“โอ้โห!! ท่านพ่อหีบไม้พวกนี้มาจากไหนหรือเจ้าคะ ทำไมถึงเยอะแยะมากมายนักล่ะ” ลู่ชิงถามบิดาที่นั่งมองหีบเหล่านี้อยู่ก่อนแล้ว“เจียวมิ่งบอกว่าเป็นค่าทำขวัญของเจ้าที่เก็บมาจากคนชั่วน่ะ คืนพรุ่งนี้จะไปเก็บมาเพิ่มให้อีกแต่ว่าต้องแบ่งออกมาส่วนหนึ่ง เพื่อนำไปมอบให้ครอบครัวที่เคยถูกเถ้าแก่ไฉทำร้ายไว้ก่อนหน้าพ
“พวกเรารีบเข้าวังเถิด ป่านนี้จินจูคงเตรียมของไว้เรียบร้อยแล้ว”“ขอรับท่านแม่” เซียวหนิงหลงเข้าไปประคองมารดา เดินออกไปขึ้นรถม้าที่หน้าจวนเซียวหนิงหลงเรียนรู้วิธีการปลอมแปลงใบหน้ามาจากอาจารย์ที่สอนวรยุทธ์แก่เขา การเดินทางเข้าวังหลวงในวันนี้เซียวหนิงหลงเป็นองครักษ์คู่กับชุนชาน ส่วนตันเจียงนั้นไปร่วมภา
เมื่อแม่นมเว่ยนำสิ่งที่พระชายาไป๋ต้องการ มาวางบนโต๊ะตรงกลางห้องรับรอง นางก็ไม่รอช้าลงมือเทน้ำร้อน และตักผงจมูกข้าวกับนมผงถั่วเหลืองลงในถ้วย ใช้ช้อนคนให้ละลายจนเข้ากันดีแล้ว จึงให้นางกำนัลคนสนิทของเหล่าพระสนม เป็นเดินมายกถ้วยนมเหล่านั้นเอง แม่นมเว่ยยกถ้วยผงจมูกข้าวไปถวายแก่ฮองเฮา“อืม เปิ่นกงถูกใจเจ้
เซียวหนิงหลงไม่คิดว่าพิษที่พระสนมเยี่ยซูเฟยได้รับจะออกฤทธิ์รวดเร็วเช่นนี้ ฮ่องเต้เห็นหลานคนโปรดขมวดคิ้วคล้ายมีข้อสงสัย จึงตรัสกับเซียวหนิงหลงไปตามความจริง“หลานรักเจ้าไม่ต้องคิดสงสัยถึงสาเหตุที่พิษกำเริบเร็วเช่นนี้ เป็นคำสั่งของลุงที่ให้จ้าวกงกงเพิ่มยาพิษลงไปในน้ำแกง อย่างน้อยเมื่อนางไม่สามารถลุกขึ้
“แล้วจะเข้าไปค้นหาหลักฐานในจวนตอนนี้เลยหรือไม่ หรือจะรอให้พวกมันสองคนกลับไปก่อนดี” เต๋อหลินถามความเห็นเรื่องเวลาที่จะลงมือกับตันเจียง“ข้าว่ารอให้พวกมันสองคนกลับไปก่อน แล้วค่อยลงมือคงสะดวกกับพวกเรามากกว่า แม้คนติดตามพวกนั้นจะจัดการได้ไม่ยาก แต่เราไม่ควรแหวกหญ้าให้งูตื่น” ตันเจียงไม่อยากให้พวกมันรู้ต
ทั้งสี่คนยืนพูดคุยเหมือนเป็นเรื่องปกติทั่วไปของบุรุษที่ไปเที่ยวหอนางโลม โดยเด็กสาวที่สี่คนนี้พูดถึงก็คือเยี่ยจือเฟิน ที่ถูกจับตัวมาได้สามสี่วันแล้ว สาวใช้ของนางถูกขายให้กับพ่อค้าต่างเมืองที่ร่ำรวย ตั้งแต่วันแรกที่ถูกจับมาขังที่นี่ส่วนตัวของเยี่ยจือเฟินถูกพรากพรหมจรรย์ โดยเผิงหยุนโจวกับเหลียงจื้อเพ่
เซียวหนิงหลงไม่ได้ยื่นหน้าเข้าไปดู เพียงแค่ยืนฟังพวกนางพูด ร้องไห้ หรือแม้แต้ความรู้สึกหวาดกลัว เพียงเท่านี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าสตรีที่ถูกจับในเมืองหลวงถูกนำมาขังไว้ที่นี่ เขารีบเดินออกไปหาตันเจียงยังห้องแรก ซึ่งตอนนี้บนโต๊ะมีสมุดบัญชีและเอกสารหลายอย่าง คาดว่าจะเป็นหลักฐานที่ตันเจียงค้นเจอ“ซื่อจื่อ ส
เจ้ากรมอาญาซ่งจูเก๋อรีบเข้าเฝ้าฮ่องเต้ หลังจากได้รับแจ้งจากพ่อบ้านโดยคนที่มารออยู่ที่หน้าจวน คือองครักษ์ของตำหนักฮ่องเต้ยังดีที่เขานั่งทำงานอยู่ จึงไม่เสียเวลาในการผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่เจ้ากรมซ่งไม่ลืมส่งพ่อบ้านไปที่จวนของรองเจ้ากรมอาญาเหิงฉวีคุน ให้เขาเตรียมตัวรอรับคำสั่งอยู่ที่กรมอาญาพร้อมเจ้าหน
“กระหม่อมเข้าใจชิงเอ๋อร์เป็นอย่างดี และไม่มีวันที่จะทำให้ชิงเอ๋อร์ต้องเสียใจ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตามชิงเอ๋อร์อยากทำสิ่งใดกระหม่อมย่อมสนับสนุน คอยปกป้องนางให้พ้นภัยจากคนชั่ว รัชทายาทอย่าได้ทรงกังวลเรื่องนี้ หากเมื่อไหร่ชิงเอ๋อร์ต้องการไปเยือนตงเฉียน กระหม่อมจะเป็นคนพาไปด้วยตนเองพ่ะย่ะค่ะ” “ก็ดี เปิ่นไท่
“แล้วเสี่ยวชิงเป็นอย่างไรบ้าง ทำสัญญาการค้ากับสี่แคว้น แค่วันเดียวก็ได้รับเงินแสนตำลึงแล้ว ยังไม่นับเงินส่วนต่างที่จะได้รับหลังกิจการในแต่ละแคว้นเปิดทำการอีก ต่อไปนี้ใคร ๆ ก็คงจะคิดหนักหากคิดจะจัดการตระกูลสวี” “ตอนนี้ชิงเอ๋อร์กำลังทำคู่มือสำหรับการเปิดกิจการสาขา และพ่อครัวที่ต้องเดินทางไปสอนการทำอา
เมื่อคนกลุ่มใหญ่จากสามแคว้นออกจากท้องพระโรงแล้ว ได้เสด็จตรงไปยังประตูวังหลวง เพื่อรอให้ข้ารับใช้ไปเก็บสัมภาระ ยังตำหนักรับรองที่ได้พำนักก่อนหน้านี้ รวมถึงรัชทายาทและพระชายาที่ต้องตามเสด็จกลับแคว้น แม้ภายในใจจะรู้สึกโกรธเคือง และไม่เห็นด้วยกับพระบิดาเพียงใดก็ไม่อาจแสดงออกได้มากนัก ยามนี้ยังอยู่ต่างแ
“เฮอะ มีฮ่องเต้คนใดบ้างที่ไม่มีสนม อย่างน้อยพวกนางก็ช่วยให้เรามีความสุขชั่วครั้งชั่วคราวก็ยังดี ขุนนางจะดีจะชั่วใช่ว่า จะมองออกได้ง่าย ๆ ท่านคงคิดว่าตนเองเก่งมาก ที่สามารถมองคนออกว่าคนไหนดีคนไหนไม่ดีเชียวรึ” ฮ่องเต้จากซีหนานตรัสประชดประชันอย่างน่าหมั่นไส้ “ฮ่องเต้ซีหนานท่านไม่อยากเป็นฮ่องเต้ ที่เ
“จริงรึ! นี่คงเป็นลิขิตสวรรค์ ที่ได้ส่งเด็กสาวคนนี้มาเกิดบนแผ่นดินแคว้นฉู่ แม้แต่วิธีแก้ปัญหาเล็ก ๆ แต่กลับช่วยผู้คนได้มากมายนัก ไว้แนะนำให้เจิ้นได้รู้จักนางบ้าง เผื่อจะได้แลกเปลี่ยนความรู้กันสักครั้ง” “เสด็จพ่อทรงพักผ่อนสักนิดเถิด เย็นนี้จะได้ชิมอาหารสูตรของคุณหนูสวี แล้วจะทรงเข้าพระทัยว่าเหตุใด ล
เพราะเดินทางก่อนทำให้ฮ่องเต้ตงเพ่ยจวิน เสด็จมาถึงเมืองหลวงแคว้นฉู่เป็นพระองค์แรก โดยมีรัชทายาทมารอรับเสด็จพระบิดาที่หน้าประตูวังหลวง พร้อมด้วยฮ่องเต้เซียวถิงเฟิง ชินอ๋องและขุนนางอีกหลายคนที่มารอต้อนรับด้วยเช่นกัน “ถวายพระพรเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ” “รัชทายาทเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง อยู่ที่นี่มีปัญหาอันใดหรือไ
“จือเค่อเจ้าไปสังหารฮ่องเต้ส่วนข้ากับลี่จ้งจะหาของมีค่า เผื่อฝ่าบาทจะนำมาด้วยระหว่างทางหลบหนี ยังต้องใช้เงินอีกมาก”“อืม ทำเงียบ ๆ เล่าอย่าได้ส่งเสียงดังเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพวกเราสามคนคงหนีไม่พ้นเข้าใจไหม”“เชื่อมือพวกข้าสองคนเถิดน่างานนี้ไม่มีพลาดแน่นอน เจ้ารอส่วนแบ่งก็พอแล้วรีบลงมือกันเถิด”จือเค่อ
ส่วนองครักษ์เหยียนกลับคิดถึงเรื่องยาพิษมากกว่า “อย่าว่าแต่เรื่องพลังยุทธ์เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนึกถึงยาพิษที่ฮองเฮาได้รับแล้วยังขนลุกได้ทุกครั้ง ยาพิษอันใดกันทำให้เจ็บปวดทรมานอยากตายก็ตายไม่ได้ แต่อยู่โดยมีพิษนี้อยู่ในร่างกายต้องทุกข์ทรมานยามตะวับลับขอบฟ้า น่ากลัวมากจริง ๆ นะพ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องนี้รัชท
ตลอดระยะเวลาที่ตัวประกันที่เป็นเชื้อพระวงศ์ และต้องพำนักอยู่ที่แคว้นฉู่มาพักใหญ่ แม้จะถูกจำกัดบริเวณที่ไปได้ แต่มิได้ทำให้ทุกคนซึมเซาหรือเคร่งเครียดแต่อย่างใด เพราะกิจการของตระกูลสวีดึงดูดความสนใจของทุกคน ยิ่งร้านน้ำหอมที่ได้เข้าไปเลือกชมด้วยตนเอง จนต้องเสียตำลึงเงินไปพอสมควร จะซื้อขวดเล็ก ๆ ได้อย่า