“ไม่เกินเจ็ดวันน่าจะมาถึงแล้วขอรับ ข้าว่าจะส่งตันเจียงไปรอรับที่นอกเมือง เพื่อป้องกันพวกที่คิดจะเล่นงานข้าฉวยโอกาสลงมือกับขบวนสินค้าขอรับ” เซียวหนิงหลงมักจะมีแผนระวังป้องกันเอาไว้เสมอ“อืม เจ้ารอบคอบดีมากแม้พวกมันจะไม่ลงมือ แต่ระวังเอาไว้ย่อมดีที่สุด แล้วเรื่องจิ่งไท่เฟยเล่าเจ้าจะเอาอย่างไร ถึงตอนนี
“คารวะคุณชายขอรับ” ก้งเจี้ยที่ยืนอยู่ด้านหลังลู่จื้อทำความเคารพเจ้านายบ้าง“อืม เดี๋ยวเจ้ากับตันเจียงช่วยกันดูคนงาน ยกลังสินค้าเข้าไปเก็บให้เรียบร้อย จากนั้นพาคนจากสำนักคุ้มภัยไปพักโรงเตี๊ยมใกล้ ๆ แถวนี้บอกหลงจู๊ว่าค่าใช้จ่ายให้ลงบัญชีของข้าไว้ ส่วนเกวียนให้ทหารนำกลับไปดูแล แล้วจ่ายค่าแรงตอบแทนพวกเข
“พี่ใหญ่สงสัยเจ้าหมอนี่คงจะลำบากจนเพี้ยนไปแล้วแน่ ๆ ถึงได้คิดว่าสินค้าราคาแพงทั้งหมดในร้านแห่งนี้ คือสินค้าที่เป็นกิจการของครอบครัวพวกมันนะเจ้าคะ น่าตลกสิ้นดี ฮ่า ๆ ๆ”“ข้าขอยืนยันว่าสินค้าทั้งหมดเหล่านี้เป็นของครอบครัวลู่จื้อจริง เจ้าสองคนพี่น้องก็โตขนาดนี้แล้วทำไมไม่มีหัวคิดเอาซะเลย ลองคิดทบทวนดูเ
อู๋เจี้ยนหาวพาน้องสาวเดินฝ่าผู้คนออกมาได้ ก็ไม่มีอารมณ์จะเดินเที่ยวต่อ ทั้งสองคนขึ้นรถม้าตรงกลับจวน เพื่อต้องการถามมารดาเรื่องที่ลู่จื้อพูดถึง สิ่งที่พวกเขาคิดมาตลอดว่าอารองทำผิดต่อตระกูลอู๋“พี่ใหญ่พอกลับถึงจวนพวกเราไปถามความเรื่องนี้กับท่านแม่เถิด ข้าอยากจะรู้ยิ่งนักว่าที่เจ้าสารเลวลู่จื้อพูดมาใช่
ทางด้านลู่จื้อหลังจากนั่งพักเหนื่อยที่ร้านค้ากับเซียวหนิงหลงแล้ว ตอนนี้เขามาหยุดยืนอยู่หน้าประตูจวนชินอ๋อง คราแรกลู่จื้อไม่เข้าใจที่เซียวหนิงหลงพาเขามาที่นี่แต่พอได้ยินทหารหน้าประตูทำความเคารพเท่านั้น ลู่จื้อได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกไปครู่ใหญ่ ที่ผ่านมาเขาคิดว่าเซียวหนิงหลงเป็นคุณชายจากตระกูลแม่ทัพ
และครั้งนี้ชิงเอ๋อร์น้องสาวของข้านางอยากให้ครอบครัวของพี่ชายเซียว ได้ลองกินก๋วยเตี๋ยวสูตรของตระกูลพวกเรา จึงฝากวิธีทำน้ำซุปมาพร้อมกับเส้นหมี่ขาวที่ตากแห้งแล้วขอรับ” ลู่จื้อนึกถึงน้องสาวที่ฝากสูตรการทำน้ำซุปใส สำหรับทำก๋วยเตี๋ยวมาให้เซียวหนิงหลงกับครอบครัว ได้ลองทำและชิมรสชาติดูบ้างว่าจะถูกใจพวกเขาหร
“ตันเจียง /ก้งเจี้ยข้าไม่อยากเห็นพวกมันมีลมหายใจอีก เก็บเจ้าหัวหน้านั่นไว้คนเดียวก็พอนอกนั้นส่งพวกมันไปลงนรกซะ!” อันธพาลแค่ไม่กี่คนฝีมือก็ยังไม่ถึงขั้นเก่งกาจ เซียวหนิงหลงไม่ลงมือ ให้เสียเวลาแน่ ๆ“ขอรับ /ขอรับ” ทั้งสองคนรับคำสั่งและหมุนตัวพุ่งออกไป ด้วยวิชาตัวเบาที่เร็วมากจนพวกต้าตงมองตามไม่ทัน“อ
เมื่อเกิดเรื่องระหว่างทางเช่นนี้ ลู่จื้อจึงไม่อยากจะเดินสำรวจต่อ เซียวหนิงหลงจึงพาเขาไปที่ร้านค้า เพื่อดูว่าวันนี้มีลูกค้าหน้าใหม่มาเพิ่มอีกหรือไม่ และไม่ลืมสั่งก้งเจี้ยตามไปดูต้าตงว่า ได้ทำตามที่รับปากจริงหรือไม่ อันที่จริงแล้วลู่จื้ออยากจะสั่งสอนอู๋เจี้ยนหาวอีกคน แต่เก็บเอาไว้ก่อนจะดีกว่าเดี๋ยวพวก
“เมื่อครู่พวกเจ้ายังไม่มีท่าทีจะยอมสักนิด ต้องให้เจ็บตัวเสียก่อนถึงจะยอมเปิดปากงั้นรึ หากทำตามที่บอกตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องบาดเจ็บเช่นนี้” หลี่เมิ่งยังไม่ยอมหยุดบ่นใส่พวกสีว์เปียว ที่ดื้อด้านในตอนแรกแต่พอเจ็บตัวก็เปลี่ยนท่าทีทันใด“พวกข้าผิดเองที่ทะนงตนคิดว่าคงจะสู้พวกเจ้าได้ อยากให้ข้าตอบคำถามอันใดถ้าต
“ข้าจะคอยดูแลร้านระหว่างท่านไม่อยู่เอง หากมีปัญหาอะไรข้าย่อมไม่ปล่อยไว้หรอก” หลี่เมิ่งอยากจะเจอกับพวกที่มาก่อเรื่องนานแล้ว คนแบบนี้จะพูดดีไปทำไมกันเมื่อเยวี๋ยนจิ้งห้าวแยกตัวกลับบ้านไปแล้ว พวกหลี่เฉียงกำลังจะกลับที่พักเช่นกันแต่กลับมีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นเสียก่อน ทั้งสามคน จึงหยุดฟังว่ามันคือเสียงอะไร
หลังจากพาตัวอู๋เจียงสงออกไปส่งด้านนอก ชินอ๋องและคนอื่นจึงออกมาจากด้านหลังฉากกั้น การสนทนาเมื่อครู่นั้นล้วนได้ยินกันทั่วหน้า แต่ไม่มีใครอยากพูดถึงมันอีกในเมื่อมันจบไปแล้ว จากนี้คือการเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริงบ้านตระกูลสวีจึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อปัญหาที่ค้างคาใจนั้นได้คลี่คลายแต่ที่แดนเหนือต
ให้ดี และประโยคสุดท้ายหันไปพูดกับเซียวหนิงหลง“มะ มะ ไม่จริง ปะ ปะ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ซื่อจื่อจะมาอยู่กับครอบครัวพวกเจ้าได้อย่างไรกัน ไหนผู้คนที่เมืองหลวงบอกว่าซื่อจื่อติดตามท่านอ๋อง เพื่อไปตรวจความเป็นอยู่ของชาวบ้านตามรับสั่งของฮ่องเต้” ตอนนี้อู๋เจียงสงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกแล้วเขาพูดพึมพำก
“ถึงพวกข้าจะยังไม่เป็นผู้ใหญ่มากนัก แต่อย่างน้อยก็พอจะรู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว ครอบครัวพวกเราอยู่ที่นี่มีความสุขกันดี จะกลับไปตระกูลที่เห็นแก่ตัวของท่านทำไมกัน อาหารการกินก็แค่เศษของเหลือจากเรือนของท่าน เสื้อผ้าก็ไม่เคยได้ผ้าไหมอย่างดีเหมือนหลานคนอื่น ๆแม้แต่เรือนแยกพวกเรายังไม่มีให้อยู่ ท่านคิดว่านี่ม
“นายท่านขอรับพวกเราเดินตามไปเงียบ ๆ จะดีกว่า ดูท่าทางสองคนนี้จะพูดจริงทำจริงนะขอรับ ดูดาบที่อยู่ตรงเอวพวกเขาสิน่าจะคมมากทีเดียว ข้าว่าอย่าไปท้าทายตามที่พวกเขาเตือนไว้ดีกว่าขอรับ” พ่อบ้านอู๋ที่ขี้ขลาดพอตัวสังเกตเห็นดาบที่เอวของก้งคุน ก็ขนลุกขนชันเกรงว่ามันจะมาพาดอยู่ที่คอของเขาแทน“ขี้ขลาดไม่เข้าเรื่
การฉลองงานหมั้นหมายของสองครอบครัวเป็นไปอย่างชื่นมื่น ทุกคนลิ้มลองสุราหมักท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ซึ่งย้ายสถานที่นั่งดื่มสุราขึ้นมายังชั้นสอง ที่ลู่ชิงทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นชมทิวทัศน์เอาไว้ โดยมีเพียงกลุ่มของเจียวมิ่งที่ขึ้นมาคอยดูแลส่วนเต๋อหลินต้องคอยดูแลกลุ่มที่ติดตามชินอ๋อง แต่รสชาติของสุราหมักทำ
“ถึงเจ้าไม่พูดข้าก็คิดจะลงมืออยู่แล้ว เมื่ออู๋เจียงสงกลับไปถึงเมืองหลวง อาจตายเพราะความตกใจจนเกินเหตุ หรือไม่ก็คงตรอมใจจนตายก็เป็นได้ เจ้าอย่าห่วงเลยข้าจะจัดการให้เมืองหลวงไม่มีชื่อตระกูลอู๋อีกต่อไป” เซียวหนิงหลงพูดคำไหนคำนั้นและเขาไม่เคยทำไม่สำเร็จ“ขอบคุณมากขอรับ รอให้ข้าฝึกวรยุทธ์ได้เก่งมากกว่านี
“ชิงเอ๋อร์เจ้ายื่นมือมาพี่จะช่วยสวมให้เจ้าเอง เมื่อใส่กำไลหยกชิ้นนี้แล้วก็ถือว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของพี่ เป็นว่าที่สะใภ้ของราชวงศ์เซียวแห่งแคว้นฉู่ หากมีใครคิดปองร้ายเจ้าโทษของคนเหล่านั้น ย่อมร้ายแรงมากกว่าปกติหลายเท่าการลงโทษย่อมมีหนักเบา หวังว่าเจ้าจะเข้าใจกฎเกณฑ์พวกนี้ บางครั้งเราไม่อาจใจดีกับคนที่