นางแทบไม่มีเรี่ยวแรงผลักเขาออกจากตัว คำด่าทอของนางไปกระตุ้นความดิบเถื่อนในตัวของเขาให้ทวีมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม
"เกลียดอย่างนั้นเหรอ..หึ… มีสิทธิ์อะไรมาด่าข้า ! ปากดีนัก..ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่า อำมหิตที่แท้จริงเป็นอย่างไร"
สิ้นคำ ซ่งเทียนก็กระชากร่างที่แทบจะไม่มีแรงเดิน ให้เดินมาที่โต๊ะกลม เขากระชากผ้าปูโต๊ะออก อาหาร สุราที่วางอยู่เต็มโต๊ะก็ร่วงหล่น
เพล้ง !!!
จอกสุรา ถ้วยจาน หล่นกระทืบพื้นแตกกระจาย แต่ซ่งเทียนไม่สน จับเจ้าสาวเหวี่ยงไปที่โต๊ะ แล้วเขาก็เข้าไปบดจูบนางอย่างเร่าร้อน ใช้ปลายลิ้นร้อนกวาดต้อนลิ้นเล็กอย่างรุนแรง
"อะ..อึก"
นางถูกจับขาเรียวข้างหนึ่งขึ้นพลาดบ่า แล้วเขาก็ส่งแรงกระแทกไม่ได้ยั้ง
"ข้าเป็นสามีที่เจ้าเลือกเอง ต้องทนอยู่กับความอำมหิตของข้าให้ได้.."
ซ่งเทียนหมุนวนแท่งมังกรร้อน ใช้นิ้วกดบดขยี้ติ่งเสียวของร่างบางไปด้วย ทำเอานางบิดส่ายสะโพกอย่างทรมานซ่านเสียว เขามองนางด้วยความเหยียดหยาม ปากบอกว่าเกลียด แต่ร่างกายตอบรับสิ่งที่เขาทำไม่หยุด
"งื้ออ อะ..อ้าา..อืออ.."
นางครางออกมาไม่หยุด ยิ่งซ่งเทียนจับตัวนางยืน แล้วยกขาข้างหนึ่งยกขึ้นวางกับขอบโต๊ะ จากนั้นก็กระหน่ำซอยแท่งมังกรร้อนเข้าออกอย่างไม่ลืมหูลืมตา หยดเหงื่อผุดพรายขึ้นตามตัวของซ่งเทียนไหลออกมาไม่หยุด เขาปวดหนึบที่แท่งร้อนอยากจะปลดปล่อยอีกครั้ง แต่เขาก็ขบกรามแน่นข่มเอาไว้เพื่อจะได้ทรมานสตรีที่เขาไม่ได้รักไปนานๆ
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังไม่ขาดสายตับ ๆ
"อึก..อื้ออ อ้า~~~"
ฉู่เหลียนส่งเสียงครางออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ เมื่อถูกเจ้าบ่าวใช้มือหนาบีบขยำหน้าอกเต็มไม้เต็มมือ ส่วนปากร้อนก็กดจูบดูดดึงจนตัวแดงไปหมด
ซ่งเทียนกระแทกกระทั้นแท่งมังกรร้อนไม่หยุด จนร่างนางสั่นสะท้านไปตามจังหวะการจ้วงแทง
"อะ ๆ ....อึก..อาๆ ...ข้าไม่ไหวแล้ว...งื้อ~~~ "
ฉู่เหลียนจิกปลายเล็บลงบนแผงหน้าอกกำยำเพื่อบรรเทาอาการเสียวซ่านที่เกิดขึ้น
ซ่งเทียนไม่ฟังเสียงยังคงถาโถมเข้าใส่ตัวนางไม่หยุด กดขยี้ติ่งสวย แท่งมังกรร้อนยังขยับไม่หยุด พลางจับขาของนางไว้แน่นไม่ให้ขยับหนี ไม่นานนักเขาก็กระแทกเข้าหนัก ๆ สองสามครั้งก่อนปลดปล่อยน้ำมังกรทะลักออกมา
“หืม”
บุรุษหนุ่มคำรามในลำคออย่างสุขซ่าน
รอให้เรือนหยกนางบีบรัดรีดเอาน้ำของเขาจนหมด จึงอุ้มร่างของเจ้าสาวในคืนนี้ไปต่อที่เตียง
แม้ฉู่เหลียนจะสลบไปแล้วด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่ซ่งเทียนก็ไม่ปล่อยให้นางได้หลับสบาย เขายังคงขยับสะโพกแทงแท่งมังกรร่วมรักกับนางอีกครั้งจนหนำใจ แล้วจึงยอมถอนแท่งมังกรร้อนของตนออก
ซ่งเทียนลุกขึ้นมองดูสิ่งที่ตนทำอย่างไม่รู้สึกอะไร ร่างบอบบางเต็มไปด้วยรอยแดงที่เขากระทำย่ำยี บนผ้าปูเตียงเต็มไปด้วยน้ำสีขาวขุ่นปนสีแดงของเลือด
เขามองนางอย่างสมเพช ก่อนลุกไปห้องนอนอีกห้องหนึ่งที่ทะลุถึงห้องนี้ได้
วันต่อมา
‘ลู่ซิ่ว’ สาวใช้ข้างกายที่ตามมาจากจวนแม่ทัพยกอาหารเข้ามาให้คุณหนูของตนถึงในเรือนหอ
“พระชายาทานข้าวหน่อยนะเพคะ”
สาวใช้วางถาดอาหาร แล้วประคองเจ้านายมาที่โต๊ะ
“เรียกข้าคุณหนูเหมือนเดิมเถอะ อีกอย่างตอนนี้ข้าไม่ได้อยากเป็นพระชายาขององค์ชายใจอำมหิตผู้นี้แล้ว”
ฉู่เหลียนเอ่ยเสียงแหบแห้งเพราะอ่อนเพลียจากการถูกจากบ่าวเคี่ยวกรำเกือบทั้งคืน
“โธ่.. คุณหนู ข้าไม่รู้จะช่วยท่านอย่างไรดี”
ลู่ซิ่วมองเจ้านายของตนด้วยความสงสาร เมื่อเช้าตอนที่นางเข้ามาเห็นสภาพคุณหนูแล้วแทบน้ำตาร่วง เช็ดตัวทำความสะอาดให้คุณหนูไปก็พบแต่รอยซ้ำทั่วทั้งตัว ไม่คิดว่าองค์ชายทรราชผู้นั้นจะไม่เบามือกับสตรีบอบอบบางอย่างคุณหนูของนางเลย
“เราควรแจ้งข่าวให้ท่านแม่ทราบ ว่าองค์ชายผู้นี้ทรมานคุณหนูเช่นไร”
ฉู่เหลียนรีบส่ายหน้า “ไม่ได้นะ ตอนนี้ท่านพ่อได้เคลื่อนพลออกจากเมืองหลวงไปป้องกันชายแดนใต้แล้ว หากเราส่งข่าวเรื่องนี้ให้ท่านพ่อทราบ เกรงว่าจะทำให้ท่านพ่อไม่สบายใจเปล่าๆ หากต้องมาคอยกังวลเรื่องข้า การสู้รบคงไม่ชนะแน่”
“แล้วคุณหนูจะทนอยู่อย่างนี้หรือเจ้าคะ”
“ข้าจะอดทนเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น รอให้ท่านพ่อชนะศึกกลับมา ข้าจะส่งหนังสือขอหย่ากับองค์ชายซ่งเทียนไปที่วังหลวงทันที”
แม้น้ำเสียงจะอ่อนระโหยแต่ก็แฝงด้วยความเด็ดเดี่ยว
“เช่นนั้น ท่านควรจะถนอมตนเอง รอท่านแม่ทัพกลับมา ทานข้าวสักคำเถิด”
ฉู่เหลียนยอมฝืนกินข้าวต้มที่สาวใช้เอามาให้
น้ำต้มพร่องลงไปแค่เพียงครึ่งชาม นางก็สั่งให้สาวใช้เอาออกไป
แกร่ก!
เสียงประตูปิดลง
“ฮือๆ ฮึกก..ฮือๆ”
เสียงสะอื้นเริ่มปลดปล่อยออกมา หลังจากกักเก็บเอาไว้ตั้งแต่รู้สึกตัว ตอนนี้มันเก็บไม่ไหวแล้ว เมื่อความจริงวิ่งเข้ามาจิตใจของนาง เหตุการณ์เมื่อวานมันฉายชัดจนติดตาไปหมด ทุกการกระทำของบุรุษที่นางหลงโง่งมรักเขามานาน เขาเป็นดั่งปีศาจร้ายทำรอยช้ำตามเนื้อตัวเอาไว้ ตอนนี้นางมองเห็นมันคงเป็นส่วนน้อย ในตัวนั้นไม่อยากจะเห็น เพราะแค่ขยับก็รู้สึกเจ็บแปลบแล้วช่างไม่ยุติธรรมกับนางเอาเสียเลย สองมือกำผ้าห่มแน่น มันทั้งหนาวทั้งทรมานทั้งร่างกายและจิตใจถูกทำร้ายจนเกินจะทน“ฮือๆ ฮึกก..ท่านพ่อ..ลูกโง่เอง ที่คิดว่าเขาเป็นบุรุษที่ดี.. แท้จริงแล้วเขาเป็นปีศาจร้าย ฮึก..ฮือๆ”เสียงร้องไห้สะอื้นหนักขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้นางคิดถึงจวนแม่ทัพที่จากมา ในจวนแม่ทัพนางเป็นคุณหนูที่ใครต่างก็รุมล้อมเอาใจ กินอิ่ม นอนหลับ แม้แต่ยุงสักตัวยังไม่ให้กัด แต่ดูตอนนี้สิ นางไม่ต่างจากทาสบำเรอกามของเขา แม้แต่แรงจะวิ่งหนี ก็ยังไม่มีอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่องค์ชายรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เขาคิดว่าจะออกไปหาเหมยลี่เสียหน่อย เพื่อปลอบประโลมนางไม่ให้นางคิดมาก แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูก็เจอกับองครักษ์ของฮ่องเต้เฝ้าอยู่ซ่งเทียนทำเป็นมองไม
ซ่งเทียนมองด้วยแววตาตื่นเต้น รอว่าเมื่อไหร่เหยื่ออันโอชะจะตื่นขึ้นมาให้สุนัขของเขาขย้ำให้ตายไปเสีย เพราะสุนัขตัวนี้เขาเลี้ยงมันมาตั้งแต่เด็ก มันโตมาพร้อมกับเขา นิสัยใจคอก็ไม่ต่างกัน หากเห็นศัตรูจะกัดให้ตาย แต่หากเป็นมิตร ก็จะซื่อสัตย์ภักดี ถึงมันจะเชื่องก็จริง แต่สัตว์ดุร้ายก็คือสัตว์ดุร้าย มันอาจจะกัดคนตรงหน้าเมื่อไหร่ก็ได้โฮ่ง ! โฮ่ง!คราวนี้ เสียงชัดเจนมากจนฉู่เหลียนต้องฝืนตัวเองลุกขึ้น ภาพแรกที่เห็นทำเอาหัวใจของฉู่เหลียนเต้นแรงขึ้น ดวงตาเบิกกว้าง“ว๊าย ! เอามันออกไปนะ”นางถอยกรูเข้ามุมเตียง เมื่อครู่นางร้องไห้จนเผลอหลับไป คิดไม่ถึงว่า ตื่นขึ้นมาจะเจอหมาตัวโตที่กำลังแยกเขี้ยวใส่นางโฮ่ง ! โฮ่ง!เซี่ยวฉือเห่าขู่คำรามน่ากลัว มันกระโจนตรงเข้าหาเหยื่อ แต่ถูกองค์ชายดึงสายจูงเอาไว้ เขาเหยียดยิ้มออกมาเมื่อเห็นอาการของคนที่เหมือนจะตกใจตายคาเตียงเสียให้ได้“ฮือ.. ฮึก เอาหมาบ้านี่ออกไปนะ ฮือ..”ฉู่เหลียนร้องออกมา นางกลัวจนตัวแข็งไม่กล้าแม้แต่ขยับตัว ตัวของนางเริ่มสั่น เหมือนหัวใจจะหยุดเต้น น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างไม่รู้จะทำยังไงซ่งเทียนมองอย่างเย็นชา “กล้าดียังไงมาด่าสัตว์ที่น่ารักของข้าเป็น
ซ่งเทียนกดเบียดริมฝีปากของฉู่เหลียนอย่างรุนแรง ยอมรับว่าโมโหที่ฉู่เหลียนทำท่าทีรังเกลียจเขาแบบนี้ มันยิ่งทำให้เขาอยากจะเอาชนะนาง ยิ่งรังเกลียดมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งอยากทำลาย ซ่งเทียนใช้แรงบีบคางสวยจนฉู่เหลียนเจ็บเผลอร้องออกมา เป็นจังหวะให้เขาได้สอดปลายลิ้นเข้าไปช่วงชิมความหวานภายใน มือเล็กจากที่ทุบตีไม่หยุดเปลี่ยนเป็นบีบรัดแขนแกร่งจนแน่น น้ำตาที่คลอเริ่มไหลออกมาจากดวงตาอย่างห้ามไม่อยู่“หืม” เขาคำรามในอกอย่างซาบซ่าน ขณะที่ดันตัวฉู่เหลียนให้นอนลงไป ก่อนจะลุกขึ้นมาคร่อมร่างนางมอบจูบให้ฉู่เหลียนอีกครั้งจนพอใจแล้วจึงผละออกฉู่เหลียนนอนตัวสั่นไม่หยุด ริมฝีปากบวมเจ่อออกมาอย่างเห็นได้ชัด มือเล็กยังเกร็งจิกที่แขนของเขาค้างอยู่ซ่งเทียนมองสีหน้าฉู่เหลียนนิ่งๆ ก่อนจะพูดขึ้น“กล้าปากดีกับข้าอีกหรือไม่”“สารเลว”ฉู่เหลียนจ้องตาเขากลับน้ำตายังคงไหลออกมาไม่หยุด ไม่คิดว่าต้องมาเจอกับบุรุษที่หยามเกียรติสตรีเช่นนี้ซ่งเทียนกัดฟันกรามแน่นด้วยความโมโห เพราะไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับเขา นางกล้าดียังไง“ไม่มีใครกล้าด่าข้าเช่นนี้ !!..”เขากดมือสองข้างของนางจับเอาไว้แน่น ดวงตาของซ่งเทียนวาวโรจน์ด้วยความโกรธ
วันต่อมาลู่ซิ่ว ถืออ่างน้ำเข้ามาในห้องนอนเพื่อจะปรนนิบัติคุณหนูของตน"คุณหนูเจ้าคะ เช้าวันนี้คุณหนูจะใส่ชุดสีอะไรดีเจ้าคะ"เสียงเจื่อนแจ้วของสาวใช้เข้าไปในห้อง แต่ร่างบางบนเตียงยังไม่ขยับ“คุณเจ้าคะ คุณหนู”ลู่ซิ่วขยับเข้าไปใกล้ เมื่อเรียกแล้วอีกฝ่ายยังไม่ขยับ ด้วยความเป็นห่วงจึงแตะเบา ๆ ที่ตัว แล้วนางก็ต้องรีบชักมือกลับเมื่อร่างนั้นร้อนผ่าวราวกับกองไฟ“อ๊ะ ทำไมตัวร้อนจี๋แบบนี้”นางเห็นใบหน้าของคุณหนูซีดเซียว ริมฝีปากแห้งผาก คิดว่าคงเป็นไข้หนักแน่แล้ว จึงรีบวิ่งไปรายงานองค์ชายเพื่อขอให้ส่งตัวหมอหลวงมาตรวจอาการ2 ชั่วยามผ่านไปฉู่เหลียนเริ่มรู้ตัวขึ้นมา ดวงตาหนักอึ้งจนลืมตาไม่ขึ้น เรี่ยวแรงขยับแขนขาแทบไม่มีแม้แต่น้อยนิด“คุณหนู อย่าเพิ่งขยับนะเจ้าคะ.. หมอหลวงให้ท่านนอนพักนิ่ง ๆ บนเตียง”ลู่ซิ่วรีบเข้าไปหาเจ้านายของตนด้วยความดีใจที่นายของตนฟื้นสติขึ้นมาแล้ว ฉู่เหลียนขมวดคิ้ว หมอหลวงอย่างนั้นเหรอ นางกะพริบตาเพื่อปรับสายตาให้มองเห็นได้ชัดขึ้น“ข้าเป็นอะไรไปหรือ”“คุณหนูเป็นไข้เพราะร่างกายอ่อนเพลียมากเจ้าคะ ท่านหมอได้จัดยาให้แล้ว.. และพักผ่อนเยอะๆ..อย่าเพิ่งคิดอะไร..ตอนนี้ร่างกายของคุณห
“องค์ชาย.... ข้าเป็นอนุ.. เป็นคนของท่านอย่างเต็มตัวแล้วนะ”เจียลี่เข้าไปคลอเคลีย พลางส่งสายตาหวานเยิ้มอย่างยั่วยวน“เจ้าอย่าลืม ที่ข้ารับเจ้าเข้าตำหนักก็เพื่อให้พระชายาหย่ากับข้าเท่านั้น เจ้าอย่าคิดเป็นอื่น”ซ่งเทียนเอ่ยเสียงขรึมเจียลี่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มแล้วเอ่ยเสียงหวานว่า “ข้าไม่ลืมข้อตกลงระหว่างพวกเรา องค์ชายสบายใจได้เจ้าค่ะ แต่ว่า.... วันนี้ ฤกษ์มงคลของเรา ท่านคงไม่ทำให้เสียฤกษ์หรอกใช่ไหมเจ้าคะ”ซ่งเทียนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ใช่ ข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขที่สุด และเจ้าต้องร้องดัง ๆ ให้พระชายาของข้ารับรู้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน”“เจ้าค่ะ”สิ้นคำ ซ่งเทียนก็อุ้มนางขึ้นในท่าเจ้าสาวท่ามกลางสายตาของบ่าวไพร่ เดินไปสู่เรือนหอหลังเล็กที่อยู่ติดกับห้องนอนของพระชายาภายในห้องหอของอนุ“งื้อออ..อะ ท่านพี่..อื้อออ. ข้าเสียวมากเลยเจ้าค่ะ...อื้อออ...อ๊า ~~”เจียลี่ขึ้นคร่อมซ่งเทียนจากนั้นก้ขย่มขึ้น ๆ ลงๆ อย่างเอาเป็นเอาตาย "หืมมม.."ซ่งเทียนปล่อยให้เจียลี่นั่งขย่มแท่งมังกรร้อนของตน นางใช้มือจิกเข้าที่หน้าอกไปด้วยพลางร่อนสะโพกไปมาอย่างเสียวซ่าน“ท่านพี่.. ชอบหรือไม่เจ้าคะ”นางถามเสี
ขาเรียวถูกแขนแกร่งเกี่ยวรั้งขึ้นมาทั้งสองจนมันอ้าออกกว้างเพื่อรับความเป็นชายของเขา ซ่งเทียนกัดฟันแน่นพร้อมกับกดตัวของนางลงมากลืนกินแท่งมังกรใหญ่ของเขา“ซี้ดด... อ๊า~~”“อ๊ะ..จะ.. เจ็บ อา~~~..”ฉู่เหลียนซบใบหน้าลงที่อกแกร่ง สองมือสวมกอดอีกฝ่ายแน่น ร้องบอกเสียงสั่น เมื่ออีกคนจับให้นางอยู่แบบนั้น เรือนหยกนางบีบรัดท่อนมังกรที่ร้อนผ่าวไปทั้งแท่งทันทีที่มันชำแรกเข้ามาในตัว ถึงจะไม่รุนแรงเหมือนครั้งที่ผ่านมาก็เถอะ แต่มันก็ยังใหญ่โตมากสำหรับนาง“เจ็บอะไร..ข้าทำมากี่ครั้งแล้ว...”สิ้นคำ เขาก็จับสะโพกนางกดลงกระแทกกับแทงแท่งมังกรเขาเต็มแรงสวบ....“อ๊ะ ! เจ็บ..งื้อ ก็สิ่งนั้นของท่านมันใหญ่เกินไป เอาออกไปเลย..”ฉู่เหลียนร้องเสียงหลง ทั้ง ๆ วันนี้นางควรจะได้พักผ่อนแล้วแท้ๆ แต่ทำไมเขากลับตามนางมาจนได้ซ่งเทียนยิ้ม “ขยับสิ”“ห้ะ!”“ขยับ..หรือจะให้มันอึดอัดอยู่แบบนี้ ก็ได้นะ ข้าจได้ทรมานเจ้าทั้งคืน”“ ........”“เร็วๆ..ถ้าไม่อยากให้ข้าเป็นคนทำ ทำมากี่ครั้งจำได้ไหมว่ามันเป็นยังไง”เขาออกคำสั่งอย่างเลือดเย็นฉู่เหลียนกัดฟันยอมยกมือโอบคอแกร่งของซ่งเทียนพยุงตัวเองขย่มกดร่องสวยลงทับท่อนมังกรจนสุดลำ“อูววว
หลายวันต่อมาสายหมอกยามเช้าเกาะอยู่ตามเสาสีแดงชาดของประตูใหญ่ของตำหนัก โคมสีแดงงานมงคลยังแขวนอยู่นิ่งๆ ในยามอรุณรุ่งที่ไร้ลม ที่เชิงบนขั้นบันไดหน้าประตูนั้น ฉู่เหลียนยืนนิ่ง ร่างบอบบางของนางเหมือนกิ่งหลิวต้องลม นางเสื้อคลุมไหมสีเหมือนดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาของสงบนิ่งในขณะที่นางเฝ้าดูอนุที่มาจากหอนางโลมกำลังปรับสายรัดเอวห้อยพู่หยกที่เอวให้องค์ชายใหญ่วันนี้ องค์ชายซ่งเทียนต้องออกเดินทางไปทางเหนือเพื่อแจกเสบียงให้กับประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยทหารรักษาพระองค์สิบนายรออยู่ในระยะห่างที่เหมาะสม หอกของพวกเขารับแสงอาทิตย์สีทองแรกเริ่ม รถบรรทุกเสบียงทอดยาวเลยประตูไปเหมือนงูไม้ตัวใหญ่ แต่ละคันบรรทุกข้าวและยาซ่งเทียนลอบมองพระชายาแวบหนึ่ง แล้วหันมาส่งสายตาหวานเยิ้มให้กับอนุเพื่อยั่วให้อีกฝ่ายช้ำใจเล่น ๆ ก่อนที่ตนจะเดินทางไกล"น้องหญิง ข้าจะต้องไปแจกเสบียงทางเหนือนานนับเดือน เจ้าอยู่ทางนี้ก็รักษาตัวดี ๆ ด้วยนะ"เจียลี่ส่งสายตาหยาดเยิ้ม ไล้ปลายนิ้วเรียวไปตามสาบคอของเสื้อคลุมเดินทางของเขา “ท่านพี่เปรียบเสมือน หัวใจของประชาชน ยามราษฎรประสบทุกข์ท่านก็เปรียบเสมือนพรของสวรรค์ช่วยปัดเป่าความทุกข์นั้น ข
ณ ตำหนักองค์ชายใหญ่ส่วนหลังของตำหนักเป็นที่อยู่ของ เซี่ยวฉือ สุนัขล่าเนื้อดุร้ายของซ่งเทียน ดังนั้น ทุกคนในตำหนักจึงพยายามหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้บริเวณนั้นด้วยควาหวาดกลัวขนของมันสีดำเหมือนเงาของภูเขา ดวงตาของมันเปล่งประกายราวกับโคมไฟคู่ในยามค่ำคืน และเสียงคำรามของมันคล้ายกับฟ้าร้องที่อยู่ไกลออกไป คนในตำหนักต่างก็เรียกมันลับหลังองค์ชายใหญ่ว่า "สุนัขผี" เพราะคนที่เข้าใกล้มันหากไม่ใช่เจ้าของ ล้วนถูกมันสังหารจนกลายเป็นวิญญาณทั้งสิ้นหลายวันมานี้ องค์ชายซ่งเทียนเดินทางไปแจกเสบียงอาหารทางเหนือ ทำให้เซี่ยวฉือถูกขังอยู่ในกรงขนาดใหญ่ แม้จะมีอาหารและน้ำกินไม่ให้ขาดแต่ก็ยังเหงามาก มันจึงนอนหมอบด้วยสายตาเศร้าสร้อย บางครั้งก็ถอนหายใจหนักๆเช้าวันหนึ่งขณะที่หมอกยังคงเกาะติดยอดหญ้า จมูกของมันได้กลิ่นหอมๆ ของกระดูกซี่โครงย่าง มันจึงรีบผงกหัวขึ้น แล้วพบกับฉู่เหลียนที่ถือห่อเนื้อหมูย่างหอม ๆ หลายชิ้นไว้ในใบบัว นางค่อย ๆ ก้าวย่างเดินเข้าไปหาสุนัขตัวร้ายที่น่ากลัว มันส่งเสียงเห่าขึ้น ริมฝีปากโค้งงอเผยให้เห็นฟันที่สามารถบดกระดูกได้“เซี่ยวฉือ... เซียวฉือเด็กดี ข้ามาดีนะ ดูสิข้ามีของกินอร่อย ๆ มาให้เจ้าด้ว
“อ๊า~~ เหลียนเอ๋อร์~~”ซ่งเทียนถึงกับครางเรียกชื่อนางด้วยความเสียวซ่านให้ตายเถอะ ! ทำไมสตรีที่ไร้เดียงสาในวันนั้นถึงเร่าร้อนได้เพียงนี้ ทำเอาเขาคลั่งรักหลงใหลนางมากขึ้น จนไม่อยากให้นางมองบุรุษอื่นแล้วฉู่เหลียนใช้มือรูดท่อนมังกรลำใหญ่ของสามี นางยิ้มให้ก่อนจะกดปากสวยลง แล้วใช้ลิ้นร้อนตวัดส่วนหัวที่มีน้ำใสๆ ปริ่มออกมา“อึกก..ม๊วบ”ฉู่เหลียนครอบปากลง กลืนกินท่อนมังกรลำใหญ่ของเขา นางได้กลิ่นเฉพาะของมัน รวมถึงน้ำคาวๆ ที่กระตุ้นอารมณ์ของนางแปลกๆ“ซี้ดด..โอ้วววว เหลียนเอ๋อร์ อา~~”ซ่งเทียนครงซี้ดปากด้วยความเสียวซ่านแปลบปลาบฉู่เหลียนได้ยินเช่นนั้นก็มั่นใจว่าตนเองทำถูกแล้ว ก็ใช้ปลายลิ้นร้อนไล้เลียที่ส่วนหัวร้อนฉ่าซ่งเทียนทนความเสียวซ่านไม่ไหวขยับลุกขึ้นมาแล้วใช้มือจับผมที่บดบังความสวยงามของใบหน้าสวยออก แล้วกดหัวนางขึ้น ๆ ลงๆ ตามความยาวของท่อนมังกรเป็นจังหวะถี่ ๆ “อึก..อือ”ลำมังกรของเขาเข้าลึกจนฉู่เหลียนเกือบจะสำลัก นางจึงอาศัยช่วงที่เขาดึงศีรษะนางออกใช้ลิ้นเล็กพยายามดุนดันรอบๆ หัวมังกร ทำเอาเขาถึงกับเสียวจนหน้าเหยเกครางออกมา“อู้ยยยย อา ซี้ดด~~~” ฉู่เหลียนเห็นว่าสามีใกล้จะถึงสวรรค์แล้ว น
วันล่องเรือสำราญองค์ชายซ่งเทียนสั่งให้คนซื้อเรือสำราญขนาดเล็กเอาไว้ เพื่อพาพระชายาล่องเรือชมเมืองยามค่ำคืนก่อนจะขึ้นเรือ เขาพานางไปเที่ยวชมตลาดฉู่เหลียนกวาดสายตามองซ้ายมองขวาอย่างตื่นเต้น เพราะตลาดในเมืองท่ามีสินค้ามากมาย และราคาถูกๆ ทั้งนั้น ถูกจนนางคิดว่าจะขอให้องค์ชายซ่งเทียนเปิดร้านเล็ก ๆ เมืองหลวง แล้วซื้อของจากที่นี่ไปวางขายคงจะได้กำไรดีไม่น้อย“อ้ะ..”ฉู่เหลียนไม่ทันระวังกำลังจะสะดุดล้มลง แต่โชคดีที่ซ่งเทียนยืนอยู่ข้างๆ จึงคว้าตัวนางไว้ได้ทัน“ทำไมเดินไม่ระวังเลย”เขาส่งเสียงดุอย่างไม่จริงจังนัก“ก็เพราะข้ารู้ว่ามีท่านพี่ข้าง ๆ ไงเล่า”ฉู่เหลียนหอมแก้มเขาเป็นรางวัล อมยิ้มเมื่อเห็นเขาห่วงนาง หากเป็นเมื่อก่อน เขาไม่เดินตามนางด้วยซ้ำ คงจะไปนั่งรอในร้านน้ำชาซ่งเทียนยิ้มแก้มแทบปริ ตอนนี้เขากับฉู่เหลียนมาเดินเที่ยวตลาดโดยไม่มีองครักษ์ติดตาม เป็นการเที่ยวแบบแฝงตัวเป็นสามัญชน มันทำให้เขาแสดงความรู้สึกได้อย่างอิสระ ทำให้เขาเป็นตัวของตัวเอง และมีความสุขมากจริงๆเมื่อเดินตลาดจนเหมื่อยขาแล้ว ซ่งเทียนก็พานางไปกินข้าวที่ร้านอาหารขึ้นชื่อในเมื่อท่า“อิ่มจัง.... เรือของเราจอดอยู่ที่ไหนหรือ
“ท่านพี่ข้าอยู่นี่”ฉู่เหลียนนั่งอยู่บนหลังม้า ท่ามกลางทหารนับร้อยตอนที่นางวิ่งหนีจนพ้นแนวป่าแล้วก็บังเอิญพบกับขบวนทหารที่กำลังเดินทัพมุ่งหน้ามาที่นี่ นางจึงนำขบวนทัพมาสู้กับองค์ชายรองด้วยตนเองซ่งเทียนเห็นพระชายาปลอดภัยก็ยิ้มออกมา ดาบในมือดูเหมือนจะทรงพลังขึ้นเป็นสิบเท่า เขาฟาดดาบใส่มือสังหารตายในพริบตาเดียวทหารนับร้อยโห่ร้องวิ่งกรูกันเข้ามาต่อสู้กับมือสังหารองค์ชายรองเห็นภาพนั้น ก็กลัวจนขนหัวลุกลนลานจนตกเก้าอี้ “หนีเร็ว !”เจียลี่รีบวิ่งหนีไปพร้อมกับองค์ชาย แต่นางพลาดท่าล้มลง นางรีบดึงชายกางเกงเขาไว้ แล้วร้องขอให้องค์ชายช่วย“องค์ชายช่วยข้าด้วย เท้าข้าเจ็บแล้ว วิ่งไม่ไหว”“เจ้าปล่อยข้าสิ พวกมันจะตามมาแล้ว”“ไม่ปล่อย ท่านต้องพยุงข้าไปด้วย”“โธ่เว้ย !”ฉั๊วะ !องค์ชายรองแทงดาบลงกลางหลังนาง เลือดทะลักไหลนองพื้น“อะ... องค์ชาย... อึก”เจียลี่สิ้นใจทันทีเขาเตะนางให้ปล่อยมือจากชายกางเกง แล้วเงยหน้าขึ้นกำลังจะวิ่งหนี กลับเจอซ่งเทียนยืนจ้องหน้าเขา รัศมีสังหารพวยพุ่งจนเขาทรุดลงกับพื้นร้องไห้“สะ... เสด็จพี่ ข้าผิดไปแล้ว ไว้ชีวิตข้าเถอะ”ซ่งเทียนกระตุกยิ้มที่มุมปาก ฟาดดาบลงไปฟิ้วววววว“อ
ณ ศาลเจ้า “โอ๊ย... ช่วยด้วย ข้าไม่ไหว โอ๊ย... ช่วยข้าด้วย”เสียงดังมาจากคนที่ถูกกุมขังอยู่ด้านใน มือสังหารสองนายมองหน้ากันเลิ่กลั่ก“เอาไงดี”“องค์ชายรองสั่งว่าห้ามนางเป็นอะไร เพราะต้องใช้นางเป็นตัวล่อตามแผน”ในขณะที่พวกเขาปรึกษากันอยู่นั้น ฉู่เหลียนก็กรีดร้องเสียงดังยิ่งขึ้น“โอ๊ย ข้าปวดท้องจะตายอยู่แล้ว ช่วยด้วย...อึกก..ฮือๆ..จะตายแล้ว”มือสังหารได้ยินดังนั้นก็รีบเปิดประตูเข้ามาหาสตรีที่ถูกมัดมือมัดเท้า“แม่นางเป็นอะไร เจ็บตรงไหน” “ฮึก..ฮือ ข้าปวดท้อง...ช่วยพาข้าไปเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหมพี่ชาย..ปวดท้องจะแย่แล้ว..” “เอ่อ....”มือสังหารลังเลฉู่เหลียนจึงร้องขึ้นอีกว่า “หากพวกท่านไม่พาข้าไปห้องน้ำ ไม่แก้มัดให้ข้า ข้าก็จะอึจะฉี่ให้มันเลอะตรงนี้ ดีไม่ดีข้าอาจจะเจ็บท้องท้องจนขาดใจตายไปเลยก็ได้”“ได้ๆ ข้าจะแก้มัดให้เจ้าไปห้องน้ำ”มือสังหารคิดว่าสตรีร่างบอบบางเช่นนี้คงสู้ตนไม่ได้ต่อให้นางไม่ถูกมัดเอาไว้“แก้มัดให้แล้ว ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำเร็ว ๆ ข้าจะตามนางไปเอง เจ้าเฝ้าอยู่ทางนี้เผื่อว่าองค์ชายรองส่งข่าวมา”มือสังหารคนหนึ่งสั่งอีกคน แล้วผลักฉู่เหลียนให้เดินไปด้านหลังศาลเจ้าฉู่เหลียนพยายา
ณ วัดร้างแห่งหนึ่งนอกเมืองหลวง“งื้ออ..”ฉู่เหลียนร้องออกมา เพราะมันเจ็บจี้ดที่ข้อมือ นางถูกมัดมือมัดเท้า รู้สึกมึนงงไปหมด นางกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับภาพให้ชัดขึ้นพบว่าตนเองนอนอยู่ในวัดร้างแห่ง ภาพก่อนที่นางจะสลบไปก็เข้ามาในหัวนางเดินตามเจียลี่เข้าไปในห้อง ขณะที่นางก้มลงไปเปิดหีบที่ใหญ่ที่สุดตรวจดูสิ่งของด้านใน บุรุษชุดดำคนหนึ่งก็พุ่งตัวออกมาซัดควันสีขาวใส่หน้านาง จากนั้นทุกอย่างก็มืดดับลง รู้ตัวอีกทีก็อยู่ในวัดแห่งนี้แล้วแก๊ก !เสียงประตูเปิดออก สัญชาติทำให้นางรู้ว่าต้องตัวถอยหลังกรูดไปอยู่ชิดเสาต้นใหญ่ด้วยความกลัว“พระชายา.... ข้าเอง”เจียลี่เดินยิ้มเข้ามาพร้อมกับบุรุษในอาภรณ์หรูหราผู้หนึ่ง“เจียลี่... องค์ชายหานจิ้น !”ฉู่เหลียนอุทานตาโต ทั่วทั้งเมืองหลวงไม่มีใครไม่รู้จักองค์ชายเจ้าสำราญผู้นี้“ใช่แล้วเป็นข้าเอง”เจียลี่ยิ้มเยาะเย้ย ในวันที่องค์ชายซงเทียนพาพระชายาไปหามารดา นางอาศัยโอกาสนั้นออกไปหาความสำราญที่เหลาสุรา แล้วองค์ชายหานจิ้นก็เข้าหา เขาบอกกับนางถึงความต้องการ แล้วเสนอผลประโยชน์ให้ แล้วบอกว่าหากตกลงร่วมมือกันเมื่อใดให้นำกำไรหยกมาหาเขาที่ตำหนัก วันนั้นนางยังลังเลใจเพราะยั
ณ เรือนอนุเจียลี่เจียลี่เดินกลับไปกลับมาภายในห้อง เมื่อคืนนางเห็นเต็มสองตาว่าองค์ชายซ่งเทียนรักฉู่เหลียนมากแค่ไหน วันนี้สายมากแล้วทั้งสองก็ยังคงคลุกตัวอยู่ในห้องราวบ่าวสาวที่เพิ่งเข้าเรือนหอกันในคืนแรกแต่งงาน“องค์ชายคงรักลูกสาวแม่ทัพผู้นั้นแน่แล้ว ไม่ช้าก็เร็วข้าต้องขับออกจากตำหนักนี้แน่”เดิมทีนางคิดว่าจะใช้โอกาสที่ได้อยู่ตำหนักในฐานะอนุมัดใจองค์ชายใหญ่เพื่อที่นางจะได้ไม่ต้องกลับไปขายตัวที่หอนางโลมอีก แต่ตอนนี้ความหวังนางสิ้นแล้วเมื่อเขาไม่ต้องการหย่ากับพระชายาอีกต่อไป“ข้าไม่อยากกลับไปทุกข์ทรมานในหอคณิกาอีกแล้วนะ ข้าจะทำยังไงดี ทำยังไงดี”นางเดินกลับไปกลับมาจนสายตาไปสะดุดกับกำไลหยกชิ้นงามที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง เมื่อจำได้ว่าใครเป็นคนให้กำไรหยกชิ้นนี้แก่นางมา นางก็ยิ้มออกมา“คนอย่างเจียลี่ไม่เคยอับจนหนทาง อย่างน้อยสวรรค์ก็ยังเมตตาเหลือทางออกให้ข้า”หลายวันต่อมาเป็นจริงอย่างที่เจียลี่คาดไว้ องค์ชายซ่งเทียนใช้ให้เก่อหลางนำเงินมาให้นางจำนวนหนึ่งเป็นค่าตอบแทนตามข้อตกลง แล้วให้นางออกจากตำหนักทันทีเจียลี่กำถุงเงินแน่น เจ็บแปลบไปทั้งหัวใจ แม้แต่วันสุดท้ายซ่งเทียนยังไม่มาให้เห็นหน้าร
“อะๆ..อ้าห์ๆ..แรงอีก..กระแทกแรงๆ ข้าเสียว…อื้อออ~~” “หืม” เขากอดตัวของฉู่เหลียนแน่น ก่อนจะเร่งดันสวนทางขึ้นไปรับฉู่เหลียนแบบไม่ยั้ง“งื้ออ. ข้าไม่ไหว..แล้ว..อ้าห์…อึกก” อารมณ์ของฉู่เหลียนเตลิดไปไกล ความเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วร่างบาง ไม่นานก็กระตุกเกร็งตัวสั่นอยู่บนตัวของเขาไม่หยุด น้ำหวานไหลพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสายซ่งเทียนผ่อนจังหวะนิดหน่อย ก่อนจะจับนางเปลี่ยนท่าให้ลุกขึ้นมายืนในท่าโก้งโค้ง“อ้ะ..อื้อ.”เขาชำแรกลำมังกรใหญ่ใส่นางอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกกระแทกเข้าต่อทันที มือหนารั้งเอวนางไว้ ปากหนาพรมจูบตามแผ่นหลังไปด้วย ฉู่เหลียนงอตัวเอามือท้าวไปที่ฝาผนังอย่างรู้งานเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังตับ ๆ ไม่ขาดสาย ผสมกับเสียงครางครวญ“อะๆ..อ๊าๆ”ฉู่เหลียนจุกไปหมด ท่านี้มันเข้าไปลึกจนนางรู้สึกว่ากำลังจะล่องลอยขึ้นสวรรค์อีกแล้ว“หืม”ซ่งเทียนกระแทกเข้าด้วยแรงอารมณ์จนตัวนางจะล้มไปทางด้านหน้าอยู่แล้ว ดีที่เขาคว้ามือของฉู่เหลียนไปทางด้านหลังทั้งสองข้าง แล้วสวนกระแทกเข้าสุดแรงตับๆ“อึกก..อือ..อ๊าซ์~~~”ฉู่เหลียนเกร็งสะท้าน ร่องนางบีบรัดท่อนมังกรลำใหญ่เร่งเร้าให้เขาตามนางขึ้นสวรรค์ไปติด ๆ“อ๊า
ในระยะประชิดเช่นนี้ ฉู่เหลียนเห็นอกแกร่งเต็มสองตา เรือนร่างใต้ผ้าบางเบาของบุรุษที่นั่งข้าง ๆ กำลังปลุกอารมณ์ของนางซ่งเทียนมองฉู่เหลียนที่ไม่ตอบเขา กลับเอาแต่มองร่างกายของเขา เขาจึงต้องบีบจมูกนางเพื่อดึงสติ“อ๊ะ..เจ็บ..อื้อ...” ฉู่เหลียนร้องทำหน้าหมุ้ยใส่เขา “ทำไมชอบทำร้ายด้วย”ฉู่เหลียนทำตาแดง ๆ เหมือนร้องไห้ออกมาจริง ๆซ่งเทียนตกใจรีบขอโทษ “เจ็บจริงหรือ ข้าขอโทษ”ฉู่เหลียนใช้มือจับใบหน้าเขา แล้วสบตาด้วยหัวใจที่เต้นแรง“ท่านพี่...”ฉู่เหลียนส่งสายตาออดอ้อนอย่างไม่เคยเป็น ซ้ำยังเรียกเขาว่าท่าพี่ซ่งเทียนทนความยั่วยวนในยามนี้ของนางไม่ไหวจึงช้อนคอสวยเข้ามาใกล้ก่อนจะใช้ปากหนากดรับปากบาง“อื้อ..อึก”ปากร้อนของเขาบดเบียดปากบางของฉู่เหลียน มือเรียวโอบคอแกร่งอย่างรู้หน้าที่ เอียงศีรษะให้อยู่ในมุมที่เขาสามารถโน้มเข้าหาได้ง่าย แผ่นหลังบางเริ่มเอนลงพิงกับเตียงอย่างง่ายดาย นางจึงเอามือรั้งคนตัวโตเอาไว้แน่น เมื่อเขาจับนางลุกขึ้นมา นั่ง“อ๊ะ... งื้อออ อา~~~”ฉู่เหลียนครางออกมา เมื่อซ่งเทียนซุกไซร้ที่ซอกคอรู้สึกหวามวูบไปหมดจนต้องจับแขนแกร่งเอาไว้แน่น พลางแอ่นหน้าอกขึ้น เพราะรู้สึกต้องการให้เขาทำมาก
ซ่งเทียนทำหน้าคล้ายคนเบื่อโลก อยากจะทุบนางเสียจริงๆ ดื่มสุราเมาจนคิดว่าตัวเองฝันฉู่เหลียนมองหน้าเขาก่อนจะเอ่ยอย่างไม่รู้ตัว“ซ่งเทียน..ท่านรู้ไหมคะ..อึกก..ท่านใจร้ายกับข้ามาก”มือเรียวยกขึ้นมาลูบในหน้าของเขาพร้อมกับพูดทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกแล้ว“........”ซ่งเทียนไม่ได้พูดอะไรนอกจากสบตานางที่ระบายความรู้สึกออกมา โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่านางกำลังจะบอกความในใจให้คนตรงหน้าฟัง“ฮึกก..ใจร้าย.. ใจร้ายที่สุด แต่ข้าก็ยังจะรักท่าน..ฮึกก..รักทั้งๆ ที่ท่านไม่เคยรักข้าเลย....ฮึกก..ฮือ”ใบหน้าสวยซบลงที่อกของคนตรงหน้า เป็นเขาที่ดึงนางเข้ามากอดเอาไว้ ต่อให้เขาบอกอะไรตอนนี้ นางคงฟังไม่รู้เรื่อง“ฮึกก..ฮือ..ข้าแอบชอบท่านมาตั้งนาน รักมาตั้งแต่เด็กๆ พอได้แต่งงานกับท่านจริง ๆ กลับพบว่า ท่านมีคนในใจแล้ว ฮือๆ ข้าอยากจะตัดใจเลิกรักท่าน แต่ทำไม่ได้สักที..ฮึกก..ฮือ.. สุดท้ายข้าก็เจ็บปวด..มันเจ็บเหลือเกิน” “ข้าขอโทษ.. หยุดร้องไห้ได้แล้วนะ”ซ่งเทียนบอกให้นางเงียบ มือหนายกมือขึ้นปาดน้ำตาออกให้ แล้วจูบที่หน้าผากของนางเพื่อปลอบประโลม ยิ่งได้ยินว่านางรักเขาด้วยใจจริง และรักมานานแล้ว เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อนางฉู่เหลี