“ชิงเอ๋อร์รู้ได้อย่างไรว่าพี่คือซื่อจื่อมิใช่คุณชายทั่วไป มีผู้ใดบอกกับเจ้าเกี่ยวกับเรื่องตำแหน่งของพี่เช่นนั้นหรือ” คราแรกเขาก็แอบตกใจอยู่บ้าง กลัวว่านางจะโกรธที่เขาไม่บอกว่าจริง ๆ แล้วตนเองเป็นใคร“ท่านอย่าได้ทำหน้าเหมือนจะลงโทษใครเช่นนั้นสิเจ้าคะ ไม่มีใครบอกอะไรทั้งนั้นข้าบังเอิญได้ยินเองเจ้าค่ะ
ปลายยามเซินก่อนเซียวหนิงหลง จะไปยังจวนท่านเจ้าเมืองเขาไม่ลืมที่จะฝากคำพูดกับก้งเยว่ ให้นำไปบอกกับชิงเอ๋อร์ว่า เขาคงกลับมาทานมื้อเย็นด้วยไม่ได้ และให้นางแบ่งอาหารเก็บไว้สักหน่อย เผื่อตอนกลับมาถึงที่พักแล้วจะหิวกลางดึกส่วนทหารทั้งสองพันนายที่ติดตามมา ก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ทั้งที่พักและอาหารก
ด้านในห้องทำงานของเจ้าเมืองไป๋ เซียวหนิงหลงได้อธิบายถึงวิธีการรับมือแคว้นตงหนาน และการเตรียมตัวของทหารรักษาเมืองอย่างละเอียด นายกองที่รับผิดชอบดูแลทหารรักษาเมือง ชื่นชมในตัวของเซียวหนิงหลงรวมถึงแม่ทัพใหญ่ของแคว้น อย่างเซียวชินอ๋องด้วยเช่นกันเมื่อหารือทำความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย เจ้าเมืองจึงเชิญ
เมื่อมาถึงทุกคนล้วนได้ยินเสียงที่ดังออกมา นั่นมันเป็นเสียงของคนที่กำลังมีความสุข ระหว่างบุรุษและสตรีมิใช่หรือ ส่วนต้วนฮูหยินก็เริ่มเล่นงิ้วร้องไห้เรียกบุตรสาวของตนแล้ว“ฮวาเอ๋อร์ลูกแม่ ทำไมถึงเกิดเรื่องเช่นนี้กับเจ้าได้ เรือนนี้เป็นเรือนที่ซื่อจื่อมาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้านี่ หรือว่าข้างในนี้จะเป็นพวกเข
เมื่อถึงยามเช้ามืดวันต่อมา เสียงขบวนทหารทั้งสองพันนาย ก็ได้เวลาออกเดินทางไปตำบลหย่งฝูแล้ว และผู้ที่ขี่ม้านำทหารไปก็คือเซียวหนิงหลง แม้จะยังเป็นเช้ามืด แต่พวกเขากลับได้รับเสบียงติดตัวไปคนละสองมื้อเพราะก้งเยว่ได้มาแจ้งกับลู่ชิงไว้ว่า เซียวหนิงหลงจะออกเดินทางยามเช้ามืด นางจึงชวนท่านแม่กับพี่ชายอย่างลู
ที่อ่อนแอกว่า พอเกิดสงครามและอพยพมาอยู่ในเมืองหย่งจิน โดยที่พักของพวกเขาอยู่เยื้องจากที่พักของลู่ชิงไปไม่ไกล ยามที่นางทำอาหารกลิ่นหอมจึงลอยตามลมไป จนคนพวกนี้ทนไม่ไหว วันนี้เห็นเสบียงมากมายที่คนจากหลาย ๆ หมู่บ้านมาช่วยกันทำ จึงเกิดความคิดอยากได้เอามาเก็บไว้เป็นของตนเอง เขาเรียกสหายมารวมตัวกัน ก่อนยกข
“ฉึบ...ตุบ” ร่างไร้ลมหายใจของชายคนที่หักหลังสหายล้มลงกับพื้นต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง“เจ้าช่างมีลูกน้องที่ดีจริง ๆ ยอมหักหลังสหายยามที่ตกที่นั่งลำบากได้ง่ายดายเหลือเกิน” ก้งเจี้ยคันไม้คันมือมาหลายวันแล้ว พอได้จัดการกับคนพวกนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย“ปึก!! ตุบ ตุบ นายท่านโปรดไว้ชีวิตด้วย ข้าตามืดบอดไปชั
ท่านเจ้าเมืองไป๋เมื่อได้รับแจ้งจากทหาร ที่นำเสบียงไปส่งให้ซื่อจื่อ เขาเองก็กังวลไม่น้อยเลย กลัวว่าซื่อจื่อและทหารเพียงสองพันนาย จะต้านแคว้นศัตรูที่มีทหารจำนวนมากกว่าหลายเท่าได้อย่างไร เมื่อนั่งคิดทบทวนอยู่นานเขาจึงตัดสินใจ จะส่งทหารอีกหนึ่งพันนายไปเพิ่ม และออกเดินทางไปกับขบวนเสบียงตามที่ซื่อจื่อแจ้ง
“ถึงเจ้าไม่พูดข้าก็คิดจะลงมืออยู่แล้ว เมื่ออู๋เจียงสงกลับไปถึงเมืองหลวง อาจตายเพราะความตกใจจนเกินเหตุ หรือไม่ก็คงตรอมใจจนตายก็เป็นได้ เจ้าอย่าห่วงเลยข้าจะจัดการให้เมืองหลวงไม่มีชื่อตระกูลอู๋อีกต่อไป” เซียวหนิงหลงพูดคำไหนคำนั้นและเขาไม่เคยทำไม่สำเร็จ“ขอบคุณมากขอรับ รอให้ข้าฝึกวรยุทธ์ได้เก่งมากกว่านี
“ชิงเอ๋อร์เจ้ายื่นมือมาพี่จะช่วยสวมให้เจ้าเอง เมื่อใส่กำไลหยกชิ้นนี้แล้วก็ถือว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของพี่ เป็นว่าที่สะใภ้ของราชวงศ์เซียวแห่งแคว้นฉู่ หากมีใครคิดปองร้ายเจ้าโทษของคนเหล่านั้น ย่อมร้ายแรงมากกว่าปกติหลายเท่าการลงโทษย่อมมีหนักเบา หวังว่าเจ้าจะเข้าใจกฎเกณฑ์พวกนี้ บางครั้งเราไม่อาจใจดีกับคนที่
“เรื่องบิดาของท่านพวกข้าจะไม่เข้าไปยุ่ง หากท่านไม่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนที่ลอบติดตามมาเพื่อจัดการท่านกับครอบครัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าก็แล้วกัน เพราะเรื่องนี้คนของข้าย่อมถนัดมากกว่าการพูดคุย นายท่านสวีจะได้จัดการเรื่องสำคัญได้อย่างสบายใจ” ชินอ๋องจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของลู่เวิ
ทุกคนที่อยู่ร่วมทานอาหารยังไม่มีใครพูดอะไร เพราะกลัวว่าการทานอาหารมื้อเย็นนี้จะเสียอรรถรสจึงรอไปก่อน ระหว่างนั้นมีการพูดคุยกันเพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ส่วนตันเจียงที่ทานอาหารกับกลุ่มเจียวมิ่งด้านนอก เขาได้พูดถึงเรื่องนี้กับสหายไปบางส่วน เนื่องจากว่าทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมเ
การมาพักผ่อนที่บ้านของตระกูลสวีผ่านมาสองวัน มีเรื่องให้ชินอ๋องและพระชายาได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ มากขึ้น ไหนจะขึ้นเขาล่าสัตว์มาทำอาหารหรือการจับปลาในแม่น้ำ ที่ไหลผ่านหลังหมู่บ้าน แม้แต่ตามไปที่ร้านอาหารเพื่อทดลองเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ยังต้องการจะลองทำดูให้ครบหมดทุกอย่างทำเอาชินอ๋องผู้แข็งแกร่งถึงกับอ่อนระโ
“เป็นข้าวต้มก็ดีเหมือนกัน แต่ชิงเอ๋อร์คงทำหม้อใหญ่กว่าเดิมใช่หรือไม่ เพราะมีคนมาเพิ่มอีกหลายคนทีเดียวเจ้าอาจจะเหนื่อยมากเกินไปก็ได้นะ” เพราะคนที่มาครั้งนี้มีมากกว่าห้าสิบคน ที่พักจึงต้องตั้งกระโจมยังพื้นที่ว่างตรงข้างบ้าน“พี่ชายเซียวท่านไม่รู้อะไรซะแล้ว ตอนนี้พวกพี่เจียวมิ่งน่ะทำอาหารเป็นตั้งหลายอย
“คือว่าพี่กับตันเจียงไปตระกูลเหลียนเพิ่งกลับมา เพราะคนพวกนั้นกล่าววาจาล่วงเกินท่านน้าลู่เวิน และพูดจาไม่ดีกับเจ้าด้วย ที่สำคัญคิดหาผลประโยชน์จากกิจการร้านค้าของตระกูลสวีอีก พี่จะยอมให้คนพวกนั้นทำสำเร็จได้อย่างไร ตราบใดที่พี่ยังอยู่จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายชิงเอ๋อร์ได้ รวมถึงทุกคนในครอบครัวของชิง
กลางดึกในหมู่บ้านอันฮุยจวนของเศรษฐีประจำหมู่บ้าน ลุกโชนด้วยความร้อนแรงของแสงไฟ ร่างที่ถูกยาสลบของต่งซวินหลายสิบคน นอนเรียงรายไม่รู้สึกตัว จากความร้อนของเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ เรือนทุกหลังถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเรือนหลังสุดท้ายที่เป็นของเหลียนตั๋วลู่ ก็ถูกจุดไฟจากฝีมือของก้งคุนที่ถือคบไฟรออยู่ เ
“จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร