เจ้ากรมอาญาซ่งจูเก๋อรีบเข้าเฝ้าฮ่องเต้ หลังจากได้รับแจ้งจากพ่อบ้านโดยคนที่มารออยู่ที่หน้าจวน คือองครักษ์ของตำหนักฮ่องเต้ยังดีที่เขานั่งทำงานอยู่ จึงไม่เสียเวลาในการผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่เจ้ากรมซ่งไม่ลืมส่งพ่อบ้านไปที่จวนของรองเจ้ากรมอาญาเหิงฉวีคุน ให้เขาเตรียมตัวรอรับคำสั่งอยู่ที่กรมอาญาพร้อมเจ้าหน
“ขอบพระทัยเสด็จลุง หลานทูลลาพ่ะย่ะค่ะ” เซียวหนิงหลงเกรงจะไม่ทันใต้เท้าซ่ง จึงใช้วิชาตัวเบาออกจากตำหนักของฮ่องเต้แทนใต้เท้าซ่งมาถึงกรมอาญาจึงรีบแจ้งถึงเรื่องที่ต้องทำเป็นการด่วน ตัวเขาจะไปยังจวนของเผิงหยุนโจว ส่วนเหิงฉวีคุนไปจับตัวเหลียงจื้อเพ่ย พร้อมนำกำลังทหารและเจ้าหน้าที่ ไปช่วยกันยึดทรัพย์สินทั
“พะ พะ พวกเจ้าต้องการอะไรกันแน่ ข้ามั่นใจว่าไม่เคยรู้จักพวกเจ้ามาก่อน” ตอนนี้ผู้ช่วยเจ้าเมืองเริ่มตัวสั่นเพราะความกลัว“พวกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็จริงแต่ท่านรู้จักไฉเถาเยี่ยนนี่นา เรื่องที่ช่วยปกปิดความผิดก็มีไม่น้อย เงินที่ได้แต่ล่ะครั้งก็มากพอให้ปิดหูปิดตา ข้าอยากจะเห็นเสียแล้วสิว่าห้องเก็บสมบั
ก่อนถึงเวลาเปิดร้านเพียงสองเค่อ เจียวมิ่งบังคับรถม้ามาจอดด้านหลังร้านอาหาร เพื่อขนหีบที่มีตั๋วเงินอัดแน่นอยู่ด้านในขึ้นไปชั้นบน ถึงแม้ครั้งนี้จะมีหีบมาเพียงสิบใบแต่ภายในเป็นตั๋วเงินทั้งหมด ก้งเจี้ยบอกมาคร่าว ๆ ว่ามีเกือบห้าหมื่นตำลึงทอง เมื่อนำมารวมกับของไฉเถาเยี่ยนก็เกือบหนึ่งแสนตำลึงทองทีเดียวเมื
“ถ้าคุณหนูยืนยันเช่นนี้พวกข้าก็จะขอรับเอาไว้ด้วยความเต็มใจ คราวหน้าไม่ต้องให้สิ่งตอบแทนอะไรแล้วนะขอรับคุณหนู หากท่านจะให้ก็ขอเป็นอาหารหรือขนมอร่อย ๆ ก็พอขอรับ” เจียวมิ่งขอเปลี่ยนของตอบแทนครั้งหน้าเป็นอาหารและขนมแทน“ตกลงเจ้าค่ะ แล้ววันก่อนอาหารที่ข้าทำให้พวกท่านลองชิมเป็นอย่างไรเจ้าคะ อร่อยถูกปากพวก
“ตุบ ตุบ ตุบ!! ใช้สายตาอันฝ้าฟางของพวกเจ้า อ่านทุกตัวอักษรในสมุดบัญชีเหล่านี้ หากจำลายมือของตนเองไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมีมืออีกต่อไปแล้วกระมัง” ใต้เท้าซ่งนำหลักฐานทั้งหมด โยนลงต่อหน้าเผิงหยุนโจวกับเหลียงจื้อเพ่ยเมื่อเห็นสมุดบัญชีที่พวกตนแอบซ่อนเอาไว้ในห้องใต้ดิน ก็พูดอะไรไม่ออกเพราะมันเป็นของจริง ล
เซียวหนิงหลงนั่งฟังชุนชานรายงาน การลงโทษประหารนักโทษทั้งสองคน รวมถึงการขับไล่ครอบครัวทั้งสองตระกูล ห้ามอาศัยอยู่ในเขตเมืองหลวง และไม่อนุญาตให้บุตรหลานสอบเข้ารับราชการ ส่วนสตรีห้ามแต่งเข้าจวนขุนนาง พวกเขาจะต้องเดินทางโดยที่ไม่มีเงินทองติดตัว แม้แต่เครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อยล้วนถูกยึดไปหมดบ้านเดิม
คราแรกพวกเขาจะขายหนึ่งหมื่นตำลึงทอง แต่อาซิ่วไปสืบมาได้ความว่าบุตรชายของเถ้าแก่ร้านเป็นหนี้บ่อนพนันหลายพันตำลึงทอง จึงต้องขายร้านค้าเอาเงินไปช่วยบุตรชายจ่ายหนี้ ข้าจึงฉวยโอกาสต่อรองราคา โดยอาศัยความรีบร้อนในการใช้หนี้มาเป็นข้ออ้าง ในที่สุดก็ได้มาในราคาถูกอย่างที่บอกเจ้านั่นแหละ” โจวอวิ๋นหยางอธิบายถึ
“กระหม่อมเข้าใจชิงเอ๋อร์เป็นอย่างดี และไม่มีวันที่จะทำให้ชิงเอ๋อร์ต้องเสียใจ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตามชิงเอ๋อร์อยากทำสิ่งใดกระหม่อมย่อมสนับสนุน คอยปกป้องนางให้พ้นภัยจากคนชั่ว รัชทายาทอย่าได้ทรงกังวลเรื่องนี้ หากเมื่อไหร่ชิงเอ๋อร์ต้องการไปเยือนตงเฉียน กระหม่อมจะเป็นคนพาไปด้วยตนเองพ่ะย่ะค่ะ” “ก็ดี เปิ่นไท่
“แล้วเสี่ยวชิงเป็นอย่างไรบ้าง ทำสัญญาการค้ากับสี่แคว้น แค่วันเดียวก็ได้รับเงินแสนตำลึงแล้ว ยังไม่นับเงินส่วนต่างที่จะได้รับหลังกิจการในแต่ละแคว้นเปิดทำการอีก ต่อไปนี้ใคร ๆ ก็คงจะคิดหนักหากคิดจะจัดการตระกูลสวี” “ตอนนี้ชิงเอ๋อร์กำลังทำคู่มือสำหรับการเปิดกิจการสาขา และพ่อครัวที่ต้องเดินทางไปสอนการทำอา
เมื่อคนกลุ่มใหญ่จากสามแคว้นออกจากท้องพระโรงแล้ว ได้เสด็จตรงไปยังประตูวังหลวง เพื่อรอให้ข้ารับใช้ไปเก็บสัมภาระ ยังตำหนักรับรองที่ได้พำนักก่อนหน้านี้ รวมถึงรัชทายาทและพระชายาที่ต้องตามเสด็จกลับแคว้น แม้ภายในใจจะรู้สึกโกรธเคือง และไม่เห็นด้วยกับพระบิดาเพียงใดก็ไม่อาจแสดงออกได้มากนัก ยามนี้ยังอยู่ต่างแ
“เฮอะ มีฮ่องเต้คนใดบ้างที่ไม่มีสนม อย่างน้อยพวกนางก็ช่วยให้เรามีความสุขชั่วครั้งชั่วคราวก็ยังดี ขุนนางจะดีจะชั่วใช่ว่า จะมองออกได้ง่าย ๆ ท่านคงคิดว่าตนเองเก่งมาก ที่สามารถมองคนออกว่าคนไหนดีคนไหนไม่ดีเชียวรึ” ฮ่องเต้จากซีหนานตรัสประชดประชันอย่างน่าหมั่นไส้ “ฮ่องเต้ซีหนานท่านไม่อยากเป็นฮ่องเต้ ที่เ
“จริงรึ! นี่คงเป็นลิขิตสวรรค์ ที่ได้ส่งเด็กสาวคนนี้มาเกิดบนแผ่นดินแคว้นฉู่ แม้แต่วิธีแก้ปัญหาเล็ก ๆ แต่กลับช่วยผู้คนได้มากมายนัก ไว้แนะนำให้เจิ้นได้รู้จักนางบ้าง เผื่อจะได้แลกเปลี่ยนความรู้กันสักครั้ง” “เสด็จพ่อทรงพักผ่อนสักนิดเถิด เย็นนี้จะได้ชิมอาหารสูตรของคุณหนูสวี แล้วจะทรงเข้าพระทัยว่าเหตุใด ล
เพราะเดินทางก่อนทำให้ฮ่องเต้ตงเพ่ยจวิน เสด็จมาถึงเมืองหลวงแคว้นฉู่เป็นพระองค์แรก โดยมีรัชทายาทมารอรับเสด็จพระบิดาที่หน้าประตูวังหลวง พร้อมด้วยฮ่องเต้เซียวถิงเฟิง ชินอ๋องและขุนนางอีกหลายคนที่มารอต้อนรับด้วยเช่นกัน “ถวายพระพรเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ” “รัชทายาทเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง อยู่ที่นี่มีปัญหาอันใดหรือไ
“จือเค่อเจ้าไปสังหารฮ่องเต้ส่วนข้ากับลี่จ้งจะหาของมีค่า เผื่อฝ่าบาทจะนำมาด้วยระหว่างทางหลบหนี ยังต้องใช้เงินอีกมาก”“อืม ทำเงียบ ๆ เล่าอย่าได้ส่งเสียงดังเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพวกเราสามคนคงหนีไม่พ้นเข้าใจไหม”“เชื่อมือพวกข้าสองคนเถิดน่างานนี้ไม่มีพลาดแน่นอน เจ้ารอส่วนแบ่งก็พอแล้วรีบลงมือกันเถิด”จือเค่อ
ส่วนองครักษ์เหยียนกลับคิดถึงเรื่องยาพิษมากกว่า “อย่าว่าแต่เรื่องพลังยุทธ์เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนึกถึงยาพิษที่ฮองเฮาได้รับแล้วยังขนลุกได้ทุกครั้ง ยาพิษอันใดกันทำให้เจ็บปวดทรมานอยากตายก็ตายไม่ได้ แต่อยู่โดยมีพิษนี้อยู่ในร่างกายต้องทุกข์ทรมานยามตะวับลับขอบฟ้า น่ากลัวมากจริง ๆ นะพ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องนี้รัชท
ตลอดระยะเวลาที่ตัวประกันที่เป็นเชื้อพระวงศ์ และต้องพำนักอยู่ที่แคว้นฉู่มาพักใหญ่ แม้จะถูกจำกัดบริเวณที่ไปได้ แต่มิได้ทำให้ทุกคนซึมเซาหรือเคร่งเครียดแต่อย่างใด เพราะกิจการของตระกูลสวีดึงดูดความสนใจของทุกคน ยิ่งร้านน้ำหอมที่ได้เข้าไปเลือกชมด้วยตนเอง จนต้องเสียตำลึงเงินไปพอสมควร จะซื้อขวดเล็ก ๆ ได้อย่า