ส่วนเจียวมิ่งนั้นคิดว่าอยู่เฉยอีกไม่ได้แล้ว เรื่องนี้ต้องรายงานจึงเขียนจดหมายถึงเซียวหนิงหลงอีกครั้ง โดยระบุไปว่าขอให้เซียวหนิงหลงส่งคนมาเพิ่มอีกสักหน่อยเถิด ว่าที่นายหญิงของพวกตนทั้งซุกซนทั้งคิดการใหญ่ ยิ่งมีการขยายสาขาร้านก๋วยเตี๋ยวยิ่งต้องมีคนคอยประสานงานกัน เจียวมิ่งร้องขอความเห็นใจจากเซียวหนิงห
พอมีคนพูดถึงเรื่องของราษฎร ก็แย้งว่าไม่สำคัญเท่าเรื่องสตรีข้างกายรัชทายาท จนฝ่าบาททรงกริ้วงดประชุมเป็นเวลาหนึ่งเดือน หากไม่มีเรื่องเร่งด่วนเกี่ยวกับปากท้องของราษฎร ไม่ต้องถวายฎีกาขึ้นไปถึงพระองค์ให้เสียเวลา พ่อถึงได้มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ของเจ้าที่จวนอย่างไรเล่า”“ตาแก่พวกนี้อยู่นานเพราะเกิดก่อ
หลังจากส่งคนจากแดนเหนือกลับไปได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ลู่ชิงกับครอบครัวก็ได้ฤกษ์ย้ายเข้าบ้านใหม่ตรงกับวันหยุดพอดี จึงไม่ต้องกังวลเรื่องร้านอาหารมากเท่าไหร่นัก ทุกคนต่างลงความเห็นว่าทำพิธีตามธรรมเนียมก็พอ ไม่ต้องจัดงานเลี้ยงอะไรให้ยิ่งใหญ่แบบคนอื่นทุกคนเพียงช่วยกันทำอาหารและนำไปแจกจ่ายให้ชาวบ้าน หากต้อ
“ไป ๆ ๆ เจ้าเด็กหน้าเหม็นพวกนี้พูดจาเลื่อนเปื้อนจริง ๆ”“ฮ่า ๆ ๆ น้องรองเจ้าดูท่านพ่อกับท่านแม่สิ หน้าแดงมากเลยล่ะสงสัยจะเขินอายพวกเราแน่ ๆ”“พี่ใหญ่ท่านจะหยอกเย้าท่านพ่อท่านแม่ไปทำไมกัน หากท่านอิจฉาก็รีบหาพี่สะใภ้เข้าบ้านเสียก็สิ้นเรื่อง” ลู่เสียนแค่อยากจะเอ่ยหยอกล้อพี่ชาย ไม่คิดว่าลู่จื้อจะมีอาการ
“ซู้ดดดด ง่ำ ๆ ๆ อร่อยมากเลยขอรับ รสชาติแตกต่างจากการใส่น้ำในชามไปอีกแบบ”“ท่านพ่อ พวกเราคงต้องเตรียมชามก๋วยเตี๋ยวเพิ่มแล้วกระมัง ข้ากินไปสองชามแล้วยังอยากกินอีกขอรับ”“จริงเจ้าค่ะท่านพี่ข้าเองยังกินไปตั้งสองชาม แต่ว่าชามไม่ได้ใหญ่เกินไปแบบที่ขายอยู่ตอนนี้ เพื่อรองรับการสั่งก๋วยเตี๋ยวรายการนี้ พวกเร
ในตำบลหย่งฝูและเมืองหย่งจินกำลังมีความสุข กับการได้ลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวแบบแห้งที่ร้านตระกูลสวี บรรดาลูกค้าต่างหลั่งไหลมารอชิมตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด เพราะเกรงว่าหากมาช้าจะอดกินเสียก่อน ซึ่งบรรยากาศช่างแตกต่างกับเมืองหลวงแคว้นฉู่ลิบลับเมื่อครั้งที่เซียวหนิงหลงได้รับฟังปัญหาจากบิดา เรื่องที่ขุนนางเลว ๆ หล
“อ้าว เจ้าลูกคนนี้นี่ออกอาการดีใจทีไรลืมความเป็นกุลสตรีตลอด พรุ่งนี้พบสหายจะไม่พูดจาโอ้อวดกันใหญ่โตหรือนั่น”“ฮ่า ๆ ๆ น้องหญิงอย่าบ่นลูกนักเลยให้นางเป็นตัวของตัวเองดีกว่า อย่างน้อยการที่เล่อเล่อเป็นแบบนี้ ก็ช่วยคัดกรองครอบครัวที่คิดจะเกี่ยวดองกับพวกเราได้อีกทางหนึ่งนะ”“เจ้าค่ะท่านพี่”“ท่านพ่อท่านแ
“อืม จริงอย่างที่บิดาของเจ้าบอกไปนั่นแหล่ะนะ พอถึงเวลาประชุมทีไรก็เอาแต่จะส่งบุตรหลานเข้าตำหนักบูรพา เมื่อมีขุนนางคนอื่นจะเสนอเรื่องแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ก็ขัดขวางไม่ยอมแสดงความคิดเห็นอันใดทั้งสิ้น จะไม่ให้ลุงโมโหถึงขั้นงดประชุมได้อย่างไร”“ในเมื่อตาแก่หัวโบราณคร่ำครึพวกนั้นอยากให้บุตรหลานแต่งงาน เสด็
“กระหม่อมเข้าใจชิงเอ๋อร์เป็นอย่างดี และไม่มีวันที่จะทำให้ชิงเอ๋อร์ต้องเสียใจ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตามชิงเอ๋อร์อยากทำสิ่งใดกระหม่อมย่อมสนับสนุน คอยปกป้องนางให้พ้นภัยจากคนชั่ว รัชทายาทอย่าได้ทรงกังวลเรื่องนี้ หากเมื่อไหร่ชิงเอ๋อร์ต้องการไปเยือนตงเฉียน กระหม่อมจะเป็นคนพาไปด้วยตนเองพ่ะย่ะค่ะ” “ก็ดี เปิ่นไท่
“แล้วเสี่ยวชิงเป็นอย่างไรบ้าง ทำสัญญาการค้ากับสี่แคว้น แค่วันเดียวก็ได้รับเงินแสนตำลึงแล้ว ยังไม่นับเงินส่วนต่างที่จะได้รับหลังกิจการในแต่ละแคว้นเปิดทำการอีก ต่อไปนี้ใคร ๆ ก็คงจะคิดหนักหากคิดจะจัดการตระกูลสวี” “ตอนนี้ชิงเอ๋อร์กำลังทำคู่มือสำหรับการเปิดกิจการสาขา และพ่อครัวที่ต้องเดินทางไปสอนการทำอา
เมื่อคนกลุ่มใหญ่จากสามแคว้นออกจากท้องพระโรงแล้ว ได้เสด็จตรงไปยังประตูวังหลวง เพื่อรอให้ข้ารับใช้ไปเก็บสัมภาระ ยังตำหนักรับรองที่ได้พำนักก่อนหน้านี้ รวมถึงรัชทายาทและพระชายาที่ต้องตามเสด็จกลับแคว้น แม้ภายในใจจะรู้สึกโกรธเคือง และไม่เห็นด้วยกับพระบิดาเพียงใดก็ไม่อาจแสดงออกได้มากนัก ยามนี้ยังอยู่ต่างแ
“เฮอะ มีฮ่องเต้คนใดบ้างที่ไม่มีสนม อย่างน้อยพวกนางก็ช่วยให้เรามีความสุขชั่วครั้งชั่วคราวก็ยังดี ขุนนางจะดีจะชั่วใช่ว่า จะมองออกได้ง่าย ๆ ท่านคงคิดว่าตนเองเก่งมาก ที่สามารถมองคนออกว่าคนไหนดีคนไหนไม่ดีเชียวรึ” ฮ่องเต้จากซีหนานตรัสประชดประชันอย่างน่าหมั่นไส้ “ฮ่องเต้ซีหนานท่านไม่อยากเป็นฮ่องเต้ ที่เ
“จริงรึ! นี่คงเป็นลิขิตสวรรค์ ที่ได้ส่งเด็กสาวคนนี้มาเกิดบนแผ่นดินแคว้นฉู่ แม้แต่วิธีแก้ปัญหาเล็ก ๆ แต่กลับช่วยผู้คนได้มากมายนัก ไว้แนะนำให้เจิ้นได้รู้จักนางบ้าง เผื่อจะได้แลกเปลี่ยนความรู้กันสักครั้ง” “เสด็จพ่อทรงพักผ่อนสักนิดเถิด เย็นนี้จะได้ชิมอาหารสูตรของคุณหนูสวี แล้วจะทรงเข้าพระทัยว่าเหตุใด ล
เพราะเดินทางก่อนทำให้ฮ่องเต้ตงเพ่ยจวิน เสด็จมาถึงเมืองหลวงแคว้นฉู่เป็นพระองค์แรก โดยมีรัชทายาทมารอรับเสด็จพระบิดาที่หน้าประตูวังหลวง พร้อมด้วยฮ่องเต้เซียวถิงเฟิง ชินอ๋องและขุนนางอีกหลายคนที่มารอต้อนรับด้วยเช่นกัน “ถวายพระพรเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ” “รัชทายาทเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง อยู่ที่นี่มีปัญหาอันใดหรือไ
“จือเค่อเจ้าไปสังหารฮ่องเต้ส่วนข้ากับลี่จ้งจะหาของมีค่า เผื่อฝ่าบาทจะนำมาด้วยระหว่างทางหลบหนี ยังต้องใช้เงินอีกมาก”“อืม ทำเงียบ ๆ เล่าอย่าได้ส่งเสียงดังเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพวกเราสามคนคงหนีไม่พ้นเข้าใจไหม”“เชื่อมือพวกข้าสองคนเถิดน่างานนี้ไม่มีพลาดแน่นอน เจ้ารอส่วนแบ่งก็พอแล้วรีบลงมือกันเถิด”จือเค่อ
ส่วนองครักษ์เหยียนกลับคิดถึงเรื่องยาพิษมากกว่า “อย่าว่าแต่เรื่องพลังยุทธ์เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนึกถึงยาพิษที่ฮองเฮาได้รับแล้วยังขนลุกได้ทุกครั้ง ยาพิษอันใดกันทำให้เจ็บปวดทรมานอยากตายก็ตายไม่ได้ แต่อยู่โดยมีพิษนี้อยู่ในร่างกายต้องทุกข์ทรมานยามตะวับลับขอบฟ้า น่ากลัวมากจริง ๆ นะพ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องนี้รัชท
ตลอดระยะเวลาที่ตัวประกันที่เป็นเชื้อพระวงศ์ และต้องพำนักอยู่ที่แคว้นฉู่มาพักใหญ่ แม้จะถูกจำกัดบริเวณที่ไปได้ แต่มิได้ทำให้ทุกคนซึมเซาหรือเคร่งเครียดแต่อย่างใด เพราะกิจการของตระกูลสวีดึงดูดความสนใจของทุกคน ยิ่งร้านน้ำหอมที่ได้เข้าไปเลือกชมด้วยตนเอง จนต้องเสียตำลึงเงินไปพอสมควร จะซื้อขวดเล็ก ๆ ได้อย่า