดก็ถูกบ่าวรับใช้ยกขึ้นโต๊ะ อาหารที่ชินอ๋องทำในวันนี้ล้วนมีหน้าตาน่ากินต่างจากครั้งก่อนๆ ทั้งปลาหลีฮื้อเปรี้ยวหวาน ไก่น้ำลาย ไก่องครักษ์ กุ้งผัดชาหลงจิ่ง หมูสามชั้นอบผักดอง อาหารทุกจานล้วนคล้ายคลึงกับอาหารที่โรงเตี๊ยมเหอหยวน เรียกได้ว่าหากไม่เห็นชินอ๋องยืนทำทุกอย่างด้วยตนเองทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มหั่นหมูหั่นปลาหรือแกะกุ้ง คงจะคิดไปแล้วว่าอาหารเล่านี้ถูกซื้อมาจากโรงเตี๊ยมเหอหยวน “หน้าตาน่ากินไม่น้อยเลยเจ้าค่ะ” หยุนว่านซือกล่าว&nbs
“หากเจ้าทำให้พวกนางได้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานในการแย่งชิงความโปรดปราน ข้าจะทูลขออภัยโทษเรื่องราวที่เมืองเจียงเฉินให้” “กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ชินอ๋องช่างโหดเหี้ยม ยืมมือเขาทรมานสตรีน่ารังเกียจสองคนนั่น แต่ก็ช่างเถิดในเมื่อผู้สูงศักดิ์ต้องการเขามีหรือจะขัดขวางได้ เพราะอย่างไรในสายตาของเขาสตรีก็เปรียบเสมือนตุ๊กตาผ้าไร้ค่า สุดท้ายแล้วผู้ตรวจการยินยอมทำตามความต้องการของชินอ๋อง เพื่อแลกกับความช่วยเหลือที่ชินอ๋องจะขอพระราชทานอภัยเรื่องที่เขาประมาทเลินเล่อปล่อยผ่านจนทำให้เจ้าเมืองเจียงเฉินยักยอกงบประมาณช่วยเหลือชาวบ้านจากเหตุน้ำท่วม ก่อนกลับบุรุษสูงศักดิ์ยังกำชับอีกว่าหากตนสามารถดูแลฮูหยินทั้งสองได้ถูกใจ ชินอ๋องจะช่วยเหลือให้เขาได้ย้ายกลับเมืองหลวงก่อนคร
“คุณหนูสวี่ เจ้าได้ยินจากที่ใดว่าคุณหนูจางเป็นคนกล่าวยุยงชินอ๋องจนนางต้องวางยาปลุกกำหนัดหวังทำลายชีวิตผู้อื่น” “หม่อมฉัน...” สวี่ลู่ฟางพยายามคิดเพื่อจะหาข้อแก้ตัว ที่ผ่านมาได้แต่พยายามทำตามเรื่องราวในหนังสือลึกลับเล่มนั้น นางจึงไม่เคยคิดว่าหากวันหนึ่งเรื่องราวมันพลิกผันไปร้ายแรงเช่นนี้ ตนจะต้องทำอย่างไร “คิดให้ดีก่อนจะกล่าววาจาออกมา หากคำที่เจ้ากล่าวออกมาเปิ่นกงค้นพบว่าเป็นเพียงคำโกหก โทษของเจ้าก็จะเพิ่มไปด้วย” “หม่อมฉันไม่ทราบเรื่องที่คุณหนูหลิวกล่าวอ้างเจ้าค่ะ” บุตรสาวหมอหลวงเอ่ยปากราวกับไม่ทราบเรื่องราวทั้งหมด “หมายความว่าเรื่องราวทั้งหมดคุณหนูหลิวคิดไปเอง” “ใช่เพคะ
24 ลบหลู่ฮองเฮา ขบวนเสด็จของฮ่องเต้และฮองเฮาเคลื่อนผ่านเฉียดกรายงานเลี้ยงที่ยังมีฮูหยินและคุณหนูบางจวนอยู่สนทนากัน ท่าทางรีบร้อนของผู้สูงศักดิ์และสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของคุณหนูจางและคุณหนูหวังดึงดูดให้กลุ่มฮูหยินปากมากลอบตามติด เสีย
“แต่ข้าเห็นด้วยกับฮองเฮา ถ้าเจ้าอยากจะไปช่วยนางก็เชิญ ข้าจะช่วยฮองเฮาถวายฎีกาให้แต่งตั้งหลิวเมิ่งที่เจ้าเอ็นดูขึ้นเป็นฮองเฮาแทน” “อันฉีเจ้ากล้า...” “ข้าต้องกล้าอยู่แล้ว สตรีเหล่านั้นคิดวางยาทำร้ายสตรีของข้า เจ้าอยู่ในวังหลวงก็น่าจะเห็นเล่ห์กลมากมาย เหตุใดถึงคิดช่วยเหลือสตรีที่จ้องทำลายผู้อื่นด้วยวิธีสกปรกเช่นนี้ แล้วเจ้ามิคิดบ้างหรือว่าหากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมาฮองเฮาจะเสียชื่อเพียงใด จัดงานครั้งแรกก็ดูแลไม่ทั่วถึงจนเกิดเรื่องกับสหายตน” “เชิญเพคะ พระองค์อยากไปช่วยนางก็เชิญเสด็จ กงกง รีบพาฝ่าบาทไปช่วยสตรีในดวงใจ แล้วอย่าให้ฝ่าบาทเข้ามาที่ตำหนักข้าอีก” “ไม่เอา พี่ไม่ไป เข่อชิงพี่ขอโทษที่ทำให้เจ้าหงุดหงิด พี่ขอโทษที่โง่เง่า” ฮ่องเต้พ
“มิได้เจ้าค่ะ ฮองเฮาประสงค์อยากพบคุณหนูจางเพียงคนเดียวเจ้าค่ะ” “เช่นนั้น...” “รีบไปกันเถิดเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวฮองเฮาจะทรงกริ้วนูปี้” “เช่นนั้นก็นำทางไปเถิด” สุดท้ายชิงหนี่ว์ก็ยินยอมที่จะตามนางกำนัลผู้นั้นไป แม้จะรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล ระหว่างที่สองเท้าก้าวเดินตามนางกำนัลที่ตนไม่รู้จัก คำเตือนของพี่ใหญ่ที่ดังก้องอยู่ในหัวทำให้นางเริ่มชะลอฝีเท้าลงเรื่อยๆ เพื่อทิ้งระยะห่างหากเกิดเรื่องขึ้นตนจะได้สบโอกาสหนีทัน แต่ยังไม่ทันได้ลงมือทำอันใด ดวงตาเมล็ดซิ่งก็เบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อประตูตำหนักเปิดออก “เยว่ฉิง เจ้ามาอยู่ที่นี
“จางชิงหนี่ว์เห็นทีเจ้ากับข้าจะอยู่ร่วมแผ่นดินกันไม่ได้” ท่าทางเดือดดาลของหลิวเมิ่งทำให้สตรีอีกนางลอบยิ้มอย่างสมหวัง ‘บังอาจมาแย่งวาสนาข้า ข้าจะทำให้เจ้าได้อับอายจนไม่อาจสู้หน้าผู้ใดได้’ “การจะทำให้สตรีไร้ที่ยืนในแผ่นดินมันก็มีไม่กี่วิธี อย่างที่ข้าเห็นบรรดาสตรีในเรือนหลังมักจะชอบติดต่อขอซื้อยารัญจวนจิตเพื่อใช้จัดฉากใส่ร้ายสตรีที่ตนไม่ชอบหน้า แต่ข้าว่าวิธีนี้มันจะทำให้คุณหนูจางกลายเป็นสตรีมีมลทินยากจะหากบุรุษอื่นมาตบแต่งด้วยได้” แน่นอนว่าตำแหน่งพระชายาชินอ๋องก็ต้องหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย “เจ้านำยานั่นพกติดตัวมาด้วยหรือไม่” เพราะความโกรธอย่างไร้สติทำให้คุณหนูหลิวขาดสติในการยับยั้งชั่งใจ “ใครจะนำยาอันตรายเช่นนั้นติดตัวมา...ตายจริงมันมาอยู่ที่นี่ได้อย
“เป็นคนลงมือทำเอง เหตุใดถึงไม่มั่นใจว่าจะถูกปากนางเล่า หรือว่าแท้จริงท่านอ๋องเพียงแค่ฝึกส่งๆ ไป ไม่ได้ตั้งใจอันใดมาก” คำกล่าวของจางชิงเทียนทำให้ชินอ๋องหันไปมองด้วยแววตาขุ่นเคือง หากเขาคิดเช่นนั้นเขาจะตั้งใจฝึกทำอาหารวันละสามเวลาด้วยเหตุใด “ข้าจะชิมเจ้าค่ะ” ชิงหนี่ว์กล่าวจบก็รีบหยิบตะเกียบแล้วคีบอาหารเข้าปาก “หากไม่ถูกปากเจ้าสามารถบอกพี่ตามตรงได้” “อร่อยเจ้าค่ะ” กล่าวจบนางก็คีบอาหารจานต่อไปส่งเข้าปาก และทำเช่นนั้นต่อไปเรื่อยๆ จนสิ้นสุดที่จานที่สี่ “ท่านเพิ่งหัดทำอาหารจริงๆ หรือเจ้าคะ” “อืม”&