“ตันเจียง /ก้งเจี้ยข้าไม่อยากเห็นพวกมันมีลมหายใจอีก เก็บเจ้าหัวหน้านั่นไว้คนเดียวก็พอนอกนั้นส่งพวกมันไปลงนรกซะ!” อันธพาลแค่ไม่กี่คนฝีมือก็ยังไม่ถึงขั้นเก่งกาจ เซียวหนิงหลงไม่ลงมือ ให้เสียเวลาแน่ ๆ“ขอรับ /ขอรับ” ทั้งสองคนรับคำสั่งและหมุนตัวพุ่งออกไป ด้วยวิชาตัวเบาที่เร็วมากจนพวกต้าตงมองตามไม่ทัน“อ
เมื่อเกิดเรื่องระหว่างทางเช่นนี้ ลู่จื้อจึงไม่อยากจะเดินสำรวจต่อ เซียวหนิงหลงจึงพาเขาไปที่ร้านค้า เพื่อดูว่าวันนี้มีลูกค้าหน้าใหม่มาเพิ่มอีกหรือไม่ และไม่ลืมสั่งก้งเจี้ยตามไปดูต้าตงว่า ได้ทำตามที่รับปากจริงหรือไม่ อันที่จริงแล้วลู่จื้ออยากจะสั่งสอนอู๋เจี้ยนหาวอีกคน แต่เก็บเอาไว้ก่อนจะดีกว่าเดี๋ยวพวก
“จับใบหน้าของนางเอาไว้ให้แน่น ๆ หน่อย ข้าจะเอายาให้นางดื่มไม่ถึงหนึ่งจิบชา พวกเราจะได้พาฮูหยินของพวกเราไปเที่ยวสวรรค์เสียที”“ไม่นะ!!! ไม่ อึก อึก อึก แค่ก ๆ ๆ พวกเจ้าเอายาอันใดให้ข้ากิน”“มันเป็นยาที่จะทำให้ฮูหยินมีความสุขจนลืมไม่ลงไปอีกนานเชียวล่ะ ฮ่า ๆ ๆ”“ข้าว่าพวกเราถอดเสื้อผ้ารอเอาไว้ดีกว่านะ
“ปัง!!!! ใครพอจะบอกข้าได้บ้างไหมห๊ะ! ระหว่างที่ข้าต้องเดินทางไปเจรจาการค้าเพื่อตระกูล แต่บุตรหลานของข้ากลับทำตัวเลวทรามอวดเก่งหาเรื่องคนอื่นไปทั่วงั้นรึ”“ท่านปู่ขอรับเจ้านั่นคือลู่จื้อไม่ใช่คนอื่นนะขอรับ มันกล่าวหาว่าท่านพ่อกลั่นแกล้งครอบครัวของมัน จนถูกท่านปู่ไล่ออกจากตระกูลข้าแค่เห็นว่าเป็นญาติกั
หม่ารั่วชิงกลับมาที่เรือนของตน เพื่อเก็บข้าวของหลังจากประทับลายนิ้วมือของตนลงไปบนหนังสือหย่า ระหว่างนางกับอู๋ติ้งเกาซึ่งแต่งงานอยู่กินกันมานับสิบปี ถึงจะร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือดทุกอย่างย่อมไม่สามารถแก้ไขสิ่งใดได้อู๋เจี้ยนหาวกับอู๋เสี่ยวเซียนที่รู้เรื่องการหย่านี้จากบ่าวคนสนิท ก็อยากไปพบมารดาสักครั้
“สวีฮูหยินท่านลองคิดทบทวนดูอีกสักครั้ง นายท่านของพวกข้าถูกใจบุตรสาวของท่านจริง ๆ ดูสิสินสอดพวกนั้นก็มีมากถึงสิบหีบเชียว รับรองว่าบุตรสาวท่านไม่ลำบากแน่นอนเจ้าค่ะ”“ข้ายังขอยืนยันคำเดิมว่าไม่ตกลง และไม่คิดจะยกบุตรสาวให้กับบุรุษที่อายุน้อยกว่าบิดาของนางเพียงไม่กี่ปีหรอกนะ ที่สำคัญนางยังไม่ถึงวัยปักปิ่
“ขอรับ ข้าจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะไม่มีเงาของแม่สื่อที่ไหน มาสร้างความรำคาญใจกับพวกท่านอีกขอรับ” ลู่ชิงเปิดโอกาสให้เจียวมิ่งได้จัดการฮวนกั๋วลี่ตามวิธีของตนก็สนุกเขาน่ะสิ“ขอบคุณพี่เจียวมิ่งเจ้าค่ะ หลังจากเสร็จงานนี้ค่อยทำขนมแบบใหม่กันนะเจ้าคะ อิ อิ”“ครั้งนี้ข้าจะต้องเ
เจียวมิ่งยืนรอจนแน่ใจแล้วว่าฮวนกั๋วลี่ไร้ลมหายใจ จึงนำร่างขึ้นรถม้าโดยคนที่จะส่งฮวนกั๋วลี่กลับตระกูล คืออดีตทหารที่ปลดเกษียณไปแล้ว เจียวมิ่งมอบเงินค่าจ้างครั้งนี้จำนวนสิบตำลึงทอง และต้องแวะซื้อโลงศพเพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นจากศพก่อนจะถึงเมืองเฉียนซาน เมื่อจบภารกิจแล้วเจียวมิ่งจึงกลับบ้านเช่าพักผ่อน รอใ
“เมื่อครู่พวกเจ้ายังไม่มีท่าทีจะยอมสักนิด ต้องให้เจ็บตัวเสียก่อนถึงจะยอมเปิดปากงั้นรึ หากทำตามที่บอกตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องบาดเจ็บเช่นนี้” หลี่เมิ่งยังไม่ยอมหยุดบ่นใส่พวกสีว์เปียว ที่ดื้อด้านในตอนแรกแต่พอเจ็บตัวก็เปลี่ยนท่าทีทันใด“พวกข้าผิดเองที่ทะนงตนคิดว่าคงจะสู้พวกเจ้าได้ อยากให้ข้าตอบคำถามอันใดถ้าต
“ข้าจะคอยดูแลร้านระหว่างท่านไม่อยู่เอง หากมีปัญหาอะไรข้าย่อมไม่ปล่อยไว้หรอก” หลี่เมิ่งอยากจะเจอกับพวกที่มาก่อเรื่องนานแล้ว คนแบบนี้จะพูดดีไปทำไมกันเมื่อเยวี๋ยนจิ้งห้าวแยกตัวกลับบ้านไปแล้ว พวกหลี่เฉียงกำลังจะกลับที่พักเช่นกันแต่กลับมีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นเสียก่อน ทั้งสามคน จึงหยุดฟังว่ามันคือเสียงอะไร
หลังจากพาตัวอู๋เจียงสงออกไปส่งด้านนอก ชินอ๋องและคนอื่นจึงออกมาจากด้านหลังฉากกั้น การสนทนาเมื่อครู่นั้นล้วนได้ยินกันทั่วหน้า แต่ไม่มีใครอยากพูดถึงมันอีกในเมื่อมันจบไปแล้ว จากนี้คือการเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริงบ้านตระกูลสวีจึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อปัญหาที่ค้างคาใจนั้นได้คลี่คลายแต่ที่แดนเหนือต
ให้ดี และประโยคสุดท้ายหันไปพูดกับเซียวหนิงหลง“มะ มะ ไม่จริง ปะ ปะ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ซื่อจื่อจะมาอยู่กับครอบครัวพวกเจ้าได้อย่างไรกัน ไหนผู้คนที่เมืองหลวงบอกว่าซื่อจื่อติดตามท่านอ๋อง เพื่อไปตรวจความเป็นอยู่ของชาวบ้านตามรับสั่งของฮ่องเต้” ตอนนี้อู๋เจียงสงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกแล้วเขาพูดพึมพำก
“ถึงพวกข้าจะยังไม่เป็นผู้ใหญ่มากนัก แต่อย่างน้อยก็พอจะรู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว ครอบครัวพวกเราอยู่ที่นี่มีความสุขกันดี จะกลับไปตระกูลที่เห็นแก่ตัวของท่านทำไมกัน อาหารการกินก็แค่เศษของเหลือจากเรือนของท่าน เสื้อผ้าก็ไม่เคยได้ผ้าไหมอย่างดีเหมือนหลานคนอื่น ๆแม้แต่เรือนแยกพวกเรายังไม่มีให้อยู่ ท่านคิดว่านี่ม
“นายท่านขอรับพวกเราเดินตามไปเงียบ ๆ จะดีกว่า ดูท่าทางสองคนนี้จะพูดจริงทำจริงนะขอรับ ดูดาบที่อยู่ตรงเอวพวกเขาสิน่าจะคมมากทีเดียว ข้าว่าอย่าไปท้าทายตามที่พวกเขาเตือนไว้ดีกว่าขอรับ” พ่อบ้านอู๋ที่ขี้ขลาดพอตัวสังเกตเห็นดาบที่เอวของก้งคุน ก็ขนลุกขนชันเกรงว่ามันจะมาพาดอยู่ที่คอของเขาแทน“ขี้ขลาดไม่เข้าเรื่
การฉลองงานหมั้นหมายของสองครอบครัวเป็นไปอย่างชื่นมื่น ทุกคนลิ้มลองสุราหมักท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ซึ่งย้ายสถานที่นั่งดื่มสุราขึ้นมายังชั้นสอง ที่ลู่ชิงทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นชมทิวทัศน์เอาไว้ โดยมีเพียงกลุ่มของเจียวมิ่งที่ขึ้นมาคอยดูแลส่วนเต๋อหลินต้องคอยดูแลกลุ่มที่ติดตามชินอ๋อง แต่รสชาติของสุราหมักทำ
“ถึงเจ้าไม่พูดข้าก็คิดจะลงมืออยู่แล้ว เมื่ออู๋เจียงสงกลับไปถึงเมืองหลวง อาจตายเพราะความตกใจจนเกินเหตุ หรือไม่ก็คงตรอมใจจนตายก็เป็นได้ เจ้าอย่าห่วงเลยข้าจะจัดการให้เมืองหลวงไม่มีชื่อตระกูลอู๋อีกต่อไป” เซียวหนิงหลงพูดคำไหนคำนั้นและเขาไม่เคยทำไม่สำเร็จ“ขอบคุณมากขอรับ รอให้ข้าฝึกวรยุทธ์ได้เก่งมากกว่านี
“ชิงเอ๋อร์เจ้ายื่นมือมาพี่จะช่วยสวมให้เจ้าเอง เมื่อใส่กำไลหยกชิ้นนี้แล้วก็ถือว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของพี่ เป็นว่าที่สะใภ้ของราชวงศ์เซียวแห่งแคว้นฉู่ หากมีใครคิดปองร้ายเจ้าโทษของคนเหล่านั้น ย่อมร้ายแรงมากกว่าปกติหลายเท่าการลงโทษย่อมมีหนักเบา หวังว่าเจ้าจะเข้าใจกฎเกณฑ์พวกนี้ บางครั้งเราไม่อาจใจดีกับคนที่